i'm not&you don't [Yaoi NC18+] END หนังสือถามได้คะ

9.2

เขียนโดย Pierre

วันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2555 เวลา 02.28 น.

  49 chapter
  69 วิจารณ์
  252.02K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559 22.56 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

36) The Other Side IV [Pause Part]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

The Other Side IV [Pause Part]

 

“วันนี้วันเกิดกู”

 

วันนี้วันเกิดไอ้แกรนด์เหรอ?

 

มะ มัน ... มันล้อเล่นใช่มั้ย?

 

แต่สายตาจริงจังนั่นบ่งบอกว่าไม่ได้ล้อเล่นเลย ซ้ำยังมีความผิดหวังอยู่ข้างในลึกๆ

 

ตอนที่มันเปิดประตูเข้ามา ผมใจหายวาบกำไอโฟนในมือแน่น ไม่กลัวว่ามันจะพัง ถ้าหากพังไปได้ยิ่งดี เพราะผมเพิ่งวางสายจาก...อดีตแฟนเก่า

 

แต่อนาคตคือภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย

 

ผมกลบเกลื่อนทำเป็นด่ามัน กลิ่นเหล้าหึ่งโชยมาจากตัว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแอบผมไปกินมา กะว่าจะแกล้งโกรธ แต่กลับกลายเป็นว่าผมต้องกลายเป็นคนผิดแทน

 

ผมไม่รู้ว่าวันนี้คือวันเกิดมันจริงๆ

 

แกรนด์ไม่เคยพูด เรา2คนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กันเลย ในเฟซบุค โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คต่างๆมันก็ไม่กรอกไว้

 

ผมหยิบโทรศัพท์ที่กำแน่นขึ้นมาอีกครั้ง ลบเบอร์โทรเข้าล่าสุด แล้วไลน์ถามไอ้แทน หลานรหัสที่สนิทกับแกรนด์ว่ามันรู้รึเปล่าว่าวันนี้วันเกิดแกรนด์ ถ้ามันรู้แต่มันไม่บอกนี่กูตัดสายรหัสแม่งเลย แต่มันตอบกลับมาว่าไม่รู้เหมือนกัน จริงรึเปล่า? ทำให้ผมไปลงที่ใครไม่ได้ ได้แต่โทษตัวเอง สะเพร่า ไม่ยอมหาข้อมูลที่สำคัญของคนรักให้ดี

 

หวังว่าคนที่อยู่ในห้องน้ำจะไม่โกรธมากนะ

 

แต่คนทำผิด มันก็เหมือนมีอะไรติดที่หลัง แค่ผมไม่รู้วันเกิดแฟนตัวเองว่าแย่แล้ว...แต่นี่ผมยังต้องโกหก ปิดบัง เรื่องที่ทางครอบครัวจัดให้ผมหมั้นกับหมอนอีก

 

มันออกมาจากห้องน้ำแล้ว แต่งตัวเรียบร้อย

 

ผมถามย้ำมันอีกครั้งว่าวันนี้วันเกิดมันจริงๆใช่มั้ย? ไม่ได้อำเพื่อหาเรื่องทะเลาะหรอกนะ

 

คำตอบที่ได้รับกลับมาเป็นน้ำเสียงราบเรียบและนิ่งสงบ นั่นยิ่งทำให้ผมกลัว กลัวว่ามันจะโกรธ ผมไม่ได้เตรียมอะไรให้เลย ก็คนมันไม่รู้นี่ แถมมันยังพูดเหมือนกับว่าปีหน้าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้อีก มันบอกว่าไม่ต้องให้ผมจำวันเกิดมันแล้วก็ได้

 

“อย่าพูดแบบนี้! อย่าพูดอะไรที่เหมือนกับว่ามึงจะหายไปจากกูไม่วันใดก็วันหนึ่ง”

“มึงนั่นแหละที่จะไปจากกู”

 

มันพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง...?

 

“ไม่มีทาง!”

“เหอะๆ มึงอย่ามั่นใจนักเลย อนาคต...มันไม่แน่นอน”

“แต่กูจะทำให้มันแน่นอน!”

“ยังไงล่ะ?”

 

หรือมันจะรู้เรื่องหมอน...

 

เป็นไปไม่ได้ ถ้าไอ้ฮาร์ทไม่ปากมาก แกรนด์ก็จะไม่มีวันได้รู้

 

แต่ตอนนี้ช่างเรื่องหมอนก่อน ดูท่าคนที่เกิดวันนี้จะผิดหวังในตัวผมอยู่มากเลยทีเดียว มันพูดเหมือนไม่ยี่หระ ไม่สนว่าผมจะจำวันเกิดมันได้มั้ย? มันถามผมว่า

 

“ถามจริง มึงรู้อะไรเกี่ยวกับตัวกูบ้างวะ? นอกจากชื่อ หน้าตา นิสัย....แค่วันเกิดมึงยังไม่รู้เลย” ไอ้แกรนด์ถามด้วยทีท่าสบายๆเหมือนถามเรื่องดินฟ้าอากาศ แต่ในใจผมนี่ปั่นป่วนยิ่งกว่าพายุซะอีก

 

ใช่...ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวมันเลย เรา2คนไม่รู้พื้นเพ ไม่รู้ที่มา ไม่รู้สังคมในครอบครัวอีกฝ่ายว่าเป็นยังไง เพราะผมไม่เคยสนเรื่องนั้น ผมขอแค่ได้มีความสุขในตอนนี้ แม้ผมจะแบเงินขอมือพ่อแม่อยู่ แต่ผมมั่นใจว่าผมต้องเลี้ยงดูแกรนด์ได้

 

“ขอโทษ...ที่ไม่ได้เตรียมอะไรให้เลย กูเป็นคนที่แย่จริงๆวะ ไม่รู้แม้กระทั่งวันเกิดของแฟนตัวเอง”

 

ผมพูดคำว่า ‘ขอโทษ’ กับมันมากี่ครั้งแล้วนะ?

ทั้งๆที่ผมไม่ใช่คนที่จะพูดอะไรออกมาง่ายๆแบบนี้ด้วยซ้ำ แต่กับแกรนด์...ขอละเว้นไว้คนแล้วกัน

 

“เฮ้ย ช่างมัน...นอนๆๆๆๆ” คนข้างๆดึงตัวผมลงนอนกับเตียง

“ไม่โกรธกูนะ” แต่เพื่อความมั่นใจ ขอถามอีกสักหน่อย

“โกรธ”

 

เวร กูไม่น่าถาม

 

แต่เอาเถอะ วันนี้วันของมัน ยอมให้อีกซักครั้งจะเป็นไรไป ยังไงๆก็ยอมตลอดอยู่แล้วนี่

 

“งั้นต้องทำยังไงแกรนด์ถึงจะหายโกรธครับ?”

 

คนโกรธยันตัวขึ้นนั่ง ทำท่าเหมือนกลั้นใจคล้ายไม่อยากถาม

 

“มึงต้องตอบคำถามกูก่อนว่าคนที่ชื่อ ‘หมอน’ เป็นใคร และเกี่ยวข้องยังไงกับมึง”

 

.

.

.

 

ผมไม่รู้ว่าตัวเองแสดงท่าทียังไงออกไป ใจเต้นผิดจังหวะทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘หมอน’ หลุดออกมาจากปากที่เคยสัมผัสมาหลายต่อหลายครั้ง

 

มันรู้เรื่องของหมอนในระดับไหน?

มันรู้มั้ยว่าผมต้องหมั้น?

ถ้ามันรู้แล้วผมจะเป็นยังไง?

จะเปลี่ยนไปมั้ย?

จะเลิกรักผม ทิ้งผมไปรึเปล่า?

 

คำถามมากมายผุดเข้ามาในหัว

 

ท่าทางไอ้แกรนด์มันไม่ได้โมโหหรือเย็นชาจนเปลี่ยนเป็นคนละคนผมก็วางใจ บางทีมันอาจจะรู้แค่ผิวเผิน แต่ที่แน่ๆไอ้คนพูดเรื่องหมอนกับแกรนด์มันต้องประสงค์ร้ายและต้องการให้ผมกับมันทะเลาะกัน

 

และคนคนนั้นมีเพียงแค่คนเดียว

 

“ไปเอามาจากไหน?”

“จากไหนไม่สำคัญ...กูถามแล้วอย่าตอบด้วยคำถาม กูไม่ชอบ” แกรนด์ลุกขึ้นไปเปิดไฟ ผมรับรู้ได้เลยว่าคืนนี้ต้องเคลียร์กันยาว

“กูอยากคุยดีๆนะ มึงก็ช่วยตอบดีๆหน่อยเถอะ”

 

เฮ้อออออออออออออ

กูก็ไม่ได้อยากโกหกหรือผิดบังอะไรมึงนะแกรนด์ เอาเป็นว่าจะเล่าเท่าที่บอกได้แล้วกัน

 

ผมบอกมันไปตามตรงว่าหมอนเป็นแฟนเก่า เล่าเรื่องในอดีตที่มันทำให้ผมเจ็บเจียนตายเมื่อรู้ว่าโดนหักหลัง นับว่านั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมเลิกรักใครไปเลยก็ได้ ไม่อยากมีอีกเป็นครั้งที่สอง ผมไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังนอกจากพี่สาวและพี่ชาย เพื่อนในกลุ่มสมัยม.ปลายมันก็รู้กันเอง เดาได้จากที่ผมเงียบๆและไอ้ฮาร์ทกับหมอนก็เริ่มสนิทกันออกหน้าออกตา คิดถึงตอนนั้นแล้วก็ยังเจ็บ แต่เพื่อให้แกรนด์ไว้ใจ ผมจะยอมพูดถึงมันอีกครั้ง

 

แต่ผมขอให้แกรนด์รู้เพียงเท่านี้...อย่าได้ขุดคุ้ยเพิ่ม...เพราะมันอาจทำให้แกรนด์หนีหายไปจากผม ซึ่งผมไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น

 

“แล้วมึงยังรักหมอนอยู่รึเปล่า”

“ไม่...กูรักมึง” ผมตอบทันทีแบบไม่ต้องคิด

“แล้วตอนนี้หมอนอยู่ไหน”

“ต่างประเทศ ไปเรียนต่อน่ะ เพราะสอบไม่ติดมหาลัยที่ไหนสักที่ ก็เหมือนไอ้ฮาร์ทนั่นแหละ แต่ไอ้ฮาร์ทเลือกที่จะเรียนเอกชน”

 

หมอนไปเรียนที่สวิส อาศัยอยู่กับพี่เพลย์ที่เมืองเจนีวา ตอนที่หมอนรู้ว่าตัวเองสอบเข้าที่ไหนไม่ได้เลยก็เลือกที่จะไปเรียนต่างประเทศ ซึ่งพอดีกับที่แม่ของผมสนิทกับแม่ของหมอน ท่านทั้ง2เคยเป็นอาจารย์ในภาคเดียวกัน อีกทั้งยังชอบทำขนมเหมือนๆกัน ยิ่งพอมารู้ว่าผมกับหมอนคบกันก็เลยสนับสนุนและพูดเกริ่นๆถึงเรื่องแต่งงานในอนาคต แม่ผมเลยเสนอให้หมอนไปพักกับพี่เพลย์ที่คอยดูแลกิจการของพ่ออยู่ที่โน่นเลย

 

ตอนนั้นผมไม่ได้บอกแม่เรื่องของหมอน ปล่อยให้ท่านเข้าใจไปแบบนั้นเพราะผมไม่อยากให้ท่านคิดมากหรือเป็นกังวลแทนผม แม่ผมเป็นโรคหัวใจ ผมจึงปล่อยเลยตามเลย คิดว่าเดี๋ยวแม่ก็ลืมๆไปเองเพราะตั้งแต่เข้ามหาลัย ผมก็เริ่มทำตัวเป็นเหมือนเดิม แม่ก็ไม่เห็นจะว่าอะไรและแทบไม่พูดถึงเรื่องหมอนเลยด้วยซ้ำ

 

แต่กลับกลายเป็นว่าตอนปี2เทอม2 จู่ๆแม่ก็พูดถึงเรื่องหมอนขึ้นมา แถมยังให้ผมคอยโทรหาหมอนหรือไม่ก็พี่เพลย์ ผมก็ไม่อยากขัดใจ ถือซะว่าเป็นเพื่อนกันแล้วจะได้คุยกับพี่เพลย์ไปในตัวด้วย ผมไม่รู้ว่าแม่คุยอะไรกับหมอนบ้าง สุดท้ายแม่ผมหันมาบอกผมว่า

 

‘พอขึ้นปี4แล้วให้หมั้นกันซะ เพราะถึงหมอนเค้าไม่พูดใช่ว่าแม่จะไม่เข้าใจหัวอกผู้หญิงด้วยกัน ยิ่งห่างไกลกันหมอนเค้ายิ่งน้อยใจ เนี่ย มาบ่นคิดถึงลูกให้แม่ฟังตลอดเลย’

 

ตอนนั้นผมได้แต่นิ่งเงียบ รับฟังสิ่งที่แม่พูด เห็นหน้าแม่มีความสุขแล้วผมไม่อยากขัด

 

ครอบครัวผมอันประกอบไปด้วยพ่อ พี่พีท พี่เนย(แฟนพี่พีท แต่งงานกันแล้ว) และผมพ่วงด้วยคุณแม่ของหมอน เดินทางไปยังเจนีวาเพื่อไปหาพี่เพลย์และหมอน แน่ละครับ 2ครอบครัวเดินทางไปด้วยกันแบบนี้ เหอๆ คงหนีไม่พ้นเรื่องผมกับหมอนอย่างแน่นอน แต่ที่แม่ผมไม่ได้ไปด้วยเพราะโรคหัวใจ คาดว่าถ้าไปด้วยผมคงถูกจับแต่งงานที่โน่นเลยมั้ง

 

พอไปถึง พี่เพลย์พี่สาวผมยังสวยเหมือนเดิม ส่วนหมอนก็ยังคงความน่ารักอ่อนหวาน แม้ในตอนแรกที่เห็นผมเธอจะมีอาการดีใจจนแทบโดดเข้ามากอดผม แต่ผมแค่เฉียดมองเท่านั้น หมอนเลยกลับไปสงบเสงี่ยมเหมือนเดิม

 

ผมไม่คิดจะกินของที่อ้วกออกมาแล้วหรอกนะ

 

แต่ที่มานี่เพราะคุณแม่และมาหาพี่เพลย์เท่านั้น บอกตรงๆว่าผมสนิทกับพี่เพลย์ ที่คุยโทรศัพท์ดึกๆดื่นๆก็คุยกับพี่เพลย์เนี่ยละ (จำได้ว่ามีคืนนึงที่ผมข้อมือซ้นนั่นก็คุยกับพี่เพลย์จนคนดูแลทนไม่ไหวขอหลับก่อน ฮ่าๆ)

 

หมอนไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆถึงเรื่องหมั้นเลยสักนิด ส่วนผมน่ะเหรอ..เงียบเป็นเป่าสาก พี่เพลย์เข้าใจดีว่าผมไม่ได้อยากจะแต่งกับหมอนสักเท่าไหร่ แต่หมอนเนี่ยสิ...พี่เพลย์บอกว่าหมอนยังรักผมอยู่ แม้จะคุยกับฮาร์ทผ่านทางอีเมลล์บ้าง โทรศัพท์บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็คุยเรื่องผมทั้งนั้น

 

บอกตรงๆว่าตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออกจริงๆ เลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ยังไงซะก็เคยเป็นผู้หญิงที่รักมากคนนึง และไม่คิดว่าจะรักใครได้อีกแล้ว สู้แต่งๆไปให้แม่มีความสุขไม่ดีกว่าเหรอ?

 

“แล้วยังติดต่อกับหมอนอยู่รึเปล่า?”

 

แต่ไอ้คนที่กำลังซักถามผมเนี่ย...มันทำผมตกหลุมรักจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ต้องมานั่งเครียด นั่งกลุ้ม แก้ปัญหาเรื่องหมั้นที่ยังแก้ไม่ออกเพราะมันเนี่ยแหละ

 

“จะรู้ไปทำไม?”

“กูบอกแล้วนะว่าไม่ชอบให้ตอบคำถามด้วยคำถาม”

“ครับ ขอโทษครับ”

“ตอบสิวะ”

“ก็...มีโทรคุยกันบ้าง”

 

แค่นั้นจริงๆ...คุยไม่เคยเกิน3ประโยค สาบานได้

 

“เออก็แค่นั้น”

“แต่ถ้ามึงไม่อยากให้คุยกูไม่คุยก็ได้นะ”

“กูไม่ได้ห้าม อยากจะคุยก็คุยไป”

 

ไม่ชอบเลยไอ้ท่าทางสบายๆเหมือนไม่เป็นอะไร ทั้งที่ในใจมันเจ็บ...ผมรู้

 

“หึงก็ยอมรับมาเท้อออออออออออ”

 

กวนตีนวันละนิดจิตแจ่มใส กูไม่ชอบดราม่า กูหื่น (เกี่ยว?)

 

“บ้านมึงสิ”

“หึหึ...เอาละ มึงถามกูแล้ว กูขอถามมึงบ้าง”

 

ตากูละนะ

 

“มึงได้ยินชื่อหมอนมาจากใคร”

“ทำไม?”

“อย่าตอบคำถามด้วยคำถาม”

 

ดูหน้ามัน คงอยากเข้ามาบีบคอผมแล้วซื้อลิขสิทธิ์ไอ้ประโยคนี้ไปซะ

 

“พี่ฮาร์ท”

 

สุดท้ายมันก็ตอบ...แถมเป็นคนที่ผมเดาไว้ไม่มีผิด

ไอ้เหี้ยนี่แม่ง จะตามรังควานกูไปทุกที่เลยใช่มะ แย่งคนรักเก่ากูไปไม่พอ ยังจะมาทำให้แกรนด์น้อยของกูเข้าใจกูผิดอีก

 

“ไปเจอมันตอนไหน”

“อะ...เอ่อ...”

“ตอนไหน?”

 

หึหึ เห็นท่าทางลนลานไปไม่ถูกของมันแล้วอยากจะขย้ำจริงๆ

 

“ก็...ไม่นานหรอก”

“เมื่อไหร่?”

“เอ่อ..คะ..คือ...ถอยออกไปก่อน”

“ไม่ถอย...จนกว่าจะได้คำตอบ”

 

ผมรู้ว่าไอ้ปากหมาบวกปากแข็งนี่คงไม่ยอมสารภาพออกมาง่ายแน่ๆเลยขอละลายทำให้ปากมันอ่อนตัวสักหน่อย เหมือนไม่ได้จูบกันมานาน ผมทั้งดูดทั้งคลึงจนปากมันแดงไปหมด

 

“บอกได้รึยังว่าไปเจอไอ้ฮาร์ทมันตอนไหน”

“มะ..เมื่อกี้...อ๊ะ..”

 

ชอบจริงๆเวลาที่จะพูดแล้วพูดไม่ได้เนี่ย

 

มันคงมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะผมทั้งลูบทั้งเลีย ไซร้ซอกคออย่างกับคนอดอยาก เลิกเสื้อที่เกะกะขึ้นสูง อยากจะถอดทิ้งแต่ติดที่ว่าคนสวมใส่ไม่ชอบให้ความร่วมมือ เอาแต่ต่อต้าน แผ่นอกที่ได้สัมผัสยังเหมือนเมื่อครั้งแรกตอนเล่นเกมทอยลูกเต๋า ขาวเนียนจนอดไม่ได้ที่จะกัด

 

“กูไปกินเหล้า..ระ..ร้านเดิมมา..ละ..แล้วเจอพอดี.. โอ๊ยยยยยย กัดหัวนมกูอีกแล้วนะ!!!”

 

มันผลักหัวผมอย่างแรง แม่งงงงงงง ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ มันก็ผู้ชายแรงเยอะเหมือนกันนะเห้ย ใครว่าผมทำร้ายมันฝ่ายเดียวโปรดคิดใหม่นะครับ!!

 

“หึหึ ทบทวนความจำไง ครั้งแรกที่เจอกันกูก็กัดหัวนมมึง”

“สัด เป็นหมาเหรอ ถ้าหัวนมกูขาด กูก็จะกัดของมึงให้ด้วนเหมือนกัน”

“อ๊ะๆ พูดแบบนี้แสดงว่าอยากกัดเหรอจ๊ะ?”

“อยากตายละ”

 

เล่นมามากละ กลับเข้าเรื่องๆ

 

“แล้วไอ้ฮาร์ทมันพูดอะไรกับมึง”

“ก็แค่บอกว่ามึงรักคนชื่อหมอนมาก”

 

มันจะยุให้มึงกับกูเลิกกันอะสิไม่ว่า เหอะๆ

 

“เหอะ! ตัวมันจะมารู้ใจกูได้ยังไง...แล้วคุยอะไรอีก?”

“ก็ไม่มีไรแล้วนิ”

“แปลก...คราวที่แล้วมันแสดงตัวว่าเกลียดมึงมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะพูดแค่นี้”

 

ไอ้เหี้ยฮาร์ทมันคงเป็นคนจำพวกที่เห็นคนอื่นมีความสุขไม่ได้ ต้องเข้าไปทำลาย ยิ่งมารู้ว่าผมรักชอบเพศเดียวกันมันคงยิ่งขยะแขยง และถ้ามันเลิกยุ่งกับผมไปได้เลยจะดีมาก แต่นี่กลับเข้ามาป้วนเปี้ยนจนอยากทำให้มันหายไปจากโลกนี้

 

แค่เรื่องหมอนยังไม่พอหรือไง...

หรือมันจะแค้นที่ผมต้องหมั้นกับหมอนอีก?

 

“พี่ฮาร์ทเค้าพูดแค่นี้จริงๆ” ไอ้แกรนด์ทำตาใสซื่อ มันคงไม่มีอะไรจริงๆแล้วละมั้ง ผมเลยเปลี่ยนเรื่อง

“แล้ววันนี้ไปกับใครบ้าง?”

“ก็กลุ่มเดิม ไอ้ทัช ไอ้แต๊ง ไอ้เต็ง แล้วก็ไอ้บิ๊ก...เจอกลุ่มเพื่อนมึงด้วย”

“อ่อ พวกไอ้คีย์อะเหรอ”

“ใช่ๆ พี่มิลมาช่วยยกเค้กด้วย วันนี้พวกมันเอาเค้ก8ปอนด์มาเซอไพรซ์”

 

ขนาดไอ้มิลเลียนยังไปช่วยยกเค้กวันเกิด...แล้วกูทำเหี้ยไรวะ?

นั่งคุยโทรศัพท์กับพี่เพลย์และคุยกับหมอนนิดหน่อยก่อนจะวาง พอดีกับที่ไอ้แกรนด์เข้ามา..งั้นเหรอ? เหอะๆ เนี่ยน่ะเหรอการกระทำจากคนที่บอกว่ารัก เป็นผมผมคงโกรธมาก

 

“ขอโทษที่ไม่รู้วันเกิด”

“เออน่า กูก็ไม่ได้บอกมึงเองนี่หว่า มึงจะตรัสรู้เองได้ไง”

“อยากได้ของขวัญอะไรรึเปล่า”

“อยากต่อยมึงอะ”

 

เนี่ยนะ ของขวัญที่อยากได้? แต่ในเมื่อมันอยากได้ ผมก็ไม่ขัด

 

“หึ อยากต่อยกู...เจ๋งเหรอ?...ตัวตัวปะละ”

“มาดิ”

“ตัวตัวนะ...เสื้อผ้าไม่เกี่ยว”

 

วันเกิดทั้งทีมันก็ต้องต่อยในชุดวันเกิดสิวะ

 

 

 

 

 

 

Talk

ขอโทษนะคะที่หายไปหลายวัน แบบว่าตอนนี้มันเขียนยากละ

ตอนนี้ยาวๆไป หวังว่าจะไม่โกรธกันน้า ^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา