เล่ห์กลรักเงาอสูร

-

เขียนโดย RATH

วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 00.57 น.

  30 chapter
  12 วิจารณ์
  41.38K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

11) บทที่ 2 ข่าวหน้าหนึ่ง_5

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

http://www.keedkean.com

เล่ห์กลรักเงาอสูร

 

บทที่ 2  ข่าวหน้าหนึ่ง_5

 

            ภายหลังจากเล่าเรื่องราวมาจนถึงยังจุดที่ภูผา เกิดความลังเลที่จะเล่าเรื่องราวต่อไปอาจจะเป็นเพราะภูผาต้องการอยากจะรับรู้ถึงความรู้สึกของมินตราก่อนที่จะเริ่มเล่าเรื่องราวต่อไป เพราะภายหลังจากที่มินตราสลบไสลไปมินตราได้ยิงกระสุนปืน ออกไปทั้งหมดห้านัด แน่นอนว่ามันไม่ใช่เป็นเพียงการยิงสุ่มออกไปมั่วๆ เพราะมันได้คราเอาชีวิตของใครบางคนไปด้วย และหนึ่งในคนที่ถูกคราเอาชีวิตไปนั้นก็คือกลุ่มของนักเลงชายฉกรรจ์ที่ต่างก็ไม่เคยรู้จักหน้าคาดตากันมาก่อนเลย ภูผาจับจ้องมองตรงไปยังใบหน้าอันไร้ความรู้สึกของมินตราอย่างตรงๆ อีกครั้ง

            “คุณต้องการอยากจะให้ผมเล่าต่อไปไหมครับ

            “ตามใจคุณ ซิค่ะน้ำเสียงเย็นชา แข็งกระด่าง และไร้ความรู้สึกตอบคำถามกลับคืนมาเพียงห้าคำสั้นๆ แม้แต่ภูผาเองก็ไม่สามารถจะรับรู้ได้ว่ามินตรามีความรู้สึกเจ็บปวด ทุกข์ทรมานอยู่ภายในจิตใจเหมือนอย่างเขาบ้างไหม เพราะตัวของเขาเองในเวลานี้ก็ยังคงมีความรู้สึกนึกหวาดกลัว หวาดผวา นอนละเมออยู่ทุกๆ วัน ทุกๆ คืนอยู่เลย

            “เล่าต่อไปเถอะค่ะ พี่ภูผา นุชอยากจะฟังต่อวรนุชผู้ไม่เคยมีความรู้สึกทุกข์ร้อนอย่างเช่นกับใครๆ รีบเร่งขอร้องให้พี่ชายรีบเล่าเรื่องราวต่อไป

            “แล้วพี่ธเนศล่ะครับ อยากจะรับฟังต่อไปอีกไหม ถ้าไม่อยากจะรับฟัง ผมจะได้หยุดที่จะเล่าเสียทีเวลานี้ ภูผาหมดความสนใจที่จะเล่าเรื่องราวอะไรต่อไปอีกแล้ว และหากธเนศพี่ชายไม่ต้องการจะรับฟัง ภูผาก็คิดจะหยุดเล่าในทันที แม้ว่าวรนุชจะอยากรับฟังมากมายขนาดไหน ภูผาก็ไม่คิดอยากที่จะเล่าเรื่องราวต่อไปอีกแล้ว

            “เล่าต่อไป ฉันอยากจะฟังมันให้จบธเนศออกคำสั่งกับน้องชายเสียงดัง

            “ครับคุณพี่ชายภูผาตอบรับด้วยรอยยิ้มขี้เล่นอยู่เช่นเดิม

..................................

ณ ลานจอดรถหน้าผับเหตุการณ์ต่อมา

             กระสุนปืนห้านัดที่มินตราได้ยิงมันออกไป มันได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของคนหลายๆ คนหนึ่งในนั้นก็คือชีวิตของภูผาเอง หากมินตราไม่ยิงกระสุนห้านัดนั้นออกไปในทันที ชายฉกรรจ์ผู้บ้าเลือดก็พร้อมจะยิงกระสุนปืน นัดที่สามซ้ำกลับมาที่ภูผาอีกครั้ง แน่นอนว่าภูผาคงต้องตายอย่างแน่นอน กระสุนปืนห้านัดของมินตรามันได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของใครอื่นอีกบ้าง ขณะนี้ภูผากำลังจับจ้องมองตรงไปยังเบื้องหน้าตามวิถีของลูกกระสุนปืนห้านัดที่มินตราได้ยิงมันออกไปในทันที

            “โอ๊ย..!!” ชายฉกรรจ์คนแรกหรือลูกพี่ใหญ่ ที่ยิงกระสุนปืนเข้าใส่ภูผาร้องโอดโอยออกมาด้วยความเจ็บปวด พร้อมทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้น พร้อมเอาฝามือปิดที่รูลูกกระสุนที่พุ่งเข้าตรงกลางลำตัวและพยายามจะลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะวิ่งหลบหนีเอาชีวิตรอด แต่ลูกน้องข้างๆร้องตะโกนเสียงดังเรียกลูกพี่ใหญ่เอาไว้เสียก่อน

            “ลูกพี่ ไอ้สักมันถูกยิง

            “น้องกูถูกยิง เป็นอย่างไงมั่งหว่ะท่าทางตกใจและแปลกใจผสมกับอาการตื่นกลัว

            “นะ..น่าจะตายแล้วลูกน้องคนสนิทรายงานเหตุการณ์อย่างตื่นตกใจเช่นกัน

            “น้องกูตายแล้วอย่างนั้นรึ  ไอ้สักตื่นสัก..ตื่นลูกพี่ใหญ่ตรงเข้าประคองร่างอันไร้ดวงวิญญาณของน้องชายเอาไว้ พร้อมร้องตะโกนเรียกน้องชายอยู่หลายครั้ง สุดท้ายชายฉกรรจ์ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสก็ต้องยอมรับความเป็นจริง น้องชายได้ตายจากไปแล้วจริงๆ ส่วนภูผาเองภายหลังจากควบคุมสติได้ ก็รีบตรงเข้าไปประคองร่างอันสลบไสลของมินตราเอาไว้ด้วยเช่นกัน พร้อมกับร้องตะโกน อย่างเช่นเดียวกันกับชายฉกรรจ์ที่เพิ่งสูญเสียน้องชายไป พร้อมเอื้อมมือไปหยิบอาวุธปืน .45 ของเขาออกมาจากฝามือของมินตรา นำเอามากำเอาไว้พร้อมที่จะใช้ปกป้องคุ้มครองตัวเองอีกครั้ง หากฝ่ายตรงข้ามไม่คิดที่จะยอมรามือ อยากที่จะต่อสู่กันต่อไปอีกครั้ง

            “มินตราตื่น ได้โปรดตื่นเถอะ อย่ามาตายตอนนี้นะ ภูผาประคองมินตราเอาไว้พร้อมยกร่างอันบอบบางของมินตราขึ้นมาใกล้ๆ กับใบหูแล้วเริ่มรับฟังเสียงการเต้นของหัวใจของหญิงสาว มันยังคงเต้นได้อย่างสม่ำเสมอเป็นอย่างดี

            “เรียกรถพยาบาลที ใครก็ได้เรียกรถพยาบาลทีภูผาตะโกนขอความช่วยเหลือจนสุดเสียง ภูผาตะโกนซ้ำๆ ด้วยคำพูดเดิมๆ หลายครั้งจนรู้สึกจะเหนื่อยอ่อนเพราะเลือดไหลออกมาจากบาดแผลที่โดนยิงเยอะแยะมากมากพอสมควร

            “คุณภูผาเป็นอย่างไงบ้างค่ะเสียงน้ำหวานผู้จัดการส่วนตัวของโรสิลีถามขึ้น

            “คนโดนยิงก็ต้องเจ็บซิ หว่ะ เรียกรถพยาบาลให้หรือยัง

            “คุณแทนไท โทรเรียกแล้วล่ะค่ะ

            “ขอบใจ

            “แล้วโรสิลีล่ะน้ำหวานชี้นิ้วไปที่แทนไทที่กำลังประคองโรสิลีก้าวเดินตรง เข้ามาหาภูผาที่กำลังนั่งคุกเข่าบาดเจ็บสาหัสอยู่กับพื้น

            “แล้วพวกนั้นล่ะ พวกมันไปไหนกันหมดแล้วน้ำหวานชี้นิ้วตรงออกไปยังถนนใหญ่กลางใจเมือง อันหมายความว่าพวกมันพากันขับรถพากันหนีหายไปกันจนหมดสิ้นแล้ว รวมถึงซากศพน้องชายของไอ้พวกมหาโจรนั้นด้วย พวกมันก็พากันขนขึ้นรถเอาพาหนีไปด้วย ภูผาปิดเปลือกตาลงด้วยอาการหมดสิ้นเรี่ยวแรง แต่ก็ยังคงพอที่จะรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงของโรสิลีที่กำลังกล่าวแสดงความขอบคุณเขาอยู่

            “คุณภูผาข๊า โรสต้องขอขอบคุณ คุณภูผา ม๊าก มาก ที่ยอมเสี่ยงชีวิตเข้ามาช่วยเหลือปกป้องโรสเอาไว้ ไม่อย่างนั้นโรสคงต้องตกไปเป็นเมียน้อยของไอ้มหาโจรพวกนั้นแล้ว อย่างแน่นอนเลยล่ะค่ะ

            เป็นอย่างนั้นได้ก็ดี” ภูผาตอบโรสิลีอยู่ภายในจิตใจ เพราะนึกรำคาญโรสิลีอย่างจับจิตจับใจ แทนที่โรสิลีจะถามถึงอาการบาดเจ็บของเขาว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่คุณเธอกับห่วงแต่ชื่อเสียงของตัวเธอเอง

            “อุ๊ย...นี้ใครหรือค่ะ คุณภูผา สวยมากทีด้วยโรสิลีกำลังจับจ้องมองตรงไปยังวงหน้าของมินตราอย่างอยากจะรับรู้

            ก็คนที่ช่วยเหลือเธอ เอาไว้อย่างไรกันล่ะ” ภูผาตอบคำถามโรสิลีอยู่ภายใจจิตใจอีกเช่นเคย เพราะภูผาไม่ต้องการอยากจะให้ใครได้รับรู้ว่ามินตราใช้อาวุธปืนของเขา ยิงคนตายและภูผาก็ต้องการอยากที่จะป้องกันไม่ให้มินตรา ต้องเข้ามาเจอะเจอกับปัญหาที่กำลังจะติดตามมาอีกเป็นจำนวนมาก สิ่งนั้นคือการให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจ แน่นอนว่าเรื่องราวมันจะต้องลุกลามใหญ่โตต่อไปอีกอย่างมากมาย ดั่งนั้นเรื่องราวทั้งหมดเขาจะเป็นคนให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียเองเพียงคนเดียว ส่วนมินตราไม่สมควรจะเข้ามายุ่งเกี่ยวในเรื่องพวกนี้ด้วย

            “เธอเป็นแฟนของฉันเอง เธอวิ่งเข้ามารับกระสุนปืนแทนฉัน ตอนนี้จึงยังไม่ได้สติคำโกหกของภูผา โรสิลีน่าจะต้องหลงเชื่ออย่างสนิทใจ เพราะใครๆ ก็ต่างรับรู้กันเป็นอย่างดี ภูผา เกียรติภูมินต์ เจ้าชู้มากรักหลายใจ เปลี่ยนแฟนใหม่ได้บ่อยๆ จนแทบจะทุกเวลา นาทีเลยทีเดียว

            “แต่แฟนคนใหม่ของคุณภูผา โรสไม่เคยพบเจอะเจอ มาก่อนเลยนะค่ะ เป็นดารานางแบบอย่างโรสหรือเปล่าค่ะ

            “นี่คุณโรสิลี คุณเลิกซักผมจะได้ใหม่ แล้วหาทางกันพวกนักข่าวออกไปให้ห่างๆ จากผมจะดีกว่า ผมยังไม่อยากจะเป็นหัวข้อข่าวหน้าหนึ่งในวันพรุ่งนี้

            “อุ๊ย...!! จริงด้วยค่ะ โรสลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยค่ะ แย่แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะค่ะ พรุ่งนี้หน้าสวยๆ ของโรสจะต้องไปบานหลา เป็นหัวข้อข่าวหน้าหนึ่งแน่ๆ เลย น้ำหวาน แทนไทแล้วยายแพนดามันหายหัวไปไหนแล้วน้ำหวานและแทนไทยทำท่าทางตื่นตกใจอย่างพึ่งนึกออก แล้วต่างพากันหันหน้ามุ่งตรงไปยังเป้าหมาย พร้อมชี้นิ้วตรงไปยังร่างอันสลบไสลไม่ได้สติของยายแพนดาที่กำลังนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นปูนแข็งๆ เช่นเดิม

            “ไปลากตัวมันมา และทำอย่างไรก็ได้ ให้มันฟื้นกลับคืนสติมาเดี๋ยวนี้น้ำหวานและแทนไททำตามคำสั่งในทันที แทนไทกับน้ำหวานจับแขนและขาของแพนดาแล้วลากมาวางทิ้งไว้ข้างๆ กันกับภูผาและมินตรา โรสิลีก้มตัวลงเอาฝามืออันเรียวเล็กตบเข้าทีใบหน้าของยายแพนดาหลายครั้ง

            “เพี๊ยะ..แก้มข้างซ้าย

            “เพี๊ยะ..แก้มข้างขวา

            “น๊อย มันทำมึนไม่ยอมฟื้นต้องเจอะเจอแบบต่อเนื่อง

            “เพี๊ยะ...เพี๊ยะแก้มข้างซ้ายและแก้มข้างขวาอย่างพร้อมเพรียงกัน

            “ยังมึนไม่ยอมฟื้นอีกใช่ไหมยายแพนดา น้ำหวานตบปลุกมันแทนฉันทีเอาแรงๆ สุดแรงเกิดของเธอเลยนะ ดูสิมันจะมึนไม่ยอมตื่นอีกไหม

            “มันจะดีหรือโรส เธอก็รู้ว่ายายแพนดามันเพิ่งไปเสริมดั้งและฉีดโบท็อกซ์มาใหม่ๆ ตบมันแรงๆ หลายๆ ครั้ง เดี๋ยวมันก็ต้องเสียเงินไปเสริมดั้งและฉีดโบท็อกซ์ใหม่อีก สงสารไอ้แพนดามันด้วย ตอนนี้มันยิ่งมีงานเข้าน้อยๆ อยู่ด้วย

            “ผมว่ายังพอจะมีวิธีอื่นอีกครับแทนไทเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา โรสิลีและน้ำหวานต่างขอรับฟังแนวทางแก้ไขปัญหา

            “ต้องเจอนี้เลยครับ น้ำเปล่าที่ผมซื้อมายังไม่ได้ดื่มเลยสักหยดเดียว

            และก็เป็นโชคดีของผมที่ไม่ได้ดื่มมันเข้าไป มิเช่นนั้นผมคงฉี่ลาดออกมาจนหมดแล้วแน่ๆ” มันคือความคิดที่แทนไทไม่ได้พูดมันออกมา แทนไทเทน้ำเปล่าจนหมดทั้งขวดลงไปบนใบหน้าที่แดงกล่ำไปด้วยฝามือของโรสิลี จนยายแพนดาสะดุ้งตื่นตกใจ

            “อย่าฆ่าฉันเลย ฉันยอมแล้ว จะทำอะไรฉันก็ได้ฉันยอมแล้วทุกอย่างสภาวะอาการตื่นกลัวก่อนที่จะเริ่มสลบไสลไปของยายแพนดา กลับคืนมาเพียงระยะเวลาสั้น ๆ อีกครั้ง แล้วแพนดาก็เริ่มจะปรับสภาพได้เป็นอย่างดีในเวลาต่อมา เธอเริ่มหันซ้าย หันขวาอย่างกำลังปรับสภาพให้เป็นปกติเหมือนเดิม

            “ฟื้นแล้วหรือย่ะ ยายกระเทยใจเสาะ เห็นปืนนิดๆ หน่อยๆ  แอบหนีเป็นลมสลบเอาตัวรอดก่อนใครเพื่อนเลยนะย่ะ

            “นี่ที่ไหน แล้วไอ้พวกนั้น ไปไหนกันหมดแล้ว

            “พวกมันหนีกันไปหมดแล้วน้ำหวานตอบคำถามแทนโรสิลี

            “จริงหรือน้ำหวาน

            “จริง แต่ปัญหาตอนนี้ก็คือพวกเราจะทำอย่างไรกับพวกนักข่าวดี

            “พวกคุณช่วยกัน กันนักข่าวเอาไว้ที่นี้ อย่าให้ติดตามผมไปที่โรงพยาบาลได้อย่างเด็ดขาดเลยนะครับเสียงภูผาตะโกนออกคำสั่งแกโรสิลี และเริ่มเดินอุ้มร่างอันบอบบางของมินตราขึ้นไปยังรถพยาบาลที่เพิ่งจะเดินทางมาถึง

            “ตกลงค่ะ คุณภูผา เดี๋ยวโรสโทรเรียก คุณธเนศให้ติดตามไปนะค่ะ ส่วนโรสจะกันนักข่าวเอาไว้สักพักแล้วจะรีบติดตามไปที่หลังคะภูผาไม่สนใจจะรอรับฟังโรสิลี พูดสิ่งใดต่อไปอีกเพราะภูผาหมดสิ้นเรียวแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจ สาเหตุเป็นเพราะภูผาเสียเลือดมากมายจนเกินไปและกำลังเริ่มรู้สึกหูอื้อตาลายและหมดสติไปในที่สุด

....................................


 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา