Princess Diary2:โทษทีบันทึกนี้เจ้าหญิงไม่ได้เขียน

9.6

เขียนโดย Chapond

วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 13.39 น.

  37 ตอน
  293 วิจารณ์
  56.33K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558 21.15 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

24) 24 หนีกลับเมืองไทย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ฟางที่นั่งร้องไห้อยู่ในห้องรับรองจนน้ำตาเหือดแห้งไปหมดแล้วก็เงยหน้ามองนาฬิกาพบว่าตอนนี้

เป็นเวลาตี3แล้ว งานเลี้ยงคงจะเลิกแล้วสินะ ฟางค่อยๆฝืนร่างกายตัวเองให้ลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าที่

อยู่ในนั้นแล้วค่อยๆกะเผลกตัวเองออกมาจากห้องรับรองแล้วหมายจะเดินขึ้นไปบนห้อง

 

 

 

 

 

 

 

 

หมับ

 

 

 

 

 

 

มีมือหนึ่งมารั้งข้อมือบางของฟางไว้ทำให้ฟางหันไปมองพบว่าเป็นพาร์ท

 

 

 

 

 

 

 

“พี่ฟางหายไปไหนมาผมตามหาพี่ฟางจนทั่วงานเลย”พาร์ทพูดขึ้นแล้วถามฟางด้วยความเป็นห่วง

 

 

 

 

 

 

 

“อ๋อ พี่เผลอหลับไปน่ะแล้วเลยเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เลอะของพาร์ทด้วยทำไมพาร์ทไม่กลับไปพักผ่อน

ล่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยแต่เช้านิ”ฟางฝืนทำเป็นยิ้มไม่มีอะไรแล้วพูด

 

 

 

 

 

 

 

 

“ผมจะนอนได้ไงล่ะฮะ ผมยังตามหาพี่ฟางไม่เจอ เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าพี่ฟางจะเป็นตายร้ายดียังไง

พี่ฟางนี่ร้องไห้ทำไมฮะ”พาร์ทพูดก่อนจะตกใจเมื่อเห็นฟางร้องไห้ออกมา

 

 

 

 

 

 

 

 

“พาร์ท ฮึก ฮือๆพี่ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วพาพี่กลับไปด้วยได้มั้ย”ฟางปล่อยโฮร้องไห้ออกมาอย่างอัด

อั้น เธอไม่อยากเจอหน้าผู้ชายใจร้ายแบบนั้นอีกแล้ว พาร์ทอึ้งก่อนจะกอดปลอบฟางอยู่ยกใหญ่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“โอ๊ย ทำไมมันปวดหัวแบบนี้นะ”แก้วที่ปรือตาลืมตาตื่นมาในเช้าวันต่อไปก็ร้องปวดหัว

 

 

 

 

 

 

“เมื่อคืนคงจะสนุกกับกั้งมากสินะเพคะองค์หญิง”พิมเดินเข้ามาพร้อมผ้าชุบน้ำให้กับแก้ว

 

 

 

 

 

 

“กั้งงั้นหรอ ทำไมเราถึงจำเรื่องราวไม่ได้เลยล่ะ”แก้วพยายามคิดถึงเรื่องเมื่อคืนก็ยิ่งปวดหัว

 

 

 

 

 

 

“เพคะ องค์หญิงคงจะจำอะไรไม่ได้เลย งั้นเช็ดเนื้อเช็ดตัวก่อนนะเพคะ”พิมพูดก่อนจะเอาผ้าชุบน้ำ

ค่อยๆเช็ดตามหน้าและแขนของแก้วอย่างเบามือก่อนจะลุกออกๆไป

 

 

 

 

 

 

 

“โอ๊ย ทำไมมันแสบแบบนี้นะ”แก้วที่กำลังจะลุกไปอาบน้ำก็เริ่มคันตามเนื้อตัวก่อนจะวิ่งไปดูกระจก

 

 

 

 

 

 

“นี่มันอะไรกัน ทำไมถึงเป็นแบบนี้”แก้วมองตัวเองในกระจกก็ตกใจที่เห็นรอยแดงปวดแสบปวดร้อน

มีผิวลอกตามใบหน้าบริเวณแขนและข้อมือ ก่อนจะร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด

 

 

 

 

 

 

“ตายแล้วนี่มันอะไรกันน่ะเพคะ”เฟย์ที่เดินผ่านห้องของแก้วก็พุ่งเข้ามาแล้วตกใจ

 

 

 

 

 

 

 

“ช่วยด้วย ฮือๆเราแสบไปหมดแล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น”แก้วร้องไห้ออกมาแต่เหมือนยิ่งร้องแล้วน้ำตา

ที่ไหลไปโดนบริเวณที่แดงมันก็ยิ่งทำให้แก้วปวดแสบปวดร้อนทรมานกว่าเดิม

 

 

 

 

 

 

 

“นี่องค์หญิงแพ้อะไรมาหรอพะยะค่ะ”เขื่อนที่ตามเฟย์เข้ามาก็ตกใจเมื่อเห็นสภาพแก้ว

 

 

 

 

 

 

 

“ฮือๆ เราไม่รู้ ใครก็ได้ช่วยเราทีฮือๆเราแสบแทบจะตายแล้ว”แก้วร้องไห้ออกมา

 

 

 

 

 

 

 

“เอาเป็นว่าเรารีบอุ้มองค์หญิงไปหาหมอหลวงก่อนเถอะเขื่อน”เฟย์พูดก่อนที่จะสั่งให้เขื่อนรีบอุ้ม

แก้วออกไปจากห้องแล้วไปหาหมอหลวงที่ประจำอยู่ที่ห้องพยาบาลทันที

 

 

 

 

 

 

 

“เกิดอะไรขึ้นหรอเขื่อน เฟย์”โทโมะที่กลับจากการไปส่งบรรดาทูตที่มางานเลี้ยงเมื่อคืนนี้กลับที่

สนามบินก็รีบถามทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

“องค์หญิงแก้วเพคะ ถูกคนปองร้ายใส่พิษของว่านสีเพลิง ว่านป่าหายากตามแถบป่าชายแดนเพคะ

ถูกนำสกัดเป็นน้ำมาถูตามตัวจนพิษว่านกัดตามเนื้อตัวองค์หญิงจนแดงไปทั้งตัวเพคะ”เฟย์พูด

 

 

 

 

 

 

 

 

“มะ ไม่จริง เราไม่รู้จริงๆว่าในน้ำนั่นมีพิษว่านสีเพลิง”พิมที่ได้ยินก็ร้องไห้ออกมา

 

 

 

 

 

 

“มีอะไรรึเปล่าหญิงพิม”โทโมะและทุกคนหันไปมองพิมเป็นตาเดียวก่อนจะถาม

 

 

 

 

 

 

 

 

“พิมเห็นองค์หญิงยังไม่ฟื้นจากอาการเมาเมื่อคืนก็หวังดีเอาผ้าชุบน้ำไปเช็ดตัวให้ แต่ใครเล่าจะรู้ว่า

ในน้ำนั่นมีพิษ พิมไม่ได้ตั้งใจเพคะ พิมทำร้ายองค์หญิงจับพิมเลยฮือๆ”พิมร้องไห้ออกมา

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่นะ เราจะไม่ยอมให้ใครมาจับเพื่อนเรา มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ”เฟย์ปกป้องพิมทันที

 

 

 

 

 

“ใครเป็นคนเตรียมผ้าชุบน้ำให้หญิงพิมเอาไปเช็ดตัวให้องค์หญิงแก้วหรอ”โทโมะถาม

 

 

 

 

 

 

 

 

“หม่อมชั้นเองล่ะเพคะ แต่ก่อนจะไปห้ององค์หญิงแก้วหม่อมชั้นแวะเข้าห้องน้ำก่อนเพคะ”พิมพูด

 

 

 

 

 

 

 

“งั้นต้องมีคนร้ายน้ำว่ายสีเพลิงที่สกัดแล้วมาใส่ในกะละมังแน่ๆเขื่อนเราไปตามหาคนร้ายกัน”เฟย์

พูดก่อนที่จะวิ่งออกไปกับเขื่อนโดยที่พิมร้องไห้ออกมาและมีโทโมะกอดปลอบอยู่ไม่ห่าง

 

 

 

 

 

 

 

“เราจะหาตัวคนทำผิดมาลงโทษ เธอจะต้องหายนะแก้ว”โทโมะที่เดินเข้ามาในห้องพักของแก้ว

มองแก้วที่สลบไปแล้วตามเนื้อตัวและใบหน้ามีผ้าพันแผลพันอยู่ก็พูดด้วยความเป็นห่วง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“องค์ชายตื่นแล้ว”จินนี่ที่เห็นป๊อปปี้เดินออกมาจากห้องก็ปรี่เข้ามาคล้องแขนแสดงความเป็น

เจ้าของ

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่มีเรื่องอะไรกันรึเปล่า”ป๊อปปี้แปลกใจที่เห็นทหารเดินตรวจตราในวังก็ถามจินนี่

 

 

 

 

 

 

 

“คือองค์หญิงแก้วถูกลอบทำร้ายจากว่านสีเพลิงเพคะองค์ชายโทโมะเลยรับสั่งให้ทหารหลวงในวัง

ค้นหาเบาะแสเพื่อเป็นหลักฐานตามจับคนร้ายเพคะ”มีนรีบตอบแทนจินนี่

 

 

 

 

 

 

 

 

“จริงหรอ แล้วนี่อาการของแก้วเป็นยังไงบ้างล่ะ”ป๊อปปี้ตกใจก็รีบถาม

 

 

 

 

 

 

“อาการยังไม่ดีเลยเพคะแต่ไม่เป็นไรเพราะหมอหลวงของที่นี่เก่งอยู่แล้ว”จินนี่พูดแล้วยิ้ม

 

 

 

 

 

 

 

“แต่เราว่าตอนนี้แก้วกำลังขวัญเสียทำไมเธอถึงไม่ไปดูแลน้องสาวเธอล่ะ”ป๊อปปี้ตำหนีจินนี่

 

 

 

 

 

 

 

“แก้วมีคนดูแลเยอะแล้วหม่อมชั้นที่ทำอะไรไม่เป็นเข้าไปมันก็จะเกะกะคนอื่นซะเปล่าๆเพคะ สู้มา

ปรนนิบัติดูแลพระคู่หมั้นของหม่อมชั้นดีกว่า ดูสิเพคะยังปวดหัวแฮ้งจากเมื่อคืนอยู่รึเปล่าเพคะ เมื่อ

เช้าถึงได้ไปส่งพวกราชฑูตที่มางานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ไม่ได้”จินนี่พูดและประคบประหงมป๊อปปี้ไม่ห่าง

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่พวกแขกในงานกลับไปเมื่อเช้ากันหมดแล้วหรอ”ป๊อปปี้พูดแล้วนึกถึงหน้าพาร์ท

 

 

 

 

 

 

 

“เพคะ ไปซะได้ก็ดีทูตที่มาจากเมืองไทยที่เป็นเพื่อนของนังชั้นต่ำนั่นนะเพคะ ทั้งน่ารำคาญและ

จองหองมากถ้าปีหน้างานแต่งงานของเราอย่าได้เชิญมานะเพคะ”จินนี่บ่นอุบ

 

 

 

 

 

 

 

“ฟาง”ป๊อปปี้ชะงักก่อนภาพเมื่อคืนที่ชายหนุ่มเมาและเผลอข่มขืนฟางก็ฉายเข้ามาในหัว

 

 

 

 

 

 

 

“นี่องค์ชายจะไปไหนเพคะ”จินนี่ตกใจที่ป๊อปปี้วิ่งมาที่ห้องรับรองชั้นล่าง

 

 

 

 

 

 

 

“หายไปไหนนะ”ป๊อปปี้เปิดประตูเข้ามามีเพียงแค่เสื้อผ้าที่ฉีกขาดของฟางก็ตกใจ

 

 

 

 

 

 

“นี่องค์ชายตามหาใครเพคะ”มีนที่วิ่งมากับจินนี่ก็รีบถามป๊อปปี้

 

 

 

 

 

 

 

 

“มันไม่ใช่เรื่องของพวกเจ้า ตอนนี้เราอยากอยู่คนเดียว อย่าตามมานะ”ป๊อปปี้พูดก่อนจะวิ่งไปที่

ห้องพักของฟางทันที

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่มี นี่เธอหายไปไหนกัน”ป๊อปปี้เปิดประตูเข้ามาในห้องฟางก็พบแต่ความว่างเปล่า

 

 

 

 

 

 

 

 

“อ้าว ชายป๊อปตื่นแล้วหรอทำไมไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าล่ะแต่งตัวแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นจะมองไม่ดีนะ”โท

โมะพูด

 

 

 

 

 

 

 

“พี่ชาย เอ่อ ยัยนั่น เอ่อ ฟางอยู่กับพวกเฟย์ใช่มั้ยพะยะค่ะ”ป๊อปปี้รีบถามโทโมะ

 

 

 

 

 

 

“ไม่อยู่ที่ห้องพยาบาลมีแค่พวกเฟย์แต่ไม่มีฟาง ถามทำไม”โทโมะชะงักก่อนจะพูดนิ่งๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอ่อ เปล่าพะยะค่ะ ก็แค่อยากจะเรียกตัวไปสั่งสอนที่ทำท่าทางอวดดีเมื่อคืนนี้ในงาน”ป๊อปปี้พูด

 

 

 

 

 

 

 

 

“งั้นก็สบายใจได้แล้วเพราะต่อไปฟางเค้าคงจะไม่อยู่ให้เราหาเรื่องอีกแล้วล่ะชายป๊อป เมื่อเช้าที่พี่

ไปส่งทูตต่างๆกลับประเทศเค้า ฟางได้มาลาออกจากการเป็นสตรีชั้นสูงแล้วกลับไปเมืองไทยกับ

กั้งและพาร์ทไปแล้ว”โทโมะพูด

 

 

 

 

 

 

 

 

“แม่นั่นคงจะอยากไปหาเด็กหนุ่มนั่นมากสินะ”ป๊อปปี้พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดใจ

 

 

 

 

 

 

 

“มันก็เป็นเรื่องของเค้าไม่ใช่หรอที่เค้าจะไป ชายป๊อปพี่ว่าเราเลิกหาเรื่องฟางสักทีเถอะ ทำไมต้อง

ตามราวีฟางเค้าถึงขนาดนั้น นี่เกลียดเค้ามากจนเค้าลาออกไปแล้วหวังว่าคงจะสะใจนะ”โทโมะพูด

ก่อนจะเดินไป

 

 

 

 

 

 

 

“ใครใช้ให้เธอกลับกัน แม่คนอวดดี”ป๊อปปี้พูดก่อนจะรีบเดินกลับไปที่ห้องทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ฟาง ทานอะไรสักหน่อยสิ”โบว์เดินเอาของว่างมาให้ฟางแล้วมองฟางที่เอาแต่นั่งเหม่อมองดู

ท้องฟ้าก็เป็นห่วง เพราะตั้งแต่เมื่อวานที่ฟางกลับมาจากKzใต้พร้อมกั้งและพาร์ทก็กลายเป็นคน

เศร้าซึมไม่ค่อยทานข้าวเหมือนอย่างเคยก็สงสัย ครั้นจะพอถามอะไรฟางก็ไม่ยอมตอบ

 

 

 

 

 

 

“โบว์ทานเถอะฟางยังไม่หิว”ฟางพูด

 

 

 

 

 

 

 

“นี่ถามจริงๆฟางเป็นอะไรกันแน่ ถ้าไม่อยากกลับมากับพวกเราก็อยู่ที่นั่นก็ได้นะ”กั้งพูด

 

 

 

 

 

 

“ไม่ ฟางอยากกลับมาเมืองไทย แต่เอ่อ ฟางแค่คิดถึงแม่กับน้องน่ะ”ฟางรีบพูด

 

 

 

 

 

 

“ก็นึกว่าอะไร ถ้าฟางคิดถึงแม่กับน้องงั้นถ้าทุกอย่างที่นี่ลงตัวแล้ว ฟางก็ย้ายเอาแม่และน้องมาอยู่

ด้วยกันที่เมืองไทยก็ได้ เพราะสวัสดิการอาจารย์มหาลัยเค้ามีที่พักให้อยู่นะ”โบว์พูดแล้วคิดถึงเมื่อ

เช้าที่ฟางบอกกับเธอและกั้งว่าเธออยากจะเริ่มหางานทำที่เมืองไทยเพื่อตั้งตัวใหม่ที่นี่

 

 

 

 

 

 

 

“แล้วถ้าทุกอย่างลงตัวอีกพาร์ทก็จะได้ให้พ่อมาขอพี่ฟางแล้วเราก็แต่งงานกัน”พาร์ทพูดแล้วยิ้ม

แป้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ออดๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

ขณะที่ทั้ง4กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเสียงออดก็ดังขึ้นทันที

 

 

 

 

 

 

 

“เดี๋ยวฟางไปเปิดเอง”ฟางพูดก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูที่หน้าบ้าน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“มาหาใครคะ อะ อง อื้อออ”ฟางเปิดประตูออกมาแล้วต้องตกใจก่อนจะมีมือหนาปิดปากแล้วลาก

ฟางออกไปนอกบ้านทันที

 

 

 

 

 

 

 

ฉับบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

 

 

 

 

ไม่ค่อยมีคนสนใจเรื่องนี้ งั้นไรเตอร์หนีไปละนะ บายยยยยยยย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา