Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

8.4

เขียนโดย blackKZ

วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.55 น.

  20 chapter
  215 วิจารณ์
  26.98K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 12.44 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

19) ตอนที่ 18 ขี้ตู่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

CHAPTER18: Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

 

ตอนที่ 18 ขี้ตู่

 

 

 

 

            “โห้ว!” แก้วอุทานด้วยความตื่นเต้นหลังลงเครื่องที่สนามบินในญี่ปุ่น นัยน์ตาคู่สวยเป็นประกายลุกวาวกับความแปลกใหม่ในเมือง โทโมะที่ยืนยิ้มด้านข้างเธอรีบเขย่าตัวหญิงสาวบอกถึงเวลาไปเอากระเป๋า แต่เพราะแก้วมัวแต่ตื่นเต้นเลยออกอาการป้ำๆเป๋อๆ ชายหนุ่มจึงต้องลากเธอไปทำทุกอย่างแทน

 

 

 

 

            “นี้ แม่กระต่ายตื่นตูมจะดี้ด้าอีกนานไหม?” โทโมะหยิกหน้าหญิงสาวว่า

 

 

 

 

            “โอ๊ยๆๆ มาหยิกอะไรแถวนี้ห่ะ เดียวคนอื่นก็เห็นหรอก” แก้วปัดมือแล้วลูบหน้าเบาๆ

 

 

 

 

            “ไม่อยากให้หยิกนั้นจูบแทนก็ได้” โทโมะโน้มหน้าจะจูบจริงแต่แก้วปิดปากได้ทัน

 

 

 

 

            “หยุดเลย! อย่ามาลามปาม ได้ทีนิเอาใหญ่เลยนะ” แก้วกัดฟันชี้หน้าว่า

 

 

 

 

            “อย่าเผลอล่ะกัน” โทโมะยักคิ้วกวน หญิงสาวหรี่ตาจ้องอย่างเอาเรื่องก่อนที่ทั้งสองจะขึ้นแท็กซี่เพื่อเดินทางไปยังที่พักในนัดหมาย

 

 

 

 

            “ดีนะที่มาช่วงหน้าหนาว ได้เห็นหิมะด้วย” แก้วพูดพลางชมวิวนอกรถ

 

 

 

 

            “พูดเหมือนไม่เคยเห็น” โทโมะพูด

 

 

 

 

            “ใครว่าล่ะฉันเคยไปตั้งหลายที่แต่ญี่ปุ่นน่ะครั้งแรกต่างหาก!” แก้วเถียง

 

 

 

 

            “อย่าเสียงดังนักสิเดียวเขาก็หาว่าเธอบ้าหรอก” โทโมะปิดปากหญิงสาวแล้วเหล่ไปทางคนขับที่แอบเหลือบมองกระจกดูแก้วด้วยความสงสัยเห็นแก้วพล่ามอะไรอยู่คนเดียว หญิงสาวยิ้มแหย่แล้วยกหูฟังเสียบหูอ้างก่อนจะถูกหาว่าเป็นบ้าจริง

 

 

 

 

            “arigatogozaimashita (ขอบคุณค่ะ)” แก้วกล่าวขอบคุณกับพนักงานก่อนเข้าห้องพักสุดหรูในโรงแรมระดับพรี่เมี่ยม หญิงสาวจัดการเก็บกระเป๋าทุกอย่างจนเสร็จแล้วเดินไปสูดอากาศนอกระเบียง

 

 

 

 

            “อื้ม อากาศดีเป็นบ้าเลย” แก้วบิดขี้เกียจ

 

 

 

 

            “นั่นสิ” โทโมะพูด

 

 

 

 

            “จริงสิโทโมะ นายเกิดที่ญี่ปุ่นใช่มั้ย?” แก้วหันมาถามชายหนุ่ม

 

 

 

 

            “ใช่” โทโมะตอบ

 

 

 

 

            “นั้นบ้านเกิดนายก็ต้องอยู่ที่นี้นะสิ นายอยากกะ..” แก้วพูดก่อนจะชะงักเมื่อเห็นสีหน้าชายหนุ่มดูเศร้าลง

 

 

 

 

            “เอ่อ...ฉันขอโทษ” แก้วพูด

 

 

 

 

            “ไม่เป็นไร จริงๆมันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ฉันอยากกลับมาที่นี้” โทโมะพูดให้หญิงสาวสบายใจ

 

 

 

 

            “แต่ฉันไม่น่า อ้ะ!?” แก้วกำลังจะพูดโทษตัวเองแต่แล้วโทโมะก็ดึงร่างเธอมากอด

 

 

 

 

            “ไม่ต้องอะไรทั้งนั้น ฉันหนีความจริงมามากเกินพอแล้วถึงเวลาที่ฉันต้องยอมรับ เธอไม่ต้องพูดขอโทษอะไรฉัน เธอไม่ได้ผิดอะไรนะ แก้ว”โทโมะพูดแล้วกอดแก้วแน่น หญิงสาวหลับตาพริ้มแล้วสวมกอดตอบชายหนุ่มเหมือนกำลังปลอบโยนให้เขาแทนคำพูดมากมายในใจของเธอเอง

 

 

 

 

            “ไปอาบน้ำได้แล้วป่ะ จะได้ลงไปกินข้าว” โทโมะพูดแล้วหอมหน้าผากแก้วแกล้ง หญิงสาวย่นจมูกกลับแล้วยอมไปอาบน้ำแต่โดยดี

 

 

 

 

            “อยู่อย่างนี้ต่อไปก็ดีเหมือนกัน”

 

 

 

 

            “ทำไมไม่รับสายน้า” ป็อปปี้บ่นขณะโทรหาเพื่อนสาวคนสนิทที่หายไปหลายวัน เขาโทรหาเป็นสิบๆสายแต่กลับไม่มีการตอบรับจากปลายสายเลยสักนิด ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะเดินเที่ยวตะร่อน ทัวร์ตลาดกลางคืน เท้าหนักย่างกรายไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมายเหมือนกับหัวใจของเขาที่ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เคยเจอเสียที ทำไมการที่เราจะรักคนคนหนึ่งมันถึงยากเย็นแสนเข็ญได้ขนาดนี้

 

 

 

 

            “ฟาง ทำยังไงเธอถึงจะกลับมารักฉันเหมือนเดิม” ชายหนุ่มทอดมองไปตามทางที่ที่มีแต่คู่รักเดินจับมือกัน พูดคุยกัน ส่งสายตาหวานชื่นกัน เขาเองก็เคยมีแต่มันได้พังลงไปแล้วด้วยมือของเขาเนี่ยแหละ เขาไม่เคยคิดโทษใคร หากจะโทษ ก็ขอโทษหัวใจตัวเองที่มันเข้มแข็งไม่พอ

 

 

 

 

            “นี้หล่อน คิดจะโกงฉันเรอะมายืนงึกงักอะไรอยู่ได้ รีบจ่ายมาเร็วๆ!”เสียงดังโหวกเหวกไม่ไกลจากตัวเขานัก ชายหนุ่มเดินแทรกวงเข้าไปก็พบเห็นว่ามีแม่ค้าปากจัดกำลังด่าลูกค้าสาวคนหนึ่ง

 

 

 

 

            “ใจเย็นนะค่ะ คือฉันมีแน่แต่ขอตัวไปเอากระเป๋าเงินที่รถได้ไหม ฉันไม่เบี้ยวหรอกค่ะ” ฟางพูดขอดีๆหวังว่าแม่ค้าจะยอม

 

 

 

 

            “ไม่เชื่อย่ะ แต่งตัวก็ดีไม่น่าทำตัวเป็นโจร!!” แม้ค้าปากจัดแขวะว่าด้วยความโมโห

 

 

 

 

            “คุณป้าค่ะ ฉันไม่ได้คิดหนีจริงๆฉันสาบานได้” ฟางพยายามพูดกล่อม

 

 

 

 

            “ใครๆก็พูดได้ ไม่รู้ล่ะฉันต้องการเดียวนี้!” แม่ค้ายื่นคำขาด ฟางไม่รู้จะทำยังไงได้แต่อ้ำอึ้งโทษตัวเองที่ดันสะเพร่า

 

 

 

 

            “นี้ฟาง ป็อปบอกแล้วไงเดียวป็อปมาเดี่ยวเดียวน่ะ แล้วนี้คุณป้าคิดจะทำอะไรแฟนผมน่ะ” ป็อปปี้เดินเข้าไปโอบเอวฟางแล้วพูดเง้างอนหญิงสาวก่อนจะมองแม่ค้า

 

 

 

 

            “นี้แกเป็นแฟนนังโจรนี้เรอะ?” แม่ค้าพูดแล้วมองป็อปปี้สลับกับฟางทียิ้มแหย่

 

 

 

 

            “ครับ พอดีผมมาสายเพราะไปเอาของให้แฟนผม” ป็อปปี้พูด

 

 

 

 

            “นั้นก็ดี รีบจ่ายๆมาสักที จะได้จบเรื่อง” แม่ค้าพูดพร้อมกวักมือเร่ง    

 

 

 

 

            “ผมจ่ายแน่แต่คุณป้าต้องขอโทษแฟนผมก่อน เห็นไหมว่าเธอขวัญเสียหมดและถ้าจะปฏิเสธล่ะก็ผมมีพยานที่นี้ทั้งหมด เขาเห็นพฤติกรรมของคุณป้าหมดแล้วว่าเป็นยังไง ด่าแฟนผมเสียๆหายๆผมไม่ยอมหรอก!” ป็อปปี้พูดขู่ทำให้แม่ค้าลุกลนรีบขอโทษฟางเพราะสายตานับร้อยรอบด้านแล้วถึงรับเงินจากเขา ป็อปปี้ยิ้มแล้วพาตัวฟางออกมาท่ามกลางหมู่คนที่รุมล้อมมองแม่ค้าด้วยสายตาเยียดหยาม ร้านของเธอคงจะไม่มีใครอยากเข้าไปอีกนานเพราะแม่ค้าปากจัด

 

 

 

 

            “ป็อปปี้เลิกกอดได้แล้วน่า ไม่มีใครเขาสงสัยแล้ว” ฟางดันแขนใหญ่ออกแต่ป็อปปี้ไม่ยอมจัดการดึงมากอดหลวมๆ

 

 

 

 

            “แฟนกันจะจูงมือโอบเอวหน่อยไม่เห็นจะเป็นอะไรเลยนิ” ป็อปปี้ยิ้มกริ่ม

 

 

 

 

            “แฟนเฟออะไร ไม่ได้เป็นสักหน่อย” ฟางหน้าแดงรีบเถียง

 

 

 

 

            “เหรอ แต่เมื่อกี้เนียนเลยนะ” ป็อปปี้แหย่

 

 

 

 

            “สถานการณ์มันบังคับต่างหาก” ฟางเถียงแต่หน้ายังแดงอยู่ทำให้ป็อปปี้ได้ใจ

 

 

 

 

            “นั่นไหนๆแหละก็เนียนต่อล่ะกัน ป่ะครับที่รักวันนี้อยากกินอะไรป็อปเลี้ยงเต็มที่” ป็อปปี้ยิ้มหวานว่าแถมเปลี่ยนสรรพนามเหมือนที่ตนกับฟางสมัยยังคบกันเรียก

 

 

 

 

            “ขี้ตู่” ฟางพูด

 

 

 

 

            “แล้วยอมไหมล่ะ” ป็อปปี้ยิ้ม ฟางเหลือบนิดหนึ่งแล้วผละเขาออกพร้อมเดินหนี ชายหนุ่มคอตกพลางคิดในใจ ถ้ายอมก็บ้าแล้ว ช่วยนิดช่วยหน่อยไม่ได้แปลว่าเธอต้องอีออด้วย

 

 

 

 

            “อ้าวนิ่งทำไมอ่ะ ฟางหิวแล้วนะ เร็วๆดิ!” ฟางตะโกนเรียกทำให้ป็อปปี้ยิ้มแป้นรีบวิ่งตามฟางไปก่อนจะเนียนจับมือหญิงสาวยาวและฟางเองก็ไม่ได้ขัดซะด้วย ยอมให้จูงมือพาเที่ยว ทั้งสองเดินเล่นพากันหาของกินของชอบโดยส่วนใหญ่ฟางจะลากเขาไปนู่นไปนี้ ชายหนุ่มได้แต่ตามและก็ยิ้มไม่หยุดเพราะมีความสุขเช่นเดียวกับหญิงสาวที่แอบยิ้มตลอดเวลา

 

 

 

 

            “ร้อนๆ” ฟางถือข้าวโพดปิ้งที่พึ่งสุกใหม่ มันร้อนซะจนเกือบจะลวกมือเล็ก

 

 

 

 

            “เอามานี้เดียวป็อปเป่าให้” ป็อปปี้จ่ายตังค์เสร็จก็แย่งมาเป่าลมแทน ฟางอมยิ้มกับชายหนุ่มที่ตั้งใจดูแลเธอเป็นพิเศษ เขาเอาใจใส่เธอไม่ขาด เธอยังดีใจไม่หายที่ตอนนั้นเขามาเพราะถ้าไม่ได้ชายหนุ่มเธอคงอับอายไม่ใช่น้อย

 

 

 

 

            “อ่ะ หายร้อนแหละแต่ระวังหน่อยเดียวลวกปาก” ป็อปปี้ยื่นข้าวโพดปิ้งให้หญิงสาว

 

 

 

 

            “อืม” ฟางรับมาตั้งใจกินและไม่ลืมที่ชายหนุ่มเตือน ป็อปปี้มองฟางที่ดูเหมือนเด็กน้อยก็อมยิ้มตามก่อนจะนั่งกินของตัวเอง

 

 

 

 

            “นี้ป็อปปี้” ฟางพูดขณะถูกป็อปปี้พาเดินเล่น

 

 

 

 

            “ครับ” ชายหนุ่มหันมาสบตาหญิงสาว

 

 

 

 

            “เอ่อ ไม่มีอะไร” ฟางอึกอักเพราะไม่กล้าถามสิงที่เธอค้างคามาตลอดหลายปี

 

 

 

 

            “ฟางมีอะไรอยากถามป็อป พูดมาเถอะถ้ามันทำให้ฟางสบายใจ” ป็อปปี้พูดพร้อมมองด้วยแววตาหนักแน่น ฟางลดคิ้วลงก่อนแล้วส่ายหน้ายิ้ม

 

 

 

 

            “ดึกแล้วกลับบ้านดีกว่านะ เดียวพ่อแม่ฟางจะเป็นห่วง” ป็อปปี้พูด

 

 

 

 

            “ไม่เป็นไร ฟางไม่รีบ ฟางบอกเขาไปแล้วว่าค้างบ้านเพื่อนและอีกอย่างพ่อไม่สนฟางอยู่แล้ว” หญิงสาวซึมลง ป็อปปี้ประคองหน้าหญิงสาวให้ประสานกับดวงตาของเขา

 

 

 

 

            “ไม่มีพ่อคนไหนไม่รักลูกหรอกนะ” ป็อปปี้ยิ้ม

 

 

 

 

            “แต่ไม่ใช่กับพ่อฟาง เชื่อเหอะ เขาสนใจแต่ตัวเองไม่สนใจความรู้สึกฟางเลยสักนิด” ฟางตัดพ้อเรื่องพ่อ

 

 

 

 

            “ฟาง” ชายหนุ่มดึงหญิงสาวมากอดปลอบเพราะเขารู้ดีว่าต่อให้ธนัยจะเป็นต้นเหตุทำให้เขากับฟางแยกกันแต่เหตุผลที่เขาทำส่วนหนึ่งก็เพราะรักลูกของเขาด้วย

 

 

 

 

            “ไม่ว่าเขาจะดีหรือร้ายยังไงเขาก็เป็นพ่อเรานะฟาง ฟางยังดีที่มีพ่อกับแม่คอยดูแล ยังดีที่มีคนที่รักฟางไม่เหมือนกับป็อป” ป็อปปี้พูด ฟางเงยหน้ามองชายหนุ่มที่เศร้าลง เธอยังดีกว่าเขาตรงที่เธอมีพ่อแม่ไม่เหมือนตัวเขาที่ถูกทิ้งไว้ที่วัดตั้งแต่แบเบาะ ไม่รู้หน้าพ่อแม่ไม่รู้ว่าตนทำอะไรผิด

 

 

 

 

            “ป็อปปี้” ฟางทำหน้ารู้สึกผิดเพราะตนเป็นต้นเหตุทำให้ชายหนุ่มเศร้า ป็อปปี้เห็นท่าไม่ดีก็ฝืนๆยิ้มพร้อมทั้งลูบผมฟางเบาๆ

 

 

 

 

            “กลับบ้านกัน เดียวป็อปไปส่งที่รถ” ป็อปปี้เลิกกอดแล้วจูงมือฟางต่อ

 

 

 

 

            “ฟางอยากเดินต่ออีกสักพัก” ฟางส่ายหน้าแล้วอ้อนขอ

 

 

 

 

            “ก็ได้” ป็อปปี้ยิ้ม ยอมแพ้ลูกอ้อนยัยตัวเล็ก แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่อย่างน้อยมันก็อาจทำให้กำแพงทิฐิที่ฟางเคยมีต่อเขาลดลงมาบ้าง

           

 

 

 

 

            “ว้าว!” แก้วตาโตทันทีเมื่อเห็นซูชินับหลากหลายหน้าตรงหน้า

 

 

 

 

            “เอาๆน้ำลายหกแล้วยัยเบอะ ให้กินนะไม่ใช่ให้จ้อง” โทโมะพูด

 

 

 

 

            “อะไรกันเล่า ฉันจะตื่นนิดตื่นหน่อยไม่ได้รึไง เป็นผีนะเงียบปากไปเลย ง่ำ” แก้วว่าจบก็รีบคีบเอาซูชิเข้าปากก่อนจะทำหน้าปลื้มปริด้วยความอร่อยทำให้ชายหนุ่มที่แอบมองถึงกับยิ้มขำออกมา

 

 

 

 

            “อ้ำอะไอ(ขำอะไร)?” แก้วจ้องเขม่นชายหนุ่ม ปากเคี้ยวข้าวเต็มคำ

 

 

 

 

            “ป่าว” โทโมะแกล้งมองไปทางอื่นแทน

 

 

 

 

            “อี้(นี้) ค่อก แค่กๆๆ!” แก้วกำลังจะเรียกเกิดข้าวติดคอกะทันหัน ชายหนุ่มสะดุ้งรีบเอาชาให้หญิงสาวซดตามอย่างเร็วพร้อมหยิบทิชชู่ยื่นตาม

 

 

 

 

            “เวลากินใครให้พูดห่ะ เกือบติดคอตายแล้วไหมล่ะ” โทโมะบ่น

 

 

 

 

            “ก็นายไม่ยอมตอบคำถามฉันอ่ะ” แก้วหน้างอ

 

 

 

 

            “ยัยโง่ดูแค่นี้ไม่ออกรึไง” โทโมะว่ากลับ

 

 

 

 

            “แล้วทำไมนายต้องด่าฉันด้วย!” แก้วรีบสวน

 

 

 

 

            “อ้ะๆๆ ฉันขอโทษ ฉันก็แค่อยากจ้องหน้าเธอจบนะ” โทโมะรีบตัดบทก่อนจะโดนแก้วโกรธแต่เพราะคำพูดนั้นทำเอาหญิงสาวหน้าแดงขึ้นมา

 

 

 

 

            “หน้าฉันมันมีอะไรให้น่าดูด้วยรึไง” แก้วพูดเบาๆพร้อมหยิบซูชิอันใหม่ปิดปากแก้เขิน

 

 

 

 

            “ก็น่ารักไง” โทโมะกระซิบใกล้หน้าหญิงสาว

 

 

 

 

            “บ้า” แก้วสะบัดหน้าหนี ชายหนุ่มยิ้มแล้วชิงหอมแก้มเธอฟอดหนึ่ง

 

 

 

 

            “โว้ย! ไอ้ผีดิบทำบ้าไรเนี่ย” แก้วหันมาทำตาเขียวใส่

 

 

 

 

            “ก็เธออยากหันแก้มให้ฉันเอง ฉันไม่ผิดนะ” โทโมะพูดแล้วเอนเก้าอี้ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แก้วจะลุกไปเอาเรื่องก็ไม่ได้เพราะอยู่กลางร้านอาหารซะด้วยจึงทำเพียงฮึดฮัดในใจเก็บครบดอกเมื่อไหร่เจอจอดเดียวจบ

 

 

 

 

            “แก้ว” โทโมะเรียกหญิงสาวที่เอาแต่นั่งอ่านหนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่นอยู่บนเตียง

 

 

 

 

            “อะไร?” แก้วพูดขณะตาจ้องตัวอักษร

 

 

 

 

            “พรุ่งนี้อยากไปไหน” โทโมะถาม

 

 

 

 

            “ไม่รู้ กำลังคิดอยู่” แก้วตอบ

 

 

 

 

            “แล้วเธออยากไปไหนเล่า” โทโมะถามซ้ำ เพราะยังไงหญิงสาวก็น่าจะอยากมีที่ๆอยากไปบ้างแหละ

 

 

 

            “ก็บอกว่าคิดอยู่” แก้วตอบส่งๆไป

 

 

 

 

            “งอนอีกแล้วใช่มั้ย?” โทโมะพูดพร้อมอุ้มหญิงสาวมานั่งตักตัวเอง

 

 

 

 

            “ปล่อย!” แก้วสั่ง

 

 

 

 

            “ไม่ บอกมาก่อนว่างอนฉันใช่มั้ย” โทโมะจ้องกลับ

 

 

 

 

            “ใช่ งอน งอนมากด้วย” หญิงสาวยอมรับ

 

 

 

 

            “หายนะ” โทโมะส่งสายตาออดอ้อน

 

 

 

 

 

            “นี้งอนนะ คิดว่าแค่บอกคำสองคำจะหายเรอะ” แก้วกอดอกว่า

 

 

 

 

            “ก็ง้อแล้วนี้ไง หายนะแก้วถ้าไม่หายเจอหอมอีกรอบ” โทโมะนิ่วหน้าพูด         

 

 

 

 

            “ชิ” แก้วจิ๊ปากเมินแต่จริงๆหายงอนตั้งแต่เขามาอ้อนแล้ว

 

 

 

 

            “หึ งั้นหอม” โทโมะรีบดึงแก้วมาแนบตัวแล้วจะยื่นหน้าไปฟัดแก้มขาวนวล

 

 

 

 

            “เห้ยๆๆ หยุดๆๆ ฉันยอมก็ได้ แต่ถ้ามีรอบหน้าเจอดีแน่ไอ้ผีหื่น” แก้วรีบว่าดัก ชายหนุ่มยิ้มตาหยี่พอใจ

 

 

 

 

            “ดีมากค่อยคุยกันง่ายหน่อย อย่างนี้มันต้องให้รางวัล” โทโมะรีบดันร่างหญิงสาวลงเตียงพร้อมขึ้นคร่อม แก้วเอ๋อรับประทานด้วยความตกใจบวกมึนรู้ตัวอีกทีก็ถูกชายหนุ่มล็อคแขนเสียแล้ว

 

 

 

 

            “อ้ายยย ไอ้ผีหื่นปล่อยช้านน อุ๊บ!” ไม่ทันร่ำไรโดนปิดปากตามเคย

 

 

 

 

__________________________________________________________

 

 

 

 

 

            พีสมาอัพให้อีกตอนแล้วเน้อเดียวหาว่าเราหาย จัดให้ฟินๆกันไป โดยเฉพาะป็อปฟางไม่ต้องห่วงจัดฉากหวานๆมาให้แล้วเน้อ โมะเราเริ่มหื่นขึ้นทุกวัน แก้วไม่น่ารอด 5555 ไม่เม้นไม่อัพเหมือนเดิมนะ จัดไป

 

 

 

 

 

LOVETK PF KF!!!!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา