Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

8.4

เขียนโดย blackKZ

วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.55 น.

  20 chapter
  215 วิจารณ์
  26.98K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 12.44 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

16) ตอนที่ 15 ไม่มีเธอกับเป็นห่วงเธอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

CHAPTER15: Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

 

ตอนที่ 15 ไม่มีเธอและเป็นห่วงเธอ

 

 

 

 

 

            หลายวันผ่านมาแก้วเดินได้เกือบปกติ แจมและเนยจึงอาศัยช่วงหยุดยาวลากตัวพี่สาวไปทำบุญแก้ซวยแม้เจ้าตัวจะฮึดฮัดแต่ก็ต้องยอมตามน้ำมาอยู่ดี และเป็นอีกหลายวันที่แก้วไม่เห็นโทโมะอีกเลยจนเกิดคำถามในใจ เขาหายไปไหน?

 

 

 

 

 

            “พี่แก้ว พี่แก้ว!” แจมเขย่าพี่สาวที่เอาแต่เหม่อตั้งแต่เข้าวัดทำให้แก้วสะดุ้งมองทั้งสองตาปริบๆ

 

 

 

 

 

            “เกิดไรขึ้น!?” แก้วพูดพลางมองไปรอบตัว มีคนมานั่งฟังพระสวดมากกว่าตอนที่เธอเข้ามาทีแรก

 

 

 

 

 

            “ไม่มีไรทั้งนั้นแหละ อย่าเอาแต่เหม่อสิพี่แก้วนี้มาทำบุญนะไม่ได้มานั่งหลับ รู้นะเมื่อกี้แอบผงกจะหลับท่าเดียวอ่ะ” แจมพูด เนยพยักหน้าเสริม

 

 

 

 

 

            “ก็มันง่วงนิน่า เล่นปลุกแต่หัวรุ่งจะให้พี่ทำไง” แก้วหน้างอก้มหน้ากราบพระก่อนลุกหนี ขืนอยู่นานกว่านี้เธอต้องสลบเพราะเสียงสวดพระเป็นแน่

 

 

 

 

 

            “ห้ามบ่น ห้ามเถียง นี้น้องสาวสุดที่รักอุส่าเจียระไนเวลาอันน้อยนิดเพื่อพี่แก้วเลยนะ” เนยแจมตามมาบ่นแก้วต่อหลังออกโบสถ์

 

 

 

 

 

            “อ่าจ้ะ วันหลังไม่ต้องนะพี่เกรงใจ โอ๊ย!” แก้วว่าก่อนร้องเสียงหลงเพราะโดนเนยจี้แผลเก่า แก้วจึงลูบหลังหน้ามุ่ยมองทั้งคู่ หญิงสาวหันไปเห็นคนกำลังกรวดน้ำอยู่ใกล้ๆก็เกิดคิดถึงโทโมะ เขาหายหน้าหายตาไปตั้งแต่วันนั้นแต่เธอก็รู้สึกว่าเขายังอยู่ใกล้ๆ

 

 

 

 

 

            “อ้าวแล้วนี้พี่แก้วจะไปไหน?” เนยทักเพราะแก้วเล่นทิ้งสองสาวไม่บอกกล่าว

 

 

 

 

 

            “พี่จะไปกรวดน้ำให้เพื่อน!” แก้วตะโกนบอก

 

 

 

 

 

            เที่ยงวันสามพี่น้องกลับถึงบ้านโดยมีเนยเป็นโชเฟอร์กับแจมนั่งหน้ามุ่ยข้างๆ ถ้าเกิดแจมขับมีหวังได้ถึงบ้านเก่า ก่อนที่สองแฝดจะพากันจัดแจงของเข้าบ้านส่วนแก้วก็ขึ้นห้องมาเก็บของใช้ส่วนตัว

 

 

 

 

 

            “โทโมะ..” แก้วผงะเมื่อพบโทโมะในห้อง

 

 

 

 

 

            “ขอโทษ ฉันจะไปเดียวนี่” โทโมะสะดุ้งแล้วรีบเดินหนีแก้วเพราะรู้ดีว่าหญิงสาวยังกลัวตนอยู่

 

 

 

 

 

            “ไม่ต้องหรอกอยู่ต่อก็ได้” แก้วพูดพร้อมเดินไปเก็บของใช้ โทโมะมองแก้วก็แอบยิ้มนิดๆ

 

 

 

 

 

            “ขอบคุณที่ทำบุญให้ฉัน เรื่องวันก่อนขอโทษด้วยฉันโมโหจนคุมสติไม่อยู่เผลอทำร้ายเธออีกจนได้” โทโมะพูดขอบคุณที่วันนี้เธอทำบุญให้เขาทั้งที่ยังโกรธเขาอยู่แท้ๆ

 

 

 

 

 

            “ฉันว่าฉันปล่อยให้เธอพักผ่อนดีกว่า” โทโมะซึมที่แก้วเงียบไม่ยอมพูดด้วย

 

 

 

 

 

            “อย่าหายไปดื้อๆอีกได้ไหม มันหวิวๆยังไงไม่รู้พอไม่มีนายอยู่ข้างๆ” แก้วดึงเสื้อชายหนุ่มยื้อ โทโมะชะงักนิดหนึ่งก่อนจะอมยิ้มแล้วเดินมานั่งปลายเตียงพร้อมกับแก้ว หญิงสาวหยิบจี้วางลงบนมือใหญ่ก่อนจะเอามืออีกข้างรองใต้มือหนาทำให้ดูเหมือนเขาถือเพราะเขาถือไม่ได้ โทโมะมองจี้ก็คิดถึงฟาง  

 

 

 

 

 

            “เรื่องฟาง ฉันรู้ความจริงทั้งหมดแล้วล่ะแต่ขอได้ไหมถ้าบอกไปนายอย่าโกรธเขานะ” แก้วขอร้องชายหนุ่ม เธอคิดดีแล้วที่จะบอกเพราะถึงยังไงสักวันเขาก็ต้องรู้

 

 

 

 

 

            “อืม” โทโมะรับคำ แก้วจึงเล่าเรื่องป็อปปี้กับฟางให้ฟังถึงสาเหตุที่พวกเขาเลิกกันและกลับมา ระหว่างเล่าโทโมะไม่มีทีท่าตกใจกลับดูอ่อนลงเหมือนทำใจได้

 

 

 

 

 

            “เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ นายโอเคไหม?” แก้วพูดจบก็รีบถามไถ่ชายหนุ่ม

 

 

 

 

 

            “อย่างที่คิดไว้จริงๆ..” โทโมะยิ้มทั้งแววตาเศร้าๆ

      

 

 

 

           “รู้ยังงี้นายจะยอมรับและปล่อยฟางไปตามเส้นทางของเขา ให้ฟางเป็นคนกำหนดความรักเองรึป่าว” แก้วพูด

 

 

 

 

 

            “คงงั้น ยังไงฉันก็ทำอะไรไม่ได้ในเมื่อฉันตายไปแล้ว” โทโมะถอนหายใจแล้วกุมขมับ

 

 

 

 

 

            “แล้วถ้ายัง?” แก้วสมมติถาม ถ้าเขายังไม่ตายเขาจะยอมไหม

 

 

 

 

 

            “ฉัน ฉันก็ไม่รู้ แต่ถึงตอนนั้นคงขึ้นอยู่กับฟางล่ะมั่ง” โทโมะอ้างฟางบังหน้า เพราะถึงตอนนั้นจริงๆเขาก็ไม่รู้จะทำยังไง

 

 

 

 

 

            “แล้วนายจะทำไงต่อ ในเมื่อทุกอย่างลงล็อคแฟนเก่าฟางคือป็อปปี้ เท่ากับนายหมดเรื่อง....” แก้วพูดก่อนจะหยุดลง ใช่ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาคาดหวังเขาหมดเรื่องคาใจเท่ากับเขาต้องไปแล้วแต่ทำไมใจมันกลับอยากรั้งเขาไว้กัน

 

 

 

 

 

            “นั่นสิ แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงยังไม่อยากไปกันนะ” โทโมะพูดจบก็หันมาสบตากับแก้วที่มึนกับประโยคเมื่อกี้ ก่อนเจ้าตัวจะโน้มลงเข้าไปใกล้ใบหน้าหญิงสาว แก้วตาโตเถิบห่างแต่โทโมะประคองหน้ายื้อแล้วก้มลงจูบอย่างอ่อนโยนก่อนเจ้าตัวจะห้ามใจไม่อยู่รุกล้ำสอดลิ้นเข้าไปช่วงชิมรสหวานในปากจนอีกฝ่ายเคลิ้มตามสัมผัสไปด้วย ลิ้นกวัดแกว่งคล้องเป็นจังหวะตาม ลมหายใจเริ่มขัดเพราะชายหนุ่มเล่นยื้อนานเกินจนหญิงสาวเริ่มหอบ

 

 

 

 

 

            “พี่แก้วกินข้าว!!” เนยตะโกนเรียกพี่สาวจากข้างล่างทำให้ทั้งสองผละหยุด แก้วไม่พูดอะไรรีบลุกหนี โทโมะมองตามหลังก่อนจะเอานิ้วเกลี่ยริมฝีปากตัวเอง คำคิดแรกที่ผลุบขึ้นมาในหัว“หวาน”

 

 

 

 

 

            “ถ้าฉันเจอเธอเร็วกว่านี้ บางทีฉันอาจรักเธอไปแล้ว” โทโมะพึมพำโดยไม่รู้ว่าแก้วที่ออกไปวกกลับมาได้ยิน หญิงสาวยิกแก้มแก้ใบหน้าร้อนผ่าวกับหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เธอส่ายหน้าไล่อาการรีบเดินดุ่มๆลงชั้นล่างก่อนเขาจะเห็น

           

 

 

 

 

 

            “แก้วววววววววววว!!!” เฟย์ตะโกนอัดจอคอมผ่านโปรแกรม Skype เล่นอีกฝ่ายอย่างแก้วเกือบหงายตกเก้าอี้

 

 

 

 

 

            “หูจะแตก! นี้ฉันเบาเสียงแล้วนะ มีอะไรอีกยัยเฟย์ไหงหน้าบูดงั้นอ่ะ” แก้วชี้หน้าเพื่อนสาวที่หน้าเบี้ยวอย่างรู้ทัน

 

 

 

 

 

            “จะไม่ให้บูดได้ไง ก็ยัยมีนว่าที่แฟนเก่าคุณสามีนะสิ ช่วงเนี่ยออเซาะเขื่อนไม่เว้นวัน ขนาดฉันอยู่ข้างๆยังไม่เลิกยั่วสามีชาวบ้านอีก!” เฟย์รีบบ่นเรื่องตัวเองอย่างหัวเสีย

 

 

 

 

 

            “ถ้ากังวลมากนัก ทำไมไม่บอกเขื่อนไปล่ะว่าให้เลิกยุ่ง” แก้วพูด

 

 

 

 

 

            “ทำได้ทำไปแล้ว ถ้าไม่ติดว่ายัยนั้นเป็นแขกคนสำคัญในงานสังสรรค์โรงแรมฉันอ่ะ เขื่อนก็เอาแต่บอก งานๆๆ อย่าให้รู้ว่าแอบไปกิ๊กกันแม่จะอาละวาดให้บ้านแตกเลยคอยดู” เฟย์กำมือแน่นก่อนทุบโต๊ะรัวๆ

 

 

 

 

 

            “โหดจริง เพื่อนใครเนี่ย” แก้วยิ้มแหย่แอบถอยห่างจอกลัวเพื่อนสาว

 

 

 

 

 

            “เพื่อนแกไง เอ่อว่าแต่แกเหอะไปคืนดีกับอีตานั่นตั้งแต่เมื่อไร?” เฟย์พูด เพราะเห็นโทโมะยืนเลือกหนังสืออยู่หลังแก้ว

 

 

 

 

 

            “ตานั่น ตาไหน?” แก้วนิ่วหน้าถาม

 

 

 

 

 

            “เอ้า! ก็คนที่แกชกเขาไปครั้งก่อนที่ร้านอาหารอ่ะ แน่ะๆไม่ต้องมาทำเนียนเลยเห็นอยู่ทนโท่ด้านหลังแกอ่ะ อ้าวหายไปไหนละ” เฟย์พูดพร้อมชี้ไปด้านหลังแก้วก่อนจะเอะใจงงที่ไม่เห็นชายหนุ่มที่ว่า แก้วหันหลังขวับพึ่งสังเกตเห็นโทโมะนั่งอ่านหนังสืออยู่ริมระเบียงห้อง ชายหนุ่มเงยหน้ามองแก้วตอบก็ตกใจที่แก้วขยิบตาส่งสัญญาณเหมือนไล่

 

 

 

 

 

            “เฮ้ย!! ว่าไปหมอนั่นตายไปแล้วนะจำไม่ได้เรอะ ฉันเป็นขับรถชนเขาเอง” แก้วรีบแถทำเป็นตกใจชักสีหน้ากลัวผีตามปกติพลางคิดทำไมเฟย์ถึงเห็นโทโมะ

 

 

 

 

 

            “ห่ะ! อิตาปากร้ายนั่นเรอะที่แกขับชนจริงง่ะฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย เอ๋แต่จำได้ว่าหมอนี้ออกจะดังนิแฟนคลับตั้งเยอะตั้งแยะทำไมไม่เห็นมีข่าวเลยอ่ะเงียบเป็นป่าช้าเชียว แกได้เจอญาติตานั่นป่ะ?” เฟย์สะดุ้งรีบถามด้วยความสงสัย เธอจำได้ว่าแก้วเคยบอกว่าเขาเป็นนายแบบถ้าอยู่วงการเดียวกับเธอ เธอก็ต้องรู้สิถึงเธอจะเป็นนางแบบเก่าเรื่องโซเชียลเจ้าตัวไม่เคยพลาด

 

 

 

 

 

            “เอ่อ ไม่อ่ะฉันดันสลบไปก่อน มีแต่เนยแจมเท่านั้นที่เจอ” แก้วตอบพลางทบทวนเรื่องโทโมะ

 

 

 

 

 

            กึกๆ!

 

 

 

 

 

            ฟางฉงนใจเสียงดังเหมือนมีใครมาเคาะบานกระจกระเบียงห้อง จึงเดินไปเลื่อนบานกระจกดูแต่ไม่เจออะไรก่อนจะโดนรวบตัวมากอดปิดปากโดยคนที่ซุ่มอยู่ในเงามืด ฟางดิ้นขลุกขลักร้องอู้อี้ด้วยความตกใจรีบเงยหน้ามองเจ้าของมือใหญ่

 

 

 

 

 

            “อ็อบอี้(ป็อปปี้)!” ฟางพูด

 

 

 

 

 

            “ใช่ ฉันเอง” ป็อปปี้ยิ้ม

 

 

 

 

 

            “อ่อยอ้ะอ่าอ้า(ปล่อยนะตาบ้า)” ฟางดิ้น ป็อปปี้จึงกอดแน่นกว่าเดิม

 

 

 

 

 

            “ฉันปล่อยแน่แต่เธอห้ามกรี้ดเด็ดขาด” ป็อปปี้พูด ฟางหน้ามุ่ยยอมหยุดดิ้น ชายหนุ่มเห็นจึงคลายมือลง

 

 

 

 

 

            “กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดด!! อุ๊บ” เมื่อหลุดพ้นฟางแหกปากลั่นทันทีก่อนจะโดนป็อปปี้จูบปิดปาก ฟางทุบอกชายหนุ่มด้วยความตกใจแต่เขายิ่งรุกหนักบีบแก้มขาวให้เผยอปากแทรกลิ้นร้อน หญิงสาวเผลอตอบสนองรสจูบจนเข่าอ่อนระทวยจะล้ม ยังดีชายหนุ่มประคองร่างเธอไว้

 

 

 

 

 

            “ถ้ากรี้ดอีกรอบเจอปล้ำ!” ป็อปปี้หยุดแล้วขู่ฟางที่กำลังอ้าปากกรี้ดอีกรอบหลังให้อิสระ ฟางสะดุ้งเขินสวนตีไหล่ชายหนุ่มอย่างแรง ป็อปปี้จึงเลิกกอดลูบไหล่เบาๆแล้วเดินตามฟางที่ฮึดฮัดเจ้าตัวเข้าห้องนอน

 

 

 

 

 

            “นายต้องการอะไร” ฟางพูดเสียงแข็ง

 

 

 

 

 

            “เลิกยุ่งกับพิชชี่ซะ” ป็อปปี้ว่า

 

 

 

 

 

            “เขาเป็นเพื่อนฉัน ทำไมฉันต้องเลิกด้วยไม่มีเหตุผลเอาซะเลย” ฟางเถียง

 

 

 

 

 

            “เธอยังรู้จักมันไม่ดีพอ หมอนั้นร้ายกว่าที่เธอเห็นเสียอีกฉันเป็นห่วงเธอนะ” ป็อปปี้พูด เขาเป็นผู้ชายย่อมรู้จักผู้ชายด้วยกันดี

 

 

 

 

 

            “ไม่จำเป็นฉันดูแลตัวเองได้และฉันเชื่อว่าพิชดีกว่านายเป็นไหนๆ มาทางไหนเชิญกลับไปทางนั้นเลยก่อนที่ฉันจะเรียกพี่แจ๋ว” ฟางเชิดหน้าว่าก่อนจะไล่ชายหนุ่ม

 

 

 

 

 

            “แต่มันข่มขืนจินนี่ อย่างนี้เรอะที่เขาเรียกดี!” ป็อปปี้โวยวาย

 

 

 

 

 

            “ฉันไม่เชื่อ นายอย่ามากุเรื่องโกหกฉันหน่อยเลย มีเหตุผลอะไรที่พิชต้องทำยังงั้นด้วยก็เห็นอยู่พิชกับจินนี่แทบไม่คุยกันด้วยซ้ำไป” ฟางตกใจรีบสวนอย่างไม่เชื่อหู

 

 

 

 

 

            “เพราะไม่เห็นถึงน่ากลัวต่อหน้าดีลับหลังร้ายยิ่งกว่าอะไร เธอมองโลกในแง่ดีเกินไปแค่เห็นด้านหน้าอย่ามาตัดสินด้านหลังว่าดีไปหมด ผู้ชายน่ากลัวกว่าที่เธอคิด” ป็อปปี้พูดเตือนด้วยความว่าห่วงเธอเป็นอะไรไป

 

 

 

 

 

            “เหมือนกับนายใช่มั้ย” ฟางนิ่งแล้วมองชายหนุ่มแววตาเศร้าๆ

 

 

 

 

 

            “ฉันยอมรับ ฉันมันเลวแต่ขอโอกาสให้คนเลวๆคนนี้ไถ่โทษกับความผิดที่ผ่านมาไม่ได้เหรอ” ป็อปปี้ชะงักแล้วรีบขอโอกาสให้เขา

 

 

 

 

 

            “มันสายไปแล้วล่ะ” ฟางเบือนหน้าหนี

 

 

 

 

 

            “มันไม่สายไปหรอกฟาง เธอแค่ไม่เปิดใจให้ฉันต่างหาก” ป็อปปี้พูด ฟางหันมามองป็อปปี้ด้วยสีหน้าลำบากใจ

 

 

 

 

 

            ก็อกๆๆ!!!!

 

 

 

 

 

            “คุณหนูค่ะเกิดอะไรขึ้น พี่แจ๋วได้ยินเสียงกรี้ดดังไปถึงข้างล่าง!?” แจ๋วเคาะประตูเรียกถามอย่างรีบร้อนทำให้ฟางป็อปปี้หันมาเป็นตาเดียวกัน

 

 

 

 

 

            “มัวยืนอะไรอยู่ ไปซะสิ!” ฟางรีบดันชายหนุ่มไล่กลับก่อนแจ๋วจะเปิดเข้ามาเห็นทั้งสองอยู่ด้วยกัน

 

 

 

 

 

            “ไม่! จนกว่าเธอจะยอมตกลงไม่ยุ่งกับไอ้พิชชี่อีก” ป็อปปี้พูดไม่ยอมไป

 

 

 

 

 

            “โอย อะไรนักหนาฉันเลิกกับเขาไม่ได้เข้าใจไหม กลับไปเดียวนี้!” ฟางพยายามดันร่างเขาอย่างลุกลน

 

 

 

 

 

            “ฉันจะยืนกอดเธออยู่ตรงเนี่ย เอาให้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย ไม่ยอมไม่กลับ” ป็อปปี้สวมกอดฟางแล้วดื้อดึงจนกว่าเธอจะตกลง

 

 

 

 

 

            “อ้ายย! ตาบ้า เดียวพี่แจ๋วเห็นก็อาละวาดหรอก และฉันเลิกไม่ได้เพราะถ้าฉันเลิกพ่อฉันต้องไม่ยอมแน่ๆ และถ้าฉันจะคบกับพิชมันแปลกตรงไหนในเมื่อแต่ก่อนฉันเคยชอบเขา” ฟางรีบว่า

 

 

 

 

 

            “แต่เธอ..” ป็อปปี้กำลังจะแย้งแต่ประตูเปิดฮวบเข้ามาเสียก่อน

 

 

 

 

 

            “คุณหนูฟาง!!” แจ๋วเปิดประตูอย่างเร็วเรียกคุณหนูสาว ก็เห็นฟางยืนกลางห้อง

 

 

 

 

 

            “คะ ค่ะพี่แจ๋ว” ฟางจัดเสื้อให้เข้าทางพูด

 

 

 

 

 

            “เมื้อกี้คุณหนูกรี้ดอะไรคะ!?” แจ๋วถามท่าทีร้อนใจ

 

 

 

 

 

            “อ้อ เมื้อกี้มีแมลงสาบตัวบะเร่อในห้องค่ะ แอบเข้าทางระเบียงแล้วบินมาไต่ฟาง ฟางก็เลยตกใจแต่ไม่อยู่แล้วล่ะค่ะ” ฟางรีบโกหกอ้างป็อปปี้เป็นแมลงสาบ

 

 

 

 

 

            “อ้อ นั่นพี่แจ๋วขออนุญาตไปทำความสะอาดต่อนะคะ ถ้าเจอรีบบอกพี่แจ๋วนะพี่จะจัดการเอาไฟเผามันเองไม่ต้องห่วงคะ” แจ๋วพูด ป็อปปี้ที่แอบอยู่ใต้เตียงแอบสะดุ้งในความโหดของสาวใช้

 

 

 

 

 

            “เห้อ ว้าย!” ฟางถอนหายใจหลังแจ๋วไปก่อนจะโดนป็อปปี้ที่แอบย่องเข้าหลังชิงหอมแก้มฟอดใหญ่พร้อมสวมกอดด้านหลัง ฟางหน้าแดงก่ำมองชายหนุ่มตาเขียวกลับ

 

 

 

 

 

            “นี้แน่ะ หาว่าเราเป็นแมลงสาบคิดได้ไงเป็นด้วงยังจะดีเสียกว่า” ป็อปปี้หน้างอพูด

 

 

 

 

 

            “บ่นมากจริง มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลยนะ” ฟางไล่ชายหนุ่มพร้อมดิ้นตัวหนี

 

 

 

 

 

            “กลับก็ได้” ป็อปปี้คลายกอดก่อนแอบจุ๊บปากทีหนึ่งแล้ววิ่ง ฟางตกใจจะตีชายหนุ่มกลับแต่ไม่ทันเพราะเขาวิ่งปีนระเบียงห้องไปเสีย

 

 

 

 

 

            “ฮึ่ย! คนบ้า” ฟางบ่นแล้วถูปากเบาด้วยความอาย

 

 

 

 

 

_______________________________________________________

 

           

 

 

            อ้ากกกก ไอ้สองหนุ่มมันร้ายยยยยย สองสาวโดนชิงจูบไปแล้ว ว้าวๆๆ แอบอิจฉาเบาๆ พีสมาอัพส่งท้ายก่อนหายไปเพราะอันนี้แอบเขียนทิ้งไว้พอดี นักอ่านอย่าพึ่งหายนะ เม้นโหวตด้วย ขอไปเขียน GIRL’STOPIC ก่อนลง 1 ตอน เจอกันหลังสอบ คอมเม้นเยอะอาจมาก่อนเร็วกว่าที่คิด

 

 

 

 

 

LOVETK PF KF!!!!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

           

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา