ขอบคุณความบังเอิญ2

7.3

เขียนโดย zeeto

วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.16 น.

  18 ตอน
  0 วิจารณ์
  17.98K อ่าน
แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

14) เรื่องบังเอิญ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          "พ่อครับแม่ครับสวัสวัสดีครับ" ผมเดินเข้ามาในบ้านของพัทธ์วันนี้เป็นวันหยุดทั้งพ่อและแม่เลยอยู่กันครบเหมือนเคย 
"หวัดดีจ่ะลูก มาหาพัทธ์หรอ" 
"ครับแม่ พัทธ์อยู่ไหมครับ"
"อยู่ๆ ปั่นผ้าอยู่หลังบ้านนู้นเลย ธัญกินไรมายังล่ะเดี๋ยวแม่จะทำให้กิน"
"ไม่เป็นไรครับแม่ งั้นผมขอตัวไปหาพัทธ์ก่อนน่ะครับ" ผมเดินเข้าไปหลังบ้านตามที่พ่อกับแม่บอกเมื่อเข้ามาถึงก็เห็นพัทธ์กำลังนั่งขัดอะไรอยู่ในกาละมังซักอย่าง 
"ไม่ปั่นเอาล่ะครับ" 
"อ้าวไอ้ธัญ"
"ทำไรอ่ะซักมือหรอ ไม่ปั่นเอา"
"อันนี้มันผ้าขาวปั่นแล้วสีมันหมองอีกอย่างไม่สะอาดด้วย"
"ออ เข้าใจแล้ว"
"ว่าแต่มาหากูมีไรเปล่าว่ะ วันนี้ไม่ไปดูพี่แบงค์หรอ"
"ก็คิดถึงไง ส่วนพี่แบงค์ออกจากโรงบาลกลับไปอยู่บ้านแล้ว"
"แล้วพี่แกเป็นไงบ้างว่ะ กูไม่ได้ไปเยี่ยมพี่แกเลยว่ะติดสอบแล้วก็ยุ่งๆด้วย"
"ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว เหลือแต่ช่วงนี้พี่แกดูซึมๆไปหน่อยว่ะ สงสัยเสียใจที่เพื่อนทำร้ายนั้นแหล่ะ"
"ก็จริง เพื่อนกันมาตั้งสามปีฝึกมวยมาด้วยกันอยู่ๆโดนหักหลังก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดา"
"อือ เออพัทธ์เดี๋ยววันนี้เราไปดูหนังกันป่ะเรากับพัทธ์ไม่ได้ไปดูหนังกันนานแล้วน่ะ"
"เอาดิ ว่าแต่ช่วงนี้มีหนังใหม่หรอว่ะ"
"มีดิ ก็เรื่องที่มีกัปตันอเมริกากับไอรอนแมนไง"
"เฮ้ยจริงดิ นี้กูไม่ได้อัฟเดรสหนังนานจนลืมไปเลยน่ะเนี้ย เออๆเดี๋ยวกูเอาผ้าไปตากรอแปบน่ะโว้ย"
"มาๆเดี๋ยวเราตากให้พัทธ์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเหอะ"
"เออ แต้งกิ้ว" พัทธ์ส่งตะกร้าผ้าให้ผมก่อนจะรีบล้างมือวิ่งขึ้นไปเปลี่ยนชุดทันที 
          ผมเช็ครอบหนังที่จะดูก่อนจะเดินไปซื้อตั๋วรอบที่กำลังจะถึงโชคดีจริงๆที่นั่งยังไม่เต็ม แถมแถวซีที่ปกติผมมักจะนั่งก็ยังมีที่เหลือว่างสองที่พอดี 
"เอาตรงไหนดีค่ะ"
"เอาแถวซีครับตรงที่เหลือสองที่พอดีเลย"
"เป็นแถวซีสิบเอ็ดสิบสองน่ะค่ะ" 
"ครับ" ผมยื่นเงินจ่ายก่อนจะรับบัตรดูหนังเดินกลับมาหาพี่นันที่ไปซื้อป๊อบคอนกับน้ำรออยู่ตรงทางเข้า
"ไปกันเถอะหนังจะฉายแล้ว" ผมกับพี่นันพากันเดินไปตรวจบัตรก่อนจะเข้าโรงหนังไปทันที ตอนแรกที่ชวนก็ลุ้นอยู่ว่าพี่นันจะยอมมาด้วยไหมแต่ก็ถือว่าหนังเขาดีจริงๆเลยทำให้พี่นันยอมมาด้วย
"ปรานต์ที่นั่งแถวไหนอ่ะ"
"ตรงนี้ครับพี่ แถวซีสิบเอ็ดสิบสอง"
"เคๆ อ่ะช่วยถือหน่อย" ผมรับแก้วน้ำก่อนจะเดินตามพี่นันเข้าไปนั่งที่เก้าอีของตัวเอง หนังจะฉายแล้วทำไมที่นั่งตรงนั้นยังไม่มีคนมา 
"ปรานต์ขอน้ำหน่อยดิ" 
"ครับๆ เออพี่ไอ้ที่นั่งข้างๆพี่ถ้าหนังฉายแล้วไม่มีคนมาพี่เอาของวางก็ได้น่ะ"
"จะบ้าหรอ เดี๋ยวเขาก็มาไปวางได้ไงเสียมารยาท"
"ครับบบบ" 
          ผมเดินรากไอ้ธัญที่เอาแต่เดินอืดอาดชักช้าจนตอนนี้หนังหน้าจะเริ่มฉายโฆษณาไปได้ซักพักแล้ว เพราะมันเอาแต่กินนั้นแหล่ะเลยทำให้ผมมาช้า ไม่รู้วันนี้มันไปอดอยากมาจากไหนปกตินี้เห็นทำอะไรไวแท้ๆ
"ค่อยๆเดินก็ได้พัทธ์"
"ก็มันช้าแบบนี้ไงเดี๋ยวก็ไม่ทันดูหรอกเร็วเลย"
"ครับๆ" ผมเดินเข้ามาในโรงหนังก่อนจะค่อยๆก้มขอโทษคนที่เดินผ่านเข้าไปที่เก้าอี้ 
"ขอโทษครับๆ" เสียงคนอื่นๆที่บ่นตามหลังเพราะเข้ามาช้า
"เฮ้ยย ขอโทษครับ" ผมเดินไปสะดุดคนที่นั่งใกล้กับเก้าอี้ของตัวเองก็จะหันไปขอโทษ 
"ไอ้พัทธ์ ไอ้ธัญ" 
"อ้าว ไอ้ปรานต์" 
"ไปนั่งก่อนไหมพัทธ์ ธัญ ข้างหลังเขาจะด่าเอา" พี่นันที่นั่งข้างๆเงยหน้าขึ้นมาบอกผมกับไอ้ธัญที่ยืนมองหน้าสองคนนี้ ผมรีบหันไปก้มหัวขอโทษก่อนจะพากันนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง
"นี้พี่มากันได้ไงอ่ะ" เสียงไอ้ธัญที่นั่งข้างๆพี่นันหันไปถาม
"ก็มาดูหนังดิว่ะ เงียบๆไว้หนังจบค่อยคุยคนอื่นเขามองมากันเต็มแล้ว"
"ขอโทษครับพี่" 
          มันเวรกรรมอะไรของผมเนี้ยเดตกับใครทีไรเป็นต้องมาเจอไอ้สองคนนี้ทุกที แล้วดูหน้าไอ้ธัญมันมองผมซิถึงแม้มันไม่พูดเพราะเดี๋ยวจะโดนพี่นันว่าแต่มันก็ยังมองมาทำหน้ากวนตีนใส่ผมเหมือนเคย 
"พี่นันเอาน้ำไหม"
"อือ เออปรานต์เอาป๊อบคอนไปกินทีดิอิ่มแล้ว" ผมรับกล่องป๊อบคอนจากพี่นันก่อนจะส่งแก้วน้ำไปให้แทน
"พี่มือเปื้อนเดี๋ยวผมเช็ดให้น่ะ" ผมจับมือพี่นันที่เปื้อป๊อบคอนมาเช็ดให้เบาๆก่อนจะหันไปยิ้มให้คนที่นั่งข้างๆ ที่พอมองผ่านไปกับเป็นสายตากวนประสาทจากไอ้ธัญที่ทำท่าทางล้อเลียนเหมือนเดิม 
"พี่นันไอ้ปรานต์นี้ดูแลพี่ดีป่ะ" เสียงไอ้ธัญกระซิบถามพี่นัน
"อือ เงียบก่อนเลยกูจะดูหนังไปสนใจแฟนมึงนู้น" ผมยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะเพราะไอ้ธัญโดนพี่นันไล่ให้ออกไปห่างๆ ปกติถ้าเป็นคนอื่นๆไอ้ธัญคงกวนไม่ยอมเลิกแน่แต่คราวนี้เป็นพี่นันไอ้ธัญเลยจ๋อยไปเลย ผมพูดแบบไม่มีเสียงใส่ไอ้ธัญที่มองมา ...สมน้ำหน้า... 
          "พี่นันหนังสนุกเนอะผมชอบฉากนั้นมากเลยที่กัปตันอเมริกาสู้กับไอรอนอ่ะ เห็นแล้วเศร้าเหมือนกันเนอะสงสารไอรอนมากเลย" เสียงพัทธ์กับพี่นันเดินคุยเรื่องหนังกันไปสองคนปล่อยให้ผมกับไอ้ปรานต์เดินตามหลังมา ตอนนี้อยู่ๆผมกับรู้สึกเหมือนดูหนังม้วนเดิมยังไงก็ไม่รู้ 
"ไอ้ปรานต์"
"อะไร"
"มึงว่าฉากนี้คุ้นๆไหมว่ะ"
"ฉากไหนที่ไอรอนแมกับกัปตันอเมริกาสู้กันอ่ะหรอ"
"เปล่า กูหมายถึงฉากที่กูกัมึงต้องมาเจอกันที่โรงหนังเนี้ย" เหมือนไอ้ปรานต์จะนึกขึ้นมาได้ว่าครั้งหนึ่งผมกับมันก็เคยมาบังเอิญเจอกันในโรงหนังนี้แหล่ะ แต่ตอนนั้นผมไม่ได้มากับพี่นั้นแต่เป็นไอ้ดรัน 
"เออว่ะ โรงเดิม ที่เดิม เวลาเดิม"
"ใช่ไหม นี้มันเรื่องบังเอิญเปล่าว่ะ"
"ไม่รู้ดิ"
"แต่กูว่าน่ะ เรื่องังเอิญ ที่เดิม เพิ่มเติมคือมึงมีพี่นันไง" 
"ไอ้สึ...กวนตีนน่ะมึงเดินไปเลยไป" ผมหันไปทำหน้าล้อเลียนไอ้ปรานต์ก่อนจะวิ่งเดินไปกระโดดกอดคอพัทธืที่เดินไปกัพี่นันข้างหน้าปล่อยให้ไอ้ปรานต์เดินตามมาทีหลัง
          ผมนั่งเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อจะเขียนทหนังสั้นเพื่อถ่ายเป็นส่งงานอาจารย์แต่เหมือนกับมือของผมไม่ได้้กดพิมพ์อะไรลงไปบนหน้ากระดาษแม้แต่ตัวเดียว แทบหน้าจอที่กระพริบอยู่กัที่ เพลงที่เปิดเาๆกับไม่รู้สึกเข้ามาในหัวของผมเลยซักนิด วันนี้ผมกับเพื่อนในกลุ่มนัดกันมาทำงานที่คณะเหมือนกับทุกครั้งที่ต้องส่งงานกลุ่มไม่จะไม่ค่อยไปนัดกับเพื่อนที่ไหนเพราะส่วนใหญ่ก็นัดที่มหาลัยนี้แหล่ะนอกากจะใช้ไฟฟรีก็ยังมีห้องสมุดให้หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ 
"ไอ้ซัน มึงเป็นไรว่ะทำไมไม่เขียนซักทีบทมึงเนี้ย"
"ห่ะ? เออๆโทษทีว่ะ"
"แล้วนี้มึงเป็นไรเนี้ยใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว"
"เปล่าๆ เออไอ้บอสมึงเขียนบทได้เปล่าว่ะเดี๋ยวกูไปหาข้อมูลที่ห้องสมุดเพิ่มเอง"
"อะไรของมึงเนี้ย มึงก็รู้ว่ากูเขียนบทเป็นที่ไหน แล้วนี้มึงเป็นอะไรว่ะ"
"กูไม่มีสมาธิว่ะ ว่าแต่ไอ้ชลกับไอ้เวฟไปไหนกัน"
"พวกมันไปซื้อของเดี๋ยวก็มา"
"ออ อือ"
"ไอ้ซันกูว่าพักนี้มึงแปลกๆน่ะตั้งแต่หลังกีฬาคณะมา มึงดูใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยว่ะ"
"หรอว่ะ"
"กูถามมึงจริงๆน่ะ มึงจะตอบกูหรือไม่ตอบก็ได้แต่อย่างน้อยๆกูว่ามึงระบายอะไรออกมาบ้างก็ดีน่ะมึงเป็นแบบนี้กูไม่โอเคว่ะ"
"อือ แล้วมึงจะถามอะไรกู"
"มึงกับไอ้แบงค์ตอนนี้ยังไงกันว่ะ วันที่ต่อยมวยกูเห็นมึงงดูเป็นห่วงมันมากเลยมึงรู้ตัวป่ะ"
"เออกูรู้ เอาจริงๆกูสารภาพว่ากูชอบไอ้แบงค์ตอนแรกกูแค่ไม่แน่ใจแต่ตอนนี้กูว่ากูชอบมันจริงๆ"
"แล้วมึง ได้บอกมันเปล่าว่ะ"
"กูบอกกับมันไปแล้ว"
"แล้วไอ้แบงค์มันว่าไง"
"ไม่รู้ดิมันไม่ตอบอะไร แล้วกูก้ไม่กล้าสู้หน้ามันด้วย"
"อะไรของมึงว่ะ กล้าสารภาพแล้วทำไมไม่ลุยเลยว่ะกลัวอะไร"
"กลัวคำตอบมันไง แค่นี้กูก็รู้สึกว่ามันรังเกียจกูจะแย่แล้วกูไม่กล้าไปถามมันต่อหรอก"
"เออกูเข้าใจ อย่างน้อยๆมึงก็ได้บอกความรู้สึกไปแล้ว อย่าคิดมาก"
"ขอบใจมึงน่ะ มาๆทำงานกันต่อเถอะ
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา