Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ

8.6

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.

  43 ตอน
  2163 วิจารณ์
  108.47K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

25) โลกทั้งใบกับความรัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

                                                    โลกทั้งใบกับความรัก

 

 

 

“เป็นอะไร”

 

 

 

“เปล่านี่”   

 

 

 

         สาวน้อยสะบัดเสียงใส่อย่างฉุนๆเมื่อเห็นร่างสูงเปิดประตูห้องเข้ามา  โทโมะมองร่างบางที่นั่งหน้าตึงอยู่บนเตียงกว้างหลังจากที่ป๊อปปี้กลับไปแล้ว เธอก็คงจะตื่นพอดี แต่เพราะอะไรที่ทำให้คนสวยของเขาหงุดหงิดเหมือนผู้หญิงเป็นรอบเดือนแบบนั้น?

 

 

 

“ไม่ได้เป็นอะไรได้ยังไงก็เห็นๆอยู่ว่าทำหน้าตูม”

 

 

 

“เหรอ”

 

 

 

“กวน?”

 

 

 

“จะคิดแบบนั้นก็ได้นะ...ไม่ห้าม” 

 

 

 

          เมื่อคว้าอะไรได้ใกล้มือก็จับเขวี้ยงใส่เขา  หมอนใบนิ่มถูกขว้างปาใส่ร่างสูงที่นั่งอยู่ปลายเตียงจนนุ่นข้างในปลิวว่อน แม้กระทั่งเขาร้องโอดโอยก็ยังไม่ยอมหยุด อารมณ์หญิงมันขึ้นง่ายและมันก็หายยากเสียด้วยสิ แก้วคิดอย่างหมั่นไส้ก่อนจะกระหน่ำฟาดหมอนใส่เขาไม่มียั้ง

 

 

 

“โอ้ยแก้ว นี่หยุดนะ! จะหยุดมั้ย....ไม่หยุดใช่มั้ย?.....ได้”  

 

 

 

“โทโมะ!”  

 

 

 

          ร่างบางร้องเสียงแหวเมื่อเขาปัดหมอนที่เธอใช้ฟาดออกก่อนจะรวบสองมือเล็กที่กำลังประทุษร้ายตัวเองตรึงไว้กลางอากาศ  ก่อนจะฉกริมฝีปากร้อนฉ่าลงบนแก้มใส หญิงสาวหลบหน้าหนีพัลวันพลางร้องวี้ดว้ายเมื่อถูกคุมคามจากคนโตกว่า  

 

 

 

“โทโมะอย่า หยุดนะ…โทโมะ!”  

 

 

 

          ร่างบางหายใจฟืดฟาดอย่างเหนื่อยหอบก่อนจะปั้นหน้าบึ้งใส่เขาอีกระลอก เขายิ้มเยาะอย่างไม่สนใจก่อนจะแกล้งซุกไซ้ละลาบเนื้อนวลของคนตัวเล็กขี้โวยวาย แม้เล็บยาวของเธอจะข่วนแผ่นหลังของเขาจนเป็นริ้วรอยทางยาว แต่ก็ดีที่ที่ยังไม่ข่วนหน้าเขาให้ต้องคอยตอบคำถมชาวบ้านชาวช่อง

 

 

 

“โทโมะอย่าหยุด....ก็ไม่หยุดไงฮึ”  ร่างสูงยอกย้อนเสียงหวานจนแก้วอยากจะกรีดร้อง ใบหน้าสวยมึนตึงเมื่อคนชอบเอาชนะไม่เลิกลวนลามเธอเสียที

 

 

 

“บ้าสิ! แก้วไม่ได้หมายความอย่างงั้น นี่ปล่อย”

 

 

 

“ไม่สน ใครจะทำไม”  

 

 

 

          แก้วทำหน้าค้อนก่อนจะพยายามดีดดิ้นให้หลุดจากพันธนาการที่เขาผูกเธอไว้  เนื้อตัวอุ่นของสาวน้อยถูไปไถมามากับร่างแกร่งจนอีกฝ่ายกลัวจะระงับความปรารถนาไว้ไม่ไหวจำต้องแยกกายออกจากเธอโดยด่วน เพราะกลัวแม่ตัวดีจะหมดแรงไปเสียก่อน

 

 

 

“ปล่อยแล้วไง ตกลงเป็นอะไรบอกโทโมะได้ยัง”

 

 

 

“ยังมีหน้ามาถามนะ ทำอะไรก็อยู่แก่ใจคนบ้า” 

 

 

 

          โทโมะใจหายวาบนึกไปนั่นว่าแก้วจะได้ยินเรื่องที่เขาคุยกับป๊อปปี้เมื่อครู่  ใบหน้าหล่อซีดเผือดพลางพร่ำขอโทษอีกฝ่ายไม่ขาดสาย ยังความเข้าใจผิดให้แก้วมากกว่าเดิมด้วยคิดว่าเรื่องที่เธอเข้าใจเป็นความจริงโดยไม่คำนึงว่าสิ่งที่เธอเข้าใจกับสิ่งที่เขาเข้าใจเป็นเรื่องเดียวกันหรือไม่

 

 

 

“ยอมรับแล้วเหรอ น่าเกลียด ทุเรศ คนไม่รู้จักพอ”

 

 

 

“หา”

 

 

 

“อย่ามาแกล้งโง่  ถ้าไม่มีเยื่อใยแล้วเก็บรูปเขาไว้ทำไม อ๋อ หรือว่าเพิ่งจะไปกันมาหมาดๆ คิดว่าแก้วหน้าโง่มากหรือไงถึงได้หลอกกันมาจนถึงป่านนี้นะ คนบ้า”   ยิ่งฟังในสิ่งที่แก้วพูดเขาก็ยิ่งไม่เข้าใจ

 

 

 

“เดี๋ยวนะ...แก้วพูดเรื่องอะไร”

 

 

 

“นี่ไง  คงไม่ต้องให้อธิบายหรอกนะคนทุเรศ”  

 

 

 

          ร่างบางปารูปที่หาเจอจากลิ้นชักข้างเตียงด้วยความบังเอิญ ภาพชายหญิงถ่ายคู่กันที่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น จี๋จ๋ากันอย่างออกนอกหน้าจนแก้วนึกไปนั่นไปนี่ว่าเขายังมีเยื่อใยกันจริงๆถึงยังเก็บรูปพวกนั้นเอาไว้ใกล้ตาใกล้ตัวขนาดนี้

 

 

 

“ฮะๆๆ ฮาๆๆๆๆ”   

 

 

 

“ขำอะไร มีอะไรน่าขำเหรอโทโมะ”   แก้วถามหน้าตึงเมื่อโทโมะเอาแต่หัวเราะเยาะเธอท้องคัดท้องแข็ง

 

 

 

“วันหลังนะ...หึงก็บอกตรงๆไม่ต้องอ้อมค้อม”  เขายังคงหัวเราะต่ออย่างเริงร่า

 

 

 

“หึงอะไร หลงตัวเอง แค่คิดว่ามันทุเรศถ้าโทโมะจะคบสองคนในเวลาเดียวกันแบบนี้ ทุเรศๆๆๆ”  ร่างบางรัวกำปั้นหนักๆลงบนแผ่นอกเปลือยของเขาอย่างโกรธๆที่เขาหัวเราะ  เขาอารมณ์ดีได้ในขณะที่เธอกำลังหัวเสีย เขากำลังเล่นสงครามประสาทกับเธออีกครั้ง

 

 

 

“ดูวันที่ในรูปด้วยว่าถ่ายเมื่อไหร่ ก่อนจะมาโวยวายนะครับทูนหัว ฮาๆๆๆ” 

 

 

 

 

 

          เขาว่าอย่างขันๆก่อนจะผงกหน้าขึ้นมาจูบเบาๆที่แก้มปลั่งอย่าเย้ายั่ว ร่างบางหน้าร้อนวูบก่อนจะก้มมองวันที่ของรูปถ่ายในมือและพบว่ามันเป็นของสองปีก่อน หญิงสาวหน้าเจื่อนลงอย่างอายๆที่อาละอาดใส่เขาไม่ดูตาม้าตาเรือ เธอปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อเป็นเรื่องให้เขาล้อได้อีกนาน

 

 

 

 

“เลิกหัวเราะสักทีได้มั้ยเล่า  แก้วชักจะทนไม่ไหวแล้วนะโทโมะ”

 

 

 

“ก็ไม่แปลกที่แก้วจะหึง ยังไงๆเรามันก็คนๆเดียวกัน”   หญิงสาวหน้าแดงแปร๊ดเป็นลูกตำลึงสุกเมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูด ซ้ำร้ายไอ้ปากหนาๆจอมเจ้าเล่ห์นั่นยังไล่จูบมือเรียวของเธอซ้ำๆย้ำๆอยู่อย่างนั้นเสียอีก

 

 

 

“คนบ้า พูดจาน่าเกลียด หยาบคายที่สุด”

 

 

 

“ไม่เห็นบ้า ไม่น่าเกลียด ไม่ได้หยาบคายซักนิด พูดความจริงผิดตรงไหนครับ” 

 

 

 

“น่าเกลียด หยาบคายๆๆๆ”    แก้วทำหน้าตูม เริ่มออกอาการโกรธ

 

 

 

 

“ไม่เห็นจะหยาบคายภรรยาหึงสามีมันผิดที่ไหน ใครๆเขาก็เป็นกันถ้าไม่หึงสิแปลกแปลว่าไม่รักกันจริง ถูกมั้ย”  เขาถามเหย้าอีกครั้ง

 

“โทโมะ”   กำปั้นรัวจากสาวน้อยพรุ่งตรงมายังอกแกร่งของเขาอย่างขุ่นเคืองมีอย่างที่ไหนเอาชื่อเธอมาประกาศปาวๆว่าเป็นภรรยาเขา ทะเบียนสมรสยังไม่เคยเห็น เรื่องอะไรมาว่ามาโมเมว่าเธอใช่ หึ คนบ้า สาวน้อยบริภาษเขาในใจ

 

 

 

“ใจเย็นสิเด็กน้อยเป็นอะไรไปครับ”

 

 

 

 

“น่าเกลียดพูดมาได้ไง”

 

 

 

“แก้วจะเถียงว่าไม่ใช่งั้นสิ ฮ่าๆ”

 

 

“โทโมะ!”    ร่างบางกรี๊ดโวยวายเสียงดังจนเขาต้องรีบตะครุบปากน้อยนั่นเอาไว้กลัวข้างห้องจะได้ยินแล้วเป็นเรื่องไปเสีย 

 

 

 

“โธ่ ทูนหัวโทโมะล้อเล่นครับ ไม่เอาน่าอย่าโวยวาย” 

 

 

 

          โทโมะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นจนคนตัวเล็กเงียบเสียงลงแต่ยังไม่วายมองเขาค้อนจนตาเขียวปั๊ด  เนื้อตัวที่เบียดเสียดทำให้คนโตกว่ารับรู้ได้ว่าสาวน้อยของเขาตัวรุมๆเหมือนคนมีไข้  เขาคลายอ้อมกอดแล้วใช้หลังมืออังหน้าผากอย่างแผ่วเบา

 

“ไม่สบายเหรอคนตัวเล็กของโทโมะ”

 

 

“เพราะใครที่ทำให้แก้วเป็นแบบนี้เล่า”   

 

 

 

          สาวน้อยโวย  แรกเริ่มเธอรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว กะจะนอนพักสักงีบก็ยังไม่ทันได้ข่มตา คนเจ้าเล่ห์ก็ลากเอาเธอไปปู้ยี้ปู้ยำจนหมดแรง กว่าจะได้นอนพักก็เกือบสว่างแถมตื่นมายังต้องมาเจอเรื่องให้น่าหงุดหงิดอารมณ์เสีย สุขภาพก็ยิ่งแย่แล้วยังมีหน้ามาถามว่าเธอไม่สบายอีก

 

 

 

 

“ก็ช่วยไม่ได้ อยากยั่วให้อารมณ์มันขึ้นเองจะโทษใคร”  เขายังตอบลอยหน้าลอยตา สาวน้อยอาฆาตส่งสายตาเหี้ยมๆหมายจะขย้ำคอมาให้เขา 

 

 

 

 

“โทโมะหาว่าแก้วยั่วเหรอ คนบ้าพูดจาน่าเกลียดอีกแล้วแบบนี้มันน่าตบนัก!”  

 

 

 

“พอเลยๆไม่ต้องมาทำเก่ง แรงยืนพื้นนะจะมีหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ไปอาบน้ำกันดีกว่าเดี๋ยวโทโมะพาไปหาหมอ”   เขาตัดบทพลางรีบคว้าตัวแก้วเอาไว้แล้วอุ้มหายเข้าไปภายในห้องน้ำท่ามกลางเสียงโวยวายขัดใจแต่ไม่กล้าขัดขืนเพราะกลัวว่าเขาจะปล่อยร่างเอลงกับพื้นเข้าให้เสีย

 

 

 

 

 

 

 

 

          พอขึ้นรถมาได้สักพักสาวน้อยคนป่วยก็เริ่มสะง่อนสะแง่น  สุดท้ายก็ต้องฟุบนอนพิงกับกระจกรถหลับไปโดยปริยาย  โทโมะหันมามองด้วยความเป็นห่วง นี่เป็นเพราะเขาหรอกเหรอที่ทำให้ยายตัวแสบหมดฤทธิ์ถึงขนาดนี้ น่าขำชะมัด  เดี๋ยวเดียวก็ถึงโรงพยาบาลเขาพาเธอเข้ามาทางประตูด้านหลังและก่อนลงจากรถจึงสวมหมวกสวมแว่นปกปิดใบหน้าด้วยกลัวว่าใครจะมาเห็นเข้าคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่

 

 

 

 

“คุณคงเป็นแฟนของเธอ”   นายแพทย์เอ่ยถามหลังจากเรียกเขาเข้าไปฟังผลของคนไข้ภายในห้อง  โทโมะทำหน้าไม่ถูกก่อนจะตอบรับคำถามของนายแพทย์

 

 

 

 

“ดีล่ะ  คนไข้แค่พักผ่อนไม่เพียงพอเลยบวกกับความบอบช้ำทางร่างกายเลยทำให้ไข้ขึ้นและจะจากอะไรผมคงไม่ต้องบอก พวกคุณสองคนน่าจะรู้กันดี”   นายแพทย์สูงวัยกล่าวพลางส่งสายตาจับผิดให้คนตรงหน้าที่นั่งทำหน้าไม่ถูกด้วยรู้ดีว่าสิ่งที่นายแพทย์บอกกล่าวคือเรื่องใด 

 

 

 

“เอ่อ....ครับ”

 

 

 

 

“ช่วงนี้ก็ดูแลเธอหน่อยแล้วกัน คนไข้ยิ่งผอมๆอยู่เดี๋ยวจะเป็นหนักไปเสียก่อน เธอไม่ใช่แรงผู้ชายเหมือนคุณที่ไม่รู้จักเหนื่อยหรอกนะ สภาวะทางร่างกายของหญิงกับชายมันต่างกัน”   

 

 

 

 

“คะ...ครับ”   เขาเถียงไม่ออกและรู้สึกอายขึ้นมาทันทีที่นายแพทย์กล่าวออกมาตรงๆแบบนั้น

 

 

 

“ผมจ่ายยาให้เธอแล้ว รอเธอพักสักตื่นก็ลับบ้านได้ อ้อ ผมแนะนำว่าควรงดทุกกิจกรรมไม่ว่าจะกลางแจ้งหรือในร่มก็ตามนะครับ ให้เธอพักผ่อนมากๆ  อาการป่วยก็จะหายเร็ว”  

 

 

 

 

ทันทีที่แก้วตื่นเขาก็รีบพาเธอกลับให้เร็วที่สุด เธอถามอะไรก็ไม่ตอบตอบแค่เพียงว่าเธอพักผ่อนน้อยและควรงดทุกกิจกรรมเท่านั้น  หญิงสาวได้แต่ทำหน้ามุ่ยอย่างขัดใจ  คนบ้า นี่ขนาดเธอเป็นอะไรยังไม่ยอมบอก เรื่องของเธอ เธอก็ควรจะรู้สิไม่ใช่มาปิดเงียบแบบนี้ 

 

 

“บ้า”   สาวน้อยแหวใส่เขา

 

 

“ใช่ โทโมะแทบบ้าอยู่แล้วรู้ตัวไว้ด้วย”     เขากล่าวอยางห้วนๆ แก้วลอบมองใบหน้าของโทโมะ เขาก้มหน้างุดหลังจากที่พูดออกมา เหมือนกับว่าเขากำลังรู้สึกอายกับอะไรบางอย่าง  แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ยอมบอกเธอเสียทีแก้วจึงไม่ซักไซ้ 

 

 

“ไม่บอกก็ไม่บอก แก้วไปนอนดีกว่าปวดหัวจะตายอยู่แล้ว”   ร่างบางกุมขมับนิดๆก่อนจะเดินลงจากรถเพื่อเข้าบ้าน  บอกให้เขาไปส่งคอนโดพ่อตัวดีก็ลากเธอมาส่งบ้านเสียอย่างนั้น อ้างว่าต้องการให้เธอมีคนดูแล พอเถียงว่าเขาดูแลเธอไม่ได้หรือไง เจ้าตัวก็เอางานมาอ้าง  เหอะ ไม่อยากมีภาระก็บอกกันตรงๆ แก้วคิดไปไกลต่างๆนานา

 

 

“เดี๋ยว....หายไวๆนะครับ”   ใบหน้าหล่อเลื่อนเข้าใกล้หมายจะจุมพิตเบาๆที่หน้าผากของคนรัก  สาวน้อยหลับตาปี๋ แต่ก็ต้องค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อไม่เกิดอะไรระหว่างเขากับเธอ  โทโมะถอนใบหน้าออกเมื่อคำพูดของนายแพทย์ยังดังก้องในหัว เขากลัวจะหยุดตัวเองไม่ได้เลยต้องปล่อยให้แก้วหลุดลอยไป  เขาทำเพียงส่งยิ้มและบีบจมูกรั้นเบาๆของเธอ

 

 

“ค่ะ”  สาวน้อยกระแทกเสียงอย่างขัดใจและไม่เข้าใจ  ไม่จูบคืออะไร คืออะไร?  เบื่อเธอแล้วงั้นเหรอหรือยังไง  อาการแปลกๆของเขาวันนี้ทำให้แก้วรู้สึกสับสน ดูเหมือนโทโมะจะไม่ค่อยอยากเข้าใกล้เธอเสียเท่าไหร่นัก

 

 

 

 

 

 

“ยายบ๊องมาทำไม หายดีแล้วเหรอ โทโมะบอกให้นอนพักอยู่บ้านไง มาทำอะไรที่บริษัทเดี๋ยวนี้พูดไม่ฟังกันแล้วเหรอ”

 

 

“อยู่บ้านอยู่คนเดียว ป๊ากับแม่ไปสวีทกันที่ห้องกง ยายพี่กิ่งมีเรียน อยู่บ้านแก้วก็ป่วยหนักกว่าเดิมสิ ให้แต่นั่งๆนอนๆเป็นง่อยพอดีแก้วไม่ได้อาการหนักขนาดนั้นซะหน่อยโทโมะแหละเวอร์” 

 

 

มาถึงบริษัทเพื่อเตรียมซ้อมร้องซ้อมเต้นกับเพื่อนร่วมวงก็ถูกเพื่อนอีกวงเข้ามาขัด ไม่พอยังลากเธออกไปเคลียกันสองต่อสอง  เถียงกลับก็หาว่าไม่ฟัง  เขาจะเอายังไงกับเธอกันแน่

 

“นั่นแหละ”    แน้ยังเถียง   “ยังไงแก้วก็ต้องักผ่อนเดี๋ยวจะทรุดหนัก”  เขายังไม่ยอมแพ้

 


”แก้วดูแลตัวเองได้น่า” 

 

 

“เถียงอีกแล้ว”  เขาตัดพ้อกับยายเด็กจอมดื้อก่อนจะเอื้อมมือมาหยิกแก้มพองๆที่เข้าตัวชอบทำเวลาขัดใจกับเขา  สาวน้อยร้องโวยอย่างเจ็บๆ

 

 

“โอเค...แก้วพักก็ได้ แต่มีข้อแม้”

 

 

“ยังจะมีข้อแม้ แต่เอาเถอะจะเอาอะไรก็ว่ามา” 

 

 

 

           สาวน้อยมองเขายิ้มๆก่อนจะกระเถิบเข้าใกล้คนโตกว่า  หญิงสาวยิ้มตาหยีก่อนจะโผเข้าซบอกแกร่งของเขา  โทโมะสะดุ้งเฮือกเมื่อร่างกายแต่งตึงบดเบียดหาร่างเขา ซ้ำแขนเรียวยังกอดรัดเขาไว้แน่น โอเคนี่คือห้องแต่งตัวไม่มีใครมาเห็นก็จริง แต่เขานี่สิกำลังจะตายเพราะสาวน้อยตรงหน้านี้แหละ  

 

 

“คนตัวใหญ่ต้องมาดูแลเค้าจนกว่าจะหาย ถ้าไม่อย่างนั้น....อ๊ะ”   แก้วร้องขึ้นอย่างขัดใจเมื่อเขาแกะแขนเรียวของเธอออก  แล้วดันให้เธออยู่ห่างกจากเขาแทน  โดยอ้างว่ากลัวคนมาเห็น เหอะ ข้ออ้างชัดๆ

 

 

“โอเคโทโมะดูแลแก้วแน่”

 

 

“ถ้าไม่เต็มใจแก้วให้คนอื่นดูแลก็ได้นะ...ไม่ง้อ!”  

 

 

 

          สาวน้อยสะบัดเสียงใส่อย่างงอนๆจนเขารู้สึกตัวเลยรีบดึงเอวบางเอาไว้  แก้วทำหน้าบึ้งใส่เขา  โทโมะถอนหายใจหนักๆ ก็เป็นเสียแบบนี้ใครจะห้ามใจไหวกัน  อยู่ใกล้กันมากขนาดนี้ เขาเป็นคนมีเลือดเนื้อมีความรู้สึกอยู่ใกล้กับคนที่รักใจมันก็หวามไหวได้ตลอดแหละน่า

 

 

“ไม่อาน่าทูนหัว โอเคๆ ยอมแล้วครับ”   นั่นแหละที่แก้วถึงจะพออ่อนข้อลงมาได้บ้าง

 

 

 

 

 

“ไปไหนว่ะโทโมะ”    เดินมาถามขณะเห็นเพื่อนรักกำลังเตรียมตัวเก็บข้าวของแต่วัน นี่เพิ่งจะบ่ายสามเองเขาจะรีบกลับไปไหน

 

 

“พาแก้วกลับไปส่ง  ไม่สบายแล้วยังจะมาซ้อมอีก”  

 

 

“อืม พากลับไปเหอะเดี๋ยวจะทรุด เออแล้วเรื่องผู้หญิงคนนั้นแกคิดหรือยังว่าจะเอายังไง”  

 

 

“ฉันกะจะรอให้แพ้วหายป่วยก่อนฉันจะไปพูดกับเขาและพี่เคนจิให้รู้เรื่อง ฉันไม่อยากให้เรื่องมันคาราคาซังแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ยากจะหาทางแก้”   ป๊อปปี้พยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย

 

 

“ดีแล้ว เมื่อไม่ได้รักก็อย่ารั้ง  เมื่อรักก็รั้งเขาไว้ เหมือนที่แกรั้งแก้วไว้นั่นแหละถ้าไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้นก็ควรบอกเขา อย่าเอาโซ่ของคนอื่นมาล่ามตัวเองจนไปไหนไม่ได้ ฉันคิดว่าปัญหานี้เป็นของพี่แก ฉันไม่ได้จะพูดให้พี่น้องทะเลาะกัน แกรักพี่แกมันก็ถูก  แต่ก็ต้องรักตัวเองบ้าง รักคนที่เขารักแกและแกรักเขาบ้าง  แก้วก็เหมือนผู้หญิงทั่วไป พอมีความรักก็อยากให้คนที่รักรักเราแค่คนเดียว  ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากให้คนรักร่วมกันคนอื่นหรอกโทโมะ”

 

 

“ฉันเข้าใจ  ฉันพร้อมที่จะยอมรับผลของความจริงแล้วใครจะไม่พร้อมก็ช่างเขาต้องเรียนรู้กับความรู้สึก พี่เคนจิอาจจะโกรธที่ฉันผิดสัญญา  เบลล์อาจจะเสียใจที่รู้ความจริงว่าเรื่องระหว่างฉันกับเขามันไม่ได้เกิดจากความรัก   แต่ฉันจะไม่ยอมให้แก้วเสียใจเพราะฉันเป็นต้นเหตุเด็ดขาด”   โทโมะพูดเสียงหนักแน่นจริงจังจนป๊อปปี้รู้สึกได้ เพื่อนของเขาน่าสงสารมีความรักก็ต้องมีอย่างหลบๆซ่อนๆ  นี่ถ้าวันนั้นเขาไม่ขึ้นไปหาเพื่อนที่ห้องก็คงไม่รู้เรื่องทั้งหมดที่โทโมะระบายให้ฟังเสียหรอก

 

 

 

“แกพูดถูกป๊อปเวลาผู้หญิงมีความรักเขาก็ต้องการให้เรารักเขาคนเดียว ก็เหมือนกันกับผู้ชายเวลามีความรักเราก็ต้องการให้เขารักเราคนเดียวเหมือนกัน และตอนนี้ฉันคิดว่าฉันมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นอีกคนว่ะ”

 

 

“ใคร”

 

 

“ช่างเหอะเขาไม่สำคัญอะไรกับฉันและแก้วหรอก ฉันรู้ว่าแก้วรักฉันคนเดียว”

 

 

“มั่นใจขนาดนั้นเชียวเพื่อนรัก ระหว่างเหอะ เขาจะคบซ้อนเหมือนอย่างที่แกทำอยู่ตอนนี้”

 

 

“ไม่มีทาง ฉันไม่ยอมหรอกเว้ย!” 

 

“ฮ่าๆ ฉันเพิ่งเคยเห็นแกโหดก็ตอนกลัวเสียแฟนนี่แหละโทโมะ”   ป๊อปปี้กล่าวติดตลก นี่คือเรื่องจริง ธรรมดาแล้วโทโมะจะเป็นคนเงียบๆเสียมากกว่า ไม่เคยเห็นโทโมะในมุมหึงหวงจนหน้ามืดแบบนี้

 

“ เค้าเรียกว่าความรักว่ะป๊อป ฉันกำลังตกหลุมรักแก้วเพราะฉะนั้นแก้วคือโลกทั้งใบของฉัน แค่ฉันเท่านั้น” 

 

 


 

ที่โทโมะไม่อยากเค้าใกล้แก้วเพราะไม่อยากลากเอาสาวน้อยไป

 

ปู้ยี้ปู้ยำต่างหากไม่ใช่ว่าไม่รัก อิอิ สาวน้อยเข้าใจหน่อยเหอะ

 

เธอหนะคือ 'โลกทั้งใบ' ของเขาเลยนะครับบบบบบบบ

 

#เพิ่งจะมีเวลาห้าห้าห้า-_-  #ไปทำพาเหรดต่อแล้วคับ(พุง)

 

นุก : แกรรรฉันอิจฉาแก้วง่ะ -////- 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา