Who I am ? สำหรับนายฉันเป็นใคร

10.0

เขียนโดย knara627

วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 11.48 น.

  2 Chapter
  12 วิจารณ์
  6,349 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 19.40 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          
Start
 
 
 
บรรยากาศก็เหมือนทุกๆวัน เสียงเด็กหนุ่มสาวมากมายต่างคุยเล่นกันไม่สนใจใครภายในห้องฝึก
ซ้อมเสียงดังดั่งนกกระจอกแตกรังหลังจากผ่านพ้นการฝึกซ้อมคอนเสิร์ตกันอย่างหนักหน่วงแต่ใน
เวลาพักเช่นนี้กลับไม่มีใคร พัก อย่างจริงจังเลยสักคนเดียวเพราะกิจกรรมอย่างอื่นนั้นดุดดูดมาก
เกินไป เพียงแต่วันนี้แตกต่างออกไปเพราะมีหญิงสาวร่างโปร่งนั่งอยู่มุมห้องอย่างอ่อนเพลีย เธอ
กำลังเหนื่อยอย่างที่ไม่เคยเป็นทั้งๆที่เพิ่งวอร์มไปนิดเดียว อาจเป็นเพราะการซ้อมในช่วงนี้นั้นหัก
โหมทำให้เธอที่อ่อนแอทางร่างกายกว่าผู้อื่นเริ่มจะมีอาการ ป่วย แต่เธอก็เลือกที่จะเก็บอาการไว้
เพื่อให้การซ้อมเพลงรวมเป็นไปอย่างราบรื่น
 
 
 
 
 
 
 
“อ่ะ น้ำ” เสียงทุ้มแหลมที่คุ้นเคยเอ่ยขึ้นทำให้สาวร่างโปร่งที่นั่งเหม่อลอยเงยหน้าขึ้นมองตาม
เสียง
 
 
 
 
 
“ขอบใจ” เอ่ยคำขอบคุณแล้วรับขวดน้ำเย็นที่แกว่งอยู่ตรงหน้ามาเปิดดื่มแก้กระหาย
 
 
 
 
 
“วันนี้ไม่ไปเล่นกับพวกนั้นหรอ” ชายหนุ่มวัย 18 ปีเพื่อนที่เธอค่อนข้างสนิทเอ่ยขึ้นหลังจากที่
เธอรับน้ำจากเขามาแล้วนั่งลงข้างๆมองไปยังกลุ่มผู้หญิงซี้ปึ้กของเธอ
 
 
 
 
 
“เหนื่อยหน่ะ แล้ว ‘เขื่อน’ ไม่ไปเล่นกับพวกนั้นหรอ”หญิงสาววัยเดียวกันพูดกับคนข้างกายอย่าง
ไม่ใส่ใจนัก เธอรู้สึกแย่ชะมัดหยั่งกับว่าตอนนี้ร่างกายเธอกำลังแหลกละเอียดเพราะความปวดร้าว
ได้ลามไปทุกส่วนของร่างกายแล้วโดยเฉพาะศีรษะ
 
 
 
 
 
“ก็เห็น ‘เฟย์’ นั่งอยู่เลยสงสัย ปกติไม่เห็นเป็นแบบนี้” เขื่อนพูดมองเธอยิ้มๆ พลางจับสังเกตุเฟย์
ที่มีอาการแปลกๆ
 
 
 
 
 
“.......สังเกตุด้วยรึไง” เฟย์ถามเล่นๆพลางกดขมับเพื่อบรรเทาความทรมาณ
 
 
 
 
 
“หึ ไม่ได้สังเกตุแต่ดูก็รู้” พูดกับตัวเองเบาๆจนทำให้เฟย์ที่ลูบหน้าตัวเองฟังไม่ถนัด
 
 
 
 
 
“หือ? พูดไรนะไม่ได้ยิน”
 
 
 
 
 
“ไม่สบายทำไมไม่อยู่บ้าน” เขื่อนพูดแต่ตากลับกำลังมองพวกเพื่อนตัวแสบของเขาทั้งหลายที่
กำลังหยอกล้อไปมาอย่างขำขัน
 
 
 
 
 
“ใครไม่สบาย สบายดีหย่ะ - - “ เฟย์ตอบหันมองไปทางเขื่อน ‘รู้ได้ยังไงกัน’
 
 
 
 
 
“บอกฟางรึยัง” และดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจคำตอบเธอเลย
 
 
 
 
 
“จะบอกพี่ฟางทำไมก็ฉันสบายดี”
 
 
 
 
 
“เฮ้ออ ดูดิ๊” ยกมือขึ้นปัดผมหน้าม้าของเพื่อนสาวแล้วทาบหลังมือไปที่หน้าผากเธอที่นั่งมองไป
ยังมีนที่กำลังสอนเพื่อนที่เป็นรุ่นน้องทำหน้าฮิปโปจนทุกคนพากันหัวเราะจนท้องแข็ง
 
 
 
 
 
“ทำไรของแกเนี่ย” เฟย์พูดเมื่อรู้สึกถึงแรงสัมผัสที่หน้าผากแล้วปัดมือเขื่อนออกเบาๆ
 
 
 
 
 
“เป็นไข้ทำไมไม่กินยา”
 
 
 
 
 
“...........” ไม่มีเสียงตอบออกจากปากบาง
 
 
 
 
 
“รอนี่ก่อนเดี๋ยวไปขอยามาให้” เขื่อนพูดแล้วลุกขึ้นยื่นทำเอาเฟย์ขว้าข้อมือเขาแทบไม่ทัน
 
 
 
 
 
“ไม่ต้อง”
 
 
 
 
 
“.........” แกะมือเรียวออกจากข้อมือตนเองแล้วเดินออกไป และมันจะดีกว่านี้ถ้า....
 
 
 
 
 
“ไอเขื่อนไปไหนวะ จะหมดเวลาพักแล้วนะเว้ย” ป๊อปปี๊ที่เห็นเขื่อนกำลังเปิดประตูจึงตะโกนเรียก
เสียงดังทำเอาเสียงในห้องเงียบไปครึ่งนึงเลยทีเดียว ‘เสียงดังมันขัดอารมณ์เม้านะยะ’ ตามคำที่มิ
ล่าเคยกล่าวเอาไว้ไม่ผิด
 
 
 
 
 
“เออ เดี๋ยวมาไปเอายาให้เฟย์ แป๊ปนึง” เขื่อนตอบแล้วปิดประตูโดยที่ไม่รู้เลยว่าคำตอบของเขา
ทำให้เพื่อนเกือบครึ่งห้องหันมาทาง เธอ ด้วยความสงสัยมากมาย ‘ไอเขื่อนเนี่ยนะ จะไปเอายา
ให้!’
 
 
 
 
 
 
สายตาที่จ้องมองทำเอาเธอที่หลับตาพิงหัวกับกำแพงอยู่ที่มุมห้องลืมตาขึ้นเพราะความรู้สึกจั๊กจี๊
ที่ประสาทสัมผัสตามสัญชาตญาณและการที่เธอกำลังสะลึมสะลือทำให้ไม่ได้ยินสิ่งที่คนที่เคยนั่ง
ข้างๆพูดออกไป ก็งงสิคะงานนี้ หันมองซ้ายขวาไม่แน่ใจว่าถูกมองหรือเปล่าแต่จะให้คิดเป็นอย่าง
อื่นก็คงยากเพราะตรงนี้มีเธอคนเดียว ยกมือขึ้นชี้ตนเองอย่างอ่อนแรงเชิงคำถามทำเอา แก้ว
เพื่อนสนิทร่วมวงที่นั่งอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่กำลังมองเธออยู่พยักหน้าเบาๆเป็นคำตอบ
 
 
 
 
 
 
 
“เอ่อ ว่าไงมีอะไรรึเปล่า ^^;; ”
 
 
 
 
 
“...................................................................................” เงียบกริบไม่มี
เสียงอะไรทั้งสิ้นทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เสียงดังจนเธอหนวกหู เธอทำอะไรผิดหรือเปล่า?
 
 
 
 
 
แอ๊ดดดด เสียงเปิดประตูพร้อมผู้ที่กลับมาทำเอาสายตาที่มองเฟย์เบือนไปที่เขาทันที และด้วย
ความที่ ‘ค่อนข้าง’ รีบร้อนทำให้เขื่อนไม่ได้เอะใจอะไรเดินเข้ามาหาเฟย์ที่นั่งอยู่ที่เดิมไม่ได้ขยับ
ไปไหนพร้อมส่งยาแก้ปวดให้ซึ่งเธอก็รับไปกินอย่างโดยดี ซึ่งทุกการกระทำของทั้งคู่ก็ถูกจ้อง
มองด้วยเหล่าผองเพื่อนภายในห้องซ้อมซึ่งแปลว่าทั้งค่าย30กว่าคนนั่นเองจนในที่สุด.....
 
 
 
 
 
“ฮั่นแน่ ฮั่นแน่ กุ๊กกิ๊กกันก็ไม่บอกกกกกกกกกก มีเอายงเอายาให้ ฮิ้ววววววว” หนึ่งในนั้นพูดขึ้น
ทำเอาเสียงมากมายพากันตามน้ำจนเขื่อนยกมือขึ้นเกาหัวงงๆ เช่นเดียวกับเฟย์ที่ถือขวดน้ำเล่น
ทำหน้างงงวยไม่แพ้กัน
 
 
 
 
 
เสียงโห่ร้องค่อยๆเงียบลงเพราะผู้มาเยือนใหม่ซึ่งก็คือกลุ่มครูฝึกสอนที่แทบมาทุกคนเพราะคน
สองคนคงคุมเด็กวัยรุ่นชายหญิงจำนวนมากเพื่อฝึกซ้อมไม่ไหวเป็นแน่
 
 
 
 
 
สายตาเชื่อมปรือขึ้นด้วยฤทธิ์ไข้มองไปยัง ฟาง พี่สาวของตนที่กำลังคุยกับเขื่อนแล้วมองมาที่เธอ
‘เฮ้ออ มายุ่งทำไมกันแค่เป็นไข้นิดหน่อยเองทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้’ เธอคิดแล้วยันตัวขึ้นช้าๆ
อย่างไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงอ่อนแอขนาดนี้ มองร่างพี่สาวที่สาวเท้าเดินเข้ามาหาตนด้วยสาย
ตาดุๆเอาแล้วสิงานนี้ อารมณ์ขี้หงุดหงิดของผู้เป็นพี่ยิ่งทำเธอผวาอยู่บ่อยๆซะด้วย
 
 
 
 
 
 
“เฟย์ โกหกทำไม” ฟางยืนกอดอกพูดขึ้นเพราะขากลับจากไปรับน้องเธอที่โรงเรียนก่อนมาที่นี่
เธอก็ถามผู้เป็นน้องที่ดูอ่อนเพลียไปแล้วเรื่องอาการป่วยที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
 
 
 
 
 
“เฟย์ไม่เป็นไรจริงๆไปเข้าที่เร็วเดี๋ยวโดนดุหรอก” เฟย์พูดพร้อมส่งยิ้มให้ร่างที่เล็กกว่า
 
 
 
 
 
“เฟย์ไปนั่งไม่ต้องซ้อม เดี๋ยวพี่บอกพี่ก๊อฟเอง”ฟางเท้าสะเอวพูด
 
 
 
 
 
“พี่ฟาง เฟย์ไม่ตายหรอกน่าไปได้แล้ว”
 
 
 
 
 
“เฟย์!!!!”เรียกชื่อน้องสาวอย่างหงุดหงิดเพราะเป็นห่วง
 
 
 
 
 
“คราวนี้แค่รันคิวนะ เฟย์ฟางเตรียมตัวได้แล้ว” เสียงครูฝึกดังขึ้นทำให้ฟางต้องงยอมปล่อยน้อง
ตนไปด้วยสีหน้าไม่พอใจที่เธอไม่ยอมฟัง ‘ถ้าเป็นหนักกว่าเดิมจะหาว่าไม่เตือน เฟย์!!!’
 
 
 
 
 
วงต่างๆผ่านไปอย่างรวดเร็วจนถึงคิวของวงเธอ เฟย์ ฟาง แก้ว เรื่องการซ้อมครั้งนี้เธอก็ไม่ค่อย
จะเข้าใจนักเพราะเพลงรวมก็ไม่มีอะไรมากจะให้มารวมตัวสร้างความวุ่นวายและสร้างความน่าเบื่อ
กับการนั่งดูคนอื่นซ้อมบ่อยๆเพื่ออะไร จะปริปากบ่นก็ไม่ได้เพราะคงจะถูกมองไม่ดีแน่ๆ
 
 
 
 
 
“เฟย์ ไหวมั้ยลูกสีหน้าไม่ดีเลย พักก่อนมั้ย?” พี่กอฟครูสอนเต้นของเธอพูดขึ้นหลังจากซ้อมคิว
การเดินและมาร์คจุดยืนคร่าวๆ ทำเอาฟางตวัดสายตามามองทันทีจนเธอแทบเปลี่ยนสีหน้าไม่ทัน
 
 
 
 
 
“เอ่อ ไหวค่ะๆ ^^ ”
 
 
 
 
 
“อ่ะ อ่ะ ต่อๆ” มองอย่างไม่ค่อยแน่ใจแล้วหันกลับไปพูดต่อ
 
 
 
 
 
และการซ้อมก็ดำเนินไปจนถึงเวลาแยกย้ายกันกลับบ้าน
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
บ้านนีระสิงห์ยามดึก
 
 
 
 
 
ภายในห้องลูกสาวคนกลางของครอบครัวนั้นเจ้าของห้องที่เพิ่งเสร็จจากการอาบน้ำใหม่ๆก็มานั่ง
แหมะอยู่บนเตียงของตนเองเพลียๆ เธอยังไม่หายจากอาการป่วยแต่พรุ่งนี้คือวันสุดท้ายที่จะซ้อม
ในห้องซ้อม โอ้ ให้มันได้อย่างงี้สิ
 
 
 
 
 
ก๊อก ก๊อก
 
 
 
“ไม่ได้ล็อกค่ะ”เสียงใสเอ่ยขึ้น
 
 
 
 
 
“ดีขึ้นรึยังเฟย์ ต้องให้นอนด้วยมั้ย” พี่สาวของเธอที่เดินเข้ามาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและ
เป็นห่วง น้องสาวเธอคนนี้ไข้ขึ้นทีไรฝันร้ายทุกทีจนเธอต้องยอมนอนด้วยเสมอถึงบางครั้งจะทำ
ให้ตัวเองติดหวัดไปด้วยก็ตาม
 
 
 
 
 
“ก็ดีขึ้นแล้ว เฟย์ว่าจะลองนอนคนเดียวตอนไม่สบายดู แล้วก็ถ้านอนกับพี่ฟางเดี๋ยวจะติดไปอีก
คน พี่ฟางกลับไปนอนเถอะดึกแล้ว ^^ “ เฟย์ตอบฟาง ใช่ เธอดีขึ้นแล้วหลังจากกินยาต่างๆ
มากมายที่แม่เธอเอามาโด๊บให้เพื่อจะได้หายเร็วที่สุด
 
 
 
 
 
“แน่ใจนะ”
 
 
 
 
 
“อื้ออ ถ้าไม่ไหวจะไปเคาะห้องแล้วกัน” เมื่อตกลงกันเรียบร้อยฟางจึงกลับห้องตนที่อยู่ตรงข้าม
ไปโดยไม่ลืมปิดไฟให้ส่วนเฟย์ก็สอดตัวเข้าใต้ผ้าห่มก่อนจะข่มตาให้หลับโดยเร็ว เธอต้องรีบ
ชาร์ตแบต
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
กลางดึก
 
 
 
 
เฮือกก!!! แฮ่กๆๆ เสียงหอบหายใจอย่างรุนแรงดังขึ้นในห้องนอนของเฟย์ เธอฝันร้าย ฝ่ามือยก
ขึ้นลูบใบหน้าที่มีคราบน้ำตา ยันตัวลุกขึ้นอย่างรวดเร็ววิ่งออกจากห้องไปเคาะห้องพี่สาวทันที
ลองบิดลูกบิดดู ก็พบว่าไม่ได้ล็อกคงจะรู้ว่าสุดท้ายเธอก็ต้องมา ปิดประตูให้เบาที่สุดก่อนจะเดิน
ไปยังเตียงที่มีร่างคุ้นเคยหลับอยู่ สอดตัวลงข้างๆอย่างสั่นๆเธอกลัว เกลียดความฝันของตัวเอง
ความฝันที่เธอฝันแบบนี้มาตั้งแต่เด็กมันไม่มีภาพมีแต่ความรู้สึกความรู้สึกของความอึดอัด ความ
ไม่เข้ากันของอะไรบางอย่าง ไม่มีใครเข้าใจเธอและเธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันเพราะเวลาเธอตื่นขึ้นมา
ความรู้สึกที่เคยแน่ชัดเมื่ออยู่ในความฝัน กลับเลือนรางจนไม่สามารถอธิบายอะไรออกมาได้
น้ำตาไหลออกมาช้าๆ อ่อนแอจริงๆเรา ว่าจะยกมือขึ้นปาดออกก็ถูกชิงตัดหน้าด้วยมือพี่สาว
 
 
 
 
 
 
 
 
“ไม่ต้องกลัวแล้ว.....เฟย์”เอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนพลางเช็ดน้ำตาของคนเป็นน้องอย่าง
เบามือแล้วจับใบหน้าไว้เบาๆ
 
 
 
 
 
“ไม่ได้กลัว แค่รู้สึกไม่ดี” ว่าไปน้ำตาก็ไหลออกมาอีกเธอมักเป็นแบบนี้เสมอ ยิ่งปลอบยิ่งร้อง ยิ่ง
พูดยิ่งอ่อนแอและก็ยิ่งต้องการให้สนใจ ขยับตัวให้ใกล้พี่สาวมากขึ้นอย่างคนต้องการความอบอุ่น
เธอชอบอยู่ใกล้พี่เวลาแบบนี้เสมอ รู้สึกปลอดภัย ถึงแม้เธอจะอยู่มอหกแล้วแต่ก็ยังรู้สึกอ่อนแอ
ถึงแม้เธอจะดูเป็นผู้ใหญ่กว่าพี่ในสายตาคนหลายๆคนแต่ความจริงแล้วเธอกลับเป็นน้องที่ต้องการ
ให้พี่ปกป้องดูแลตลอดเวลา ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองนั้นเป็นลูกแหง่
 
 
 
 
 
 
“โอเคๆไม่กลัว เฟย์ไม่ได้กลัว งั้นนอนเนอะพรุ่งนี้จะได้หายดี ขยับมาอีกก็ได้นะพี่ไม่อึดอัด
หรอก”ฟางพูดแล้วยกมือขึ้นลูบหัวน้องสาวสุดที่รักก่อนจะดึงเข้ามากอดแนบกาย ถึงเธอจะตัวเล็ก
กว่าแต่น้องเธอก็ยังต้องการอ้อมกอดของเธอเสมอเธอรู้ดีกว่าใคร และด้วยความผูกพันธุ์ขนาดนี้ก็
ทำให้หลายๆคนนึกว่าทั้งคู่เป็น พี่น้องเลสเบี้ยน ไปโดยปริยายทั้งๆที่เธอนั้นก็มีแฟนอยู่แล้วซึ่งก็
คือคู่จิ้นของเธอ.............. ป๊อปปี๊
 
 
 
 
 
 
 
 
“พี่ฟาง.....”ผ่านไปไม่นานนักสาวร่างโปร่งที่ซุกอยู่ในอ้อมกอดพี่สาวก็เอ่ยขึ้นงึมงัม
 
 
 
 
 
“หืม?”
 
 
 
 
 
“ที่เฟย์บอกว่าไม่กลัว..................เฟย์โกหก” ฟังแทบไม่รู้เรื่องเพราะเธอพูดด้วยเสียงที่แผ่ว
เบา แต่สำหรับฟางแล้วเธอฟังออกอย่างง่ายดาย เผยยิ้มออกมาบางๆเมื่อน้องสาวกระแซะเข้ามา
ใกล้และขดตัวเป็นกิ้งกือเพื่อให้ใกล้เธอมากที่สุด ยัยเฟย์นะยัยเฟย์ แล้วถ้าพี่ไม่อยู่จะมีชีวิตอยู่ได้
มั้ยหล่ะเนี่ย เมื่อไหร่จะโตได้นะเรา
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา