Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

8.4

เขียนโดย blackKZ

วันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.55 น.

  20 chapter
  215 วิจารณ์
  26.99K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 12.44 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

6) ตอนที่ 5 ฉันขอโทษ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

CHAPTER 5: Dejavu S ถ้าไม่รักอย่ามาทำให้หลง

 

ตอนที่ 5 ฉันขอโทษ

 

 

 

          “คุณพยาบาทเสร็จรึยังค่ะ ฉันรีบ” หลังแก้วพาโทโมะมาส่งห้องฉุกเฉิน เธอก็ถูกพยาบาทสาวลากตัวมาทำแผลอีกห้องเพราะแก้วเองก็ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน หญิงสาวร้อนใจห่วงชายหนุ่มที่อาการโคม่า

 

 

 

 

            “ใจเย็นๆค่ะ คุณจริญญา ดิฉันรู้ว่าคุณเป็นห่วง แต่คุณก็ควรห่วงตัวเองก่อนนะคะ” พยาบาทสาวพยายามปลอบให้แก้วเย็นลง ระหว่างติดผ้าก็อซปิดแผลบนหน้าผากหญิงสาว

 

 

 

 

            “ฉันไม่เป็นไร แค่หัวโนนิดหน่อยเองให้ฉันไปเถอะ” แก้วขอร้องพยาบาทสาว ตามองทางทางออกห้องสลับกับพยาบาทสาว

 

 

 

 

            “บวมแดงขนาดนี้ ไม่นิดหน่อยแล้วค่ะ! รอตรวจก่อนดีกว่าค่ะ เพื่อความสบายใจ” พยาบาทสาวว่ารั้งแก้วแล้วเดินไปเก็บอุปกรณ์ทำแผล

 

 

 

 

            “เอ่อ ฉันรีบจริงๆค่ะ ฉันอยากรู้อาการเพื่อนฉัน ขอตัว” แก้วได้โอกาสรีบชิงหนีทันทีไม่รอตามที่บอก

 

 

 

 

            “คุณจริญญา เดียวคะ!” พยาบาทสาวเผลอเสี้ยววิพยายามเรียกแก้ว แต่ไม่ทันเพราะแก้ววิ่งไปไกลแล้ว

           

 

 

 

 

            “ทำไมตามันพร่าๆ อืมม” แก้วเดินขยี้ตาอยู่หลังหนีมาได้ เธอตรงดิ่งมาห้องฉุกเฉินด้วยความร้อนใจ

 

 

 

 

            เขามันตัวจริงแล้วฉันมันตัวอะไร ฉันนะเป็นใครแล้วเธอนะเป็นใคร......ติ้ด

 

 

 

 

            “ฮัลโหล แจม” แก้วกดรับพูด

 

 

 

 

            “นี้เนยค่ะพี่แก้ว พี่อยู่ไหนอ่ะ!? พวกเรารอนานจนรากจะงอกอยู่แล้วนะ” ในสายไม่ใช่แจมแต่เป็นเนย เนยถามพี่สาวน้ำเสียงงัวเงียพึ่งตื่น

 

 

 

 

            “โทษทีๆ ลืมพวกแกเสียสนิท ตอนนี้พี่อยู่โรงพยาบาท” แก้วนึกได้รีบขอโทษเธอลืมไปเลยว่าต้องไปรับสองสาวมัวแต่ยุ่งเรื่องชายหนุ่ม

 

 

 

 

            “ห่ะ! โรงพยาบาท ทำไมพี่แก้วไปอยู่..พี่แก้ว! พี่เป็นอะไรมากรึป่าว เจ็บตรงไหนไหม!?” เนยอุทานดังอัดสายจนแก้วต้องยกโทรศัพท์ออกห่าง ก่อนที่แจมจะขโมยโทรศัพท์จากเนยมาพูดอัดอีกคนด้วยความตกใจไม่ต่างกัน

 

 

 

 

            “เดียวๆ เนยหรือแจมเนี่ย พี่ไม่เป็นไร แต่คนที่เป็นนะอยู่ห้องฉุกเฉินอยู่เลย พี่ดันไปขับรถชนเขาเข้า” แก้วพูดพลางกุมแผลตัวเองเบาๆ

 

 

 

 

            “รถชน!! แล้วฝ่ายนู่นเขาเอาเรื่องไหมอ่ะพี่แก้ว?” แจมถาม

 

 

 

 

            “พี่ไม่รู้ กำลังพยายามติดต่อญาติฝ่ายนั้นอยู่” แก้วตอบ ในหัวคิดถึงตอนมาส่งชายหนุ่มเข้าห้องฉุกเฉินตัวเองได้ค้นโทรศัพท์ของเขาเพื่อติดต่อญาติๆแต่น่าแปลกที่เขาไม่มีอะไรติดตัวเลย เธอจึงต้องติดต่อพี่ชาลีเพื่อขอเบอร์ผู้จัดการส่วนตัวโทโมะแทนแต่นี้ดึกมากแล้วจึงไม่มีใครรับสาย

 

 

 

 

            “นั้น พี่รออยู่นั่น เดียวเราสองคนจะไปหานะ!” แจมเสนอบอก

 

 

 

 

            “อือ เฮ้อ” แก้วรับคำก่อนจะถอนหายใจอ่อนล้าเต็มทน เธอเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น หากตอนนั้นมองทางดีๆหรือหาพวกเขื่อนให้เจอตั้งแต่แรกก็คงไม่มีเรื่องเศร้าแบบนี้ แก้วมาหยุดอยู่หน้าประตูฉุกเฉิน เธอมองลอดผ่านช่องกระจกฝาด้วยแววตาเศร้าสร้อยกังวลใจ กระสับกระส่ายตลอดเวลา

 

 

 

 

            “แก้ว...” โทโมะที่เดินหายไปมาทั่วโรงพยาบาลด้วยความไม่รู้จะไปไหน ในเมื่อตอนนี้เขากลายเป็นเหมือนวิญญาณเร่ร่อนไร้ที่ สุดท้ายเขาก็มาจบหน้าห้องฉุกเฉินเดิมก่อนที่จะเห็นแก้วที่ยืนหันหลังเกาะประตูอยู่ แก้วได้ยินเสียงเรียกแม้แผ่วเบาเธอหันหลังไปเจอกับโทโมะที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากตัวเองเท่าไร

 

 

 

 

            “โทโมะ!!! นายเป็นยังไงบ้าง ฉันขอโทษ ฉันขอโทษจริงๆที่ขับชนนาย ฉันไม่ได้ตั้งใจ ถึงฉันจะเกลียดขี้หน้านายยังไง ฉันก็ไม่เคยคิดอยากฆ่านายเลยสักครั้งเดียว ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ” แก้วรีบพร่ำขอโทษสารพัดพร้อมทั้งเข้าไปยืนใกล้เขาเพื่อสำรวจไล่ดูบาดแผล อยากจะจับต้องแต่กลัวเขาเจ็บ

 

 

 

 

            “.......” โทโมะยืนนิ่งพร้อมทั้งนิ่วหน้า มองตาปริ่มๆ

 

 

 

 

            “โทโมะ ทำไมเงียบไปล่ะ หรือนายยังโกรธฉันอยู่ นายจะให้ฉันทำอะไรก็ได้ ฉันยินดีถ้ามันทำให้ฉันสามารถชดใช้ความผิดนี้ได้” แก้วพูดอ้อนวอน เธอไม่ชอบที่เขานิ่งแบบนี้ทั้งที่ปกติมักจะว่าร้ายใส่เธอ

 

 

 

 

            “.......” โทโมะยังคงนิ่ง

 

 

 

 

            “โทโมะ” แก้วพูดเสียงอ่อน

 

 

 

 

            “ขอทางหน่อยครับ!!” ขณะแก้วกำลังคุยกับโทโมะมีบุรุษพยาบาลคนหนึ่งเข็นรถเข็นมาตะโกนขอให้หญิงสาวหลีกทางเพราะแก้วยืนขวางทางเขาอยู่ แก้วจึงหลบแล้วมองตามบุรุษพยาบาทก่อนจะครุ่นคิด

 

 

 

 

            “จะว่าไปทำไม นายถึงไม่มีแผลเลย? ระ หรือว่าที่อยู่ตรงนี้คือ..” แก้วจ้องโทโมะที่ยืนแข็งทื่อ เขาอยู่ในชุดเสื้อขาวปิดคอแขนยาว กับกางเกงขายาวสะอาด เอะใจลืมคิดเสียสนิทว่าเขาถูกรถชนไม่น่าเดินไปไหนมาไหนได้ ถ้าที่อยู่ในห้องคือโทโมะแล้วที่ยืนอยู่หน้าเธอตรงนี้คืออะไร

 

 

 

 

            “เฮ้ย!” โทโมะอุทาน เพราะอยู่ดีๆแก้วที่ยืนอ้าปากค้างตาโตจ้องเขาอยู่ก็หงายเงิบสลบเหมือดลงไปทันที ชายหนุ่มได้แต่เหว่อรับประทานมองซ้ายมองขวาอย่างมึนงง

 

 

 

 

 

            “งืม อ้ะ! นี้เราเผลอหลับไปเรอะ” ฟางเผลอหลับหลังจากตั้งหน้าตั้งตารอสายจากแฟนหนุ่มจนเช้า เธอมองแสงแดดอ่อนที่ลอดตามช่องม่าน

 

 

 

 

            “ทำไม พี่โมะถึงไม่โทรกลับเลยล่ะ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่านะ” ฟางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหวังว่าแฟนหนุ่มจะโทรมา แต่กลับไม่มีสายมิสคอลเลยสักสาย ฟางแอบหน้าเสียเล็กๆ มองโลกในแง่ดีแฟนหนุ่มคงงอนเธออยู่ถึงไม่โทรกลับไม่น่ามีอะไร

 

 

 

 

            “อรุณสวัสดิ์คะ ป้ามะลิ” ฟางลงมาเจอป้ามะลิแม่บ้านเก่าแก่ทั้งยังเป็นแม่นมของเธอด้วยยืนอยู่ข้างโทรศัพท์บ้านทำหน้าดำคร่ำเครียด

 

 

 

 

            “เอ่อ คุณหนูฟาง...” มะลิอ้ำอึ้ง

 

 

 

 

            “มีอะไรหรือคะ?” ฟางถาม

 

 

 

 

            “ทำใจดีๆไว้นะคะคุณหนู คุณโทโมะ.. คุณโทโมะเขาประสบอุบัติเหตุถูกรถชน เสียแล้วคะ”  มะลิพูดกล่าวให้ฟางฟัง หลังจากทราบข่าวร้ายจากผู้จัดการส่วนตัวโทโมะที่โทรบอกเรื่องการตายของชายหนุ่ม

 

 

 

 

            “พี่โมะ” ฟางได้ยินคำบอกเล่าจากป้ามะลิก็ทรุดนั่งกับพื้น น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้

 

 

 

 

            “คุณหนูฟาง!” มะลิเข้ามาโอบกอดฟางที่ร้องไห้ออกมา

 

 

 

 

            “ฮือๆ พี่โมะ ฮึ่กฮือๆ”  ฟางกอดป้ามะลิอย่างต้องการที่พักผิง เธอรับไม่ได้กับการตายของคนที่เธอรักที่สุด

 

 

 

 

            “โธ่ คุณหนูของป้า” มะลิลูบหัวฟางปลอบ สงสารคุณหนูตัวเองจับจิต

 

 

 

 

            “พี่โมะ ฟางขอโทษ ฟางขอโทษ พี่อย่าทิ้งฟางไป ฮือๆๆ” ฟางพูดอาลัยอาวรณ์โทโมะ น้ำตาไหลพรากไม่ขาดสายโทษตัวเองคิดว่าเพราะตนเป็นสาเหตุทำให้แฟนหนุ่มตาย

           

 

 

 

 

            “ที่นี้มัน..” แก้วฟื้นหลังจากที่เธอโดนผีหลอกสลบอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน แก้วกวาดสายตาไปทั่วห้องก็พบว่าที่นี้คือห้องนอนเธอเอง

 

 

 

 

            “แจม แจม! พี่แก้วฟื้นแล้ว พี่แก้ว” เนยนั่งอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆได้ยินเสียงงึมงำของพี่สาวก็รีบเรียกแจมก่อนจะเข้าไปดูแก้ว

 

 

 

 

            “พี่แก้ว! พี่เป็นยังไงบ้าง!?” แจมวิ่งแจ้ดหน้าตาตื่นกระโดดขึ้นเตียงแก้ว ถามด้วยความเป็นห่วง

 

 

 

 

            “เนย แจม ทำไมพี่ถึงมาอยู่นี้ได้ล่ะ?” แก้วพูดพร้อมยันตัวเองพิงหมอน

 

 

 

 

            “เนยมากกว่าที่ต้องถาม ทำไมพี่แก้วถึงสลบอยู่หน้าห้องฉุกเฉินได้!?” เนยสวนถามกลับ

 

 

 

 

            “นั้นสิ ดีนะที่พวกเราไปเจอเข้าพอดี เนี่ยแอบทำอะไรเกินตัวอีกล่ะสิ หัวปูดขนาดนี้แทนที่จะดูแลตัวเอง!” แจมว่าเสริมต่อพลางแตะผ้าก็อซบนหน้าผากแก้วเบามือ

 

 

 

 

            “คุณหมอให้ยาแก้ปวดมา อ้อ! ช่วงนี้พักผ่อนมากๆ อย่าใช้สายตาเยอะ หมอเขากำชับมา” เนยพูดพร้อมหยิบยาให้แก้วกินตามด้วยน้ำเปล่า

 

 

 

 

            “แล้วก็คู่กรณีพี่เขาเสียชีวิตแล้วเมื่อคืนนี้ แต่ฝ่ายนู่นเขาไม่เอาเรื่องเรานะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน” เนยพูด แก้วสะอึกก่อนจะปรับสีหน้านิ่ง

 

 

 

 

            “เดียวแจมกับเนยจะออกไปซื้อของมาทำกับข้าว พี่พักผ่อนมากๆนะ” แจมพูดก่อนจะลุกเตรียมตัวออกพร้อมทั้งกวักเรียกเนยให้ตามกันไปจนในบ้านเหลือแต่แก้วคนเดียว

 

 

 

 

            “โทโมะ นายตายแล้วจริงๆเรอะ แล้วตอนนั้นมันอะไรกันหรือเราหลอนไปเอง เฮ้อ สงสัยจะนอนน้อยไปจริงๆ ผีมีตัวตนซะที่ไหน” แก้วก้มหน้าพึมพำกับตัวเอง บางทีวิญญาณชายหนุ่มคงอยากจะฆ่าเธอไม่ใช่น้อยถึงมาปรากกฎกายให้เธอเห็นตอนนั้นถึงอาจเพราะเธอหลอนไปเองก็ตามแต่ก็แอบสงสัยไม่ได้

 

 

 

 

            “ยัยทอม” เสียงกระซิบปลุกแก้วจากความคิด

 

 

 

 

            “หืม?” หญิงสาวหันไปตามเสียงเรียกแล้วตาโตเมื่อเห็นใบหน้าเจ้าของเสียงเรียก

 

 

 

 

            กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!   โครมมมมม!! ตุ๊บบ!

 

 

 

 

            “โอย เจ็บๆๆๆ อ้าวหายไปไหนแล้ว!? หลอนไปเองอีกแล้วเหรอเนี่ย สงสัยสมองจะกระทบกระเทือนด้วยสินะเรา” แก้วกรี้ดลั่นก่อนจะตกเตียงดังโครม เธอรีบผุดขึ้นกราดสายตาไปทั่วห้องแต่กลับไม่พบสิ่งที่เธอหวาดผวา พลางคิดคงจะตาฟาดไปเอง

 

 

 

 

            “นี่เธอมองเห็นฉันด้วยเหรอ?” โทโมะเอาหน้าเข้ามาใกล้แก้วแล้วพูด

 

 

 

 

            “เอ๋ะ” แก้วชะงักแล้วหันไปช้าๆก่อนอุทานออกมา

 

 

 

 

            กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!! (รอบสอง)

 

 

 

 

            “ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฮือๆ” แก้วกรี้ดอีกครั้งพร้อมทั้งวิ่งไปหลบหลังโซฟาตัวโปรดก่อนจะพูดรัวร้องไห้ด้วยความกลัว

 

 

 

 

            “ยัยทอม! จะกรี้ดดังทำไม แสบแก้วหูเป็นบ้า” โทโมะเอามือปิดหู เขาไม่คิดว่าแก้วจะกรี้ดลั่นบ้านขนาดนี้

 

 

 

 

            “ฮือๆ ขอร้องอย่าเอาฉันไปเลย ฉันกลัวแล้ว” แก้วไหว้วอนหลบหลังโซฟาไม่ยอมมองชายหนุ่มแม้แต่น้อย

 

 

 

 

            “เธอ” โทโมะจะเดินเข้าไปใกล้แต่แก้วยกมือห้าม

 

 

 

 

            “อย่าเข้ามา! อยู่ตรงนั้นแหละ ฮือๆ” แก้วพูดเสียงสั่นกลัว

 

 

 

 

            “นี่! ยัยทอม ฉันถามเธออยู่นะ ว่ามองเห็นฉันด้วยเรอะ” โทโมะยืนกอดอกอยู่กับที่ ก่อนจะย้ำคำถามเดิมน้ำเสียงแข็ง

 

 

 

 

            “ไม่ๆ ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ฮือๆ” แก้วตอบส่งๆไปพร้อมทั้งหลับตาปี่

 

 

 

 

            “ตั้งสติหน่อยสิ! ถ้าเธอยังไม่หยุดร้องฉันจะบีบคอเธอซะเดียวนี้เลย” โทโมะเห็นแก้วไม่ได้สติจึงขู่หญิงสาว และมันก็ได้ผลแก้วปิดปากเงียบแต่ยังกระซิกๆ

 

 

 

 

            “ก็แค่นั้น ทีนี้ก็ตอบฉันมา” โทโมะพูดเสียงเรียบ

 

 

 

 

            “ไม่รู้ ฉันไม่รู้ นายอย่าแค้นฉันเลยนะ เดียวฉันทำบุญไปให้ ช่วยออกไปทีเหอะ” แก้วพูดทั้งที่ยังหลบหลังเบาะโผล่มาแค่ครึ่งหน้า เธอคิดว่าชายหนุ่มคงแค้นอยากจะฆ่าเธอถึงได้ตามเธอมา

 

 

 

 

            “ไม่ อยู่กับเธอดีกว่า ฉันเหงา” โทโมะนึกสนุกจึงหยอกแกล้งแก้ว

 

 

 

 

            “เป็นผีก็อยู่ส่วนผีไปเซ่! จะมายุ่งกับฉันทำไม ฮือๆ” แก้วพูดเสียงสะอื้นด่าว่าใส่ชายหนุ่ม

 

 

 

 

            “นี่เธอพึ่งบอกฉันไปหยกๆว่าเธอเป็นคนฆ่าฉัน เธอต้องรับผิดชอบ!” โทโมะพูด

 

 

 

 

            “จะให้ฉันทำอะไรก็ได้แต่ขออย่างเดียวอย่าเข้าใกล้ฉัน ฉันไม่ถูกกับผี!!” แก้วตะโกน

 

 

 

 

            “ผีอะไรหล่อขนาดนี้” โทโมะว่า

 

 

 

 

            “ไอ้ผีขี้เก็ก!” แก้วหมั่นไส้จึงตะคอกกลับจนลืมที่ว่าอยู่นะ ผีนะผี

 

 

 

 

            “อยากโดนเรอะ!” โทโมะทำท่าเหมือนเอาเรื่อง

 

 

 

 

            “อย่าแม้แต่จะคิด ไม่นั้นฉันจะบ่นเจ้าที่ไม่ให้นายเข้ามาที่เหยียบที่นี้เลยคอยดู” แก้วชี้หน้าขู่กลับ

 

 

 

 

            “หึ ก็ลองดูฉันจะตามรังควานเธอทุกฝีเก้าจนไม่กล้าออกบ้านเลยเป็นไง” โทโมะโต้ตอบพร้อมแสยะยิ้ม

 

 

 

 

            “หยุดความคิดบ้าๆนั่นเลย อยากจะอยู่ก็อยู่ไป แต่ขอสั่งห้ามอย่าเข้ามาใกล้ฉันเด็ดขาด!” แก้วพูดพร้อมชี้ขาดสั่งห้ามโทโมะเข้าใกล้ตัวเอง เพราะแค่นี้เธอก็แทบจะหัวใจวายตายอยู่แล้วขืนมากกว่านี้คงช็อคตายทันควัน

 

 

 

 

            “แบบนี้เหรอ” โทโมะแวบมาอยู่ข้างๆ แก้ว

 

 

 

 

            กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! (รอบสาม)

 

 

 

 

            “เฮ้ย! ลักษณะจะกลัวจริงแฮะ เอ่อ แล้วเอาไงดีว่ะ? ยัยทอมฟื้นขึ้นมาก่อน เฮ้ๆ” แก้วช็อคสลบเรียบร้อย โทโมะเงิบไม่คิดว่าเธอจะกลัวเข้าขั้น พยายามปลุกหญิงสาวแต่ดูท่าคงไม่ตื่นง่ายๆ  โทโมะจึงยืนจ้องหน้าแก้วยิ้มขำเบาๆ เห็นห้าวๆไม่นึกว่าจะกลัวผี

           

 

_____________________________________________________

 

 

            นั่นไงแก้วเรากรี้ดหลายรอบเบย สงสัยจะกลัวผีเอามาก ฟางน่าสงสารจริงรู้ว่าแฟนหนุ่มตายเท่านั้นแหละ เฮ้อ เอาล่ะตอนต่อไปจะเป็นยังไงล่ะทีนี้ รอติดตามชมนะ คอมเม้นด้วยยยย ไม่งั้นไม่อัพจริงนะบอกตรง เม้นนนนนนนนนนน

 

 

LOVETK PF KF!!!!

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา