The trap of the heart กับดักของหัวใจ

9.6

เขียนโดย NannyCandy

วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 21.02 น.

  9 chapter
  416 วิจารณ์
  14.44K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2559 11.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3) HELP

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก

CHAPTER 02
แกร๊ก แกร๊ก…
 
 
 
            “ถ้ารู้ว่ามันออกไม่ได้ก็อย่าพยายาม”
 
 
 
          ฉันหยุดการงัดแงะที่ประตูก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งจิบไวน์อยู่บนโซฟาพลางดูทีวีด้วยท่าทางชิว ฉันปากิ๊ฟดำในมือก่อนจะเดินไปหาเขาด้วยความหงุดหงิด ในตอนนี้เขาเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อผ้าไปรเวทตามปกติไม่หวือหวาเหมือนก่อนหน้านี้ ฉันพยายามหาโทรศัพท์ห้องเขา โทรศัพท์เขาและกุญแจเปิดห้อง
 
 
 
แต่ก็นั่นแหละ เปล่าประโยชน์สุดๆ เขาเอาไปเก็บอย่างดีไม่โผล่มาให้ฉันเห็นสักนิด
 
 
 
            “เปิด!” ฉันชี้ไปที่ประตูปากตะคอกเขาด้วยสีหน้าจริงจัง
 
 
 
          เวลาก็จะดึกมากแล้ว ฉันใช้ความพยายามจนไม่รู้จะทำยังไง จะกระโดดลงไปชั้นล่างมันก็ใช่เรื่อง เพราะนี่มันชั้นสี่สิบ! พอฉันตะโกนเรียกคนมาช่วย ผลที่สุดเขาก็บอกว่าตะโกนไปคนข้างนอกก็ไม่ได้ยิน เพราะที่นี่เก็บเสียงดีที่สุดอันดับหนึ่งของคอนโดชั้นนำโอเค ฉันยอมใจกับที่นี่จริงๆ!
 
 
 
           “อยู่กับนายแบบชื่อดังลูกครึ่งญี่ปุ่นที่สาวๆ หลายคนยกให้ว่าอยากนอนด้วยที่สุด ไม่ดีเหรอ?”
 
 
 
          โทโมะ หันมาถามฉัน รอยยิ้มทุเรศนั่นมีเล่ห์นัยจนฉันอยากจะเอาเบื้องล่างขยี้ให้รู้แล้วรู้รอด ฉันถอนหายใจกรอกตาไปมาอย่างหน่ายๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ เขา โทโมะ มองฉันอย่างพอใจก่อนจะเขยิบมาใกล้ๆ และแน่นอนว่าฉันไม่เขยิบหนีเขา
 
 
 
            “จะเอาอะไรก็พูด” ฉันถาม
 
 
 
            “เอาได้เลยเหรอ O_O” โทโมะ ทำหน้าตาตื่นจนฉันต้องง้างมือเตรียมฟาดเขา                      
 
 
            “ตบมาก็เตรียมโดนกดจมตรงนี้ล่ะ ไม่ปราณีด้วย”
 
 
 
          คำขู่ของเขาได้ผลชัดเจน ฉันลดฝ่ามือลงก่อนจะผลักเขาให้ไปไกลๆ โทโมะ ปัดหน้าอกตัวเองด้วยรอยยิ้มและแววตาเจ้าเล่ห์ ฉันละเกลียดสีหน้าท่าทางเขาที่สุด มันดูแล้วขัดใจฉันเป็นบ้า
 
 
 
           “ฉันขอโทรศัพท์โทรหาแฟนหน่อย” ฉันแบมือไปทางเขา โทโมะหัวเราะออกมาเหมือนกับว่าสิ่งที่ฉันขอมันเป็นเรื่องตลก
 
 
 
            “หัวเราะอะไร”
 
 
 
            “จะโทรหาแฟนหรือตำรวจเอาดีๆ”
 
 
 
เขาไม่รู้ไปสักทุกอย่างจะได้ไหม
 
 
 
            “งั้นนายก็เปิดลำโพงโทรให้ฉัน ฉันจะไม่จับโทรศัพท์นายโอเคไหม ฉันจะโทรบอกเขาว่าวันนี้ฉันไม่อยู่คอนโดไม่ต้องมาหา แค่นี้”
 
 
 
และแน่นอนว่าฉันจะไม่พูดแค่นั้น ได้โอกาสก็ต้องฟ้องสิ รอบ้าอะไร
 
 
 
            “แล้วใครบอกว่าฉันจะให้เธอกลับพรุ่งนี้ล่ะ” โทโมะล้วงมือถือจากกระเป๋ากางเกงออกมาทำสีหน้ากวนๆ
 
 
 
            “หมายความว่าไง”
 
 
 
            “ปล่อยเธอ เธอก็ลากตำรวจมาจับฉันสิ ปล่อยให้โง่” โทโมะ ยื่นหน้ามาหาฉันจนฉันไม่ตั้งตัว  
 
 
 
            “เบอร์อะไร”
 
 
 
            “093-254-3xxx…”
 
 
 
          ฉันรีบบอกเขาไปทันที โทโมะ กดตามหมายเลขที่ฉันบอกไป ก่อนที่เขาจะเอาแนบหูตัวเองเพื่อฟังสัญญาณ ฉันกุมมือที่สั่นแน่น ขอร้องล่ะ ขอให้ต้าร์รับเบอร์แปลกทีเหอะ
 
 
 
            “อ่ะ..” โทโมะ ยื่นมือถือที่เปิดลำโพงแล้วเรียบร้อย เขาไม่ส่ายนิ้วไปมาเมื่อเห็นว่าฉันกำลังยื่นมือไปจับโทรศัพท์เขา ฉันรีบดึงมือกลับและกรอกคำพูดลงไป
 
 
 
            “ฮัลโหล ต้าร์นี่แก้วเองนะ...”
 
 
 
          ฉันทักคนปลายสายทันทีก่อนจะเหลือบตามองคนที่ถือมือถืออยู่ด้วยใจหวั่นๆ เขามองฉันไม่วางสายตา กดดันจังวะ
 
 
 
            (แก้ว เธออยู่ไหน ต้าร์ไปหาไม่เจอแก้วที่คอนโดเลย)
 
 
 
          น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยของแฟน ทำให้ฉันกัดปากแน่น ฉันควรรีบใช้จังหวะที่เผลอตะโกนบอกให้คนปลายสายรีบมาช่วยฉันสินะ…
 
 
 
จังหวะนี้แหละ!
 
 
 
            “ต้าร์!!! ช่วยดะ…”
 
 
 
พรึ๊บ!!
 
 
 
          มือถือในมือโทโมะ ถูกปาไปที่โซฟาเล็กอีกตัว ก่อนคนที่ปาจะผลักฉันลงและทำการปิดปากฉันด้วยปากเขา กลิ่นบางเบาของรสชาติไวน์บนริมฝีปากคนตรงหน้า ทำเอาฉันแอบเคลิ้มกับความหวานไปชั่วขณะ จนลืมไปว่าตอนนี้…
 
 
 
เขาจูบฉัน!
 
 
 
          การกดแน่นของริมฝีปากยังคงดำเนินเหมือนเสือกระหาย ฉันพยายามดิ้นเพื่อหลุดจากภวังค์ดังกล่าวแต่ก็สูญเปล่า แรงของเขามีมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่สิ้นพลังงานอะไรทั้งนั้น สองมือของเขาเริ่มลุกลามตัวฉันขึ้นเรื่อยๆ ฉันดึงเสื้อคนด้านบนเพื่อที่จะให้เขาออกจากตัวฉัน อุณหภูมิภายในห้องในตอนแรกยังปกติดีแต่ ณ ตอนนี้มันร้อนเกินจะเยียวยาไปหมดแล้ว ฉันไม่มีโอกาสได้เปิดปากพูดหรือด่าทอเขาอีก เพราะเขาครอบครองมันไปด้วยปากของเขา
 
 
 
อย่า…
 
 
 
          ฉันไม่อยากเป็นเหยื่อคนต่อไปต่อจากน้องสาวตัวเอง ขอร้อง
 
 
 
          ต่อให้น้ำตาที่ไหลอาบแก้มของฉันหลั่งมากเท่าไร ดูเหมือนว่าคนด้านบนฉันยิ่งเร่งมือที่จะลุกลามฉันมากเท่านั้น เราเจอกันครั้งแรกเองนะโทโมะ นายจะทำกับคนที่เจอกันครั้งแรกแบบนี้เหรอ
 
 
 
           “ฉันขู่เธอแล้วนะแก้ว…” โทโมะ ผละริมฝีปากออก ความแสบบริเวณรอบๆ ปากฉันทำให้รับรู้รสถึงความโสมมที่คนตรงหน้ามอบให้ฉันอยากแท้จริง เรี่ยวแรงของฉันหายไปในพริบตา แม้แต่จะดึงเสื้อเขาฉันก็ไม่มีแรง
 
 
 
            “อย่าเล่นตุกติกกับฉัน”
 
 
 
          โทโมะ ก้มลงกระซิบข้างหูฉัน ก่อนจะค่อยๆ จรดริมฝีปากบางของตัวเองไซร้ไล่ลงจากกกหูไปยังต้นคอ ลมหายใจอุ่นๆ ของคนด้านบนทำให้ฉันต้องเบี่ยงหน้าหลบเพราะความทรมาน เขาไม่มีจิตใจคิดถึงความรู้สึกคนอื่นหรือไง
 
 
 
           “ปล่อยฉัน”
 
 
 
           “…” คนด้านบนยังคงรุกหนักเรื่อยๆ จนฉันเริ่มหน้าชา
 
 
 
           “ขอร้องหยุดเถอะ ฉันยอมแล้ว”
 
 
 
          คนดานบนหยุดกิจกรรมความสนุกบนร่างกายฉันทุกอย่าง ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ดันตัวเองให้ลุกไปนั่งปกติ โทโมะคว้าแก้วไวน์ของตัวเองแล้วจัดการดื่มมันโดยทันที เขาวางแก้วก่อนจะลุกขึ้นหยิบมือถือของตัวเองเดินเข้าห้องนอนไปโดยไม่มองหน้า ฉันสักนิด ฉันรวบรวมสติทั้งหมดและสูดลมหายใจให้สุดปอด เหงื่อและน้ำตาฉันปะปนกันจนฉันต้องปาดมันทิ้งด้วยความรังเกียจ กลิ่นกายของหมอนั่นติดจมูกฉันจนไม่สามารถลบล้างมันออกได้
 
 
 
          ฉันลุกขึ้นนั่งตามปกติก่อนจะติดกระดุมคอเสื้อเชิ้ตของตัวเองให้กลับมาปกติ ฉันรวบผมขึ้นและมัดมันอย่างลวกๆ ฉันกำลังถูกกักขังทั้งๆ ที่ฉันมาขอร้องความเป็นธรรมเนี่ยนะ…
 
 
 
มันไม่ใจร้ายกันไปหน่อยเหรอ…
 
 
 
          ฉันไม่เคยเจออะไรที่เลวร้ายแบบนี้มาก่อน เพราะคบกับต้าร์อย่างมากก็แค่จูบ แต่ไม่ใช่การจูบที่รุนแรงและเผ็ดเดือดเหมือนคนกระหายอดยากอะไรแบบนี้…
 
 
 
          ฉันจับหน้าอกตัวเองเพราะมันเต้นแรงขึ้น มันเหนื่อยเหรอ หัวใจของฉันกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว
 
 
 
          พลันสายตาของฉันที่กำลังหาบางสิ่งบางอย่างก็ต้องสะดุดเข้ากับซองจดหมายสีขาว ฉันจัดการเปิดและอ่านมันโดยไม่รอขอเจ้าของห้องทันที มันคือกระดาษเอสี่ที่ถูกพิมพ์ด้วยตัวอักษรไม่กี่บรรทัดและประทับตราบริษัท ไว้ตรงท้ายจดหมาย
 
 
 
PHY ENT.
          ทางเราต้องขอหยุดการรับงานและโปรโมทนายแบบ นายโทโมะ วิศวะ ไว้เป็นเวลาสามเดือน เนื่องจากทางด้านตัวนายแบบสร้างชื่อเสียงในทางลบ จึงส่งผลกระทบต่อบริษัทเราค่อนข้างหนัก ทางเราจึงขอยุติงาน โฆษณา เดินแบบและนิตยสารของนายแบบดังกล่าว
 
 
 
          เมื่อฉันอ่านจบจึงพับมันลงก่อนจะเก็บใส่ซองวางไว้ที่เดิม…
 
 
 
          เขาปล่อยคลิปเองไม่ใช่เหรอ คนเราจะปล่อยคลิปเพื่ออะไร เพื่อให้ตัวเองไม่ได้ทำงาน เพื่อให้ตัวเองชื่อเสียงเสียหายเนี่ยนะ…
 
 
 
มันใช่สิ่งที่เขาต้องทำเหรอ
 
 
 
_____________________________________________________________________ 
มาอัพแล้ว เม้นโหวตกันหน่อยจ้าจุ้บบ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา