Even Villains Can Love_MaleficentxGrimhilde[Yuri]

-

เขียนโดย GarlicPepper

วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 09.02 น.

  4 chapter
  0 วิจารณ์
  6,344 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน พ.ศ. 2557 09.15 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

2) ฝ่ามือพิฆาต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

2

 

 

ข้าได้แต่แอบมองแม่สาวคนงามกำลังปรุงยาให้กริมไฮลด์ นางเปิดตำราให้วุ่นราวกับพระพายหอบมาจากไหน มืองามหยิบนู่นผสมนี่ก่อนที่ความล้มเหลวจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้เลย นางเหมาะแก่งานบ้านงานเรือนมากกว่า

 

“ท่านแม่ รอข้าเดี๋ยวนะ ข้าจะ…”

 

ฟู่ววว ตูม!

 

ระเบิดขนาดย่อมๆ เกิดขึ้นขณะที่แม่หนูกำลังผสมยาเข้าด้วยกัน ข้าเห็นแล้วก็ได้แต่กุมขมับกับความไม่ได้เรื่อง ไม่รู้ว่าควรจะออกไปปรากฏตัวดีไหมนะ

 

ตอนนี้นางมีสภาพที่ยุ่งเหยิงกว่าก่อน ทั้งผมเผ้าและเสื้อผ้าเหมือนเพิ่งออกมาจากเตาอบก็ไม่ปาน นางพยายามพลิกตำราอ่านอีกครั้ง ชาตินี้คงผสมยาให้เสด็จแม่สุดที่รักไม่ได้แน่ ถึงแม้ที่นี่จะไม่ใช่ห้องปรุงยาของกริมไฮลด์ที่ข้าเคยเห็นจากไอหมอกเวทมนตร์ แต่ก็มีข้าวของที่มากอยู่ทีเดียว

 

ร่างของราชินีถูกวางไว้บนเตียงหนานุ่มในขณะที่สาวใช้หน้าหวานยังคงไม่ละความพยายาม

 

“ท ท่านแม่.. ข้าขอโทษ”

 

ฟึ่บ..

 

แต่แล้วนางก็ล้มลงไปพร้อมกับขวดยาที่ตกอยู่ข้างๆ สงสัยว่าจะทดลองดื่มยาด้วยตัวเอง ใครสั่งใครสอนให้ทำแบบนี้นะ!

 

ข้ารอดูให้แน่ใจว่านางสลบไปแล้วจริงๆ จึงตัดสินใจเดินเข้าไปในห้อง

 

“อา…” มือข้างหนึ่งเอื้อมไปแตะใบหน้าของหญิงรับใช้ที่นอนอยู่ “ช่างโง่เขลาเสียจริง” ข้าแสยะยิ้มให้กับใบหน้าหวานที่มีรอยไหม้ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายเป็นราชินีที่นอนอยู่บนเตียง สายตาพิศดูนางในยามหลับ แม้จะไม่น่ารักเท่าแม่สาวน้อยเท่าไร แต่ก็งาม…

 

งามใช้ได้

 

“ขออนุญาตนะองค์ราชินี” ข้าพูดพอเป็นพิธีแล้วเปิดขวดยาที่เอามาด้วยก่อนจะตั้งใจกรอกใส่ปากนาง

 

หมับ!

 

“ข้าไม่ได้เสียทีง่ายๆ แบบนั้น” แต่ยังไม่ทันที่ยาจะเข้าปาก มือเรียวนั้นก็เข้ามารั้งไว้ก่อน แถมแววตาก็ยังดุไม่เปลี่ยนแม้ตัวเองจะได้รับบาดเจ็บ

 

“เจ้าไม่มีทางสู้ข้าได้ อยู่เฉยๆ จะดีกว่านะ” ข้าเปรยขึ้นมาเรียบๆ ไม่คิดว่านางจะยอมฟังอมนุษย์อย่างข้าหรอก “นี่เป็นยาที่เมืองของข้า ดูท่าว่าเจ้าจะไม่เคยสอนแม่สาวคนงามหัดปรุงยาบ้างเลย”

 

นางขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองร่างของใครคนนั้นที่กำลังสลบไสลอยู่

 

“เจ้า! เจ้าทำอะไรนาง!”

 

“โอว…เย็นไว้ราชินี ข้าแค่เอายามาให้ ดีกว่ารอนางปรุงยาพิษให้เจ้าดื่ม”

 

“ข้าไม่กินยาของพวกอมนุษย์!” กริมไฮลด์พยายามชันตัวลุกขึ้น แต่ก็ครางออกมาด้วยความเจ็บปวดไม่แพ้กัน

 

“เจ้าน่าจะถึกกว่าที่ข้าคิดไว้นะ ยาแค่นี้ไม่มีผลกับเจ้าหรอก อีกอย่างเจ้าก็เชี่ยวชาญการปรุงยาพิษ น่าจะดูออกว่ายาขวดนี้มีพิษรึเปล่า”

 

“เจ้าต้องการอะไร” ราชินีพูดเสียงเรียบ นางคงไม่อยากเสียเวลามาเถียงกับข้าสินะ นัยน์ตาสีเขียวมรกตคู่นั้นที่เป็นสีเดียวกันกับข้าก็ส่อแววเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงกับต้องไล่ประมุขแห่งความชั่วร้ายเพราะอยากพักผ่อนเนี่ย เป็นกิริยาที่ไม่งามเอาซะเลย

 

ข้าตัดสินใจไม่พูดอะไรแล้ววางขวดยาไว้บนโต๊ะ แผนชั่วบางอย่างกำลังแล่นเข้ามาในสมอง

 

“ข้าแค่ต้องการมาหาความสำราญเท่านั้น แต่ก็คงไม่รบกวนเจ้านานหรอก”

 

“…”

 

“ข้าก็แค่ไม่มีเพื่อนเล่น” ไม่รู้ว่าแผนนี้จะทำให้จอมโหดอย่างนางยอมใจอ่อนไหม ข้าจึงปั้นหน้าจะร้องไห้ แล้วก็เสกหยดน้ำตาเทียมออกมาให้ไหลอาบแก้ม

 

ราชินีไม่พูดอะไร นางมองข้าด้วยความงงแบบหาที่สุดมิได้ หรือว่าจะเบื่อกับอมนุษย์อย่างข้าแล้วนะ อย่างนี้ก็แกล้งไม่สนุกแล้วสิ!

 

“ถะ ถ้าอย่างนั้นข้าจะไปจากที่นี่” ให้ตายเถอะ ถ้ามันจะแป๊กเร็วขนาดเน้!
แต่ข้าก็ยังไม่ยอมแพ้จึงงัดไม้เด็ดขึ้นมาโดยการทำเสียงให้น่าสงสารสุดๆ เพื่อที่นางจะพูดอะไรออกมาบ้าง “โธ่ แม่นางกริมไฮลด์.. โปรดเมตตาอมนุษย์อย่างข้าด้วย.. ฮึก” หยดน้ำตาถูกเสกขึ้นหยดแล้วหยดเล่า หยดจนเตียงแฉะแบบที่ข้าไม่ทันเห็น แต่พอรู้ว่ามันมากเกินไปก็รีบหยุดไว้แค่นั้นก่อนที่ราชินีจะผิดสังเกต

 

แต่กลับเป็นข้าต่างหากที่ควรจะผิดสังเกตนางให้เร็วกว่านี้หน่อย

 

“หลับ”

 

ข้าล่ะเซ็งเลยทีเดียว ทำไมราชินีผู้ดุร้ายถึงได้สิ้นฤทธิ์แค่นี้นะ ไหนบอกว่าจะไม่เสียทีให้กับข้าง่ายๆ ไงฟะ!
ข้าไม่รอให้นางฟื้นขึ้นมาด่าอีกครั้งก็รีบจับยากรอกปาก แรกๆ นางร้องออกมานิดหน่อยแต่ก็ยอมกินยาจนหมดก่อนจะหลับไป

 

รุ่งเช้า

 

ข้าซึ่งยังไม่ได้กลับไปเมืองมัวร์ ได้แต่บินดูรอบๆ อาณาจักรนี้จนรู้ทางหมดเปลือก กริมไฮลด์นอนหลับไปคืนหนึ่งเต็มๆ ในขณะที่ข้า… แน่นอนว่าข้าไม่ได้อยู่เฝ้านางทั้งคืน! ข้าก็แค่หลับๆ ตื่นๆ เท่านั้น

 

ส่วนแม่สาวคนงามที่กินยาจนสลบไปเองก็ฟื้นขึ้นมาซะกลางดึก เล่นเอาข้าหาที่ซ่อนแทบไม่ทัน และจนบัดนี้นางก็ยังไม่รู้ว่ามีอมนุษย์อย่างข้าเข้าไปป้วนเปี้ยนอยู่ในปราสาท อย่างไรเสียนางคงคิดว่ากริมไฮลด์ตื่นมาปรุงยาดื่มเองเพราะข้ายังคงวางขวดเปล่าทิ้งไว้บนโต๊ะ

 

ข้าบินกลับเข้าไปในปราสาทอีกครั้งโดยใช้ห้องทำงานของราชินีเป็นทางเข้าออกไปเรียบร้อย เพราะข้ายังคงไม่ต้องการให้มนุษย์คนอื่นนอกจากกริมไฮลด์ได้เห็นตัว

 

ห้องทำงานนี้ยังเละเทะเหมือนเดิม นี่นางขาดคนรับใช้ขนาดนั้นเลยหรือ? แต่นางเป็นถึงองค์ราชินี ทำไมถึงไม่ยอมจ้างใครมาทำงานที่นี่นอกจากแม่สาวคนนั้น หรือว่านางเป็นพวกขี้งก คงจะหวงสมบัติมากสินะ

 

ข้าส่ายหน้ากับความแปลกพิลึกของนาง เพิ่งรู้จักราชินีที่มีปราสาทใหญ่โตไว้เพียงให้ไรฝุ่นเกาะเล่นก็วันนี้แหละ นึกแล้วก็น่าขันสิ้นดี

 

“เจ้ากลับมาอีกทำไม” เสียงเย็นชาดังขึ้นจากด้านหลัง นางคงหายดีแล้วถึงหิ้วสังขารขึ้นบันไดมาห้องทำงานที่สูงขนาดนี้

 

“ข้าไม่ได้กลับมา” ข้าตอบเสียงเรียบ ว่าแต่นางรู้ได้อย่างไรว่าข้าออกไปก่อนหน้านี้ นางหลับอยู่ไม่ใช่เรอะ!

 

“ดูท่าอมนุษย์อย่างเจ้าจะต้องการเพื่อนเล่นจริงๆ แต่ข้าคงไม่ว่างมาเล่นกับเด็กอย่างเจ้า”

 

!!

 

ข้าถลึงตาออกมาเมื่อนางหาว่าข้าเป็นเด็ก ใครเป็นเด็กกันห้ะ! ข้ายังวัยรุ่นอยู่ คิดจะกวนประสาทกันเรอะ ถ้าไม่ติดที่นางเพิ่งหายดี ข้าคงถือโอกาสสั่งสอนซะตอนนี้เลย

 

“กริมไฮลด์… ทั้งๆ ที่เจ้าก็ไม่ได้ทำอะไรให้ข้า แต่ข้าก็แกล้งซะขนาดนี้ เจ้าคิดว่าไงล่ะ” ข้าตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง ทำทีเป็นขอความเห็นจากคนที่ถูกแกล้ง ทั้งที่ก็หลอกถามอาการของนางต่างหาก

 

“ข้าอยากจะฆ่าเจ้า”

 

O.O

 

โอ้คุณพระ ถึงนางจะสบถเบาๆ แต่ข้าก็ยังได้ยิน แถมน้ำเสียงนั่นก็ช่างอาฆาตแค้นเหลือเกิน แค้นข้ามากขนาดนั้นเลยหรือ?

 

“เอาล่ะ เอาล่ะ ข้าไม่ได้อยากทำสงคราม แล้วก็ไม่ต้องการอาณาจักรของเจ้า… เห็นไหมว่าข้ามาดี ^^”

 

“เจ้า…” นางเดินมาประชิดตัวจนข้าหุบยิ้มไม่ทัน “…อย่าหวังเลยว่าจะได้กลับไปโบยบินข้างนอกอีก ข้าขอสั่ง…”

 

“ชู่วว… รู้มั้ยว่าเจ้าไม่ได้สาปข้าอยู่ฝ่ายเดียวนะ” ประโยคนั้นของราชินีทำให้ข้าต้องรีบเอานิ้วแตะริมฝีปากของตัวเองเพื่อให้เงียบเสียง “เจ้าอย่าสั่งข้าเลย ไม่อย่างนั้นเจ้าจะพบกับสิ่งมหัศจรรย์”

 

“อยากรู้เหมือนกันว่ามหัศจรรย์ที่ว่าคืออะไร”

 

“องค์ราชินี! ครั้งนี้เจ้าห้ามเถียงข้า”

 

“ข้าไม่กลัวคำขู่ของเจ้า”

 

“งั้นก็ลองดูสิ” ข้าเอ่ยปากท้าก่อนจะส่งยิ้มหวานให้ แถมด้วยการทำปากจู๋เพื่อเป็นการเตือนอ้อมๆ จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่บุญกรรมของนางล่ะนะ

 

ราชินีขมวดคิ้วกับท่าทีของข้า สองเท้าก้าวถอยหลังราวกับเจอพวกโรคจิตในซอกหลืบ นั่นจึงทำให้ข้ารู้ตัวว่าประมุขแห่งความชั่วร้ายไม่ควรมาทำอะไรที่น่า… น่าทุเรศแบบนี้

 

แต่ก่อนที่จะปรับสภาพหน้าให้เป็นดังเดิม นางก็ฝอยอะไรบางอย่างที่ทำเอาข้าเกือบหัวใจวายตาย

 

“ข้าขอสั่งให้เจ้ารับใช้ข้าตลอดไป!”

 

และแล้วประโยคที่ไม่อยากได้ยินก็ดังขึ้น มันเร็วเกินกว่าจะไหวตัวทัน สองมือของราชินีดึงหน้าข้าเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ พร้อมกับกลิ่นหอมของนาง

 

ไม่นะ.. นางกำลังจะ..

 

จุ๊บ

 

กริมไฮลด์นิ่วหน้ากับการกระทำของตัวเอง นางไม่สามารถบังคับร่างกายได้ก่อนจะมอบจุมพิตให้ข้า พลันทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง

 

“เจ้า!!”

 

“แหวะ”

 

ดูเหมือนองค์ราชินีที่อุตส่าห์รักษามาดเข้มเรื่อยมาได้ตะบะแตกเป็นที่เรียบร้อย ข้าได้แต่ยืนตาลอยเพราะไปต่อไม่ถูก “คำสาปบ้าอะไร!” นางพยายามใช้แขนเสื้อเช็ดริมฝีปาก ส่วนข้าเองก็ไม่ต่างกัน

 

ให้ตายเถอะ! ข้าเกิดอารมณ์อยากจะอ้วกขึ้นมาเดี๋ยวนั้นเมื่อโดนคำสาปของตัวเองทำพิษ ไม่นึกเลยว่านางจะเอาจริง อุตส่าห์คิดว่าคำสาปนี้จะขัดขวางฤทธิ์ยาของนางได้อยู่แล้วเชียว

 

ราชินีจะไม่มีทางยอมจูบกับข้า และมันจะทำให้นางสั่งข้าไม่ได้ด้วย

 

แต่ก็ไม่คิดเลยว่าจะเสียจูบให้จริงๆ TTOTT

 

“โอย ปากข้า”

 

“ข้าจะฆ่าเจ้า!!!” ยังไม่ทันที่ข้าจะหายช๊อกกับจูบรสสตรอเบอรี่.. ลิปสติกของนางน่ะ ข้าก็กำลังถูกปองร้ายอีกครั้งด้วยฝ่ามือพิฆาตข้างนั้น

 

“อ้ะ อ้ะ” แต่ข้าก็หลบทัน เรื่องอะไรจะยอมให้ตบกันง่ายๆ “เจ้าจะโกรธทำไม คิดเหรอว่าข้าอยากจะจูบกับเจ้านัก”

 

“!!” แล้วนางก็ถลึงตาออกมาด้วยความโมโหสุดขีด แอบเสียวเหลือเกินว่ามันจะถลนออกมาหรือ

 

ไม่ ข้าอยากจะหัวเราะแต่ก็หัวเราะไม่ออกเมื่อกริมไฮลด์ชักมีดออกจากฝักพร้อมกับของเหลวสีม่วงที่ไหลเยิ้มตามใบมีด

 

โอพระเจ้า นางกำลังวิ่งฟันข้า นี่มันบ้าอะไร! ก็แค่จูบทำไมต้องไล่กวดกันแบบนี้ด้วย!

 

“ฟะ ฟังข้าก่อน!!”

 

“ไอ้! ไอ้เปรตนรก!!”

 

วืด วืดด

 

“ฟังข้าก่อนได้ม้ายย!!” แต่นางก็ยังไม่หยุดจนมาถึงสุดขอบระเบียงที่ถล่มลงไปเมื่อวาน

 

“ตายซะเถอะ!” กริมไฮลด์พุ่งพรวดเข้ามาแทงข้าพอดี แต่ทว่า..

 

พรึ่บ!

 

ข้าก็บินหลบอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“อ อ๊า!!” แล้วก็ไม่ต้องสงสัยอีกเช่นกันว่านางจะร่วงลงไปอีกเป็นครั้งที่สอง

 

=.=

 

เหอะ! ข้าเริ่มคิดว่าควรจะปล่อยให้นางตกเหวตายไปเลยดีมั้ย แต่ก็ไม่มีเวลามาคิดแค้นขนาดนั้นจึงดิ่งลงไปช่วยด้วยใจที่เป็นกุศล บอกแล้วไงว่าข้าไม่ใช่วายร้ายนิสัยเสีย นางควรจะรู้ข้อนี้ได้แล้ว แล้วก็ยอมเป็นเพื่อนเล่นให้ข้าเสียที ไม่สิ… ยอมให้ข้าแกล้งต่อไปต่างหาก

 

พรึ่บ

 

ข้าช้อนตัวกริมไฮลด์ขึ้นมาได้สำเร็จในขณะที่มือของนางยังคงถือมีดไว้อยู่ แต่ใบหน้ากลับซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด

 

“เป็นอะไร เมื่อกี้ยังจะฆ่าข้าอยู่เลย” ข้าถามขึ้นหลังจากที่พานางมาส่งถึงห้อง แต่นางก็ไม่พูดอะไรก่อนจะทิ้งมีดนั่นไปเฉยๆ “หรือว่าเจ้าจะกลัวความสูง” ข้าเข้าไปกระซิบที่หูกริมไฮลด์หวังจะให้นางตอบโต้อะไรกลับมาบ้าง แต่ดูเหมือนนางจะ…

 

โครมม!!

 

“เจ้ามันสารเลว!!”

 

เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ!!

 

โอย.. TT3TT

 

ราชินีใจยักษ์ผลักข้าล้มลงก่อนจะตามไปจัดการด้วยฝ่ามืออย่างที่เห็น… นี่ข้าโดนนางหลอกให้เห็นใจเรื่องตกจากที่สูงงั้นเหรอ ประมุขแห่งความชั่วร้ายอย่างข้าเสียทีให้กับมนุษย์อีกล้าว!! ช่างน่าสมเพชตัวเองเหลือเกิน!

 

“พะ พอได้แล้ว!” ข้ารีบตะโกนขึ้นมาหวังจะให้นางหยุดตบ “ถ้าข้าเป็นอะไรไป ใครจะดูแลเจ้าล่ะหา!!”

 

“….”

 

ดูเหมือนประโยคไม่ทันคิดของข้าจะทำให้นางรั้งฝ่ามือสุดท้ายไว้ได้ ไม่คิดเลยว่าจะมีมนุษย์ฝ่ามือหนักเยี่ยงเท้าช้างอยู่บนโลกนี้ด้วย

 

ข้าหอบหายใจแฮ่กๆ ราวกับขาดออกซิเจนอย่างหนัก เจ็บแสบไปทั้งหน้า แล้วก็คงชาไปอีกหลายวัน ภาวนาว่าอย่าให้ผิวหน้าหยาบกร้านเท่าผิวเท้าก็พอ

 

“นี่เป็นการเตือน! อย่าได้ริลองดีกับข้าอีก!” ว่าแล้วราชินีจอมโหดก็ลุกขึ้นยืน ทิ้งให้อมนุษย์หน้ายับนอนหมดแรงอยู่ที่พื้นก่อนจะเดินเก็บข้าวของในห้อง

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าโดนตบซะน่วมขนาดนี้ ทำไมนางถึงจริงจังกับจูบนั่นนักนะ ทั้งที่ข้าก็บอกไปแล้วว่าข้าไม่ได้อยากจะจูบด้วยสักหน่อย อีกอย่างนางเป็นถึงราชินี ก็แสดงว่าต้องมีพระราชาสิ แล้วก็เป็นที่แน่นอนว่าจูบแรกของนางต้องไม่ใช่ข้า แต่เป็นพระสวามีของนางต่างหาก เพียงแต่ยังไม่แน่ใจเรื่องลูก เพราะหน้าตาของหญิงรับใช้คนนั้นไม่มีเค้าของนางเลยสักนิด

 

ข้ายังคงนอนแผ่อยู่บนพื้น หวังจะใช้เวทมนตร์ช่วยฟื้นตัว

 

“เจ้าจะนอนไปถึงไหน มาช่วยข้าเก็บของเดี๋ยวนี้”

 

=.=

 

ข้าเหล่มองแม่นางคนที่เพิ่งตบข้าไปหมาดๆ แล้วคิดจะมาขอความช่วยเหลืองั้นเหรอ หึหึ

 

ข้าจึงไม่พูดอะไรแต่ยังคงนอนเฉย ทำไมจะต้องยอมเป็นทาสกันง่ายๆ ในเมื่อตัวเองมาที่นี่เพื่อหาความสำราญ ไม่ได้มาทำงานเป็นเบ๊ให้สักหน่อย

 

“เจ้า!!” กริมไฮลด์ขึ้นเสียงอีกครั้งเมื่อเห็นว่าข้าไม่กระดุกกระดิกไปไหน นางส่งสายตายักษ์มาให้ก่อนที่มือเรียวคู่นั้นจะฉุดกระชากลากตัวข้าไป ช่างเป็นมนุษย์ที่โหดเหี้ยมเหลือเกิน

 

ข้าพยายามถ่วงน้ำหนักให้มากที่สุดเพื่อไม่ให้นางลากตัวไปไหนได้ ใช้มือเกาะขาโต๊ะแล้วก็ดิ้นพล่านไปมา สองเท้าถีบทุกอย่างที่ขวางหน้าเพื่อแสดงให้เห็นถึงการต่อต้านอย่างสุดฤทธิ์

 

เมื่อราชินีทำไม่สำเร็จจึงได้แต่ยืนมองความดื้อรั้นอยู่แบบนั้น แต่ข้ายังคงไม่พูดอะไรเพราะอยากรู้ว่านางจะทำอย่างไรต่อ แน่นอนว่านี่เป็นการก่อกวนอย่างหนึ่งซึ่งข้าก็แอบสะใจเล็กๆ

 

“ที่ห้องข้าเละแบบนี้ก็เพราะใคร!”

 

จนแล้วจนรอดนางก็ตวาดใส่ข้าที่ยังนอนแผ่ทับของที่กองเกลื่อนพื้น ข้าจะนอนเกะกะแบบนี้แหละ หึหึ นอกจากจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ห้องนี้เละ ข้าก็จะเป็นต้นเหตุที่ทำให้นางเป็นโรคประสาทด้วยเช่นกัน

 

เมื่อคิดได้ดังนั้นข้าก็นอนแกว่งขาเล่น ไม่สนใจว่านางจะดุจะด่ายังไง ยิ่งนางต่อต้านข้า ข้าก็จะยิ่งก่อกวน

 

“เฮ้อ กริมไฮลด์… ข้าชักจะง่วงแล้วล่ะ ขอนอนบนเตียงเจ้าได้มะ” ข้าเลื่อนนยน์ตาไปสบกับราชินีพร้อมรอยยิ้มใสซื่อ ครั้งนี้ไม่มีลูกไม้หรอกเพราะข้าง่วงจริงๆ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะใคร… ใครฟะที่ทำให้ข้านอนไม่ค่อยหลับเมื่อคืน!

 

แต่นางก็ทำหน้ายักษ์ใส่ข้า แถมยังเบือนหน้าหนีกันดื้อๆ เห็นแล้วก็อดอารมณ์เสียไม่ได้ นางจะกวนประสาทใส่กันทำไม ในเมื่อข้าเป็นคนเดียวที่มีสิทธิจะทำแบบนั้น

 

ในขณะที่ราชินีกำลังก้มๆ เงยๆ ข้าก็นอนกระดิกขาเล่นอยู่บนเตียงใหญ่หนานุ่มที่มีกระดาษวางเกลื่อน และด้วยความที่ตัวเองเป็นวายร้ายใจดี ข้าจึงใช้นิ้วชี้ข้างหนึ่งร่ายมนตร์ทำให้ข้าวของส่วนหนึ่งกลับมาอยู่ในที่ของมัน กริมไฮลด์ที่กำลังเสียเหงื่อไปไม่น้อยหันขวับมามองก่อนจะพูดขึ้นอีก

 

“ข้าขอสั่งให้เจ้า”

 

“อย่า!!!” ข้ารีบยกมือห้ามกับประโยคบ้านั่น ไม่อยากจูบอีกแล้วนะถึงแม้นางอาจจะติดใจก็เถอะ

“จะ… เจ้าอย่าลืมว่าคำสาปข้ายังอยู่ =////=”

 

“งั้นเจ้าก็รีบถอนมันเดี๋ยวนี้”

 

“นี่ราชินี มันไม่ง่ายเหมือนถอนขนหรอกนะ หึหึ”

 

“ข้าบอกว่าให้ถอน”

 

“ขนรึ?”

 

“ถอนคำสาป!”

 

นี่ข้าฝันไปรึเปล่าที่เห็นนางกำลังทำหน้าบูดใส่ แล้วทำแก้มป่องแบบนั้นมันหมายความว่ายังไง ยิ่งทำให้ข้าอยากหัวเราะออกมาดังๆ

 

“ข้า-ไม่-ถอน-คำ-สาป.. มีอะไรมะองค์ราชินี” ข้าจงใจเน้นประโยคแรกทุกคำเพื่อตอกย้ำว่านางจะไม่มีวันสั่งให้ทำอะไรฟรีๆ ถึงแม้คำสาปของข้าจะดูบ้าในสายตาของนางก็เถอะ

 

สุดท้ายกริมไฮลด์ก็โกรธมากจนเลือดขึ้นหน้า ข้ายิ่งฉีกยิ้มกว้าง นี่แหละชีวิตของวายร้ายที่ข้าโหยหามานาน ไม่จำเป็นต้องฆ่าแกงกัน ไม่จำเป็นต้องแก่งแย่งอาณาจักร เพียงแค่มีชีวิตอยู่เพื่อกวนประสาทใครสักคนนั่นก็พอแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ช่างสุขใจข้าเหลือเกิน!

 

“งั้นเจ้าก็ออกไปซะ ข้าไม่ต้องการเห็นหน้าเจ้าอีก!”

 

o.O

 

อู้วว นี่นางกำลังไล่ข้างั้นหรือ? มนุษย์อย่างนางริจะมาไล่ข้าที่เป็นประมุขแห่งความชั่วร้ายงั้นหรือ!

 

“ไล่กันง่ายไปหน่อยมั้ง เจ้าสั่งให้ข้าคอยรับใช้เจ้าแล้ว ฉะนั้นข้าก็มิอาจไปไหนได้”

 

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะยอมให้เป็นครั้งสุดท้าย.. ข้าขอสั่งให้เจ้า…..”

 

“…..”

 

ข้าก็ยกมือขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้างก่อนจะผิวปากเล่น ถ้าไม่ได้ยินคำสั่งของนางสักอย่าง คำสาปก็จะไม่ทำงานหรอกนะ อย่าคิดว่าจะเลิกรากันง่ายๆ สิ หึหึหึ

 

“นี่กริมไฮลด์ เมื่อไรเจ้าจะยอมอยู่นิ่งๆ ให้ข้าแกล้งซะที ดื้ออยู่ได้ ทำให้ข้าเจ็บตัวอีก เอาเป็นว่าให้ข้าอยู่กับเจ้าไปก่อนนะ”

 

“ชึ่ยย!!!” นางสะบัดหน้าหนีแล้วกำหมัดแน่น แต่ยังคงเก็บข้าวของที่เละเทะต่อไป ซึ่งข้าก็ช่วยนางไปตั้งครึ่งห้องแล้วนี่! ถือว่าข้าใจดีกับมนุษย์อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนแล้วนะ

 

แต่ถึงปากข้าจะบอกว่าง่วง ถึงร่างกายข้าจะไม่ปฏิเสธมันก็ตาม แต่ข้าก็ไม่ได้หลับบนเตียงของนางจริงๆ หรอก ข้ายังคงลืมตาตื่นทุกขณะพร้อมกับมองดูการกระทำของราชินีทุกอย่าง ไม่ใช่ว่ากลัวนางจะเอามีดมาเสียบอีกจนไม่กล้าเอนหลังนอน แต่เพราะความเป็นห่วงจากไหนไม่รู้ถึงไม่อยากละสายตาไปไหนเลย

 

ต้องเป็นเพราะยาพิษคำสาปของนางแน่ๆ มันทำให้ข้าเสียสติขนาดนี้เชียวรึ!?

 

เวลาผ่านไปสักพักจนห้องทำงานนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง จะเสียก็แต่กำแพงที่เป็นรูโหว่แบบนั้น

 

ฟึ่บ!

 

ข้าเป่ามนตร์ให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่เมื่อหันกลับมาอีกทีก็พบว่ากริมไฮลด์ไม่อยู่แล้ว

 

“เฮ้ย…หายไปไหนฟะ เผลอแวบเดียวเองอ้ะ!”

 

แต่ตอนที่ข้าจะก้าวลงจากเตียงก็พบว่าราชินีมานอนอยู่ที่พื้นใกล้ๆนี้ เกือบจะเหยียบแล้วมั้ยล่ะ

 

ข้ามองใบหน้ายามหลับของนางอีกครั้ง รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ขอยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เป็นพวกโรคจิตที่เห็นคนอื่นทรมานแล้วจะชอบใจนะ… แม้จะเป็นในบางทีก็เถอะ แต่การมาครั้งนี้ข้าไม่มีเจตนาจะทำร้ายใครแน่นอน ไม่คิดมาก่อนเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองจะถูกมนุษย์เล่นงานด้วย

 

“อา…ถึงข้าจะทำให้เจ้าเหนื่อย” ข้ายิ้มออกมาก่อนจะช้อนร่างนั้นขึ้นมานอนบนเตียง “…แต่ข้าก็ดูแลเจ้าได้นะ กริมไฮลด์” อืมใช่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นการดูแลผู้ป่วยโรคประสาทรึเปล่านะ หึหึ

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา