เพลิงรัก แรงแค้น

9.2

เขียนโดย Airin

วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 22.19 น.

  3 chapter
  3 วิจารณ์
  5,433 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 12.49 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) Into

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
ღ✿ Into ✿ღ
 
 
          "เราเลิกกันเถอะ..."
 
          ประโยคที่ถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากคนตรงหน้าของหญิงสาวนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชาที่ฉายแววอย่างเห็นได้ชัดจากใบหน้าหล่อเหลาที่ยังคงตีหน้านิ่งเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน ต่างจากหญิงสาวที่ตอนนี้เหงื่อเริ่มซึมออกมาตามใบหน้า ดวงตาเบิกกว้างมองไปยังคนตรงหน้าด้วยความสงสัยก่อนจะเอื้อนเอ่ยตอบเขาไป
 
          "อะไรนะ...?" หญิงสาวเอ่ยทวนคำอย่างไม่เชื่อหูตนเอง
 
          "ฉันบอกว่า... เราเลิกกันเถอะ" ชายหนุ่มเอ่ยพูดประโยคนั้นซ้ำอีกทีด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความรำคาญและหงุดหงิดเต็มทน... มันไม่มีแม้แต่ความอาลัย ความสงสาร หรือแม้กระทั่งความเห็นใจ ประโยคประโยคนั้นถูกพูดขึ้นอีกครั้งโดยชายหนุ่มแต่ก็ยังหาความเห็นใจความรู้สึกของคนที่ยังรักกันไม่เจอจากใบหน้าหล่อเหลานั้นเสียที
 
          "ทำไมล่ะ?" หญิงสาวเอ่ยพูดพร้อมกับใบหน้าที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเธอกำลังพยายามกลั้นน้ำตาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากแต่ผิดกับชายหนุ่มที่ยกมือขึ้นขยีผมสีดำเงาสวยนั้นด้วยความหงุดหงิด
 
          "ฉันเบื่อ! เข้าใจไหมว่าฉันเบื่อ!" ชายหนุ่มเอ่ยพูดขึ้นเสียงดังด้วยความโมโหและจ้องมองไปยังหญิงสาวที่ตอนนี้ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้ด้วยความหวาดกลัวที่อยู่ๆชายหนุ่มก็ขึ้นเสียงใส่ตนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน... ใช่ เหมือนก่อนชายคนนี้คือคนที่เข้ามาจอจีบเธอ และทำดีกับเธอมาตลอดจนเธอใจอ่อนยอมตกลงคบกับเขา ยอมรับว่าหลังๆมานี้เขากับเธอทะเลาะกันบ่อยมากไม่ว่าจะเรื่องเล็กๆน้อยๆหรือแม้กระทั่งเรื่องมหญ่ เขาเริ่มแสดงท่าทางรำคาญและหงุดหงิดทุกครั้งที่ต้องอยู่กับเธอ แต่เธอก็ไม้คิดว่าจะถึงขึ้นบอกเลิกเช่นนี้
 
          "ฮึก! เบื่ออะไรงั้นเหรอ.. ช่วยบอกฉันทีสิ เดี๋ยวฉันจะได้ปรับปรุงตัวเองให้------" ยังไม่ทนที่หญิงสาวจะได้เอ่ยจบประโยคเสียงของชายหนุ่มก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน
 
          "ไม่ต้อง!! เธอไม่ต้องเปลี่ยนหรือปรับปรุงอะไรแค่เลิกกับฉันก็พอ!" ชายหนุ่มเอ่ยเสียงดังด้วยความโมโหอีกครั้ง
 
          "ทะ...ทำไมล่ะ..?" หญิงสาวถามเสียงสั่นด้วยความกลัว
 
          "โอ๊ย! จะต้องให้ฉันพูดกี่ครั้งว่าฉันเบื่อ!! เบื่อเธอนั้นแหละมิชา! ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้รักนวลสงวนตัวเป็นบ้า! จับนิดจับหน่อยหอมนิดหอมหน่อยก็ไม่ได้! ทำนั้นไม่ได้ทำนี่ก็ไม่ได้ ฉันอึดอัด! หน้าตาก็งั้นๆยังจะมาเล่นตัวอีก คิดว่าสวยเบือกได้งั้นเหรอ? เหอะ! แว่นก็หนาเต๊อะ หน้าก็โซม แต่งตัวก็เชย แถมยังมาถักปงถักเปียบ้าบออะไรนี่อีก! มิชา! เธอฟังนะ...ที่นี่คืออังกฤษไม่ใช่ไทย โรงเรียนอนุญาติให้แต่งตัวแบบไหนก็ได้ แล้วทำไมเธอถึงยังมาแต่งตัวเฉิมแบบนี้!!? ทำอะไรก็หัดเห็นแก่หน้าฉันมั่งสิ ฉันเป็นถึงเดือนโรงเรียนแต่กลับมาคบกับเด็กติ่มแบบเธอ คนเขาจะมองฉันยังไง!?" ชายหนุ่มพูดระบายความในใจออกมาด้วยความโมโหและหงุดหงิด เขาอุสาห์ยอมลดตัวมาคบกับผู้หญิงบ้านๆ แต่กลับทำให้เขายิ่งดูน่าสมเพศเข้าไปอีก เขาทนไม่ไหวแล้ว! สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่แบบนี้!!
 
          "แล้วนายมาขอฉันคบตั้งแต่แรกทำไม..." หญิงสาวเอ่ยถามเสียงสั่นมือก็ยกขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มออกเสียให้หมด แต่ไม่ว่าจะพยายามเช็ดมันออกมากสักเท่าไหร่ เจ้าน้ำใสๆที่ไหลออกจากตาก็ไม่มีทีท่างว่าจะหยุดลงง่ายๆเลยสักนิด
 
          "หึ! ก็เจ้าพวกคริสมันเล่นเกมบ้าๆบอๆนั้นไงล่ะ! เกมที่ว่า...ถ้าฉันจีบเธอติดและเป็นแฟนกันครบ 3 เดือนพวกมันจะยอมทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่าง แล้วนี่ก็ครบ 3 เดือนแล้วเพราะฉะนั้นตั้งแต่วันนี้ไป ฉันกับเธอไม่รู้จักกัน!!" ชายหนุ่มพูดจบก็หันหลังและเดินออกจากบริเวณนั้นในทันที ทิ้งให้หญิงสาวยืนนิ่งอยู่ที่ตรงนั้นเช่นเดิม
 
          หญิงสาวยืนนิ่งกำมือกัดฟันแน่นด้วยความโกรธและคับแค้นใจ เธอไม่น่าลงเชื่อว่าคนที่เป็นถึงเดือนโรงเรียนที่จะหาสาวๆสวยๆมากมายสักเท่าไหร่ก็ได้อย่างเจสันจะมาขอเธอคบ เธอน่าจะคิดให้รอบคอบมากกว่านี้จะได้ไม่ต้องมานั่งเจ็บเหมือนกับในตอนนี้... พอลองคิดหวนย้อนกับไปตั้งแต่วันแรกที่พบเจอกันก็ยิ่งอยากจะหัวเราะออกมาดังๆให้กับความโง่เขลาของตัวเอง ดันหลงระเริงไปได้ว่าหน้าตาบ้านๆเฉิมๆอย่างเธอจะมีหนุ่มหล่อมาสารภาพรัก เหอะ! ไร้สาระสิ้นดี! ยิ่งคิดก็ยิ่งสมเพศตัวเอง ที่ถูกผู้ชายเจ้าเหล่แบบนั้นหลอกเอาได้ง่ายๆ แถมยังเชื่อที่เขาหลอกลวงมาทั้งหมดอย่างกับถูกสะกดจิต... ให้ตายสิ ตอนนี้เฝพวกเขาคงกำลังหัวเราะเยาะเธออยู่สินะ... แต่ก็สมควรแล้วล่ะ จะโทษใครก็ไม่ได้ นอกจากความโง่เง่าของตัวเอง
 
          ไม่มีใครจะโง่เกินไปกว่าฉันแล้วล่ะ.......
 
 
 
 
          พอลองนึกดูดีๆ...เรื่องราวอันแสนโหดร้ายเหล่านั้นก็ผ่านมานานพอสมควรแล้วล่ะเนอะ... ราวๆสัก 2 ปีกว่าๆเห็นจะได้แล้ว ตอนนี้พวกเราคงไม่ต้องมาพบมาเจอกันอีกแล้วล่ะ... กับผู้ชายเลวๆแบบนั้น
 
          เรื่องราวทุกอย่างนั้นก่อนขึ้นเมื่อตอนที่ฉันยังอยู่ ม.5 ตอนนั้นฉันสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่อังกฤษในเมืองๆหนึ่ง หลังจากที่ฉันไปอยู่ที่นั้นได้ราวๆอาทิตย์กว่า ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาจีบฉัน เขาหล่อมาก มากเสียจนฉันไม่คิดว่าจะมีผู้ชายรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้เข้ามาในชีวิตของฉัน ฉันดูท่าทีต่างๆของเขาเป็นเวลา 1 เดือนกว่าๆเห็นจะได้ พอลองประมาณแล้วเขาก็ทำดีต่อฉันทุกอย่างอย่างสม่ำเสมอก็เลยตอบตกลงคบไป แต่ในระหว่างคบกันเขากับทำในสิ่งที่ตอนตามมาจีบไม่ทำ แรกๆก็ให้เกียติฉันดีแต่หลังๆเริ่มจะครุกครามมากขึ้นเรื่อยๆ มีบ้างที่เผลอทำร้ายร่างกายฉัน พูดทำร้ายจิตใจ แอบหนีไปมีหญิงอื่น แถมยังบังคับให้ฉันสมยอมที่จะมีเซ็กซ์กับเขา ...แต่แน่นอนว่าสัญชาติหญิงไทยแท้ของฉันไม่คิดที่จะเสียตัวให้กับแฟนเพียงเพราะเขาอยากหรอกนะ เพราะมันเป็นไปได้สูงว่าเขาจะหลอกฟันแล้วทิ้ง แล้วมันก็ใช่จริงๆ จึงจะไม่ได้เข้าหาฉันด้วยจุดประสงค์นั้นแต่มันก็คือผลพลอยได้จากฉันไปด้วย นี่ถ้าฉันยอมเขาในตอนนั้นตอนนี้ฉันคงนึกสมเพศตัวเองมากกว่าเดิมเสียอีก!
 
          แต่ก็ต้องขอบคุณเหตุการณ์ในวันนั้นที่เป็นบทเรียนให้กับฉัน ฉันกลับมาไทยโดยเลือกที่จะไม่รับข้อเสนอของอาจาร์ยที่อยากจะให้ฉันเรียนที่นั้นต่อเสียเหลือเกิน แต่เชื่อเถอะคนอย่างฉันจะไม่กลับไปเหยียบที่นั้นอีกครั้งแน่นอน! ฉันเปลี่ยนแปลงตัวเองทุกอย่างตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งนิสัย และการแต่งตัว เห็นฉันแต่งตัวเฉิมๆแบบเมื่อก่อนไม่ใช้ว่าฉันยากจนอะไรหรอกนะ ฐานะทางบ้านฉันพูดได้เต็มปากเลยว่ารวยมาก เพราะคุณพ่อของฉันเป็นเจ้าของบริษัทสาขาใหญ่ที่มีหุ้นส่วนเยอะแยะมากกว่าและเป็นที่ต้องการของนักธุระกิจคนต่างๆที่อยากจะมาร่วมหุ้นด้วยแต่ฉันแค่ไม่อยากเอาเงินมาใช้ในสิ่งที่ไม่จำเป็นพวกนั้น แต่หลังจากกลับมาไทยพร้อมกับบทเรียนอันยิ่งใหญ่นั้นทำให้ฉันเลือกที่จะใช้เงินของคุณพ่อที่หามาไว้ให้แล้วเปลี่ยนแปลงจัวเองทุกอย่าง แว่นที่เคยใส่ก็เปลี่ยนไปใส่คอนแทคแทน แล้วก็ไปเข้าคลอสบำรุงผิวพรรณ์ใบหน้าต่างๆจนโพ่งใสสวยงาม รู้จักดูแลหุ่นอละผิวพรรณ์ใบหน้าโดยใช้ครีมต่างๆ และก็ไปเผาเงินกับการช็อบปิ้งเดินซื้อเสื้อสวยๆไม่เฉิม ฉันให้สำตร์ลิจช่วยดูแลเรื่องเสื้อผ้าใส่ยังไงให้เข้ากันกับทรงผมที่ต้องทำสีจัดทรงต่างๆให้เข้ากับชุด ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไปก็เพราะต้องการให้ตัวของฉันเองดูดีขึ้น แต่ก็มีเหตุผลลึกๆในใจที่คิดว่าถ้าบังอาจเอิญเจอกับผู้ชายเลวๆแบบาั้นเข้าเขาจะนึกเสียดายที่ทิ้งผู้หญิงดีๆแบบฉันไป แต่ถ้าเป็นแบบนั้นจริง...ฉันก็จะทำให้เขาหลงรักฉันและสบัดเขาทิ้งอย่างไม่ใยดีแบบที่เขาเคยทำกับฉัน!
 
          หึ! แต่ตอนนี้ฉันมีทุกอย่างที่ต้องการแล้ว เพิ่งขึ้นมหา'ลัยได้ไม่นานก็ได้เป็นทั้งดาวมหา'ลัยกับดาวคณะ ทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งเก่ง มีผู้ชายมากหน้าหลายตาต้องการฉันไปครอบครอง แต่ว่า...ไอผู้ชายพวกนั้นก็หวังจะเกาะฉันดังล่ะนะ หรือไม่ก็สูบไถเงินฉัน สรุปก็แค่ควงไว้เป็นหน้าเป็นตาของตัวเอง ไอฉันก็ไม่ได้โง่ที่จะให้คนอื่นหลอกซ้ำสองหรอกนะ
 
          "เกิดเป็นมิชานี่ดีจังนะ มีทั้งผู้ชาย มีทั้งเงินทอง หน้าตาก็ดีอีก น่าอิจฉาจริงๆเลยนะเธอน่ะ" ผู้หญิงหน้าตาน่ารักที่กำลังเดินอยู่ข้างๆฉันเอ่ยพูดขึ้นพลางยิ้มเล็กๆหลังจากกวาดสายตามองรอบๆทั่วแล้วก็เห็นหนุ่มๆมองมาทางพวกฉันแทบจะไม่กระพริบตา
 
          "เขามองมาทางเธอรึเปล่าเดน่า~" ฉันเอ่ยแซวเดน่านิดๆแต่เธอก็ส่ายหน้าปฏิเสธทันที เดน่าเป็นเพื่อนร่วมคณะของฉันเธอเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษหน้าตาก็น่ารักไม่ใช่เล่นก็ไม่แปรกที่จะโดนผู้ชายมารุมจีบ แต่ก็ชอบยังคิดว่าเขาเข้ามาจีบฉันอยู่เรื่อย เลยไม่มีแฟนสักที
 
          "เออนี่มิชา ฉันว่าจะถามเธอตั้งนานแล้ว ทำไมเธอถึงไม่รับข้อเสนอเรียนที่อังกฤษต่อล่ะ?" เดน่าเอ่ยถามอย่างสงสัย เธอรู้เรื่องที่ฉันเคยไปเรียนที่อังกฤษมาหนึ่งปี แต่เธอไม่รู้เหตุผลที่ฉันย้ายออกและกลับไทยโดยไม่รับข้อเสนอของอาจาร์ยใหญ่ที่อยากให้ฉันเรียนที่นั้นต่อเต็มแก่
 
          "ฉันมีเหตุผลที่ไม่อยากจะกลับไปเยียบที่นั้นอีกน่ะ" ฉันเอ่ยตอบด้วยใบหน้านิ่งเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาเพื่อให้เดน่าจับได้ว่ากำลังปิดบังอะไรร้ายแรงกับเธอรึเปล่า ฉันไม่อยากจะเล่าเรื่องที่เคยเกิดขึ้นตอนที่ไปอรียนต่อที่อังกฤษให้ใครฟัง และฉันก็ไม่ชอบจะขุดขุ้ยอดีตขึ้นมาเล่าให้ใครฟังด้วย เพราะยังไงมันก็เป็นแค่อดีต
 
          "งั้นเหรอ..." เดน่าเอ่ยตอบแบบพรึมพรำเล็กน้อยเหมือนกับว่าเธอพอจะเดาออกมาเรื่องที่ฉันกลับมาไทยโดยไม่รับข้อเสนอนั้นคงจะเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่อยากจะบอกให้ใครรู้ เธอจึงรีบจบประเด็นนี่ในทันทีก่อนจะเปลี่ยนเรื่องเป็นเรื่องอื่นแล้วก็ชวนฉันคุยต่างๆนาๆที่ไม่เกี่ยวกับการไปต่างประเทศหรือเกี่ยวข้องกับอังกฤษอีกเลย.. อันที่จริงฉันก็ไม่ได้คิดมากขนาดจะพูดอะไรเกี่ยวนิดเกี่ยวหน่อยไม่ได้หรอกนะ แต่ถ้าเดน่าสบายใจก็แล้วแต่เธอ
          "อันที่จริงฉันได้นิยข่าวมาแว๊บๆแหละ เห็นว่าจะมีนักเรียนแลกเปลี่ยนจากต่างชาติมาเป็นกลุ่มเลย!" เดน่าพูดอย่างตื่นเต้นเพราะเรื่องแบบนี้ก็หาได้ยากมาก นักเรียนแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่ก็จะมาทีละคนหรืออยากมากสุดก็แค่สองคนเท่านั้นแต่นี่มากันเป็นกลึ่มแสดงว่าพวกเขาทั้งหมดก็ต้องหัวดีมากพอๆกันทางมหา'ลัยเลยจัดให้มากันทีเดียวหมด... ถ้าให้ฉันเดาก็คงต้องเป็นโรงเรียนลูกคนรวยล่ะนะ เพราะการไปแลกเปลี่ยนดีก็ต้องออกค่าอะไรต่างๆนาๆด้วยตัวเองบางส่วน
 
          "งั้นเหรอ.. แล้วคนพวกนั้นเขามาเข้าคณะอะไรที่นี่ล่ะ?" ฉันเอ่ยถามขึ้นพลางมองเดน่าที่ตอนนี้กำลังเปิดหนังสือเพื่อดูอะไรสักอย่าง เดินไปอ่านไปมันไม่ดีต่อสายตานะ... หลังจากนั้นไม่นานเธอก็สะดุ้งเหมือนเพิ่งรู้ว่าฉันหันไปพูดกับเธอก่อนจะปิดหนังสือและหันมาคุยกับฉันต่อ ความรู้สึกช้าจังนะ...
 
          "คณะของพวกเรา" เดน่าเอ่ยถามนิ่งๆแต่กลับทำให้ฉันตกใจเล็กน้อย
 
          "ทุกคนที่มาแลกเปลี่ยนเลยน่ะเหรอ?"
 
          "ใช่"
 
          โอ้ว! ให้ตายเถอะโรบิ้น ช่วยบอกหน่อยสิว่าฉันหูฟาดนักเรียนแลกเปลี่ยนทั้งหมดนั้นน่ะนะเข้ามาคณะของฉัน นี่พวกเขาเรียนทางเดียวกันหมดเลยรึไงกัน? นี่ถ้าคำพูดประโยคนี้ไม่ได้หลุดออกมาจากปากของเดน่าแต่เป็นคนอื่นแทนฉันไม่มีทางเชื่อหรอกนะ อา..แต่ก็อยากรู้จังเลยน้าว่าพวกเขาจะเป็นคนแบบไหน เพื่อจะได้มีเพื่อนใหม่ๆกับเขาบ้าง ฮ่าๆ
 
 
 
 
 
 
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เพลิงรัก แรงแค้น : Into
จบกันไปแล้วกับ Into ~~~
หลังจากที่รินได้พยายามอัพจากโทรศัพท์อยู่หลายรอบให้จบ
ก็มิเป็นผลจนต้องมานั่งพิมพ์ต่อในคอม ;-;
รู้สึกว่า Into มันจะน้อยๆ -w-
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา