Fiction Rewrite

9.3

เขียนโดย StrawberryTKCuTe

วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2554 เวลา 16.09 น.

  17 ตอน
  857 วิจารณ์
  35.01K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) My heart is all yours

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

My heart is all yours (หัวใจผมเป็นของคุณ)

 

        ภายใต้คฤหาสน์หลังงามของมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่ง เขาเป็นเจ้าพ่อที่หลายต่อหลายคนเกรงขามและเลื่อมใสศรัทธา เสียงอึกทึกครึกโครมของผู้คนนับร้อยคุยกันดังก้องไปทั่วบริเวณบ้าน ใช่แล้ว...นี่เป็นงานเลี้ยงครั้งยิ่งใหญ่ของบ้านหลังนี้...

 

สักพักชายร่างโปร่งอายุกลางๆคนก็เดินออกมาต้อนรับแขกเหรื่อด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แม้จะมีรอยตีนกาผุดขึ้นบนใบหน้าตามอายุและกาลเวลาแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ราศีของคน(เคย)หล่อลดลง...

 

“สวัสดี...ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานหมั้นของลูกสาวผม” เขาผายมือต้อนรับอย่างไม่ถือตัวแม้ว่าตัวเองจะเป็นคนใหญ่คนโต แต่เขาก็ไม่เคยใช้อำนาจในทางที่ผิดแม้แต่น้อย....และนี่เป็นงานหมั้นของลูกสาวสุดที่รักของเขากับผู้ชายที่เขาได้คัดสรรมาเป็นอย่างดีเพื่อที่จะให้เป็นผู้ดูแลลูกสาวผู้บอบบางอย่างเธอ

 

“คุณหนูต้องสวยมากๆแน่เลยค่ะ”

 

“ฮะๆ ลูกสาวฉันสวยอยู่แล้วล่ะ นี่แม่นม ไปช่วยรับแขกหน่อยไปคนเริ่มเยอะแล้ว แล้วก็ให้เฟิร์นไปตามยัยหนูลงมาด้วยล่ะ” คุณผู้ชายของบ้านสั่งการกับแม่นมคนเก่าคนแก่ของบ้านพร้อมๆกับที่สั่งให้หลานของแม่นมอย่างเฟิร์นไปตามว่าที่เจ้าสาวในอนาคตลงมาด้วย 

 

“ค่ะ คุณท่าน”

 

.

.

.

 

        ภายในห้องกว้างที่ถูกออกแบบอย่างสวยหรู สีห้องเป็นสีส้มอ่อนๆตัดสลับกับเสียเขียวดูสดชื่นตา หากแต่เพียง...คนที่นั่งนิ่งอยู่ในห้องช่างดูไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลย สาวร่างบางนั่งเท้าแขนกับเก้าอี้ปล่อยให้ช่างแต่งหน้าทำผมตามใจชอบราวกับเธอเป็นตุ๊กตาให้เขาแต่งเติม ไม่มีสิทธิ์คัดค้าน เพราะมันเป็นคำสั่งของบุพการีที่รักของเธอ

 

“ทำไมคุณหนูไม่ยิ้มเลยค่ะ?  ปกติงานมงคลแบบนี้ว่าที่เจ้าสาวทุกคนก็ต้องยิ้มมีความสุขกันทุกคนนี่นา”

 

“ออกไปก่อนนะคะ”

 

เธอเอ่ยตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย แววตาอิดโรยเหมือนคนไม่ได้นอนทั้งคืน แทบไม่เหลือเค้าผู้หญิงที่เคยมีความสุขอยู่เลยก็ว่าได้  แต่ใบหน้าหวานล้ำ ริมฝีปากบางอมชมพู แก้มใสเจือด้วยสีแดงน้อยๆ จมูกโด่งเป็นสันรับกับใบหน้าได้อย่างสมดุล ยังคงเด่นชัดอยู่เสมอ เธอเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมไปด้วยสรรพสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ฐานะ การศึกษา สมควรแล้วที่เธอต้องแต่งงานกับลูกผู้รากมากดีเฉกเช่นเดียวกับเธอ

 

“แต่เดี๋ยวจะไม่ทันนะคะ”

 

“ขอร้องค่ะ...ขอฉันอยู่คนเดียวสักพัก”

 

“ก็ได้ค่ะ แต่คงได้แค่ครู่เดียวนะคะ เดี๋ยวดิฉันโดนคุณท่านเล่นงานค่ะ” เธอพยักหน้ารับก่อนที่ช่างแต่งหน้าคนนั้นจะออกไป  ร่างบางนั่งทอดสายตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างที่ติดกับทางหลังบ้านด้วยจิตใจห่อเหี่ยว เปล่าเลย ...เธอไม่มีความสุขสักนิดกับการที่ต้องหมั้นหมายกับคนที่ไม่รู้จักที่สำคัญเธอไม่ได้รักเขาแม้แต่น้อย เชื่อไหม? ขนาดชื่อแซ่ของเขาเธอยังไม่รู้เลย มีเพียงคนเป็นพ่อเท่านั้นที่รู้ดี รู้ดีหมดทุกอย่างและบางครั้งเรื่องของเธอเองเธอยังไม่รู้เลย

 

ชีวิตเธอถูกกำหนดไว้กับบิดา…

 

“นางฟ้า”

 

“....”

 

“นางฟ้า”

 

“....”

 

เสียงทุ้มๆคุ้นหูดังแว่วมาจากระเบียงด้านล่าง ร่างบางรีบลุกขึ้นไปดูด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจ เธอจำได้ว่าเป็นเขา ต้องใช่เขาแน่ๆ.....คนรักของเธอ

 

“ทะ...โทโมะ!”เธอรีบปรี่ไปพยุงร่างที่ปีนบันไดไม้เก่าๆขึ้นมาทางระเบียงห้อง  ผู้ชายร่างสูง ผิวขาว หน้าตี๋หน่อยๆ ผมดำขลับเป็นเงางามปีนขึ้นมาพลางปาดเหงื่อด้วยความเหนื่อย เขาเป็นคนรักของเธอ เป็นคนที่เธอรักและหวังเหลือเกินว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับเขา  และสิ่งที่เธอหวังมากที่สุดก็คือ...การให้บิดายอมรับในตัวคนรักของเธอ! แต่บัดนี้...มันไม่มีอีกแล้ว อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเธอต้องกลายไปเป็นคู่หมั้นคนอื่น คนที่เธอไม่รัก คนที่เธอไม่รู้จัก!!

 

“นางฟ้า...ผมมาทันใช่ไหม?”

 

“ฮึก...แก้วไม่อยากหมั้น ทำยังไง เราจะทำยังไงดี?!” เธอร้องไห้ฟูมฟายจนน้ำตาไหลเปรอะเปื้อนไปโดนมาสคาร่าที่แพขนตางอน แปดเปื้อนไปทั่วแก้มใสที่บัดนี้เจือปนไปด้วยคราบเครื่องสำอาง ร่างสูงปาดน้ำตาและเช็ดคราบเครื่องสำอางออกให้จนหมดจดด้วยความรัก เขาส่งยิ้มอ่อนๆให้เธอ...

 

“ใจเย็นๆนะนางฟ้า...นางฟ้าควรจะดีใจไม่ใช่หรือ? ที่ได้คู่ครองที่เหมาะสม ไม่เหมือนคนจนๆอย่างผม”

 

“พูดอะไรแบบนั้น โทโมะ!  แก้วรักโทโมะ...ฮึก...ทำไมต้องเป็นแบ...ฮึก....ฮึก...” หัวใจที่เต้นถี่แรงในอกทำให้เธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด  มือบางยกกุมหน้าอกข้างซ้ายด้วยความปวดรนทรมาน โทโมะเบิกตากว้างอย่างตกใจกับอาการโรคหัวใจ? ที่กำเริบของเธอ

 

ใช่...เธอเป็นโรคหัวใจ ไม่ว่าจะทำยังไงเธอก็ไม่ยอมผ่าตัดเสียที...

 

“แก้ว!...หายใจลึกๆ แบบนั้น....กินยาก่อนนะคนดี”เขาตระกองกอดแก้วด้วยความเป็นห่วงก่อนจะยื่นเม็ดยาที่เขาพกติดตัวไว้ตลอดเวลา เขารู้ดี...แก้วกินยายากและมักจะหลีกเลี่ยงอยู่เสมอเพราะฉะนั้นเขาจึงต้องพกและคอยบังคับให้เธอกินอยู่เสมอๆ บ่อยครั้งที่อาการของเธอทรุดหนักเหตุเพราะไม่ยอมกินยาตามหมอสั่งนั่นเอง...

 

“ดื้ออีกแล้ว”

 

“หนีกัน!!”

 

เขาอึ้งตกใจกับท่าทางและความมั่นใจเด็ดเดี่ยวของเธอเป็นอย่างมาก ปกติแล้วเธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่เคยขัดความต้องการของบิดา แต่ทำไมคราวนี้เธอถึงยอม ยอมได้ชื่อว่าเป็นลูกเนรคุณ!!

 

“อย่าทำแบบนั้นเลย  ไม่เห็นใจคุณพ่อเหรอครับ อีกอย่างคนจะมองแก้วในทางที่ไม่ดี”

 

“แก้วไม่สน! โทโมะ.....รักแก้วไหม?”

 

“คำตอบนั้นแก้วรู้ดี”

 

“รักไหมมากไหม?”

 

“มากที่สุด”

 

“พาแก้วหนีไปที พาหัวใจของแก้วหนีไป.....”

 

พอกันทีกับการถูกบังคับ

 

พอกันทีกับการถูกกีดกันด้วยเหตุผลที่ว่า...

 

.

.

.

 

 

“ลูกแก้ว! ไอ้โทโมะมันมีดีอะไร...มันไม่คู่ควรกับลูกสักนิด บ้านมันจนก็จน จะมีปัญญาอะไรมาดูแลลูกสาวของพ่อได้ มันมีเกียรติอะไรที่จะมาเชิดหน้าชูตาวงศ์ตระกูลของเรา ไม่เหมือนตาป้อง ลูกชายเถ้าแก่เส็ง เขามีพร้อมทุกอย่าง” คนเป็นพ่อร่ายยาวอย่างภาคภูมิใจถึงลูกชายของเถ้าแก่เส็งหุ้นส่วนคนสำคัญของครอบครัวเธอ และอดที่จะค่อนคอดคนรักของเธออย่างเสียไม่ได้ ไม่เคยเลยสักครั้งที่เธอจะเลือกทางเดินชีวิตของตนเอง

 

จะมีบ้างไหม?ที่เธอจะใช้หัวใจของตัวเองตัดสิน...

 

“คุณพ่อค่ะ...เรารักกัน คุณพ่อก็ทราบ ได้โปรดเห็นใจเราด้วย”

 

“ดอกฟ้าจะลงไปเกลือกกลั้วกับหมาวัดได้ยังกัน!!...ลูกบอบบางเกิน และมันก็ไม่มีปัญญาดูแลลูกได้แน่ๆเชื่อพ่อ...หมั้นกับตาป้องซะ”

 

 

เธอเพิ่งรู้...เพิ่งรู้ว่าบิดาของเธอมองคนแต่เปลือกนอก จริงอยู่ที่บ้านของเขาจน เป็นเพียงร้านขายอาหารตามสั่งร้านเล็กๆข้างถนนในตลาด  แต่คนจนกับคนรวยต่างก็หัวใจด้วยกันทั้งนั้น ถึงจะต่างกันทั้งยศถาบรรดาศักดิ์ แต่คุณค่าความเป็นคนมันก็มีเท่ากันไม่ใช่หรือ?

 

พ่อของเธอหวังดี...เธอรู้  เขาเป็นผู้ให้กำเนิดก็จริง แต่ชีวิตมันเป็นของเธอ...

 

แต่จะให้ทำอย่างไร...ในเมื่อหัวใจของเธออ่อนแอเกิน เกินกว่าที่จะตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง..

 

 

.

.

.

.

 

“ไปกับผมนะนางฟ้า...โทโมะจะดูแลนางฟ้าเอง” ร่างบางพยักหน้ารับทั้งน้ำตา เธอเชื่อใจเขาคนเดียว เชื่อใจเขาที่สุด เชื่อว่าเขาต้องมา และเขาก็มาจริงๆ....เขาพาเธอปีนลงบันไดด้วยความยากลำบาก 2 ร่างวิ่งลัดเลาะมาตามพงหญ้าข้างบ้านที่สูงท่วมหัวเป็นเกราะกำบังกายจากลูกน้องของบิดาเธอได้อย่างดีเยี่ยม

 

เสียงหญ้าดังสวบๆที่ถูกทั้งเขาและเธอเหยียบย่ำดังขึ้นจน เทเยอร์ สุนัขพันธุ์ดุที่บิดาของเธอเลี้ยงไว้เฝ้าบ้านเห่าขึ้นเมื่อรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติตามสัญชาติญาณของสุนัขเฝ้าบ้าน

 

“เห่าอะไร เจ้าเทเยอร์? เฮ้ย! นั่นใคร....ฉันถามว่าใคร?!”ชายร่างกำยำลูกน้องคนสนิทของเจ้าบ้านตะโกนถามเมื่อเห็นว่าสุนัขอย่างเจ้าเทเยอร์เห่าสีหน้าท่าทางของมันบอกตำแหน่งของสิ่งผิดปกติที่ซ่อนตัวอยู่ได้เป็นอย่างดี

 

2 ร่างหลับตาแน่นอดกลั้นแม้กระทั่งลมหายใจของตัวเอง เม็ดเหงื่อผุดพรายเต็มใบหน้า แก้วได้แต่เฝ้าวิงวอนคุณพระคุณเจ้าช่วยให้เธอกับคนรักปลอดภัย ร่างสูงกอดเธอไว้แน่นด้วยใจระทึกไม่แพ้กัน เมื่อเห็นว่าปลายเท้าของใครคนนั้นเดินย่างเข้ามาหา

 

“อย่ากลัวนะแก้ว...เราจะผ่านมันไปด้วยกัน”

 

นาทีระลึกใจไม่เคยผ่านไปด้วยความรวดเร็ว ความหวาดกลัวเริ่มครอบคลุมไปทั่วหัวจิตหัวใจของคนทั้งคู่ ถ้าถูกจับได้คราวนี้ เขาคงไม่มีวันได้พบกับนางฟ้าของเขาอีกตลอดชีวิต

 

 

                                ขอโทษ..ถ้าคนเดินดินคนนี้จะเห็นแก่ตัว....

 

 

“เฮ้ย! ไอ้เบิ้ม ไปทำห่าอะไรตรงนั้นว่ะ ไปช่วยในงานสิโว้ยยย!”เสียงลูกน้องอีกคนดังขึ้น  ได้ผล..มันทำให้เขาละความสนใจจากคนที่แอบซ่อนในพงหญ้าหันไปกลับไปได้

 

“เออๆ ไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”

 

ทันทีที่ลูกน้องทั้ง 2 ของเจ้าสัวใหญ่ละไป 2 ร่างก็ลอบถอนหายใจด้วยความโล่งก่อนจะพากันออกมาจนได้  เขาพาเธอมายังบ้านเช่าเก่าคร่ำครึของเขาเพื่อเก็บสัมภาระเล็กน้อย เพราะแก้วเองก็ไม่ได้เตรียมอะไรมาด้วยเลย มีเพียงกระเป๋าสตางค์ที่เธอฉวยคว้ามาได้ พอจะเป็นค่ารถ ค่ากินได้สักระยะ

 

โทโมะเก็บเสื้อผ้ายัดๆใส่กระเป๋าเป้ขาดๆจนเต็มก่อนจะรีบคว้าข้อมือหญิงสาวผู้เป็นดังดวงใจหนีไป

 

หนีไปที่ไหนก็ได้ ที่มีเพียงเขาและเธอ...

 

.

.

.

.

 

“อะไรนะ?! ยัยหนูหายตัวไป และคนที่พายัยหนูหนีคือไอ้กระจอกนั่น!!!” เจ้าสัวใหญ่สบถเสียงดังพลางตบหน้าลูกน้องเรียงคนด้วยอารมณ์เกรี้ยวโกรธ และคับแค้นใจ  นอกจากเขาจะเสียลูกสาวไปแล้ว ยังต้องอับอายกับพิธีการที่ต้องล้มเลิกกลางคัน เหตุเพราะ ...ลูกสาวหนีตามผู้ชาย!!!

 

มันกล้ามากที่บังอาจไม่ยุ่งกับลูกสาวของเขา…

 

“เผาบ้านมัน...อย่าให้เหลือ แล้วพวกแกก็ไปตามลูกสาวฉันกลับมาให้ได้ ถ้าตามยัยหนูไม่เจอ ฉันจะฆ่าพวกแก!!”

 

เหล่าลูกน้องรับคำบัญชาจากผู้เป็นนายด้วยความเกรงกลัว แน่ละ...ใครๆก็รักตัวกลัวตายด้วยกันทั้งนั้น ต่อให้ต้องทำลายผู้อื่น ต้องทำให้เขาแยกจากกันก็ตาม อาจจะโดนประณามว่าไร้ซึ่งหัวใจพวกเขาก็ต้องทำ ลูกเมียที่บ้านยังคงรอเขาอยู่ เขาต้องทำ...

 

“ครับ นายท่าน”

 

ไม่นานนักคนทั้งตลาดก็ตื่นฮือกันใหญ่เนื่องจากควันไฟและเปลวไฟลุกลามมายังบ้านของตน เหล่าแม่ค้าแตกกระเจิงด้วยความหวาดกลัว บัดนี้บ้านของเขา ร้านของเขา ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว...มีเพียงตอตะโกที่ยังคงหลงเหลือไว้เป็นที่น่าหดหู่ใจแก่ผู้พบเห็น...

 

“ฟังนะพวกแกทุกคน ใครรู้ว่าไอ้โทโมะพ่อค้ากระจอกๆ พาคุณหนูแก้วหนีไปไหนแล้วไม่ยอมบอก ระวังจะโดนดี! กลับโว้ย!พวกเรา”

 

.

.

.

.

 

 

ตึกๆ ๆๆ

 

เสียงล้อรถไฟกระทบรางมุ่งหน้าสู่หัวหิน ดินแดนที่เธอกับเขาจะสร้างครอบครัวอยู่ด้วยกัน รู้ดีว่ามันผิดทั้งจารีตและประเพณี หากแต่วันใด...บิดาของเธอยอมรับการตัดสินใจของเธอได้ วันนั้นเธอจะกลับไปอีกครั้ง...

 

“แก้ว...โทโมะจะดูแลแก้วให้ดีที่สุด อดทนหน่อยนะคนดี...ที่ที่เราจะไปอาจไม่สบายนัก....”

 

นิ้วเรียวแตะลงบนกลีบปากของเขาเป็นเชิงห้าม ไม่ว่าที่ที่นั้นจะลำบากข้นแค้นสักเพียงไหนเธอก็พร้อมจะไปกับเขา  เขาเป็นเจ้าของชีวิตและหัวใจของเธอนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป...

 

“ที่ไหนก็ได้...แค่มีเรา  เราจะอยู่ด้วย...ฮึก...ไม่ทิ้งกันใช่ไหม? ตอบแก้วหน่อย ได้โปรด”ร่างบางสบหน้าร้องไห้กับอกกว้างของเขา มือสากกร้านงานหนักลูบไล้กลุ่มผมนุ่มหอมของคนในอ้อมกอดด้วยความรักสุดแสน ใครว่าเขาจะทิ้งเธอกันเล่า นางฟ้า...นางฟ้ายังคงบอบบางและน่าทะนุถนอมอยู่เสมอ

 

“อย่าร้องไห้ อย่าทำอะไรที่ทำร้ายหัวใจตัวเอง โทโมะไม่ทิ้งแก้วไปไหน? นอนพักเถอะนะแก้วเหนื่อยมามากแล้ว ถึงหัวหินแล้วผมจะปลุก”

 

เขาดึงเธอมาซบแนบอกพร้อมกอดไว้แน่นเพื่อแสดงให้เธอรู้ว่า เขาอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่มีวันจะจากไปไหนอย่างแน่นอน เขารักเธอมากขนาดยอมแลกกับชีวิตของตัวเอง ยอมเสี่ยง ยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งโดนประณามหยามเกียรติและโดนดูถูกสารพัด...

 

เพียงเพราะรักคำเดียวแท้ๆ

 

สายลมแรงตามการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วของยวดยานอาจทำให้ร่างบอบบางในอ้อมแขนที่กำลังหลับใหลไม่สบายเอาเสียง่ายๆ โทโมะถอดเสื้อคลุมสีกระดำกระด่างเนื่องจากถูกใช้งานมาหลายปีโอบร่างแก้วเอาไว้กันลม กันแดด

คุณหนูผู้บอบบางกับหมาวัดกร้านแดดลมจะไปด้วยกันได้หรือไม่?

 

ไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้...นอกจากหัวใจของเจ้าตัวทั้งคู่...

 

ฉึก ฉัก~

 

เสียงล้อรถไฟคันเก่าหยุดลงที่ชานชาลาแห่งหนึ่งที่สถานีหัวหิน ...

 

“ตื่นยังครับ นางฟ้า^^”

 

“อือ~”ร่างบางขยี้ตาอย่างงัวเงียก่อนจะเอ่ยถามเขา คำถามที่เธอเคยถามเขาเป็นร้อยๆรอบ

 

“ทำไมต้องเรียกนางฟ้าด้วย....บอกกี่ครั้งกี่หนแล้ว”

 

“แก้วเป็นนางฟ้า...ใจดี น่ารัก ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องห้ามไม่ให้โทโมะเรียกนี่นา...บางที นางฟ้าอาจสูงส่งกว่าฝูงกาอย่างผมก็ได้”

 

“ถ้าเป็นนางฟ้าแล้วตัดสินชีวิตตัวเองไม่ได้ แก้วจะยอม...ยอมเป็นฝูงกา ไม่มีใครยกย่อง ไม่มีใครชื่นชม แต่มีชีวิตที่เป็นอิสระ ไม่มีเหตุผลอะไรที่แก้วจะเป็นกาไม่ได้เหมือนกัน^^”

 

“ยังไงนางฟ้าก็ยังคงเป็นนางฟ้าอยู่ยันวันยันค่ำ เอาล่ะ..เราไปกันเถอะเดี๋ยวจะค่ำมืดเสียก่อน ที่นี่ลมแรงเดี๋ยวแก้วจะไม่สบายเสียเปล่าๆ”

 

เขาพาเธอนั่งรถต่อไปอีกสักระยะจนมาถึงบ้านหลังเก่าโทรมๆหลังนึง  รอบบ้านล้อมรอบไปด้วยต้นดอกแก้วที่ออกดอกบานสะพรั่งราวกับมันรอต้อนรับเขาและเธออยู่ก่อนหน้านี้ กลิ่นหอมรัญจวนของมันคละคลุ้งไปทั่วเนินบริเวณนั้น  ร่างบางสูดอาการสดชื่นเข้าเต็มปอดด้วยความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนกที่ได้รับการปลดปล่อย หากแต่เป็นนกที่มีปีกและสีสันสวยงามแต่จำต้องอยู่ในกรงทองของมหาเศรษฐี มีเพียงพื้นที่แคบๆ ไม่มีสิทธิ์จะได้ขยับปีกโบยบิน เธอขอยอมเป็นเพียงนกป่า ไร้ซึ่งที่อยู่สวยงามแต่มีความสุขกับอิสระที่จะได้ครอบครองชีวิตตนเอง นั้นคือสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิตของเธอแล้ว...

 

“นี่เป็นบ้านของยายผม มันไร้คนอาศัยมาเกือบๆ 10 นางฟ้าอยู่ได้ไหม?”

 

เขาหันมาถามเธอเมื่อเห็นสภาพบ้านที่เก่าคร่ำครึ หลังคามีรูรั่วอยู่หลายจุด หากฝนกระหน่ำลงมาละก็...คงไม่เหลืออะไรเป็นแน่

 

“ได้สิ...ที่ไหนก็ได้ ต่อให้แก้วต้องอยู่ข้างถนน แต่ถ้ามีโทโมะแก้วก็ยอม”

 

ร่างสูงมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความซาบซึ้งใจ เธอดีเกินเหตุ  แล้วอย่างนี้หรือจะไม่ให้เขารียกเธอว่านางฟ้า...ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ทำให้เขายอมทุ่มเทขนาดนี้อีกแล้ว แลกด้วยชีวิต?ก็ขอยอม...

 

2 ร่างพากันเข้าไปทำความสะอาดภายในบ้าน แต่เขาไม่อยากให้เธอจับอะไรเสียเท่าไหร่ ด้วยสุขภาพที่ไม่ค่อยแข็งแรงของเธอเขาจึงเป็นห่วงยิ่งกว่าอะไรดี ใครว่านางฟ้าไม่ดื้อ เธอเนี่ยแหละหัวรั้นตัวยงเลยก็ว่าได้

 

“แก้วทำได้...ให้แก้วทำเถอะ แค่กวาดบ้านเอง”

 

“แต่”

 

“ขัดใจนางฟ้าเหรอ? ไหนว่ารักไง....”

 

“นางฟ้าอะไรดื้อขนาดนี้ เฮ้อ~ เอาล่ะ...อยากทำก็ได้แต่ อย่าหักโหมมากนะรู้ไหม?”

 

“แน่นอน^^”

 

.

.

.

.

 

ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี แต่จะให้นิ่งเฉยไม่คิดการสร้างครอบครัวก็ไม่ได้  มนุษย์ทุกคนต้องกินต้องใช้ วันนี้โทโมะเลยคิดที่จะไปหางานทำแถวๆบ้านดู เขาจึงมาบอกแก้วก่อน เกรงว่าถ้าเธอไม่รู้จะคิดว่าเขาหายไป นี่สิ แย่เลย

 

“นางฟ้าครับ...โทโมะไปหางานนะ ตอนกลางวันจะกลับมาหา”

 

“งานที่ไหน? โทโมะต้องทำงานด้วยเหรอ”

 

“โธ่...คุณหนูจริญญาครับ ทุกคนต้องทำงานผมจะเอาเงินมาให้คุณหนูไงครับ....อยู่บ้านคนเดียวดูแลตัวเองนะ ลมทะเลมันจะทำให้นางฟ้าของผมไม่สบาย” เขานั่งยองๆพูดกับเธอที่นั่งอยู่บนเปลที่ผูกติกกับข้างบ้าน พลางลูบปอยผมแผ่วเบา  เธอเป็นคุณหนูขนานแท้ จึงไม่รู้เรื่องการทำงานอะไรหนักหรอก เธอคงลืมไปชั่วขณะว่าตอนนี้เธออยู่กับเขา....คนจนไร้หัวนอนปลายเท้า

 

“แก้วไปด้วย..เรื่องอะไรจะให้โทโมะทำงานคนเดียวล่ะ”

 

“ไม่ได้ครับ อย่าลืมสิว่าแก้วไม่สบาย ดูแลตัวเองให้ดีแค่นั้นก็พอ ที่เหลือผมจัดการเองนะ” เมื่อทัดทานเขาไม่ได้เธอจำต้องยอม

 

หลายวันผ่านไป เขาทำงานหนักมากขึ้นเธอไม่รู้หรอกว่าเขาจะทำงานหนักแบบนั้นไปเพื่ออะไร ลำพังงานจับกัง ทอดแห ทอดอวนก็หนักมากพออยู่แล้ว ตกดึกเขายังออกไปช่วยงานร้านข้าวต้มของเฮียโต ในตลาดอีก ใจคอเขาจะไม่พักผ่อนบ้างหรือ? แก้วรู้สึกสงสารเขาจับหัวใจ เธอเป็นเหมือนคนพิการที่ไม่สามารถแบ่งเบาอะไรเขาได้เลย...

 

เธอมันแย่ที่สุดเลยแก้ว!

 

“ฮือ~” เสียงครางแผ่วเบาในยามวิกาลของคนข้างกายทำให้แก้วต้องสะดุ้งตื่นขึ้น เขานอนขดด้วยความเหน็บหนาวยอมที่จะให้เธอห่มผ้าผืนหนาแต่เพียงผู้เดียว ร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่คนเดียว ปิดปากตัวเองไว้ไม่ให้เขาได้ยิน เธอสงสารเขามาก เธอเป็นภาระของเขาใช่ไหม?  พื้นกระดานแข็งกระด้างสอนให้เธอรับรู้ว่าชีวิตเธอเปลี่ยนไปแล้ว ทุกอย่างไม่ได้สะดวกสบายเหมือนตอนที่เธอเป็นคุณหนูจริญญาแต่เก่าก่อน ทุกวันนี้เธอเห็นโทโมะยอมอดมื้อกินมื้อเพื่อให้เธอได้กินอิ่มนอนหลับอย่างสบาย...เธอมันเห็นแก่ตัว!

 

มือบางพยายามห่มผ้าและจัดท่าทางการนอนของเขา อยากให้เขาสบายมากที่สุด...

 

“ฮื้อ~ ทำไมไม่นอนครับ...เอาผ้าห่มให้โทโมะทำไม? แล้ว....นางฟ้าร้องไห้?!”

 

เขาขยับตัวลุกขึ้นพลางเอ่ยถาม คำถามที่ไร้ซึ่งคำตอบจากแก้ว

 

“ฮึก....แก้วเป็นภาระของโทโมะใช่ไหม? เรากลับบ้านกันเถอะ แก้วไม่อยากให้โทโมะลำบากไปมากกว่านี้อีกแล้ว ฮึก..~~” ร่างบางร้องไห้สะอึกสะอื้น ยิ่งร้องให้หัวใจในอกมันยิ่งเต้นแรง แรงขึ้น แรงขึ้น จนเธอแทบรับไม่ไหว แต่ก็ยังทนฝืนกลั้นมันไว้ไม่แสดงความเจ็บปวดให้เขารับรู้เด็ดขาด!

 

“โธ่~ คนดี...แก้วไม่ใช่ภาระซักหน่อย มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วที่ต้องดูแลแก้วให้ดีที่สุด....ไม่ร้องนะครับ”เขาปาดน้ำตาอุ่นร้อนของแก้วออกในขณะที่มันยังไหลไม่ขาดสาย เธอโผเข้ากอดเข้าแนบแน่น ไม่มีคำพูดใดๆปริจากปาก ไม่มีคำขอบคุณใดๆที่จะเพียงพอต่อผู้ชายคนนี้...

 

“แต่แก้ว...ฮึก...ช่วยอะไรไม่ได้สักอย่าง...ฮึก....”

 

“ช่วยได้สิ แก้วคือแรงใจสำคัญที่สุด ถ้าไม่มีแก้ว โทโมะก็ไม่รู้จะทำแบบนี้ไปเพื่อใคร...ไม่ต้องกังวลนะคนดี ผมจะทำเพื่อครอบครัวของเรา”ร่างสูงแตะจูบลงบนหน้าผากเนียน ความอบอุ่นจากเขาแผ่ซึมถึงเธอได้เป็นอย่าวดี รับรู้ว่าเขารัก รับรู้ว่าเขาห่วงใย....

 

ก่อนที่เขาจะค่อยๆบรรจงจูบลงบนกลีบปากบาง แค่สัมผัสแรกก็รับรู้ได้ว่าเธอไม่เคยผ่านชายใดมาก่อน ความบริสุทธิ์ของหญิงสาว ที่มีไว้ให้แต่เพียงชายผู้เป็นที่รักเท่านั้น....

 

เขาไม่กล้าแม้แต่จะแตะต้องตัวเธอเลยด้วยซ้ำ เธอสูงส่งเกินกว่าที่หมาวัดอย่างเขาจะอาจเอื้อม นี่เป็นครั้งแรก...ครั้งแรกที่เขามีโอกาสได้สัมผัสกับนางฟ้าที่เขาคอยเฝ้าถนอมมาโดยตลอด กายบางสั่นเทาน้อยๆ เธอไม่เคยชินหรอกกับเรื่องแบบนี้....

 

ปากหยักได้รูปไล้ขบเม้มริมฝีปากหอมหวานละมาถึงซอกคอขาว เธอไม่คิดปฏิเสธสัมผัสของเขาแม้แต่น้อย...

 

.

.

.

.

.

.

.

.

 

เสียงนกกระจาบกู่ร้องเล็กๆผสมผสานกับเสียงคลื่นกระทบฝั่ง กลิ่นหอมอ่อนของดอกแก้วกระจายฟุ้งไปทั่วบริเวณ ราวกับมันเป็นนาฬิกาปลุกชั้นดี  ร่างหนาที่ตระกองกอดหญิงสาวปรือตาขึ้นอย่างช้าๆ  เมื่อเห็นว่าแก้วยังหลับอยู่เขาจึงเลิกผ้าห่มขึ้นคลุมกายบางที่ไร้อาภรณ์ปกปิด ด้วยเกรงว่าลมทะเลจะทำให้เธอไม่สบายไป

 

เขารีบแต่งตัวเมื่อเห็นว่าสายมากแล้ว ก่อนออกจากบ้านเขาเขียนใส่กระดาษบอกเธอก่อน จากนั้นจึงรีบลนไปทำงาน

 

เมื่อตื่นขึ้นมาเจอกับแผ่นกระดาษที่เขียนด้วยลายมือยุกยิกของคนที่ได้ชื่อว่า เป็น สามี เธออมยิ้มน้อยๆก่อนจะลุกไปแต่งตัว และกินข้าวต้มค้างคืนที่นำมาอุ่นใหม่ฝีมือเขา..

 

นางฟ้า...โทโมะอุ่นข้าวต้มไว้ให้ ทานนะครับ ผมไปทำงานก่อน ......รักนางฟ้า”

 

“นางฟ้าก็รักโทโมะ”

 

...................................................................................................................................

มาแล้ววววว^__^; ฟิครีไรท์เรื่องแรกที่ขอนำเสนอ(จะมีคนอ่านเร๊อะ--*) เรื่องนี้ตามจริงเป็นฟิค AF7 ซึ่งตอนนั้นข้าพเจ้ากำลังคลั่ง^+++^แต่ก็แต่งไม่จบ วันนี้เลยหยิบมาปัดฝุ่น&แต่งใหม่ คึๆ เอาเป็น TK มันซะ!!

เราว่ามันไม่สนุกTT ใครเห็นด้วย? พรึ่บๆๆๆ! (เสียงยกมือพึ่บพับT^T) O__O

PS.1 (แอบ THX น้องบีมที่เข้ามาทักท้วงในเฟสเค้า ไอ้หมูอ้วนที่(อุตส่าห์)โทรมาทวงถึงที่! และทุกคนที่ให้การต้อนรับ ฟิคสติรีไรท์สติแตกกกกกก

PS.2 ใครไม่เม้นขอให้ไม่สวยเหมือนนางคว้า เอ๊ย นางฟ้า^O^ เม้นบอกหน่อยว่ามันเน่าขนาดไหน???TTOTT

(มันยังไม่จบนะครับ)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา