Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ

8.6

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.

  43 ตอน
  2163 วิจารณ์
  109.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

22) จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

                                               จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง

 

 

 

 

“กินข้าวมาหรือยังแม่สาวน้อยของโทโมะ ?”

 

 

 

 

         คำพูดนุ่มๆกระซิบข้างริมหูของหญิงสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องพักหลังจากต้องถ่ายละครคู่กับพระเอกคนใหม่แทบทั้งวัน  แก้วสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายเล่นเข้ามาโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวและไม่คิดว่าเขาจะอยู่ในห้องพักของเธอได้

 

 

 

“อ้ะ ! มาตั้งแต่เมื่อไหร่”

 

 

 

“ทำไมจะมาไม่ได้ ? อ๋อ แอบซ่อนใครไว้ในห้องใช่ไหม ?”  โทโมะมองคนตัวเล็กตาขวาง จนอีกฝ่ายต้องรีบอธิบายไม่ให้คนโตกว่าที่พักหลังชักจะงี่เง่างอแงเหมือนเด็กเค้าไปทุกวี่ทุกวัน  ร่างเล็กโผเข้ากอดร่างหนาอย่างงอนง้อก่อนจะเงยหน้าแล้วเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบเบาๆที่ริมฝีปากร้อนชื้นของเขา

 

 

 

“แก้วจะมีใคร ? ก็มีโทโมะอยู่คนเดียว”

 

 

 

“ก็นึกว่าไปหลงพระเอกใหม่จนลืมกันแล้ว”

 

 

 

“ไม่หลง หลงคนตัวใหญ่ของเค้าคนเดียวน้า พอแล้วๆไม่เถียงเรื่องคนอื่นดีกว่า ไปกินข้าวันเหอะ แก้วหิ๊วหิว”  ก่อนจะต้องเรียกร้องความสนใจจากเขาด้วยการจูงมือไปห้องครัว

 

 

 

 

 

 

 

 

 

~ฝากไปเตือนเขา ฝากไปเตือนเขา ทั้งที่ได้เธอไปไม่แคร์แล้วยังได้แต่รังแกหัวใจ~

 

 

 

 

“...ครับ”  

 

 

 

          เมื่อเห็นว่าเสียงเรียกข้าวของไอโฟนตัวเก่งดังขึ้น โทโมะก็เหลือบไปมองก่อนจะชั่งใจนิดๆว่าควรรับหรือไม่เพราะเจ้าของมันยังอยู่ในห้องน้ำอยู่เลยเนี่ยนะสิ นานๆเข้าเขาก็ทนรำคาญไม่ไหวจนต้องหยิบมันมากดรับ ทั้งที่เบอร์ๆนั้นไม่ขึ้นชื่อเสียด้วยซ้ำ

 

 

 

“น้องแก้วอยู่ไหมครับ ?”  เสียงเข้มคุ้นหูจากปลายสายดังขึ้นจนโทโมะถึงกับขมวดคิ้วด้วยความงุนงง ใคร ?

 

 

 

 

“นั้นใครครับ”  โทโมะถามกลับอย่างสุภาพ

 

 

 

 

“คุณไม่รู้จริงๆเหรอว่าผมเป็นใคร ?”  อีกฝ่ายยียวนกลับกวนประสาทเขาจนโทโมะพอจะเดาออกว่าเป็นใคร  คนที่เขาเจอเมื่อเช้าแน่ๆ !

 

 

 

“ขอโทษนะครับ แก้วไม่ได้เมมชื่อคุณเอาไว้ แก้วคงเห็นว่ามันไม่สำคัญพอที่จะทำแบบนั้นนะครับ ถ้าไม่มีธุระอะไรก็เท่านี้....”

 

 

 

 

“ เดี๋ยวสิ ผมยังไม่ได้คุยกับน้องแก้วเลยนะ กะว่ามีธุระส่วนตัวจะคุยด้วยสักหน่อย ตกลงน้องแก้วอยู่ที่ไหน ?”   ร่างสูงเบ้หน้าอย่างหมั่นไส้ก่อนที่จะหมดความอดทนไปมากกว่านี้ เขาเลยรีบตัดบทเสีย

 

 

 

“อาบน้ำอยู่ครับ ? ให้ผมเข้าไปตามในห้องน้ำให้เลยไหม ? อ้อ..ถ้าเกิดผมทำแบบนั้นขึ้นมาจริงๆละก็ คืนนี้คุณก็คงไม่ได้คุยกับแก้วหรอกครับ งั้น ‘โทโมะ’ ขอตัวนะครับพี่....”    เขากดตัดสายใส่อีกฝ่ายด้วยความสะใจ 

 

 

 

 

 

 

          ร่างเล็กเดินออกมาพร้อมเสื้อยืดตัวบางกับกางเกงขาสั้น  อวดขาขาวๆยั่วยวนอีกฝ่ายอย่างบอกไม่ถูก  โทโมะยิ้มร้ายก่อนจะโยนไอโฟนของหญิงสาวลงบนโซฟาแล้วตวัดร่างแบบบางเข้ามารั้งนั่งตักเขาไว้ จนแก้วแปลกใจกับอารมณ์ที่ปรวนแปรของเขา

 

 

 

 

“เดี๋ยวนี้ริอาจให้เบอร์ผู้ชายแล้วหรือยังไง !”

 

 

 

“เห ? ผู้ชายอะไรอ่า แก้วไม่รู้เรื่อง”

 

 

 

“เมื่อกี๊ พระเอกคนนั้นโทรมาหาแก้ว บอกว่ามีเรื่องส่วนตัวอยากจะคุยกับแก้ว มันหมายความว่ายังไง !”  แก้วตาโตด้วยความตกใจไม่คิดว่ารุ่นพี่จะโทรมาตอนที่คนรักของเธออยู่

 

 

 

“ก็...ยังไงแก้วก็ต้องให้เบอร์กับทุกคนในกองอยู่แล้ว เพราะต้องทำงานร่วมกัน อย่าคิดมากน้าคนดี เดี๋ยวไม่หล่อนะ”  

 

 

 

“เด็กปากดี”  เขาว่าพลางบีบจมูกรั้นๆของหญิงสาวเบาๆด้วยความหมั่นเขี้ยว  หญิงสาวมองเขาตาหวานก่อนจะแนบริมฝีปากลงบนแก้มนุ่มเนียนราวกับผู้หญิงของคนรักอย่างเต็มฟอด

 

 

 

 

          ฝ่ามือใหญ่เคลื่อนตัวมาอยู่บนแผ่นหลังบาง ลูบไล้ขึ้นลงไปมา ใบหน้าคมเอี้ยวมาจูบรับริมฝีปากนุ่มที่คลอเคลียอยู่บริเวณแก้มเนียนของเขา  เลือดร้อนสูบฉีดใบหน้างามจนแดงปลั่งระเรื่ออย่างห้ามไม่ได้ ราวกับมีใครเอาบรัชออนสีสดมาแต่งแต้มพวงแก้มขาวจนขึ้นริ้วๆ ร้อนฉ่าไปทั่วใบหน้าหวานละมุนนั้น

 

 

 

 

“ปากดีแล้วไม่รักหรือยังไง” 

 

 

 

 

“รักจะตายอยู่แล้วเหอะแม่คุณ” 

 

 

 

           เขากอดกระชับเอวบางแน่นๆ ก่อนจะฝังจมูกโด่งคลอเคลียคอระหงของแก้วอย่างหวานชื่นจนร่างของเธอสะท้านซาบซ่านไปทั่วร่าง มือบางกอดรัดร่างหนาของโทโมะ แนบแน่น  ร่างสูงสูดดมความหอมหวานจากร่างเพรียวอย่างเต็มกลืนจนร่างกายกระวนกระวายต้องการรับสัมผัสจากเธอให้มากขึ้นและแนบแน่นยิ่งขึ้น

 

 

 

 

“อื้ม”

 

 

 

 

“หอมจังครับที่รัก”   

 

 

 

          ร่างสูงพูดเสียงอู้อี้ในลำคอก่อนจะยกร่างเล็กขึ้นอุ้มและวางลงบนผืนเตียงอย่างแผ่วเบา  เขาตามลงมาจูบซับริมฝีปากอวบอิ่มหวานชื่นอย่างหลงใหล  หญิงสาวเริ่มรู้สึกแปลกๆในสมองขาวโพลนเริ่มพล่าเบลอ รู้แค่เพียงสัมผัสร้อนชื้นจากริมฝีปากหนักๆที่เขาจงใจถ่ายทอด ให้

 

 

 

 

           ร่างสูงตรึงข้อมือเล็กเอาไว้หลวมๆก่อนจะลากเรียวนิ้วตั้งแต่ข้อมือขึ้นมายังผิวเนียนนุ่มของอีกฝ่ายก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงมาฝากฝังรอยรักบนร่างกายขาวนุ่มราวกับยัยใหมสอางค์  ยิ่งทำให้เขาหลงจนโงหัวไม่ขึ้น ยิ่งรัก ยิ่งหลง ยิ่งไม่อยากห่างกายแม้เพียงเสี้ยวนาที !

 

 

 

 

“อ๊า ปล่อยแก้ว โทโมะอย่ามางอแงนะ! “

 

 

 

 

“อะไร”

 

 

 

 

“อย่ามาทำหน้าดุด้วย ห้าม!”   

 

 

 

          เขาทำหน้างอเหมือนเด็กโดนขัดใจก่อนจะต้องอารมณ์เสียหนักเข้าไปอีกเมื่อคนตัวเล็กของเค้าชี้หน้าห้ามปราม ก่อนจะรวบคว้ามือเรียวที่ชี้หน้าเขาอยู่ตรึงกับผืนเตียงพร้อมก้มหน้าให้ระยะประชิดกว่าเดิมเพื่อเป็นการขู่เด็กน้อย  เรื่องอะไรให้เธอเป็นฝ่ายคุมเขา เขาเป็นผู้ชายเขาต้องเป็นฝ่ายคุมภรรยาตัวเองสิ !

 

 

 

 

“ใครสั่งใครสอนให้แก้วก้าวร้าวชี้หน้าว่าโทโมะแบบนี้ !?”

 

 

 

 

“ไม่มี”

 

 

 

 

“กล้ามากนะ”

 

 

 

 

“แล้วทำไมต้องมาว่าแก้วด้วยเนี่ย  อะ..อ่อยยย อ๊า !”   ร่างเล็กดีดดิ้นโวยวายเนื่องจากถูกคนโตกว่าบีบจมูกเข้าให้อย่างหมั่นเขี้ยว พร้อมทั้งกดเธอลงบนที่นอน และสั่งห้ามเธอลืมตาเป็นอันขาด เพราะถ้ามัวเถียงกันอยู่แบบนี้ คืนนี้ก็ไม่ได้นอนหรอก !

 

 

 

 

 

 

 

 

                                    ยัยตัวแสบ = ________ = ;

 

 

 

 

 

 

“คุณไม่รู้หรือไงว่าที่กองเนี่ยเขารอ ‘นางเอก’ คนเดียว อ้อ หรือคุณไม่ยอมปล่อยให้น้องแก้วมาทำงาน ?”

 

 

 

 

           กว่าจะพานางเอกในจอและนอกจอมาส่งที่กองถ่ายก็เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงกว่าๆ พอลงจากรถปุ๊ปนางเอกคนสวยก็รีบวิ่งเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที  ส่วนเขาก็เตรียมตัวจะกลับไปทำงานของเขาบ้าง แต่ก่อนกลับดันเจอเข้ากับพระเอกที่มารอทำงานตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันแขวะเข้าให้ ! 

 

 

 

 

 

“ผมก็พา ‘แฟน’ มาส่งทัน เวลาก็เหลืออีกเป็นครึ่งชั่วโมง ไม่ทราบว่ามีปัญหาตรงไหนหรือครับ?”  เขาตอบกลับเสียงเรียบ

 

 

 

 

“คุณไม่คิดจะเผื่อเวลาหรือมีปัญหาอย่างอื่นเข้ามาแทรกบ้างเหรอครับ เหอะ ! ทำงานแบบไม่โพรเฟชเชอนัลเอาซะเลย”

 

 

 

 

“ก็แล้วมันมีปัญหาไหมล่ะครับ?”   เขาไม่จำเป็นจะต้องแสดงอากัปกิริยาที่ไม่ค่อยจะดีใส่คนแปลกหน้าที่เข้ามาหาเรื่อง  แค่อยู่นิ่งๆและเตรียมคำพูดให้สวยหรูที่สุด ก็เท่ากับปาดคอเชือดอีกฝ่ายได้อย่างสบายๆ และดูท่าจะได้ผลเสียด้วยสิ

 

 

 

 

 

“ถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมา คนอื่นเขาจะคิดว่าผมเนี่ยไม่มีประสิทธิภาพในการทำงานไปด้วยนะสิ !”   ในเมื่อไปต่อไม่ถูก พระเอกรุ่นใหญ่ก็ได้แต่เถียงข้างๆคูๆตอบแบบกล้อมแกล้ม

 

 

 

 

“แทนที่คุณจะเอาเวลามาต่อว่าผมในเรื่องที่มันยังไม่เกิดขึ้น ไปนั่งท่องบทดีกว่ามั้งครับ อุตส่าห์เตรียมตัวมารอแต่เช้า หึ ! หวังอะไรอยู่หรือเปล่า ?”    โทโมะยกยิ้มน้อยๆก่อนจะหมุนตัวหันหลังกลับ

 

 

 

 

 

“คุณหมายความยังไงไม่ทราบ”

 

 

 

 

“เลิกหวังอะไรที่มันลมๆแล้งเสียตั้งแต่ตอนนี้เถอะ แก้วนะ...ของผมคนเดียว !”  

 

 

 

 

 

“นายมันไก่อ่อนเนื้อเละกินไปก็ไม่อร่อยหรอก มีอย่างหรือจะมาสู้ไก่เนื้อเหนียวอย่างฉัน....ฝากบอกอะไรไว้อย่างนะไอ้หน้าอ่อน คนอย่างฉัน อยากได้อะไรเป็นต้องได้ ไม่เชื่อก็ลองดู หึ !”  พระเอกร่างสูงคนนั้นตรงเข้ามาปรี่กระชากคอเสื้อของโทโมะเอาไว้ก่อนจะขู่รอดไรฟันอย่างจองหอง  โทโมะสบสายตาเขาอย่างเหยาะเย้ยและยิ้มเหยียดก่อนจะผลักอกฝ่ายตรงข้ามออกเบาๆ

 

 

 

 

 

“คุณเองมันก็ไก่แก่เนื้อเหนียว เคี้ยวไม่เข้าแล้วเหมือนกัน ! อย่าสำคัญตัวเองผิดคิดว่าเป็นดาราโด่งดังแล้วใครต่อใครต้องเที่ยวก้มหัวให้ เรามันก็คนเดินดินเหมือนกันนั่นแหละ สักวันคุณก็ต้องตายเหมือนกัน เพราะงั้นควรจะเก็บปากรักษาตัวเองเอาไว้ให้ดี ผมไม่อยากมีเรื่องกับคนไม่คุ้นเคย !”

 

 

 

 

“แก!”   

 

 

 

          โทโมะเดินหันหลังจากมาอย่างไม่สนใจในคำพูดของเขาทั้งสิ้น มันก็แค่ลมปากของผู้ชายที่ไหนไม่รู้ที่คิดจะมาแย่งคนรักของเขา   เขาเชื่อใจและไว้ใจแก้วเสียอย่าง สิ่งอื่นใดเขาก็ไม่กลัว แต่จะว่าไปลึกๆเขาก็แอบหวั่นอยู่ในใจ กลัวเหลือเกินว่าคนรักของเขาจะเผลอไปหลงคารมเสือร้ายหิวโซอย่างหมอนั่นเข้า !

 

 

 

 

 

 

 

     ไม่มีทาง ฉันไม่ยอม !

 

 

 

 

 

“เห้ย เป็นไรไปว่ะโทโมะ หน้านิหงิกมาเชียว แนะๆ อย่าบอกนะว่าทะเลาะกับยัยแก้วแตกนั่นมาอีก อ่ะ อ้าวเห้ย ไปไหนเล่า ตอบคำถามฉันก่อนเซ่ !”

 

 

 

 

 

 

          เขื่อนรับรู้ได้ทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องอะไรสักอย่างขึ้นกับโทโมะเป็นแน่ ไม่อย่างนั้นอาการคงไม่เป็นแบบนี้และดูท่าว่าครั้งนี้อาการดูท่าจะหนักกว่าครั้งไหนๆเป็นด้วยซ้ำ  ด้วยความเป็นห่วงเลยเดินตามเข้าไปถามไถ่อาหารที่เพื่อนรักเป็นอยู่ตอนนี้ เผื่อมีอะไรเขาจะได้ช่วยให้คำปรึกษาได้ !

 

 

 

 

 

“เห้ย งานนี้ฉันถามจริงจัง แกเป็นอะไร ? ทะเลาะกับแก้วเหรอ ?”

 

 

 

 

“ไม่”

 

 

 

 

“แล้ว ?”

 

 

 

 

“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรมาก ฉันยังพอตั้งรับได้ แต่ถ้าวันนึงมันชักจะรุนแรงขึ้นฉันจะขอความช่วยเหลือจากแก !”   

 

 

 

          โทโมะพูดออกไปด้วยแววตานิ่งสงบราวกับเขาไม่ได้มองเพื่อนรักที่นั่งสนทนาอยู่ด้วยเลยแม้แต่น้อย  ถึงแม้ว่าเขื่อนออกจะงงและอยากรู้กับอาการของเพื่อนมากแค่ไหน ขาก็ไม่ถามเซ้าซี้ รอให้เหนือบ่ากว่าแรงก่อนจะดีกว่าเขาจะยื่นมือเข้าไปช่วยตามคำขอของโทโมะ

 

 

 

 

“โอเค ได้เสมอเว้ย ว่าแต่จะให้ช่วยเรื่องอะไรว่ะ ?”

 

 

 

“สั่งสอนพวกลักกินขโมยกินของชาวบ้าน !”   เขาพูดแค่นั้นก่อนจะเดินเข้าห้องซ้อมไป...

 

 

 

 

 

            

มันหมายความว่ายังไงว่ะ ?

 

 

 

 

 

 

 

 

กองถ่ายละคร

 

 

 

 

“น้ำครับนางเอกคนใหม่”    

 

 

 

          แก้วยื่นมือไปรับขวดน้ำอย่างเกรงใจก่อนจะกล่าวขอบคุณพระเอกที่เธอต้องร่วมแสดงด้วยพร้อมเชื้อเชิญให้เขานั่งลงข้างๆเพื่อกันเสียมารยาท  นี่ถ้าโทโมะมาเห็นว่าเธอนั่งใกล้ชิดับเขาขนาดนี้ละก็...ไม่อยากจะคิดเลยว่าหน้าของเขาจะเป็นยังไง ?

 

 

 

 

 

 

 

คงต้องตีหน้ายักษ์ใส่เราแหงๆ ^ ^

 

 

 

 

 

 

 

“ขอบคุณคะพี่ป้อง”

 

 

 

 

“วันนี้น้องแก้วเล่นได้ดีมากเลยนะ พี่ยกนิ้วให้เลย”

 

 

 

“ไม่หรอกค่ะ คงเพราะว่าพี่ป้องช่วยด้วยนั่นแหละ แก้วก็ยังใหม่ในเรื่องนี้คงอีกนานกว่าจะเล่นได้สมจริง และก็เป็นมืออาชีพแบบพี่”   แก้วตอบเขาด้วยรอยยิ้ม จนอีกฝ่ายลอบมอง

 

 

 

“ถ่อมตัวจริงๆเลยนะเด็กคนนี้  ทั้งสวยทั้งนิสัยดีแบบนี้ไม่น่าละแฟนเขาถึงหวงนักหวงหนา แม้กระทั่งกับพี่...”

 

 

 

 

“โทโมะพูดอะไรเหรอค่ะ ?!”   

 

 

 

          หญิงสาวรีบถามขึ้นมาทันทีที่ได้ยินอีกฝ่ายพูดขึ้นมาแบบนั้น หวังว่าโทโมะคงไม่ไปพูดอะไรไม่ดีใส่เขาหรอกนะ !  และก็เหมือนจะเข้าทางอีกฝ่ายทันที คนโตกว่าลอบยิ้มเหยียดเล็กน้อยก่อนจะตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จออกมาอีกครั้ง

 

 

 

 

“ก็...มะ ไม่มีอะไรครับ”

 

 

 

 

“บอกแก้วมาเถอะคะ เขาพูดว่าอะไรพี่หรือเปล่า ? หึ ! คนนิสัยไม่ดี”

 

 

 

 

“ถ้าพี่บอกน้องแก้วห้ามไปทะเลาะกับเขาอีกนะครับ เดี๋ยวเขาจะพาลไม่ชอบพี่เข้าไปกันใหญ่ ยังไงพี่กับแก้วก็ต้องทำงานร่วมกันอีกนาน  สัญญานะครับเด็กดี”  

 

 

 

          ร่างสูงยื่นนิ้วก้อยออกมากให้เธอเกี่ยว และด้วยความอยากรู้ว่าคนรักของเธอพูดว่าว่าอะไรเขาแก้วจำต้องเกี่ยวก้อยสัญญากับเขาไปโดยปริยาย   และฉากการคุยกันครั้งนี้ของคนทั้งคู่ก็หลบไม่พ้นสายตาเหยี่ยวของปาปารัสซี่จนได้ !

 

 

 

 

“สัญญาค่ะ พี่ป้องเล่ามาให้หมดว่าเขาพูดว่าอะไรบ้าง!”

 

 

 

 

“เอ่อ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ เขาก็แค่บอกว่าน้องแก้วเนี่ยเป็นของเขาคนเดียว ห้ามพี่มายุ่งวุ่นวาย ถ้าไม่อย่างนั้น.....”

 

 

 

 

“ถ้าไม่อย่างนั้นทำไมค่ะ ?”   แก้วถามด้วยความร้อนรน

 

 

 

 

“เขาอาจจะมีเรื่องกับพี่....อ้าว น้องแก้วไปไหนครับ พี่ขอร้องละอย่าทะเลาะกันนะครับ คุยกันดีๆอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้ “

 

 

 

 

“แก้วขอตัวก่อนคะ มีธุระต้องรีบไปสะสาง!”

 

 

 

 

ยังไม่ทันที่เธอจะฟังความอะไรจากเขาจบ แก้วก็รีบลุกขึ้นเก็บข้าวของและบอกลาอีกฝ่ายทันที ไม่บอกก็รู้ว่าเธอรีบไปไหน นอกเสียจากไปเคลียร์กับคนเจ้าอารมณ์อย่างโทโมะ.....เข้าแผนของใครอีกคนพอดีสินะ ?

 

 

 

 

 

 

 

          ร่างบางกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาภายในบริษัทพลางสอดสายตามองหาใครอีกคนจนเห็นว่าเขาอยู่ในห้องซ้อมเต้นคนเดียว  ยิ่งดี เธอจะได้มีเวลาคุยกับเขาแบบส่วนตัวชนิดที่คนอื่นไม่สามารถคัดค้านได้ เวลาทะเลาะกัน อย่างน้อยๆเขาก็คงไม่รุนแรงถึงขั้นตบตีเธอหรอกหน่า !

 

 

 

 

“โทโมะ !”

 

 

 

“....”

 

 

 

 

“โทโมะ ! นี่หยุดนะ !”

 

 

 

 

“.......”

 

 

 

 

 

“บอกให้หยุดแล้วหันมาคุยกับแก้วไงเล่า !”   

 

 

 

          เมื่อเรียกหลายครั้งแล้วเขาไม่ได้ยินเนื่องจากเพลงที่เปิดจากหูฟังของเขาค่อนข้างเสียงดัง   เธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปกระชากมันออกแล้วผลักให้คนงี่เง่าหันมาเผชิญหน้า ท่ามกลางความงุนงงของโทโมะที่ไม่รู้ว่าแก้วต้องการจะเล่นหรือหาเรื่องกับเขากันแน่ ?

 

 

 

“อะไรกันแก้ว ? ทำไมไม่เดินมารียกโทโมะดีๆ เห็นไหม...พัง ?”

 

 

 

“หึ ! แล้วทีตัวเองทำอะไรลงไปไม่คิดว่างานคนอื่นเขาจะพังบ้างหรือไงคนบ้า !”  แก้วตะคอกใส่หน้าเขาจนโทโมะเงียบไป  พยายามทบทวนว่าเขาไปทำงานอะไรของเธอพังตอนไหน ?

 

 

 

 

“อะไร...โทโมะไปทำอะไรให้แก้วถึงมาพาลกันแบบนี้ ?”  มือหนารวบคว้าร่างเล็กเข้าหาหมายจะกอดอ้อนงอนง้อแต่เธอกลับถอยห่างและปัดมือเขาทิ้งอย่างไม่ใยดี  จนตอนนี้โทโมะก็ชักจะโมโหขึ้นมาแล้วเหมือนกัน

 

 

 

“อย่ามาแตะแก้วนะ คนนิสัยไม่ดี”

 

 

 

“ก็แล้วโทโมะนิสัยไม่ดียังไงแก้วถึงว่าเอาๆแบบนี้ มีอะไรก็บอกกันมาสิ ไม่บอกแล้วจะรู้ไหมเล่า !”

 

 

 

 

“ทำไมต้องมาขึ้นเสียงใส่ด้วย อันธพาลที่สุด กับพี่ป้องก็เหมือนกัน กล้าดียังไงไปวางก้ามใส่พี่เขาแบบนั้น โทโมะไม่รู้หรือไงว่าแก้วต้องทำงานร่วมกับเขาอีกนาน แล้วอีกอย่างนะ จะเที่ยวประกาศให้เขารู้ทำไมว่าแก้วเป็นของโทโมะอ่ะ แก้วไม่ใช่สิ่งของนะ !”

 

 

 

 

 

 

         ทันทีที่เธอพูดจบ เขาก็เข้าใจทันที นี่คงโดนไอ้พระเอกนั่นเป่าหูใส่ร้ายเขามางั้นสิ !  ไอ้ที่บอกว่าเขาไว้ใจแก้ว เชื่อใจแก้ว ตอนนี้มันลดลงมาครึ่งนึงแล้ว แค่นี้เธอยังเลือกจะเชื่อคนอื่นมากกว่าเขาเลย แล้วนับประสาอะไรกับหัวใจ  เธออาจจะเผลอยกให้เขาไปตอนไหนก็ได้ !  ร่างสูงพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ ไม่แสดงสีหน้าท่าทางใดๆออกมาก่อนจะหมุนตัวหันหน้าหนีเธอ ด้วยไม่อยากทะเลาะกันเพราะคนอื่น !

 

 

 

 

“อย่าหันหน้าหนีปัญหาที่ตัวเองสร้างไว้สิคนบ้า !”

 

 

 

“โทโมะไม่ได้หนี แค่ไม่อยากทะเลาะกับแก้ว ! เพราะรู้ดีว่าพูดอะไรออกไปตอนนี้ก็คงจะผิดในสายตาแก้วอยู่ดี ยังไงแก้วก็เลือกที่จะเชื่อคนอื่นมากกว่าโทโมะ ! งั้นเราก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก !”

 

 

 

“แก้วก็ไม่ได้อยากจะเชื่อคนอื่นมากกว่าคนที่แก้วรักหรอก ! แต่ถ้าโทโมะเป็นแบบที่พี่ป้องพูดจริงๆความรักของแก้ว ณ ตอนนี้มันก็คงจะลดลงตามความรู้สึกด้วย”

 

 

 

“แก้ว เขาเป็นคนอื่น....”   เขาแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แก้วจะรักเขาน้อยลงงั้นหรือ ?

 

 

 

 

“ใช่ !  เขาเป็นคนอื่น และโทโมะเป็นคนรัก ถ้าแก้วไม่รักแก้วจะไม่สนใจโทโมะแบบนี้ !  แก้วรู้ว่าโทโมะรักและหวงแก้วมากแค่ไหน แต่ช่วยแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวหน่อยได้ไหม อย่าทำให้แก้วหนักใจเจียนบ้าแบบนี้เลย !”

 

 

 

 

“ก็เพราะแก้วไม่รับรู้กับสิ่งที่เขาพูดกับโทโมะเมื่อเช้า แก้วถึงได้เข้าข้างเขาแบบนี้ แก้วไม่มาเป็นโทโมะ แก้วไม่มีวันเข้าใจ !”

 

 

 

“เขาพูดว่าอะไรล่ะ ?”

 

 

 

“แค่แก้วถาม นั่นก็แปลว่าแก้วไม่ได้คิดจะเชื่อโทโมะตั้งแต่ทีแรกอยู่แล้ว...ทั้งๆที่โทโมะไว้ใจและเชื่อใจแก้ว แต่สิ่งที่โทโมะได้กลับคืนมาคือคำต่อว่า คือคำครหา คือความไม่เข้าใจ และไม่เชื่อใจกัน ! แค่นี้มันก็เสียความรู้สึกมากพออยู่แล้ว  เขาเป็นใคร มาจากไหน แก้วถึงได้หลงเชื่อคำพูดลอยๆของเขา มีหลักฐานแล้วหรือยังไงถึงได้มาใส่ร้ายกันแบบนี้ !  แล้วโทโมะล่ะ เป็นใคร ? มากจากไหน...เรารู้กันดีไม่ใช่เหรอแก้ว “

 

 

 

 

“คือ แก้ว....”

 

 

 

 

“หรืออันที่จริงแล้วแก้วไม่เคยรักโทโมะเลย ไม่เคยเลย!!!!!!!!”    โทโมะปล่อยน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจเล็กน้อยก่อนจะทิ้งทุกอย่างและเดินออกจากห้องไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ยากเกินกว่าที่ใครจะเข้าใจถึงหัวอกอันเจ็บปวดของเขา

 

 

 

 

          ส่วนแก้ว....อันที่จริง เธอเองก็รู้สึกผิดบ้างที่ไปล่าวหาว่าเขาแบบนั้น มันไม่มีหลักฐานอย่างที่เขาว่าจริงๆ แต่อีกใจเขาก็ไม่อาจคิดว่าพี่ป้องคนที่เธอร่วมงานด้วยจะโกหกใส่ร้าย มันคิดไม่ออกจริงๆว่าใครเป็นฝ่ายโกหก !  ใจนึงเธอก็อยากจะวิ่งเข้าไปกอดและง้อเขา แต่อีกใจก็สั่งไม่ให้ทำแบบนั้น....เรื่องอะไรที่เขามาว่าเธอไม่รักเขา มันน่าน้อยใจชะมัด ! เธอยอมผ่านอะไรมากับเขาตั้งมากมาย เขาก็ยังไม่เชื่อว่าเธอรักเขา !

 

 

 

 

 

 

อยากจะงอนก็งอนไป !

 

 

 


 

 กลับมาแล้วค้าบ คถ.ทุกคนจุงเบยยยย > <

 

สอบเสร็จ ปิดเทอม ประกาศผลอันห่วยแตก ._.

 

แล้วเลยกลับมาหาฟิคที่รักของนุกอีกครั้ง คิคิ

 

อยากหาอะไรให้มันฟินหัวใจสักครั้ง ช่วงนี้หัวใจอ่อนแอtt

 

เห้อ...ข่าวลือมันก็เป็นข่าวลืออยู่ยันวันยันค่ำ แต่...

 

ไม่แคร์เพราะไงมันคือเรื่องจริงสำหรับนุกเสมอ ^[++]^

 

Ps.สำหรับเนื้อหาในตอนนี้นุกแอบเติมความรู้สึกตัวเองลงปาย =..=

 

ต้องขอโทษสำหรับบางคนที่อาจจะไม่พอใจที่นุกเอา 'ใคร' บางคนมาเกี่ยวข้อง

 

มันก็แค่อรรถรสนะค้าบบ #พอไำด้แระ #พล่ามอยู่นั่น 5555555 -.-

 

 

การจะเขียนฟิคสักเรื่องมันต้องมีแรงบันดาลใจ

และแรงบันดาลใจของนุกก็คือ...โทโมะแก้ว♥

 

#กรี๊ดดดด สโลแกน 555555555 #ฝอยเยอะไปแระ  *หลบตีน*

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา