Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

8.4

เขียนโดย blackKZ

วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.55 น.

  20 chapter
  215 วิจารณ์
  26.98K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 12.44 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

15) ตอนที่ 14 ความจริงที่บอกไม่ได้ [2]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

CHAPTER14: Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

 

ตอนที่ 14 ความจริงที่บอกไม่ได้ [2]

 

 

 

 

 

            “หลวงตา” เสียงแหบพร่าเอยขึ้นหลังสลบไปนานเกือบวัน ตากระพริบถี่ปรับมโนภาพคมชัดยิ่งขึ้น

 

 

 

 

            “ไอ้ป็อป ฟื้นแล้วเรอะ” หลวงตาพูดพลางลูบหัวหลานชายอย่างอ่อนโยน

 

 

 

 

            “นี้ผม..” ป็อปปี้มองไปรอบๆพยายามนึกถึงเหตุการณ์ล่าสุด เขาจำได้ว่าเขากำลังฉุดขาหัวโจกอยู่หลังจากนั้นภาพก็ดับลงสนิทเมื่อสิ้นเสียงปืน

 

 

 

 

            “เอ็งโดนยิงแต่ยังดีเฉียดเส้นตาย ต้องขอบใจโยมที่อุส่ามีน้ำใจช่วยเหลือ” หลวงตาช่วยรื้อความจำให้แล้วหันไปขอบคุณผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือพวกเขาเมื่อวันก่อน

 

 

 

 

            “คุณลุง!” ป็อปปี้สะอึกเมื่อเห็นธนัย ชายชราเผยยิ้มเล็กๆพอใจกับหน้าตาผู้ป่วย

 

 

 

 

            “ขอผมคุยเป็นการส่วนตัวกับเด็กคนนี้หน่อยได้ไหมครับหลวงตา” ธนัยเอยบอก หลวงตามองป็อปก่อนถึงออกห้อง

 

 

 

 

            “คงรู้สินะว่าฉันกำลังคุยเรื่องอะไร” ธนัยเกริ่น

 

 

 

 

            “........” ป็อปปี้แอบเหล่ชายแก่เผื่อใจคงไม่พ้นเรื่องฟางเป็นแน่

 

 

 

 

            “หลวงตาท่านเป็นคนใจดีมีเมตตาถึงขนาดยอมกู้เงินนอกระบบเพื่อจ่ายค่าเทอมแสนแพงของแก ไม่คิดจะทดแทนบุญคุณหน่อยเรอะ” ธนัยพูดแสยะยิ้ม

 

 

 

 

            “ท่านหมายถึง?” ป็อปปี้ถามอย่างสงสัย ทำไมชายแก่ถึงพูดเช่นนั้นต้องการสื่ออะไรกัน

 

 

 

 

            “ใช่ ฉันมีข้อเสนอดีๆฉันจะจ่ายหนี้ทั้งหมดให้พร้อมซ่อมบำรุงวัดและส่งแกเรียนจนจบแลกกับเลิกยุ่งกับยัยฟาง แต่ถ้าปฏิเสธเตรียมรับชะตากรรมเพราะความโง่เขลาของแกไว้ได้ เห็นไหม ง่ายๆ” ธนัยยื่นข้อเสนอจนป็อปปี้นิ่วหน้ารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโดนบีบบังคับยังไงยังงั้น

 

 

 

 

            “เรื่องนั้นผม..” ป็อปปี้อ้ำอึ้งใช้ความคิด ถ้าเขารับเขาก็จะช่วยให้วัดอยู่รอดต่อไปได้แต่ต้องแลกกับเลิกยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่เขารัก มันคุ้มแล้วเรอะ

 

 

 

 

            “คิดดีๆจะตอบแทนบุญคุณหรือทิ้งข้อเสนอดีๆเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียว” ธนัยกดดันช่วยชี้เส้นทางที่เขาควรเลือก ป็อปปี้ก้มหน้าก้มตากำมือแน่น คนหนึ่งก็ผู้มีพระคุณอีกคนก็ผู้หญิงที่เขารัก

 

 

 

 

            “ผมตกลง” ป็อปปี้พูด

 

 

 

 

            “ป็อปเป็นยังไงบ้าง!? เจ็บมากไหม ฟางขอโทษที่มาช้ากว่าฟางจะหนีคุณพ่อมาได้เนี่ยต้อง..” ฟางรู้ข่าวเรื่องป็อปปี้ถูกยิงก็รีบมาแต่เธอถูกผู้เป็นพ่อดักทางจนในที่สุดเธอก็มาหาเขาได้ในวันที่ชายหนุ่มออกโรงพยาบาทพอดี

 

 

 

 

            “ฟางเราเลิกกันเถอะ” ป็อปปี้พูด

 

 

 

 

            “เอ๋ะ เมื่อกี้ป็อปว่าไงนะ?” ฟางช่วยพยุงป็อปปี้เอย

 

 

 

 

            “เราเลิกกัน ฉันขี้เกียจที่จะต้องตามใจเธอแล้ว” ป็อปปี้สลัดฟางแล้วตีออกห่าง

 

 

 

 

            “ป็อป! นี้ป็อปพูดเล่นใช่ไหม ฟางรู้นะกะหลอกฟางอีกล่ะสิ มุกนี้ไม่ขำนะ” ฟางพูดแล้วยิ้มหวานคิดว่าแฟนหนุ่มเธอคงจะแกล้งยอเธอเล่น

 

 

 

 

            “ฉันก็ไม่ขำเหมือนกัน!!” ป็อปปี้ตวาดชักสีหน้าคร่ำเครียด ฟางสะอึกตกใจที่เขาทำหน้าตาน่ากลัว

 

 

 

 

            “ป็อป บอกสิทำไมฟางทำอะไรผิดป็อปบอกฟางมาสิ!?” ฟางเริ่มไม่แน่ใจกับสิ่งที่เขาพูดก็รีบเค้นเรื่องพร้อมกระตุกแขนชายหนุ่ม

 

 

 

 

            “น่ารำคาญจริง!!!” ป็อปปี้กัดฟันสะบัดร่างหญิงสาวล้มลง ฟางเงยหน้าน้ำตาคลอมองชายหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ เธอทำอะไรผิดทำไมเขาต้องขอเลิกกับเธอ

 

 

 

 

            “ป็อป ฮือๆๆทำไม” ฟางสะอื้นถาม

 

 

 

 

            “ยังไม่รู้ตัวอีกเรอะ เหอะเธอนี้มันโง่ซะจริงฉันจะบอกให้ ฉันแค่ต้องการเงินต้องการยศถาบรรดาศักดิ์ไม่ได้พิศวาสเธอเลยสักนิด  จุกจิกน่ารำคาญฉันชักจะเบื่อเต็มทน เลิกยุ่งกับฉันสักที!” ป็อปปี้พูดเสียงแข็งแล้วเดินหนี

 

 

 

 

            “ไม่จริงๆ ฮือๆๆ” ฟางส่ายหน้าไม่เชื่อหูรีบลุกไปกอดด้านหลังรั้งตัว

 

 

 

 

            “ปล่อย!” ป็อปปี้เม้มปากพยายามกลั้นสะอื้นพร้อมพยายามแกะมือหญิงสาวจนหลุด ก่อนจะมีสายสวยอีกคนเดินเข้ามาผลักฟางล้มแล้วจิกหัว

 

 

 

 

            “ผู้ชายเขาไม่เอาจะยื้อไว้ทำไม โดนเขาหลอกไม่รู้ตัวเลยเรอะนังโง่!” สาวสวยว่าจบก็จิกหัวส่งฟางทันทีก่อนจะเดินไปควงแขนชายหนุ่มที่ยืนรอแล้วส่งซิกบอก

 

 

 

 

            “ป็อป ฮือๆ” ฟางร้องเรียกคนรักหวังให้เขาหันกลับมาแต่ไม่ ไม่เลยสักนิด แค่เหล่มองเขายังไม่คิดทำ เดินลับทิ้งเธอไว้ในห้องพร้อมกับความเสียใจ

 

 

 

 

            “แค่นี้คงพอสินะ” ป็อปปี้พูดหลังเจอธนัยเดินตรบมืออารมณ์ดีออกมาจากซอกมุม

 

 

 

 

            “สุดซึ้งเลยละ ตามสัญญาฉันจะจ่ายหนี้ให้ทั้งหมดและส่งแกจนจบ” ธนัยว่าพร้อมยื่นมือเช็คแฮนด์แต่ป็อปปี้ยืนนิ่งไม่คิดตอบ ชายแก่จึงดึงมือกลับแล้วยักไหล่ก่อนสาวสวยที่ผละตัวมาหาชายชราพร้อมรับเงินค่าจ้าง

 

 

 

 

            “ผมขอตัวกลับก่อน” ป็อปปี้เดินหนีเข้าลิฟต์คนเดียวก่อนจะทรุดไถลลงร้องไห้หนักหน่วง

 

 

 

 

            “ฟางฉันขอโทษฉันขอโทษ ฮือๆ”

 

 

 

 

            “ฉันพูดไม่ออกจริงๆ ขอโทษที่เข้าใจผิด” แก้วทีนั่งฟังเรื่องราวถึงกับค้างไปชั่ววิ เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าเรื่องมันจะซับซ้อนขนาดนี้

 

 

 

 

            “อืม สมควรอยู่” ป็อปปี้ยิ้มบางพูด

 

 

 

 

            “แล้วทำไมไม่บอกความจริงฟางไปล่ะ? ทำไมถึงยังปล่อยให้เธอเข้าใจนายผิดๆอย่างนี้” แก้วรีบถาม ถ้าบอกไปฟางก็น่าจะเข้าใจเธอคิดอย่างนั้น

 

 

 

 

            “บอกไปมันก็ไม่ต่างกับการแก้ตัวจะบอกว่าผมไม่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผม ผมทำให้ฟางเสียใจทำให้เธอร้องไห้ ทีแรกผมคิดว่าเราสองคนคงมาได้แค่นี้แต่ผมก็เลือกที่จะกลับมาเพราะผมตัดใจจากฟางไม่ได้จริงๆหรือผมอาจแค่อยากให้ฟางยกโทษให้ผู้ชายงี่เง่าคนนี้” ป็อปปี้พูด ถึงเขาจะอยากได้ฟางคืนแต่เขาก็อาจแค่อยากให้เธอยกโทษให้ไม่จำเป็นรักเขาก็ได้ขอเพียงเธอยังเห็นเขาสายตาก็เพียงพอสำหรับตัวเขาแล้ว

 

 

 

 

            “ป็อป” แก้วพูดแอบซึมตาม เธอจ้องหน้าชายหนุ่มที่พยายามฝืนยิ้มหลังเล่าความจริงให้เธอฟังก็อดเศร้าตามไม่ได้

 

 

 

 

            “ฉันขอโทษที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง ฉันไม่น่าถามเลยจริง ไม่น่า..” แก้วพูดโทษตัวเอง

 

 

 

 

            “ไม่เป็นไร ผมเต็มใจ” ป็อปปี้คลี่ยิ้มกว้างคลายกังวลหญิงสาว แก้วเห็นป็อปยิ้มก็พยายามยิ้มตามแม้มีแอบหุบเล็กๆ

 

 

 

 

            “รู้มั้ย อีกเหตุผลหนึ่งที่ผมกลับมาคืออะไร” ป็อปปี้พูดสายตาล่องลอยไปกับเมฆขาวบนท้องฟ้า

 

 

 

 

            “?” แก้วเอียงคอตีหน้างง

 

 

 

 

            “ก็แค่แอบหวังว่าเศษเสี้ยวหนึ่งในหัวใจฟางจะยังรักผมอยู่” ป็อปปี้พูด

           

 

 

 

 

            “วันนี้มันวันซวยของฉันใช่ไหมเนี่ย” แก้วขับรถมาจอดหน้าบ้านก็พบว่าบ้านถูกปิดล็อคอย่างดีแปลว่าสองสาวไม่ได้อยู่บ้าน หญิงสาวจึงพึมพำกับตัวเองก่อนจะเคลื่อนรถเข้าบ้านตัวเอง แก้วเลื่อนบานประตูพลางกวาดตามองหาสิ่งเดียวที่ไม่อยากเจอหวังอย่าให้เขารู้เลยว่าเธอกลับมา

 

 

 

 

            “หายไปไหนมา?” เสียงเคร่งขรึมโพล่งดังข้างหลังหญิงสาว ทำให้เธอกระตุกนิดหนึ่งก่อนจะหันไปเผชิญเจ้าของเสียง

 

 

 

 

            “โทโมะ...” แก้วชะงักเมื่อเห็นร่างของโทโมะตรงหน้า แววตาสีแดงฉานจ้องมองมาที่เธอพร้อมกับใบหน้าซีดขาวมีรอยเส้นสีดำเหมือนเส้นเลือดเข้มชัด ร่างถูกปกคลุมไปด้วยควันสีมืดครึ้มรอบกายมันดูน่ากลัวจนตัวเธอเกือบหยุดหายใจ ความกลัวแล่นเข้าครอบนำหัวใจเธอหลังได้ยลโฉมเขา

 

 

 

 

            “กล้ามากที่ทิ้งฉันไว้บ้านไม่พอยังทำลายของรักเพียงชิ้นเดียวที่ฟางให้ฉัน หยามกันเกินไปแล้ว!” โทโมะว่าเสียงดังก้อง แก้วตกใจก่อนจะพยายามคุมสติให้อยู่

 

 

 

 

            “........” แก้วยืนนิ่งเงียบหรุบตาลงพลางคิดเกิดอะไรขึ้นกับเขากันทำไมร่างวิญญาณถึงกลายเป็นเช่นนั้น หรือเพราะเขาโกรธเธอเรื่องที่ว่ามาแต่ยังไงซะตอนนี้เขากำลังโกรธเธออยู่แน่ๆ

 

 

 

 

            “เงียบทำไมหรือเห็นหน้าฉันเลยไม่อยากพูด!” โทโมะตวาดสีหน้าขุ่นเคือง แก้วที่กำลังใช้ความคิดถึงกับหลุดภวังค์

 

 

 

 

            “ป่าว ฉันแค่เหนื่อย” แก้วพูด

 

 

 

 

            “เหนื่อย เหอะหายไปเป็นวันมัวแต่ไปพลอดรักกับมันมาล่ะสิ เป็นไงสุขสมพอไหม” โทโมะยิ้มมุมก่อนแขวะว่าแก้ว

 

 

 

 

            “หยุดงี่เง่าสักที ฉันจะไปไหนมันก็เรื่องของฉัน!” แก้วขมวดคิ้วบางรีบโต้เถียงด้วยความโมโหก่อนรีบชิงหนีชายหนุ่มไม่อยากคุยด้วย

 

 

 

 

            “อย่ามากำแหงกับฉัน!!” โทโมะคว้าแขนล็อคสองข้างพร้อมตะคอกเสียง

 

 

 

 

            “ปล่อย!” แก้วยื้อแขนดึงหนี แต่กลับยิ่งถูกบีบข้อมือเล็กมากจนเบ้หน้าเจ็บ

 

 

 

 

            “เดียวนี้แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้ ต้องเป็นมันใช่มั้ยเธอถึงจะยอมพลีกาย อยากรู้จริงมันดีเลิศประเสริฐศรีจากไหน เธอถึงหลงมันหัวปักหัวปำ!!” โทโมะกระแทกกระทั้นแล้วบีบแน่นกว่าเดิม

 

 

 

 

            “ฉันไม่ได้หลงใครทั้งนั้น เลิกว่าคนอื่นเสียทีพูดเหมือนตัวเองดีตายล่ะ สมควรแล้วที่ฟางทิ้งนายไปหาผู้ชายที่ดีกว่า!” แก้วนิ่วหน้ารีบสวนกลับอย่างเกรี้ยวโกรธไม่แพ้กันจนลืมนึกถึงผลร้ายที่ตามมา

 

 

 

 

            “แก้ว!” โทโมะกัดฟันกรอดกระชากแก้วแต่เธอสู้ชักแขนบางกลับจนชายหนุ่มพลั้งมือผลักแก้วด้วยความฉุนเฉียว

 

 

 

 

            เพล้ง!!!

 

 

 

 

            ร่างหญิงสาวกระแทกเข้ากับขอบตู้วางของโดนเอวเล็กอย่างแรงจนตู้สั่นสะเทือนทำให้แจกันตกลงมาแตกดังพร้อมกับร่างเธอที่ทรุดฮวบ

 

 

 

 

            “ โอะโอ๊ย..” แก้วทำหน้าโอดครวญขยับไม่ออกเพราะจุก โทโมะชะงักกับเหตุการณ์เมื่อครู่เขาเผลอทำร้ายเธอเสียแล้ว

 

 

 

 

            “พี่แก้ว!!!” เสียงใสวิ่งหน้าตื่นตกใจหลังพึ่งกลับมาถึงบ้านได้ยินเสียงของหล่นแตกจึงรีบสาวเท้าเร็วมาก็เห็นแก้วนั่งทรุดอยู่กับพื้นกับแจกันแตกละเอียด

 

 

 

 

            “เกิดอะไรขึ้น พี่แก้วเป็นอะไรมากมั้ย!?” แจมรีบถามอาการพี่สาว แก้วพูดไม่ออกเพียงแสดงสีหน้าเก็บกดกลั้นความเจ็บปวดรวดร้าวที่รุมเร้า เนยสำรวจพี่สาวเห็นข้อเท้าม่วงกับรอยยับเสื้อข้างหลังแก้วก็พอเข้าใจ

 

 

 

 

            “แจมพาพี่แก้วไปก่อนเดียวเนยจัดการตรงนี้เอง” เนยรีบสั่งแจมส่วนตนจะจัดการเศษแจกันนี้เอง แจมพยักหน้าแล้วค่อยๆประคองแก้วกลับห้องช้าๆ โทโมะยืนมองตามหลังพึ่งสังเกตแผลที่ข้อเท้าแก้วด้วยก็รู้สึกผิด

 

 

 

 

            “พี่ไม่เป็นไร อย่าทำหน้าเบี้ยวแบบนั่นสิ” แก้วยิ้มแหย่พูดเพราะเธอโดนน้องสาวจ้องตาเป็นมันยังกะจะกินเลือดกินเนื้อเธอยังงั้น

 

 

 

 

            “ไม่เป็นไรได้ไง ตะกี้ยังพูดแทบไม่ออกถามจริงเหอะพี่ช่วงนี้ทำไมพี่แก้วเจ็บบ่อยจัง ดวงตกอ่ะเปล่า ไปทำบุญสะเดาะเคราะห์หน่อยไหมเผื่อดีขึ้น” แจมแย้งว่าพี่สาวรีบชวนเธอลองไปสะเดาะเคราะห์ดูอาจดีขึ้น

 

 

 

 

            “เว่อรแหละๆแค่นี้เอง โอ๊ย!เบาๆ” แก้วยีหัวเล่นจนแจมหน้ามุ่ย เนยรำคาญที่แก้วอยู่ไม่นิ่งบวกกับไม่ห่วงตัวเองจึงบี้แผลสกัดมุม

 

 

 

 

            “คนเขาอุส่าเป็นห่วง” เนยพูดเอาถุงประคบเย็นออกก่อนเอาผ้าซับหยดน้ำเย็นเกาะหลัง

 

 

 

 

            “จ้าๆ ไว้วันหลังเนาะประคบเสร็จแล้วใช่ม่ะ” แก้วพูด

 

 

 

 

            “ยัง เดียวแจมไปเอาถุงประคบเย็นให้ใหม่ เนยไปกัน” แจมพูดเสร็จก็รีบลากเนยไปด้วย

 

 

 

 

            “อ้าวทำไมไม่ไปคนเดียว?”  แก้วรีบถามดักเพราะเธอนึกว่าแจมไปคนเดียวที่ไหนได้ลากเนยไปด้วย

 

 

 

 

            “แฝดก็ต้องไปเป็นคู่สิพี่ อะไรกลัวผีหลอกเรอะ” แจมพูดแล้วรีบไปทำอย่างที่เธอว่า แก้วยิ้มๆก่อนจะถูแขนเพิ่มความอบอุ่นเพราะมีลมเย็นจากไหนไม่รู้ผ่านร่างเธอ แก้วมองไปทางต้นตอก็ทราบว่าเธอไม่ได้ปิดบานกระจกจึงตัดสินใจพาร่างกะเผลกๆไปเลื่อนปิด

 

 

 

 

            “แก้ว” โทโมะพูด แก้วชะงักก่อนจะหันไปพบโทโมะที่ยืนจ้องเธอด้วยใบหน้าเป็นห่วงตอนนี้ร่างของเขากลับมาโปร่งขาวเหมือนเดิมไม่เหมือนทีแรกที่มืดดำจนน่ากลัว โทโมะเดินเข้ามาใกล้แล้วยื่นมือจะเข้าไปจับเธอ แต่แก้วลุกลนตกใจหนีถอยชนกับโซฟาฮวบนั่งติดเบาะ

 

 

 

 

            “ยะ อย่า” แก้วร้องห้ามเสียงสั่นพร้อมยกมือบังโทโมะ

 

 

 

 

            “ฉันไม่ได้จะทำอะไรเธอ” โทโมะชะงักนิดหนึ่งก่อนจะพูดเสียงอ่อน

 

 

 

 

            “ขอล่ะ อย่าเข้าใกล้ฉัน” แก้วส่ายหน้ายังยกแขนบังชายหนุ่มร้องขออย่าเข้าใกล้เธอมากกว่านี้

 

 

 

 

            “เธอกลัวฉันเรอะ” โทโมะถาม แต่แก้วไม่ตอบกลับยิ่งก้มหน้างุดซ่อนใบหน้าหวาดผวา เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาเธอกลัวเกินกว่าจะเผชิญกับสิ่งที่เขาทำไว้

 

 

 

 

            “ขอโทษ ฉันแค่....” โทโมะเสียงอ่อยมองแก้วที่นั่งตัวสั่นก็ซึมลง นี้เขาทำอะไรลงไปเขาเผลอพลั้งทำร้ายเธอเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

 

 

 

 

            “......” แก้วเบือนหน้าหนี โทโมะหน้าสลดเก็บมือถอยห่างหญิงสาวแล้วเหล่แก้วก่อนจะหายไป แก้วเงยหน้ามองชายหนุ่มแต่ในห้องกลับว่างเปล่าก็ถอนหายใจเหนื่อยอ่อนพลางนึกถึงเรื่องป็อปปี้ ที่จริงถ้าเขาไม่ชวนทะเลาะเสียก่อนเธอก็กะจะบอกความจริงว่าสิ่งที่เขาคิดมันถูกแต่มันก็แค่ความคิด เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำยังไงเพราะใจหนึ่งก็สงสารโทโมะ ใจหนึ่งก็สงสารป็อปปี้ ไม่มีใครผิดถ้าจะผิดก็คงเป็นชะตากรรมที่กำหนดให้ทั้งสามมาเจอกันรวมทั้งเธอที่ต้องกลายมาเป็นคนกลางของความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอนนี้โดยไม่ตั้งใจ

 

 

 

 

________________________________________________________

 

 

 

 

            อัพเรื่อยๆไม่ใช่อะไรช่วงนี้ใกล้สอบพีสจะหายไปสัก 2-3 อาทิตย์แล้วกลับมาอัพให้หลังปิดเทอม!! เพราะฉะนั้นใครยังอยากให้พีสเขียนต่อ เม้นเยอะๆจะเป็นกำลังให้พีสอย่างมากเบย เหอะๆโทโมะทำแก้วกลัวไปซะแล้ว ป็อปฟางร้องไห้เพราะธนัยคนเดียว โฮ้ย! ติดตามได้ตอนหน้านะ

 

 

 

 

LOVETK PF KF!!!!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา