Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ

8.6

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.

  43 ตอน
  2163 วิจารณ์
  109.11K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

23) Break

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

                                                               Break

 

 

 

หลายวันผ่านไป...

 

 

 

 

 

 

          ความรู้สึกที่ไม่มีอีกฝ่ายข้างกายมันทำให้แก้วรู้สึกเวิ้งว้าง และดูจะเหงาๆผิดปกติ เธอได้แต่พร่ำบอกในใจว่าห้ามใจอ่อนพาตัวเองไปง้อเขา  แต่อีกใจเธอก็เริ่มรู้สึกทนไม่ได้  ก็ในเมื่อต้องเจอกันที่ค่ายทุกวัน ทำงานร่วมกันแทบทุกวันแต่เขากลับไม่มองผ่านเธอ ไม่ทักทาย ไม่สนใจ ไม่แม้แต่จะเดินเฉียดเข้ามาใกล้ ทั้งๆที่เมื่อก่อนเขากับเธอแทบจะตัวติดกันตลอดเวลา  เขาทำเหมือนกับเธอไม่มีตัวตนอยู่ ณ ที่ตรงนั้น เลย !

 

 

 

 

 

 

          แม้เพื่อนๆจะพยายามช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้ต่างฝ่ายต่างหันหน้าเข้าหากันแต่ดูท่าจะไม่สำเร็จ เมื่อโทโมะไม่ยอมทำตามคำแนะนำของใคร เขาไม่สนใจว่าเธอจะคิดยังไง จะโกรธ จะงอน หรืออยากจะคุยกับเขามากแค่ไหน เขาไม่สนใจเธอแล้ว ! เธอเป็นผู้หญิงมันก็ต้องมีน้อยใจกันบ้างแหละหน่า ถึงตอนนี้แก้วจะยอรับว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดแล้วก็ตาม

 

 

 

 

 

“นี่แก้ว ตกลงทะเลาะกันเรื่องอะไร สามสี่วันเนี่ยฉันไม่เห็นโทโมะเขาชายตามองแกเลยนะ  เลิกกันแล้วหรือไง ?”  ฟางจงใจถามเสียงดังให้โทโมะที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้ยิน  เขายังคงนั่งนิ่งและไม่สนใจคนรอบหายคนใดทั้งนั้น

 

 

 

 

“คงงั้นมั้ง !”  แก้วตอบกลับด้วยเสียงอันดังด้วยความหมั่นไส้อีกฝ่าย

 

 

 

“เห้ย บ้าพูดเป็นเล่น “

 

 

 

“ฉันพูดความจริงผิดตรงไหน ก็ในเมื่ออยากจะเลิกก็เลิก ไม่สิ....อันที่จริงก็ไม่ได้คบอยู่แล้วนี่  คนนั้นเขาคบใครอยู่แกก็น่าจะรู้นิยัยฟาง ส่วนฉันนะ...โสด !”  แก้วพูดแค่นั้นก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไป จนฟางรู้สึกเครียดแทนกับความปากแข็ง ใจร้อนของคนทั้งคู่  นิสัยเหมือนกันแบบนั้น คบกันเข้าไปได้ยังไงนะ ?

 

 

 

 

 

“ป๊อป ฟางว่าปล่อยไปแบบนี้ไม่น่าจะดีนะ เกิดสองคนนั้นเลิกกันขึ้นมาจริงๆจะทำไง ?”  ฟางเก็บเอาเรื่องของเพื่อนทั้งสองมาปรึกษาป๊อปปี้ที่ดูจะมีเหตุผลและเป็นผู้ใหญ่มากที่สุด แต่เขากลับส่ายหน้าพลางตั้งใจเขียนแผนงานต่อไปไม่สนใจในสิ่งที่ฟางพูดนัก

 

 

“เรื่องของเขา เขาเคลียร์กันได้นะ ฟางอย่าเครียดไปเลย

 

 

“ก็แค่เป็นห่วงเพื่อนนี่นา”   ฟางบ่นกะปอดกะแปดกับคนข้างๆทั้งที่อีกฝ่ายไม่ค่อยจะสนใจฟังคนข้างกายสักเท่าไหร่นัก

 

 

 

 

 

“ครับ เบลล์ช่วงนี้โทโมะไม่ค่อยว่าง ไว้ว่างเมื่อไหร่โทโมะจะเข้าหาหา....มีเรื่องจะคุยด้วย….?”    

 

 

 

ยังไม่ทันที่โทโมะจะคุยโทรศัพท์เสร็จ เขาก็เป็นอันต้องวางเมื่อเห็นว่ามีอีกคนเข้ามาภายในห้องซ้อม  เมื่อได้ยินว่าเขากำลังคุยกับใครแก้วก็ตั้งท่าจะเดินออกไป ไม่อยากรบกวน ไม่อยากได้ยิน!  ลึกๆแล้วในใจรู้สึกเจ็บปวดอยู่ไม่น้อยทั้งที่เขาทำเฉยชาใส่และยังแอบมาคุยกับผู้หญิงอีกคน  แก้วลองทบทวนตัวเองดูอีกครั้งเมื่อความน้อยใจแน่นอกอีกครั้ง

 

 

เขาคบกับเธอ และเขาก็คบกับผู้หญิงอีกคน ไม่สิ...เธอนั่นแหละมาทีหลัง!

 

 

 

          โทโมะมองหน้าผู้หญิงตรงหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินเบี่ยงไปอีกทางตั้งท่าจะเดินออกไปเมื่อเห็นว่าแก้วเดินเข้ามา  ร่างเล็กเบ้ปากน้อยๆด้วยความหมั่นไส้ น้อยใจ โกรธ ทุกอารมณ์ที่จะสรรหามารู้สึก! 

 

 

 

“ใครปิดประตู เปิดเดี๋ยวนี้!”    โทโมะทุบประตูพลางโวยวายเมื่อเห็นว่าประตูถูกล๊อคจากทางด้านนอก  แก้วเองก็แปลกใจไม่น้อยแต่เธอยังไม่ทันพูดอะไร ได้แต่ยืนมองสถานการณ์อย่างเงียบๆ

 

 

 

 

 

 

 

“ขอโทษนะโทโมะ แก้ว ฉันไม่อยากทำแบบนี้หรอก แต่แค่อยากให้พวกเธอเข้าใจกัน”   เสียงหวานของฟางดังมาจากทางด้านนอก ทำให้คนข้างในรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น  เมื่อรู้ตัวต้นเหตุแก้วก็นึกอยากจะหยิกเพื่อนตัวแสบคนนี้จริงๆ ร่างเล็กเดินเข้าไปทุบประตูพลางโวยวายอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกัน

 

 

 

เขาไม่อยากอยู่กับเธอ เธอก็ไม่อยากอยู่กับเขาเหมือนกัน!

 

 

 

 

“เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะยัยฟาง ไม่มีอะไรที่ต้องเข้าใจเพราะฉันเข้าใจทุกอย่างหมดแล้ว!”

 

 

 

“พวกแกเคลียร์กันเถอะนะ ฉันไม่สบายใจที่เห็นแกเป็นทุกข์ ฉันไปนะ....”

 

 

 

“ฉันสบายดีแล้วก็ไม่ได้ทุกข์ใจเพราะใครด้วย รู้ไว้ซะไม่มีใครสำคัญมากพอที่ฉันจะต้องมานั่งเสียใจ!”

 

 


”.....”

 

 

 

“ฟาง ฟาง!”    เสียงฟางเงียบไปแล้วพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆเบาลงจนเงียบหายไป  ภายในห้องเงียบสงัดไม่มีใครพูดกับใคร ได้ยินเพียงเสียงจากเครื่องปรับอากาศและเสียงลมหายใจเข้าออกของคนสองคน

 

 

 

 

 

 

          มุมห้องถูกใช้เป็นที่นั่งของแต่ละคน จนกระทั่งผ่านไปนานเนิ่นก็ยังไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาจนทุกอย่างเริ่มจะอึดอัดจนน่ารำคาญ และในที่สุดแก้วก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหวจนต้องระเบิดออกมา

 

 

 

 

“ไม่คิดจะทำอะไรบ้างหรือไง!”   หญิงสาวถามเสียงดังด้วยความไม่พอใจเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ทำเฉยชา ไม่แม้แต่จะมองว่าเธอก็ยังอยู่ภายในห้องนี้  เขาเงยใบหน้าขึ้นเล็กน้อยมองมาที่อีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่ยากจะคาดเดา

 

 

 

 

“อยากปรับความเข้าใจงั้นเหรอ”

 

 

 

“ไม่!”

 

 

“แล้วจะทำยังไงได้ ก็คงต้องปล่อยให้เป็นแบบนี้ อยู่แบบอึดอัดกันไปแบบนี้แหละมันสะใจดี!”  

 

 

 

“สะใจ? ..........แค่สะใจ ระ เหรอ?”  

 

 

 

 

 

          น้ำเสียงห้าวออกจะสั่นเครือเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคบาดใจเมื่อครู่ เขาสะใจ....สะใจที่เราทะเลาะกัน สะใจที่เห็นเธอเจ็บปวดจนจะบ้า  สะใจที่เขาจะได้หลุดจากเธอเสียทีนะเหรอ?  มันเสียความรู้สึกอย่างบอกไม่ถูก  แก้วเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตากลมกระพริบถี่ๆเพื่อไล่หยาดน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา อย่างยากลำบาก......

 

 

 

 

“แค่นี้ร้องไห้ ? แล้วที่แก้วทำกับโทโมะคิดบ้างมั้ยว่าโทโมะก็ร้องไห้เป็น!”

 

 

 

“ก็ใครเป็นคนเริ่มก่อนเล่า! ฮึก...ฮึกกกก”   ในที่สุดความอดทนอันน้อยนิดของแก้วก็มีอันต้องพังทลายเมื่อความน้อยใจแล่นขึ้นจนจุกอก  เขาตวาดเสียงดังพลางทำหน้าถมึงทึงใส่จนแก้วกลัว.....กลัวกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

 

 

 

 

“........”

 

 

 

 

“อยากเลิกเหรอ”  

 

 

 

          แก้วถามเขาเสียงแผ่วด้วยจิตใจโหวงเหวงและรู้สึกเจ็บปวดกว่าที่จะพูดคำนั้นออกมาเป็นประโยคได้โดยง่าย  กลั้นใจถามความจริงจากปากดีกว่าอยู่อย่างค้างคาและต้องเจ็บปวดไปตลอดแบบนี้  ความรักจะอยู่รอดได้ยังไงในเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่เข้าใจกัน!

 

 

 

 

“.......”   

 

 

 

            โทโมะเงียบไปอย่างเนิ่นนานอย่างใช้ความคิด อยากจะต่อว่าแก้วนักที่พูดอะไรออทำร้ายจิตใจเขาออกมาแบบนั้น  ไม่รู้หรือไงว่าเขารัก ไม่รู้หรือไงว่าเขาหวง ไม่รู้หรือไงว่าเขาน้อยใจแค่ไหนที่แก้วเลือกจะเชื่อคนอื่นมากกว่าเขา....บางที ทุกอย่างคงต้องใช้เวลาในการตัดสิน

 

 

 

 

“ทำใจได้ อยากเลิกก็บอกมา....”   

 

 

 

          แก้วถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแผ่วหวิวพร้อมกับหลบหน้าฝั่งตรงข้าม ไม่กล้ามอง ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว  ร่างบางไม่อาจทนรอคำตอบที่คาดว่าน่าจะทำให้เธอปวดใจได้ไม่น้อยเลยเลี่ยงที่จะวิ่งหนี  แต่กลับโดนอีกคนคว้าแขนเอาไว้...

 

 

 

 

“ไม่เลิก.........แต่เราห่างกันดูมั้ย”   คำพูดของเขา....ทำให้แกวเหมือนอยู่ท่ามกลางทะเลทรายอันอ้างว้าง ทั้งร้อนอบอ้าวทั้งเงียบเหงาเหว่หว้า  ห่างกัน.....แต่ไม่เลิก ก็เหมือนกับไฟใกล้มอด มันยังคงร้อนระอุอยู่เพียงแค่รอเวลาที่ดับไปก็เท่านั้น มันไม่ต่างอะไรเลยกับการที่เขายื้อเวลาเอาไว้  มันเจ็บยิ่งกว่าพูดค่าเลิกกันเสียอีก !

 

 

 

 

จะยื้อไว้ทำไมในเมื่อหมดใจไปแล้ว....

 

 

 

 

“ถ้าจะพูดแบบนั้นก็เลิกกันดีกว่า”

 

 

 

 

“ทำไม? โทโมะไม่ได้เป็นฝ่ายถอยห่างนะ โทโมะเป็นฝ่ายรอมากกว่า รอให้แก้วเข้าใจคำว่ารักมากขึ้นและพร้อมจะรักโทโมะได้อย่างไม่มีข้อกังขาไม่ว่าใครจะพูดอะไรทั้งนั้น  แบบนี้โอเคไหม?” 

 

 

 

 

           เขาถามเสียงนุ่มอย่างพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองอย่างใจเย็นที่สุด  คิดว่าเขาไม่เจ็บปวดหรือไงที่ต้องพูดออกไปแบบนั้น  เสียใจสิ....เสียใจ แต่ที่ทำไปก็เพราะต้องการให้คนรักของเขาเข้าใจ ให้เวลาแก้วอยู่กับตัวเองให้มากขึ้น  ลองให้แก้วใช้ชีวิตแบบไม่มีเขาอยู่ข้างกายตลอดเวลา  แก้วจะคิดถึงเขาไหม.....ขาดเขาไปแก้วจะรูสึกอะไรไหม

 

 

 

 

“ไม่โอเค! โทโมะบอกเลิกแก้ว บอกเลิกแก้วๆๆๆ แก้วไม่โอเค ไม่.....”

 

 

 

“บอกแล้วไงว่าไม่ได้เลิก  เงียบนะเด็กดื้อ!”   เขาว่าเสียงดุ

 

 

 

 

“อย่ามาว่า เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว บอกเลิกเค้าไปแล้วก็ไม่ต้องมาดูดำดูดีเค้า!” 

 

 

 

 

 

 

          คนตัวเล็กยังคงสะบัดสะบิ้งใส่พลางสะอื้นฮักด้วยความเสียใจ  เขามองคนที่ทำตัวเหมือนเด็กไม่ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆด้วยความเหนื่อยใจ ไม่ว่าจะพูดยังไงเธอก็ไม่ยอมฟัง....งั้นคงต้องปล่อยให้เธอเป็นแบบนี้ต่อไป เขาตามใจแก้วมามากแล้ว ต่อไปนี้แก้วต้องหัดเป็นผู้ใหญ่ให้มากขึ้น....

 

 

 

 

“ตามใจ”  

 

 

 

          เขาพูดแค่นั้นก่อนจะโทรศัพท์เรียกฟางมาเปิดห้องให้พลางอ่างว่าเคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว  เมื่อเห็นว่าน้ำเสียงของอีกฝ่ายอีกแช่มชื่นขึ้นฟางจึงยอมมาเปิดห้องให้ แต่พอเปิดเท่านั้นแหละโทโมะก็พรวดพราดออกไปจากห้องทันที ซ้ำร้ายฟางยังเห็นแก้วนั่งร้องไห้อยู่บนโซฟาด้วยซ้ำ!

 

 

 

 

“แก้วเป็นอะไร ? โทโมะบ้าหลอกฉันได้ลงคอ!”

 

 

 

 

“ฮึก...โทโมะขอเลิก ขอเลิกๆๆๆ แก้วไม่ยอม ไม่ยอม! ฮืออออ~”   ร่างบางร้องไห้โวยวายอย่างไม่ยอมแพ้ เมื่อแรกก็นึกเสียใจจนเริ่มรู้สึกอ่อนแอไปชั่วขณะก่อนจะนึกขึ้นได้ถึงหน้าคนรัก เรื่องอะไรที่เธอต้องยอมแพ้ ในเมื่อโทโมะก็เป็นของเธอ!

 

 

 

ห้ามบอกเลิก ห้ามรักใครอีกนอกจากแก้ว ห้ามๆๆๆๆแก้วไม่ยอม!

 

 

 

 

“ขอเลิกเลยเหรอ ไม่นะแก้วคิดมากไปหรือเปล่า”

 

 

 

“เค้าขอห่าง! มันก็ไม่ต่างจากเลิกหรอกฟาง ฮึก....”

 

 

 

“ห่างกันไม่ได้แปลว่าเลิกนี่นา อย่าคิดมากนะลองปรับความเข้าใจกันดูอีกนิด ฉันเชื่อว่าโทโมะเขารักแก้วจะตาย อ้อ เมื่อกี๊ฉันได้ยินโทโมะคุยโทรศัพท์กับ เอ่อ เบลล์อะไรนั่นด้วย แต่แกไม่ต้องคิดมากนะแก้ว ยังไงโทโมะเค้า....”

 

 

“อะไรนะ!  อ๋อ ที่ขอห่างเป็นเพราะว่าอยากกลับไปหวานชื่นกับคนเก่างั้นสิ เหอะ! บอกได้เลยแก้วจะไม่ยอมอีกแล้ว แก้วทนมามากพอแล้ว!”   ฟางออกจะตะลึงไปนิดๆเมื่อเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของเพื่อนรัก ปกติเวลาพูดถึงเรื่องผู้หญิงคนนั้นทีไร แก้วเองเป็นต้องเก็บมานอยด์ทุกที แล้ววันนี้เป็นอะไร?

 

 

 

“เดี๋ยวนะยัยแก้ว แกว่าไงนะ!?” 

 

 

 

“มาทีหลังก็ต้องไปทีหลัง คนมาก่อนก็ต้องไปก่อนสิถึงจะถูก เหอะ!”

 

 

 

 

กะ...แก้ว O[____]O

 

 

 

 

 

 

 

ครืน~

 

          โทโมะมองโทรศัพท์บนโต๊ะที่ส่งเสียงร้องและสั่นครืนๆอยู่อย่างชั่งใจก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดู ปรากฎว่ามันปรากฎเบอร์ของคนตัวแสบที่เขาเพิ่งจะตัดเยื่อตัดใยเพื่อดัดนิสัยมาเมื่อครู่  ไม่ได้อยากจะพูดออกไปแบบนั้น ไม่ได้อย่างห่างกับแก้วเลยแม้แต่น้อย เขาแค่รู้สึกงอนและอยากจะให้เธอเป็นฝ่ายง้อบ้าง แก้วจะได้รู้ถึงความรู้สึกของเขาบ้าง และอีกอย่างเขาจะได้เคลียร์ปัญหาคาใจกับคนเก่าได้อย่างชัดเจนเสียทีโดยที่ไม่ต้องพะวักพะวงเรื่องแก้ว  กลัวว่าแก้วจะน้อยใจถ้าหากเขานัดเบลล์ออกมาคุยเหมือนอย่างวันนี้.....

 

 

 

“เพื่อนเขาต้องโทรหากันตอนเกือบๆเที่ยงคืนแบบนี้เหรอโทโมะ?” 

 

 

 

“คือ....”

 

 

 

“อยากรับก็รับสิ เบลล์ใจกว้างพอ”    ริมฝีปากสวยถูกยกยิ้มขึ้นน้อยๆ แม้ปากจะบอกว่าเต็มใจให้โทโมะรับโทรศัพท์แต่ภายในใจแล้วมีแต่ความหึงหวงเต็มไปหมด  ข่าวของโทโมะกับเพื่อนร่วมค่ายคนนั้นมีออกให้เกลื่อน แล้วคิดว่าคนอย่างเธอจะยอมให้ใครมาแย่งของรักไปได้ง่ายๆหรือไง ?

 

 

 

“งั้นเดี๋ยวโทโมะมานะ”

 

 

 

“ค่ะ”

 

 

 

 

 

 

“ว่าไง”   โทโมะเกินเลี่ยงออกมาคุยนอกร้านอาหารด้วยเกรงว่าเบลล์จะได้ยินบทสนทนาของเขากับปลายสาย

 

 

“ทำไมต้องทำเสียงเย็นชาแบบนั้นใส่แก้วด้วย แก้วไม่เข้าใจ!”   โทโมะถอนหายใจพรืดยาวออกมากับเด็กขี้โวยวายขี้น้อยใจ ทำอะไรผิดแปลกไปจากเดิมก็หาว่าเขาอย่างงั้นอย่างงี้....เมื่อไม่มีอะไรจะเถียงโทโมะเลยเงียบไปรอให้อีกฝ่ายเป็นคนเปิดประเด็นการโทรหาเขาตอนนี้

 

 

 

“........”

 

 

 

 

“อยู่กับใครบอกมาเดี๋ยวนี้นะ!”

 

 

 

“อยู่กับเบลล์ โทโมะมีเรื่องจะคุยกับเขานิดหน่อย”   โทโมะตอบตามความเป็นจริงทุกประการเขาอยู่กับใครก็บอกว่าอยู่กับคนนั้น ไม่มีปิดบัง ไม่มีลับหลัง! แต่....คำพูดตรงๆของเขากลับทำให้อีกคนเดือดดาลจนอยากจะกรี๊ดออกมา!

 

 

 

“อยู่กับเบลล์!? ฮึกกก.....ทำไมโทโมะเป็นคนแบบนี้อ่ะ คิดถึงกันมากเลยต้องหัดกันไปรำลึกความหลังเลยหรือไง!”

 

 

 

“หยุดโวยวายได้แล้วเด็กดื้อ บอกว่ามีธุระจะคุยกับเขาก็ธุระสิ เรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยว แล้วขอร้องเลยนะกลับบ้านไปอาบน้ำนอนได้แล้ว  นี่มันดึกมากแล้วนะ!”    เขาว่าใส่อย่างอดไม่ได้จริงๆ วันนี้แก้วดูแปลกไป เธอดูไม่ยอมเข้าใจอะไรๆเหมือนเคย ยิ่งดูเหมือนเด็กเอาแต่ใจมากขึ้นทุกวัน!

 

 

 

“ไม่! บอกว่าอย่าอยู่ที่ไหน แก้วไม่ยอมนะ โทโมะทำแบบนี้ไม่ได้ โทโมะจะทิ้งแก้วแล้วกลับไปหาคนเก่าไม่ได้!”

 

 

 

“ทำไม?”

 

 

 

“บอกว่าอย่ามาเย็นชาใส่ไงเล่า!”

 

 

 

“บอกว่าอย่ามาดื้อไงเล่า! เงียบไปเลยเด็กไม่รู้จักโต โทโมะทำอะไรรู้อยู่แก่ใจดี ถ้ารักกันก็เชื่อใจกันสิ!”

 

 

 

“ไม่เชื่อ โทโมะอยู่กับผู้หญิงคนอื่นๆๆๆๆ ฮึกกก”  ปลายสายร้องไห้ฟูมฟายอย่างไม่ฟังคำพูดของเขาทั้งนั้น  โทโมะถอนหายใจยาวๆออกมาอีกครั้ง อยากจะหัวเราะก็อยากแต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้ไม่ให้เด็กดื้อได้ใจว่าเขายอมหายโกรธง่ายๆ!

 

 

 

ครั้งนี้เธอทำเขาน้อยใจมากไป เขาไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆแน่ เด็กดื้อต้องมีบทลงโทษอย่างสาสม!

 

 

 

“แก้วก็ยังอยู่กับผู้ชายอื่นได้เลยนี่”   โทโมะพูดประชดแกมเหน็บแนมว่าอีกฝ่าย

 

 

“ก็แก้วทำงานอ่ะ มีคนอยู่ได้เป็นร้อยๆแล้วโทโมะอยู่กับเขาสองคน จะทำอะไรกันบ้างใครจะไปรู้ แน่สิเขาเป็นคนรักของโทโมะนี่ ส่วนแก้วนะแค่ของเล่น”

 

 

“ของเล่นอะไรกัน! เพ้อเจ้อไปแล้วยัยเด็กบ้า ใครจะทำอะไรกับใคร?  พอเลยๆ ไม่ต้องมาประชดประชัน หยุดเดี๋ยวนี้โทโมะไม่มีเวลามาพูดเรื่องไร้สาระด้วยหรอก”

 

 

 

“อ๋อ เดี๋ยวนี้เรื่องของแก้วมันกลายเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับโทโมะไปแล้วสินะ  ใครจะไปทำอะไรถูกใจโทโมะไปซะทุกอย่างแบบเขาคนนั้นล่ะ!  ยิ้มก็ง่าย สวยก็สวย ดูเป็นมิตรกับทุกคน ไม่ใช่แบบแก้วนี่ เขาไม่งี่เง่า ไม่เอาแต่ใจ  น่ารักใจดี ต่างกับแก้วไปซะทุกอย่าง ไม่เคยดีในสายตาโทโมะเลย ทำอะไรให้โทโมะหนักใจตลอดเวลา ฮึกกก....แก้วมันดื้อ  แก้วมันโลเล  แก้วไม่ดีไงโทโมะเลยไม่รัก...ฮึกกก”  

 

 

 

“ไปกันใหญ่แล้ว”

 

 

 

 

           คนสวยร่ายยาวด้วยความรู้สึกอัดอั้นตันใจ ตลอดเวลาเอคิดแบบนั้น....เอไม่ได้มีดีอะไรไปมากกว่าผู้หญิงคนนี้ของเขาเลย  ทั้งสวย ทั้งเซ็กซี่ ทั้งเอาใจเก่ง แล้วเธอล่ะ หน้าตาก็งั้นๆ แถมยังดูกะโหลกกะลาไม่เหมือนกุลสตรี ที่สำคัญเอาแต่ใจตัวเองเป็นเลิศ ก็คงถูกต้องแล้วที่เขาจะเบื่อ.....

 

 

“ใช่! แก้วมันงี่เงา เอาแต่ใจ แล้วก็อีกอย่างนะ ....เจ้าชู้!”

 

 

 

“แก้วเจ้าชู้ตรงไหน ? แก้วไม่ได้เจ้าชู้”   แก้วเถียงกลับทันควัน แน่นอน....เธอรักเขาอยู่คนเดียว ตรงไหนที่เขามาใส่ร้ายว่าเธอเจ้าชู้กัน!

 

 

 

“แก้วชอบทำให้คนอื่นมารักแก้ว เพราะแก้วสนิทกับคนอื่นง่ายเกินไป แก้วเจ้าชู้ เด็กดื้อเจ้าชู้ชอบทำให้คนอื่นรัก!”

 

 

 

“หือ ? อะไรกันแก้วเปล่านะ แก้วอัธยาศัยดีแก้วผิดหรือไงเล่าคนบ้า ทีตัวเองล่ะ กี่คนๆแล้วที่เขามารักมาชอบเพราะโทโมะนั่นแหละไปโปรยเสน่ห์ใส่เขาไว้ไม่งั้นเขาไม่มาชอบหรอก โทโมะเจ้าชู้!”

 

 

 

“งั้นก็ช่วยเลือกอัธยาศัยดีกับคนที่คิดว่าควรจะดีด้วยก็แล้วกัน อย่าดีพร่ำเพรื่อ! แล้วอีกอย่าง โทโมะไม่ได้หว่านเสน่ห์ใส่ใครด้วย เขาอยากจะรักจะชอบก็เรื่องของเขา เพราะโทโมะไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้วไม่เหมือนแก้วหรอก!”

 

 

 

“แก้วก็ไม่คิด!”

 

 

 

“คิด!”

 

 

 

 

“ไม่คิดๆๆๆๆๆๆๆ!”

 

 

 

 

“โอเค งั้นก็จบแค่นี้กลับบ้านไปอาบน้ำนอนได้แล้ว พอ!”    โทโมะตัดบทด้วยความเหนื่อยใจหากยังยืนเถียงกับแก้วอยู่แบบนี้มีหวังเรื่องไม่จบแน่ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมง่ายๆ ซ้ำร้ายยังเอาเรื่องที่เขากลัวว่าขู่เสียอีก!

 

 

 

“เดี๋ยว! บอกมาก่อนว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน อ้อ! ถ้าจะไม่บอกกันละก็แก้วก็จะไม่ยุ่งกับโทโมะอีกเลยแล้วก็จะไปคุยกับพี่ป้องด้วย เอาไง! คราวนี้ไม่ใช่แค่ห่างนะแต่แก้วขอเลิกเลยด้วย! ผีดิบบ้า !”    ร่างสูงส่ายหน้านิดๆอย่างหมดหนทางถึงจะใจแข็งแค่ไหนแต่เรื่องที่จะยอมให้แก้วไปคบไปคุยกับคนอื่นละก็....ไม่มีทางซะหรอก!

 

 

 

ให้ตายเหอะ  เล่นแบบนี้ใช่มั้ยจริญญาจอมดื้อ!

 

 

 

 

 

“โอเค บอกก็ได้ โทโมะอยู่ที่xxxxx  อ้อ! แล้วก็ไม่ต้องมานะเพราะโทโมะจะกลับแล้ว เท่านี้นะ!”   โทโมะตัดสายทิ้งก่อนจะเดินเข้าไปหาเบลล์อีกครั้ง

 

 

 

 

 

 

 

ส่วนแก้ว....

 

 

 

 

“เดี๋ยวก็รู้ว่าแก้วจะไปไม่ไป เหอะ!”   ร่างบางเหยียดยิ้มมุมปากอย่างสะใจเมื่อนึกถึงเรื่องสนุกๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

          ภายใต้บรรยากาศอึมครึมของโต๊ะอาหาร  โทโมะใช้เวลานานพอสมควรกับการออกไปคุยโทรศัพท์กับเด็กไม่รู้จักโตจนอีกคนเริ่มไม่พอใจ  ดวงตาเรียวจิกมองโทโมะอย่างไม่วางใจ

 

 

 

“ธุระเยอะนะ เพื่อนคนนี้น่ะ”

 

 

 

“เรื่องงานนิดหน่อยนะ เรามาว่าเรื่องของเรากันดีกว่า...”

 

 

 

“ก็ได้  จะบอกว่าคิดถึงเบลล์มากใช่ไหมล่ะเลยต้องนัดมาเจอดึกๆดื่นๆแบบนี้น่ะ ฮะๆ “    เบลล์หัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อนึกเอาว่าเรื่องทุกอย่างเป็นอย่างที่เธอคิด  โทโมะได้แต่ยิ้มฝาดเฝื่อนลอบกลืนน้ำลายลงคออันแห้งผากอย่างไม่อยากจะคิดหากว่าเขาพูดอะไรผลีผลามออกไป

 

 

 

“คือ....ก็เบลล์เป็นไงบ้าง ช่วงนี้โทโมะงานยุ่งเราไม่ได้คุยกันเลย”

 

 

 

“สบายดี แต่คิดถึงโทโมะมากกว่า เออนี่! พรุ่งนี้เบลล์ว่างโทโมะว่างหรือเปล่า เราไปเที่ยวกันนะ ช่วงเนี่ย...รู้สึกว่าโทโมะอยู่กับ ‘เพื่อน’  มากกว่า ‘แฟน’ อีกนะ”

 

 

 

“ไปเที่ยวเหรอ ? เอ่อ....”   

 

 

 

“อ้าว!  มาทำอะไรกันที่นี่เหรอโทโมะ เมื่อกี๊ที่ฉันคุยกับนาย นายบอกว่าอยู่กับ แม่! ไม่ใช้เหรอ แล้วไหงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ ?”   

 

 

 

 

          เสียงหวานปนห้าวดังขึ้นจากทางด้านหลังจนโทโมะต้องรีบกลับไปดู  แน่นอน....เป็นแก้วแน่ๆ เขาไม่ได้ตาฝาด แถมเจ้าตัวยังตีหน้าซื่อทำเป็นบังเอิญมาเจอเขา ซ้ำร้ายยังดกหกเรื่องคุยโทรศัพท์กันอีก เขาไปบอกเธอตอนไหนว่าเขาอยู่กับแม่!

 

 

 

 

 

“แม่เหรอ ? โทโมะหมายความว่าไง!?”    เบลล์ขึ้นเสียงใส่ด้วยความไม่พอใจสุดขีด  โทโมะมองสีหน้าของเบลล์ที่เต็มไปด้วยความโกรธสลับกับมองหน้าระรื่นของคนตัวแสบอย่างปวดหัว  เขากำลังจะพยายามเคลียร์ทุกอย่างแต่เด็กดื้อกลับทำในพังลงไม่เป็นท่า!

 

 

 

 

ให้ตาย ไม่น่าบอกเลยว่าอยู่ที่นี่!

 

 

 

 

“พอดีว่าแก้วนัดเพื่อนไว้ แต่ดูท่าจะโดนเบี้ยวแหงๆเลย  งั้น...ขอนั่งด้วยคนนะ ^^”   ไม่ทันที่แก้วจะรอฟังคำอนุญาตของเจ้าของโต๊ะ คนตัวเล็กก็รีบเบียดแทรกนั่งข้างๆโทโมะทันที ซ้ำยังแสร้งคุยโน่นคุยนี้กับทั้งเบลล์และโทโมะอย่างไม่สนใจว่าคนทั้งคู่จะรู้สึกยังไง

 

 

 

 

“ไม่เจอคุณเบลล์นานมากเลยนะเนี่ย นานจนแก้วลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยเห็นหน้าคุณที่คอนฯฮะๆๆ”  คนสวยหัวเราะอย่างอารมณ์ดีทั้งที่ตัวเองเพิ่งจะจิกกัดเขาไปเมื่อครู่   เบลล์กัดฟันกอดอย่างแค้นใจแต่ก็ต้องซ่อนใบหน้าแห่งความไม่พอใจนั้นไว้ใต้รอยยิ้มอันแสนหวาน

 

 

 

“แต่เบลล์ก็ติดต่อกับโทโมะตลอดนั่นแหละคะ แหม ไม่ได้หรอกช่วงเนี่ยแฟนเบลล์ฮอตเป็นพิเศษ”  

 

 

 

“อะ อ๋อ ...จริงเหรอโทโมะ (^^)?”   แก้วยิ้มเหยียดอย่างรู้ดีว่าสิ่งที่เบลล์พูดไม่เป็นความจริง ผู้หญิงคนนั้นจะติดต่อกับโทโมตลอดได้ไง โทโมะอยู่กับแก้วตลอดเวลาขนาดนั้น!  เมื่อถูกแก้วโยนมาให้เขาตอบโทโมะก็ถึงกับไปไม่เป็น เพราะไม่ทันได้ตั้งตัวมาก่อน ไม่คิดเลยว่าแก้วจะแสบได้ถึงขนาดนี้!

 

 

 

“อะ เอ่อ...ก็ มีบ้าง แต่นี่มันก็ดึกแล้วนะโทโมะว่าแก้วกลับบ้านเถอะ เดี๋ยวแม่เป็นห่วง”

 

 

 

“หื้อ   แก้วของม๊าแล้ว สบายมากเลยล่ะ ฮะๆ”

 

 

 

“เอ่อ แก้วขอโทโมะคุยด้วยหน่อยสิ  เรื่องงานวันพรุ่งนี้ไง....จำได้มั้ย!?”   มือหนาบีบแขนเรียวอย่างหมั่นไส้ก่อนจะกัดฟันกรอดพูดกับเธออย่างเหลืออดแต่แก้วกลับทำลอยหน้าลอยตาไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับโทโมะ! 

 

 

 

“จะไปไหนกันเหรอโทโมะ แล้วเดตของเราล่ะ ?”

 

 

 

“ขอโทโมะคุยเรื่องงานกับแก้วก่อนนะ ไปเถอะ.....”   โทโมะตั้งท่าจะลากแก้วออกไปคุยให้รู้เรื่องแต่คราวนี้เบลล์ไม่ยอมง่ายๆ พร้อมยื่นคำขาดกับโทโมะจนเขาปวดเศียรเวียนเหล้า อีกคนก็อารมณ์ร้อนอีกคนก็แสบจนสร้างเรื่องให้เขาได้! 

 

 

 

 

อยากจะบ้า!

 

 

 

 

“ไม่! เบลล์จะกลับบ้าน และโทโมะต้องไปส่งเบลล์เดี๋ยวนี้!”

 

 

 

“แต่...”

 

 

 

“ระหว่างเพื่อนกับแฟน โทโมะจะเลือกใครลองเก็บไปติดดูเอาแล้วกัน!”

 

 

 

“เบลล์คือ....”

 

 

 

“แล้วระหว่างแฟนกับคนระ....ฮะ อุ้บ”   โทโมะรีบใช้ฝ่ามือปิดปากของคนตัวแสบเอาไว้ด้วยเกรงจะเสียเรื่องและทุกอย่างจะวุ่นวายไปกว่านี้ ดวงตาคมตวัดมองคนตัวเล็กอย่างดุดันคาดโทษ

 

 

 

“เงียบนะเด็กบ้า เงียบ!”

 

 

“คิกๆๆ”  แก้วหัวเราะเสียงใส  ดวงตากลมหยีอย่างน่ารัก แก้มใสพองออกอย่างชอบใจที่แกล้งปั่นหัวให้โทโมะเป็นบ้าได้แบบนั้น

 

 

 

“ เบลล์ไปรอที่รถนะ ถ้าอีก 10 นาทีเบลล์ยังไม่เห็นโทโมะ เรื่องนี้ไม่จบแน่!”   ร่างเพรียวของเบลล์เดินสะบัดออกจากร้านไปทิ้งความวุ่นวายไว้ให้กับโทโมะ  เขากุมขมับด้วยความเครียดก่อนจะหันมาจ้องมองแก้วอย่างคาดโทษ  นิ้วเรียวชี้หน้าแก้วพลางเม้มริมฝีปากแน่นอย่างพูดอะไรไม่ออก!

 

 

 

 

“แก้ว  แก้ว!  ฮะ...ฮึ้ยยย!”   มือหนาขยี้ศีรษะของคนตัวเล็กอย่างหมั่นไส้และทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้  ก่อนที่เขาจะฮึดฮัดเดินไปหาเบลล์ที่รถ  แก้วมองตามด้วยความสะใจที่เห็นเขาเป็นบ้าแบบนั้น ก็เรื่องอะไรที่เขามาทำให้เธอเป็นบ้าก่อนกัน!

 

 

 

 

โทโมะทำได้ แก้วก็ทำได้

 

 

 

 


 

เมื่อวันก่อน...เกิดเรื่องมาม่าขึ้น(?) นุกเลยยังไม่ได้อัพเพราะ..เซ็ง-.-

 

เห็นทุกคนกำลังเคร่งเครียด!? แต่เอาเป็นว่าช่างมันเหอะเนาะ

 

เรามีความสุขกับพื้นที่เล็กๆตรงนี้ของเราดีกว่า  *ฉีกยิ้ม* 

 

แล้วอีกอย่าง...อย่าดราม่ากันเบยยย เรากินเจ สวดมนต์กันเหอะ

 

จิตใจสงบสุข ได้บุญ ดีต่อสุขภาพกายและจิต บ๊ะ! และที่สำคัญ

 

สวดมนต์เสร็จแล้วเรามาอ่านนิยายแก้เซ็งกันดีฟ่าาาาา ฮะๆ

 

#รักTK ต้องกินเจ งดดราม่านะเย้555555555

 

รีดฯ : บวชเถอะนุก จะได้ไม่เป็นภาระของพ่อแม่ - -,

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา