[FIC BEAST] BAD LOVE...ผู้ชายเลว!

10.0

เขียนโดย doraaung

วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 17.50 น.

  45 ตอน
  5 วิจารณ์
  68.46K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 17.55 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

45) หมดเวลาแล้ว

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
[FIC BEAST] BAD LOVE…ผู้ชายเลว!
Special …หมดเวลาแล้ว…
 
 
 
การรอคอย สำหรับคนที่เฝ้ารอแล้ว เพียงแค่เวลาหนึ่งนาทีก็ยังนานเกินไป
 
 
“เฮ้ออออ ไม่ไหวแล้วนะ”
 
 
“บ่นให้มันได้อะไร ไม่ไหวแล้วไง”
 
 
“ก็คิดถึงอ่า คนมันคิดถึงอ๊ะ”
 
 
“บอกกูทำไม คิดว่าหน้าอย่างกูนี่เป็นกีกวังได้เหรอ ไอ้ดงอุน!!”ดูจุนนั่งไขว่ห้างมองหน้าเพื่อนอย่างเซ็งๆกับท่าทางเหมือนคนกำลังจะขาดอากาศหายใจอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่กีกวังไป นี่มันก็ปากเข้าไปอาทิตย์กว่าแล้ว ดงอุนก็ยังเอาแต่ทำหน้าเป็นตูดอยู่ไม่เปลี่ยน
 
 
“มัวแต่คิดถึงกีกวัง เพื่อนมึงทั้งคนไปไหนไม่ห่วงเลยหรือไง”
 
 
“ห่วงสิวะ ทำไมจะไม่ห่วง แต่ยังไงมันก็ต้องกลับมาอยู่ดี”ดงอุนจ้องตากับ ดูจุนนิ่ง ทั้งสองคนเหยียดยิ้มเล็กน้อยเพราะต่างก็รู้จักจุนฮยองเป็นอย่างดี
 
 
“มึงพนันกับกูไหม”
 
 
“กูว่าไม่เกินสองปี”ดูจุนพูดอย่างมั่นใจ
 
 
“งั้นกูเอาสองปี เอ๊ะ ปีเดียว เอ่อ สองปีๆดีกว่า เวลากำลังพอดี ให้มันกลับมาพร้อมกับกีกวังเลย อิอิ”
 
 
“สุดท้ายก็วกกลับมาเรื่องกีกวังอยู่ดี”
 
 
“ทำไมอ่า ก็กูรักของกู”
 
 
“ไม่รักไอ้จุนหรือไง”
 
 
“นั่นกูก็รัก สรุปกูรักทั้งสองคนนั่นแหละ มึงจะถามทำไมนักหนาวะ เดี๋ยวกูก็ไปรักเจ้าเด็กโยของมึงเลยนี่”
 
 
“เดี๋ยวมึงจะโดนตีน”ดูจุนยกเท้าขึ้นมาโชว์ตรงหน้าดงอุน
 
 
“ไอ้นี่ มึงรีบไปหาไอ้เด็กซาลาเปาของมึงเลยไป”
 
 
“มึงว่าใครซาลาเปา”
 
 
“จะใครซะอีกล่ะ เจ้าเด็กโยซอบอ้วนกลมไง มึงนี่นะเลี้ยงดีเกินไปนับวันยิ่งบวม”ดงอุนพูดไปอมยิ้มไปอย่างกลั้วหัวเราะ
 
 
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง ถ้าไม่ติดว่าโยจะรอนะ กูถีบมึงไปดาวอังคารแน่”
 
 
“โฮะๆ กูรับฝาก อย่าลืมมาถีบกูล่ะ แบร่”ดงอุนแลบลิ้นใส่เพื่อนอย่างสะใจ ดูจุนส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินออกจากห้องของดงอุนไปตามนัดโยซอบ
 
 
“เฮ้ออ กีกวัง ฉันคิดถึงนายจริงๆ ทำไมนายไม่กลับมาพรุ่งนี้เลยนะ”ดงอุนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างเศร้าๆด้วยความคิดถึงกีกวัง
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“กลับมาก่อนได้ยังไง”
 
 
“แม่ไล่”
 
 
“เอ๋ แม่นี่นะจะกล้าไล่นาย”
 
 
“ก็แม่เนี่ยแหละไล่ บอกว่าใช้เงินเปลือง ให้ตายเถอะ”ฮยอนซึงมองหน้าน้องชายที่ตอนนี้สีหน้าอารมณ์เสียสุดๆเขามองของที่วางอยู่เต็มห้องอย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมถึงถูกไล่กลับ
 
 
“ไม่ไหวเลยนะกีกวัง ซื้อของแต่ละอย่างแพงๆทั้งนั้น”
 
 
“ก็มันสวยนี่นา ให้ทำยังไงได้ล่ะ แม่นะแม่”กีกวังล้มตัวลงนอนอย่างงอแง ฮยอนซึงได้แต่ส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินไปนอนข้างๆแล้วกอดน้องชายที่รักด้วยความคิดถึง
 
 
“นายกลับมาก็ดีแล้ว พี่จะได้เลิกเหงาเสียที”น้ำเสียงเศร้าๆของฮยอนซึงทำให้กีกวังต้องรีบหันหน้าไปมองอย่างตกใจ
 
 
“พี่ฮยอนซึง อย่าเศร้าเลยนะ”
 
 
“พี่ไม่ได้เศร้าซักหน่อย”ฮยอนซึงยิ้มออกมาอย่างเศร้าๆ กีกวังดึงพี่ชายเข้ามากอดอย่างรวดเร็ว
 
 
“ผมอยู่ตรงนี้แล้ว น้องชายของพี่อยู่นี่แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ”น้ำตาของ ฮยอนซึงค่อยๆไหลลงมาอย่างช้าๆ
 
 
จุนฮยอง ฉันผิดสัญญาอีกแล้ว ฉันร้องไห้อีกแล้ว
 
 
“พี่ฮยอนซึง”
 
 
“หืม”
 
 
“อยู่โน่นผมคิดถึงพี่ทุกวันเลยนะ”ฮยอนซึงยิ้มออกมาบางๆ
 
 
“คิดถึงตลอดเวลาเลย”
 
 
“งั้นเหรอ”
 
 
“อะไรกัน พูดยังกับไม่เชื่อผมงั้นแหละ”กีกวังผลักฮยอนซึงออกมามองหน้า
 
 
“จะเชื่อดีไหมน๊า ปากบอกว่าคิดถึงพี่ แต่หัวใจของนายคงจะคิดถึง…”
 
 
“พี่ฮยอนซึงบ้า ผมจะไปคิดถึงหมอนั่นทำไมกันเล่า”กีกวังลุกขึ้นจากเตียงด้วยความอายเมื่อนึกถึงใบหน้าและรอยยิ้มของดงอุน
 
 
“อะไรกัน นายไม่คิดถึงโยซอบเพื่อนรักของนายเลยเหรอ”
 
 
“ง่า”ฮยอนซึงลุกขึ้นนั่งแล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆที่ได้แกล้งน้องชายเล่น
 
 
“อะไรกัน อายหน้าแดงเชียว”
 
 
“อายอะไรกันเล่า โอ๊ย ไม่รู้แล้ว หิวน้ำชะมัดเลย ลงไปกินดีกว่า ฮึ่ย!!”กีกวังกระทืบเท้าก่อนจะเดินลงไปด้วยสีหน้าเหมือนจะโกรธ
 
 
“เดี๋ยวคืนนี้ก็ได้วิ่งแจ้นไปหาเขา กีกวังเอ๊ย”ฮยอนซึงส่ายหน้าเบาๆก่อนจะถอนหายใจออกมาแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียง
 
 
จุนฮยอง ตอนนี้นายอยู่ไหนนะ กำลังคิดถึงฉันอยู่ไหม ฉันคิดถึงนายจัง
 
 
“ฮึ่ย! ไม่ได้คิดถึงซักหน่อย ไม่ได้คิดถึงเลย ไม่มี ไม่ ไม่ ไม่ได้คิดถึง ไม่เด็ดขาด เฮ้อออ”กีกวังล้มตัวลงนอนบนโซฟาด้วยหัวใจที่อยู่ไม่เป็นสุข
 
 
“คิดถึงก็ได้”แล้วเขาก็ยิ้มออกมาบางๆ
 
 
ติ๊ดๆ
 
 
“เอ๋ ว่าไงโยซอบ”
 
 
(นายทำอะไรอยู่กีกวัง)
 
 
“เอ่อ นอน นอนอยู่เฉยๆ นายมีอะไรเหรอ”
 
 
(นายฟังเค้าให้ดีๆนะ เค้าจะพูดแค่รอบเดียวแล้วก็กดวางสายทันที)
 
 
“เอ่อ ได้ๆ ว่ามาสิ”กีกวังขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัย
 
 
(ดงอุนมีกิ๊ก แค่นี้นะ)
 
 
ตูดๆๆ
 
 
“เฮ้ โยซอบๆ นี่”กีกวังรีบกดโทรศัพท์โทรหาโยซอบทันที
 
 
(หมายเลขที่ท่านเรียก…)
 
 
“อะไรวะเนี่ย หมอนั่นมีกิ๊กงั้นเหรอ”กีกวังกำมือถือแน่นอย่างเจ็บใจ
 
 
“ซนดงอุน ได้เห็นดีกันแน่”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“ฮ่าๆๆๆ”โยซอบนอนหัวเราะกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงด้วยความสะใจ
 
 
“เดี๋ยวเถอะโย ไม่กลัวสองคนนั้นทะเลาะกันหรือไง”
 
 
“จะกลัวทำไมล่ะ กีกวังอยู่ตั้งไกล คงไม่บินกลับมาตบกบาลดงอุนหรอก”
 
 
“จะไปรู้ได้ยังไง กีกวังอาจจะบินกลับมาเชือดคอเพื่อนพี่ก็ได้นะ”โยซอบยักไหล่เล็กน้อย
 
 
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ช่วยไม่ได้นี่ ดงอุนอยากมาว่าเค้าเป็นซาลาเปาทำไมกัน”โยซอบลุกขึ้นนั่งกอดอกอย่างเจ็บใจกับคำพูดของดงอุนที่ดูจุนเล่าให้ฟัง
 
 
“เค้าไม่ได้ตัวอ้วนกลมนะ แล้วก็ไม่ได้บวมด้วย แค่อวบๆเอง”ดูจุนยิ้มที่มุมปากนิดๆกับท่าทางงอนๆของโยซอบในตอนนี้ เขาเดินไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าโยซอบแล้วก็จับมือของโยซอบมากุมอย่างอ่อนโยน
 
 
“โยจะเป็นซาลาเปา ตัวอ้วนกลม ตัวบวมแล้วยังไงกัน ยังไงโยก็เป็นคนที่พี่รักอยู่ดี ต่อให้โยอ้วนเป็นตุ่มพี่ก็ยังจะรักโย”โยซอบเบะปากเล็กน้อยแต่ก็แอบยิ้มกับคำบอกรักของดูจุน
 
 
“ให้มันจริงเถอะ ไม่ใช่เค้าอ้วนขึ้นมาจริงๆแล้วก็ทิ้งเค้าไป”
 
 
“โยครับ จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงกัน ต่อให้อ้วนจนเดินไม่ได้ พี่ก็จะรักโย”รอยยิ้มของโยซอบเริ่มกว้างขึ้น
 
 
“แล้วโยล่ะ”
 
 
“จะถามทำไมเล่า รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้วนี่ว่ายังไงก็รัก”โยซอบนั่งบิดไปบิดมาอย่างอายๆหน้าก็เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ
 
 
“ทำไมวันนี้ถึงอายได้ล่ะโย ปกติบอกรักพี่บ่อยจะตาย”
 
 
“ก็มันอายเองนี่ จะไปรู้ได้ยังไงเล่า”ยิ่งพูดหน้าของโยซอบก็ยิ่งแดง
 
 
“หน้าแดงแบบนี้น่าหอมจริงๆเลย”พูดจบดงอุนก็แอบหอมแก้มโยซอบทันที
 
 
“อะไรกันเนี่ย”โยซอบยกมือขึ้นมาแตะแก้มอย่างตกใจ
 
 
“โยโกรธเหรอครับ”
 
 
“โกรธ!!”
 
 
“โย…”สีหน้าบึ้งๆของโยซอบทำให้ดูจุนเริ่มใจสั่นเขารีบกอดโยซอบทันที
 
 
“พี่ขอโทษนะครับ พี่ขอโทษ”
 
 
“แค่ขอโทษไม่พอหรอก ต้องหอมด้วย”ประโยคสุดท้ายโยซอบพูดอย่างเขินอาย ดูจุนมองหน้าโยซอบอย่างโล่งใจ
 
 
“นี่โยแกล้งพี่เหรอ”
 
 
“อิอิ”
 
 
“อย่างโยน่ะ แค่หอมมันยังน้อยไป”
 
 
พรึ่บ!!
 
 
ดูจุนกดโยซอบให้ล้มตัวลงนอนบนเตียงก่อนจะจูบปากโยซอบอย่างอ่อนโยน
 
 
“มันต้องจูบแบบนี้”ดูจุนพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
 
 
“จูบแค่นี้จะพอเหรอ”รอยยิ้มของโยซอบให้ให้หัวใจของดูจุนอยู่ไม่เป็นสุข เขายกมือขึนลูบใบหน้าของโยซอบก่อนจะก้มลงจูบหน้าผาก
 
 
“จะพอได้ยังไงกันเล่า ไหนๆก็เริ่มแล้วมาทำให้มันจบกันเถอะนะ”
 
 
“พี่ดูจุนบ้า อ๊า”
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
“ดงอุนนะดงอุน ทำกับฉันได้ นายได้ตายดีแน่”กีกวังกำหมัดแน่นก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อข่มใจ เขาถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะกดกริ่งหน้าห้องของดงอุน
 
 
ติ๊งหน่องๆ
 
 
แอ๊ดดดดดด
 
 
“เอ๋”ดงอุนกระพริบตามองคนตรงหน้าอย่างงงๆ
 
 
“ผมไม่ได้สั่งนะครับ คุณคงส่งผิดห้องแล้วล่ะ”
 
 
“ไม่ผิดหรอกครับ มีคนสั่งมาให้ห้องนี้”เสียงเข้มๆทำให้ดงอุนแปลกใจเล็กน้อย เขาพยายามมองใบหน้าของเด็กส่งพิชซ่าที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตา
 
 
“เฮ้อ งั้นก็เอาไปวางไว้ที่โต๊ะอาหารแล้วกัน”
 
 
“ครับ”กีกวังในคราบของเด็กส่งพิชซ่าเดินเข้าไปในห้องของดงอุนด้วยอารมณ์ที่เดือดใกล้จะปะทุเมื่อนึกถึงเรื่องที่โยซอบโทรมาบอก
 
 
“เงินอยากได้เท่าไหร่ก็หยิบเอาเอง วางอยู่หน้าตรงชั้นวางของ”ดงอุนพูดโดยไม่มองกีกวังเลยสักนิด
 
 
“เฮ้อออ”
 
 
“นายถอนหายใจทำไม”ดงอุนถามกีกวังอย่างไม่เข้าใจ
 
 
“เฮ้ออออ”แต่กีกวังไม่ตอบ
 
 
“นี่ ถอนหายใจบ่อยๆน่ะมันไม่ดีนะ”
 
 
“เฮ้อๆๆๆ”
 
 
“นายจะถอนหายใจทำไมนักหนา มีเรื่องกลุ้มใจนักหรือไง”
 
 
“ก็ทำนองนั้นแหละครับ”กีกวังพูดเสียงเศร้า ดงอุนเห็นอย่างนั้นก็ถอนหายใจออกมา
 
 
“เรื่องอะไรล่ะ บอกได้ไหม”
 
 
“แฟนของผมไปมีคนอื่น ผมก็เลยกลุ้มใจไม่รู้จะทำยังไงดี”
 
 
“แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าแฟนนายมีคนอื่น นายเห็นกับตาหรือเปล่า”
 
 
“เอ่อ เปล่าครับ มีคนบอก”
 
 
“แล้วนายก็เชื่อว่างั้น”
 
 
“ก็คนๆนั้นเป็นเพื่อนรักของผมนี่ครับ”กีกวังขึ้นเสียงเล็กน้อย
 
 
“นายนี่จริงๆเลยนะ งั้นฉันขอถามนายอย่างได้ไหม”
 
 
“อะไรครับ”
 
 
“นายยังรักแฟนนายอยู่หรือเปล่า”กีกวังเหลือบมองหน้าดงอุนเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าลงไปเหมือนเดิม
 
 
“เอ่อ ระ…รักมั้งครับ”
 
 
“เฮ้อ ลูกผู้ชายอกสามศอกพูดให้มันมั่นใจหน่อยสิวะ”
 
 
“รักครับรัก ผมยังรักเขาอยู่”
 
 
“หึ ก็แค่นี้แหละ แค่นายยังรักแฟนนายอยู่ก็พอแล้ว อย่าเชื่อคนอื่นสิ ให้เชื่อหัวใจตัวเอง ฟังเสียงหัวใจของตัวเอง การมีความรักน่ะมันเป็นอะไรที่วิเศษณ์ที่สุดเลย นายควรจะเก็บรักษาเอาไว้นะ”ดงอุนเดินไปตบไหล่กีกวังเบาๆเป็นการให้กำลังใจ
 
 
“กลับไปหาแฟนนายแล้วก็ยิ้มให้กับเขาซะ บอกด้วยว่านายรักเขา”กีกวังยิ้มออกมาบางๆ
 
 
“คุณพูดยังกับคุณมีความรักเลยนะครับ”
 
 
“ฮ่าๆ นายนี่ฉลาดจริงๆเลย”
 
 
“คุณเองก็มีความรักเหรอครับ แล้วความรักของคุณเป็นยังไง”ดงอุนยิ้มที่มุมปากนิดๆด้วยแววตาที่เศร้าหน่อยๆ
 
 
“ฉันกำลังรอคนที่ฉันรักมากที่สุดอยู่ รอ รอวันที่เขาจะกลับมาหาฉัน”
 
 
“ทำไมคุณต้องรอเขาด้วยล่ะครับ รักเขามากเลยเหรอ”
 
 
“รักมากสิ”
 
 
“แล้วคุณไม่เหงาเหรอครับ”
 
 
“ไอ้เหงามันก็เหงาอ่านะ แต่พอคิดถึงใบหน้าของเขาฉันก็หายเหงาทันที เฮ้อ ถ้าพรุ่งนี้เขามายืนอยู่ตรงหน้าแล้วบอกว่ารักฉัน มันคงจะดีไม่น้อยเลยนะ ฮ่าๆ แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้หรอก เขาอยู่ตั้งไกล ยังไงซะฉันก็จะเก็บหัวใจของฉันเอาไว้เพื่อรอคอยวันที่เขากลับมา”ดงอุนยิ้มกว้างออกมาอย่างรู้สึกดีที่ได้พูดระบายความรู้สึกกับคนแปลกหน้าออกไป
 
 
“งั้นเหรอครับ เฮ้อ ผมจะทำตามที่คุณบอก ยิ้มให้เขาแล้วก็บอกรักเขาดังๆ ขอบคุณมากเลยนะครับ”กีกวังลุกขึ้นโค้งหัวให้กับดงอุนก่อนจะเดินจากไป
 
 
“บ้าจังเลยเรา คุยกับคนแปลกหน้าอีกแล้ว”ดงอุนส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มเมื่อเขานึกถึงวันแรกที่เขาได้เจอกับกีกวัง
 
 
“อ่า คิดถึงนายอีกแล้วกีกวัง คิดถึงๆๆ”
 
 
ติ๊ด
 
 
…พรุ่งนี้สองทุ่ม ดาดฟ้าที่ตึกM....
 
 
“เอ๋”ดงอุนมองข้อความที่ส่งมาอย่างสงสัย
 
 
“ดาดฟ้า ให้ไปทำไมกัน เฮอะ ไอ้ดูจุนเล่นตลกอะไรอีกแล้วแน่ๆเลย ได้เลยเพื่อน”ดงอุนยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
 
 
เวลา 20.00 ณ ตึก M
 
 
“เฮ้ออออ”ดงอุนถอนหายใจออกมาเบาๆพร้อมกับสูดอากาศรับลมเย็นๆ
 
 
“วันนี้จะเล่นอะไรอีกไอ้ดูจุน”เขามองไปรอบๆดาดฟ้าที่ยืนอยู่ แต่ก็ยังไม่พบกับสิ่งผิดปกติ
 
 
“อะไรของมันวะ”ดงอุนบ่นออกมา เขาก้มมองดูนาฬิกาเล็กนน้อยตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่งแล้วแต่ก็ยังเป็นเขาที่ยืนอยู่คนเดียว
 
 
“ไอ้เพื่อนบ้า เล่นอะไรเนี่ย มันหนาวนะเว๊ย ฉันให้เวลาแกถึงสามทุ่ม ถ้ายังไม่โผล่หัวมา ไอ้เด็กอ้วนกลมโยซอบได้ร้องไห้แน่”แล้วดงอุนก็ยืนรอต่อไป
 
 
“ไอ้ดูจุน กูไม่รอมึงและ”
 
 
พรึ่บ!!
 
 
ดงอุนที่กำลังจะหันหลังเดินกลับก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีมือของใครบางคนมาปิดตาของเขา
 
 
“มาจนได้นะมึง”พูดจบดงอุนก็จับมือแล้วดึงออกพร้อมกับหันหลังไปหาคนที่เขาคิดว่าเป็นเพื่อนตัวดี
 
 
“ไอ้ชะ…”
 
 
กึก
 
 
ดวงตาของเขามองคนตรงหน้าแทบไม่กระพริบ ดงอุนจ้องตาของกีกวังที่ยืนยิ้มให้อยู่อย่างไม่ละสายตา
 
 
“กะ..กะ…กีกวัง”ดงอุนยกมือขึ้นไปจับใบหน้าของกีกวังเบาๆ
 
 
“นายจริงๆด้วย ใช่นายจริงๆด้วย”กีกวังพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
 
 
“กีกวังๆ วู้ๆๆ ฉันคิดถึงนาย คิดถึงที่สุดเลย”
 
 
พรึ่บ!!
 
 
ดงอุนกอดกีกวังแน่นแล้วก็ยกตัวของเขาหมุนสามร้อยหกสิบองศา
 
 
“อ๊ากก ปล่อยฉันนะดงอุน มึนหัว ปล่อยๆ”
 
 
“นายกลับมาแล้ว ใช่นายจริงๆ ดูสิ ฉันอุ้มนายได้ด้วย กีกวังๆวู้ๆๆ”ดงอุนไม่ฟังเสียงห้ามของกีกวังเลยสักนิด
 
 
“ใช่นายจริงๆด้วยกีกวัง นายอยู่ที่นี่ อยู่ตรงหน้าฉัน”ดงอุนหยุดหมุนแล้วปล่อยกีกวังลง เขาจับแก้มทั้งสองข้างของกีกวังบีบเบาๆ
 
 
“ก็ฉันน่ะสิ นี่ บีบอยู่ได้แก้มแดงแล้วเห็นไหม”
 
 
จุ๊บ!!
 
 
“ดงอุน นายทำบ้าอะไรของนายเนี่ย”กีกวังโวยวายขึ้นที่จู่ๆดงอุนก็จูบปากของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว
 
 
“ฉันก็จูบนายไง จูบนายเพราะฉันคิดถึงนาย คิดถึงที่สุดเลย”
 
 
“รู้แล้วๆพูดอยู่ได้”
 
 
“ไหนนายบอกไปสองปีไง ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ล่ะ”
 
 
“อะไรกัน ฉันบอกนายเหรอว่าไปสองปี ฉันบอกนายว่าสองอาทิตย์ไม่ใช่เหรอ”กีกวังทำสีหน้าไม่รู้เรื่อง ดงอุนได้ยินอย่างนั้นถึงกลับกระพริบตาปริบๆ
 
 
“นี่อย่าบอกนะว่านายหลอกฉันอ่า นายไปแค่สองอาทิตย์แล้วบอกกับฉันว่าไปสองปี ใช่ไหมกีกวัง”
 
 
“นายพูดไปแล้ว งั้นฉันก็คงไม่ต้องพูดอะไรสินะ”
 
 
“กีกวัง นายมันบ้า บ้าที่สุดเลย หลอกฉันได้ยังไงเนี่ย ไม่รู้หรือไงว่าฉันเศร้าใจแค่ไหนน่ะ”
 
 
“โอ๋ๆ อย่างอนเลยน๊า ฉันกลับมาแล้วไง กลับมาเพื่อมายิ้มให้กับนาย”แล้วกีกวังก็ยิ้มกว้างให้กับดงอุน
 
 
“นายพูดอะไร”
 
 
“โอ๊ะ ดาวกับพระจันทร์สวยมากเลยอ่า”กีกวังไม่ตอบคำถามดงอุนแต่เขากลับเดินไปจับราวดาดฟ้าแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวส่องแสงระยิบระยับกับแสงของพระจันทร์ที่ส่องแสงนวลสวยงาม
 
 
“ฉันเชื่อแล้วล่ะว่านายชอบมองพระจันทร์กับดวงดาวจริงๆ”กีกวังไม่พูดอะไรเขาได้แต่ยิ้มแล้วเขาก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบของบางอย่างออกมาชูขึ้นตรงหน้า
 
 
“ของฉันมีคำว่า กัน อยู่”ดงอุนเห็นอย่างนั้นเขาก็ยิ้มออกมาบางๆแล้วก็หยิบขึ้นมาบ้าง เขามักจะพบของชิ้นนี้ติดตัวอยู่เสมอ
 
 
“ของฉันมีคำว่า รัก”ดงอุนชูก้อนหินขึ้นข้างๆของกีกวังแล้วแสงของพระจันทร์ทำให้ตัวอักษรที่ถูกซ่อนไว้ถูกเปิดเผยกลายเป็นคำว่า รักกัน
 
 
“มันมองเห็นได้ด้วยแสงของพระจันทร์ด้วยนะ”
 
 
“ฉันรู้”กีกวังหันไปมองหน้าดงอุนเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้ แล้วเขาก็ขยับก้อนหินของเขาเข้าไปติดกับก้อนหินของดงอุน
 
 
“ตอนนี้หัวใจก็เต็มดวงแล้วนะ หัวใจของเราทั้งสองเต็มดวงแล้ว”
 
 
“กีกวัง”
 
 
“แล้วก็จะไม่มีวันแยกจากกันไปไหนอีก”กีกวังยิ้มแล้วก็หันไปสบตากับดงอุนคนที่เขารัก
 
 
“ฉันรักนายนะดงอุน ต่อไปนี้เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”รอยยิ้มของดงอุนเผยให้เห็นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาด้วยความดีใจ เขาค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปจูบกับปากของกีกวังอย่างอ่อนโยน
 
 
“ฉันก็รักนาย เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป กีกวังที่รัก”แล้วทั้งสองคนก็โผเข้ากอดกันท่ามกลางคืนที่เปล่งประกายไปด้วยแสงของพระจันทร์และดวงดาวอย่างมีความสุข
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
2 ปีผ่านไป
 
 
การรอคอย สำหรับคนรอแล้ว เวลาแค่หนึ่งนาทีก็ถือว่านานเกินไป…
 
 
“เฮ้อออ”ฮยอนซึงถอนหายใจออกมาเบาๆ เขายกมือขยี้ตาเล็กน้อยเพราะรู้สึกเมื่อยกับการนั่งแปลหนังสือวรรณคดีภาษาอังกฤษซึ่งเขานั่งอยู่อย่างนี้มาสองวันเต็มๆ หลังจากที่เรียนจบเขาก็ได้เข้าทำงานในแผนกที่ตัวเองรักนั่นก็คือ การแปลหนังสือนั่นเอง
 
 
“อ่า ปวดตาจังเลย กี่โมงแล้วเนี่ย”ฮยอนซึงเหลือบมองนาฬิกาเล็กน้อย
 
 
“ตีสองงั้นเหรอ หิวจัง”ฮยอนซึงวางงานของตัวเองแล้วเดินลงไปหาอะไรกินที่ห้องครัว ระหว่างทางเดินผ่านห้องของกีกวังก็ยังคงเห็นไฟเปิดอยู่อย่างเดิมเป็นประจำทุกคืน
 
 
“อ่านหนังสือดึกอีกแล้วเหรอ งั้นออกไปซื้ออะไรอร่อยๆมากินดีกว่า”แล้ว ฮยอนซึงก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอนเพื่อหยิบกระเป๋าเงินก่อนจะเดินออกจากบ้านไป
 
 
“รอสักครู่นะ”ฮยอนซึงพยักหน้าก่อนจะนั่งรออาหารที่เพิ่งสั่งไป
 
 
“ยังไงวันนี้ก็ต้องทำงานให้เสร็จ เฮ้อออ”
 
 
แต๊ก แต๊ก แต๊ก
 
 
ฮยอนซึงหันหน้าไปมองคนตาบอดคนหนึ่งที่กำลังเดินมาเล็กน้อย เขายิ้มออกมาบางๆอย่างเศร้าๆทุกครั้งที่เห็นคนพิการทางสายตาเขาก็มักจะนึกถึงคนที่เขารักสุดหัวใจอยู่เสมอ คนตาบอดคนนั้นหยุดอยู่ตรงหน้าเขาทำท่าเหมือนจะข้ามถนน ฮยอนซึงเห็นอย่างนั้นก็ลุกขึ้นไปเพื่อช่วยเหลือทันที
 
 
“ผมจะพาคุณข้ามไปเองนะครับ ไม่ต้องกลัวนะ”ฮยอนซึงพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย คนตาบอดหันมามองก่อนจะพยักหน้าให้ แล้วฮยอนซึงก็จับแขนของเขาก่อนจะพาข้ามถนนไปอย่างปลอดภัย
 
 
“ขอบคุณ”เสียงของคนตาบอดทำให้ฮยอนซึงเอะใจเล็กน้อย
 
 
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเต็มใจ โชคดีนะครับ”ฮยอนซึงโค้งหัวให้ก่อนจะเดินข้ามถนนกลับไป เขามองดูมือของตัวเองที่จับแขนของคนตาบอดคนนั้นเล็กน้อยด้วยหัวใจที่เต้นผิดปกติ
 
 
“แปลกจังเลยแฮะ เฮ้อ คิดมากน่า เป็นไปไม่ได้หรอก”ฮยอนซึงส่ายหน้าอย่างไม่สนใจก่อนจะเดินกลับไปเอาอาหารที่สั่งไว้แล้วก็กลับบ้านทำงานต่อจนถึงรุ่งเช้า
 
 
“เย้ๆ เสร็จซักที เยี่ยมไปเล้ย ฮยอนซึงนายเก่งที่สุดอ่า อิอิ”ฮยอนซึงยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ในที่สุดเขาก็ทำงานเสร็จจนได้
 
 
“พี่ฮยอนซึง ผมไปก่อนนะ มีสอบแล้วตอนเย็นเจอกัน”เสียงของกีกวังดังเข้ามาในห้องก่อนจะตามมาด้วยเสียงปิดประตูอย่างดัง
 
 
“สงสัยจะรีบมากแฮะ อ๊า ไปอาบน้ำแล้วเอางานไปส่งดีกว่า”แล้วฮยอนซึงก็จัดการทำธุระส่วนตัวของตัวเองก่อนจะเดินทางไปบริษัทที่เขาทำงานอยู่
 
 
“เยี่ยมไปเลยฮยอนซึง เสร็จเร็วกว่ากำหนดตั้งสามหวันแหนะ”
 
 
“แฮ่ๆ ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมแค่ไม่อยากปล่อยไว้นาน”
 
 
“ดีๆดีจริงๆเลย เอ้อ วันนี้นายว่างหรือเปล่า”
 
 
“ทำไมเหรอครับ”
 
 
“คือพี่จะให้นายไปเป็นเพื่อนหน่อยน่ะ วันนี้นัดเจอกับหนุ่มน้อยน่ารักคนหนึ่งไว้ นายช่วยไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยได้ไหม แบบว่ามันเขินไม่กล้าไปคนเดียวน่ะ”ฮยอนซึงมองหัวหน้ารุ่นพี่ของเขาที่เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาบิดไปบิดมาอย่างเขินอาย
 
 
“สงสัยพี่จะอายจริงๆนะครับ งั้นผมไปเป็นเพื่อนก็ได้ถ้าต้องการ”
 
 
“ต้องการที่สุดเลยแหละ หนึ่งทุ่มนะเดี๋ยวพี่ไปรับนายที่บ้านนะ”
 
 
“ครับๆ แล้วผมจะรอ สู้ๆนะครับพี่เจย์ อิอิ”ฮยอนซึงชูสองนิ้วให้กับรุ่นพี่เจย์หัวหน้างานของเขาด้วยรอยยิ้ม
 
 
“แน่นอนอยู่แล้วไอ้น้อง สู้เว๊ย!!”
 
 
ณ ร้านรักไม่มีวันตาย
 
 
“โอ้ว ชื่อร้านแบบว่า…”
 
 
“เจ๋งใช่ไหม รักไม่มีวันตาย อิอิ พี่จะทำให้ความรักของพี่เป็นอย่างนั้น”เจย์กอดคอฮยอนซึงก่อนจะยักคิ้วให้
 
 
“ไปไอ้น้อง หัวใจเต้นตูมตามจะระเบิดอยู่แล้ว ไปเจอเนื้อคู่ของพี่กันเถอะ”แล้วเจย์ก็พาฮยอนซึงเข้าไปในร้านอาหารทันที
 
 
“สงสัยเนื้อคู่ของพี่จะยังไม่มานะครับ”
 
 
“เถอะน่า พี่มารอก่อนไม่เห็นไปไรเลย ดีซะอีก มารอดีกว่าให้เขารอ”
 
 
“ครับๆ”
 
 
“นี่ฮยอนซึง นายว่าพี่หล่อพอยัง แบบว่า ดูดีไหม”
 
 
“พี่น่ะหล่อและดูดีอยู่แล้วแหละครับ อย่ากังวลเลย ใครเห็นเป็นต้องหลงรักแน่นอน ชัวร์ๆ”
 
 
“ง่า แล้วทำไมนายถึงไม่หลงรักพี่ล่ะ”
 
 
“แฮ่ๆ พี่ก็ เพราะผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้วไง ถ้าไม่มีเขา ผมก็คงหลงเสน่ห์พี่เหมือนกันนั่นแหละพี่เจย์”ฮยอนซึงยกมือขึ้นเกาหัวพูดอย่างอายๆ เจย์ได้ยินอย่างนั้นก็โล่งใจขึ้นมานิดหน่อย
 
 
“โอ๊ะ มาโน่นแล้ว”ฮยอนซึงหันหลังไปมองคนที่กำลังเดินมาแล้วเขาก็ต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเห็น แต่ทว่าสายตาของเขากลับไปสะดุดเข้ากับอีกคนที่เดินเลี่ยงออกไปเมื่อสักครู่
 
 
“หวัดดี วันนี้นายน่ารักจังเลยนะ”เจย์ลุกขึ้นทักทายกับหนุ่มน่ารักที่เพิ่งเดินมาถึง ฮยอนซึงเงยหน้ามองเพื่อนของตัวเองเล็กน้อย
 
 
“ฮยอนซึง!!”
 
 
“ไงอูยอง ไม่เจอกันนานเลยนะ”
 
 
พรึ่บ!!
 
 
อูยองโผเข้ากอดฮยอนซึงอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตาของเจย์ที่ยืนมองอย่างงงๆเพราะไม่เข้าใจ
 
 
“นี่ๆไม่ต้องกอดกันนานก็ได้นะ”เจย์ดึงอูยองออกห่างจากฮยอนซึงทันที
 
 
“อะไรกันเจย์ นี่เพื่อนฉันเองนะ เพื่อนรักด้วย”อูยองหันไปดุนิดๆ
 
 
“เพื่อนแล้วหึงไม่ได้เหรอ”
 
 
“เดี๋ยวเถอะนาย”
 
 
“เอ่อ อูยอง นายมาคนเดียวเหรอ”อูยองหันมามองฮยอนซึงด้วยแววตากังวลเล็กน้อย
 
 
“อะอื้ม มาคนเดียวนั่นแหละ ฉันจะมากับใครได้ล่ะ ไม่ได้ขี้ขลาดเหมือนคนแถวนี้ซักหน่อย”
 
 
“อูยองอา ว่าฉันเหรอ”
 
 
“เปล่านะ ถ้านายจะรับก็ได้ไม่ได้ว่าอะไร”เจย์ทำหน้างอแงใส่อูยองเต็มที่
 
 
“งั้นพี่ก็ได้เจออูยองแล้ว ผมคงขอตัวก่อนนะครับ พอดีนึกขึ้นได้ว่ามีธุระ”
 
 
“จะไปแล้วเหรอ งั้นไว้เดี๋ยวค่อยเจอกันนะ หายจากนายไปนานอีกแล้ว”
 
 
“อื้ม แล้วค่อยเจอกัน”ฮยอนซึงยิ้มให้กับทั้งสองคนก่อนจะเดินจากไปด้วยหัวใจที่จู่ๆก็เกิดเต้นผิดปกติขึ้นมาแปลกๆ
 
 
“อะไรกัน นี่ฉันตาฝาดงั้นเหรอ”ฮยอนซึงส่ายหน้าเล็กน้อย
 
 
“ฉันคงจะคิดมากไป นายจะมาอยู่นี่ได้ยังไงกัน เฮ้ออ”
 
 
แต๊ก แต๊ก แต๊ก
 
 
ฮยอนซึงหันไปมองคนตาบอดที่มายืนอยู่ข้างๆเล็กน้อย
 
 
นี่มันคนเมื่อวานนี่นา ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ล่ะ
 
 
“เอ่อ ขอโทษนะครับ จะข้ามถนนหรือเปล่า”
 
 
“ครับ”
 
 
“งั้นให้ผมช่วยนะครับ”แล้วฮยอนซึงก็เดินไปจับแขนของคนตาบอดคนนั้นเหมือนอย่างเคยแล้วก็พาข้ามถนนไป
 
 
“ขอบคุณมากนะครับ”
 
 
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องแค่นี้เอง งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”ฮยอนซึงโค้งหัวให้กับคนตาบอดอย่างเคยก่อนจะเดินข้ามถนนกลับไปที่เดิม
 
 
“ทำไมเดี๋ยวนี่ฉันคิดถึงนายบ่อยจังเลยนะ”ฮยอนซึงเงยหน้าเพื่อไม่ให้น้ำตาที่เอ่อล้นอยู่ที่ขอบตาไหลออกมา ก่อนจะขึ้นรถเมล์ไปยังที่ที่หนึ่ง ซึ่งเป็นที่แห่งความทรงจำอันงดงามของเขา
 
 
“ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆเลย ฮึกๆ”ฮยอนซึงนั่งลงฟุบหน้าร้องไห้กับเข่าของตัวเองอย่างปวดใจ ความอึดอัด ความโศกเศร้า ความเสียใจ เขามักจะมาปลดปล่อยกับที่แห่งนี้เสมอ ที่ๆเขาได้พบกับจุนฮยองคนที่เขารัก
 
 
“ฮือออ จุนฮยอง นายมันคนใจร้าย นายอยู่ไหนกัน ไม่คิดถึงฉันหรือไง นายใจร้ายมากเลย ฮืออออ”ฮยอนซึงร้องไห้ออกมาอย่างหนักโดยไม่ทันรู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนกำลังอยู่ในที่แห่งนี้กับเขา ใครบางคนที่นั่งมองทั้งน้ำตา
 
 
“ฮืออออออ”
 
 
“หนวกหูจริงๆเลย”เสียงเข้มๆของใครคนนั้นไม่ได้ทำให้เสียงร้องไห้ของ ฮยอนซึงเงียบไปเลยสักนิด
 
 
“ฮือออออออ”
 
 
“นี่!! ไปร้องไห้ให้มันไกลๆหน่อยได้ไหม รำคาญ!!”
 
 
“ฮือออ ขอโทษนะ แต่ขอฉันร้องเถอะ ฉันเสียใจ ฮือออออ”ฮยอนซึงยังคงนั่งร้องไห้อยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนต้นไม้ถึงกลับกำหมัดแน่นอย่างทนเสียงร้องไห้ไม่ไหว
 
 
“นี่ มันรำคาญ ไม่ได้ยินหรือไง”
 
 
“ฮืออออออออออ”
 
 
ตุบ!!
 
 
ชายหนุ่มกระโดดลงมาจากต้นไม้ด้วยความทนไม่ไหว
 
 
“นายนี่มันน่ารำคาญจริงๆเลย”
 
 
“ฮึกๆ ฉันก็ไม่ได้อยากร้องไห้หรอกนะ แต่มันอึดอัดนี่ ฮืออออ”ชายหนุ่มส่ายหน้าเล็กน้อย
 
 
“ร้องให้มันได้อะไรขึ้นมา ร้องไห้เดี๋ยวก็ตาบวมหรอก”
 
 
“ฮึกๆ บวมก็ช่างมันสิ ให้มันบวมจนมองไม่เห็นไปเลย ฮืออออ”
 
 
“นี่ หยุดร้องซักทีได้ไหม!!”ชายหนุ่มตะโกนเสียงดังอย่างรำคาญ
 
 
“นายไม่เคยเสียใจ นายจะไปรู้อะ….”
 
 
กึก
 
 
ฮยอนซึงที่ลุกขึ้นแล้วหันมาโวยวายใส่ชายหนุ่มก็แทบจะหยุดหายใจเมื่อเห็นคนที่ยืนยิ้มทั้งน้ำตาอยู่ข้างหน้า
 
 
พรึ่บ!!!
 
 
ชายหนุ่มดึงฮยอนซึงเข้ามากอดอย่างอ่อนโยน
 
 
“อย่าร้องไห้เลยนะ นายสัญญาแล้วนี่ว่าจะไม่ร้องไห้ ฮยอนซึง”มือน้อยๆของฮยอนซึงค่อยๆยกขึ้นไปกอดชายหนุ่ม
 
 
“ฮึกๆ จุนฮยอง ฮือออออออ”ฮยอนซึงกอดจุนฮยองแน่นแล้วก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
 
 
“นายกลับมาแล้ว กลับมาหาฉันแล้ว กลับมาแล้วจริงๆ ฮืออออ”
 
 
“โอ๋ๆคนดี อย่าร้องไห้เลยนะ ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว อยู่กับนายแล้ว”
 
 
“ฮึกๆ ไม่ร้องไห้ ฉันไม่ร้องไห้แล้ว ฉันดีใจ ดีใจเหลือเกินจุนฮยอง”จุนฮยองผลักฮยอนซึงออกแล้วก็จูบที่หน้าผากของเขาเบาๆ
 
 
“ขอโทษนะครับที่ปล่อยให้รอ”ฮยอนซึงยกมือขึ้นจับใบหน้าของจุนฮยอง
 
 
“ตา ตาของนาย มองเห็นแล้วเหรอ มองเห็นแล้วใช่ไหม นายเห็นฉันใช่ไหม เห็นฉันหรือเปล่า”
 
 
“เห็นสิครับ ฉันเห็นนายเต็มสองตาเลย คนสวยของผม”ฮยอนซึงยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจก่อนจะโผเข้ากอดจุนฮยองอีกครั้ง
 
 
“ดีจังเลย ดีที่สุดเลยจุนฮยอง”ทั้งสองคนกระชับกอดกันแน่น
 
 
“นายมองเห็นได้ยังไงกัน ทำไมนายถึงมองเห็นล่ะ”สายตาของจุนฮยองเศร้าลงเล็กน้อย แต่เขาก็ยิ้มขึ้นมาใหม่
 
 
“ฮยอนซึง”
 
 
“หือ”จุนฮยองยกมือจับคางของฮยอนซึงเล็กน้อย
 
 
“ฉันรักนายนะ”แล้วจุนฮยองก็โน้มหน้าเข้าไปจูบที่ริมฝีปากของฮยอนซึงอย่างอ่อนโยนด้วยความรัก เขาเลี่ยงที่จะบอกเหตุผลเพราะไม่อยากที่จะคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาอีกต่อไป
 
 
“ฉันก็รักนาย รักนายมากและจะรักนายตลอดไป จุนฮยอง”
 
 
“ขอบคุณนะครับ รักที่สุดเลย”แล้วจุนฮยองก็กอดฮยอนซึงยกขึ้นหมุนไปรอบๆท่ามกลางเสียงหัวเราะของฮยอนซึงที่ดังอยย่างสดใส
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ครืนน นน น น
 
 
พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังฟังเสียงคลื่นทะเลอยู่อย่างเงียบๆเพียงลำพัง
 
 
“น้ำทะเลเป็นสีส้มผสมสีแดง สวยมากเลยแหละ”เสียงนุ่มๆของใครคนหนึ่งซึ่งมายืนอยู่ข้างๆเรียกรอยยิ้มของหนุ่มร่างบางได้เป็นอย่างดี เขามองหน้าของหนุ่มร่างบางเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆกุมมือของเขาอย่างอ่อนโยน
 
 
“ฉันจะไม่ทิ้งนายไปไหนหรอก ฉันจะอยู่กับนาย อย่าได้กลัวเลยนะ”น้ำตาของหนุ่มร่างบางค่อยๆไหลลงมาอย่างช้าๆ
 
 
“ฉันจะไม่กลัว ไม่กลัวแน่นอน”
 
 
“อย่าร้องไห้สิ”
 
 
“อื้ม จะไม่ร้องไห้ เพราะตอนนี้พี่จุนฮยองคงกำลังมีความสุข มินโฮกอดฉันหน่อยได้ไหม”มินโฮยิ้มออกมาบางๆก่อนจะดึงหนุ่มร่างบางเข้ามากอด
 
 
“คีย์ ฉันรักนายนะ”น้ำตาของคีย์ไหลลงมาอีกจนได้
 
 
“ตอนนี้นายกำลังร้องไห้อยู่ใช่ไหม”
 
 
“เปล่านะ ฉันไม่ได้ร้องไห้”
 
 
“นายโกหกนะมินโฮ ไหล่ฉันเปียกน้ำตานายด้วย”
 
 
“ขอโทษครับ”
 
 
“นายนั่นแหละที่กำลังกลัว ไม่ต้องกลัวหรอกนะ ตราบใดที่นายยังอยู่ ฉันก็จะมีนายเป็นดวงตาของฉัน เป็นทั้งดวงตาและดวงใจ ตลอดไป”มินโฮยิ้มออกมาทั้งน้ำตาแล้วก็กระชับกอดคีย์แน่นยิ่งกว่าเดิม
 
                                                                                                THE END^^.
 
 
---------------
23-11-2014
#ฟิคแบดเลิฟ
จบจริงๆแล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ
ถ้าอยากติดตามผลงานอื่นๆของอัง ตามได้ที่เพจฟิคน๊าาาาาา
https://www.facebook.com/DoRaAunG

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา