ภารกิจพิชิตใจ

-

เขียนโดย tuktalovekaewjai

วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 10.13 น.

  9 session
  18 วิจารณ์
  14.24K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) ตอนที่ 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
“ว่าไงคะ..ฉันเข้าไปได้รึยัง?”
“เชิญครับ”
“ทีหลังก็อย่าโหดกับผู้หญิงอ่อนแอบอบบางอย่างฉันให้มากนักนะพ่อรูปหล่อ”
“โอ๊ยๆ ซี้ด”
เฟย์กลับมาที่โรงแรมเดอะเบสท์อีกครั้งแล้วหลังจากรอการตรวจสอบยืนยันตัวตนว่าเธอมีรายชื่อเป็นลูกค้าของโรงแรมนี้จริงเธอได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านในได้ แต่ก่อนที่เธอจะก้าวเข้าไปเธอได้คิดบัญชีกับสองหนุ่มที่หิวปีกเธอไปโยนไว้หน้าโรงแรมเมื่อคืนนี้ก่อน ถึงแม้เธอจะตัวเล็กบอบบางแต่เรื่องกำลังมีมากเกินตัวจับพลิกแขนชายหนุ่มไปด้านหลังแล้วตีเข่าซ้ำไปอีกทีได้สบายๆ
“เว่อร์ซะไม่มี” เมื่อเธอก้าวเข้ามาในโรงแรมแบบเต็มเท้าจนถึงในตัวลิฟต์แล้วเธอสังเกตเห็นความหรูหราของเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งที่มองดูด้วยตาเปล่าก็รู้ว่ามันมีราคาแพงแม้แต่เบอร์ที่บอกเลขชั้นในลิฟต์ยังเป็นทองคำบริสุทธิ์ฝังอยู่ด้านใน
“ว้าววว!!” เพียงแค่เธอก้าวเข้ามาในห้องพักเพียงก้าวเดียวเธอมองเห็นวิวไปทั่วทั้งกรุงผ่านกระจกบานใสภายในห้อง ทั้งยังบรรยากาศการตกแต่งของทุกอย่างเป็นของมีค่ามีราคา และที่สำคัญเป็นห้องพักแบบยุโรปที่เธอชื่นชอบอยากจะไปสัมผัสด้วยตนเองที่ประเทศในยุโรปนั้น วันนี้มันอยู่ตรงหน้าเธอแล้วช่างมีความสุขเสียจริง และคิดไม่ผิดที่เธอรับปากทำงานนี้
~ติ๊ด ติ๊ด~
“ว่าไงคะพี่........มาถึงเรียบร้อยแล้วค่ะ.....ไม่ต้องห่วงค่ะที่นี่สะดวกสบายดีทุกอย่าง.......ค่าา....เจอกันค่ะ ตู๊ด~ นางไม่เคยพลาดเรื่องที่อยู่ของฉันเลยจริงๆ ฟู่..” แต่แล้วความสุขของเธอหมดลงเมื่อได้รับโทรศัพท์ของลูน่า เธอโทรมาเพื่อย้ำเรื่องภารกิจของซูซี่เพราะกลัวว่าเธอนั้นจะเพลิดเพลินกับสิ่งตรงหน้าจนลืมทำงาน
ซูซี่เอนกายล้มตัวลงนอนบนเตียงได้พักหนึ่งเธอเด้งตัวลุกขึ้นมาจัดทรงผมเสื้อผ้าเติมเครื่องสำอางลงบนใบหน้าอีกนิดและดันทรวดทรงองเอวให้เข้าที่ โดยเน้นที่จุดขายของผู้หญิงอย่างหน้าอกเป็นส่วนใหญ่ก่อนออกจากห้องพักไปที่ห้องอาหารของโรงแรมเพื่อมองหาเป้าหมายของเธอ
ห้องอาหารของโรงแรมเดอะเบสท์ถูกแบ่งออกเป็นหกร้านหกสไตล์มีทั้งไทย จีน เกาหลี ญีปุ่น ฝรั่งเศสและอิตาลีเพื่อคอยบริการลูกค้า แต่ละร้านมีขนาดพื้นที่กว้างขวางพอสำหรับให้บริการและอาหารที่ทำออกมานั้นแต่ละจานล้วนแล้วแต่มีรสชาติที่ดีจากเชฟฝีมือดีประจำโรงแรม
“เยอะแยะขนาดนี้แล้วนายนั่นจะเข้าร้านไหนเนี่ย? จิ๊!”
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับคุณผู้หญิง”
“นาย!/เธอ!”
ระหว่างที่ซูซี่กำลังใช้ความคิดว่าจะเลือกเข้าไปนั่งรับประทานอาหารร้านไหนอยู่นั้นเป้าหมายของเธอเดินเข้ามาเสนอให้ความช่วยเหลือเธอ แต่ทว่าทั้งเธอและเขาก่อนหน้านี้มีเรื่องกันมาก่อนการเจอกันครั้งนี้จึงเหมือนเป็นการคิดบัญชีเอาผิดกันมากกว่า
“เธอเข้ามาที่นี่ได้ไง”
“ฉันก็เดินเข้าประตูมาน่ะสิยะ! เจอนายก็ดีแล้วเรื่องรถฉันล่ะว่ายังไง”
“ฉันต่างหากที่ต้องถามเธอว่าจะเอายังไง”
“นายผิดนายก็ต้องรับผิดชอบสิจะมาถามฉันได้ยังไงล่ะ!!”
“ก็เธอขับรถมาชนรถฉันเองฉันจะผิดได้ยังไงเธอนั่นแหละผิด!”
“นายผิด!!”
“เธอผิด!!”
“อ๊าย! นาย..”
“อะแฮ่มๆๆ”
00! พี่ลูน่า!
ในขณะที่ซูซี่กำลังเถียงกับเขื่อนอย่างเอาเป็นเอาตายกันไปข้างหนึ่งอยู่นั้นลูน่าที่ติดตามเธอมาอย่างห่างๆ และห่วงๆ ได้เดินกระแอมเตือนสติเธอผ่านออกนอกห้องอาหารไป แล้วเหมือนสติเธอจะกลับมาว่าขณะนี้เป็นเวลางานเธอจึงรวบรวมสติ และเก็บอารมณ์โมโหเอาไว้ภายในใจพร้อมกับส่งรอยยิ้มฝืนๆ ออกมาให้กับเขา
“เอ่อ..เรื่องรถช่างมันเถอะค่ะฉันผิดเองที่ไม่ดูสัญญาณไฟจากคุณว่ารถเสีย....ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ J”
รู้ไว้ด้วยนะยะว่าฉันไม่เต็มใจ!-_-!
“ขอโทษ?? เมื่อกี้ยังด่าฉันฉอดๆ อยู่เลย.....ผีเข้ารึเปล่า?”
ยัยนี่ถ้าจะเพี้ยน
“ผีเข้าบ้านนายน่ะสิ! เอ่อ..ฉันผิดฉันก็ขอโทษคุณไงคะหรือว่าคุณไม่พอใจ?”
“ถ้าคุณขอโทษผมตั้งแต่แรกเรื่องมันก็จบผมไม่ติดใจอะไรแล้วล่ะครับ ขอตัวก่อนนะครับ” ที่เขาโวยวายเถียงกับเธออยู่นานสองนานแท้จริงแล้วไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากคำขอโทษจากเธอ ซึ่งเธอได้พูดมันออกมาแล้วและเขายินดีที่จะรับคำของเธอไว้
เมื่อเขื่อนได้ในสิ่งที่เขาต้องการแล้วเขาเร่งเดินออกจากโรงแรมเพื่อไปตามนัดของเพื่อนๆ ที่สนามแข่งรถ และเป็นเพราะเขาเสียเวลากับซูซี่ไปไม่น้อยทำให้เขาต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่รถแข่งคันงามเครื่องแรง แต่พอจะออกตัวเขากลับถูกหญิงสาวคนหนึ่งขวางหน้ารถไว้ไม่ให้เขาไปได้
“นี่คุณหลบหน่อยผมรีบ”
“คุณจะรีบไปไหนคะ”
“ผมจะรีบไปไหนแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ! หลีกไป”
~บรื้นๆๆ~
“อยากตายรึไงคุณผมบอกให้หลีกไป! อ้าวเฮ้ยขึ้นมาทำไมบนรถผมเนี่ย??” ด้วยความเร็วของผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างซูซี่ เธอวิ่งจากหน้ารถเขามาเปิดประตูข้างคนขับแล้วขึ้นมานั่งขาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแบบไม่ต้องเอ่ยปากเชิญทำเอาเขาทำอะไรไม่ถูก
“รีบไปไม่ใช่เหรอคะรีบไปสิ.........ไปสิค่ะ” ซูซี่ไม่สนใจคำถามของเขื่อนหรือแม้แต่สีหน้างงๆ ของเขา เธอออกคำสั่งให้เขารีบไปยังที่ที่เขาจะไป
ไม่ใช่ว่าเธออยากจะนั่งรถแพงๆ หรืออยากจะไปกับเขา แต่เป็นเพราะเธอต้องรีบทำงานของเธอให้เสร็จเร็วๆ จึงต้องจำใจกระโจนขึ้นรถมากับเขาด้วยเผื่อจะได้เบาะแสอะไรที่เป็นประโยชน์กับงานของเธอ
 
เขื่อนขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนดจนแทบจะผ่าไฟแดงมาถึงยังสนามแข่งรถขนาดใหญ่ ซึ่งมีแต่ลูกคุณหนูไฮโซคนรวยทั้งหลายที่รักการแข่งรถและศักดิ์ศรีที่กินไม่ได้รวมตัวกันนับหลายสิบคน และยังมีรถจำนวนมากจอดเรียงรายกันข้างถนนรวมถึงรถคันสวยหรูซึ่งคาดว่าน่าจะใช้สำหรับแข่งจอดพร้อมรออยู่ที่จุดสตาร์ท
~เอี๊ยดปั้ก~
“นี่คุณจะฆ่าฉันหรือไงเบรกแรงขนาดนี้น่ะห๊ะ!”
“แล้วใครใช้ให้คุณขึ้นรถผมมาล่ะห๊ะ!”
เขื่อนผู้มาถึงเป็นคนสุดท้ายวิ่งตรงเข้ามาจอดในที่ที่เว้นว่างไว้ แต่เขาเหยียบเบรกแรงไปหน่อยจึงทำให้ซูซี่ที่นั่งมาด้วยศีรษะไปกระแทกกับกระจกรถด้านหน้าเข้าเต็มแรง
~ก๊อกก๊อก~
“มาสายนะเว้ย”
“เออโทษทีมีเรื่องนิดหน่อย”
“แล้ววันนี้คิดยังไงพาตุ๊กตาหน้ารถมาด้วยวะ”
โทโมะหนึ่งในกลุ่มคนรักการแข่งรถเข้ามาทักทายน้องชายของเขา แต่ที่น่าแปลกคือวันนี้น้องชายของเขาพาหญิงสาวมาที่สนามแข่งนี้ด้วย ซึ่งโดยปกติแล้วในสนามแข่งแห่งนี้หากใครมีหญิงสาวนั่งหน้ารถมาด้วยไม่เป็นคนรักก็เป็นเพื่อนที่สนิทแนบชิดกันมากๆ
“ใครว่าฉันพามาล่ะ ฮึ่ย! -_-!” เขื่อนมองซูซี่อย่างไม่พอใจก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไปยังจุดที่มีการเดิมพันกันอยู่
อยากมาด้วยตายล่ะย่ะ!
ถึงเธอจะคิดแบบนั้นแต่ขา มือและสมองทำงานเข้ากันได้ดีเปิดประตูลงจากรถเดินตามเขาไปต้อยๆ เหมือนภรรยาเดินตามสามีอย่างไหนอย่างนั้น และตลอดทางมีเสียงแซวกับสายตาแทะโลมเธอมาตลอดทาง เนื่องจากชุดที่เธอใส่มันช่างล่อเสือล่อตระเข้นัก
“ว่าไงจ๊ะน้องสาว”
“แม่ฉันมีลูกคนเดียว!”
เก่ง หัสดิน ณ อยุธยา ลูกชายของคุณเทพ ณ อยุธยา นักการเมืองฝั่งตรงข้ามกับคุณพลพล เสตสุวรรณ ถามซูซี่ด้วยน้ำเสียงและสายตาตามแบบฉบับของผู้ชายเจ้าชู้ แต่ก็ถูกหญิงสาวตอกกลับไปทีอย่างไม่ไว้หน้าและเกรงกลัว
“จุ๊ๆ ฉันชอบแบบเธอจริงๆ วันนี้ฉันลงแสนนึง...ถ้าแกชนะเอาเงินไป แต่ถ้าแพ้..เธอคนนี้เป็นขอฉัน” เก่งพูดเองเออเองแล้วเดินกลับไปประจำที่ที่รถของเขาทันทีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชัยชนะ
“เธอนี่มันตัวซวยจริงๆ ไม่รู้จะตามมาด้วยทำไม!” เขื่อนต่อว่าซูซี่ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวกลับมาที่รถของเขาบ้าง
เนื่องจากคืนนี้การเดิมพันต่างไปจากเดิมทำให้มีแค่เขื่อนกับเก่งเท่านั้นที่ต้องแข่งส่วนคนอื่นๆ ต้องถอนตัวออก เพราะการแข่งครั้งนี้ถือเป็นศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายที่จะรักษาคนรักเอาไว้ (แม้จะไม่ได้เป็นจริงก็ตาม)
“ฉันขอบอกไว้ก่อนนะว่าเธอใช้วิธีแบบนี้จับฉันไม่ได้ผลหรอก”
“พูดบ้าอะไรของนายใครจะใช้วิธีไหนจับนายห๊ะ! เหวอ..กรี๊ดดดดดดด”
เขื่อนคิดเข้าข้างตนเองไว้ก่อนว่าที่เฟย์ตามเขามาจนใครๆ เข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นคนรักของเขานั้นเป็นเพราะเธอต้องการจะจับเขา แน่นอนว่าหล่อรวยแบบเขาเป็นที่หมายปองของสาวๆ อยู่แล้ว แต่ถึงแม้เขาจะมองเธอในแง่ร้ายแต่เขาจะไม่ปล่อยให้เธอไปอยู่ในมือของเก่งง่ายๆ เมื่อสัญญาณนกหวีดดังเขาเหยียบคันเร่งออกไปอย่างไม่คิดชีวิตด้วยความคิดอย่างเดียวที่จะต้องชนะเก่งให้ได้ จึงทำให้ซูซี่ที่ไม่ทันตั้งตัวหน้าเหวอร้องกรี๊ดด้วยความตกใจกลัว
เส้นทางการแข่งเป็นถนนทางตรงเกือบตลอดทั้งสายแต่ทางกลับนั้นมีโค้งอยู่ประมาณสามโค้ง ซึ่งผู้แข่งต้องดริฟท์รถผ่านแต่ละโค้งไปเพื่อโชว์กองเชียร์ที่รอดูอยู่ผ่านกล้องที่มีคนคอยถ่ายอยู่ตามจุด
รถเก่งและเขื่อนต่างผลัดกันขึ้นเป็นผู้นำแต่ส่วนใหญ่จะเป็นเก่งที่เล่นสกปรกขับรถเปลี่ยนเลนไปมาไม่เปิดโอกาสให้เขื่อนได้ขึ้นนำได้ สำหรับคนแข่งรถแล้วเป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดใจนักเมื่อถูกกระทำเช่นนี้เพราะโอกาสที่จะแพ้มีสูงเลยทีเดียว
“มันคงอยากได้เธอมากเลยนะถึงได้เล่นสกปรกแบบเนี้ย”
“ฉันไม่ใช่ของเล่นของใครนะที่ใครอยากได้ก็ต้องได้แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างว่าที่จะใจง่ายยอมไปกับใครก็ได้! นี่มันเป็นเดิมพันของพวกนายไม่เกี่ยวกับฉันอย่าเอาฉันเข้าไปเกี่ยว!!”
“เธอแต่งตัวแบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกันหรอก! ถ้าไม่อยากเป็นผู้หญิงอย่างว่าสำหรับมันก็อยู่เงียบๆ นิ่งๆ แล้วจับไว้ให้ดีๆ”
“กรี๊ดดดดดดดดด >!<”
เขื่อนไม่สนในคำพูดของซูซี่อีกตามเคยสิ้นคำเขาเท้าข้างหนึ่งเหยียบคันเร่งขึ้นแซงเก่งได้สำเร็จ แต่ความเร็วนี้เกินขีดจำกัดทางกฎหมายไปมากและเธอเองกลัวจะเกิดอุบิตเหตุทำให้เธอห้ามเสียงร้องของเธอไม่ได้ปล่อยร้องออกมาสุดเสียงและหลับตาปี๋
ตอนนี้เขื่อนขึ้นนำมาเป็นที่หนึ่งและทิ้งระยะห่างจากเก่งอยู่มากแต่เขายังไว้ใจไม่ได้ว่าจะไม่ถูกแซงไปอีก ในโค้งสุดท้ายก่อนจะถึงเส้นชัยเขาจึงไม่ผ่อนคันเร่งกลับเหยียบเพิ่มความเร็วจนมิดเข้าสู่เส้นชัยได้อย่างสวยงามเฉียดฉิวกับเก่งไปแค่วินาทีเดียว
“เฮ.............” เสียงโห่ร้องจากกองเชียร์ฝ่ายของเขื่อนร้องขึ้นแสดงความยินดีที่เขาชนะและดีใจที่ตนได้เดิมพันครั้งนี้ด้วย ซึ่งเขาไม่เคยทำให้ผิดหวังชนะเก่งไปได้อีกครั้งหนึ่ง
~ตู้ม~
“เขื่อน!/ซูซี่!”
เสียงดีใจของทุกคนถูกลบด้วยเสียงระเบิดจากรถเขื่อนที่ใช้แข่งเมื่อครู่นี้ ซึ่งทุกคนคิดว่าเขื่อนกับซูซี่นั้นยังคงไม่ลงจากรถเป็นแน่เพราะพวกเขาเพิ่งเข้าเส้นชัยไป และคงไม่เหลือชิ้นส่วนของพวกเขาแล้ว
“ฮะฮ่าๆๆ สะใจจริงเว้ย ฮ่าๆๆๆ” เก่งหัวเราะสะใจเมื่อมองดูผลงานของตน เป็นฝีมือของเขาเองที่บอกให้ลูกน้องแอบติดระเบิดไว้ใต้ท้องรถของเขื่อนตอนที่ทุกคนให้ความสนใจกับการลงพนันอยู่ เมื่อเขาไม่เคยแข่งรถชนะได้เขาจำต้องกำจัดเขื่อนไปด้วยวิธีนี้
“หัวเราะอะไรวะ”
“เฮ้ย! กะ..แกทำไมยังไม่ตายอีกวะ!”
“ตายง่ายๆ ก็ไม่ใช่ฉันสิวะ....เล่นสกปรกแบบแกเทวดานางฟ้าที่ไหนก็ไม่เข้าข้างหรอกเว้ย แสนนึงค่าพนัน..ส่วนรถฉันสิบห้าล้านขอคิดค่าดอกเบี้ยก่อนก็แล้วกัน”
http://baaniyayfiction.com/ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา