เล่ห์กลรักเงาอสูร

-

เขียนโดย RATH

วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 00.57 น.

  30 chapter
  12 วิจารณ์
  41.39K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) บทที่ 2 ข่าวหน้าหนึ่ง_4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

http://www.keedkean.com

เล่ห์กลรักเงาอสูร

 

 

บทที่ 2  ข่าวหน้าหนึ่ง_4

 

            แม้ว่าสายตาของภูผาจะยังคงจับจ้องมองตรงไปยังจอทีวีเบื้องหน้า แต่ภาพเหตุการณ์อันเลวร้ายๆ ที่เกิดขึ้นยังคงฝังแนบแน่นอยู่ภายในจิตใจจนยากที่จะลบเลือนลืมเลือนมันออกไปจากจิตใจได้เพียงในระยะเวลาสั้นๆ อาจจะเป็นเพราะเหตุการณ์อันเลวร้ายมันเพิ่งจะเกิดขึ้นและผ่านพ้นไปได้เพียงระยะเวลาไม่กี่วันก็ได้ แม้แต่ในวินาทีที่ภูผาเสแสร้งทำเป็นไม่คิดจะสนใจไม่อยากที่จะคิดถึงเหตุการณ์เลวร้ายนั้น แต่ภาพเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านั้นก็ยังคงวิ่งวนไปวนมาอยู่ภายในจิตใจในหัวสมองของภูผาอยู่เช่นเดิม

            หยุดซะที ได้โปรดหยุด ซะทีเถอะ” ภูผาตะโกนบอกกล่าวกับความทรงจำอันเลวร้ายให้หยุดลงเสียที แต่ความทรงจำอันร้ายๆ เหล่านั้นกลับไม่ยอมหยุดวิ่งวนไปมาตามคำสั่งของภูผาเสียที สุดท้ายภูผาจึงต้องยอมจำนน ยอมพ่ายแพ้ต่อความหวาดกลัวภายในจิตใจ การระบายเหตุการณ์อันเลวร้ายมันออกมาเท่านั้น มันจึงอาจจะช่วยเหลือเขาให้หลุดพ้น ให้หายจากความคิดหวาดกลัวภายในจิตใจนั้นได้

            “ตกลงครับ ผมจะยอมเล่าให้ฟังก็ได้ธเนศและวรนุชหลังจากทำหน้าบึงตึงใส่ภูผาไปได้เพียงไม่กี่วินาที ก็เริ่มพากันคลียิ้มอย่างนึกดีใจ ส่วนมินตรายังคงทำท่าทางนิ่งๆ ตามลักษณะนิสัยอันไร้ความรู้สึกอยู่เช่นเดิม

            “นายคงไม่เล่าเรื่องโกหกหลอกนะธเนศพี่ชายถามขึ้นอย่างนึกสงสัยเช่นเดียวกัน กับวรนุช ที่ไม่คอยอยากจะเชื่อใจในคำพูดของภูผาสักเท่าไรนัก สองพี่น้องต่างก็นั่งรอรับฟังคำยืนยันจากภูผาอีกครั้ง

            “ผมจะเล่าเรื่องจริงทั้งหมด พี่ธเนศกับนุชจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ และเรื่องที่ผมจะเล่าคุณมินตราก็สามารถเป็นพยานให้กับผมได้มันคือคำยืนยันที่ธเนศและวรนุชต้องการอยากจะรับฟังจึง พยักหน้าและยินยอมจะเชื่อ

            “ตกลง ฉันเชื่อนาย เล่ามาให้ละเอียดเลยแล้วกันธเนศออกคำสั่งเสียงดัง อย่างรอคอยรับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับบุคคลสามคนที่ธเนศรู้จักเป็นอย่างดีอันได้แก่ ภูผา โรสิลี และมินตรา

            “ผมจะเริ่มเล่าเหตุการณ์ เฉพาะที่เกิดขึ้นหน้าลานจอดรถของผับนะครับ ส่วนเรื่องอื่นๆ ผมยังไม่ต้องการอยากที่จะเล่าในวันนี้ภูผาไม่ต้องการจะให้มินตรา รับรู้ว่าเขาจงใจที่จะสะกดรอยติดตามเธอไปที่ผับด้วย ในวันที่เกิดเรื่องราวเลวร้ายขึ้น และก็ไม่ต้องการอยากจะให้พี่ชายและน้องสาวรับรู้ด้วยเช่นเดียวกัน ทุกคนต่างพยักหน้ายอมรับในเงื่อนไขของภูผาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

            “เริ่มเล่ามาได้แล้วธเนศออกคำสั่งอีกครั้ง

            “ครับพี่ธเนศภูผาตอบรับด้วยรอยยิ้มตามลักษณะขี้เล่นอยู่เช่นเดิม

....................................

ณ ลานจอดรถหน้าผับหนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้า

            ภายหลังจากภูผาแยกออกจากมินตรา ก่อนที่จะถึงหน้าลานจอดรถเพียงไม่ไกลมากมายนัก ภูผาก้าวเดินตรงไปจนถึงยังจุดที่คิดว่าน่าจะยืนรอคอยมินตราได้และคิดว่ามินตราน่าจะต้องเดินทางผ่าน แต่สิ่งที่ภูผาต้องพบปะเจอะเจอก็คือโรสิลี กำลังยืนเอาปืนของเล่นยกขึ้นชี้ข่มขู่กลุ่มนักเลงที่เป็นชายหนุ่มฉกรรจ์จำนวนห้าคน อย่างปากสั่นขาสั่นแต่โรสิลีก็ยังพยายามต่อสู่จนถึงวินาทีสุดท้าย จึงต้องยอมจำนนต่อความหวาดกลัว แม้โรสิลีจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ภูผาชื่นชอบมากมายอะไรนัก แต่โรสิลีก็เป็นคู่หมั้นของธเนศ การแกล้งเดินหนีทำเป็นมองไม่เห็นก็ไม่ใช่ลักษณะนิสัยของภูผาด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นการช่วยเหลือโรสิลีให้รอดพ้นจากภัยอันตรายจึงไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้ แต่การจะให้ก้าวเดินออกไปต่อสู่ด้วยมือเปล่า เท้าเปล่า กับผู้ชายฉกรรจ์จำนวนห้าคน ภูผาไม่คิดว่าจะมีทางต่อสู่จนได้รับชัยชนะได้อย่างแน่นอน ยิ่งหนึ่งในชายฉกรรจ์ยังมีอาวุธปืนของจริง พร้อมที่จะยิงกระสุนเข้าใส่ได้ทุกเวลานาทีด้วยแล้ว ถึงแม้เขาจะเก่งกาจอย่างเช่นเดียวกันกับพยัคฆ์ร้าย 007 ก็ไม่มีทางที่จะสามารถต่อสู่จนชนะได้เลย

            ดังนั้นภูผาจึงก้าวเดินตรงไปยังรถยนต์ส่วนตัว ที่จอดทิ้งเอาไว้ไม่ห่างไกลจากจุดเกิดเหตุมากมายนัก แล้วเปิดเก๊ะหน้ารถหยิบปืนขนาด .45 ออกมาพร้อมสำรวจแม็กกาซีนปืนว่ามันอยู่ในสภาพเรียบร้อยดีพร้อมจะใช้งาน และมีกระสุนปืนอยู่ครบ 15 นัด บวกในเพลิงอีกหนึ่งนัดรวมเป็น 16 นัด แล้วจึงปิดประตูรถยนต์ ก้าวเดินตรงกลับคืนมายังจุดที่โรสิลีกำลังถูกกลุ่มนักเลง และชายฉกรรจ์จำนวนห้าคนล้อมกรอบอยู่ และไม่มีทางหลบหลีกหนีไปไหนได้พ้นเลย

            ปล่อยฉัน...ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยฉันด้วย

          “ชะ..ช่วย..ดะ..ด้วย

          มันคือน้ำเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือสุดท้ายก่อนที่โรสิลีจะสลบไสลไป ภูผาก้าวเดินตรงเข้าไปประชิดกลุ่มพวกนักเลงพร้อมชี้อาวุธปืนตรงไปเบื้องหน้าอย่างต้องการจะยิงมันในทันที หากเห็นว่าใครในกลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งห้าคนคิดที่จะต่อสู่

            “ปล่อยผู้หญิงวางลงกับพื้น แล้วพวกแกจะไปไหนก็ไปภูผาออกคำสั่งเสียงดังฟังชัดชายฉกรรจ์ทั้งห้าคน หันมองและจับจ้องมองแววตาของภูผาอย่างตรงๆ อย่างพยายามจะชั่งน้ำหนักในคำพูดข่มขู่ของภูผา  แต่เมื่อให้แววตาเอาจริงเอาจังของภูผา กลุ่มชายฉกรรจ์ต่างก็พากันเริ่มนึกหวาดกลัว

            “พี่ ปล่อยนังนี้ ไปเถอะ แล้วเราไปหาเอาจากที่อื่นกันใหม่หนึ่งในลูกน้องแนะนำลูกพี่ใหญ่ขึ้น

            “ปล่อยให้โง่ สิว่ะ เสียงตะคอกจากลูกพี่ดังขึ้น

            “ปัง..ภูผายิงปืนขึ้นฟ้าไปหนึ่งนัด

            “ฉันบอกให้แก ปล่อยผู้หญิง นัดต่อไปฉันจะยิงเข้ากลางกระบาลของพวกแก แน่ๆ

            “ปล่อยผู้หญิงเถอะพี่ เดี๋ยวตำรวจก็จะพากันแห่มาแล้วมันคือความจริงเสียงปืนที่ภูผายิงขึ้นฟ้า ทุกๆ คนในระยะหนึ่งร้อยเมตร สามารถที่จะได้ยินอย่างชัดเจน รวมถึงตำรวจด้วยเช่นเดียวกัน

            “โอเค กูจะปล่อยก็ได้ หว่ะลูกพี่ใหญ่เริ่มวางโรสิลีลงกับพื้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สิ่งที่ภูผาไม่ได้คาดคิดเอาไว้ก็คือ ภายหลังจากชายฉกรรจ์วางโรสิลีลงนอนนิ่งๆ อยู่ที่พื้นอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เสียงปืนหนึ่งนัดก็เริ่มดังขึ้นอย่างรวดเร็วจนภูผาเองก็ไม่ได้มีเวลาได้ตั้งตัวติด

            “ปัง...!!”

            “โอ๊ย..!!” ภูผาเอาฝามือเกาะกุมบาดแผลที่เจอะเข้าระหว่างหัวไหล่ ข้างเดียวกันกับที่กำลังถืออาวุธปืนชี้ข่มขู่กลุ่มชายฉกรรจ์เบื้องหน้า อาวุธปืนของภูผากระเด็นหายออกไปจากฝามือในทันที

            “มึงเก่งนักใช่ไหม อย่างนั้นมึงก็จงตายไปซะเสียงปืนนัดที่สองระเบิดขึ้นระหว่างกลางหน้าผากของภูผา ที่กำลังนั่งทรุดตัวคุกเข่าอยู่กับพื้นปูนแข็งๆ ในวินาทีนั้นภูผาคาดคิดว่าตัวเองคงจะต้องตายไปแล้วอย่างแน่ๆ แต่ในชั่วพริบตาเดียวมีร่างบอบบางของหญิงสาวสวยมายืนขวางอยู่เบื้องหน้าของภูผาเอาไว้เสียก่อน
             "ปัง.."

            “โอ๊ย...!!” มินตราเอาฝามือเกาะกุมหน้าท้องเอาไว้ พร้อมทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นข้างๆ กันกับภูผา แต่มืออีกข้างหนึ่งของมินตรากลับยกขึ้นตรง และชี้ไปเบื้องหน้ามุ่งตรงไปยังชายฉกรรจ์ที่เพิ่งจะยิงกระสุนปืนเข้ากลางลำตัวของเธอ มินตราเริ่มสับกระสุนปืนหนึ่งนัดออกไปในทันที

            “ปัง..และนัดที่สองก็ตามออกไปอีก

            “ปัง..และนัดที่สาม สี่ ห้า

            “ปัง..ปัง ปังแล้วมินตราก็ทรุดตัวลงนอนกองอยู่กับพื้นสลบไสลไป อย่างไม่สามารถที่จะรับรู้เหตุการณ์ การต่อสู่ภายหลังจากนั้นได้อีกเลย

........................................


 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา