แมวเหมียวตัวร้ายกับนายมึนงง

9.3

เขียนโดย zeeto

วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560 เวลา 16.42 น.

  7 ตอน
  1 วิจารณ์
  10.45K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 21.34 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) ผมเป็นแมว?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          

          ไม่จริงใช่ไหมนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับผมกันแน่ตอนนี้  ผมรู้สึกว่ามันไม่เป็นความจริงทั้งหมดแต่อย่าบอกนะว่าที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้มันคือเรื่องจริง ใครก็ได้ช่วยปลุกผมให้ตื่นขึ้นมาทีเถอะแบบนี้ผมรับไม่ไหวจริงๆ ใครจะไปยอมรับกับสิงที่ผมมองเห็นในกระจกตอนนี้ได้ก็ตอนนี้ผมกลายเป็น “แมว” ไม่ได้นะผมไม่สามารถอยู่ในสภาพนี่ได้แน่นอนแม้ผมจะชอบแมวมากจริงๆก็ตาม  แต่ไอ้การที่ผมต้องอยู่ในร่างของเจ้าแมวสีขาวขนฟูตัวนี้ผมจะทำยังไง จะกิน จะไปเรียน จะไปบอกใครต่อใครได้ว่าผมคือฟลุ๊ค ผมคือประธานคณะศิลปกรรมศาสตร์ที่ใครๆต่างก็พากันหลงใหล  แล้วตอนนี้ละจะทำไงดีจะออกไปข้างนอกในสภาพแบบนี้ได้ไง “เหมี๊ยววววว....” อยากจะร้องไห้จริงๆเลย “อย่ากังวลไปเลยเจ้าเหมียว” เสียงใครกันนะผมมองหาเสียงที่อยู่ๆก็ดังขึ้นมา ณ ตอนนี้ เสียงนี้ต้องรู้สาเหตุที่ทำให้ผมกลายเป็นแมวแน่ๆ “เจ้าไม่มีทางเห็นข้าได้หรอกไม่ต้องพยายามมองหาข้าเสียให้ยาก  ที่ข้าจะพูดกับเจ้าก็คือ เจ้าจะกลับร่างไปเป็นมนุษย์ก็ต่อเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นและจะกลับมาเป็นแมวอีกครั้งเมื่อท้องฟ้ามืดสนิทจนเห็นดวงจันทร์” ไม่จริงใช่ไหมเสียงพูดที่ผมได้ยินตอนนี้มันเป็นแค่ความฝันใช่ไหม “เจ้าไม่ได้ฝันไปหรอกนี่คือเรื่องจริงและที่สำคัญ เจ้าอย่าพยายามโกรธหรือมีเรื่องกับใครเด็ดขาดมิเช่นนั้นร่างของเจ้าจะกลายเป็นแมวได้ทุกเวลาโดยไม่จำเป็นที่พระอาทิตย์จะตกดิน” บ้าไปแล้วแน่ๆแล้วแบบนี้ผมต้องอยู่ในสภาพนี้อีกนานแค่ไหน “อย่ากังวลไปเลยเจ้าจะกลับมาเป็นมนุษย์สมบูรณ์อีกครั้งก็ต่อเมื่อเจ้าสามารถแสดงความรู้สึกจริงๆของเจ้าออกมา ไม่ว่าจะเป็นการอ้อน การแสดงความรักกับใครซักคนที่เจ้าสามารถรักเขาได้อย่างไม่มีข้อแม้ และทำให้คนผู้นั้นรักเจ้าได้เมื่อนั้นแหล่ะเจ้าจะกลับมาเป็นมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ ข้าขอให้เจ้าโชคดีนะเจ้าเหมียว เวลาของเจ้าได้เริ่มขึ้นแล้ว ฮาๆๆๆๆๆ”

 

                เหนื่อยเป็นบ้าเลยผมได้แต่เดินบีบนวดตามร่างกายของตนเองก่อนจะไขกุญแจเปิดห้องอย่างช้าๆ แต่รู้สึกวันนี้เหมือนมีบางอย่างแปลกๆเช่นกัน  โดยปกติแล้วไอ้ผู้ชายติสแตกข้างห้องมันจะต้องออกมานั่งจิบกาแฟไม่แคร์โลกอยู่หน้าระเบียงห้องแท้ๆแต่ทำไมวันนี้ห้องกับมืดสนิทสงสัยไม่อยู่ละมั่ง  ว่าแต่จะไปยุ่งเรื่องของเขาทำไมท่าทางเขาก็ไม่ได้ชอบขี้หน้าซะหน่อย ผมเดินกลับเข้าห้องมาโดยเปิดประตูระเบียงไว้รับลมก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป  สายน้ำเย็นๆที่ไหลจากฝักบัวรดราดลงบนร่างกายทำให้ความตรึงเครียดของการเรียนและการทำงานในวันนี้ดีขึ้นมากทีเดียว  มันจะมีอะไรที่มีความสุขไปมากกว่าการได้อาบน้ำ เล่นเกมส์ ฟังเพลงและนอนในห้องพักที่แสนสบายกับ... “เฮ้ยลืมไปเลยแรมโบ้ ป๊ะป๊าขอโทษนะเดี๋ยวอาบน้ำเสร็จจะรีบหาข้าวให้กิน” อะไรของผมเนี้ยสงสัยจะเหนื่อยมากจริงๆลืมกระทั่งลูกรักอย่างเจ้าแรมโบ้ ผมรีบร่างสบู่และแชมพูที่หัวออกให้หมดก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันแล้วเดินออกจากห้องน้ำไป  “เหมี๊ยววว...ฟู ฟู” นั้นมันเสียงแรมโบ้ที่ระเบียงนี่ว่าแต่เจ้าแรมโบ้เป็นอะไร ผมไม่ทันได้ใส่เสื้อผ้าก่อนจะเดินไปดูที่เสียงเจ้าแรมโบ้ว่าเกิดอะไรขึ้น “แรมโบ้ครับเป็นไรลูก” “เหมี๊ยววว...ฟู ฟู” “อ้าวแล้วนั้นแมวใครสีขาวน่ารักเชียว...ไม่เอานะแรมโบ้อย่าแกล้งน้อง” ผมค่อยๆยื่นมือเพื่อจะอุ้มเจ้าเหมียวสีขาวที่นั่งทำท่าทางงงๆใส่เจ้าแรมโบ้ ท่าทางดูเชื่องๆน่ารักดีเหมือนกันแหะ “พี่ขออุ้มหน่อยนะเจ้าเหมียว...โอ้ย!!!” อะไรกันเมื่อกี้ยังท่าทางเชื่องๆอยู่แท้ๆ ผมดึงมือกลับมาก่อนจะเห็นเลือดที่ค่อยๆซึมออกมาจากมือ “ดุจริงนะเจ้าเหมียวมาจากไหนของแกเนี้ย” แมวตัวนี้ท่าทางคุ้นๆยังไงชอบกล จะเอาไปคืนเจ้าของก็ไม่รู้ว่ามาจากไหนแล้วจะอุ้มก็ไม่ให้อุ้ม “หิวหรือเปล่าเจ้าเหมียวเดี๋ยวไปกินอาหารกับแรมโบ้ในห้องก่อนก็ได้” ผมเลือกจะอุ้มเจ้าแรมโบ้เข้าห้องก่อนจะหันกลับไปมองที่เจ้าเหมียวสีขาวที่เดินเชิดตามเข้ามาไอ้ท่าทางนี้มันเหมือนใครซักคนจริงๆ “เอาอันนี้ของแรมโบ้ ส่วนอันนี้ของแกนะเจ้าเหมียว...ทำไมไม่กินละ...เรื่องของแกแล้วกันฉันไปกินข้าวของฉันดีกว่า” เมื่อเห็นว่าเจ้าเหมียวสีขาวไม่กินผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากก่อนจะเดินมาแกะข้าวมันไก่ใส่จานแล้วตักเข้าปากอย่างอร่อย “เหมี๊ยวววว....” “อะไรอยู่ๆก็มากระโดดขึ้นตักฉันอย่าบอกนะว่าแกอยากกินข้าวมันไก่” “เหมี๊ยวววว...” “โห่...แกนี้มันเอาแต่ใจจริงๆตกลงจะกินใช่ไหม” “เหมี๊ยววว...” “โอเคๆ...เดี๋ยวฉันหาจานมาแบ่งให้แต่แกห้ามกินในจานฉันเด็ดขาดรอแปบ”

 

                คนพึ่งจะรู้ว่าตัวเองโดนสาปให้เป็นแมวได้ไม่ถึงสามชั่วโมงอยู่ๆมาเทไอ้อาหารแมวห่อสีม่วงให้คิดว่าฉันจะกินได้หรือไง ฝันไปเถอะแต่ข้าวมันไก่ของไอ้ผู้ชายหน้ามึนข้างห้องนี้ซิน่ากินเป็นบ้า ไม่ได้ๆเราจะเสียมารยาทไม่ได้แม้จะหิวจนอยากจะพุ่งเข้าไปกินอาหารในจานนั้นก็ตาม “เหมี๊ยวววว...” “มาแล้วนี้ฉันแบ่งให้กินซ่ะดูทำหน้าเข้าซิทีเมื่อกี้ยังข่วนฉันจนเลือดแท้ๆ” จริงซิผมลืมไปเลยว่าเมื่อกี้ตกใจจนเผลอข่วนผู้ชายคนนี้ไปนี่ จะให้ทำไงได้ว่ะก็คนมันตกใจ ผมค่อยๆก้มกินข้าวในจานเล็กๆจนอิ่มก่อนจะค่อยๆเดินไปที่มือของเจ้าของห้องที่กำลังเก็บจานบนโต๊ะ ไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่ก็อยากขอโทษซักนิดก็ยังดีว่าแต่แมวเวลามันจะขอโทษต้องทำไงว่ะ ถูๆตามตัวหรอ จริงด้วยๆผมนึกออกแล้วผมจำได้เคยเห็นแมวเวลาที่มีแผลมันจะเลียแผลของมันเองใช่ซิถ้าผมเลียแผลที่มือของผู้ชายคนนี้มันอาจะหายก็ได้มั่ง? ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือไม่แต่อย่างน้อยๆก็ขอโทษแล้วกันนะผมค่อยๆก้มไปเลียที่มือของผู้ชายคนนี้เบาๆ “ทำอะไรของแกเนี้ยเจ้าเหมียวอ้อนฉันหรอหรือขอโทษละมาเลียตรงแผลฉันแบบนี้” “เหมี๊ยววว...” “ไม่เป็นไรอยู่ๆฉันจะจับแกถ้าแกจะตกใจมันก็ไม่แปลกหรอกจริงไหม” “เหมี๊ยววว...” “อิ่มไหมละถ้าอิ่มแล้วแกจะกลับห้องของแกก็ได้นะหรือจะอยู่กับฉันและเจ้าแรมโบ้ก็ได้” แน่นอนซิผมต้องกลับห้องของผมอยู่แล้วขืนนอนที่นี่ถ้าพระอาทิตย์ขึ้นแล้วผมกลายร่างเป็นคนขึ้นมาจะทำยังไง ผมนั่งจ้องหน้าผู้ชายคนนี้ก่อนจะโดดลงจากโต๊ะแล้วเดินออกนอกระเบียงกลับห้องไปทันที อย่างน้อยๆวันนี้ก็ได้กินข้าวแล้วละ แต่...เจ้าแรมโบ้นั้นซิมองผมเหมือนท่าทางจะไม่พอใจซักเท่าไร ก็แหงอยู่แล้วละอยู่ๆก็มีแมวอย่างผมไปแย่งความเอ็นดูแบบนั้นมันไม่กัดผมก็ดีเท่าไรแล้ว ขอโทษนะแรมโบ้แต่ฉันรักแกนะแกน่ารักมากเลยแต่ตอนนี้ฉันจับแกไม่ได้เพราะแกคงเกลียดขี้หน้าฉันแล้วละ

 

                ดีเนอะทำร้ายเจ้าของห้องเสร็จมากินข้าวเขาแล้วก็เดินกลับห้องไปท่าทางสบายใจแบบนั้น ยิ่งเห็นทางทางเจ้าเหมียวตัวนั้นมันยิ่งคุ้นหนักเข้าไปใหญ่แค่ผมคิดไม่ออกเท่านั้นว่าเคยเห็นไอ้ท่าทางแบบนี้จากไหน  ช่างเถอะไปใส่เสื้อผ้านอนดีกว่าไหมว่ะไอ้กันต์ทำนู้นนี้จนตัวแห้งแล้ว ผมเดินไปหยิบบ๊อกเซอร์และเสื้อยืดย่วยๆมาใส่ก่อนจะเดินไปปิดระเบียงห้องให้เรียบร้อยก่อนจะหันกลับมาที่เตียงที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าแรมโบ้เป็นอะไรของเขาอีกนอนมองหน้าผมด้วยท่าทางแบบนั้น “เป็นไรครับแรมโบ้” พอผมจะเอามือลูบหัวกลายเป็นว่าเจ้าแรมโบ้หันหน้าหลบซ่ะงั้น นี้อย่าบอกนะว่างอนที่ผมแบ่งข้าวให้เจ้าเหมียวสีขาว “งอนป๊ะป๊าหรอครับอย่างอนเลยนะป๊ะป๊ารักแรมโบ้นะครับ” เมื่อผมพูดเช่นนั้นเจ้าแรมโบ้ก็ค่อยๆเดินมาถูมือของผมไปมา ไม่ว่าจะสัตว์หรือคนนี่มันก็มีความน้อยใจเหมือนกันหมดเลยเนอะ เลิกกับแฟนทั้งทีเมื่อสองเดือนก่อนก็เพราะแฟนไม่ชอบแมวพอสนใจแฟนแมวก็มางอนอีก พอสนใจแมวแฟนก็งอน จะมีใครไหมเนี้ยที่จะอยู่กับเจ้าแรมโบ้ได้โดยไม่ทำให้ผมต้องลำบากใจ แต่...ผมก็บ้าเนอะเลิกกับแฟนเพราะสุดท้ายดันเลือกแมว ก็จะให้ผมทิ้งเจ้าแรมโบ้ได้ไงคนถึงไม่มีคนอื่นดูแลก็ยังสามารถดูแลตัวเองได้แต่สัตว์นี้ซิไม่ว่าอะไรก็ตามที่เราเอาเขามาเลี้ยงแล้วเราก็ต้องดูแลเขาให้ดีเพราะถ้าทิ้งเขาไปเขาไม่สามารถดูแลตัวเองได้หรอก เพราะแบบนี้แหล่ะผมถึงเลือกที่จะเลิกกับแฟนของผม “นอนกันเถอะแรมโบ้ดึกแล้วนะครับ” ผมก้มจูบที่หัวเจ้าแรมโบ้เบาๆก่อนจะค่อยๆหลับไป

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา