Even Villains Can Love_MaleficentxGrimhilde[Yuri]

-

เขียนโดย GarlicPepper

วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 09.02 น.

  4 chapter
  0 วิจารณ์
  6,455 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน พ.ศ. 2557 09.15 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) แลกหมัด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

1

 

ณ อาณาจักรแห่งนี้ที่ข้ามองลงมา.. ข้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันชื่ออะไร แต่มันช่างสวยงามเหลือเกิน สถาปัตยกรรมทุกชิ้นถูกออกแบบมาให้หรูหราและล้ำเลิศ เลิศซะจนข้าแอบอิจฉาผู้ปกครองที่นี่ นางชื่อกริมไฮลด์สินะ นางเป็นใครมาจากไหนฟะ! ข้าไม่เคยได้ยินชื่อนั้นมาก่อนเลย

 

แต่ก็คงจะเป็นมนุษย์ที่เก่งพอตัวถึงทำให้บ้านเมืองสงบสุขแบบนี้ แทบไม่มีโจรวิ่งราวหรือขอทาน แม้แต่หมาข้างถนนเองก็ด้วย ดูท่าว่าอาณาจักรจะสงบสุขดีเหมือนกัน.. หึหึ ข้าหวังไว้ว่าอย่างนั้นนะ

 

ข้ากระพือปีกแข็งแกร่งทะยานขึ้นฟ้า ใช้สายตาอันเฉียบคมกวาดมองไปรอบๆอาณาจักรจนกระทั่งสะดุดตากับปราสาทหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านใกล้กับหุบเขา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่มุมปากกับเป้าหมายที่อยู่เบื้องหน้า ปีกทั้งสองไม่รอช้าที่จะร่อนลงไปยังจุดหมาย

 

ข้าเหยียบรูปปั้นการ์กอยล์ที่ระเบียงปราสาทเพื่อคอยสังเกตการณ์จากหน้าต่างบานนี้ ข้าวของในห้องถูกจัดวางในที่ของมันอย่างดี บ่งบอกถึงนิสัยเจ้าของห้องที่ต้องระเบียบจัดแน่ๆ แม้แต่ไรฝุ่นที่ขอบหน้าต่างก็ยังไม่มี มันสะอาดวิ้งเหลือเกิน อะไรจะเว่อร์ขนาดนี้นะ

 

สะอาดเว่อร์เกินไปล้าว!

 

บางทีข้าควรลักพาตัวสาวรับใช้ของนางกลับไปทำงานด้วย ท่าทางจะหน่วยก้านดีแฮะ

 

“ท่านแม่คะ ท่านควรพักผ่อนเสียหน่อยนะ” หญิงงามผู้เป็นบ่าวพูดขึ้น ว่าแต่นางเรียกใครว่าแม่งั้นรึ?

 

“ข้ายังไหว… ออกไปได้แล้ว” คู่สนทนาตอบกลับมาสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นชา ข้ากระเถิบออกมาหวังจะได้เห็นใบหน้าของเจ้าของเสียง แต่กำแพงปราสาทก็บังซะได้

 

ตอนนี้ข้ายังไม่รู้ว่าข้างในปราสาทมีผู้อยู่อาศัยอยู่กี่คน ดังนั้นจึงไม่ควรผลีผลามเข้าไปจนกว่าจะรู้จำนวนคร่าวๆ เสียก่อน เห็นไหมล่ะว่าข้าไม่ได้เป็นวายร้ายที่จ้องแต่จะทำลายอย่างเดียว แต่เป็นวายร้ายที่มีมันสมองชั้นเลิศ

 

แต่เอาล่ะ นั่นไม่ใช่ประเด็นที่เราจะเอามาถกกันตอนนี้ ถึงข้าจะไม่เห็นคนอื่นนอกจากแม่สาวคนงามแล้วก็…

 

“ใครน่ะ!!”

 

พรึ่บ!

 

ข้าเกือบบินขึ้นไปหลบไม่ทันเมื่อสัมผัสของนางไวต่อการมาเยือนของข้ามาก ไม่รู้ว่านางผิดสังเกตได้อย่างไร แต่ก็ขอชื่นชมที่ไหวตัวเร็วขนาดนี้

 

ข้าจึงหยิบใบไม้แห้งที่ร่วงอยู่บนปราสาท ใช้มนตร์สีเขียวบันดาลให้มันกลายเป็นนกน้อยบินไปที่หน้าต่างเพื่อกลบเกลื่อนความผิดปกติ

 

“เป็นแค่มนุษย์แท้ๆเลยนะ” ข้าสบถออกมาพลางนึกอะไรสนุกๆ ได้ ปีกทั้งสองไม่รอช้า คราวนี้มันพาอ้อมไปยังหน้าต่างอีกบานที่อยู่หลังโต๊ะทำงานของนาง ข้าเฝ้าสังเกตจนแน่ใจว่าราชินีที่กำลังสวมมงกุฎเพชรอยู่ตอนนี้มองไม่เห็นข้าจากด้านหลัง ก่อนจะใช้นิ้วเรียวยาวทั้งสิบร่ายมนตร์ควบคุมมงกุฎนั้นจนสามารถทำให้มันลอยขึ้นมาได้โดยที่นางไม่รู้ตัว

 

ข้าค่อยๆ ประคองมันแล้ววางไว้ที่ปลายเตียง พลันใช้มืออีกข้างหนึ่งเสกกิ่งไม้ให้กลายเป็นมงกุฎไม้เถาวัลย์ ตอนนี้ข้าฉีกยิ้มอย่างเป็นสุขเหลือเกินที่ได้แกล้งแม่นางคนนี้ อยากจะหัวเราะให้ลั่นจริงๆ
ไม่นานนักมงกุฎอันใหม่แต่เก่ากึ้กไปหน่อยก็อยู่บนศีรษะของราชินีเรียบร้อย

 

“เพอร์เฟ็กต์ อะฮ่าฮ่าฮ่า” ข้าหัวเราะออกมาเบาๆ กับความไม่รู้เรื่องของนาง บางทีข้าควรจะทำอย่างอื่นอีกให้นางตกใจเล่น

 

และทันทีที่คิดแผนได้ ข้าก็มองไปที่เอกสารที่กริมไฮลด์กำลังเขียนอยู่ท่ามกลางกองกระดาษอื่นๆบนโต๊ะ มันคงสนุกกว่านี้แน่ถ้าข้าเป็นฝ่ายทักทายนางก่อน จะให้เสียมารยาทกับราชินีได้อย่างไร

 

ว่าแล้วนิ้วชี้ข้างขวาก็เข้าควบคุมปากกาขนนกที่มือของอีกฝ่าย ก่อนจะทำให้มันตวัดตามใจนึก

 

สวัสดี หญิงแก่อัปลักษณ์

 

“ลายมือสวยใช้ได้”

 

ลายมือข้ายังไม่เปลี่ยนไปเลย ด้วยเอกลักษณ์หวัดๆ แบบนี้แหละถึงไม่ค่อยมีใครอ่านมันออก ตอนนี้สีหน้าของราชินีตกใจอย่างเห็นได้ชัด ชัดซะจนข้าต้องบินหลบออกไปเพราะทนไม่ไหวก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาให้โลกรู้ถึงความสุขที่ไม่ได้มีมานาน

 

บางทีนางคงอ่านออกสินะ ถึงถลนตาออกมาแบบนั้นน่ะ

 

ข้าบินย้อนกลับไปยังหน้าต่างบานแรก แอบดูนางที่หันมองไปทั่วด้วยความโมโห คิ้วเรียวทั้งสองขมวดเป็นปม ริมฝีปากสีแดงสดถูกกัดเล็กน้อย นางคงรู้ตัวแล้วล่ะว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลอยู่แถวนี้

 

แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ข้าคาดการณ์ไว้แล้ว โทษทีที่ข้าทักทายไม่เก่งเท่าไร ก่อนจะเผยโฉมออกมา ขอแกล้งอะไรอีกสักอย่างนะ

 

ครืนนน!

 

ข้าบันดาลให้มีลมแรงพัดเข้ามาทุกทิศทาง ทำให้ข้าวของในห้องต้องปลิวกระจัดกระจายไปทั่ว

 

อา…. ช่างสะใจข้าเหลือเกิน ทั้งๆที่นางไม่ได้ทำอะไรให้เลย นี่ข้าคงไม่ได้มีอาการทางจิตหรอกใช่ไหม

 

“เจ้านั่นเอง!!” และแล้วเสียงอันแสนจะเย็นชาก็ปลุกให้ข้าตื่นจากความสุข พร้อมกับ..

 

ซ่า!

 

ของเหลวสีม่วงที่สาดมายังร่างเต็มๆ ทันทีที่หาตัวเจอ วินาทีนั้นข้าคิดเพียงอย่างเดียวว่านี่อาจเป็นยาพิษที่จ้องจะเล่นงานกลับ แต่ก็ไม่ได้กลัวอะไรหรอกเพราะออกจะเซ็งมากกว่า

 

เฮ้อ… หมดเวลาสนุกแล้วงั้นเหรอ มันช่างเร็วเหลือเกิน

 

ข้าจำใจต้องทำให้พายุสงบลง แต่ไม่วายที่มืองามคู่นั้นเข้ามากระชากคอเสื้อและพยายามดึงตัวข้าเข้าไปในห้องให้ได้

 

“เจ้ามันคืออมนุษย์! กล้าดียังไงมาบุกรุกถึงปราสาทข้า!” นัยน์ตาสีเขียวมรกตอันดุดันของนางจ้องเขม็งกลับมา อย่างกับข้าจะกลัวงั้นแหละ

 

“ใช่.. เจ้าพูดถูกที่ข้าเป็นอมนุษย์” เรียวปากฉีกยิ้มให้นางที่กำลังฉุดกระชากลากตัว คิดหรือว่าแรงแค่นี้จะสามารถแบกข้าไหว “แล้วก็เป็นอมนุษย์ที่มีชื่อเสียงพอสมควร รู้จักข้าไหมล่ะ?”

 

“งั้นเจ้าก็กำลังหลงทางอยู่สินะ”

 

“จุ๊ จุ๊ ข้าตั้งใจมาเอง อย่าเพิ่งไล่กลับบ้านนักเลย”

 

“เจ้าต้องการอะไร” ราชินีออกแรงกระชากมากขึ้น เล็บแหลมๆ ของนางจะจิกลูกกระเดือกข้าอยู่แล้วให้ตายสิ

 

“หวังว่าไอ้เมือกม่วงๆ นี่จะไม่เป็นอันตรายต่อข้านะ” ข้ายังคงยิ้มไม่หุบกับความพยายามอันโง่เขลาของนาง แล้วก็ไม่นึกกลัวของเหลวที่เปื้อนร่างด้วยซ้ำ

 

“คิดว่าข้าจะปล่อยให้เจ้าหนีออกไปง่ายๆ รึ?”

 

“อูว คิดจะขังข้าไว้ ไม่ก็ฆ่าให้ตายเลยสินะ ข้ารู้ทันหรอกราชินี มุกไก่อ่อนแบบนั้นมันเด็กเกินไป”

 

“เด็กเกินไป…” กริมไฮลด์ทวนคำ เลิกคิ้วนิดหน่อยก่อนจะแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ มืองามเปลี่ยนจากกำคอเสื้อมาเป็นเขาของข้าแทน “ถ้าอย่างนั้นข้าขอเอาเขาของคู่นี้ไปแทนก็แล้วกัน!” ตามมาด้วยยาพิษที่พร้อมจะราดลงบนหัวข้า โอ้ไม่นะ! ข้าจะไม่ยอมให้มนุษย์เอาส่วนใดของร่างกายไปอีกแล้ว!

 

โครมม!!

 

ข้าตัดสินใจกระโจนเข้าไปในห้อง แน่นอนว่าเขาคู่นี้ต้องชนกับนางเข้าแน่ๆ ถ้าโชคร้ายนางคงต้องถูกมันเสียบอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ข้าไม่มีทางเลือกอื่นแล้วถ้านางจะมาสาดน้ำกรดกันแบบนี้

 

“หึหึหึ อยากจะลองดีกับข้ารึไง?”

 

“ฮึ่มม!” ราชินีสบถออกมาก่อนจะเอื้อมไปหยิบขวดยาพิษที่ยังไม่ทันเปิดฝาออกเมื่อกี้

 

หมับ!

 

“อ้ะ อ้ะ” แต่ข้าก็รีบตะปบมือเรียวนั้นก่อนจะโดนเล่นงานอีก “แค่ขวดเดียวก็เกินพอแล้ว รสชาติยาของเจ้ามันไม่อร่อยเอาซะเลย… วางใจได้ว่าข้าไม่ได้มาร้ายหรอกนะ” อืมใช่.. เพราะข้ามาร้ายแบบสุดๆไงล่ะ

 

“ข้าไม่เชื่อ!”

 

พลั่กก!

 

ตอนนั้นเองที่ข้ากลิ้งไปสามตลบแบบไม่ทันตั้งตัว นางไปเอาแรงมาจากไหนฟะ! ทำไมประมุขแห่งความชั่วร้ายถึงได้เสียทีให้ราชินีถีบกระเด็นอย่างนี้!

 

ข้านิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับหันไปทำตาเขียวใส่ราชินี แต่เมื่อเห็นว่านางยังคงสวมมงกุฎไม้แบบบ้านๆ ความเจ็บปวดนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นความขันอย่างสิ้นเชิง

 

“เจ้าขำอะไร!” กริมไฮลด์ตวาดเสียง นางช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย

 

“เปล๊า…. แล้วจะบอกได้รึยังว่าสาดอะไรใส่ข้า” ข้าปั้นสีหน้าให้กลับมาเรียบเฉยอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้น สายตาก้มดูสภาพตัวเองที่เต็มไปด้วยเมือกเหนียวๆ ราวกับเมือกของปลาหมึก

 

“มันคือยาพิษที่ข้าภูมิใจที่สุด”

 

“งั้นๆ อะ ข้าไม่เห็นรู้สึกเจ็บปวดอะไรเลย”

 

“….”

 

นางไม่ตอบหากแต่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเพื่อประชันหน้ากับข้า

 

“มันจะทำให้อมนุษย์อย่างเจ้าตกเป็นทาสของข้าตลอดไป”

 

“หึหึ มนุษย์หรือจะมีอำนาจพอที่จะทำแบบนั้น เป็นไปไม่ได้หรอก”

 

“ถ้างั้นข้าขอสั่ง..”

 

“อย่าพล่ามอีกเลยราชินี ข้าไม่มีวันทำตามคำสั่งของมนุษย์กิ๊กก๊อก”

 

“ข้าขอสั่งให้เจ้า…” ราชินีไม่สนใจ นางพูดต่อพลางหยิบมงกุฎไม้บนศีรษะออกแล้วมองมันด้วยสายตากรุ้มกริ่ม “….สวมมันแทนข้า”

 

พรึ่บ!

 

ทันทีที่วาจานั้นลั่นออกมา ข้าก็ต่อต้านการกระทำของตัวเองไม่ได้ สองมือกำลังรับมงกุฎจากอีกฝ่ายช้าๆ แล้วสวมมันไว้ที่เขาข้างหนึ่ง พลันเสียงหัวเราะกลับไปเป็นของคนที่กำลังยื่นกระจกมาให้ส่อง

 

นางคงมองเห็นมงกุฎบนหัวจากกระจกบานนี้สินะ!

 

“กระจกวิเศษเอ๋ย จงบอกข้าเถิด…” ตามมาด้วยเสียงของเจ้าของกระจกที่โพล่งขึ้นมาขณะที่ข้าเป็นฝ่ายหัวเราะไม่ออก ไม่อยากเชื่อว่านางจะสั่งข้าได้จริงๆ! “…ใครอัปลักษณ์ที่สุดในปฐพี!”

 

อ๊ากกก!!

 

เล่นกันแบบนี้เลยเรอะ!

 

ข้าแทบจะเก็บความโกรธไว้ไม่อยู่ที่ประมุขแห่งความชั่วร้ายต้องมาทำอะไรน่าขันเช่นนี้ ก่อนจะเอานางไปเก็บ ข้าควรทำลายกระจกนั่นซะ!

 

เพล้ง!!

 

ปีกใหญ่ไม่รอช้าที่จะปัดวัตถุผิวเรียบให้ตกแตก ขอยอมรับว่านางเป็นมนุษย์ที่ไม่ธรรมดาเลย ข้าคงต้องเอาคืนให้สาสมเสียหน่อย!

 

“เจ้าอย่าคิดว่ายาพิษของเจ้าจะมาสู้มนตร์ดำของข้าได้!” ว่าแล้วก็เริ่มสำแดงฤทธิ์เดชของตัวเองบ้าง บันดาลให้เกิดเปลวเพลิงสีเขียวขึ้นห่อหุ้มไปทั่วร่าง ความร้อนของมันพร้อมจะเผาทุกอย่างให้เป็นจุล ตอนนี้ข้ากำลังร่ายคำสาปใส่ราชินี

 

ราชินีจอมเย่อหยิ่งมันต้องเจอแบบนี้!

 

“เจ้าก็อย่าดูถูกมนุษย์อย่างข้านัก!!” กริมไฮลด์ยังคงไม่สิ้นฤทธิ์ นางคว้าขวดยาพิษสีดำสนิทก่อนจะเปิดมันออก

 

ตูมมม!!!

 

การปะทะกันระหว่างมนุษย์และอมนุษย์ทำให้ต่างฝ่ายต่างกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง ตั้งแต่เกิดมาข้ายังไม่เคยเจอสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ที่สามารถต่อกรกับเวทมนตร์ได้ จนกระทั่งวันนี้

 

อั่ก!

 

โชคดีที่ข้าไม่เป็นอะไรมาก ปีกแข็งแร็งช่วยปกป้องอันตรายจากทุกอย่าง พอรู้สึกตัวอีกทีก็บินอยู่นอกปราสาทแล้ว เมื่อหันกลับไปมองก็พบว่าภายในห้องทำงานของกริมไฮลด์ปะปนไปด้วยกลุ่มควันสีเขียวอ่อน ข้าที่ควรจะฉีกยิ้มและหัวเราะอย่างสะใจกลับทำอย่างนั้นไม่ได้…

 

“กริมไฮลด์!!” ไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้ข้าเป็นห่วงนางนัก ปีกทั้งสองไม่รอช้าที่จะเข้าไปโหมกระพือไล่ควัน สายตากวาดมองจนทั่วแต่ก็หาร่างนั้นไม่เจอ มนุษย์อย่างนางจะต้านแรงระเบิดได้สักกี่น้ำกันเชียว

 

หายไปไหนนะ หรือจะกระเด็นออกไปข้างนอก?!

ทันทีที่นึกออก ข้าก็รีบบินออกไปดูจึงพบกับร่างที่สลบอยู่บนระเบียง

 

กึก..

 

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อระเบียงปราสาทได้ถล่มลงมาทั้งหมด ร่างของราชินีผู้หลับใหลมิอาจรู้สึกตัวถึงแรงสั่นสะเทือนนี้จนต้องไถลไปตามพื้นหินที่เอนเอียง โดยที่พื้นข้างล่างนั้นไม่ต่างอะไรกับเหวลึกดีๆ ข้ารีบบินถลาไปช้อนร่างนั้นด้วยหัวใจที่หล่นวูบ แทบจะลืมหายใจไปตอนนั้นเลย

 

แต่ก็โชคดีที่ช่วยได้ทันเวลา

 

“มนุษย์อย่างเจ้ารึจะมีปัญญามาสู้กับข้า”

 

ข้าถอนหายใจพลางมองใบหน้าของนางที่มีแต่รอยขีดข่วนกับรอยฟกช้ำ หรือว่าข้าจะเล่นแรงไปนะ

 

“ท่านแม่! เกิดอะไรขึ้น!” และแล้วเสียงดังโครมครามเมื่อครู่ก็ทำให้เด็กสาวต้องตามหาแม่ด้วยความเป็นห่วง สภาพห้องเละเทะแบบนี้กับกำแพงที่ทะลุเป็นรูโหว่คงทำให้นางช๊อกไปหลายวัน

 

แล้วข้าควรจะหาที่ซ่อนดีไหมนะ ในขณะที่เสียงฝีเท้าของนางใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว

 

“ท่านแม่!!” เมื่อหญิงรับใช้เข้ามาในห้องได้สำเร็จก็พบกับกริมไฮลด์ที่นอนสลบอยู่บนพื้น ข้าคงไม่อาจปรากฏตัวให้นางเห็นได้ ไม่อย่างนั้นนางอาจกลัวจนเป็นหมดสติไปอีกคน แต่ก็ยังไม่ไปไหนหรอก ได้แต่เฝ้าดูอยู่ห่างๆ บางทีการมาหาความสำราญครั้งนี้ต้องจบลงด้วยการทำร้ายมนุษย์คนหนึ่ง…

 

ซึ่งก็เป็นมนุษย์ที่มีแววตาดุยิ่งกว่าข้าเสียอีก

 

ครืน

 

ข้าบินไปยังส่วนอื่นๆ ของปราสาท หวังจะเห็นคนอื่นนอกจากสตรีสองนางนี้ แต่แล้วกลับเป็นที่แปลกใจเมื่อยังไม่พบสิ่งมีชีวิตอื่นใดในปราสาทนี้เลย

 

เหมือนอะไรบางอย่างดลใจให้คิดแบบนี้ ข้าคิดว่าหญิงรับใช้คนนั้นจะปรุงยาให้เสด็จแม่ของนางไม่เป็น ทั้งที่นางอาจได้ร่ำเรียนจากราชินีมาแล้วก็เป็นได้ แต่ข้าก็ไม่รอให้เห็นกับตาจึงบินกลับเมืองมัวร์เพื่อไปเอายามาให้

 

นี่มันเกิดบ้าอะไร ปกติข้าจะทิ้งเหยื่อแล้วหนีไป ไม่สนใจเหลียวกลับมาดูซากด้วยซ้ำ

 

“หรือเป็นเพราะฤทธิ์ยาของนาง”

 

นี่อาจเป็นคำตอบเดียว ณ ตอนนี้ ช่างกล้าเหลือเกินนะราชินีที่คิดจะให้ข้าตกเป็นทาสน่ะ หึหึ แต่อย่าลืมว่าข้าไม่ได้โดนเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียวนะ ถือว่าเราแลกหมัดกัน

 

อา… คำสาปของข้า ไม่มีอำนาจใดลบล้างได้

 

ในนามของประมุขแห่งความชั่วร้ายทั้งปวง ข้าขอสาปองค์ราชินีที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ทุกครั้งที่นางใช้อำนาจสั่งข้าสำเร็จ นางจะต้องชดใช้ข้าด้วยจุมพิตของนาง! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!

 

นี่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น ถ้าหากนางยังไม่เข็ดล่ะก็ จะต้องถูกข้ากลั่นแกล้งยิ่งกว่านี้ หึหึหึ

 

ไม่นานนักข้าก็กลับมายังปราสาทอีกครั้งพร้อมตัวยาดีๆ จากในเมือง ห้องของราชินียังเละเทะอยู่เหมือนเดิม เพียงแต่บัดนี้หญิงรับใช้คงพานางไปนอนพักที่ห้องอื่น

 

ข้าจึงเดินลัดเลาะไปตามทางในปราสาท ระหว่างทางก็คิดมาตลอดว่านางคงเห็นข้าเป็นแค่อมนุษย์ที่จ้องแต่ทำลายความสุข นางต้องรู้ว่าการที่ข้ากระหายความชั่วอยู่บ่อยๆ มันไม่ได้หมายความว่าจะทำอย่างนั้นจริงๆ ดูอย่างครั้งนี้ที่สิข้าแค่แกล้งสนุกๆ เท่านั้น แต่นางก็ทำอย่างกับข้าเป็นยักษ์มาบุกเมือง

 

ข้าไม่ได้ต้องการสงครามว้อย!

 

“กริมไฮลด์… เจ้ามันเป็นมนุษย์ที่น่าสนใจ คงไม่ว่าอะไรนะหากข้าจะอยู่ก่อกวนเจ้าต่อ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา