พ่อบ้านปีศาจ ภาคชิเอลเป็นปีศาจ บท2 YAOI 18+

8.9

เขียนโดย sebbynoi

วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.33 น.

  40 บทที่ 2 พ่อบ้านผู้นั้น กับเรื่องในอดีด
  11 วิจารณ์
  100.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557 10.58 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

4) ตอนที่ 4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

"เอาหล่ะ ไหนๆเจ้านั้นไม่อยู่ทั้งทีต้องไปสำรวจบ้านกันหน่อย ได้กุญแจมาแล้วนี่"แล้วชิเอลก็ไขกุญแจได้สำเร็จจากนั้นเปิดประตูเข้าไป 
หลังจากนั้นเมื่อเด็กหนุ่มก็จุดไฟจากตะเกียงโครมไฟจนห้องสว่างแล้วเดินเข้ามาในห้องแล้วมองไปรอบๆ

"ไม่เห็นจะมีอะไรเลย เซบาสเตียนบอกว่าในนี้มีผี.... ไหนล่ะ ไม่เห็นมีซักตน ถ้ามีจริงๆปรากฏตัวมาให้ฉันเห็นหน่อยสิ..."ชิเอลพูดพรางเดินสำรวจไปรอบๆ ในห้องนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากพื้นโล่งๆมีฟอนีเจอร์เก่าๆอยู่ไม่กี่ชิ้น มองดูแล้วเหมือนเป็นห้องทำงานธรรมดาและมีตู้หนังสือที่พิงไว้ที่ผนัง

"น่าเบื่อจริงๆ เซบาสเตียนจอมโกหก มาหลอกฉันได้นะว่าในนี้มีผีน่ะ ฉันดูแล้วไม่เห็นมีอะไรเลยนี่นา ห้องนี้ก็เหมือนห้องทำงานทั่วไป ทำไมเจ้านั้นต้องล๊อกด้วยนะไม่เข้าใจเลย " ชิเอลมองดูรอบๆอีกครั้งแต่พอเห็นว่าไม่มีอะไน่าสนใจแล้ว เขาจึงคิดว่าจะไปสำรวจห้องอื่นๆต่อ 

"ไปดูห้องอื่นๆต่อดีกว่า ไว้เจ้านั้นกลับมาจะต่อว่าให้..โทษฐานที่โกหกเรา"ชิเอลบ่นพรางเดินข้ามห้องตรงไปยังประตูเพื่อจะไปสำรวจห้องอื่นๆต่อ แต่พอเดินผ่านตู้หนังสือไปซึ่งก่อนหน้านี้ตอนเข้ามาใหม่ๆเขาไม่ได้สนใจตู้นี้เท่าไหร่นัก แต่ตอนนี้เขาเริ่มสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ถ้าหากเดินหรือมองผ่านๆจะไม่เห็นว่าที่ตู้หนังสือนี้มีรูเล็กๆ อยู่รูหนึ่ง

"เอ๋...นี่มันรูอะไรกันนะ เหมือนรูกุญแจเลย "ชิเอลเอื้อมมือไปสำรวจรูเล็กๆนั้น พรางก้มลงดูพวงกุญแจในมือของตน

"ใช่รูกุญแจมัยนะ ลองไขดูก่อนละกันเผื่อเจออะไรน่าสนใจ"ชิเอลหยิบพวงกุญแจขึ้นมาจากนั้นก็พยายามหาลูกกุญแจที่สามารถใส่ลงไปในรูนั้นได้ แล้วลองไขดู

ซึ่งเด็กหนุ่มพยายามไขกุญแจอยู่นานเพราะพวงกุญแจนี้มีลูกกุญแจเยอะมากและขนาดก็ไล่เลี่ยกันเป็นส่วนใหญ่ จึงค่อนข้างใช้เวลานานทีเดียวในการหาลูกกุญแจที่ตรงกับรูนั้น

"ทำไมลูกกุญแจเยอะจริง หาไม่เจอเลย ดอกไหนกันนะเนี่ย.."ชิเอลพูดพรางลองผิดลองถูกไขกุญแจดอกแล้วดอกเล่าก็ยังไม่สามารถใส่ลงไปในรูนั้นได้ 

หลังจากพยายามมาได้อยู่ 15 นาทีจนมาถึงดอกสุดท้ายที่ชิเอลคาดหวังว่าน่าจะเป็นดอกนี้แน่ๆจึงรู้สึกตื่นเต้นและคอยลุ้นว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นถ้าหากไขกุญแจดอกนี้ได้สำเร็จ
แต่พอลองใส่ไปแล้วปรากฏว่าไม่ใช่ 

"อ้าว!!! ทำไมล่ะ นี่ดอกสุดท้ายที่ลองไขแล้วนี่นา ทำไมยังไม่ได้อีกล่ะ หรือว่านี่จะไม่ใช่รูกุญแจ"ชิเอลมองดูรูนั้นอย่างครุ่นคิด พรางมองพวงกุญแจอย่างสงสัย 

"เหอะ..ช่างเถอะไปดูห้องอื่นต่อดีกว่า "แล้วชิเอลก็ล้มเลิกความคิดที่จะหาความลับในห้องนี้และ เขาตัดสินใจเดินไปดูห้องอื่นๆต่อ ยังมีห้องที่ล๊อกเอาไว้อีกหลายห้องน่าจะมีอะไรน่าสนใจมากกว่าตู้มีรูนี่แน่เลย

"ไปดีกว่า ไว้เซบาสเตียนกลับมาค่อยถามว่ารูตรงตู้นั่นคือรูไรดีกว่า"แล้วชิเอลก็เดินออกไปจากห้องที่เหมือนห้องทำงานนั้นทันที แล้วเดินไปสำรวจห้องอื่นๆต่อ ซึ่งอยู่ห้องถัดไปนี้เอง

"เอาหล่ะสำรวจห้องนี้ต่อ เอ...ดอกไหนกันนะ ไขมันทุกดอกเลยแล้วกัน"แล้วจากนั้นชิเอลก็พยายามไขกุญแจเข้าไปอีกห้องหนึ่งที่อยู่ข้างๆห้องที่มีตู้มีรูแปลกๆ 

หลังจากพยายามไขได้ 10 นาที จนในที่สุดก็ค้นหาลูกกุญแจที่ไขประตูนี้ได้สำเร็จ 

"เฮ้อ...กว่าจะไขได้เล่นเอาเหนื่อยเลยแฮะ เอาหล่ะไปดูห้องนี้ต่อละกัน"ชิเอลปาดเหงื่อพรางผลักบานประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างตื่นเต้น

"อืม....ห้องนี้มันห้องนอนเด็กเหรอ เอ...ห้องใครกันนะ หรือห้องของเซบาเตียนตอนเด็กๆ "ชิเอลมองสำรวจไปรอบๆพรางเดินไปดูที่เตียงเล็กๆ สภาพห้องนอนนี้ดูเก่าแก่แม้ไม่มีฝุ่นแต่ทั้งผ้าปูเตียงและปลอกหมอนมีรอยหนูกัดแทะเต็มไปหมด ภายในห้องมีโต๊ะไว้สำหรับเขียนหนังสือที่ทำจากไม้ผุๆและมีรอยปลวกกัดแทะเต็มไปหมด

มีเฟอร์นี้เจอร์อยู่หลายชิ้นมีของเล่นเด็กด้วย ชิเอลก้มลงไปเก็บกล่องของเล่นกล่องใหญ่จากบนพื้นพวกนั้นขึ้นมาวางบนเตียง แล้วจากนั้นก็รื้อค้นของในกล่องออกมาดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น (ซน) ของเล่นสมัยโบราณบางอย่างเขาไม่เคยเห็นก็มีมากมาย บางอันยังใช้ได้บางอันพังไปแล้ว พอเอาออกมาก็วางเอาไว้บนเตียงจากนั้นก็รื้อในกล่องออกมาอีกดูด้วยความสนใจ หลังจากนั้นก็จับกล่องเทกระจาดลงไปบนเตียงให้หมดเลย จนเตียงเต็มไปด้วยกองของเล่นมากมาย

"ของเล่นพวกนี้เป็นของใครกันนะ หรือของเซบาสเตียนตอนเด็กๆ เจ้านั้นเล่นของเล่นเป็นด้วยเหรอ หึหึหึ"ชิเอลพูดพรางหัวเราะเมื่อนึกภาพตอนเซบาสเตียนเล่นของเล่นพวกนี้ ปีศาจตัวน้อยๆเล่นของเล่นงั้นหรือ 
หลังจากหยิบจับของเล่นพวกนั้นมาดูจนพอใจแล้วก็เดินไปสำรวจรอบๆห้องต่อ แต่แล้วกลับเดินสะดุดกับหีบใส่ของสีแดงใบหนึ่งที่ตั้งไว้ข้างๆตู้เสื้อผ้าเก่าๆเข้าจนเกือบล้มหน้าคะมำ พอพยุงตัวได้แล้วจึงก้มลงมองดูหีบสีแดงนั้นอย่างสนใจ

"ในนี้มีไรบ้าง..ขอดูหน่อยนะเซบาสเตียน "ชิเอลบอกกับอากาศ แล้วก็จัดการเปิดหีบนั้น ดีที่เซบาสเตียนไม่ได้ล๊อกกุญแจหีบไว้ไม่งั้นชิเอลคงอดดูของข้างใน
พอเปิดดูชิเอลก็เห็นเสื้อผ้าเด็กขนาดน่าจะประมาณ 10-11 ปีได้ 

"อืมชุดนี้หรือเปล่านะที่เซบาสเตียนบอกว่าเก็บไว้เป็นที่ระลึกสมัยวัยเยาวน์ แหม...แต่เจ้านั้นใส่เสื้อผ้าแบบนี้ด้วยเหรอ น่ารักดีเหมือนกันแฮะชุดนี้"ชิเอลหยิบชุดเด็กผู้ชายขึ้นมาดู เป็นเสื้อคอปกกะลาสีสีขาว กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล รองเท้าสีน้ำตาล พอหยิบเสื้อผ้าเด็กออกมาดูแล้วชิเอลก็เอาวางกองในไว้ในหีบแล้วจากนั้นก็เดินสำรวจต่อ

"อยากรู้จังว่าเจ้านั้นเก็บอะไรไว้ในลิ้นชักหรือเปล่านะ บางทีอาจเป็นรูปถ่ายสมัยเด็กก็ได้ แหมอยากเห็นจังว่าตอนเด็กๆเซบาสเตียนหน้าตาเป็นไง"ชิเอลพูดพรางนึกภาพตอนเซบาเตียนเป็นเด็กใส่ชุดกะลาสีนั้นแล้ว ทำให้เด็กหนุ่มอดอมยิ้มไม่ได้ คงจะน่ารักน่าดู
แล้วชิเอลก็เดินไปสำรวจลิ้นชักแต่มันกลับล๊อกเอาไว้ ชิเอลเลยใช้กุญแจที่เซบาสเตียนให้มาลองไขดูอีก หลังจากลองผิดลองถูกในที่สุดก็เปิดลิ้นชักได้สำเร็จ

"ทำไมเจ้านั้นชอบล๊อกจังเลยน้า เอาหล่ะเปิดได้และ ขอดูข้างในหน่อยละกัน"แล้วชิเอลก็ดึงที่จับเปิดลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือเด็กออกมา จากนั้นก็รื้อค้นนั่นนี่แต่ก็ไม่เจอรูปสมัยเด็กของเซบาสเตียนเลย หลังจากค้นหาไปสักพักจนมาเจอกุญแจสีเงินดอกเล็กๆดอกหนึ่งเข้าโดยบังเอิญ (บวกความซน) 

"เฮ้!!! นี่ใช่ลูกกุญแจตู้นั้นหรือเปล่านะ น่าสนใจแฮะ ลองเอามาเปิดดูหน่อยละกัน"ชิเอลหยิบลูกกุญแจดอกเล็กสีเงินขึ้นมาดูอย่างตื่นเต้น แล้วจากนั้นก็วิ่งออกไปที่ห้องทำงานเก่าๆนั้นทันที

"เอาหล่ะลองใช้กุญแจนี่ไขดูหน่อยละกัน"ชิเอลหยิบกุญแจดอกเล็กๆที่ได้จากในลิ้นชักโต๊ะเขียนหนังสือในห้องนอนเด็กมาลองไขดูที่ตู้มีรูนั้นอย่างลุ้นระทึก 
หลังจากเดินเข้าไปที่ตู้หนังสือนั้นแล้วชิเอลก็เอากุญแจดอกเล็กๆนั้นลองใส่เข้าไปในรูทันที ปรากฏว่าไม่ใช่ดอกนี้อีกน่ะสิ

"อ้าว ไม่ใช่อีกแล้วเหรอ แสดงว่าตู้นี่ไม่มีอะไรจริงๆล่ะมั้ง โธ่..ลุ้นแทบแย่ ไม่ใช่ซะงั้น เฮ้อ.."ชิเอลบ่นพรางมองดูตู้นั้นอย่างหงุดหงิด พอไม่ได้ดั่งใจก็โยนกุญแจดอกเล็กนั้นทิ้งที่พื้นทันที จากนั้นกลับไปสำรวจห้องอื่นๆต่อ

"ช่างมันไปสำรวจห้องที่สามต่อดีกว่า"แล้วชิเอลก็หันหลังกลับเดินออกไปจากห้องที่มีตู้น่าสงสัยออกไปทันทีอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วก็เดินตรงไปตามระเบียงชั้นสามเข้าไปที่ห้องที่ล๊อกประตูเอาไว้อีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับห้องเปียโน 

"เอาหล่ะมาดูห้องนี้หน่อยดีกว่า เอ...ห้องอะไรน้า"พูดพรางไขกุญแจพรางอย่างตื่นเต้น หลังจากพยายามหาลุกกุญแจในพวงนั้นอยู่ครูใหญ่ก็สามารถเปิดออกได้เสียที

"เฮ้อ... เหนื่อยกับการค้นหาลูกกุญแจชมัดเลย..กว่าจะหามาเปิดได้แต่ละห้อง "ชิเอลบ่นพรางดันบานประตูเปิดออก แล้วเดินเข้าไปสำรวจ 

"ว้าววว!!!!" ชิเอลถึงกับเบิกตาโตเลยเมื่อเข้ามาในห้องนี้ เขารู้สึกเหมือนเข้ามาในพิพิธภัณท์นานาชาติไม่มีผิด มีของโบราณในแต่ละยุคแต่ละสมัยแต่ละประเทศวางเรียงรายเต็มห้องไปหมด มีของสะสมเป็นพันๆชิ้นนับไม่ถ้วน

"โห..ยังกับเข้ามาในพิพิธภัณท์แน่ะ ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้านั้นชอบสะสมของโบราณพวกนี้ด้วยแฮะ ไปสรรหามาจากไหนกันนะเยอะแยะขนาดนี้ สงสัยคงเดินทางไปมาเกือบทั่วโลกเลยนะเนี่ย มีแต่ของหายากทั้งนั้น"ชิเอลมองดูของโบราณต่างๆตามแต่ละชั้นอย่างสนใจ บางทีก็หยิบออกมาดูใกล้ๆ 

พอดูเสร็จก็วางกองๆไว้ ชิเอลเข้าไปสำรวจห้องนี้ค่อนข้างนานพอสมควร หลังจากนั้นก็ออกมาไปสำรวจห้องอื่นๆต่อ ห้องนี้ชิเอลเข้าใจว่าทำไมเซบาสเตียนถึงล๊อกเอาไว้นั้นเพราะมีของสะสมหายากอยู่ในห้องนี้

"เอาหล่ะไปเปิดห้องอื่นๆต่อดีกว่า..."ชิเอลเดินดูห้องที่เหมือนพิพิธภัณท์จนพอใจและเขาก็ไปสำรวจห้องที่สี่ต่อซึ่งอยู่เกือบริมสุดระเบียงชั้นสามของคฤหาสน์หลังนี้ที่เซบาสเตียนล๊อกเอาไว้
พอเดินไปถึงหน้าประตูชิเอลก็หยิบพวงกุญแจมาลองผิดลองถูกไขไปอีกตามเคย จนกระทั่งไขเข้าไปได้ เขาก็เปิดประตูเข้าไปในห้องทันที

"เอ่อ...นี่มันห้องนอนนี่นา แต่เป็นของใครกันล่ะ รู้สึกสไตล์การแต่งห้องของเจ้านั่นแปลกๆนะ เหมือนไม่ใช่ห้องของเซบาสเตียนเลย"ชิเอลมองดูไปรอบๆห้องนี้มีสีสันสดใสเหมือนห้องพวกวัยรุ่นไม่ทึบทึมหรือราบเรียบเหมือนห้องอื่นๆ
หลังจากนั้นก็เดินสำรวจให้ทั่วห้อง หยิบนั่น จับนี่ บางทีก็เปิดดู รื้อค้นกระจุยกระจาย จนกระทั่งเจอกุญแจดอกเล็กๆอีกดอกอยู่ในลิ้นชัก

"แหมคงจะไม่ใช่กุญแจของตู้นั่นหรอกมั้ง"ชิเอลหยิบลูกกุญแจที่เขาค้นเจอขึ้นมาดูใกล้ๆ มันมีลักษณะแปลกกว่าอันอื่นคือมีลายสลักสีทองอร่ามเล็กๆ

"จะลองไปไขดูอีกทีดีมัยนะ "ชิเอลมองดูลูกกุญแจสีทองนั้นพรางครุ่นคิด จากนั้นก็ตัดสินใจเดินกลับไปยังห้องที่มีประตูโบราณกว่าห้องอื่นๆที่เซบาสเตียนบอกว่ามีผี เขาอยากจะพิสูจน์ให้เห็นกับตาว่ามีจริงหรือไม่

"เอาหล่ะลองดูอีกที"ชิเอลพรางวิ่งกลับไปลงมือไขกุญแจที่ตู้นั้นอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้เขาได้แต่หวังว่าจะใช่ หลังจากพยายามไขอยู่ได้ไม่กี่นาทีเสียงดังคลิกเบาๆนั้นบ่งบอกว่า ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ

"ว้าวไขได้แล้ว ใช่กุญแจดอกนี้จริงๆด้วย !!!"ชิเอลยิ้มแล้วถอยออกมาเล็กน้อยเพื่อให้กลไกของห้องลับนั้นเปิดออกด้วยความตื่นเต้น หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีตู้หนังสือนั้นยังคงนิ่งสนิทแต่กลับได้ยินเสียงคลื่นๆเหมือนกลไกกำลังทำงาน แต่ตู้ก็ยังไม่เปิดออก

"เอ..ทำไมไม่เปิดล่ะ หรือว่าต้องดัน เอาหล่ะ ฮึบ!!!"แล้วชิเอลก็ตัดสินใจใช้สองมือดันปลายข้างหนึ่งของตู้หนังสือให้เปิดออกแต่มันก็ยังเปิดไม่ออก แม้จะได้ยินเสียงกลไกทำงาน

"อ้าวไม่ใช่ให้ดันหรอกเหรอ แล้วจะทำไงล่ะ "หลังจากพยายามหาทางเปิดอยู่หลายนาทีสุดท้ายก็เปิดไม่ออก ชิเอลมองดูอย่างหงุดหงิด บ้านนี้มันอะไรนักหนานะ อุตส่าห์ไขกุญแจได้แล้วแท้ๆ ชิเอลเพ่งมองสำรวจตู้นั้นอีกที เผื่อเขาจะพลาดอะไรไปบางอย่าง

"หรือเราต้องพูดกับตู้หว่า เอ้าจงเปิดออกซะ!!!...เปิด..ประตูจงเปิด..โอมมะลึกกึกกึ๋ย ไม่ใช่และ-*-"ชิเอลลองพูดกับตู้ดังๆดู แต่มันก็ไม่มีทีท่าว่าจะเปิด เขาเดินไปสำรวจที่รอยต่อของผนังกับตู้เผื่อมีอะไรแอบซ่อนอยู่ พรานเดินไปเหยียบกับลูกกุญแจที่ได้จากห้องเด็กที่เขาโยนทิ้งไปอย่างไม่ใยดีก่อนหน้านั้น

"เอ๋ เจ้ากุญแจดอกน้อยไร้ประโยชน์นั้นนี่นา เก็บมาดีมัยนะ"ชิเอลมองดูกุญแจดอกน้อยสีเงินที่อยู่บนพื้นตรงเท้าของเขา กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะเก็บมาดีมัย

"เหอะเอาเถอะเก็บไว้ก่อนละกันเผื่อจะมีประโยชน์"ว่าแล้วชิเอลก็ก้มลงเก็บกุญแจสีเงินนั้นขึ้นมาใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงขาสั้นสีดำเอาไว้ จากนั้นก็สำรวจผนังห้องใกล้ตู้หนังสือต่อ แต่ไม่มีอะไรเลย ชิเอลหันไปดูที่โต๊ะทำงานซึ่งก่อนหน้านั้นไม่ได้สนใจเปิดออก เขาจึงตัดสินใจเปิด แต่ลิ้นชักนี้ล๊อกเอาไว้อีกแล้ว

"โหยยยให้ตายสิล๊อกอีกแล้ว เจ้านั่นเป็นนักล๊อกกุญแจหรือไงกันนะ อืมลองเปิดดูซิ"แล้วชิเอลก้หยิบพวงกุญแจมาลองไขดู แต่สุดท้ายไม่มีดอกไหนเลยที่ไขลิ้นชักนี้ได้ นอกจาก

"เอาหล่ะลองกุญแจสีเงินดู"แล้วชิเอลเอามือล้วงไปในกระเป๋ากางเกงหยิบกุญแจสีเงินออกมาลองไขดู แล้วเขารู้สึกแปลกใจที่สามารถไขได้สำเร็จ ดีนะที่ตัดสินใจเก็บมาไม่เอาทิ้งไว้แบบนั้น

"อืมแปลกดีแฮะไขออกด้วย แค่ลองมั่วๆดูนะเนี่ย เอาหล่ะไหนดูหน่อยในนี้มีอะไรบ้าง" ชิเอลค่อยเปิดลิ้นชักออกดูอย่างสนใจ ในนั้นไม่ค่อยมีอะไรมากนักมี เอกสารเก่าๆเป็นภาษาแปลกๆที่เขาอ่านไม่ออก 

"ภาษาอะไรกันนะเนี่ย ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เอ...หรือจะเป็นอักขระรูนโบราณ ภาษาปีศาจงั้นเหรอ"ชิเอลเพ่งมองอย่างสนใจ ทำยังไงเขาถึงจะเข้าใจภาษาพวกนี้นะ 

"ดีล่ะเก็บไปให้เซบาสเตียนอ่านให้ฟังดีกว่า "พอจนปัญญาที่จะอ่านชิเอลจึงเอากระดาษแผ่นนั้นพับเก็บใส่กระเป๋าเกงเกงไว้รอถามเซบาสเตียนทีหลัง จากนั้นก็รื้อค้นลิ้นชักต่อ จนมาเจอสมุดบันทึกเล่มเล็กๆเข้า ชิเอลหยิบขึ้นมาเปิดออกดู

"บันทึกของเซบาสเตียนเหรอ น่าสนใจดีนี่ แต่เจ้านั้นเขียนภาษารูนนี่นา อ่านไม่ออก -*-"ชิเอลถึงกับเสียดายนี่ถ้าเขาได้เรียนภาษารูนนั้นล่ะก็คงจะได้รู้เรื่องของเซบาสเตียนแน่เลย เก็บไว้ด้วยอีกอันละกัน ชิเอลแอบเอาบันทึกนั้นใส่ไว้ในเสื้อสีดำ

"ไว้จะบังคับเจ้านั้นให้อ่านให้ฟังทีหลัง... สำรวจต่อ"แล้วก็รื้อค้นหยิบนั้น หยิบนี่ออกมาอีก จนกระทั่งมาเจอกล่องเล็กกล่องหนึ่งเข้า ชิเอลเปิดออกดูแต่ไม่มีอะไร พอเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วก็ปิดลิ้นชักแล้วลุกเดินออกไปจากโต๊ะทำงาน เดินกลับไปสำรวจที่ตู้อีกครั้งอย่างตะขิดตะขวงใจ
เขาอยากรู้ว่าด้านหลังตู้นั้นมีอะไรจะแย่แล้วแต่ก็อับจนหนทางที่จะเปิด

"เฮ้อ..ทำไมถึงเปิดตู้นั้นไม่ได้ซักทีนะ มีกลไกที่ไหนอีกอย่างงั้นเหรอ เหอะช่างเถอะไปดูห้องอื่นต่อละกันเบื่อคาดหวังแล้ว"ในที่สุดชิเอลก็ยอมแพ้ เขาเดินออกไปจากห้องซึ่งก่อนหน้านี้เขาจุดไฟจนสว่างเอาไว้ตอนเข้ามาในห้องใหม่ๆ ตอนนี้เขาเลิกสนใจและเลยเป่าไฟในตะเกียงโครมไฟให้ดับหมดตามเดิมแต่แล้วชิเอลชะงักทันทีเมื่อดับไฟจนมืดสนิท

"เฮ้ย!!!"พอหันกลับมาเขาก็จ๊ะเอ๋กับใครคนหนึ่งตัวโปร่งใส จนเห็นทะลุไปถึงด้านหลังเลย ชัดเลย ไม่ผิดแน่ๆใช่เลย ชิเอลตาเบิกกว้างไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เห็น

"ผะ ผะ ผีผีผี !!!!!!"จากนั้นเด็กหนุ่มวิ่งหนีออกมาจากห้องทันทีด้วยความตกใจ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา