ทางแยกหัวใจ

9.3

เขียนโดย ppparepoly

วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.44 น.

  36 ตอน
  333 วิจารณ์
  46.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 22.21 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

33) ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ


“ฟาง!!!!” โทโมะเห็นฟางล้มลงตรงหน้าก็รีบวิ่งไปช้อนคนตัวเล็กขึ้นมาบนตัก เค้าจับหน้าคนตัวเล็กให้หันมาแล้วก็ต้องตกใจ ใบหน้าของเธอที่ซีดลง เค้าจึงรีบอุ้มเธอขึ้นที่พักไป

 

 

 

 

“ไปเอากล่องปฐมพยาบาลแล้วรีบตามมาที่ห้องเร็วๆ”โทโมะหันไปสั่งพนักงานแล้วอุ้มคนตัวเล็กไปที่ห้องของเธอ

 

 

 

 

“ฟาง ฟางเป็นอะไรอ่ะ ฟาง ได้ยินหรือเปล่า”โทโมะวางคนตัวเล็กลงบนเตียง แล้วพยายามเรียกคนตัวเล็กให้ได้สติ แต่ฟางก็ยังคงแน่นิ่งอยู่ เมื่อพนักงานนำกล่องยามาให้ โทโมะก็หยิบยาดมมาให้ฟางดม จนฟางค่อยๆลืมตาขึ้นมา

 

 

 

 

“ฟางเป็นยังไงบ้าง ไหวหรือเปล่าไปหาหมอมั้ย”โทโมะที่เห็นฟางฟื้นขึ้นมา ก็รีบถามด้วยความเป็นห่วง เธอส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมหยิบกระเป๋าของเธอ และหยิบแผงยาขึ้นมา

 

 

 

 

“ขอน้ำหน่อยสิ่”ฟางหันมาบอกโทโมะ เค้าจึงรีบลุกขึ้นไปหยิบน้ำให้เธอ ฟางรับขวดน้ำจากเค้าและรีบกินยาทันที ไม่นานอาการปวดศรีษะและอาการอื่นๆของเธอก็ค่อยๆดีขึ้น

 

 

 

 

“ขอบคุณนะ”ฟางหันมาขอบคุณโทโมะที่ช่วยเธอทันเวลาพอดี พักนี้ร่างกายเธออ่อนแอลงมากเลยทีเดียว อาการที่เคยเป็นในช่วงม.ปลายก็เริ่มกลับมาอีก ไหนจะสภาพจิตใจที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นัก นี่มันเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของเธอกันนะ

 

 

 

 

“ขอโทษนะฟาง”โทโมะตัดสินใจเอ่ยขอโทษฟางขึ้นมา เค้าไม่น่างี่เง่าเลย ไม่รู้ว่าที่ห่างกันไปฟางจะเป็นยังไง ไหนจะเรื่องที่ปล่อยให้เธอกลับโรงพยาบาลคนเดียวอีก

 

 

 

 

“เรื่องอะไร”ฟางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบๆ และแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจในสิ่งที่เค้าพูด เพราะเธอจะไม่ยอมเอาความรู้สึกไปวางไว้ที่จุดเดิมแน่ๆ

 

 

 

 

“ที่ไล่ฟางออกไปแบบนั้นงัย”เค้าเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกผิด ทั้งที่เคยบอกว่าจะคอยอยู่เคียงข้างเธอแท้ๆ แต่กลับเป็นคนที่ไล่เธอออกไปซะงั้น เค้าเองก็ให้ความหวังเธอเหมือนกัน

 

 

 

 

“อ่อ เรื่องนี้เอง ไม่ต้องขอโทษหรอก เราไม่เป็นไร”ฟางตอบยิ้มๆ ทั้งที่ในใจเธอกลับยิ้มไม่ออก แต่ท่าจะให้กลับไปรู้สึกแบบเดิมเธอก็ขอหยุดเท่านี้กว่า เพราะที่ผ่านมาเธอก็ผิดหวังพอตัวกับความรู้สึกที่มีให้เค้า เพราะเธอดันไว้ใจ และคาดหวังเกินไป

 

 

 

 

“งั้นเรากลับมาเป็นแบบเดิมได้มั้ย ให้โมะคอยดูแลฟางแบบเดิม”โทโมะเอื้อมมือไปจับมือคนตัวเล็กเป็นเชิงขอโอกาสจากเธอ ฟางมองท่าทีของโทโมะ ด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า จริงอยู่ ตอนนั้นเธออาจจะหวั่นไหว ไหนจะเรื่องป๊อปอีกที่ทำให้เธอก็เผลอชอบเค้า แต่ในเมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่คิดสักนิด เธอเลยเลือกที่จะตัดใจอย่างจริงจัง และจะไม่กลับไปเป็นแบบเดิมอีก

 

 

 

 

“หนาวแล้วอ่ะ ฟางจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า รบกวนออกไปก่อนนะ และก็ขอบคุณอีกครั้งที่ช่วย ”ฟางค่อยๆชักมือออก และลุกขึ้นไปเปิดประตูเป็นเชิงให้เค้ากลับไป โทโมะยอมลุกออกจากห้องไปแต่โดยดีเพื่อให้ฟางได้พักผ่อน เค้าจะไม่เร่งรัดอะไรทั้งสิ้น เพราะเค้าเป็นคนเอ่ยปากไล่ฟางไปเอง

 

 

 

 

“เฮ้อออ เลิกคิดได้แล้วๆ มีแฟนแล้วๆ อีกไม่นานป๊อปก็จะกลับมา”ฟางพูดเป็นเชิงปลอบใจตัวเอง ก่อนเดินไปอาบน้ำ ใช่ อีกไม่กี่อาทิตย์ป๊อปก็จะกลับมา อะไรๆก็อาจจะดีขึ้นก็ได้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ทางนี้ค่ะคุณพี่ หนูกี้”เพ็ญพักตร์เรียกภานิณีและปุ๊กกี้ วันนี้เธอตั้งใจนัดภานิณีมารดาของป๊อปมาคุยเรื่องของลูกสาวเธอ และมือที่สามอย่างฟาง

 

 

 

 

“สวัสดีค่ะคุณน้า”ปุ๊กกี้ยกมือไหว้อย่างนอบน้อม

 

 

 

 

“เรียกพี่มาด่วนแบบนี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะคุณน้อง ดีนะวันนี้ออกมาช็อปเป็นเพื่อนยัยกี้พอดี เลยออกมาพบกันได้” ภานิณีกล่าวยิ้มๆ แต่เธอก็ค่อนข้างไม่พอใจเท่าไหร่ที่เรียกมากะทันหันแบบนี้

 

 

 

 

“มาคุยเรื่อง ตาป๊อปกับน้องพิมหน่ะค่ะ คุณน้องร้อนใจ เพราะอาทิตย์หน้าตาป๊อปกับน้องพิมก็จะกลับมาแล้ว คุณพี่คงทราบว่าทางมหาลัยเลื่อนกลับมาเร็วกว่ากำหนด เพราะสภาพอากาศที่โน่นย่ำแย่มากแถมพายุเข้าอีก”เพ็ญพักตร์พูดเกริ่นตามมารยาท ทั้งที่ในใจเธออยากจะพูดเรื่องของผู้หญิงหน้าด้านที่คิดจะแย่งป๊อปจากลูกสาวเธออยู่เต็มอก

 

 

 

 

 

“ใช่ค่ะ พี่พอทราบอยู่ เสียดายแทนเด็กๆเนอะไปได้เกือบสองเดือนเอง คงหมดสนุกกันแย่ ว่าแต่เรื่องร้อนใจของคุณน้องถ้าเป็นเรื่องงานหมั้นและงานแต่งของน้องพิมกับเจ้าป๊อป ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะพี่รักษาคำพูด อีกอย่างเจ้าป๊อปก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว” ภานิณีกล่าวเรียบๆด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เพราะเรื่องนี้เธอไม่ได้บังคับใจเจ้าลูกชายตัวแสบ เธอจึงสบายใจได้กับความสัมพันธ์ที่ทั้งสองฝ่ายเต็มใจจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน โดยหารู้ไม่ว่าปุ๊กกี้นั่งอึดอัดอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

 

 

 

 

“เมื่อก่อนมันคงใช่ค่ะคุณพี่ แต่ตอนนี้ตาป๊อปไม่ได้มีแค่น้องพิมคนเดียว เอาเป็นว่าน้องขอพูดตรงๆเลยนะคะ ว่าตาป๊อปมีแฟนเป็นเพื่อนน้องพิม ท่าทางจะหลงกันไม่เบา วันที่ไปส่งน้องพิมที่ปารีสตาป๊อปไม่เหลียวน้องพิมสักนิด แถมไม่ไหว้น้องอีกต่างหาก เรื่องที่ไม่สนใจน้อง น้องว่าอะไรนะคะคุณพี่ แต่เรื่องที่ละเลยน้องพิมแบบนี้น้องยอมไม่ได้ น้องเลยอยากได้ความมั่นใจว่างานหมั้นและงานแต่งมันจะยังมีต่อไป เพราะถ้ามีปัญหาไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ของเราทั้งสองบ้านนะคะ แต่มันจะหมายถึงธุรกิจของเราสองครอบครัวด้วย”เพ็ญพักตร์ร่ายยาวถึงปัญหาให้ภานิณีฟังแกมยกเรื่องผลประโยชน์ขึ้นมาขู่ แค่นี้มันก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะให้ป๊อปและฟางเลิกกัน

 

 

 

 

“กี้ขอแทรกนะคะคุณน้า เรื่องปัญหาของน้องพิม ป๊อป และน้องฟางเนี่ย กี้ก็พอรู้บ้างค่ะ แต่ความรักเนี่ยมันเกิดขึ้นจากคนสองคนไม่ใช่เหรอคะคุณป้า เรามีหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมความรักให้เค้า แต่เราไปบังคับเค้าไม่ได้หรอกนะคะ ถึงจะบังคับได้เค้าก็รักกันไม่ยืดยาวหรอกค่ะ มันไม่เหมือนสมัยก่อนแล้วนะคะที่จะมานั่งแต่งงานกันเพราะพ่อแม่ เพราะคนสมัยนี้มีความคิดของตัวเองกันค่อนข้างมาก อย่าเอาผลประโยชน์ทางธุรกิจมาขู่กันเลยดีกว่าค่ะ” ปุ๊กกี้ที่ตัดสินใจพูดแทรกแทนมารดาของเธอ เพราะเพ็ญพักตร์เล่นพูดแกมขู่แบบนี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะตอบโต้บ้าง

 

 

 

 

“น้าเข้าใจค่ะ แต่ถ้าตาป๊อปจะไม่แต่งงานกับน้องพิม ทำไมไม่ปฏิเสธแต่แรกหล่ะค่ะ นี่มันกี่ปีแล้ว เท่ากับว่าเป็นการปิดโอกาสน้องพิมไปในตัวด้วยนะคะ เวลามีตั้งนานทำไมไม่ปฏิเสธมา ทางน้ากับเจ้าสัวไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว แต่ตาป๊อปก็เห็นดีเห็นงามรู้ทุกอย่าง ไปมาหาสู่กับน้องพิมชัดเจน แต่ถึงเวลาพอนอกใจไปมีแฟนเป็นของตัวเองขึ้นมา ก็คิดจะทิ้งแบบนี้มันก็หักหน้ากันไม่น้อยเลยนะคะ ตาป๊อปเป็นคนไม่ชัดเจนเอง เพราะฉะนั้นคุณพี่จะว่ายังไงหล่ะคะ”เพ็ญพักตร์ชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดหว่านล้อมให้ทั้งสองคิดตามเธอ เพราะลูกสาวเธอก็มีแค่ป๊อปมาโดยตลอด

 

 

 

 

“ที่น้าเค้าพูดก็ถูกนะกี้ ถ้าป๊อปมันไม่เห็นด้วยแต่แรกทำไมไม่ปฏิเสธ ทำแบบนี้น้องพิมเค้าเสียหาย อีกอย่างเด็กคนนั้นรู้ทั้งรู้ว่าป๊อปเป็นคู่หมั้นน้องพิมยังจะแย่ง เด็กสมัยนี้ใช้ไม่ได้เลย ยังไงตาป๊อปก็ต้องรับผิดชอบ แม่ไม่ยอมเหมือนกันเชียว”ภานิณีที่คล้อยตามเพ็ญพักตร์ยิ่งพูดก็ยิ่งโมโหลูกชายตัวดีที่ก่อเรื่องเข้าให้

 

 

 

 

“แม่คะ น้องฟางเค้าอาจจะไม่รู้ก็ได้นะคะ กี้เคยเจอน้องอยู่ เป็นเด็กน่ารักใช้ได้ทีเดียวเลยค่ะ”ปุ๊กกี้พูดแย้งขึ้นมา จนเพ็ญพักตร์มองด้วยความไม่พอใจ

 

 

 

 

“มันไม่เกี่ยวกี้ เค้าต้องถอยไปเพราะตาป๊อปมีเจ้าของอยู่แล้ว เรื่องนี้พี่จะพูดให้ตาป๊อปจัดการให้เรียบร้อยค่ะ คุณน้องไม่ต้องเป็นห่วง”ภานิณีพูดขึ้น โดยเพ็ญพักตร์แอบยิ้มอย่างพอใจ ที่ทำสำเร็จ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พี่ฟาง เป็นยังไงบ้างเห็นพี่โทโมะบอกว่าพี่ไม่ค่อยสบาย ไปหาหมอมั้ย”เมื่อฟางตื่นขึ้น ก็พบว่าเฟย์นอนเฝ้าเธออยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าเธอหลับไปนานเท่าไหร่ แต่ร่างกายของเธอก็ได้พักฟื้นมากพอตัว

 

 

 

 

“ไม่เป็นไรหรอกเฟย์ พี่มียาหมอจากโรงพยาบาลแล้ว ว่าแต่เราเถอะมานอนเฝ้าแบบนี้ทำไมไม่ไปเที่ยวหล่ะ”ฟางค่อยๆลุกขึ้นนั่ง

 

 

 

 

“พี่ฟางไม่สบายแบบนี้เฟย์ไม่อยากทิ้งไปไหน ดีขึ้นแล้วใช่มัยพี่ฟาง”เฟย์รีบลุกขึ้นประคองฟางทันที

 

 

 

 

“เฟย์พี่ไม่ได้ไม่สบายขนาดนั้นสักหน่อยเรานี่ ไม่ต้องประคองก็ได้ พี่ไม่สบายเฟย์ก็ไปเที่ยวก็ได้ พี่ไม่ออยากให้มันกร่อยนะ อุตส่ามาเที่ยวทะเลกันทั้งที”ฟางล้างหน้าล้างตาเสร็จก็พูดขึ้น

 

 

 

 

“คิดมากหน่ะพี่ฟาง ป่ะๆ ไปทานข้าวกันเถอะ พี่เค้ารออยู่แล้วป่ะ”เฟย์เดินไปควงแขนฟางแล้วลงไปหาคนอื่นๆที่รออยู่ด้านล่าง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“โมะ จินนี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ”จินนี่เดินเข้าไปหาโทโมะ ที่เพิ่งออกมาจากห้องครัว

 

 

 

 

 

“อ่าๆได้สิ่ หิวแล้วหล่ะสิ โมะสั่งขอโปรดของจินนี่ไว้ให้ด้วยนะ”โทโมะตอบยิ้มๆ หารู้มั้ยว่าคำตอบของ

โทโมะทำให้จินนี่หัวใจพองโตไม่น้อย

 

 

 

 

 

“โอเคเลย ขอบใจมากๆน้า”จินนี่ตอบอย่างเขินอาย

 

 

 

 

“แล้วจินนี่มีอะไรจะคุยกับโมะเหรอ”โทโมะถามขึ้น จินนี่ยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่

 

 

 

 

 

“คือ จินนี่ตั้งใจจะบอกนานแล้วแต่ไม่มีโอกาสสักที จินนี่ชอบโทโมะนะ ชอบมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว โมะคิดยังไงกับจินนี่เหรอ”จินนี่พูดแล้วเฝ้ารอคำตอบจากโทโมะ สองมือของเธอกุมเข้าหากันอย่างตื่นเต้น ผิดกับโทโมะที่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น

 

 

 

 

“เอ่อ…คือจะพูดยังไงดีหล่ะ จินนี่ก็รู้ใช่มั้ยว่าโมะชอบฟาง”โทโมะตอบ เค้าไม่รู้ว่าควรทำยังไง ในเมื่อเค้าคิดกับเธอแค่เพื่อน

 

 

 

 

“แต่ฟางเป็นแฟนป๊อปโมะก็รู้ โมะให้โอกาสจินนี่ได้มั้ย”จินนี่ตรงเข้าไปจับมือชายหนุ่มอย่างมีความหวัง

 

 

 

 

“โมะคิดกับจินนี่แค่เพื่อน โมะไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย ขอโทษด้วยจริงๆนะ”โทโมะตอบจินนี่ไปตรงๆ เค้าอยากให้เธอคิดกับเค้าแค่นั้นจริงๆ

 

 

 

 

“ไม่เป็นไร จินนี่รู้แล้วแหละจินนี่แค่อยากบอกเฉยๆ ฮ่าๆ ยังไงเราก็เป็นเพื่อนกันนี่เนอะ”จินนี่หัวเราะกลบเกลื่อน

 

 

 

 

“งั้นเจอกันที่ห้องอาหารนะ”โทโมะที่ไม่รู้จะทำยังไงก็รีบตัดบทเดินหนีไปรอฟางที่ห้องอาหาร ทิ้งให้จินนี่ยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น

 

 

 

 

 

***จบปิ๊ง เจอกันตอนหน้า รักกันไปรักกันมา ยิ่งแต่งยิ่งดราม่าจะมีคนอ่านป่าว 555 แต่ตัวร้ายมีแค่นี้พอล่ะ ตอนหน้าตัดทุกบทเพื่อให้ทุกคนได้เจอกับลุงป๊อป อยากอ่านต่อเชิญเม้น จุ๊บ***

X

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา