Rumor เหมือนเป็นข่าวลือ

8.6

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.21 น.

  43 ตอน
  2163 วิจารณ์
  109.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

26) Bad Valentine

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

                                                       Bad Valentine

 

 

 

 

 

14 Feb. 2013

 

 

 

 

 

“โทโมะ คืนนี้ว่างหรือเปล่าไปอาฟเตอร์ปาร์ตี้งานแต่งเพื่อนกับเบลล์หน่อยสิ”   เสียงข้อความที่ฝากไว้ในไอโฟนตัวเก่งถูกเปิดฟังโดยร่างเล็กที่นั่งหน้าง้ำหลังจากเสียงสนทนาของผู้หญิงอีกคนจบลง แม้จะรู้ดีว่าออกจะเสียมารยาทไปสักนิดที่ถือวิสาสะกับโทรศัพท์ของเขาแต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ

 

 

 

 

“คืนนี้อย่าลืมไปปาร์ตี้กับแฟนนะเดี๋ยวเขาจะรอเก้อหนึ่งทุ่มเขาบอกให้ไปรับที่บ้านด้วย”  

 

 

“....”   

 

 

“แต่งตัวหล่อๆล่ะเผื่อเขาจะพาไปเปิดตัวที่งานแต่งเพื่อน!”

 

 

 

          น้ำเสียงนั้นดูเหมือนจะเป็นเพียงการบอกกล่าวหากแต่นัยยะที่แฝงอยู่นั้นบ่งบอกได้ดีว่าคนพูดกำลังประชดใส่สุด”ฤทธิ์ อันที่จริงก่อนหน้านั้นเบลล์โทรมาชวนเขาก่อนหน้านี้แล้วและนี้ก็คงจะโทรมาย้ำกับเขากันเขาจะเบี้ยว

 

 

 

“ครับ”

 

 

“....”   เขาทำเพียงแค่ตอบรับและเฝ้าดูอาการของเธอนิ่งๆ

 

 

 

 

           ร่างเล็กหมุนตัวเตรียมเดินไปที่ประตูแต่กลับถูกมือหนาคว้าข้อมือเล็กเอาไว้แล้วดึงเธอเบาๆเข้าสู่อ้อมกอด เธอดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนเมื่อถูกเขาจองจำเอาไว้ด้วยความอบอุ่นที่พร้อมจะหล่อหลอมให้เธอละลายไปกับเขาอยู่ ณ ที่ตรงนั้น  โทโมะโน้มใบหน้าหล่อจัดลงมากระซิบชิดริมหูสวยนั้นเสียงแหบพร่าพร้อมกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น

 

 

“ไปแปปเดียวนะครับรอโทโมะอยู่ที่นี่นะ ห้ามดื้อ”

 

 

“นี่!...”

 

 

“อยากจะกลับไปไม่สบายอีกรอบก็ลองเถียงออกมาอีกคำสิครับ”   เขายื่นคำขาด แก้วหันไปจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่องดวงตาคมปลาบมองเธอยิ้มๆอย่างคนถือไพ่เหนือกว่าในขณะที่แก้วทำได้เพียงกัดฟันกรอดและยอมจำนน

 

 

“เผด็จการ!!”  

 

 

“แก้วก็ชอบให้โทโมะเผด็จการ...”  

 

 

“บะ...บ้า!!”   ใบหน้าสวยสั่นระริกกับความหมายที่แอบแฝงของเขา แก้มปลั่งสูบฉีดเลือดจนขึ้นสีแดงฝาดระเรื่อ

 

 

“จูบกันหน่อยมั้ย?”

 

 

“...!!”

 

 

 

 

          เจ้าของคำตอบมองเขาด้วยแววตาเข่นเขี้ยว คนเจ้าเล่ห์ยังไงก็เจ้าเล่ห์อยู่ยันวันยันค่ำ แต่ถึงกระนั้นก็เถอะทุกคำพูดที่หลุดจากปากเขา ทุกการกระทำอ่อนหวานเวลาที่เขาอยู่กับเธอ ทุกความหมายในแววตาพราวระยิบคู่นั้นสร้างความหวามไหวให้กับเธอได้ตลอดเวลา ดวงหน้าหวานละมุนเคลื่อนคล้อยเข้าหาอีกนิด ก่อนริมฝีปากร้อนผ่าวจะมอบจุมพิตอ่อนหวานให้สาวน้อยของเขา

 

 

 

“ให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะสาวน้อยของโทโมะ”  เขาถอนริมฝีปากออกเพียงเล็กน้อยก่อนจะกระซิบเสียงแผ่ว

 

 

 

 

          หญิงสาวมึนงงด้วยรสจุมพิตของเขาราวกับถูกวางยากล่อมให้เคลิบเคลิ้มตามไป ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อย เสียงที่ผ่านออกจากลำคอแผ่วเบาราวเสียงกระซิบฟังไม่รู้ศัพท์เมื่อถูกจู่โจมจนมึนตื้อ หูอื้อตาลายไปหมด

 

 

“อื้อ!”  

 

 

“หมดเวลาแล้วเด็กดี”      

 

 

“...อย่า”  

 

 

 

         โทโมะมองดวงหน้าใสด้วยแววตาเอ็นดู เขาคลี่ยิ้มบางๆก่อนจะหอมเข้าฟอดใหญ่ที่แก้มนิ่มของหญิงสาว มือหนายกขยี้กลุ่มผมของงคนในอ้อมกอดอย่างหมั่นเขี้ยว นึกหมั่นไส้ระคนเอ็นดูคนตรงหน้านี้จนไม่อยากห่างไปไหนเลยให้ตาย

 

 

 

“น่ารักจังเลยให้ตายเหอะ....ยัยหมาน้อย”

 

 

“โทโมะ....ว่าแก้วเป็นหมาเหรอ!”  เขาหัวเราะขบขันกับท่าทางฟึดฟัดนั่นน้อยๆก่อนจะหายกลับเข้าไปในห้องน้ำและออกมาแต่งตัวเพื่อไปงานเลี้ยง

 

 

 

 

 

          ไม่อยากให้เขาไปเลย...ให้ตายสิ! นี่ถ้าไม่ใช่วันวาเลนไทน์เธอก็คงจะไม่อารมณ์เสียมากขนาดนี้ แต่อย่างว่าล่ะผู้หญิงคนนั้นก็คงอยากควงคนรักของเขาไปเปิดตัวกับเพื่อนๆบ้างอะไรบ้าง เธอไม่มีสิทธิ์คิดมากอะไรอยู่แล้วนี่เพราะฐานะของเธอในวันนี้ก็แค่ตัวสำรองอยู่ยันวันยันค่ำ!

 

 

 

“แฮปปี้วาเลนไทน์เดย์นะครับสาวน้อย”    โทโมะเอี้ยวตัวลงมาหอมฟอดใหญ่ที่พวงแก้มนิ่มของคนตัวเล็กที่นั่งคิดอะไรเพลินๆจนเจ้าตัวสะดุ้งเฮือกและค้อนใส่เขาอย่างมึนตึง

 

 

“มันก็แค่สิบสี่กุมภาไม่เห็นจะมีอะไรผิดแปลกจากวันอื่นๆตรงไหน ไม่ได้สำคัญอะไรหรอก” 

 

 

“งั้นเหรอ...” 

 

 

“ใช่!”   สาวน้อยยืนกรานเสียงแข็งพลอยทำให้เขาอมยิ้มตามไปด้วยเมื่อสิ่งที่ปากพูดกับสิ่งที่ใจคิดไม่ตรงกับสักนิดเดียว

 

 

“งั้นของขวัญวาเลนไทน์ก็....อด”

 

 

“!!!”

 

 

“ไปนะครับ”    เขายิ้มเย้ยนิดๆก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องไปทิ้งให้แก้วนั่งหน้างอเป็นจวัก นึกว่าเธออยากได้ของจากเขานักหรือไง ไม่หรอกไม่มีทาง คนใจร้าย! หญิงสาวบริภาษคาดโทษเขาอยู่ในใจ

 

 

 

 

 

 

After Party

 

 

 

“วาเลนไทน์ทั้งทีไม่คิดจะมีของขวัญเล็กๆน้อยๆติดมือมาบ้างเหรอโทโมะมัวแต่ให้คนอื่นจนลืม ‘แฟน’ ตัวเองล่ะสิท่า”   

 

 

 

 

          ร่างเพรียวระหงในชุดราตรีสั้นพลิ้วสีโอล์ดโรสยืนคล้องแขนโทโมะที่อยู่ในชุดสูทลำลองสีขาวให้เข้ากับคอนเซปต์ของงาน หญิงสาวกรีดยิ้มหวานท้าทายสายตาบรรดาเพื่อนๆของเธอหากแต่ความจริงแล้วเธอกำลังเหน็บแหนมผู้ชายข้างกายอย่างแนบเนียน

 

 

 

“ก็...พอดีรีบออกมากะทันหันยังไงก็แฮปปี้วาเลนไทน์น่ะ” 

 

 

“เต็มใจหรือเปล่า ถ้าไม่เต็มใจก็กองเอาไว้ตรงนั้น!”  เมื่อเห็นท่าทางเมินเฉยของโทโมะ เบลล์ก็ยิ่งอารมณ์เสีย งานนี้ก็เหมือนกันเธอทั้งโทรไปขอร้องแกมบังคับพอเขาย้ำนักหนาว่าจะไม่มาเจ้าหล่อนก็วิ่งแจ้นไปบอกพี่ชายเขามาให้ช่วยพูด สุดท้ายเขาก็ต้องมาเพื่อเห็นแก่พี่ชายและไม่เป็นการเสียมารยาทต่อเธอมากเกินไปนัก

 

 

“ถ้าเราคุยกันแล้วสร้างความอึดอัดใจให้กันแบบนี้ โทโมะว่า....เราเลิกคุยกันจะดีกว่า”  โทโมะแกะมือของเบลล์ที่กำลังคล้องแขนเขาเอาไว้อย่างสุภาพก่อนจะหันหน้าหนี หากแต่สาวเจ้ากลับไม่ยอมเอาเสียง่ายๆ

 

 

“เดี๋ยว! เลิกคุยน่ะหมายถึงยังไง เลิกคุยวันนี้หรือว่าเลิกกันไปเลย!!”

 

 

“เบลล์...หยุด”   เขาปรามเสียงขรึมเมื่อเห็นว่าคนในงานเริ่มมองมายังคนทั้งคู่

 

 

“ไม่! ตอบมาว่าสิ่งที่เธอพูดมันคืออะไร เลิกคุยกันแค่วันนี้หรือเลิกกันไป ตอบมา!”

 

 

“เบลล์!!”

 

 

“ทำไม รักมันมากนักหรือไงถึงขนาดต้องรีบกลับไปฉลองรักกับมันแล้วทิ้งฉันให้อยู่ที่นี่คนเดียว อย่ามาอ้างเหตุผลให้ฉันหยุด เราคบกันมากี่ปีทำไมฉันจะไม่รู้ว่าเธอคิดยังไง เธออึดอัดมากใช่มั้ยเวลาที่ต้องอยู่กับฉันนะ...”  

 

 

 

 

 

          เสียงที่เริ่มสั่นเครือและระดับความดังของมันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนทุกคนหันมาให้ความสนใจของทั้งสอง  โทโมะส่ายหน้าน้อยๆอย่างเหนื่อยใจและเขากำลังจะหันหนีเธออีกครั้งเมื่อปรามเท่าไหร่เบลล์ก็ไม่ยอมหยุด หากแต่เสียงแรกที่สั่นเครือและแฝงไปด้วยความเสียใจที่ล้นเปี่ยมทำให้เขาไม่กล้าที่จะเดินหนีออกไปจากตรงนั้น

 

 

 

พระเจ้า!! เขาอยากจะบ้าจริงๆ

 

 

 

“เราคุยกันไม่รู้เรื่องแน่....ไว้ไปคุยกันที่บ้าน”

 

 

“คุยกับใครที่บ้าน มัน...หรือฉัน!”

 

 

“เบลล์! โทโมะว่าเราควรพอได้แล้วไม่อายคนอื่นเขาบ้างหรือไง”   หญิงสาวแค่นยิ้มทั้งน้ำตา รอยยิ้มกระตุกที่เธอส่งมาราวกับจะขำเขาอย่างไงอย่างงั้น

 

 

 

“เธออึดอัดทุกครั้งที่อยู่กับฉัน....เธอทำเป็นดีกับฉันทุกอย่าง...เธอเลือกที่จะปกปิดความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองทั้งที่จริงมันเป็นสิ่งที่คนรักเขาทำ ได้เป็นตัวของตัวเอง...ได้ทำอะไรที่อยากทำร่วมกัน แต่เธอไม่รู้หรอกโทโมะว่าฉันกลับไม่รู้สึกแบบนั้นเลย...ฉันเป็นแฟนของเธอหรือเปล่า....ฮึก”

 

 

“....เบลล์”

 

 

 

“ทั้งที่ฉันยืนเคียงข้างเธอในฐานะคนรัก แต่เธอกลับเลือกที่จะยืนเคียงข้างคนอื่น...ผู้หญิงคนนั้นได้รับทุกอย่างจากนาย  ความรัก ความเอาใจใส่ เวลา และทุกสิ่งอย่างที่คนรักเขาทำให้กัน เธอทำให้ฉันรู้สึกว่าคนที่เป็นคนรักของเธอคือผู้หญิงคนนั้น....ไม่ใช่ฉัน!!”

 

 

 

 

“เบลล์! พอได้แล้ว...แล้วฟังโทโมะ...”

 

 

 

“ไม่! ฉันไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เธอมีความสุขกับมัน เธอยิ้มให้มันทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันฉันไม่เคยเห็นริ้วรอยของความอึดอัดเหมือนตอนที่เธออยู่กับฉัน เธอเป็นตัวของเธอทุกอยอ่างเวลาที่เธออยู่กับมัน นังนั่นมันมีอะไรดีก็แค่ผู้หญิงบ้านๆ จืดๆชืดๆไม่มีอะไรสู้ฉันได้สักอย่าง มันทำเสน่ห์ใส่เธอหรือไงถึงได้หลงมันจนโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้น่ะ!!”

 

 

 

“เพราะเค้าคือคนที่โทโมะรักต่างหาก!!!”   เขาตะโกนออกไปอย่างทนต่อแรงกดดันไม่ไหว ทุกอย่างเงียบสงัดไปทันตา

 

 

“.....”

 

 

“โอเค...พอได้แล้วเบลล์แค่นี้เรื่องมันก็วุ่นมากพอแล้ว...”  เขาไม่สนใจใครทั้งนั้นโทโมะเดินหนีออกจากงานท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คนนับสิบ   ทุกอย่างยังคงไม่จบแค่นี้เมื่อเบลล์ไม่ยอม หญิงสาววิ่งไปดักหน้าเขาก่อนที่เขาจะเปิดประตูรถ 

 

 

 

“ยอมรับออกมาแล้วเหรอมาเธอนอกใจฉัน?”

 

 

 

“...ไม่...ไม่ได้นอกใจ”   นัยน์สีดำสนิทมีแววสั่นไหวเมื่อต้องกล่าวประโยคนั้นออกมา หากมันก็เป็นความจริงเพียงหนึ่งเดียวที่เขามีอยู่ตอนนี้

 

 

“หมายความว่ายังไง เหอะ ไม่ได้นอกใจอย่างนั้นเหรอแล้วเรื่องของเธอกับนังนั่นมันเกิดขึ้นได้ยังไง คิดว่าฉันโง่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยงั้นสิ?”

 

 

“ใช่...เบลล์ไม่รู้เรื่องอะไรเลย...ไม่รู้อะไรมาตั้งแต่ต้น”

 

 

“ก็บอกมาสิ...บอกมา!”   หญิงสาวคาดคั้นจะอาคำตอบจากเขาให้ได้ ใบหน้าหล่อตีกันยุ่งอย่างคิดไม่ตกไม่คิดว่าเรื่องที่เขาต้องพูดจะมาถึงแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ อย่างไรก็ตามเขาคงต้องเลือกบอกความจริง เบลล์จะได้เลิกเข้าใจเขากับแก้วผิดเสียที

 

 

“โทโมะรักแก้ว รักมาตั้งนานแล้วและรักมาก่อนที่เราจะรู้จักกัน....”

 

 

 

 

 

        ประโยคที่ได้ฟังราวกับพายุลมร้อนลูกใหญ่ที่โหมซัด ขาเรียวเริ่มอ่อนแรงคล้ายจะเซทรุดลงกับพื้นหัวใจที่แตกสลายเรียกคืนกลับมาไม่ได้อีกแล้วเมื่อได้ยินชัดที่จากปาก ‘คนที่เคยรัก’ เขาไม่เคยรักเธอเลย เขารักผู้หญิงที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิทของเขามาแสนนาน รักก่อนที่เขาจะเจอกับเธอ  

 

 

 

 

          ลมหายใจที่เริ่มติดขัดทำให้หญิงสาวจุกจนพูดอะไรไม่ออก น้ำตาที่รินไหลออกจากดวงตาคู่สวยราวกับน้ำกรดที่ไหลรดผิวแก้มจนแสบร้อนไปหมด เจ็บเสียยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

 

 

 

“แต่เพราะเขาเป็นเพื่อน...โทโมะเลยเลือกที่จะเก็บความรู้สึกเอาไว้ จนกระทั่งเราเจอกันและพี่เคนจิก็สนับสนุนให้เราคบกัน อาจจะดูเห็นแก่ตัวที่โทโมะทำแบบนั้นลงไปแต่อยากให้รู้ว่าไว้โทโมะเสียใจและคนที่เสียใจกว่าเราทั้งคู่ก็คือ....”

 

 

 

 

 

“พอ พอเสียที! ฉันไม่อยากฟัง!”  หญิงสาวกรีดร้องเมื่อมันเหลือทน แค่ฟังเขาพูดว่าไม่รักก็มากเกินพอแล้วยังจะสาธยายว่ารักผู้หญิงคนนั้นมากเท่านั้นเท่านี้อีก เขาไม่คิดจะสงสารเธอบ้างเลยหรือไง

 

 

 

 

“ไม่! เบลล์...ฟัง โทโมะขอโทษที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนโทโมะก็รักเบลล์เกินกว่าคำว่าพี่น้องและเพื่อนไม่ได้ ความรู้สึกของโทโมะเมื่อสามปีก่อนยังคงเหมือนเดิมตั้งแต่ต้นมา...ไม่เคยมีวันไหนที่โทโมะจะลืมแก้วได้สักครั้ง”

 

 

 

“พอได้หรือยัง! เธอจะพูดว่ารักมันให้ฉันฟังทำไม...ฮึก แค่นี้ฉันยังเจ็บไม่พอใจเธอใช่มั้ย? เธอจะเอาอะไรจากฉันอีกต้องให้ฉันไปกราบแทบเท้าขอโทษมันที่แย่งเธอมางั้นหรือไง? ....แล้วฉันถามสักคำถ้าเธอไม่ได้รักฉันแล้วมาคบกับฉันทำไม  ทำไม!!!”

 

“......”   ร่างสูงเม้มริมฝีปากแน่นอย่างพยายามควบคุมอารมณ์ ไม่ใช่เรื่องยากกับการที่จะพูดในสิ่งที่ไม่สมควรพูดออกไป

 

 

 

“ตอบมา ตอบมาสิ เงียบไปทำไมๆๆๆ ตอบฉันๆๆ!!!”  มือบางรัวทุบที่แผงอกกว้างของเขาอย่างสุดแสนจะเสียใจ

 

 

 

“เพราะพี่เคนจิขอร้องโทโมะไว้ไง!!!”

 

 

 

“.....”

 

 

 

 

“.....”

 

 

 

“.....”

 

 

 

 

 

          เนิ่นนานที่ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไรออกไป ความรู้สึกที่ถูกกักเก็บมานานสร้างความทรมานใจให้เขาจนโทโมะไม่สามารถเก็บมันต่อไปได้อีก รู้ทั้งรู้ว่าเขาคงกลายเป็นคนใจร้ายในสายตาเธอไปแล้ว หากแต่ความจริงก็คือความอยู่ยันวันยันค่ำ เขายืนยันว่าเขารักแก้วและไม่เคยคิดจะรักใครอีก ข้อนี้ก็คือความจริงอีกประการ

 

 

 

“อะไร....นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน”

 

 

 

“ถ้าเบลล์รู้สึกเจ็บที่วันนี้โทโมะทำให้เบลล์เสียใจ เบลล์ก็ควรรู้ไว้ว่ามีอีกคนที่เขาเสียใจกว่าเบลล์ เสียใจมาตั้งแต่ต้น เสียใจที่คนที่ตัวเองรักมองข้ามความรู้สึกของเขาไปทุกอย่าง เห็นเขาเป็นแค่เพื่อนคนนึงเท่านั้นทั้งที่เขาต่างหากที่ทำทุกอย่างเพื่อเบลล์”

 

 

 

“เคนจิทำแบบนั้นทำไม เขาขอร้องให้เธอคบกับฉัน ไม่ ไม่จริง!”

 

 

 

 

“คนที่รักเบลล์มีคนเดียวเท่านั้นก็คือ....พี่เคนจิ”  

 

 

 

“บ้า! พูดบ้าๆเธออย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะโทโมะ”  

 

 

 

 

“พี่เคนจิรักเบลล์มาตั้งแต่ต้น พี่ชายโทโมะทำทุกอย่างเพื่อเบลล์มาโดยตลอด เขารู้ว่าเบลล์คิดยังไงกับโทโมะและเขาก็พยายามจะช่วยเหลือมาตลอด  สุดท้ายเขาก็มาขอร้องให้โทโมะคบกับเบลล์เพื่อความสุขของผู้หญิงที่ตัวเองรัก พี่เคนจิทนดูเราคบกันมาเกือบสามปีทั้งๆที่เขาทำได้เพียงแค่มองความรักของเราอยู่ไกลๆ...เจ็บมั้ย “

 

 

 

“ฉันสิต้องพูดคำว่าเจ็บมากกว่า!” 

 

 

 

          ยอมรับว่าเธอเองก็อึ้งไปไม่น้อยที่ได้รู้ว่าจริงจากปากเขา หากแต่ทิฐิในใจยังไม่เสื่อมคลาย ทั้งเจ็บที่เขาไม่ได้รัก ทั้งอายที่นอกจากเขาไม่รักแล้วเพื่อนที่ไว้ใจที่สุดกลับมาขอร้องให้คนที่เธอรักคบกับเธอทั้งที่เขาไม่เคยแม้แต่จะชายตามองเธอ!

 

 

 

“ไม่...เราเจ็บเท่าๆกัน”

 

 

 

“เท่ากันเหรอ เธอคิดว่าฉันจะมีหน้าไปมองใครที่ไหนได้อีก เหอะ แฟนที่คบกันมาเกือบสามปีเขาไม่เคยรัก ซ้ำที่คบด้วยก็เพราะถูกบังคับจากพี่ชาย น้ำเน่าสิ้นดี!”

 

 

 

“แล้วเบลล์ไม่คิดบ้างเหรอว่าโทโมะจะเสียใจแค่ไหน? ในเมื่อต้องทนคบกับผู้หญิงที่ตัวเองเห็นเป็นแค่เพื่อนพี่ชาย....”

 

 

 

“พอ หยุดนะ!”

 

 

 

 

“ขอโทษที่ต้องพูดตรงๆแต่เรื่องนี้ควรจะจบเสียที ยื้อกันต่อไปก็ทำให้เราเจ็บทั้งสามคน  ไม่ว่าจะโทโมะ พี่เคนจิ หรือแม้กระทั่งตัวเบลล์เอง  ต่อไปนี้เราเป็นเพียงแค่เพื่อนกันเถอะ โทโมะมีคนที่รักรออยู่แล้ว เมื่อในวันนี้โทโมะมีเขาอยู่ข้างๆ โทโมะจะไม่มีวันปล่อยเขาหายไปอีก”

 

 

 

 

“เห็นแก่ตัว  เธอมันเห็นแก่ตัวที่สุด แล้วฉันจะเอาหน้าไว้ที่ไหน!” 

 

 

 

“โทโมะทำเพื่อคนอื่นโดยตลอด ไม่เคยได้ทำตามหัวใจตัวเองสักที ไม่ได้รักคนที่อยากรักมันทรมานแค่ไหนเบลล์ก็น่าจะรู้  ต่อให้ใครจะมองว่าโทโมะเป็นคนเห็นแก่ตัวก็คงพูดอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ ...”

 

 

 

 

“....”

 

 

 

 

“และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นโทโมะก็ยังยืนยันว่าคนที่โทโมะรักมีคนเดียวก็คือ...แก้ว”

 

 

 

“พอแล้ว พอที!” 

 

 

 

“ลองกลับไปคิดทบทวนให้ดีๆ ว่าคนที่เขารักและหวังดีกับเบลล์มาโดนตลอดคนนั้นเขาคือใครและเบลล์เก็บเขาไว้ตรงส่วนไหนกัน”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

          โทโมะขับรถมาตามเส้นทางจราจรที่มีคนค่อนข้างพลุกพล่านเนื่องจากสองข้างทางเต็มไปด้วยร้านดอกไม้ที่ผู้คนต่างมาเลือกซื้อให้กับคนพิเศษในค่ำคืนแห่งความรักเช่นนี้  ร่างสูงจอดรถข้างทางพลางเลื่อนกระจกลงเพื่อดูดอกไม้สองข้างทางนั่น เขาผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกเมื่อสิ่งที่ค้างคาในใจถูกกำจัดออกไปจนหมดสิ้น  ริมฝีปากหนายกยิ้มน้อยๆก่อนจะก้าวลงจากรถและมุ่งหน้าไปตามทางเดินที่คึกครื้นไปด้วยผู้คนอลหม่าน

 

 

 

 

          ดอกไม้ละลานตาแข่งกันชูช่อสีสดสร้างรอยยิ้มให้โทโมะได้มากหลังจากผ่านเรื่องเลวร้ายมาชั่วครู่ แค่นึกถึงหน้าใครอีกคนที่เฝ้ารอเขาอยู่แค่นั้นก็มีความสุขมากพอแล้ว  โทโมะเลิกแขนเสื้อขึ้นดูนาฬิกาบ่งบอกว่านี่มันห้าทุ่มกว่าแล้วไม่รู้ป่านนี้แก้วจะหลับปุ๋ยไปแล้วหรือยัง เขาคิดไปยิ้มไปจนแม่ค้าเจ้าของร้านดอกไม้ยังต้องเอ่ยแซว

 

 

 

“คิดถึงแฟนอยู่หรือค่ะ เห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว” 

 

 

 

“เอ่อ...คะ ครับๆ”  เขาตอบรับด้วยท่าทางเก้อเขินพลางลูบท้ายทอยตัวเองนิดๆ

 

 

 

“ไม่ดูดอกไม้ไปให้เธอหน่อยเหรอค่ะ เธอคงดีใจมากแน่ๆ”

 

 

 

“เขาจะชอบดอกไม้เหรอครับ?”  โทโมะถามกลับอย่างลังเล ปกติแก้วไม่ใช่ผู้หญิงหวานๆเหมาะกับของพวกนี้เท่าไหร่ นิสัยคนรักของเขาเป็นยังไงโทโมะรู้อยู่แก่ใจดี

 

 

 

“อ้าว แล้วแม่หนูน้อยคนนั้นเป็นคนยังไงกันล่ะ  เผื่อป้าจะช่วยคิดอะไรได้”

 

 

 

“ป้ามีดอกไม้สำหรับผู้หญิงดื้อๆบ้างมั้ยล่ะครับ” 

 

 

 

“โอ้ย พ่อคุณจะดื้อไม่ดื้อยังไงผู้หญิงร้อยทั้งร้อยก็แพ้ดอกไม้จากผู้ชายที่ตัวเองรักอยู่แล้วล่ะ เชื่อป้าเถอะ ป้าอาบน้ำร้อนมาก่อนเราป้ารู้ดี”

 

 

 

“งั้นเหรอครับ...”  โทโมะคุร่นคิดพลางกวาดสายตามองดอกไม้ช่อโตที่วางเรียงรายอย่างชั่งใจ

 

 

 

และในที่สุด.......

 

 

 

 

 

          ไม่นานนักดอกกุหลาบช่อโตก็ถูกเจ้าของหมาดๆพากลับไปให้อีกคนที่เขาเฝ้าอยากจะเจอหน้าเร็วๆอยู่ทุกนาที  โทโมะค่อยๆเปิดประตูห้องเขาไปอย่างเบามือเมื่อเขากลับมาถึงคอนโด สาวน้อยของเขาหลับผล็อยไปแล้วบนเตียงกว้าง  โทโมะยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะถือช่อดอกไม้ไปวางไว้ตรงข้างเตียงของเจ้าตัว

 

 

 

“แฮปปี้วาเลนไทน์อีกครั้งนะครับเด็กน้อยของโทโมะ โทโมะรักแก้วนะครับ”  เขาก้มกระซิบเสียงแผ่วข้างแก้มก่อนจะจุมพิตเบาๆบนหน้าผากเนียนเรียบ และหายไปห้องน้ำไปเพื่อชำระร่างกายหลังจากเหนื่อยอ่อนมาทั้งวัน

 

 

 

 

 

          ดวงตาคู่สวยกระพริบปริบๆเมื่อรับรู้ได้ว่าเสียงฝีเท้าของคนโตกว่าหายลับเข้าไปภายในห้องน้ำแล้ว ร่างเล็กยันตัวลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะยิ้มร่าออกมาเมื่อทุกอย่างที่เขาพูดเธอได้ยินทุกถ้อยคำและมันอบอุ่นหัวใจมากเหลือเกิน ขนาดเธอแกล้งหลับหัวใจเธอยังเต้นแรงได้ถึงขนาดนี้ไม่อยากคิดเลยว่าอยู่ต่อหน้าจะทำหน้ายังไงไม่ให้เขาจับได้ว่าเธอเขินจนใจสั่น

 

 

 

 

บ้าเอ้ย! ทำไมใจเต้นแรงนักนะ!!

 

 

 

 

“อ่ะ” 

 

 

 

          คิ้วสวยขมวดมุ่นเมื่อช่อดอกไม้ช่อโตวางอยู่ตรงหัวเตียง หญิงสาวหยิบมันขึ้นมาพร้อมมองดูด้วยความแปลกใจ เพราะในดอกไม้ช่อนั้นมีดอกไม้อยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 ชนิด! ถึงมันจะดูแปลกหากแต่แก้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเมื่อเห็นการ์ดสีชมพูที่ห้อยอยู่ 

 

 

 

ดอกกุหลาบสีแดง...แทนความหมายว่าโทโมะรักเธอและอยากใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกันกับแก้ว

 

ดอกกุหลาบสีชมพู...แทนความรักของเราที่ต่อแต่นี้มันจะมีแต่เจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

 

ดอกกุหลายสีเหลือง...แทนความสดใสของแก้วที่ทำให้โทโมะตกหลุมรักได้ตลอดเวลา

 

ดอกกุหลาบสีขาว...แทนความบริสุทธิ์ของแก้วและความรักของโทโมะที่ไม่หวังสิ่งตอบแทน

 

ดอกทิวลิปสีแดง...แทนความรักที่เปิดเผยที่ต่อแต่นี้จะไม่มีคำว่าปิดบังอีกต่อไป

 

ดอกฟอร์เก็ทมีนอท...แทนความลึกซึ้งของเรา รักแท้ของเราและเป็นเสมือนตัวแทนที่คอยย้ำเตือนว่าอย่าลืมกัน

 

ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู...แทนความหมายว่าโทโมะยังรักแก้วและแก้วก็อยู่ในหัวใจของโทโมะเสมอมา

 

และสุดท้ายดอกลิลลี่สีขาวที่แก้วแสนจะชอบ...แทนความอ่อนหวานของเรา แทนความรักและความรู้สึกดีๆทุกเกิดขึ้นทุกครั้งเวลาที่โทโมะอยู่กับแก้ว 

                                                                          

 

แปลกใจใช่มั้ยว่าทำไมดอกไม้ถึงได้เยอะแยะขนาดนี้ เพราะแก้วไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น แก้วมีทุกอย่างในขณะที่ผู้หญิงหลายๆคนมีเพียงแค่อย่างเดียว และทุกสิ่งที่มีในตัวแก้วมันไม่เคยทำให้โทโมะหยุดรักได้เลยสักครั้ง

                                                                    Happy Valentine นะครับเด็กน้อยของโทโมะ

 

 

 

         หญิงสาวอมยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะล้มตัวลงนอนพร้อมกอดช่อกุหลาบของเขาเอาไว้แน่นพร้อมที่จะฝันดีไปกับมันในค่ำคืนแห่งความรักอันแสนหวานนี้

 


 

 เดี๋ยวตอนต่อไปจะตามมาแต่ไม่รู้ว่าเรื่องไรอะไรยังไงน้า :)

 

หายไปนานเพื่อขอเวลาทำใจกับบางสิ่งบางอย่าง แง้งงง ToT

 

รีดฯ : อิบ้า -^- *เขวี้ยงเกิบ* 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา