นักสืบชิดชัยกับคดีฆาตกรรมปริศนา

7.7

เขียนโดย miracle

วันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เวลา 01.07 น.

  10 chapter
  18 วิจารณ์
  21.28K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) กำเนิดนักสืบคิด ตอนที่ 2: ลางร้าย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 2: ลางร้าย

ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่ใครๆ คิดเสมอไป บางคนอาจจะเจอกับสิ่งดีดีมาทั้งชีวิต แต่เมื่อมาพบกับสิ่งเลวร้ายสักครั้งอาจทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปไม่มีวันเหมือน เดิม เหมือนกับผมในตอนนี้ แม้ที่ผ่านมาชีวิตของผมจะเต็มไปด้วยความน่าเบื่อเท่าใดก็ตาม แต่ก็ไม่ได้มีสิ่งที่ต้องทำให้ผมต้องมานั่งกังวลใจกับมันเท่าไรนัก


การตายของเมย์ทำให้ใจของผมสั่นไหวไม่ เป็นจังหวะ ประกอบกับความประจวบเหมาะกับที่บัตรประจำตัวของผมหายไป ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจว่าบัตรประจำตัวที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุนั้นเป็นของผม แน่นอน และอีกไม่กี่ชั่วโมงตำรวจทั่วทั้งออสเตรเลียจะต้องตามหาตัวผมให้วุ่นเป็นแน่ ตอนนี้ถึงแม้ผมจะเสียใจกับการตายของเมย์แค่ไหน แต่สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้สำหรับผมที่ควรจะทำมากกว่าการสียใจ นั่นก็คือ การจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่เลวร้ายถึงขีดสุดแบบนี้ได้ยังไง ตอนนี้รอเพียงฟังข่าวจากสื่อต่างๆเท่านั้น ถ้าเป็นไปตามที่ผมคิด ผมก็คงจะเหลือทางเลือกเพียงสองทาง ทางที่หนึ่งก็คือ มอบตัวซะแล้วให้ตำรวจเค้าจัดการทั้งหมด อีกทางหนึ่ง นั่นก็คือหนีแล้วหาคนที่จัดฉากให้ผมเป็นฆาตกรซะ เหมือนที่ในหนังนักสืบส่วนใหญ่เค้าทำกัน


ผมกลับมาที่ห้องเก็บสัมภาระสักหน่อย เพื่อเตรียมตัวรับสถานการณ์ฉุกเฉิน เพราะถ้าเกิดเป็นจริงขึ้นว่าผมคือฆาตกรแล้ว การมอบตัวต้องไม่ใช่ทางที่ถูกต้องแน่ๆ  ขณะที่ผมกำลังเก็บสัมภาระอยู่ บังเอิญเหลือบมองไปเห็นอะไรสักอย่างวางอยู่ใต้หมอนของผม ผมจึงหยิบมาดูเป็นจดหมายฉบับหนึ่งสีขาว ไม่ได้จ่าหน้าซองถึงใคร แต่ที่แน่ๆมันอยู่ในห้องผม มันต้องส่งมาหาผมแน่ๆ ผมเปิดออกข้างในมีกระดาษเอสี่หนึ่งแผ่น ผมคลี่ออก เห็นตัวอักษรภาษาอังกฤษตรงกลางหน้ากระดาษเขียนด้วยตัวอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ทั้ง หมด และข้างล่างคำนั้นยังมีประโยคภาษาอังกฤษอีกหนึ่งประโยค ทั้งหมดเขียนด้วยสีแดง ซึ่งผมมั่นใจว่านี่ต้องเป็นเลือดแน่ๆ เขียนว่า


“LOOKS”


No matter where you are, I am watching you.


ซึ่งอ่านได้ใจความว่า “มองดูให้ดี ไม่ว่าแกจะอยู่ไหน ฉันกำลังมองแกอยู่” เมื่ออ่านจบ มันทำให้ผมขนลุกไปทั่วทั้งตัวเพราะคำว่า “มองดูสิ” เป็นคำเดียวกับที่ฆาตกรสลักไว้บนแขนของเมย์เท่าที่ผมจำได้จากข่าวเมื่อเช้า นี้ นี่เห็นได้ชัดว่ามีใครบางคนต้องการที่จะเล่นตลกกับผมอยู่แน่นอน แต่นี่มันเกินไปแล้ว ผมครุ่นคิดว่าผมเคยไปทำอะไรให้ใครถึงขนาดที่ว่าจะต้องจัดฉากให้ผมฆาตกรรม ผู้หญิงที่ผมรักมากที่สุดในชีวิตด้วย คิดแล้วคิดอีกก็ไม่มีสิ่งใดผุดขึ้นมาในหัวของผมเลย ขณะที่ผมคิดไม่ตกอยู่นั้น ผมเห็นรูปเมย์ ผู้หญิงที่ผมรัก วางอยู่ที่หัวเตียง ผมหยิบขึ้นมาดู แล้วน้ำตาผมก็เริ่มไหลริน ผมมองดูรูปของเธอ ในใจก็คิดแต่ว่า ทำไม ทำไมต้องเป็นเธอด้วยเมย์ ทำไมเราสองคนต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย ทันใดนั้นผมก็ได้ยินเสียงรถจอดที่หน้าบ้าน ผมมองออกไปทางหน้าต่าง เห็นรถของแมททิว เจ้าของบ้านที่ผมอยู่ และรถตำรวจอีกสองคัน อยู่หน้าบ้าน ผมเห็นตำรวจสี่คนชักปืนออกมาจากซอง เตรียมพร้อมไว้เผื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน แล้วตำรวจคนหนึ่งก็เริ่มพูด


“เค้าอยู่ที่นี่ใช่ไหม คุณเป็นผู้ปกครองและให้ที่พักแก่เขาใช่ไหม” ตำรวจนายนั้นถาม


“คิด เค้าเป็นเด็กดี เค้าไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้น แล้วผมก็ไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้เค้าจะอยู่ที่นี่หรือเปล่า” แมททิวตอบ


“คนที่เราคิดว่าดี อาจจะไม่ได้ดีเสมอไปก็ได้นะครับ คนที่คุณคิดว่าดี อาจจะฆ่าคนตาย หรือทำผิดมาไม่รู้กี่ครั้งแล้วก็ได้”  ตำรวจอีกนายหนึ่งเสริม


“หุบปาก ผมรู้ของผมดี เค้าเพิ่งจะสิบสี่ สิบห้าปี คิดไม่ใช่คนแบบนั้น แน่นอน แล้วคุณก็ยังมั่นใจไม่ได้ว่าเค้าคือฆาตกร เพียงแค่ว่าเห็นบัตรประจำตัวของเค้าอยู่ในที่เกิดเหตุเท่านั้น ระวังคำพูดของพวกคุณด้วยคุณตำรวจ”  แมททิวพูดน้ำเสียงโมโหสุดขีด นั่นทำให้ผมซึ้งในน้ำใจของแมททิวมาก ผมตัดสินใจถูกแล้วล่ะที่ย้ายมาที่นี่


“โอเค ใจเย็นคุณแมททิว ตอนนี้กรุณาเปิดบ้าน ให้เราเข้า สำรวจได้แล้ว”  ตำรวจบอก


“ไม่มีคนอยู่บ้านหรอกปกติเวลานี้เค้าจะ ไปเล่นบาสเก็ตบอลที่โรงเรียน หรือไม่ก็ไปหาเพื่อนในเมือง” แมททิวตอบตำรวจนายนั้น


“ฉันกำลังจะเข้าไป ฉันจะเข้าแล้วนะ”  แมททิวพูดเหมือนกำลังจะบอกให้ผมรู้ตัว แล้วหนีไปซะ


ผมหยิบรูปเมย์และซองที่คนร้ายนำมาวาง ไว้ที่ห้องของผมใส่กระเป๋า แล้วเดินอย่างเงียบๆ ออกไปทางประตูหลัง ผมเดินอ้อมสระว่ายน้ำที่อยู่หลังบ้านไปถึงรั้วที่ต่อกับอีกบ้านหลังหนึ่ง เป็นโชคดีของผมที่รั้วบ้านในซิดนีย์นั้นค่อนข้างจะต่ำทำให้ผมข้ามไปได้โดย ง่าย เมื่อผมข้ามออกไปหลังบ้านของอีกฝั่งหนึ่งแล้ว ผมเดินลัดออกไปทางหน้าบ้านเพราะผมจำได้ว่ามีถนนตัดผ่านไปถึงถนนใหญ่อยู่ เมื่อถึงถนน ผมวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ลงไปถึงเมืองข้างล่าง ใช้เวลาประมาณ สิบนาที แล้วผมก็ป้ายรถเมล์ ผมหยุดหายใจสักครู่ และดูเวลาที่ตารางเดินรถ ผมเลือกขึ้นรถ สายL90 ซึ่งเป็นสายด่วนที่จะพาผมไปถึงในเมืองได้ภายในหนึ่งชั่วโมง ผมมองดูเวลา ตอนนี้เวลา หนึ่งทุ่มสิบนาที รถคันต่อไปจะมาในอีกห้านาที  รถสายนี้เป็นรถที่วิ่งค่อนข้างไกล คนขึ้นค่อนข้างเยอะดังนั้นรถจะเป็นแบบสองตอน โชคดีที่วันนี้เป็นวันพฤหัสบดีไม่ค่อยมีคนขึ้นเท่าไรนักในตอนเย็น ผมขึ้นมานั่งที่นั่งด้านในเกือบสุดทางเดิน เป็นบริเวณที่ติดอยู่กับประตูทางลงด้านหลังพอดี เผื่อมีอะไรเกิดขึ้นผมจะได้วิ่งหนีได้ทัน ผมมองออกไปด้านนอก เห็นรถตำรวจเปิดไซเลน สองสามคันวิ่งผ่านรถที่ผมอยู่ไป ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วว่าผมกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมเมย์ แล้วแน่นอน ตอนนี้สิ่งที่ผมควรทำคือหาทางหนีเอาตัวรอด แล้วสืบหาคนที่ทำกับผมแบบนี้ เพราะผมคิดว่าคนที่ทำแบบนี้กับผมต้องเป็นคนที่ผมรู้จักดี หรือเคยพบมาก่อนแน่นอน เพราะในใจความที่อยู่ในจดหมาย เขียนไว้อย่างชัดเจนว่า “ไม่ว่าแกจะอยู่ที่ไหน ฉันกำลังมองแกอยู่” แต่ตอนนี้ สิ่งที่ต้องทำก่อนคือหาที่พัก และคนที่ไว้ใจได้ ซึ่งผมคิดถึงอยู่แค่คนเดียวในตอนนี้คือ หนุ่ย เพื่อนที่ผมสนิทที่สุด และเป็นคนไทยเหมือนผมเท่านั้นเอง ผมหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อที่จะโทรหาหนุ่ย เห็นมีหนึ่งข้อความที่ผมยังไม่ได้เปิดอ่าน ส่งมาจากแมททิวโฮมสเตย์ ที่ผมอาศัยอยู่ ส่งมาว่า


“Good luck my son”


(โชคดี ไอ้ลูกชาย)


ผมแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เพราะในโลกนี้ นอกจากครอบครัวของผมและแมททิว กับรอนด้า ทุกคนคงคิดว่าผมเป็นฆาตกรใจโหดนั่นแน่นอน คิดถึงวันพรุ่งนี้ เรื่องของผมต้องลงในหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งของทุกสำนักพิมพ์แน่นอน เพื่อนๆที่โรงเรียนคงจะต้องกลัวและเรียกผมว่าไอ้ฆาตกร เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของผมกลับคืนมา ณ ตอนนี้ ผมปฎิญาณกับตนเองว่าจะต้องหามันออกมาให้ได้ ไอ้ฆาตกรโรคจิตที่มันทำกับผมแบบนี้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา