C H A N G E .

8.2

เขียนโดย Omoji

วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 19.13 น.

  25 ตอน
  138 วิจารณ์
  32.10K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน พ.ศ. 2558 21.31 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

16) เช้งค์สิบหก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

CHANGE 16

(เปิดเพลงเพื่อเพิ่มอัธรสในการอ่านได้นะจ้ะ ><)

 

พี่ฟางเป็นอะไรรึเปล่า แก้วเดินเข้ามาข้างๆกับคนตัวเล็กที่มุ่นอยู่กับโทรศัพท์แลดูสับสนว่าจะโทรหรือไม่โทรดี

 

 

แก้วไปเที่ยวครั้งนี้กี่วันหรอ ฟางถามขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ดีนักที่เธอหนีป๊อปปี้ออกมาแบบนี้

 

 

ไปสามวันค่ะ มีอะไรรึเปล่า พี่เป็นห่วงป๊อปปี้หรอ แก้วถามขึ้นอีกครั้ง

 

 

            คนตัวเล็กพยักหน้ารับ เธอเป็นห่วงป๊อปปี้ก็จริงแต่การที่มาห้ามเธอไม่ให้ไปเที่ยวกับคนอื่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูก ทั้งๆที่เธอเองก็มีโอกาสได้ไปแล้วนี่ มันก็ไม่เห็นมีเหตุผลอะไรที่เธอต้องทำตามที่ป๊อปปี้บอกด้วยซ้ำ เขาต่างหากล่ะที่ต้องเชื่อฟังเธอ

 

หวัดดีครับ เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังทั้งสอง แก้วและฟางหันหลังไปตามต้นเสียง

 

 

พี่กวิน แก้วเอ่ยชื่ออีกคนเพราะเขารู้จัก แต่ไม่ใช่กับฟาง..เธอที่เพิ่งมาใหม่จึงได้แต่โค้งให้ตอบกลับไป

 

 

เด็กใหม่หรอ..หรือว่าเป็นญาติแแก้ว กวินถามขึ้นก่อนจะส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร เห็นอย่างนั้นฟางก็โล่งใจหน่อย

 

ความจริงฉันเป็น…”

 

 

อ้อ! ญาติของฉันเองอ่ะพี่กวิน แฮร่ๆ พี่มีอะไรอีกมั้ยคะ แก้วพูดตัดขึ้น ก่อนจะจับมือฟางไว้แล้วเดินออกไปจากตรงนั้นเมื่อเห็นว่ากวินส่ายหน้าเป็นคำตอบแล้ว

 

 

 

            เมื่อออกมาได้ไกลพอสมควร ฟางจึงถามอีกคนขึ้นด้วยความสงสัย

ทำไมหรอแก้ว เขาเป็นใครหรอ? ฟางถามแล้วขมวดคิ้ว

 

 

เขาชื่อกวินน่ะ เป็นลูกชายของหุ้นส่วนของโรงเรียนเราน่ะคะ เขาเป็นคนไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แก้วบอกออกไป แล้วส่ายหน้าบอกอีกคนเหมือนอย่าไปยุ่งกับเขาเลย

 

 

แต่พี่ว่า..เขาก็เป็นคนดีนะ

 

 

ไม่ได้นะพี่ฟาง!พี่กวินน่ะ..”  แก้วเหลียวซ้ายแลขวา ก่อนจะเดินเข้าไปกระซิบอีกคนเขาเป็นศัตรูของป๊อปปี้เลยนะพี่

 

 

“…”

 

 

เอาเป็นว่า พี่อย่าเข้าใกล้พี่กวินแล้วกันนะฮะ แก้วบอกนัยๆทิ้งคำถามให้ฟางจมปรักอยู่เพียงคนเดียว

 

            ศัตรูของป๊อปปี้?

 

            ฉะนั้นเธอไม่ควรเข้าไปยุ่งใช่มั้ย?...

 

 

CHANGE

 

 

พอทั้งหมดรวมตัวกันจนเรียบร้อย รถนำทางล้อหมุนอย่างเชื่องช้าเตรียมตัวออกรถเพื่อมุ่งหน้าไปยังทะเลที่ว่ารถคงแล่นไปแล้วถ้าไม่ติดตรงที่เสียงของใครคนนึงตะโกนขึ้น

 

“เดี๋ยวครับ!! ยังขาดอีกคน!” เป็นโทโมะที่ตะโกนขึ้น ทุกคนหันมองหน้ากันอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก

 

 

“นี่นาย! ไอโรคจิต! พูดเพ้อเจ้ออะไรของนาย ยังขาดใครอีกไม่ทราบ!” แก้วอารมณ์ขุ่นมัวอีกครั้งเพียงแค่ได้ยินเสียงของไอบ้านั่น

 

 

“เดี๋ยวเขามาเธอก็รู้เองแหละน่า! ยัยเสาไฟฟ้า!

 

 

“ไอ้!...

 

 

 

“ฟาง!” เสียงของใครอีกคนดังแทรกขึ้นระหว่างการถกเถียงกันของแก้วกับโทโมะ  ทุกคนหันกลับไปมองเป็นตาเดียว..

 

 

            อึ้งกันไปตามๆกัน

 

 

“ป๊อปปี้” อย่าว่าแต่แก้วเลยที่ตกใจ แม้กระทั่งฟางก็ตกใจไม่แพ้กัน 

 

 

“ชัดเจนมั๊ยล่ะ ยัยทอม!” โทโมะตะโกนกลับไปยังคนเริ่มสงคราม แก้วยังคงอึ้งไม่หายเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าป๊อปปี้จะมา

 

 

            ป๊อปปี้ไม่สนใจสายตาของใครทั้งนั้นเขาเดินตรงดิ่งไปหาฟางที่นั่งข้างแก้วเพียงคนเดียวเท่านั้น

 

“ฉันบอกเธอว่าไงห้ะ..”  ป๊อปปี้เอ่ยเสียงต่ำ ใช่..เขากำลังโกรธ ก็ตอนที่ขึ้นมาบนรถสายตาดันหันไปเห็นแววตาของไอคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศัตรูมองเขาอย่างผู้ชนะแบบนั้น..

 

            ป๊อปปี้จะยอมได้ยังไง..

 

….

 

 

“มันจะมากไปแล้วนะฟางฉันพูดอะไรทำไมไม่ฟังบ้าง”

 

 

….” คนถูกเรียกก็ยังคงนิ่งแหงนหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงป๊อปปี้แล้ว

 

 

“ฟาง”

 

 

….

 

 

“นี่เธอ!...” เขาก็เริ่มหมดความอดทนแล้วเหมือนกัน

 

 

“หยุดนะป๊อป! นายไปหาที่นั่งของนายเลยไป ไปห่างๆพี่ฟางเหอะ” แก้วผลักให้ป๊อปปี้ออกห่างจากฟางนิดหน่อยเพื่อที่จะไม่ให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น

 

            จนสุดท้ายป๊อปปี้ก็ต้องเดินไปนั่งข้างๆกับโทโมะและเขื่อน….ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าฟางกำลังโกรธแต่เขาก็มีเหตุผลที่เขาต้องทำแบบนั้น

 

 

            ดูจากสายตากับรอยยิ้มเหยียดๆของไอพี่กวินนั่นที่ส่งมาให้เขาแบบนั้นเหลียวตาไปมองฟางแถมยังเลียริมฝีปากของตัวเองแบบนั้น มันกำลังทำให้ป๊อปปี้แทบคลั่ง มือทั้งสองกำแน่น ใบหน้าแดงกล่ำเต็มไปด้วยความโกรธ

 

“เห้ยไอป๊อปเป็นไรป่าววะ” โทโมะที่นั่งข้างๆถามขึ้น

 

 

“เปล่า” แต่สายตายังจ้องไปยังกวินอยู่อย่างเดิม

 

 

“ใจเย็นเว้ยมึง ถ้าพวกเรายังอยู่ใกล้ๆฟางอ่ะ ยังไงพี่กวินก็ไม่มาจุ้นจ้านหรอก” เพราะโทโมะก็รู้ดีว่าป๊อปปี้กำลังโกรธเอามากๆ ถ้าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีก

 

 

            ป๊อปปี้จะเป็นยังไง

 

 

 

 

            ไม่นานนักรถเดินทางก็ขับมาจนถึงที่ท่องเที่ยวของโรงเรียน ทุกคนแยกย้ายกันลงจากรถ โดยที่ป๊อปปี้จับจ้องที่ฟางเพียงคนเดียว อย่างไม่คราดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว

 

“ว้าววววว ทะเลลลลลล >3<” ครั้งแรกของฟางไม่แปลกที่เธอจะตื่นเต้นกว่าใครเพื่อน

 

 

“สวยใช่มั๊ยล่ะคะพี่ฟาง” แก้วเอ่ยขึ้นเพราะเธอเองก็คิดว่าทะเลที่นี่สวยมากๆเช่นเดียวกัน

 

 

“สวย….สวยมากอ่ะแก้ว..พี่ขอเดินไปเหยียบทรายได้มั๊ย..” แววตาของฟางเป็นประกายเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

 

 

“ฮ่าฮ่า เดี๋ยวสิคะเอากระเป๋าไปเก็บก่อนแล้วค่อยลงมา” แก้วว่าก่อนจะจูงมือฟางให้ตามตนไป

 

 

            ทุกกริยาของฟางถูกจับจ้องโดยใครบางคนที่ไม่ใช่ป๊อปปี้ แต่เป็นผู้ชายที่ตอนแรกกะจะเล่นๆ ไม่คิดจริงๆว่าฟางจะน่ารักได้ขนาดนี้..

 

            บางทีกวินก็อยากจริงจัง

 

 

CHANGE

 

 

“เห้ยไอป๊อปมึงจะรีบไปไหนวะ” โทโมะถามขึ้นหลังเข้าเช็คอินห้องจนเสร็จสรรพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

” ไม่มีการตอบรับจากเจ้าของชื่อสักนิดสองขายาวยังคงรีบเร่งเดินออกจากห้องไปในที่สุด

 

 

“มึงไม่ต้องสงสัยหรอกไอโมะ ระดับไอป๊อปมันแล้วจะไปไหนได้วะ นอกจาก” เขื่อนหันไปมองโทโมะทั้งคู่ยักคิ้วแบบรู้ๆกันอยู่

 

 

 

“หาเมีย”

 

 

 

            ฟางเดินลงมานอกห้องโดยบอกแก้วกับเฟย์ไว้แล้วว่าจะลงมาเดินเหยียบทรายเล่น..เธอไม่เคยมาทะเลสักครั้งในชีวิต พูดแล้วก็เหมือนโกหก เธอไม่เคยเล่าเรื่องนี้ใครฟังนอกจากคนที่สนิทจริงๆเพราะมันน่าอายสำหรับเธอ

 

 

“คิกๆ 55555 นิ่มชะมัด” ฟางกำลังมีความสุขที่สุด ไม่บ่อยนักหรอกที่เธอจะได้ยิ้มสดใสแบบนี้

 

 

“ฉันบอกเธอว่าไงห้ะ..”  ป๊อปปี้เอ่ยเสียงต่ำ

….

“มันจะมากไปแล้วนะฟางฉันพูดอะไรทำไมไม่ฟังบ้าง”

….

“นี่เธอ!...

 

            คำพูดของป๊อปปี้ลอยเข้ามาในโสตประสาทของฟางในทันทีทำไมป๊อปปี้ต้องโกรธเธอขนาดนั้น มันผิดมากนักหรอที่เธออยากไปเที่ยวเหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง

 

 

 

            ฟางนั่งกอดเข่าใช้ไม้จิ้มทรายไปมาเหมือนนึกสนุก แต่ในใจก็กังวลไม่แพ้กัน..แต่ถึงยังไงก็ชั่ง ตอนนี้น่ะ เธอกำลังโกรธป๊อปปี้อยู่คนอะไรงี่เง่าใช่ย่อย

“หวัดดี” เสียงทุ้มต่ำของใครบางคนดังขึ้นข้างหูเล่นเอาร่างบางถึงกับสะดุ้ง

 

 

“โอ๊ะ!...พี่…กวิน?”  ถ้าเธอจำไม่ผิด ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้คือคนๆเดียวกับที่เข้ามาทักบนรถก่อนหน้านี้

 

 

“อ่า..ดีใจจังเธอจำชื่อฉันได้ด้วยขอนั่งด้วยคนได้มั๊ย”

 

 

“เอ่อ..ได้สิคะ”

 

            เมื่อสบโอกาสกวินหันมองซ้ายขวาก่อนจะเห็นว่าไม่มีใครจับตาดูอยู่ก็ตัดสินใจนั่งลงข้างฟางจนได้

 

"เมื่อกี้บนรถฉันลืมถามชื่อ..ว่าแต่เธอชื่ออะไรล่ะ"

 

 

"เอ่อ..ฟาง"

 

 

"ฟาง? ชื่อน่ารักดีนิ"

 

 

"ขอบคุณค่ะ"  บอกเธอทีว่าเธอควจจะจัดการกับสถานกาณ์นี้ได้ยังไง

 

 

“เธอรู้จักกับป๊อปปี้หรอ” ก็เพราะบนรถกวินเห็นทุกการกระทำของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศัตรูเลยน่ะสิ

 

 

“คะ?..เอ่อ..เอ่อ ใช่ รู้จักกันน่ะค่ะ”  แม้จะดูเก้งๆกังๆอยู่นิดหน่อยเพราะเธอยังจำคำพูดของแก้วได้

 

            เธอยังจำได้ดีว่ากวิน..เป็นศัตรูกับป๊อปปี้

 

 

“เป็นอะไรกับหมอนั่นล่ะ”

 

 

“คือเราสนิทกัน..ตั้งแต่เด็กแล้ว เราเป็น..เพื่อนกันค่ะ” ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดแบบนี้ ทั้งที่แก้วก็บอกว่าไม่ควรอยู่ใกล้แท้ๆแต่จะทำไงได้

 

 

“เพื่อน?

 

 

“อ..อื้ม..” 

 

 

“เธอดูกลัวๆฉันนะฟาง”

 

 

 

“ปเปล่าๆ คือ…ฉัน…

 

 

“ฟาง!” ขอบคุณสวรรค์! ที่ส่งคนเข้ามาขัดจังหวะได้พอดี แต่มันจะดีกว่านี้ถ้าคนๆนั้นไม่ใช่

 

 

“ป๊อปปี้” เมื่อเห็นดังนั้นฟางก็รีบลุกขึ้นยืนปัดทรายที่เปื้อนกางเกงออกแล้วขยับออกห่างจากกวิน

 

 

“หึ” กวินกระตุกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นตาม

 

 

“มากับฉัน” ป๊อปปี้คว้าข้อมือบางไว้แล้วทำท่าจะลากออกไป แต่ฟางจะสะบัดมือออกเหมือนปฏิเสธเขาตั้งแต่ต้นแต่ก็ทำไม่ได้ ป๊อปปี้มองเธออย่างเคืองๆ

 

 

“นี่! นายจะพาฟางไปไหน” กวินก็คว้ามืออีกข้างของฟางไว้

 

 

“ปล่อยมือฟางเดี๋ยวนี้นะครับ” 

 

 

“ถ้าฉันบอกว่าไม่นายจะทำไมล่ะ”

 

 

            ให้ตายเหมือนกำลังดูศึกชิงนางหรืออะไรสักอย่างที่ตัวปัญหาจะเป็นใครไมไ่ด้นอกเสียจากฟางนี่สิ..แย่จริงๆเลย

 

“ผมมีเรื่องต้องคุยกับ คนของผม เพราะงั้น..คนอื่น ไม่เกี่ยว” ป๊อปปี้ว่าจบก็ปัดมือกวินทิ้งแล้วลากฟางให้เดินตามเขาไป

 

 

            สงครามครั้งนี้จะไม่หยุดเพียงแค่นี้แน่…ป๊อปปี้

 

 

CHANGE

 

 

“วู้ววววว เฟย์มาเซลฟี่เร็ววว” เสียงเจี๊ยวจ๊าวของแก้วเรียกให้เพื่อนรักอีกคนที่ตั้งใจอ่านหนังสืออยู่บนชายหาดมาถ่ายรูปด้วยกัน

 

            ชุดเสื้อผ้าของทั้งสองคนเปลี่ยนไปจากเดิมเยอะ ตอนนี้แก้วใส่กางเกงขาสั้นโชว์เรียวขาขาวที่ไม่ค่อยมีใครเคยเห็นมากนักส่วนเฟย์ก็ใส่เสื้อแขนกุดชิลๆ

 

 

“หนึ่ง..สองแช้ะ!

 

 

“คิกๆๆๆ มาดูกันๆ”  แก้วหยิบรูปภาพที่สไลด์ออกมาจากม้วนกล้องแล้วพลิกดูให้ชัดเจน

 

 

“เห้ย!!”  ร้องอุทานด้วยความตกใจเมื่อในภาพนี้ไม่ได้มีแค่ทั้งคู่

 

 

 

“ฉันหล่อดีว่าม่ะ” 

 

 

“อไอบ้ากาม!

 

 

-_-” กะไว้แล้วไม่มีผิด

 

            โทโมะและเขื่อนที่โผล่มาตอนไหนก็ไม่มีใครทราบได้จู่ๆก็มาโผล่ในเฟรมของแก้วด้วยนี่สิ

 

“นายจะมาสิงในรูปของฉันทำไมวะ! รกว่ะ” น้ำเสียงที่ดังขึ้นอย่าหงหงุดหงิด แก้วเบ้ปากพูดก่อนจะลงมือกดลบภาพนั้นทิ้งไปอย่างไม่คิด

 

นี่เธอลบทำไมห้ะ!” โทโมะฉุน

 

 

ก็ฉันเพิ่งบอกอยู่ว่ามันรก! ไม่เข้าใจรึไง ไม่ว่าภาพไหนที่มีนายฉันก็จะลบให้หมด หรือแม้จะติดแค่แขนเสื้อนายฉันก็จะทำ

 

 

“เหอะ ที่ฉันมาแทรกเนี่ยก็เพื่อปิดแขนอันล่ำๆของเธอต่างหากล่ะ” โทโมะพูดนิ่งๆแล้วทำหน้ากวนโอ้ยใส่แก้วอีกครั้ง

 

 

“ออกไปไกลๆฉันเลยนะไอ้!...

 

 

“มานี่มา”

 

 

“เห้ย! อร๊ากกกกกกกกกกก ไอบ้า ปล่อยฉันนนนนนน! นายจะปล่ำฉันรึไงไอหื่นนนนน!!

 

 

“ฉันไม่คิดสั้นแบบนั้นหรอกน่า! แค่จับตัวเธอก็ขยักแขยงพอแระ..มานี่!

 

 

“อ…ไอโรคจิตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต!!!”   จู่ๆโทโมะก็คว้ามือแก้วให้เดินตามเขาไปเหลือเพียงแค่เขื่อนกับเฟย์ที่มองหน้ากันอยู่อย่างนั้น

 

“ดีขอนั่งด้วยคนนะ” เขื่อนกล้าๆกลัวๆที่จะนั่งลงข้างๆอีกคนเพราะมันกำลังทำให้เขาใจสั่น..

 

 

 

 

            ป๊อปปี้ลากฟางไปยังมุมๆหนึ่งที่ค่อนข้างเปลี่ยวคนเช่นกันแต่ก็ยังอยู่ในละแวกชายหาดอยู่ดี เขารู้สึกเหมือนความอดทนของเขาเริ่มหดลงๆ ตอนที่เห็นกวินกับฟางอยู่ด้วยกัน หัวใจของเขาเหมือนหยุดเต้นแต่ในนั้นมันเต็มไปด้วยความรู้สึกหลายๆอย่าง

 

 

“ปล่อยนะป๊อป จะพาฉันไปไหน”

 

 

….

 

 

“ฉันเจ็บแล้วนะ ปล่อยสักทีสิ!

 

           ในที่สุดเขาก็ยอมปล่อยมือฟางออก ร่างเล็กจับข้อมือของตัวเองที่แดงระเรื่อ เจ็บจริงๆ..

 

“เราต้องคุยกัน”

 

 

“คุยเรื่องอะไร? เรื่องที่ฉันแอบหนีนายมาน่ะหรอ เหอะ! ที่จริงฉันไม่ได้ผิดเลยนะ ก็นายไม่ยอมให้ฉันมาเองนิ”

 

 

“แล้วเธอมาทำไม” พยายามทำให้ใจสงบที่สุด

 

 

“ก็ฉันบอกนายไปแล้วนิ ว่าฉันอยากมาทะเล..ฉันอยากมาตั้งนานแล้วนายก็รู้ไม่ใช่รึไง..หรือว่านายจะลืมมันไปแล้ว..

 

 

….

 

 

….คงลืมมันไปแล้วสินะ” ฟางพูดอย่างน้อยอกน้อยใจ

 

 

“อย่ายุ่งกับหมอนั่น”  ป๊อปปี้เอ่ยจริงจัง เขารู้สึกใจคอไม่ดีเอาซะเลย แม้เขาจะไม่รู้ก็เถอะว่าทำไมถึงได้รู้สึกแบบนี้ แต่เขาไม่อยากให้ฟางอยู่ใกล้กวินเลย

 

 

“นายหมายถึง

 

 

“พี่กวิน เธออยู่ห่างๆเขาซะ อย่าคุย อย่ามองหน้า อย่านั่งด้วยกันหรือแม้แต่เดินใกล้กันก็อย่า!” เหมือนว่าป๊อปปี้จะเก็บไม่ได้แล้วจริงๆ

 

 

“ป๊อป

 

 

“เธอไม่ต้องรู้เหตุผลหรอกว่าทำไม..แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ”

 

 

“งี่เง่าไร้สาระ นายจะให้ฉันอยู่ห่างจากเขาเพียงแค่นายกับเขาเป็นศัตรูกันอย่างนั้นน่ะหรอ?

 

 

“เธอรู้?

 

 

“ฉันรู้จากแก้วว่านายกับพี่กวินเป็นศัตรูกัน เพราะงั้น..มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันไม่ใช่หรอ” นี่มันกวนโมโหกันชัดๆ

 

 

“เธอเลิกทำตัวแบบนี้สักทีฟาง! เธอไม่รู้หรอกว่าทำไมฉันถึงต้องทำแบบนี้! เธอมันจะไปรู้อะไรวะ อยากอยู่ใกล้มันมากรึไงไอพี่กวินนั่นน่ะห้ะ!

 

 

            เส้นความอดทนขาดผึง..เขาอารมณ์ร้อนและโกรธคนตรงหน้าสุดๆ ฟางรู้ดีว่าป๊อปปี้กำลังโกรธหนักดังนั้นเธอต้องใจเย็นเธอต้องเป็นน้ำที่ดับไฟของป๊อปปี้

 

“ไม่ใช่อย่างนั้นป๊อป

 

 

“เออได้! ต่อจากนี้เธอจะไปอยู่ใกล้ชิดมันยังไงก็ได้ แต่ระหว่างเธอกับฉัน..ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีก

 

 

 

            เซฮุนตัดสินใจทำท่าจะเดินออกไปถ้าไม่ติดที่ฟางทำแบบนี้กับเขา

 

“เห้ย!! เป็นบ้าอะไรของเธอวะ!” คนตัวเล็กกระโดดขี่หลังร่างสูงอย่างรวดเร็วโดยไม่กลัวว่าป๊อปปี้จะโยนเธอทิ้งหรือไม่ เธอเพียงแต่ต้องการให้ป๊อปปี้อารมณ์ดีขึ้นก็เท่านั้นเอง

 

 

ขอโทษ” คนบนหลังเอ่ยเสียงแผ่วข้างหูของอีกคน โดยวางคางไว้บนไหล่กว้างนั้น

 

 

….

 

 

“โอเคฉันสัญญาจะไม่ยุ่งกับพี่กวิน”

 

 

….

 

 

“ขี้เก็กง่ะ ชิส์” ฟางสะบัดหน้าไปอีกทาง อายนะ!

 

 

“หึ”  ป๊อปปี้กระตุกยิ้มกับท่าทางของคนบนหลังที่มักจะทำตัวเป็นเด็กๆเสมอ ใบหน้าคมเอียงคอสบตากับคนบนหลังจนหน้าทั้งคู่ใกล้กัน ถึงขั้นที่จมูกแตะกัน แต่กลับไม่มีใครยอมผละออกไปก่อนแค่นั้น

 

 

“ป๊อปปล่อยฉันลงได้แระ” ฟางพูดเสียงนอยด์ๆ ก็แหม่ ลงทุนง้อขนาดนี้แล้วไม่มีคำว่าขอบใจดีใจอะไรจากอีกคนเลยนิ

 

 

 

            ถ้าถามว่าทำแบบนี้ทำไมฟางก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน..เธอคิดเพียงว่าคนอย่างป๊อปปี้น่ะต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป แล้วอะไรๆมันจะดีขึ้นเอง

 

“ขึ้นมาเองคิดว่าจะลงง่ายๆไง?” เหล่ตามองขนบนหลังอย่างมีเลศนัย

 

 

“อะไรของนาย..

 

 

“อยากเล่นไม่ใช่หรอน้ำทะเลน่ะ” คนพูดกระตุกยิ้มร้ายก่อนจะพาฟางวิ่งออกไปยืนริมน้ำ

 

 

“เหว่ออออออ ทำอะไรเนี่ยป๊อปปปปปปป!! เห่ยยยยย” ฟางกอดคอป๊อปปี้แน่นขึ้นเพราะร่างสูงกลับทำท่าจะเหวี่ยงเธอให้ตกน้ำน่ะสิ

 

 

“หึๆ วู้ววววว ฮ่าฮ่า”

 

 

…..” เหมือนฟางจะสตั้นไปสามวิเมื่อกี้เธอได้ยินเสียงเหมือน..

 

 

“ฮ่าฮ่า สนุกมั๊ยล่ะห้ะ”

 

 

“ป…ป๊อปปี้..

 

 

….”  คนอุ้มแหงนหน้ามองคนบนหลังสบตาเข้าด้วยกันอีกครั้ง..

 

 

“เมื่อกี้นายหัวเราะ? ใช่มั๊ย”  เหมือนฟางจะน้ำตาคลอ..เธอไม่ได้ยินหัวเราะหัวเราะมานานแค่ไหนแล้ว

 

 

….

 

 

“ฉันไม่ได้หูฝาดจริงๆหรอ” 

 

 

 

….”  ป๊อปปี้ไม่ตอบอะไร..เขากลับทำหน้านิ่งอีกหนเมื่อฟางพูดแบบนั้นแต่เขายังไม่ได้ละสายตาจากฟางไปไหน

 

 

 

 

“โกรธฉัอื้อ!O_O!!

 

            ริมฝีปากบางถูกฉกฉวยจากคนอุ้มอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวใดๆเธอค่อยๆหลับตาลงช้าๆ หัวใจสั่นระรัว ไม่ได้มีการแลกลิ้นอะไรทั้งสินมันเป็นเพียงแค่การแตะปากแล้วส่งความรู้สึกต่อกันร่างบางกำปกเสื้อของอีกคนแน่น มันอ่อนโยนและช่างอ่อนหวาน

 

 

 

            ภาพทั้งหมดถูกทอดผ่านดวงตาของอีกสองคนที่ยืนมองป๊อปปี้และฟางอย่างอึ้งๆ..

 

“เด็ดสัด” โทโมะมองไปยังสองคนแล้วกลืนน้ำลาย..อึก

 

 

“พพี่ฟาง”  ไม่คิดเลยว่าจะต้องมีวันนี้  แก้วมองอย่างอึ้งๆไม่แพ้คนข้างๆ

 

 

“เพื่อนกูใจกล้าชิบหาย” 

 

 

….

 

            โทโมะมองแล้วกลืนน้ำลายไปไม่รู้กี่อึก ยิ่งกว่าดูภาพบาดตาบาดใจอีกแฮะ

 

“ฉันว่า../ฉันว่า”  อุยเหมือนว่าจะหันมาผิดจังหวะ..ลืมไปว่าหน้าใกล้กัน ทำให้ทั้งคู่..จมูกชนกัน

 

 

….

 

 

….

 

 

            นี่มันเรื่องอะไรกัน..หัวใจที่เต้นรัวแรงจนแทบทะลักตอนนี้คืออะไร..     


ก็ไม่รู้ทำไมไรต์ถึงหยุดตรงนี้5555 ป๊อปฟางขอหวานบ้างไรบ้างเนอะ >< หวังว่าจะถูกใจนักอ่านทุกคนเน้ออออ  

 

ให้กำลังใจกันได้ ด้วยการ  เม้น  โหวต แนะนำ ติดตาม ให้คะแนน ได้เรื่อยๆนร้าไรต์รอเสมอ ><

 

1เม้น = 1 กำลังใจ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา