ปิดผนึกหัวใจซาตาน

4.0

เขียนโดย koko

วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 16.59 น.

  5 ตอน
  13 วิจารณ์
  11.39K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ตำรวจใหม่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
      ที่ห้องทำงานของนายอำนาจ       นายอำนาจนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง  ทันทีที่ชูอีเดินเข้ามาเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าต่างข้างห้อง มองลงไปที่หน้าบ้าน เขาจ้องมองหญิงสาวที่กำลังก้าวขึ้นรถที่หน้าบ้านอย่างใช้ความคิด แล้วเขาก็หันมาหาชูอี
" ทำไมปล่อยเธอไปซะล่ะ"    
ชูอีอึ่งไปเล็กน้อยที่พ่อของเขารู้ว่าเขาให้คนพาเธอมาที่นี่ นี้คงจะมีใครคาบข่าวมาบอกท่านอีกละสิ  "อย่าให้รู้นะว่าใคร ถ้ากูรู้มึงตาย" ชูอีนึกในใจ
"พ่อมีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ ถึงได้ให้คนไปตามผมมาพบที่นี่"    ชูอีเอ่ยถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย
เคนจิเดินไปยิบกระดาษบนโต๊ะแล้วยื่นมันให้ชูอี
 "นี้ ตำรวจมาใหม่ นายร้อยจากเมืองกรุง! เข้าใจใช่ไหมว่าต้องทำยังไง"
 ชูอี มองหน้าผู้เป็นพ่ออย่างรู้ทัน
"แล้วผมจะให้คนไปจัดการครับ"
 ทันทีที่นายอำนาจได้ยินคำตอบจากลูกชายเขารู้สึกโมโหและผิดหวังในคำตอบที่ได้รับ ปั้ง !นายอำนาจทุบกำปั้นลงที่โต๊ะ พร้องจ้องมองลูกชาย
"งานนี้ห้ามส่งใครไป  แต่แกต้องไปเอง เขาเป็นถึงลูกชายนายตำรวจชั้นผู้ในเมืองกรุง  ต้องเอาใจเขาให้ดี  งานจะได้ราบรื่น เข้าใจใชไหม "
"ครับพ่อ" ชูอี รีบรับปากทันที 
 นายอำนาจเดินไปที่หน้าต่างอีกครั้ง เขามองไปที่ลูกน้องด้านล่างที่กำลังจับกลุ่มคุยกัน แล้วหันมาหาชูอี
 "แล้ว ของที่สั่งไปจะมาถึงเมื่อไร "
"อีกสิบวันครับพ่อ" ชูอีรีบตอบด้วยความมั่นใจ  นายอำนาจมองหน้าลูกชายแล้วเดินเข้ามาจับไหล่ด้วยความรัก
" อย่าพลาด ล่ะ  หาคนที่พึ่งเข้ามาใหม่เวลางานพลาดมันจะได้สาวมาไม่ถึงตัวเรา ลองมองลงไปที่ข้างล่างสิดูว่าใครเหมาะที่จะรับงานนี้"
 ชูอี ไม่ได้เดินไปมองที่หน้าต่าง แต่ก็ตอบออกไปทันที   " ผมรู้ครับว่าจะส่งใครไป"
 
    เย็นวันนั้น ณ สถานีตำรวจในเมือง  ผู้กองสุธีเดินออกมาจากโรงพักกลับสองตำรวจลูกน้องคู่หูผู้มีประสบการณ์
"วันนี้ เราจะออกพื้นที่กันนะดาบ "
  ดาบดารินหันมองหน้าคู่หูดาบยันอย่างรู้กัน "นั่นไง ไฟแรงจริงๆ " 
   กลางตลาดในเมือง ยาดากำลังเดินมองดูของ พร้อมกับมองหาร้านขายยา หลังจากที่กลับมาจากบ้านชูอีเธอก็ออกมาซื้อยาให้กับพ่อของ ในขนาดที่เธอกำลังเดินดูของอยู่นั่นเอง มีคนผู้หนึ่งเดินตามเธอมาจากด้านหลังโดยที่เธอไม่รู้ตัว ทันใดนั้นเอง มันเข้ามาแย่งกระเป๋าเงินของเธอแล้ววิ่งหนีอย่างรวดเร็ว
" ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย"  ยาดาตกใจรีบร้องให้คนช่วย แต่เหมือนจะไม่มีใครสนใจที่เธอร้องขอความช่วยเหลือ  แล้วเธอก็วิ่งตามมันจนถึงทางเดินเล็กๆข้างตลาด  ผู้กองสุธีมองตามหญิงสาวที่กำลังวิ่งตามชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ด้วยสายตาของผู้พิทักษ์สันติราษฏร์ไฟแรง  เขารีบวิ่งตามเธอไปทันที  ด้วยความรวดเร็วของเขาไปช้าเขาก็ถึงตัวชายคนนั้น   เขาจัดการตระคุบตัวชายคนนั้นแล้วแย่งกระเป๋าคืนมาทันที  ชายคนนั้นรีบลุกขึ้นเตรียมวิ่งหนี
"หยุดนะมึง ถ้าเดินแม้แต่ก้าวเดียวกู ยิง!"
 ผู้กองสุธีขวับปืนออกมาขู่ให้ชายผู้นั้นยอมมอบตัวแต่โดยดี  นายดาบทั้งสองตามมาถึงรีบเข้าไปจับตัวคนร้ายทันที  แล้วผู้กองสุธีก็หันมาหายาดาที่ยื่นดูเหตุการณ์ด้วยความตกใจ
"ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ คุณผู้หญิง"
"นี้ครับ คุณผู้หญิงกระเป๋าคุณ"
ผู้กองสุธีพูดพร้อมยื่นกระเป๋าในมือให้ยาดา
"ขอบคุณ ค่ะ " ยาดาพูดพร้อมยื่นมือไปรับกระเป๋าคืน
"ไม่เป็นไรหรอกคับ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว"
"ร้อยเอก สุธี เมคะ รายงานตัวรับใช้ประชาชนครับ"
ผู้กองสุธี พูดพร้อมทำท่าตำรวจเป็นขำขำจนยาดาอดที่จะอมยิ้มไม่ได้  สุธี รู้สึกประทับใจในรอยยิ้มของยาดา เขารู้สึกว่าเธอช่างน่ารักน่าเอ็นดูนัก
 หลังจากที่ทุกอย่างเครียร์จนจบ ยาดาก็ได้ขอตัวกลับบ้านโดยมี ผู้กองสุธีขับรถไปส่งที่บ้านของเธอ
 
  สน พึ่งเข้ามาทำงานที่บ้านของชูอีได้ไม่นานก็ได้รับงานให้ออกไปรับของที่ต่างจังหวัด เขาคิดในใจว่านี้คงเป็นโอกาสที่คนอย่างเขาจะได้ทำงานชิ้นใหญ่และถ้าเกิดเขาทำสำเร็จเจ้าชายพอใจ เขาก็จะได้เลื่อนชั้นมาเป็นลูกพี่กับเขาสักที
"ไอ้สนเอ้ย  ที่นี้ล่ะมึงจะได้สุขสบายกับเขาสักที 55555"   สนพูดกับตัวเองอย่างมีความสุข
 
ที่คฤหาสห์ของชูอี
ชูอีน้องดื่มเหล้าอยู่ที่สวนหน้าบ้าน ถ้าเป็นปกติทุกครั้งที่มาดื่มที่ตรงนี่ เขาจะคิดถึงเรื่องงาน แต่วันนี้ในหัวของเขากับมีแต่เรื่องยาดาและใบหน้าของเธอยังคงวนเวียนอยู่ในสมองตลอดเวลา
"ดื่มคนเดียวไม่เหงาหรอค่ะ ท่านจอมมาร"
เสียงที่คุ่นเคยดังมาจากด้านหลังทำให้ชูอีหลุดออกจากพวังความคิด
"คิดอะไรอยู่ค่ะ เจ้าชาย"
จิลแกล้งถามออกไปทั้งที่รู้ดีว่าเจ้านายกำลังคิดอะไรอยู่  ชูอีหันมามองหน้าคนถามแล้วยิ้ม แล้วตอบออกไป
"ก็รู้อยู่  แล้วจะถามทำไม"
"ไปจับตัวมาให้เลยดีไหม  จับมาขังไว้เลยจะได้ไม่ต้องคิดถึงไง"
  จิลพูดแล้วยิ้มอย่างขำขำเธอนั่งลงข้างชูอีอย่างคุ้นเคย แล้วชูอีก็พูดขึ้น
"มีอะไรที่ นางมารอย่างจะเธอไม่รู้ เนอะ"
จิลยิ้มให้กับคำนานที่ชูอีเรียกเธอ
"นางมาร" เธอบ่นกับตัวเองเบาๆ
     แล้วทั้งคู่ก็ดื่มเหล้าด้วยกันด้วยความคุ้นเคยเหมือนทุกที
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา