บทเพลงรักสะกิดใจ นายสุดฮอต!!

8.8

เขียนโดย Namizz

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20.37 น.

  27 chapter
  129 วิจารณ์
  38.20K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558 09.57 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) ~ 14 ~

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

~~~ทำไปโดยไม่คิด ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้ ฉันคิดว่าคง ไม่ทำ เธอคงแคร์ฉันมาก เพราะอย่างนั้นใช่ไหม จึงทำให้เธอ เจ็บช้ำ

 

 

*ให้รู้ว่าฉันเช่นกัน แค่เห็นเธอเป็นอย่างนั้น โลกนี้ก็พลัน มืดมน ฉันจะเป็นเช่นไร ถ้าบนโลกใบนี้ ไม่มีเธออยู่ สักคน

 

 

**จะไม่ทำอีกแล้วได้ไหม (จะไม่ทำอีกแล้วได้ไหม) ต่อไปฉันจะไม่ทำ อย่างนั้น (ต่อไปฉันจะไม่ทำ อย่างนั้น)เพียงสักครั้งให้เธอ ได้โปรดฟังคำนี้

 

 

*** ฉันอยากจะขอโทษ อย่าโกรธฉันเลยได้ไหม ฉันอยากจะขอโทษ แค่เธออภัยให้ฉัน
ฉันอยากจะขอโทษ ใช่เพียงพูดไปเท่านั้น คำว่าขอโทษ นั้นมาจากใจ ~~~

               

 

 

     เสียงเปียโนดังไปทั่วบริเวณอาคารซึ่งทำให้บุคคลที่ชอบมาที่นี่เป็นประจำต้องหยุดฟังเสียงเพลงนั้นด้วยสายตาอ่อนโยน ชายหนุ่มยืนหลบอยู่ที่หลังประตูเพราะไม่อยากให้คนในห้องเห็น รอยยิ้มพรุดขึ้นมาจากปากของเต็งหนึ่งอย่างเงียบงัน 'นี่เธอมาเพื่อเขา   ใช่ไหม เธอมาขอโทษเขาใช่หรือเปล่า’ ความคิดต่างๆนานาของเต็งหนึ่ง ทำให้เจ้าตัวดีใจ แต่เมื่อเสียงของเปียโนเงียบลงเขาจึงก้าวออกจากที่นั่นทันที โดยที่ไม่รู้ตัวว่ามีของสิ่งหนึ่งหลุดออกจากกระเป๋ากางเกง...

 

 

     ฉันหยิบกระเป๋าบนโต๊ะมาสะพายหลังจากที่ได้บรรเลงเพลงที่แสนอ่อนหวานจบลงไปขณะที่กำลังจะปิดประตู ก็ได้เหลือบไปเห็นโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งตกอยู่ข้างประตู ฉันจึงหยิบขึ้นมาแต่เผอิญว่าแบตฯของมันหมดจึงเปิดเครื่องไม่ได้ ‘ของใครกันนะ รุ่นใหม่ล่าสุดซะด้วย’ ในใจคิดได้แค่นั้นก็เลยยัดมันใส่กระเป๋า แล้วเดินออกจากโรงเรียนไป

 

 

“เฮ้อ! ดีนะที่แม่ฉันก็ใช้รุ่นนี้เหมือนกันไม่งั้นคงไม่มีแบตฯให้ชาร์ตแหงๆ” เมื่อกลับมาถึงบ้าน ฉันก็รีบไปค้นหาที่ชาร์ตแบตฯของแม่ทันที เพื่อที่จะได้ให้เจ้าของติดต่อกลับมา

 

 

     ~ ~ ติ๋งหน่อง ติ๋งหน่อง ~ ~

 

 

     เสียงออดประตูหน้าบ้านดังขึ้น ฉันจึงเลิกสนใจโทรศัพท์ในมือแล้วเดินไปเปิดประตูบ้าน

 

 

“อ้าว...กลับมาแล้วเหรอ กินอะไรมาหรือยังล่ะ” เมื่อเปิดประตูต้อนรับ แขกที่มาเยือนนั้นไม่ใช่ใครน้องชายฉันเอง

 

 

“อืม...กินแล้ว แต่เหนื่อยอยากพัก” แพทพยักหน้ารับ แต่สีหน้าดูซีดเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง ขาที่กำลังจะก้าวขึ้นบันไดชะงัก แพทหันกลับมาแล้วพูดว่า

 

 

“พี่นียา...ช่วงนี้พ่องานยุ่งมากแม่ต้องอยู่ช่วยพ่อเครียงาน กว่าจะกลับก็คงจะต้นปีหน้า ค่าใช้จ่ายแม่จะส่งเข้าบัญชีพี่ทุกเดือน...แม่ฝากบอกว่า...ดูแลตัวเองด้วย” พูดจบแพทก็เดินขึ้นห้องไปทันที

 

 

“อีกแล้วเหรอ...เมื่อไหร่จะมีคนสนใจความสึกของฉันบ้างนะ” ฉันพูดกับตัวเองก่อนที่จะเดินขึ้นห้องไปอีกคน

 

 

     ตลอดทางกลับบ้านของเต็งหนึ่ง เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังมีความสุขกับสิ่งที่ได้เห็นวันนี้ เธอคนนั้นมาเพื่อที่จะขอโทษเขา อย่างน้อย...เขาก็อยู่ในสายตาของเธอบ้าง ถึงแม้จะน้อยกว่าใคร...ก็ช่าง ขอแค่เธอสนใจเขา พูดคุยกับเขา ยิ้มแย้มให้เขา แค่นี้ก็พอใจแล้ว เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านหญิงวัยกลางคนท่าทางใจดีเดินเข้ามาถามลูกชายของตน

 

 

“แม่โทรติดต่อกับลูกไม่ได้เลยนะเต็งหนึ่ง โทรศัพท์แบตฯหมดหรือลูก” น้ำเสียงห่วงใยของผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้น

 

 

“เหรอครับแม่ สงสัยแบตฯหมด งั้นผมขึ้นห้องก่อนนะครับ... แก้มแม่ยังหอมเหมือนเดิมเลย"เต็งหนึ่งหอมแก้มแม่ของตนเองแบบอ้อนๆแล้วเขาก็วิ่งขึ้นชั้นบนของบ้านทันที

               

 

"ไปอารมณ์ดีมาจากไหนกันนะ ลูกคนนี้...."สายตาอ่อนโยนมองตามหลังลูกชายก่อนที่จะสนใจผักที่อยู่ในจาน

               

 

    แสงไฟจากเพดานทำให้ห้องของเต็งหนึ่งสว่างขึ้นทันตา เขาวางกระเป๋าไว้บนเตียงและกำลังจะเตรียมตัวอาบน้ำแต่เมื่อเขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงกลับพบแต่กระเป๋าเงิน

               

 

"หายไปไหนว่ะ" ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะรื้อกระเป๋านักเรียนทั้งใบ แต่ก็หาไม่เจอ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ตอนเย็นเขาก็คิดออกทันที

               

 

"ปานนี้คงอยู่ที่บ้านของทานตะวัน...."ชายหนุ่มเผยรอยยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อคิดถึงดอกทานตะวัน...ดอกไม้ที่เขาและเธอชื่นชอบ...แต่เขาในสายตาของเธอ... เขาคงเป็นเพียงดอกหญ้าดอกเล็กๆที่ไร้ค่า.....

 

               

 

"โอ๊ย!โอ๊ย! โอ๊ย!ๆๆคิดยังไงก็คิดไม่ออก ฉันอยากจะบ้าตายอยู่แล้ว" ฉันร้องโอดครวญให้เพื่อนในก๊วนฟัง ในขณะที่ตอนนี้ทุกคนได้นั่งอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งข้างๆโรงเรียนรวมถึงฉันด้วย

               

 

"ใจเย็นๆสิ นียา ค่อยๆคิดก็ได้ ยังพอมีเวลา" โซดาเอ่ยขึ้นก่อนที่จะตักข้าวจานที่3 เข้าปาก

               

 

"แกจะบ้าเหรอ ฉันคิดมาตั้ง4-5วัน ยังไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรเลย นี่ก็ใกล้จะถึงวันงานเข้ามาทุกทีแล้วนะ ฉันอยากจะบ้าตาย" ฉันมองหน้าเพื่อนอย่างเศร้าสร้อยเพราะจนปัญญาจริงๆ

               

 

"มีดีอยู่ที่ตัว...ทำไมไม่เอามันออกมาใช้ล่ะ"ลูกปลาพูดขึ้นโดยที่สายตายังคงสนใจอยู่กับหนังสือ....มีดี...เรามีดีอะไร เอ๊ะ!!!

               

 

"ขอบใจมากนะลูกปลา!เธอทำให้ฉันพบแสงสว่างที่แท้จริง ซึ้งจัดเลยเพื่อน^0^" ฉันชูสองนิ้วขึ้นทำสัญลักษณ์ลิพโพ สู้ตายค่ะ!! ให้เพื่อนๆก่อนที่พวกนั้นจะหัวเราะกับท่าทางของฉัน

               

 

"น้อยๆหน่อย นียา เดี๋ยวจะเป็นลมเป็นแล้งไปซะก่อนนะเจ๊ ฮ่าๆๆๆๆ" สิ้นสุดประโยคของเฟิร์น หนังสือคณิตเล่มหนาก็ลอยละลิ้วไปกระทบกับหัวคนพูดทันที

               

 

"โห!!เล่นของเลยเหรอว่ะ.....ฮือๆๆๆๆ ยอมแล้วจร้า~~~" เฟิร์นยกมือขึ้นเพื่อยอมแพ้ฉัน

               

 

"ใจเย็นๆนียา งานน่ะฉันว่าถ้าแกตั้งใจทำ ไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้แกต้องคิดโปรเจ็คการแสดงออกแน่ เชื่อฉัน" โซดาเงยหน้าขึ้นมาพูดกับฉันอย่างจริงจัง หลังจากที่ซัดน่องไก่ชิ้นสุดท้ายในจานหมดไปแล้ว

               

 

"ฉันก็หวังให้มันเป็นอย่างนั้น กินเสร็จหรือยังว่ะโซดา รอแกคนเดียวเลยนะ รีบกลับบ้านเถอะ ฝนกำลังจะตกแล้วนะ"ฉันเร่งให้โซดารีบยัดน่องไก่ลงท้อง และเดินไปจ่ายค่าอาหารกับป้าแมวที่หน้าร้าน

               

 

     ท้องฟ้าที่ควรจะเป็นสีส้มอ่อนๆ บัดนี้ ได้กลายเป็นสีครึ้มดำไปเรียบร้อยแล้ว ร่างบางเงยหน้ามองท้องฟ้าเพื่อคำนวณเวลากลับบ้าน ‘น่าจะทัน อย่าพึ่งตกเลยนะจ๊ะฝนจร้า~~'เมื่อคิดได้เท่านั้นนียาก็รีบวิ่งขึ้นรถเมล์ทันที... อันที่จริงนียาจะกลับพร้อมเป้ยทุกวัน แต่พอมารู้ทีหลังว่าตารางสอนมันไม่ตรงกันเพราะเป้ย อยู่ห้อง 6 บางวันเป้ยก็เลิกก่อนบางวันนียาก็เลิกก่อนทั้งสองจึงตกลงกันว่าถ้าใครเลิกเรียนก่อน ก็ให้กลับบ้านได้เลย

 

 

===============

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา