ตำนานจ้าวยุทธภพ

4.4

วันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 00.28 น.

  7 ตอน
  142 วิจารณ์
  21.16K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) ศึกชิงคัมภีร์จิ่วหลง บทที่ 5

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่ 5
 
           เมื่อผู้ที่มาใหม่สามารถสร้างบาดแผลให้กับชายอาวุโสทั้ง 3 ภายในพริบตา ในขณะที่
 
ทั้ง 3 กำลังตั้งท่าเตรียม ฟาดฟันใส่กันอีกระลอก ตอนนี้ ก็กลายเป็น อาวุโสทั้ง 4 ยืนจ้องกัน นิ่ง
 
ไม่ไหวติง อยู่กันคนละมุม ในขณะที่ อาวุโสทั้ง 4 ยืนจ้องกันอยู่นั้น ลมที่เกิดจากพลังลมปราณ
 
ของทั้ง 4 ก็ได้พัดทะยาน เข้ามา จากมุมของแต่ละคน จนมาบรรจบกันกลายเป็นพายุหมุน
 
ขนาดย่อมอยู่ตรงกลาง ระหว่าง อาวุโสทั้ง 4 คน ทำให้ ซื่อหลาง หลิงหลง เฉินกัง และ ชิง ชิง
 
ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ซวนเซกันไปเพราะแรงพลังลมปราณ ในขณะที่ เฉินกัง กับ ชิงชิง ไม่อาจ
 
ต้านทานได้จึงรีบหาทางหลบออกจากรัศมีแห่งการต่อสู้อันดุเดือดนี้ ส่วนซื่อหลางกับ หลิงหลง
 
นั้น เมื่อตั้งหลักได้ทั้งสองก็เกร็งลมปราณตั้งรับทันที สถานการณ์ตอนนี้ หากมีผู้ใดย่างกายผ่าน
 
เข้ามาร่างกายคงไม่อาจต้านทาน พลังลมปราณนี้ได้ เมื่อมี พลังลมปราณของซื่อหลางและหลิง
 
หลง เพิ่มเข้าไปอีกทำให้ พายุลมปราณลูกนี้ หมุนเร็วและเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้น สรรพสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่
 
ละแวกนั้น ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่นผง เศษใบไม้ ร้านค้าแผงลอย ต่าง ๆ ได้ปลิวไปตามแรงลมปราณ
 
และในที่สุดก่อนที่พายุลมปราณนี้จะสงบมันก็ได้ระเบิดออก ส่งผลให้ทั้ง 6 คน กระเด็นกันไปคน
 
ละทิศคนละทาง เมื่อพายุลมปราณสงบ ทั้งหมดจมอยู่ในทะเลฝุ่นและ กำลังพยายามตะเกียก
 
ตะกาย ลุกขึ้น ชายถือดาบก็พูดขึ้นว่า
 
หลิวเต๋อหัว :      หึ หลอเจียเหลียง ฝีมือเจ้าก้าวหน้าไปเยอะ หนิ แต่ยังไงก็เอาชนะข้าไม่ได้หรอก

หลอเจียเหลียง :   เฮอะ เจ้าต่างหากที่ยังไงก็ไม่มีทางล้มข้าได้หรอก เจ้านี่ยัง ชอบพูดจาโอ้อวด
 
ตั้งแต่ หนุ่มยันแก่เลยนะเนี่ย แย่ นิสัยแก้ไม่หาย

หลิวเต๋อหัว :     หน่อยแนะ! เจ้า ๆ ก็ยัง ปากเสียเหมือนเดิมเลย ยิ่งแก่ก็ยิ่งปากเสียมากขึ้นมาก
 
ขึ้น

หลอเจียเหลียง :   นิ่ๆๆๆๆ เจ้า ๆ(ชี้หน้าหลิวเต๋อหัว)


เฉินเฮ่าหมิน :  อามิตาพุทธ (เข้าไปหย่าศึก) พี่หลิว (ยกมือคารวะ) พี่หลอ(ยกมือคารวะ) พวก
 
ท่านทั้งสองก็พอกันนั่นแหละนาน ๆ ทีพวกเราจะมาเจอกันนะอย่างมีเรื่องกันเลย อาตมาว่า พวก
 
เราไปหาที่นั่งจิบน้ำชา ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันดีกว่านะ แล้ว พวกเราต้องไปทำ แผลกัน
 
สักหน่อยละ (มองดูที่แขนของตัวเองและแขนของทั้ง2คน)

หลิวเต๋อหัว :      เอ่อ ใช่จริงด้วย ข้าเห็นแก่ท่านหรอนะ ไต้ซือเฉิน(ยกมือคารวะ)

ซือไท่หลิน :      ข้าก็เห็นด้วยนะ พวกเราจากกันไป 20 ปี คงมีเรื่องให้ต้องพูดคุยกันเยอะ เลยที
 
เดียว ไต๋ซือเฉิน พี่หลอ พี่หลิว (ยกมือคารวะเรียงกันเลย)

หลอเจียเหลียง :   (ยกมือคารวะ) ซือไท่หลิง ข้าก็ว่าอยากนั้น หลังจากที่ท่านได้สร้างบาดแผล
 
ไว้ให้พวกเรา

ซือไท่หลิน :      อะเดี๋ยวก่อน พวกท่านข้าว่า เราน่าจะชวน หนุ่มน้อย 2 ท่านนี้ ไปร่วมดื่มกับเรา
 
ด้วยนะ

เฉินเฮ่าหมิ่น :   อ่อ อาตมา เคยพบหนุ่มน้อยทั้ง 2 นี่ ที่โรงเตี๊ยม เหม่ยลี่ อาตมาก็รู้สึกถูกชะตา
 
ด้วย ข้าก็เห็นด้วยนะ

หลอเจียเหลียง :   ข้าก็อยากรู้จัก เด็กหนุ่มที่มีลมปราณแข็งแกร่ง อย่างนี้เหมือนกัน มีเด็กหนุ่ม
 
น้อยคนนักที่จะทนต้านทาน พลังลมปราณของพวกเราได้

หลิวเต๋อหัว :      งั้นจะช้าอยู่ ทำไม ข้าว่า เราไปชวนพวกเค้ากันเลยดีกว่า

                   แล้วทั้ง 4 ก็เดินเข้ามาหาหลิงหลงและซื่อหลาง ในขณะที่ ซื่อหลางกำลัง ช่วยพยุง
 
หลิงหลงลุกขึ้นอยู่ อาวุโสทั้ง 4 ซึ่งตอนนี้กำลัง คิดอยู่ว่า ทั้งซื่อหลางและหลิงหลงต้องไม่
 
ธรรมดาแน่ เพราะว่ามีพลังลมปราณที่แข็งแกร่งเพียงนี้อาจจะเป็นศิษย์เอกจากสำนักดังที่ไหน

สักแห่งก็เป็นแน่ หากได้พบปะพูดคุยกันก็อาจะรู้ได้ ทั้งหมดจึงชวน หลิงหลงและซื่อหลางไปดื่ม
 
น้ำชาที่โรงเตี๊ยม เหม่ยลี่ ทั้ง 2 จึงตอบตกลงทันที แล้วทั้ง 4 ก็ผลัดกันตั้งคำถามใส่
 
ซื่อหลางและหลิงหลง
 
ซือไท้หลิน :      ไม่ทราบว่า เจ้าทั้งสองคน มีชื่อเสียงเรียงนามว่าอะไร

ซื่อหลาง :             ข้าน้อย ซื่อหลาง (ยกมือคารวะ) คารวะ ท่านอาวุโสทั้ง 4

หลิงหลง :         ข้าน้อย หยางหลง (ยกมือคารวะ) คารวะ ท่านอาวุโสทุกท่าน

หลิวเต๋อหัว :      ไม่ทราบว่า เจ้าทั้ง 2 ไปร่ำเรียน วิชาวรยุทธมาจากสำนักไหนกัน
 
(มองซื่อหลางก่อน)

ซื่อหลาง :             เอ่อ ข้าไม่ได้เรียนวิชามาจากสำนักไหนหรอ แต่ข้าเรียนกับอาจารย์ท่านนึง
 
ท่านเป็นคนประหลาด ไร้ชื่อไร้นาม ข้าเคยถามเท่าไหร่ ท่านอาจารย์ก็ไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร
 
(โกหกหน้าตายปิดบังความจริงไว้ก่อน)

หลิวเต๋อหัว :      แล้วเจ้าละ

หลิงหลง :          ข้าก็ไม่ได้เรียนจากสำนักไหนเหมือนกัน แต่ข้าเรียนกับ อาจารย์หญิง ท่าน
 
นึง…

หลอเจียนเหลียง :               อาจารย์หญิง

หลิงหลง :          นางเป็นคนสวยมากใจดีสอนวรยุทธข้าจนหมด......

เฉินเฮ่าหมิ่น :   งั้นนาง ชื่ออะไรนางเป็นใครมาจากสำนักไหนกัน

หลิงหลง :          คือ... ข้าเองก็ไม่รู้...

ทุกคน :     หมายความว่าไง ไม่รู้อะ

หลิงหลง :          ก็อาจารย์หญิ่งข้าเป็นใบ้นะครับ

ทุกคน :     เป็นใบ้

หลิงหลง : แฮะ ๆๆ (ยิ้มแห้ง ๆ ) ครับเป็นใบ้ (โกหกอีกคนแระ)

หลิงเต๋อหัว :      (คิดในใจ) เฮอะ เจ้าเด็กแสบพวกนี้ คิดหรอว่าข้าจะโง่เชื่อพวกเจ้าอะ อีกคน
 
บอกอาจารย์เป็นพวกไร้ชื่อไร้นาม อีกคนก็ว่า อาจารย์เป็นใบ้ น่าสงสัยจริง ๆ

ซือไท่หลิน :      (คิดในใจ) ไม่บอกก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้าจะหาวิธีให้เจ้าเผยเคล็ดวิชาออกมาเอง

เฉินเฮ่าหมิ่น :   (คิดในใจ) ทำไมถึงต้องปิดบังด้วยนะต้องมีอะไรแน่ ๆ

หลอเจียเหลียง :   (คิดในใจ) พลังลมปราณขนาดนี้ผู้ที่เป็นอาจารย์จะต้องไม่ธรรมดาแน่

                   ทั้ง 4 ได้แต่คิดในใจ กำลังสงสัยว่าทั้ง 2 คนไปร่ำเรียนวิชามาจากไหนกันเพราะ
 
ใน ยุทธภพนี้ ผู้ที่มีวิชาแข็งกล้า และมีพลังลมปราณแข็งแกร่งได้ขนาดพวก อาวุโสทั้ง 4 ก็มีไม่
 
มากนัก

เฉินเฮ่าหมิ่น :   ถ้ายังไง พวกเราขอให้ พวกเจ้า ชี้แนะ ด้วย (แล้วคิดในใจต่อว่า) เราอาจจะได้
 
เห็น วิชาประจำตัวก็ได้

หลิงหลง :          (คิดในใจ) อืม ถ้าเราได้เห็นกระบวนท่า ของเจ้าหมอนี่ อีกครั้ง ละก็เราอาจจะรู้
 
ที่มาของเจ้าหมอนี่ก็ได้นะ ยังไงข้าก็ต้องให้เจ้าหมอนี่ รับไปก่อนดูสิเจ้าหมอนี่จะมีวิธีรับมือกับ
 
อาวุโสทั้ง 4 ยังไง (เมื่อคิดแล้วก็เลยพูดขึ้นทันที) เออ.. จริงด้วยพี่ซื่อหลาง ข้าก็อยากเห็น
 
เหมือนกัน ท่านนะ ฝีมือร้ายกาจมากเลย เชิญ เชิญ

ซื่อหลาง : (คิดในใจ) หน่อยเจ้าหมอนี่รีบเชียวนะ (แล้วก็พูดขึ้นว่า) ถ้าอย่างนั้น ผู้อาวุโส เชิญ

ชี้แนะด้วย (ยกมือคารวะ)

                   ว่าแล้ว ซื่อหลางก็ลุกขึ้นจากโต๊แล้วก็เหาะเหินขึ้นไปบนหลังคาโรงเตี๊ยม ทันที
 
อาวุโสทั้ง 4 ก็เหาะเหินตามขึ้นไป ส่วนหลิงหลงกำลังจะเหาะตามขึ้นไปดู ก็ต้องชะงักเมื่อ ชิง ชิง
 
กับ เฉินกังที่ นั่งอยู่ด้วยกันที่โต๊ะถัดไปอีก 3 ตัว เรียกไว้

ชิงชิง :     เออ..คุณชายท่านจะไปไหนอีก ละ ข้าจะได้ตามไปถูกอะ วันนี้ทั้งวันข้าก็ตามหาท่าน
 
มาทั้งวันละนะ

เฉินกัง :    อืม ใช่ คุณชายหยาง แล้วคุณชายของข้าละ เค้าไปไหนอีกแล้วละ

หลิงหลง :          เออ.. ๆ พวกเจ้ารออยู่นี่ไปก่อนนะ เดี๋ยว ข้าก็กลับมาละ ไปก่อนนะ

                   แล้วหลิงหลงก็เหาะเหินขึ้นไปนั่งดูเหตุการณ์อยู่บนหลังคา ตอนนี้ บรรยากาศบน
 
หลังคาเริ่ม สีสัน ทั้ง 5 คน ยืน ทำมุน 5 เหลี่ยมกับ อยู่บนหลังคา

หลิวเต๋อหัว :     เชิญ ชี้แนะได้ ไม่ต้องเกรงใจ

                   ว่าแล้ว อาวุโสทั้ง 4 ก็พุงเข้าหา ซื่อหลางทันที ทุกคนต่าง พยายามให้ซื่อหลาง
 
เผยเคล็ดวิชาประจำตัวออกมา เริ่มจากซือไท่หลิน ที่บุกเข้าหาซื่อหลาง หลินซินหยู หรือ       
 
ซือไท่หลิน เป็นหนึ่งด้านวิชาแซ่พิฆาต สามารถปริดชีพศัตรูได้ในพริบตา นางสะบัดแซ่ใส่      
 
ซี่อหลาง ซื่อหลาง หมุนตัวหลบแซ่ แต่ ซือไท่หลินก็ตามประชิด ซื่อหลาง แล้ว หลิวเต๋อหัว   
 
หลอเจียเหลียง และ ไต้ซือเฉิน ก็ตามเข้ามาสมทบกับ ซือไท่หลินอีก ตอนนี้ อาวุโสทั้ง 4 กำลัง
 
รุม ซื่อหลาง เพื่อบีบให้ซื่อหลางเผย เคล็ดวิชาออกมา
 
............................................................................................................
 
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดรอติดตามด้วยนะค่ะ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
3.1 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
3.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา