Stop หยุดหัวใจนายเย็นชา

9.6

เขียนโดย NannyCandy

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 17.18 น.

  43 chapter
  860 วิจารณ์
  60.60K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 19.34 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5) - You & Me - ( เธอและฉัน )

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

- You & Me  -

( เธอและฉัน )

 

หมับ!

 

 

“กรี๊ดดดดดดดด”     

      

 

        ฉัน ร้องลั่นออกมาเมื่อทนไม่ไหวเพราะอยู่ดีๆข้อมือของตัวเองก็ถูกมือของใครมาจับ เอาไว้แล้วดึงเข้าหาตัวของอีกฝ่าย ฉันดิ้นไปดิ้นมาอยู่บนแผ่นหน้าอกของใครก็ไม่รู้ แต่หลังจากที่กรี๊ดนั้นออกมาแล้ว ฉันก็กรี๊ดต่อไม่ออกเพราะตกใจสุดๆ จนกระทั่ง...

ปิ๊ง!

 

 

       เหมือนว่าพระเจ้าจงใจแกล้งกันชัดๆ! ที่อยู่ดีๆ ไฟก็เปิดขึ้นมาราวกับมีพลังงานบางอย่างอยู่ ณ ที่นี้ และแล้ว! ฉันก็ต้องเบิกตากว้างอีกครั้งและอีกคร้างงงงงง >O<!!!!

 

 

       เมื่อคนที่ฉันกำลังตกอยู่ในอ้อมแขนคือ...ทะ...โทโมะ!?!

 

 

       อ้าว? แล้วเขามาทำอะไรที่นี่?! เอาขยะลงมาทิ้ง?! หรืออะไรยังไง?  

 

 

       ฉันกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก โทโมะมองหน้าฉันนิ่งๆแล้วขมวดคิ้วเข้าหากันนิดๆ  ( อีกและ! ขมวดอะไรนักฮะ? ฉันทำอะไรผิด!? ) เมื่อฉันตั้งสติได้ฉันจึงผละตัวออกจากเขาแล้วทำหน้าตาให้เป็นปกติ โดยทำหน้านิ่งไม่รู้โลกอะไร ( ทั้งๆที่ใจเต้นแทบระเบิด >/////////< )

 

 

           โทโมะ ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรซักอย่างกับฉัน แต่เขาก็ไม่พูดแต่ก้มลงยกกล่องลังที่มีแต่ถุงขนมขึ้นมาโยนใส่ลงไปในถังขยะ ด้วยท่าทางเก๊กๆ

 

 

          แหม เมื่อกี้ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าเขาจะดึงฉันเข้าไปหาเพื่อ??? ฉันตกใจจนแทบจะระเบิด แล้วดูเขาสิ! ยังคงทำท่าเก๊กๆเหมือนครั้งแรกที่เราพบกันอยู่จนกระทั่งวันนี้  

 

 

          ทำไมนะ? เขา ถึงชอบทำให้ฉันตกใจอยู่เรื่อยเลย  วันแรกที่เจอกันเขากระโดดลงมาจากต้นไม้จนฉันกรี๊ดแตกไปแล้วรอบหนึ่ง วันนี้เขายังทำฉันตกใจอีก บังเอิญจังเล้ย!

 

 

          อ่าห้ะ! ใช่! รู้ครับผมว่าคุณหล่อมากกกกกกก จนฉันเองก็อดที่จะไม่มองไม่ได้ = =;;;

 

 

“...”

 

 

“...”

 

 

     เมื่อ ฉันแน่ใจแล้วว่าโทโมะคงไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ ฉันจึงเดินออกมา แต่ทว่าเดินผ่านตัวเขามาไม่กี่ก้าว วีก็เอ่ยคำพูดหนึ่งที่ทำให้ฉันต้องหยุดชะงัก

 

 

“เป็นใบ้เหรอ”

 

 

กึก!

 

 

     คำ พูดจี้ใจดำที่เป็นคำพูดแรกที่เขาพูดกับฉันนั้นทำให้ฉันต้องหันไปมองหน้าโทโมะ นิ่งๆ โทโมะเองก็มองฉันอยู่เช่นกัน แต่ฉันก็ไม่รู้นะว่าหมอนี่เป็นคนยังไงกันแน่ แต่จากการที่เขาพูดแบบนั้นคงเพราะรำคาญหรือปล่าวที่ดันมาเจอฉันโดยบังเอิญแต่ ฉันก็กลับเงียบไม่ทักไม่ทายเขาทั้งๆที่เป็นเพื่อนบ้านที่เพิ่งย้ายเข้ามา

 

 

      แต่...จะให้ฉันพูดอะไรล่ะ? และที่สำคัญนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนด่าว่า ‘ฉันเป็นใบ้’ ด้วย = =;;;

 

 

    แก๊งเคโอติคน่ะแต่ละคน ไม่ธรรมดาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง...โทโมะ...  

 

 

      คำพูดของฟางทำให้ฉันชักจะรู้สึกไม่ไว้วางใจเขาแล้วล่ะสิ ไอ้ที่ว่า ‘ไม่ธรรมดา’ นี่มันลึกลับซับซ้อนจริงๆเลยแฮะ = =;;;

 

 

“เราไม่ได้เป็นใบ้...แต่เราแค่ไม่มีอะไรจะพูด”

 

 

     ฉันตัดสินใจพูดออกไปแบบกล้าๆกลัวๆเพราะ ด้วยความที่เดาทางไม่ออกว่าต่อไปเราจะพูดอะไรกันต่อ แต่โทโมะมองฉันนิ่งๆเท่านั้นแล้วเขาก็กลอกตาขึ้นลงเหมือนกับจะบอกว่า 'เธอเนี่ยนะ' ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันหมายความว่าอย่างนี้รึปล่าวแต่เซนส์มันบอก และเมื่อฉันเห็นว่ามันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ที่นี่ จึงตัดสินใจเดินออกมาจะที่นั่นอย่างรวดเร็ว

 

 

      การสบตาโทโมะเป็นอะไรที่ยากลำบากมากกกกกกกกกก @/////////@

 

 

          ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำที่โรงขยะเขาจงใจหรือไม่อย่างไรที่จะต้องดึงให้ฉัน ไปซบที่อก เขารู้ว่าเป็นฉันแน่นอนเพราะเราเพิ่งเดินลงมาเจอที่บันไดและฉันถือกล่องลัง ขยะอยู่  ที่เขาทำแบบนี้เพราะอยากจะแกล้งฉันใช่มั้ย? หรือเพื่อนๆในกลุ่มบอกให้เขามาแกล้ง?  

 

 

     เฮ้อ...ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ

 

 

   

เลิกเรียนวันนั้น

 

 

ห้องสมุด

 

 

          วันนี้ห้อง 5/2 ของฉันเลิกเรียนตั้งแต่ 3 โมงครึ่ง ฉันกับฟางก็ยังกลับบ้านไม่ได้เพราะมีเวรทำความสะอาดจัดห้องสมุดอีก แค่ 2 คน เท่านั้น! โหดอะไรเยี่ยงนี้นิ Y__Y

 

 

     และ ฉันก็ชักจะไม่แน่ใจแล้วสิว่าพระเจ้าต้องการกลั่นแกล้งอะไรฉันอีก เพราะพวกห้อง 5/7 ดันมีเรียนวิชาห้องสมุด พวกนั้นจึงนั่งเรียนทำรายงานบลาๆๆๆ ฉันกับฟางก็จัดหนังสือไปไม่ได้สนใจพวกเคโอติคที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรง นี้เท่าไหร่

 

 

          ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าพวกนั้นได้เกรดติดระดับ TOP กัน ได้ยังไงนะ เพราะขนาดชั่วโมงเรียนยังไม่สนใจที่จะเรียนอะไรเท่าไหร่เลย ฉันได้ยินอาจารย์สั่งให้พวกเขาไปหาหนังสือมาเล่มหนึ่งแล้วจดสรุปความไม่ใช่ เหรอ แล้วไหงมานั่งคุยกันแบบนี้ล่ะ = =;;;

 

 

“ยัยฟางมัดข้าว  นิสัยแมนเกินผู้หญิง  ถ้าบอกได้เธอหน้านั้นเหมือนลิง อยากหัวเราะให้กลิ้งกับใบหน้าของเธอ ฮ่าๆๆๆๆ ^O^//”

 

 

“...”

 

 

     เมื่อ ฉันหันไปก็พบว่าคนที่พูดคือป๊อปปี้ แถมการพูดของเขาเหมือนกำลังเยาะหยอกฟางพอฉันหันไปมองฟาง ฟางก็ยืนถอนหายใจแล้วกัดฟันตัวเองขณะที่จัดหนังสือไปด้วย 

 

 

         พวกนี้นี่! ฉันว่าถ้าฟางตอกกลับไปล่ะเรื่องยาวแน่ๆ แต่มันน่าตะหงิดๆนะ ที่ฟางกับป๊อปปี้เหมือนคนที่เคยมีประเด็นอะไรกันมาก่อน

 

 

    แต่เมื่อฉันคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้วนั้นฉันคิดผิด! เพราะฟาง...

 

 

“เก็บปากไว้เคี้ยวข้าวดีกว่าไหม ถ้าไม่อยากให้เท้าฉันลอยไปหา นายเองก็รู้อยู่นี่นา ว่าตีนฉันเป็นยังไง”

 

 

 

     จบ คำกลอนนั้นฟางหันไปแลบลิ้นใส่ป๊อปี้ ก่อนจะจูงมือฉันให้ไปทำล็อคต่อไป ถ้าให้ฉันเดาตอนนี้ป๊อปปี้คงอยากจะเข้ามาขย้ำคอฟางเต็มทนแล้วล่ะมั้งน่ะ เพราะแอบเห็นแว๊บๆว่าเขาจะลุกขึ้นมาแต่เพื่อนๆจับให้นั่งลงตามเดิม

 

 

          เอ๊ะๆ คู่นี้ชักยังไงๆนะเนี่ย ^^

 

 

“ไหนบอกว่าไม่อยากยุ่งกับพวกนั้นไง” ฉันพูดเมื่อฟางพาฉันมายังชั้นหนังสืออีกมุม

 

 

“ก็ไม่อยากจะอะไรนะแต่มันอดไม่ได้ว่ะ” ฟางพูดแล้วถอนหายใจฮึดฮัดเพราะยังคงอารมณ์เสียอยู่

 

 

“เคยมีประเด็นกันมาก่อนล่ะสิท่า”

 

 

 

      ฉันเดาไม่ผิดจริงๆด้วย! เพราะฟางพยักหน้ารับจริงๆ ว่าแล้วว่าทำไมป๊อปปี้ถึงได้หยอดแกล้งฟางบ่อยๆ ไม่ใช่ว่าฉันไม่สังเกตนะ แต่ ‘โมเม้นต์’ คู่นี้มีบ่อยมากกกกกกกก   

 

 

      ฉันล่ะสังเกตตั้งแต่ตอนที่ฟางกับฉันยืนซื้อข้าวกันอยู่แล้วป๊อปปี้เดินมาเอาโพสอิทที่เขียนว่า  ‘จีบได้! ยัยฟางมัดข้าวแฟนไม่มี!’ มาแปะที่หลังฟางตอนที่ฟางไม่รู้ตัว

 

 

           ตอนนั้นฉันไม่อยากเห็นฟางมีเรื่องกับเขาจึงแอบดึงโพสอิทนั่นออกจาก หลังฟางอย่างไวเลย = =;;;;

 

 

       ป๊อปปี้ก็นะ! แกล้งฟางต่อหน้าต่อฉันเลยนะเนี่ย!

 

 

“ฉัน กับหมอนั่นเคยมีเรื่องกันเมื่อตอน ม.ต้น น่ะ เวลาฉันไปไหนคนเดียวแล้วเจอพวกนั้น อีตาบ้านั่นจะชอบพูดจิกฉันตลอด ที่ฉันตอบกลับไปยังน้อยไปด้วยซ้ำกับที่ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันน่ะ >^<!”

 

 

“เอาน่า ใจเย็น”ฉัน พูดแล้วตบที่บ่าของฟางเบาๆ ก่อนจะเดินออกไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเอาหนังสือที่พวกนักเรียนจะเอามาคืนกันใน ช่วงเย็นเอามาเก็บไว้ตามหมวดต่างๆ

 

 

           โรงเรียนนี้จะรับคือหนังสือตอนเย็นเท่านั้นเพราะตอนกลางวันจะไม่รับคืนเพราะ จะเป็นเวลาพักของฝ่ายบริการในห้องสมุด แต่ต้องเอามาคืนก่อน 6 โมงเย็นเท่านั้น ไม่งั้นจะโดนปรับเงินนาทีละบาท

 

 

           เมื่อฉันเดินมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ก็พบกับรุ่นน้องสาวแว่นใสมัดเปียสองข้าง (หน้าตาน่ารักดีนะฉันว่าถึงเธอจะใส่แว่นกรอบใหญ่หนาเตอะแค่ไหนก็ตาม ^__^) ที่กำลังจัดหนังสือที่มีเด็กมาคืนเอายกมันมาวางไว้บนโต๊ะ

 

 

“นี่ค่ะ หนูจัดไว้ให้หมดแล้ว ^__^”

 

 

“จ้ะ ขอบคุณนะ ^^” ฉันบอกยิ้มๆ

 

 

“พี่เพิ่งย้ายมาใหม่เหรอ? หนูไม่คุ้นหน้าเลยพี่ชื่ออะไรเหรอคะ?” น้องคนนั้นถามแล้วดันแว่นขึ้นเล็กน้อย

 

 

“พี่ชื่อแก้วจ้ะ เพิ่งย้ายเข้ามาได้สองอาทิตย์”

 

 

“อ๋อ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะพี่แก้ว หนูชื่อแต้งกิ้ว ^_^”

 

 

“เช่นกันจ้ะ งั้นพี่ไปก่อนนะ”

 

 

“ค่า ^O^//”

 

 

       ฉัน ยกกองหนังสือที่หนักเอาการไปยังหมวดประวัติศาสตร์ ( น้องแต้งกิ้วจัดไว้ให้เป็นหมวดๆแล้วน่ะ ) ซึ่งอ่านป้ายดูแล้วมันอยู่ลึกด้านในของห้องสมุดเลย แล้วมันก็เงียบมากเสียด้วย ฉันเดินเข้ามาทางด้านในสุดแล้ววางหนังสือเอาไว้ที่พื้นแล้วหยิบขึ้นมาเล่ม หนึ่งพลางมองหน้าหมายเลขของหนังสือ

 

 

“ทำไมต้องอยู่ชั้นบนด้วยน้า”

 

 

       ฉัน จำต้องปาดเหงื่อซะแล้วเพราะชั้นหนังสือของเล่มที่ฉันต้องจัดมันดันอยู่สูงไป นิดนึงจนฉันจำต้องเขย่งสุดปลายเท้า และความพยายามของฉันก็ไม่ศูนย์เปล่าเพราะมันก็สำเร็จจนได้! เย่! แต่เหงื่อที่ไหลลงมาเนี่ยสิ เฮ้อ...

 

 

   

( ช่วงเล็กน้อยของเคโอติค )

 

 

ตื๊ด...ตื๊ด...

 

 

            โทโมะที่กำลังนั่งคุยกันกับเพื่อนๆในกลุ่มเคโอติคก็จำเป็นต้องหยุดคุยแล้วหยิบ โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงนักเรียนขึ้นมาดู แต่เบอร์นั้นไม่มีชื่อแสดงว่าไม่ใช่เบอร์คนรู้จักอย่างแน่นอน   

 

 

“ใครโทรมาวะ” เขื่อนเงยหน้าจากหนังสือรายงานขึ้นมาถาม

 

 

“ไม่รู้ว่ะ” โทโมะบอกก่อนที่เขาจะกดรับสายนั้น “ฮัลโหลครับ”

 

 

“ O_o ???” >>>> สีหน้าความอยากรู้ของเพื่อนในกลุ่ม ( อยากรู้กันจริงๆ = =;;; )

 

 

“เห็นอยู่ครับน้ามีอะไรรึปล่าวครับ”

 

 

[@#$&*(&%$##4@#$%^&8 ]

 

 

“อ๋อ งั้นรอสักครู่นะครับ”

 

 

      เมื่อโทโมะคุยกับปลายสายเสร็จแต่ยังไม่ได้กดวางสายเขาก็ลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ จนเพื่อนต้องออกปากถามเพราะความสงสัยมันคาอยู่ เพราะปกติโทโมะไม่ได้โทรหาใครและไม่ค่อยมีใครโทรมาเลยนอกจากพ่อกับแม่แล้วก็ เพื่อนในกลุ่มกันเองแค่นั้น

 

 

“ไปไหนวะ” เคนตะถาม

 

 

“เดี๋ยวมา” โ?โมะพูดแล้วเดินออกไปจากตรงนี้ เพื่อนก็มองหน้ากันแล้วพากันยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจอะไรเพราะนั่น‘ไม่ใช่คำตอบ’

 

 

“ฉันรู้ว่ามันไปไหน”

 

 

ขวับ!

 

 

“ไปไหนวะเขื่อน???” ป๊อปปี้รีบถามทันทีเมื่อเขื่อนพูดขึ้นมา

 

 

“ไม่บอก ปล่อยให้งง :P”

 

 

 “พ่องงง - -!”

 

 

( จบช่วงเล็กน้อยของเคโอติค )

 

 

 

           เมื่อเวลาผ่านไปจนฉันกำลังจะวางหนังสือเสร็จและเหลือเล่มสุดท้ายพอดี และขณะที่ฉันกำลังจะก้มลงไปหยิบหนังสือ อยู่ดีๆก็มีเท้าที่สวมผ้าใบสีดำมายืนอยู่ตรงหน้าทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นไป มองเขา แต่ทว่าพอเงยขึ้นมองเท่านั้นแหละฉันถึงกับทำตัวไม่ถูกเลย =/////=

 

 

      โทโมะยืนมองฉันก่อนจะยื่นโทรศัพท์ I Phone สีดำของเขามาให้ฉัน ฉันก็ทำหน้างงๆโทโมะจึงบอกสาเหตุที่ทำให้เขามายืนตรงหน้าฉัน ณ ตอนนี้

 

“พ่อเธออยากคุยด้วย”

 

 

“พ่อเราเหรอ? O_O?” ฉันถามพลางชี้นิ้วมาที่ตัวเองอย่างงงๆ

 

 

“รีบรับสิ - -+”

 

 

      เมื่อโทโมะบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดนิดๆ ( ทำไมต้องหงุดหงิดด้วย >^<! ) ฉันจึงต้องรับโทรศัพท์ของเขามาอย่างงงๆ  โทโมะเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วยืนพิงชั้นหนังสือไม่มีท่าทีว่าจะสนใจอะไรฉันจึงรีบคุย  

 

 

“ฮัลโหลค่ะ?”

 

 

[ ฮัลโหลลูกพ่อโทรหาตั้งหลายสายเลยแน่ะ ทำไมไม่รับโทรศัพท์ ]

 

 

“อ๋อ หนูเอาโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าน่ะค่ะพ่อ พอดีจัดหนังสืออยู่เลยไม่ได้เอามาด้วย” ฉันพูดบอกพ่อไปแบบรวบๆแต่ได้ใจความที่พอดี “แล้วพ่อโทรมามีอะไรเหรอคะ?”

 

 

[ พ่อจะบอกลูกว่าถ้าเลิกเรียนแล้วไม่ได้ไปไหนให้รีบกลับบ้านนะลูกเพราะวันนี้พ่อกลับบ้านเย็น พ่อไม่อยากให้ตูนิสอยู่คนเดียว ]

 

 

“ค่ะ แล้วหนูจะรีบกลับ”

 

 

ติ๊ด!

 

 

     ฉัน พูดบอกพ่อก่อนจะกดวางสายแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้โทโมะ โทโมะหันมามองฉันนิ่งๆก่อนที่เขาจะมองมือฉันที่ถือโทรศัพท์ยื่นให้อย่างยากจะ คาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

 

 

     แต่สิ่งที่ฉันสงสัยคือ...พ่อมีเบอร์โทโมะได้ยังไงนะ?

 

 

“พ่อเธอไปเอาเบอร์ฉันมาจากพ่อฉัน”โทโมพูดแล้วหยิบโทรศัพท์ไปจากมือฉัน

 

 

     มะ...หมอนี่จะฉลาดไปแล้วนะ! ฉันยังไม่ทันจะพูดอะไรเลยซักคำ O_O!

 

 

“เรายังไม่ได้ถามอะไรเลย”

 

 

“ไม่ถามแต่ก็ใช่ว่าจะไม่คิดนิ”

 

 

เพล้ง!

 

 

      หน้าแตกขึ้นมาทันทีทันใดเลย T_T

 

 

“พ่อเธอขอร้องว่าเย็นนี้และจนกว่าจะได้จักรยานให้เธอเดินกลับบ้านพร้อมฉัน”

 

 

“ฮะ?”

 

 

“ลูกสาวคนเดียวเดินกลับบ้านคนเดียวเย็นๆ พ่อก็ต้องห่วงเป็นธรรมดา”

 

 

“...”

 

 

“จัดห้องหนังสือหรือทำอะไรเสร็จแล้วก็ไปเจอฉันที่หน้าโรงเรียน”

 

 

“แล้วนายเลิกเรียนกี่โมงล่ะ ถ้านายเลิกก่อนก็กลับก่อนก็ได้ เผื่อเรา...”

 

 

“ฉันขี้เกียจตอบคำถามพ่อเธอว่าทำไมเธอไม่กลับมาด้วย”

 

 

      อะ...โอเค สรุปคือฉันต้องกลับกับนายว่างั้น?

 

 

      โทโมะ มองหน้านิ่งๆก่อนที่เขาจะเดินทำท่าเก๊กๆออกไปจากตรงนี้  ฉันเองก็ใจเต้นตึกตักไม่น้อยเลยที่ได้คุยกับเขา เฮ้อ...โทโมะนี่ออกแนวพูดน้อยต่อยหนักจริงๆ ถึงฉันจะพูดน้อยแต่ก็ไม่เคยต่อยหนักอะไรแบบนี้เลยนะ = =;;;;

 

 

 

6 โมงเย็น  

 

 

“ฉันบอกแล้วว่าเซ้นส์ฉันน่ะไม่เคยพลาดหรอก ^^”ฟางพูดเมื่อฉันบอกไปว่าโทโมะคือลูกชายลุงอากิโอะจริงๆ เพราะเมื่อเช้าฉันเจอเขาตอนออกจากบ้าน “แล้วเมื่อเช้าหมอนั่นว่าไงตอนเจออ่ะ”

 

 

“ก็แค่มองนิ่งๆ” ฉันตอบ

 

 

“เนี่ยนะเจ้าชายเย็นชา แล้วสรุปเย็นนี้เดินกลับกับโทโมะ?”

 

 

      ฉันพยักหน้ารับเมื่อฟางถาม ฉันก็บอกฟางไปว่าพ่อฉันเป็นห่วงที่ฉันต้องเดินกลับบ้านเย็นๆ เลยโทรมาหาโทโมะบอกให้รอกลับบ้านพร้อมฉันด้วย

 

 

“กลับดีๆล่ะ ถ้ามีอะไรโทรหาฉันเลยนะสนแล้วระวังตัวด้วยล่ะ” ฟางบอกอย่างเป็นห่วง

 

 

“โทโมะคงไม่ทำอะไรฉันหรอกมั้ง”

 

 

“หมอนั่นน่ะไม่น่าห่วงเท่ากับพวกโบว์ลิ่งหรอก พวกนั้นมีคนรู้จักเยอะ ถ้าเกิดเห็นแกกับวีเข้า ฉันไม่อยากจะนึกเลย”

 

 

“อื้ม แล้วฉันจะระวังนะ”

 

 

            เมื่อฉันส่งฟางที่โรงรถเสร็จก็เดินออกมาหน้าโรงเรียนที่ตอนนี้ก็เริ่มมืด แล้วเพราะ 6 โมงกว่าๆแล้วด้วย และเมื่อฉันเดินออกมาก็เห็นว่าวีกำลังยืนสวมหูฟัง ฟังเพลงเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงในมือเขากดเลื่อนๆกดโทรศัพท์ของเขา ไปด้วย

 

 

           และเหมือนว่าเขาจะได้ยินเสียงฉันเดินมาหรืออย่างไร เขาก็เงยหน้าจากโทรศัพท์หันมามองฉัน เพียงเท่านั้นเขาเห็นว่าฉันมาแล้วจึงเดินไปเลย ฉันก็เดินตามเขาไปเรื่อยๆ

 

 

         โทโมะเดินช้าลงเมื่อมาถึง ร้านขายตุ๊กตาที่ตอนนั้นฉันมา แล้วได้ตุ๊กตามาจากคุณยาย และดูเหมือนว่าโทโมะจะหยุดดูอะไรซักอย่างหน้าร้านนั้น

 

 

           เขามองดูตุ๊กกตาเหรอ...แล้วฉันก็สังเกตได้ว่าโทโมะขมวดคิ้วนิดๆเหมือนว่าสงสัย อะไรบางอย่าง เท่านั้นแหละ!

 

 

“รอนี่” เมื่อโทโมะหันมาบอกด้วยสีหน้านิ่งฉันจึงพยักหน้ารับแล้ววีก็เดินเปิดประตูเข้าไปในร้านนั้น

 

 

          ฉันเห็นว่าเขากำลังยืนคุยอะไรสักอย่างกับคุณยายฉันเองก็มองไปทางอื่นเพราะ ไม่อยากถูกกล่าวหาว่าออยากรู้อยากเห็นอะไรทำนองนั้น พอสักพักเขาก็ออกมาแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแล้วท่าทางเขาก็เหมือนกับว่าไม่เห็น ว่าฉันยืนอยู่หรือยังไงจึงเดินผ่านไปเฉยๆเลย = =;;;

 

 

 

มาอัพแล้ววว โทโมะหลอกแต๊ะอั่งแก้วป่ะเนี่ยยย อยากให้อัพก็เม้นเยอะๆๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา