เพลิงแห่งรัก

9.5

เขียนโดย Chapond

วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.10 น.

  52 ตอน
  435 วิจารณ์
  95.28K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.30 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

48) 48 ไม่ยอมแพ้

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“หวาย ฟาง เอารถออกเร็ว”ป๊อปปี้ตกใจเมื่อเห็นหวายถูกสาดน้ำกรดตรงหน้าแล้วรีบให้ฟางไปเอา

รถออก ก่อนเขาจะรีบอุ้มหวายแทนลูกเพื่อพาหวายและเอี๊ยงไปส่งที่โรงพยาบาล

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน แล้ใครเป็นคนทำแม่”เฟย์รีบวิ่งมาหาฟางที่นั่งเฝ้าหวายอยู่ที่ห้องพักด้วย

ความร้อนรนพร้อมกับเขื่อน

 

 

 

 

 

 

 

“พี่ก็ไม่รู้ ฮึกฮือๆ ทำไมต้องทำร้ายแม่แบบนี้ด้วย”ฟางร้องไห้อย่างเสียขวัญ เพราะใบหน้าของ

หวายเองนั้นถูกน้ำกรดสาดอย่างจังทำให้บาดแผลบนใบหน้าลึกมากเกินกว่าที่จะศัลยกรรมกลับมา

เหมือนเดิมได้

 

 

 

 

 

 

 

“ไม่เป็นไรนะฟาง ตอนนี้แม่ฟางอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ส่วนคนร้ายพวกนั้น เดี๋ยวเอี๊ยงแจ้งไปทาง

เจ้าของหมู่บ้านแล้ว เค้าจะให้ทาง รปภ ส่งภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าหมู่บ้านมาให้ เราต้องตาม

ตัวพวกคนร้ายพวกนั้นมาลงโทษได้แน่ๆ”เอี๊ยงที่ใส่ผ้ากอชพันแผลเดินมาปลอบฟางแล้วพูดให้

กำลังใจ

 

 

 

 

 

 

 

“ฮึก ขอบคุณนะเอี๊ยง สำหรับทุกอย่างถ้าไม่มีเอี๊ยงฟางต้องแย่กว่านี้แน่ๆ”ฟางร้องไห้โผกอดเอี๊ยง

แน่นอย่างหาที่พึ่งต่อหน้าป๊อปปี้และทุกคน ชายหนุ่มซึมลงไปเมื่อเห็นภาพนั้นที่ฟางสนใจคนอื่น

มากกว่าตน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เดี๋ยวชั้นกับเขื่อนขอตัวไปเยี่ยมแก้วที่โรงพยาบาลก่อนนะ ส่วนเธออยู่ที่นี่กับเฟย์

และลูก เพราะชั้นรู้ว่าเธอไม่อยากเจอโทโมะสักเท่าไหร่”ป๊อปปี้มองไปทางอื่นแล้วพูดก่อนที่จะเดิน

ไปขึ้นลิฟท์กับเขื่อนทันทีเมื่อเห็นว่าฟางไม่สนใจที่จะฟังเขาบอกอะไรเลย

 

 

 

 

 

 

“ไม่ใจร้ายไปหน่อยหรอฟาง นั่นคุณป๊อปเชียวนะ”เอี๊ยงมองฟางที่ไม่สนใจป๊อปปี้เลยพูดขึ้น

 

 

 

 

 

 

“ก็คุณป๊อปนั่นล่ะฟางเลยทำ ฟางรู้ถ้าสลับกันเป็นเอี๊ยงเจอฟ้า เอี๊ยงก็ต้องทำเรื่องแบบฟาง”ฟางพูด

 

 

 

 

 

 

 

“หรืออาจจะให้อภัยก็ได้”เอี๊ยงพูดแล้วยิ้มนิดนึง

 

 

 

 

 

 

 

 

“ขอบคุณสำหรับดอกไม้นะคะคุณสมิธ ดอกไม้สวยมากเลย”แก้วยิ้มขณะนั่งรถเข็นออกมาเดินเล่น

กับสมิธแล้วยิ้มเมื่อได้รับช่อดอกไม้จากสมิธ

 

 

 

 

 

 

 

 

“อย่าเรียกคุณสิแก้ว เมื่อก่อนแก้วชอบเรียกพี่ว่าพี่สมิธนะ เรียกคุณมันห่างเหินสำหรับคนที่กำลังจะ

แต่งงานกันนะ”สมิธเดินอ้อมมานั่งคุกเข่าตรงหน้าแก้วแล้วพูดก่อนจะบรรงจูบแก้วอย่างอ่อนโยน

อย่างที่เคยทำ

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอ่อ ขอโทษค่ะ แก้วพึ่งฟื้นความจำแก้วอาจจะยังไม่ชิน”ฟางรับรสจูบนั้นต้องชะงักเมื่อรู้สึกว่ามัน

ไม่ใช่ก็พูดขึ้น ก่อนที่สมิธจะประคองแก้วกลับขึ้นมาบนเตียง

 

 

 

 

 

 

 

“พวกเรามาเยี่ยมนะแก้ว”เขื่อนและป๊อปปี้เดินเข้ามาหาแก้วที่ห้องแล้วยิ้ม

 

 

 

 

 

“พวกคุณคือใครคะ”แก้วนิ่วหน้าสงสัยก่อนจะรีบถาม

 

 

 

 

 

 

“พี่คือพี่เขื่อนรุ่นพี่ของแก้ว ส่วนนี่ก็พี่ป๊อปปี้ รุ่นพี่ของแก้วที่โตด้วยกันมาไง พวกแก้วเล่นด้วยกันมา

ตั้งแต่เล็ก ทั้งแก้ว พี่ป๊อปแล้วก็โทโมะ”เขื่อนเล่าทุกอย่างให้ฟังก่อนจะรีบปิดปากเมื่อนึกได้ว่าหลุด

ปากพูดถึงชื่อของโทโมะออกมา

 

 

 

 

 

 

 

“โทโมะ ใครกันหรอคะ”แก้วนิ่วหน้าก่อนจะถามในใจรูปสึกหวิวๆแปลกๆเหลือเกิน

 

 

 

 

 

 

 

 

“หลานของพี่เลย เอ่อ พอดีว่าพี่อายุไล่เลี่ยไม่ห่างจากพวกเรา โทโมะกับแก้วเราเรียกพวกเราว่าพี่

แทนจะเรียกอาน่ะ”ป๊อปปี้ตอบแทน

 

 

 

 

 

 

“แล้วโทโมะอยู่ไหนหรอคะ ทำไมไม่มาหาแก้วเลย”แก้วถามต่อทำให้ทุกคนอึกอักไม่กล้าบอกแก้ว

 

 

 

 

 

 

“อย่าพึ่งถามถึงคนอื่นเลยแก้ว แก้วพึ่งฟื้นตัวนะ ยิ่งคิดมากก็จะยิ่งปวดหัวเดี๋ยวก็ไม่หายหรอก เดี๋ยว

พี่จะให้แก้วพักผ่อนก่อนนะ แล้วพี่กับคุณป๊อปคุณเขื่อนจะแวบไปดูพวกของคุณเอี๊ยงอีกทาง แล้ว

จะกลับมาหานะคะคนดี”สมิธพูดแล้วดันแก้วลงนอนที่เตียงก่อนที่จูบลงที่หน้าผากแก้วอย่างแผ่ว

เบา

 

 

 

 

 

 

 

“โทโมะ งั้นหรอ ทำไมเราถึงปวดหัวนะ”เมื่อทุกคนออกจากห้องไปแก้วก็นิ่วหน้าคิดถึงชื่อโทโมะ

แต่เมื่อยิ่งคิดถึงชื่อนี้เธอก็ยิ่งปวดหัวใจและปวดหนึบที่หัวเหลือเกินคล้ายหัวจะระเบิดแก้วจึงล้มตัว

แล้วหลับตานอนทันที

 

 

 

 

 

 

 

แอ้ด

 

 

 

 

 

เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆออกไปจากห้องแล้วโทโมะค่อยๆย่องเข้ามาในห้องแล้วมองแก้วที่กำลังหลับ

เศร้าๆ ภาพที่เขาแอบเห็นสมิธและแก้วจูบกันนั้นทำให้เขาไม่พอใจมาก แต่ทำไงได้ เพราะเขา

เป็นต้นเหตุที่ทำให้แก้วต้องเจ็บปวด ทั้งๆที่แก้วดีกับเขามาตลอดแต่เขากลับทำร้ายเธอ สมควร

แล้วที่แก้วะลืมเขาออกไปจากใจสักที

 

 

 

 

 

 

 

 

“ขอโทษนะแก้ว ที่เคยเป็นคนไม่ดีดูแลแก้วไม่ได้”โทโมะเอื้อมมือลูบผมแก้วอย่างแผ่วเบาพร้อม

กับขอโทษแก้วออกมาจากใจ

 

 

 

 

 

 

“พี่สมิธมาแล้วหรอคะ อ๊ะ คุณ”แก้วรู้สึกถึงมือที่ลูบผมก็รีบพลิกตัวเองหันกลับมาด้วยความเข้าใจว่า

เป็นแฟนหนุ่มก็ตกใจเมื่อเห็นชายคนอื่นในห้องนี้

 

 

 

 

 

 

“ทำหน้าแบบนี้แสดงว่าแก้วลืมเราออกไปหมดแล้วสินะ ดีแล้วล่ะ อย่าจำคนเลวๆอย่างเราเลย”โท

โมะสบตาที่มีแต่ความว่างเปล่าของแก้วก็พูดขึ้นเศร้าๆ

 

 

 

 

 

 

 

“คุณคือโทโมะงั้นหรอคะ”แก้วชี้ที่โทโมะแล้วพูดก่อนที่ภาพต่างๆที่เธอถูกโทโมะทำร้ายให้เสียใจ

ฉายสับไปสับมาในหัวจนแก้วต้องร้องและเอามือกุมหัวไว้

 

 

 

 

 

“แก้วเป็นอะไรน่ะแก้ว”โทโมะตกใจกับอาหารของแก้วก็รีบประคองกอดแน่น

 

 

 

 

 

“ทำไมชั้นถึงปวดหัวแบบนี้เมื่อคิดถึงคุณ ทำไมชั้นถึงรู้สึกเจ็บปวด”แก้วปรือตามองคนที่โอบกอด

เธอแล้วตั้งคำถาม

 

 

 

 

 

 

“เพราะชั้นมันคนเลวไงล่ะ คนเลวที่ดีแต่ทำร้ายเมียตัวเอง ไม่เคยเห็นว่าตัวเองมีสิ่งที่ค่าที่สุดอยู่ใน

มือแล้วแท้ๆกลับทิ้งมันไปง่ายๆ ผลสุดท้ายกรรมมันเลยตามสนองแบบนี้ไงล่ะ ทั้งลูกทั้งเมียก็ไม่ให้

อภัย และต้องอยู่กับความรู้สึกผิดที่แก้ไขไม่ได้ตลอดไป

 

 

 

 

 

”โทโมะพูดออกมาด้วยความเจ็บปวดหัวใจก่อนน้ำตาจะไหลออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ แก้วมองคนที่

กอดตัวเองกำลังร้องไห้ก็รู้สึกปวดใจไม่แพ้กันก่อนที่จะเลื่อนมือขึ้นไปแตะที่แก้มแล้วเช็ดน้ำตาให้

โทโมะ

 

 

 

 

 

 

 

“อืม”แต่แล้วโทโมะก็ค่อยๆเลื่อนหน้าลงไปจูบแก้วอย่างแผ่วเบา โดยที่ร่างบางไม่ขัดขืนและค่อยๆ

เอามือโอบรอบลำคอชายหนุ่มตอบรสจูบของเขาเหมือนก้นบึ้งของหัวใจเธอต้องการให้ทำแบบนั้น

 

 

 

 

 

 

ผลัวะ

 

 

 

 

แต่แล้วประตูถูกเปิดออกมาอีกครั้งก่อนที่สมิธจะกระชากโทโมะออกมาจากแก้วแล้วชกที่หน้าจนโท

โมะล้มคว่ำ

 

 

 

 

 

“ไอ้เลวไหนแกตกลงแล้วไงว่าแกจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับแก้วอีก แกจะกลับมาทำไมอีกวะ”สมิธ

ชกหน้าโทโมะแล้วตะคอก จนเขื่อนและป๊อปปี้ต้องรีบเข้าไปแยกโทโมะและสมิธออกจากกัน

 

 

 

 

 

“พี่สมิธอย่าทำเค้าค่ะ”แก้วรีบลงจากเตียงเข้ามาขอร้องสมิธไม่ให้ทำร้ายโทโมะแต่ตอนนั้นเอง สมิธ

ที่ปล่อยมันออกไปแล้วเหวี่ยงหมัดชกเข้าที่หัวแก้วอย่างแรงจนแก้วทรุดลงนั่งแล้วกุมหัวก่อนจะร้อง

โอดโอย

 

 

 

 

 

 

“แก้ว อย่าเป็นอะไรนะแก้ว”โทโมะไม่รอช้ารีบกอดแก้วที่ร้องไห้ออกมาด้วยความปวดหัวก่อนที่จะ

รีบอุ้มแก้วขึ้นมาแล้วพาไปหาหมอข้างนอกโดยมีสมิธวิ่งตามไปติดๆ

 

 

 

 

 

 

“คราวนี้คงจะรู้หัวใจตัวเองแล้วสินะหลานชาย”ป๊อปปี้ยิ้มที่จะเดินไปหาพวกของฟางพร้อมกับเขื่อน

 

 

 

 

 

“อะไรกัน ไปตั้งนานแล้วยังไม่หยุดร้องไห้อีกหรอยัยตัวร้าย”เขื่อนเดินมาหาเฟย์ที่นั่งปาดน้ำตาที่

ไหลออกมาไม่หยุดแล้วยิ้มก่อนะลูกผมเฟย์เบาๆ

 

 

 

 

 

 

หมับ

 

 

 

เฟย์โผเข้ากอดเขื่อนแน่นแล้วไม่พูดอะไรทำให้เขื่อนหน้าแดงก่อนที่จะยิ้มออกมาแล้วกอดตอบเฟย์

เพื่อให้เธออุ่นใจว่าเขาจะไม่ทอดทิ้งเธอไปไหนแน่นอน

 

 

 

 

 

 

“พรุ่งนี้หวายน่าจะได้สติ ฟางพาสามีฟางไปพักผ่อนเถอะนะ ดูสิลูกเองก็ง่วงแล้วเนี่ย”ป๊อปปี้มองที่

ฟางที่กอดแขนเอี๊ยงแน่นก็เศร้าก่อนที่จะพูดตัดบทแล้วเดินไปอีกทางไม่มองภาพนั้นอีกเลย

 

 

 

 

 

“ขอบคุณนะคะ”ฟางมองป๊อปปี้ที่ไม่สนใจตัวเองก็เงียบก่อนจะพูดขึ้น ป๊อปปี้ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออก

มาก่อนที่จะเดินต่อไป แค่คำว่าขอบคุณเล็กๆเท่านั้นก็ทำให้เขามีความสุขแล้วล่ะ

 

 

 

 

 

 

 

“กลับบ้านกันเถอะทุกคนเดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาหาแม่หวายกัน”ฟางพูดแล้วยิ้มก่อนที่จะอุ้มเฟิร์สนำคน

อื่นๆเดินกลับออกไปจากห้องโดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึง่แอบมองพวกของฟางที่ออกไปด้วย

ความแค้น

 

 

 

 

 

 

 

“อย่าหวังเลยว่ามึงจะมีความสุขกัน กูนี่ล่ะจะขัดขวางพวกมึงเอง”ขนมจีนที่แอบดูพวกของฟางและ

ป๊อปปี้ตั้งแต่แรกก็ยิ่งแค้น ก่อนที่จะปลอมตัวในชุดพยาบาลแล้วสวมผ้าปิดปากเดินเข้าไปในห้อง

หวายที่นอนหลับอยู่ในห้องพักผู้ป่วยพิเศษ ที่ใบหน้ามีผ้าพันแผลพันไว้หลังจากถูกคนที่เธอสั่งมา

ทำร้ายสาดน้ำกรดหวังจะเสียโฉมทั้งแม่และลูก

 

 

 

 

 

 

“อื้อๆ”หวายรู้สึกตัวว่าถูกหมอนใบใหญ่กดอย่างแรงไม่ให้เธอมีอากาศหายใจก็ดิ้นสะเปะสะปะหมาย

จะควานคว้าหาคนร้ายที่ทำร้ายเธอ โดยที่มือของเธอคว้ากระชากสร้อยข้อมือมุกของขนมจีนติดมือ

มาด้วย

 

 

 

 

 

 

“กว่าจะตายได้นะมึง เล่นซะกูเลือดออก”ขนมจีนเห็นว่าหวายดิ้นเริ่มอ่อนแรงลงทำให้ขนมจีนยิ่งมี

แรงกดหมอนให้หวายขาดใจตายมากขึ้นหวายดิ้นชักกระตุกเมื่อเริ่มหมดลมหายใจและค่อยๆหยุด

ขัดขืนแน่นิ่งขนมจีนยิ้มร้ายๆออกมาก่อนที่จะโยนหมอนที่ทำร้ายหวายทิ้งแล้วรีบเดินออกไปทันที

 

 

 

 

 

 

“น้าหนม”โทโมะที่กำลังกลับเข้ามาจากไปจัดการตัวเองแล้วตั้งใจจะแอบดูแก้วเหมือนเดิมก็ตกใจ

เมื่อชนเข้ากับขนมจีน ขนมีนหน้าถอดสีก่อนที่จะรีบวิ่งหนีออกไปอย่างไม่คิดชีวิต

 

 

 

 

 

 

“เดี๋ยววันนี้เราไปรับยายหวายพร้อมกันนะคะเฟิร์ส”ฟางที่กำลังแต่งตัวให้ลูกสาวแล้วยิ้มก่อนที่จะอุ้ม

เฟิร์สลงมาหาทุกคนที่รอต้องชะงักเมื่อเห็นป๊อปปี้และฟิญที่มารออยู่ที่บ้านตัวเองด้วย

 

 

 

 

 

 

“น้องเฟิร์ส”ฟิญเห็นเฟิร์สที่ถูกฟางอุ้มก็ตกหลุมรักในความน่ารักไร้เดียงสาก็สิ่งเข้ามาเล่นด้วยทันที

ทำให้ป๊อปปี้และฟางอยู่ใกล้กันและสบตากันแต่ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

 

 

 

 

 

“ครับจะไปเดี๋ยวล่ะครับ”เอี๊ยงรับสายแล้วพูดอย่างร้อนรน

 

 

 

 

 

 

“มีอะไรหรอเอี๊ยง”ฟางแปลกใจก่อนที่จะถามเอี๊ยงเพราะสังหรณ์ใจแปลกๆ

 

 

 

 

 

“ทางโรงพยาบาลโทรมาบอกว่า แม่หวายเสียชีวิตแล้วเมื่อคืนนี้”เอี๊ยงเงียบก่อนจะพูดขึ้น

 

 

 

 

 

 

“ไม่จริง กรี๊ดดด”ฟางอึ้งก่อนที่จะกรีดร้องออกมาสุดเสียง

 

 

 

 

 

“เฟย์”ทุกคนรีบวิ่งมาที่โณงพยาบาลพบว่าเฟย์และเขื่อนมารอก่อนแต่แรกแล้วฟางเรียกน้องสาว

เมื่อเฟย์เห็นฟางก็วิ่งร้องไห้ไปกอดฟางแน่น

 

 

 

 

 

 

“แม่ฮือๆ แม่ตายแล้ว”เฟย์ร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กหาที่พึ่งกอดฟางแน่น

 

 

 

 

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะหมอ”ฟางตั้งสติก่อนรีบถามปั้นจั่นที่ยืนอยู่

 

 

 

 

 

 

 

“เมื่อเช้าพยาบาลเอาอาหารเช้ามาให้แล้วพบว่าหวายเสียชีวิตแล้ว โดยทางเราชันสูตรแล้วว่าขาด

อากาศหายใจ”ปั้นจั่นพูด

 

 

 

 

 

 

“ขาดอากาศหายใจ นี่มันอะไรกันแม่ไม่เคยเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจแม่เป็นมะเร็งแต่ทำไม

แม่ถึงขาดอากาศหายใจตายได้”ฟางอึ้งก่อนจะรีบถาม

 

 

 

 

 

 

 

“นั่นล่ะที่พวกเราสงสัยก็เลยให้ทางตำรวจเข้ามาทำเรื่องนี้และพบว่า นอกจากแผลที่พันแผลไว้

หวายไม่ได้มีการถูกทำร้ายร่างกายส่วนอื่น เลยคิดว่าคนร้ายต้องเข้ามาตอนพวกเรากลับกันแล้วถึง

ได้ทำเรื่องแบบนี้ได้”เขื่อนพูด

 

 

 

 

 

“นี่เป็นหลัดฐานที่ทางตำรวจเก็บได้ในที่เกิดเหตุ คือหมอนที่คาดว่าจะเป็นอาวุธสังหารและก็สร้อย

เส้นนี้ที่หวายกำเอาไว้ในมือตัวเอง”ปั้นจั่นพูดพร้อมกับชูซองใสใส่สร้อยมุกสีชมพูดล้วนให้ทุกคนได้

เห็นทั่วกัน

 

 

 

 

 

 

“เดี๋ยวค่ะ นี่มันสร้อยมุกสีชมพูของคาริบเบียนนี่ค่ะ ฟิญจำตัวล้อคตรงนี้ได้ค่ะมันจะมีสายยาวลงมา

สามารถสลักชื่อของเราเอาไว้ได้ค่ะ”ฟิญนิ่วหน้ามองสร้อยเส้นนั้นก่อนจะนึกออกแล้วรีบขอซองใส

ใส่หลักฐานมจากปั้นจั่นเพื่อดูที่ชื่อคนสั่งทำทันที

 

 

 

 

 

“พ่อคะ นะ นี่มันเชื่อกุลมาศเป็นภาษาอังกฤษนี่คะ”ฟิญพูดด้วยความตกใจแล้วสบตากับป๊อปปี้

คิดถึงสร้อยมุกที่ขนมจีนเคยสั่งทำแบบพิเศษนี้คู่กับขนมหวานภรรยาเขาที่แคริบเบียนซึ่งสร้อยของ

ขนมหวานสลักชื่อว่ากุลธิดา และกุลมาศนั้นคือขื่อจริงของขนมจีนนั่นเอง

 

 

 

 

 

 

“หมอปั้นค่ะ ทางกองชันสูตรตรวจรอบเลือดได้จากซอกเล็บของผู้ตายค่ะ แล้วทางตำรวจเลยให้เรา

ตรวจดีเอ็นเอจากตรงนี้ แล้วนี่คือผู้ต้องสงสัยค่ะ”นางพยาบาลเดินเอาเอกสารมาให้ปั้นั่นที่ยืนกับ

ตำรวจทันที

 

 

 

 

 

 

 

“เกิดอะไรขึ้นหรอครับทุกคน ทำไมมีตำรวจ”โทโมะที่อกมาเดินเล่นเพราะช่วงเวลานี้แก้วจะอยู่กับ

สมิธก็แปลกใจเมื่อเขาเห็นพวกของฟางและพวกป๊อปปี้อยู่กับตำรวจหน้าห้องดับจิต

 

 

 

 

 

 

“มีคนลอบทำร้ายหวายจนตอนนี้หวายได้เสียชีวิตแล้ว”ป๊อปปี้นิ่งก่อนที่จะตอบหลานชายแทนทุก

คนแล้วเบือนหน้าไม่ยอมสบตาใครอีก

 

 

 

 

 

“ฟาง”โทโมะรีบหันไปหาฟางแล้วพบว่าอดีตสาวที่เขาหลงรักปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง

 

 

 

 

 

“ทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดกับแม่หวายด้วย แม่หวายกำลังป่วยแท้ๆ”ฟางพูดเสียงสั่น

 

 

 

 

 

“ไม่ต้องห่วงนะฟางชั้นจะพาคนผิดมาลงโทษให้สาสมเอง”ป๊อปปี้สงสารฟางและเฟย์ที่กอดกัน

ร้องไห้ก็พูดขึ้นเพื่อสัญญากับร่างบาง

 

 

 

 

“นี่เป็นภาพขากกล้องวงจรปิดนิทุกคน”ปั้นจั่นพูดแล้วเอาภาพจากกล้องวงจรปิดที่ปริ้นมาเป็นแผ่นๆ

มาแบ่งกันดูทันที

 

 

 

 

“นี่มันขนมจีนนี่”เมื่อทุกคนเห็นภาพคนร้ายเปิดผ้าปิดปากก็อึ้งเมื่อพบว่าเป็นขนมจีน

 

 

 

 

นั่นไง เรื่องพลิกไม่คาดฝัน ตอนหน้าจะโค้งสุดท้ายจริงๆละ 

 

 

อาจจะ1-2ตอนจะจบละน้า  สำหรับเรื่องนี้ กลับมาอ่านกันๆๆๆ

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา