Love You My Bad Guy ll❤

9.8

เขียนโดย ยัยหมูปิ้ง

วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.27 น.

  19 Bad Guy
  262 วิจารณ์
  42.20K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ. 2564 17.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

18) นกปีกหัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

       โฟรหลบแจกันที่ฉันช้วงใส่พ้น แต่ถึงอย่างนั้นใบหน้าของเธอก็ยังมีรอยยิ้มอยุ่เหมือนเดิม

ฉันหายใจเข้าปอดลึกสุดลึกจนตัวหอบโยนไปหมด น้ำตาของฉันไหล แต่ไม่ใช่เพราะความเสียใจ

ที่เธอแย่งป็อบปี้ไป แต่เจ็บที่ผู้หญิงคนนี้แย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากฉัน

“ท่าทางเธอยังอารมณ์ไม่ดี” โฟร์พูดเบาๆ จากนั้นก็ปลดผ้ากันเปื้อนออกจากตัว

“ฉันกลับไปก่อนแล้วกัน แล้วจะแวะมาอีกที” โฟร์พับผ้ากันเปื้อนไว้ที่ราวในห้องครัว

        เธอปลดเชือกผูกผมออกและปล่อยให้เส้นผมยาวสยายเต็มแผ่นหลัง… ฉันมองทุกวินา

ทีที่เธอขยับตัว อยากจะเห็นว่าทำไมป็อบปี้ถึงชอบผู้หญิงคนนี้ และทำไมฉันถึงเป็นคนแพ้

       แน่ละว่าฉันสวยกว่าเธอ แต่ทำไมฉันถึงแพ้เธอไปซะทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพ่อหรือ

เรื่องหัวใจ

“พี่ชื้อน้ำหอมมาให้เธอด้วย หวังว่าเธอคงชอบ”

“ไปให้พ้น!”

        ฉันตะโดนใส่หน้าเธอด้วยน้ำตา และเห็นว่าเธอหุบยิ้มลงบ้างแล้ว

        ผู้หญิงใจร้ายเธอยิ้มใส่หน้าฉันตอนที่ฉันกำลังร้องไห้ ถึงฉันจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่สำ

หรับคนคนนี้แล้วฉันไม่สามารถจะสู้เธอได้เลย

“อย่าตะโกน หน้าเธอแดงไปหมดแล้ว เรามาคุยกัน…”

“ไปให้พ้น!!” ฉันกรี๊ดร้องอีกครั้งและรู้สึกว่าตัวสั่นไปหมด

“และอย่ากลับมาให้ฉันเห้นหน้าเธออีก!!”

        ประกาศให้รู้กันไปเลยว่าคนที่ฉันเกลียดที่สุดน่ะคือคนคนนี้ ไม่ใช่ใครคนอื่นเลย

“เธอคิดว่าฉันไม่เจ็บเหรอฟาง…” แล้วฉันก็เห็นว่าโฟร์กำหมัดแน่นบ้าง

“เธอคิดว่าฉันไม่มีหัวใจเหรอ” เธอถามมาอีก ไม่นานเธอก็ยกมือขึ้นมาขยี้ตายกใหญ่

“เธอคิดว่าฉันเจ็บไม่เป็นรึไง!!” แล้วโฟร์ก็แผดเสียงใส่ฉันบ้าง

“ฉันทำอะไรเธอ บอกสิฉันทำอะไรเธอ!!” ฉันไม่ยอมแพ้ตะโกนกลับไปบ้าง

“ฉันเคยทำอะไรเธอเหรอ เคยแตะเธอแม้แต่ปลายก้อยมั้ย ฮะ!!”

“เธอแย่งอ้อมกอดของพ่อไปจากฉัน แย่งเวลาทุกอย่างไปจากฉัน ยังไม่พอใจอีกเหรอ!”

“เธอแย่งพ่อไปจากฉันโฟร์ ฉันเกลียดเธอ ฉันเกลียดเธอ!!!”

       ฉันร้องไห้สะอึกสะอื้นจากนั้นก็ดึงทึ่งผมตัวเองยกใหญ่ เจ็บเข้าไป ปวดเข้าไป เพราะต่อ

จากนี้เธอต้องเจ็บปวดอีกแน่ๆ ฟาง

“ฉันเกลียดเธอ…”

“ฉันอิจฉาเธอมาตลอดเลยรู้มั้ย”

        เมื่อเสียงสะอื้น ค่อยๆลดระดับความดังลงมา โฟร์ก็พูดขึ้นมาในความเงียบ เธอก้าวเท้า

ผ่านร่างของฉันไปอย่างเชื่องช้า และเมื่อนยืนขึ้นไล่ของเราก็เสมอกัน สายตาของเราก็เสมอกัน

อีกครั้ง

“และฉันคิดถึงเอจริงๆ ฟาง น้องสาวที่น่ารักของฉัน…”

        จบคำพูดที่บอกว่าฉันเป็นน้องสาว ของผู้หญิงคนนี้ ฉันตวัดฝ่ามือใส่หน้าเธอจนหันไป

อีกทางทันที และฉันเองก็เจ็บมือไม่น้อย

“ฉันไม่มีพี่น้อง  ฉันอยู่คนเดียวมาตลอด อย่าตีเสมอเทียบฉัน”

       ฉันบอกโฟร์เสียงเรียบ ผลักอกเธอออกห่างแรงๆ และเป็นจังหวะเดียวที่ใครคนหนึ่งเดิน

เข้ามาพอดี ป็อบปี้น่ะ

“พวกเธอทำอะไรกันอยู่น่ะ” เสียงของป็อบปี้ดังแหบพร่าขึ้นมา

          ไม่นานจีน่าก็วิ่งออกไป ฉันเช็ดน้ำตาออกเงียบๆ และรอดูว่าป็อบปี้จะทำยังไงต่อไป

และอย่างที่ฉันคิดเอาไว้ เขาตามโฟร์ออกไปฉันมองตามแผ่นหลังของเขาที่ตามโฟร์ออกไปก็

ร้องไห้ออกมาอีกหนหลังจากที่สงบสติอารมณ์ลงได้แล้ว

       ฉันส่ายหน้าไปมาเดินเข้าห้องตัวเองอย่างหมดแรง แต่เช้านี้ฉันต้องไปแลกเวรกับพิม

แล้วก็ต้องไปเรียนด้วย ไม่ว่ายังไงฉันก็จะไม่ทำให้พ่อต้องมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉัน หรือตำหนิ

ฉัน… ฉันจะไม่ให้ใครมาสมเพชเวททนา และต้องเสียหลัดกเพราะผู้ชายอย่างป็อบปี้

  ไม่เด็ดขาด…

          ฉันรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปมหาวิทยาลัย หยิบหนังสือออกไปด้วยความมึนงงไม่

รู้ว่าเป็นอะไรไปแล้ว ฉันถึงรู้สึกว่าพื้นมันโคลงเคลงและตัวฉันก็เหมือนจะวูบไปพักๆด้วย พอก้าว

เท้าออกจากประตูห้อง ฉันก็เห็นร่างสูงๆของป็อบปี้ยืนรออยู่หน้าห้อง ฉันมองหน้าเขาแวบหนึ่ง

จากนั้นก็เบือนหน้าหนี

“มาทำไม ช่วยหลีกทางด้วยฉันจะไปเรียน” ฉันบอกเสียงเรียบและพยายามเลี่ยงไปอีกทาง แต่

ป็อบปี้ก็เดินเข้ามาขวางทางฉันไว้

“พอรู้แล้วว่าโฟร์รู้จักนาย… ฉันรู้แล้วว่าทำตอนนั้นนายถึงคบกับฉัน”

“นายคบฉันเพราะประชดโฟร์สินะ” ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องตกใจบ้าง ที่เห็นว่าฉันอาจจะเป็นพี่

น้องกับโฟร์

“นายรู้มาตลอดสินะว่าฉันเป็นน้องสาวของโฟร์” ฉันถามและเขาไม่ยอมพูดอะไรแม้แต่คำเดียว

“ขอบคุณ ป็อบปี้…” ฉันบอก ผลักอกเขาแล้วเดินออกมาเงียบๆ

        ป็อบปี้เดินตามฉันมาด้วย เขาไม่ได้พูดอะไร อาจจะกำลังคิดหรือหาข้อแก้ตัวสวยๆ ว่า

ทำไมเขาถึงมาคบกับฉัน หรือไม่ก้กำลังจะบอกว่าเขารักโฟร์… และตอนนี้เขาก็จะกลับไปหาโฟร์

แล้วด้วย

        เมื่อลงมาจากลิฟต์มาถึงชั้นล่าง ฉันเตียมตัวจะเดินไปมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่ แต่ป็อบปี้

คว้ามือของฉันไว้ได้และดึงแรงๆให้ฉันหันไปหาเขา

“ฉันเสียใจจริงๆ เรื่องของโฟร์”

นั่นไง…เขาสารภาพแล้ว

      ฉันยิ้มและเข้าใจแต่โดยดี และจะไม่โกรธไม่เกลียดเขาเลย

“อะไรก็ได้ สักอย่าง ว่า ตบตี สักอย่างเถอะฟาง อย่านิ่งเงียบแบบนี้ ฉันกลัวจริงๆ” เขาพ้อและ

ฉันอยากจะหัวเราะ ไม่เคยเลยจะเห็นเขาเป็นแบบนี้ ตลกดีจัง…

“ไม่ละ ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกอะไรกับนายเลย เพราะฉันรีเชตเรื่องของนายออกจากสมองไปแล้ว” ฉัน

บอกและสบัดมือออกจากการเกาะกุมของเขาในที่สุด

“ไม่เหลืออะไรแล้ว” ฉันบอก แต่เขาส่ายหน้าไปมา

“หัวใจของเธอนะ มันเต้นเพื่อฉันคนเดียวนะ” เขาบอกและทำให้ฉันกัดริมฝีปากตัวเองไว้แน่น

“เหมือนกับฉัน หัวใจของฉันมันเต้นเพื่อเธอเท่านั้น” ฉันเจ็บจี๊ดตัวแข็งทื่อ เมื่อป็อบปี้คว้ามือ

ของฉันไปทราบที่หัวใจของเขาบ้าง

“แค่เธอคนเดียว…” เขาพูดประโยคเดิมที่ทำให้ฉันหวั่นไหว

       ไม่ใช่คำว่ารัก… แต่สำหรับฉันแล้วคำว่าแค่เธอคนเดียวของป็อบปี้มีอิทธิพลมากกว่าสิ่งไหนๆ

“ฉันไม่ได้โกหก เธอสัมผัสมันได้ไหม มันเต้นเพราะเธอ และแค่เธอเท่านั้นด้วย” คำพูดของเขา

แทบจะทำให้ฉันร้องไห้อีกครั้ง เขาต้องการอะไรกันแน่ มันชัดเจนตอนที่เขาวิ่งตามโฟร์ไปแล้ว

แล้วตอนนี้ยังมาดึงรั้งฉันไว้เพื่ออะไรกัน

“ฉันไม่อยากจะเชื่อ ไม่รู้จะเชื่อนายยังไงด้วย” ฉันบอกไปตามความจริงแล้วถอยห่างจากเขา

“ต้องทำยังไงเธอถึงจะเชื่อฉัน ฉันยอมทำทุกอย่างให้เธอ” ป็อบปี้บอกน้ำเสียงจริงจัง

       ฉันอยากจะร้องไห้ไปพร้อมกับหัวเราะจนบ้าตาย… ป็อบปี้ยอมฉันไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ

 

“ฉันขอของมีค่าของนายทั้งหมดด้วย”

           ฉันบอกกับป็อบปี้เมื่อเรานั่งรถออกมาด้วยกันไกลพอควรแล้ว ตอนนี้รถของเขาจอด

ที่สวนสาธารณะเงียบๆที่หนึ่ง และฉันเองก็ยืนอยู่ต่อหน้าเขาด้วย

“ของมีค่าสำหรับฉันคือเธอ…” ฉันกระพิบตาและมองหน้าเขา

         แวบหนึ่งที่ฉันรู้สึกถึงความร้อนผ่านใบหน้า และเพื่อไม่ให้เขารู้เลยต้องแกล้งหันหน้า

ไปทางอื่นแทนแต่ยังคงถามเขาคำถามเดิม

“ขอของมีค่าของนาย กระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์ กุญแจรถ เงินด้วย ทุกบาททุกสตางค์เลย” ฉัน

บอกและแบมือไปตรงหน้าของเขา

“ฉันให้เธอได้ทุกอย่างแม้แต่หหัวใจของฉัน” เขาบอกเสียงหนักแน่น แต่ฉันไม่คิดจะเชื่อ

         อยากจะหัวเราะมากกว่าด้วยช้ำไป ฉันส่ายหน้าน้อยๆ แล้วก็เก็บของของป็อบปี้ที่เขาส่ง

ให้ตามคำขอไว้ในกระเป๋าสะพายใบใหญ่ ตอนนี้ป็อบปี้ควักเอาเหรียญออกมาจากกระเป๋ากางเกง

และส่งให้ฉันทั้งหมด เขาทำหน้าสงสัย คงอยากรู้ว่าฉันเป็นบ้าอะไรไปแล้ว

“แล้วไงต่อ” เขาถามขึ้นและทำท่าจะถอดเสื้อที่สวมด้วย

“ไม่ต้องถอดเสื้อ นายจะบ้ารึไงนะ!” ฉันร้องห้ามเมื่อป็อบปี้กำลังทำเรื่องบ้าอะไรอยู่ก็ไม่รู้ เขา

ประชดฉันอย่างนั้นเหรอ…

“ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังทำอะไร แต่ฉันรู้ว่าเธอโกรธที่ฉันวิ่งตามโฟร์ไป เพราะงั้นฉันจะบอก

เธอตอนนี้ว่าฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับโฟร์เลย”

        เขาบอกและฉันทำเสียงเฮอะในลำคออย่างไม่เชื่อถือ

“ฉันไม่อยากรู้ ไม่ต้องบอก”

“ไม่บอกเธอก็โกรธฉัน และหึงหวงจนร้องไห้คิดมากอีก!”

“ฉันไม่ได้หึง!!”

        หน้าฉันร้อนผ่าวไปถึงลำคอ เมื่อเขาบอกว่าฉันกำลังหึงเขา เปล่าสักน่อย... ฉันลืมเรื่อง

ของเราไปหมดแล้วกดปุ่มรีเซตเรียบร้อยแล้ว ไม่จริง!

“เพราะรู้ว่าเค้นเอากับเธอ เอคงไม่บอกฉันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันเลยตามไปถามโฟร์แค่นั้นจริงๆ”

        ป็อบปี้เริ่มเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ เป็นปกติของเขาอยู่แล้ว เพราะถ้าเขาไม่โกรธนั้นแหละผิดปกติ

“นายก็อยู่กับเธอ เคยเดตกับเธอ เถียงสิว่ามันไม่จริงเมื่อวานก็ใช่ด้วย!” ฉันพูดไปเมื่อนึกได้

        วันฉลองการกลับมาจากอังกฤษของโฟร์ พอเดินออกจากงานเลี้ยงฉันก็เห็นเขาขับรถออก

มารับโฟร์แค่วันเดียว เมื่อวานวันเดียว ทำไมฉันจะจำไม่ได้!

“พอเถอะ ฉันไม่อยากนึกถึงมันขึ้นมาอีกแล้ว” ฉันบอกและถอยหลังห่างจากเขาอีกก้าวหนึ่ง

“แล้วเธออยากให้ฉันทำอะไร ลากโฟร์มาตรงหน้าพวกเราสามคน บอกเธอไปเลยมั้ยว่าตอนนี้

ฉันรักแค่เธอคนเดียว ไม่ได้ชอบโฟร์เลย!”

“นายเลือดเย็นเกินไปแล้วละ” ฉันบอกป็อบปี้ และมองเขาด้วยส่ายตาที่หมดหวังไปทุกที

“สิ่งที่นายจะต้องทำต่อจากนี้ ก็แค่ไปถึงมหาวิทยาลัยของฉันภายในเวลาสิบโมงเช้า ไปที่

ห้องเรียนของฉันและบอกว่ารักฉัน นายต้องวิ่งหรือไม่ก็เดินเท่านั้น ห้ามขึ้นรถอะไรทั้งนั้น…” ฉัน

บอกและเดินถอยหลังห่างจากเขาเรื่อยๆ

      เขาทำไม่ได้หรอก เชื่อฉันสิ

“ถ้าฉันทำได้...” ป็อบปี้ถาม สีหน้าเขาไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ทั้งที่ฉันคิดเอาไว้ว่าเขาต้องโวย

เพราะระยะทางจากที่นี่ไปถึงมหาวิทยาลัยของฉันไกลไม่น้อย

“นายจะได้ทุกอย่างที่นายขอ”

 

           ฉันมาถึงมหาวิทยาลัยในสิบนาทีต่อมา ในกระเป๋าของฉันมีทั้งกุญแจห้อง กุญแจรถ

และกระเป๋าสตางค์ และของใช้จิปาถะของป็อบปี้ทุกอย่าง ลวมถึงขวดน้ำหอม ขวดเล็กๆด้วย

           ฉันดึงจุกขวดออกและแอบดมกลิ่นนิดหน่อย กลิ่นน้ำหอมที่คุ้มเคยทำฉันคิดว่าร่างของ

ป็อบปี้ยังคงวนเวียนอยู่แถวนี้ ท่าทางจะคิดถึงเขามากเกินไปแล้ว ดั่งนั้นฉันเลยปิดจุกขวดไปตาม

เดิมแล้วก็ตั้งใจจะเดินไปเข้าห้องเรียน ที่คิดว่าอาจารย์คงเข้าสอนไปแล้ว

      แต่ก็ต้องชะงักเท้าเมื่อเห็นว่าจินนี่... ยืนรอที่หน้าประตูทางเข้าของมหาวิทยาลัย

      ฉันข่อนข้างแน่ใจว่าเธอมารอฉัน ดั่งนั้นฉันเลยตรงไปหาเธออย่างไม่ลังเล จินนี่ยังดูดี

เหมือนเดิม แต่สีหน้าและแววตาเหมือนมีอะไรชุกช่อนไว้อยู่

“ไม่เจอกันนานเลยนะ” เธอทักมาก่อน และฉันก็พยักหน้าให้เธอไปนิดหน่อย

“ตั้งแต่ถูกตบวันนั้นก็วิ่งหนี ย้ายมาเรียนที่นี่ทั้งที่เธอจะอยู่มหา’ลัยเก่าก็ยังได้ ตลกจัง เธอกลัว

สินะ ไม่เก่งไม่กล้าแล้วเหรอ” จินนี่ถามฉันเหมือนจะเย้ยหยัน แต่ฉันส่ายหน้าไปมา หมดแล้วน้ำ

แข็งที่ฉันใช้เป็นเกาะกำบังตัวเอง

“มีอะไรรึเปล่า ถ้าไม่มีฉันจะไปเรียน”  ฉันบอกยกมือขึ้นมาดูเวลา ที่นาฬิกาข้อมือ

“ไปหาที่คุยเงียบๆหน่อยสิ ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ…”

         ไม่นานเราก็เดินมาถึงร้านอาหารแห่งหนึ่ง ฉันนั่งเหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้

แล้ว และยกมือขึ้นจิบน้ำเมื่อรู้สึกกระหายอย่างบอกไม่ถูก

“ทำไมเธอดูแปลกไป” จินนี่ถามอย่างแปลกใจ และฉันก็ยังนิ่งเฉยเหมือนเดิม

“เพราะเหนื่อยไงละ  ฉันเลยไม่อยากจะแกล้งฝืนว่าฉันเป็นใครอีกคน มันไม่สนุกเลยละ”

         ฉันบอกก่อนจะร้องไห้เงียบๆ พอมาเจอกับจินนี่ ฉันก็ยังนึกถึงช่วงเวลาดีๆกับเอ เวลาที่

ฉันทะเลาะกับป็อบปี้ก็มีแต่จินนี่ที่ปลอบใจฉัน

“มันเหนื่อยจนบอกไม่ถูก ฉันอยากจะกอดเธอแล้วร้องไห้ เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เธอฟัง”

ฉันบอกก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง และสะอื้นอีกครั้ง

        จินนี่เงียบไป และดูเหมือนว่าเธอจะทำอะไรไม่ถูก

“ฉันจะตายแล้วจินนี่... ฉันกำลังจะตายแล้ว”

         ฉันบอกก่อนจะรู้สึกว่าหนักหัวไปหมด และสุดท้ายฉันก็หมดแรงยกแขนยกขาไม่ขึ้น

จนต้องซบหน้าลงกับเคาน์เตอร์ที่ไม่มีผู้คน

         มองเห็นรางๆว่ามีผู้ชายสองคนเดินมาทางนี้ และฉันก็บังคับแขนขาตัวเองไม่ได้เลย

“ผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม ที่จะให้พวกเราจัดการนะ...”

        คำพูดจากหนึ่งในสองคนนั้นทำให้ฉันตกใจอย่างบอกไม่ถูก และตกใจเมื่อถูกหิ้วปีก

ให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว

“จินนี่...”

 

PF PF PF PF PF PF PF PF

ผู้หญิงนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสงสารเฮ้อ

กลับมาอัพแล้วนะค่ะ นานบ้าง ช้าบ้าง

ก็อย่าว่ากันโน๊ะ ไรท์ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่

แล้วละจ้า แง่ๆ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับฟาง

ย่อมมีเหตุผลค่ะ โฟร์เองก็มีเหตุผลของโฟร์

จินนี่ก็มีเหตุผลของจินนี่ ถึงบางเหตุผลจะฟัง

ไม่ขึ้นก็ตาม เนอะ เอาละหว่าผู้ชายสองคนนั้น

จะทำอะไรกับฟาง แล้วใครจะมาช่วยฟางได้

รอลุ้นไปด้วยกันเนอะ^^ เม้น+โหวตนะจ้าา

คิดถึงทุกคนเลย กอดๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา