คุณหมอหัวใจแหวว

7.6

เขียนโดย sivach_13

วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 18.10 น.

  18 ตอน
  20 วิจารณ์
  32.90K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) คุณหมอหัวใจแหวว...อยากจะเปลี่ยนลุคส์แล้วครับ 3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ร้าน"ลินชง" เป็นร้านกาแฟสดตกแต่งทันสมัยตั้งอยู่ในตลาดนครชัยศรี

ร้านกาแฟร้านนี้ไม่ได้ขายแต่กาแฟเท่านั้น

ยังมีอาหารและของกินเล่นรสอร่อยมากมาย


บรรยากาศภายในร้านก็ดูสบายๆด้วยโต๊ะเก้าอี้สีขาว

มีอ็อปชั่นประดับร้านน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม

ด้านในติดแอร์เย็นฉ่ำและมีกลิ่นกาแฟสดหอมอบอวล


เสียงกระดิ่งที่แขวนไว้ตรงประตูส่งเสียงกรุ๊งกริ๊ง

แล้วหญิงสาวคนหนึ่งก็ก้าวเข้ามาด้านใน


"หล่อน"เป็นหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งราวกับนางแบบ

ใบหน้าครึ่งบนถูกปิดด้วยแว่นกันแดดอันโตเก๋ไก๋

ผิวหน้าส่วนที่โผล่พ้นแว่นกันแม้จะเห็นเพียงครึ่งเดียวก็เดาได้ไม่ยากว่า"สวย"


ผมสีสว่างจากการทำไฮไลต์อย่างดี

ถูกดัดเป็นปลายเป็นลอนใหญ่สไตล์เกาหลี(อีกละ)

มันกระเพื่อมสยายเป็นจังหวะอยู่กลางหลัง ส่องประกายราวกับมงกุฏน้อยๆของนางฟ้า

ยามเมื่อสาวสวยสุดเก๋คนนั้นก้าวเดินด้วยขาเรียวยาวและขาวผ่อง


เจ้าหล่อนในชุดแส็คลายดอกไม้เล็กๆสีชมพูอมม่วงอ่อนหวาน

ก้าวอย่างมั่นใจไปที่โต๊ะตัวหนึ่งที่มีชายหนุ่มสองคนนั่งรออยู่แล้ว

และหนึ่งในสองหนุ่มก็คือ..."คุณหมอตรัย"


"ขอโทษที่มาช้า หวัดดีจ้ะคุณเพื่อนทั้งสอง วันนี้ลูกค้าที่ร้านเยอะจังกว่าจะออกมาได้"

หญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามหมอตรัย ก่อนจะออกตัวที่มาช้ากว่าเวลานัดไปเล็กน้อย


เสียงที่ออกมาจากริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีส้มอมชมพูก็อ่อนหวาน

ถ้าไม่ตั้งใจฟังให้ดีคงแทบไม่ต่างกับเสียงของหญิงแท้

"หมอแอ๊ด"ค่อยๆถอดแว่นกันแดดอันโตออกแล้ววางลงบนโต๊ะ

เผยให้เห็นเครื่องหน้าที่เหมาะเจาะสวยงาม ใบหน้างดงามนั้นตกแต่งเพียงบางๆ

ไม่มากและน้อยจนเกินไปเหมือนชะนีบางคน


"แล้วนี่แกทิ้งร้านให้นังดิวอยู่คนเดียวเหรอ"

ปรเมศ หรือหมอปิง เอ่ยถามขึ้น


หมอปิงเป็นชายหนุ่มร่างสันทัด ผิวค่อนข้างคล้ำ ใบหน้าคมสันตามแบบฉบับไทยแท้

ติดที่คิ้วบางจนเหมือนมีคิ้วแค่ครึ่งเดียว ดวงตาฉายแววทะเล้น


"อื้อ ไม่อยากเชื่อเลยว่าแกจะมาเจอชั้นกะหมอตรัยได้

ตั้งแต่คราวก่อนนู้นก็ปาเข้าไป 2-3 เดือนแล้วมั้งที่ไม่เจอกัน"

หมอแอ๊ดพูดพลางค้อนเพื่อนหนุ่มหลายครั้ง


"ฮ่าฮ่าฮ่า อย่างอนสิวะ ค้อนซะตาทะลักเลยนะเมิง

ระวังนา...เดี๋ยวก็หน้าเบี้ยวหมดสวยหรอก

อุตส่าห์หมดตังค์ไปอัพหน้าที่เกาหลีมาตั้งเยอะ

ชั้นน่ะต้องหาเงินเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียนะเว้ย

ไม่เหมือนแก ผัวเผอก็หาไม่ได้เลยเอาแต่ฉุยไปฉายมา"

หมอปิงหัวเราะเสียงดังก่อนจะเหน็บเพื่อน


"เอ๊ะอีปิงนี่ ตรัยดูสิอิปิงมันว่าชั้นน่ะ

เดี๋ยวคิวว่างก่อนชั้นจะให้อิดิวมาผ่าหมาออกแล้วเย็บปากแก

ที่เกาหลีน่ะชั้นไปทำนมอย่างเดียวย่ะ หน้าฉันน่ะสวยธรรมชาติอยู่แล้ว"

หมอแอ๊ดที่เก๊กสวยอยู่เต้นเร่า หมอปิงนะมาว่ากันได้...

เพื่อนคนนี้อะไรก็ดีอยู่หรอก ยกเว้น"ปาก"


"เฮ้ย...ปิง แกก็อย่าเพิ่งไปยั่วโมโหหมอแอ๊ดมันดิ" 

หมอตรัยปราม อุตส่าห์เรียกขุนพลซ้ายขวามาช่วยกันระดมความคิด

นี่จะมาฟัดกันเองซะแล้ว


หมอแอ๊ดหน้าชื่นขึ้นมานิดนึง...เอาน่ะ ยังไงหมอตรัยเพื่อนรักก็ยังเข้าข้าง


"แล้ววันนี้แกนัดพวกชั้นมา มีธุระอะไรวะ ตรัย"

หมอปิงเปิดประเด็น


"สั่งกาแฟก่อนดีไหม"

คนมีเรื่องอยากปรึกษาเอ่ยปาก พร้อมกับรายการเครื่องดื่มในร้านให้

ท่าทางนิ่งขรึม ไม่มีแววล้อเล่นของหมอตรัย

ทำเอาเพื่อนทั้งสองหันมามองหน้ากันแว่บหนึ่ง

แล้วแอบคิดต่อในใจว่า

"สงสัยจะเรื่องยาวว่ะ"


หมอตรัยสั่งเอสเพรสโซ่ร้อนให้ตัวเอง หมอปิงสั่งคาปูชิโน่ร้อน

ส่วนอีกหนึ่งสาวสั่งชาเขียวเย็น พอบริกรสาวเดินจากไป

หมอปิงก็พากลับเข้าเรื่องอย่างไม่ให้เสียเวลาทันที


"มีเรื่องไร ว่ามาให้ว่องเลยไอ่ตรัย"


"แอ๊ด หนูวีน่ะ ที่แกชอบแซวเค้าบ่อยๆ"

ชายหนุ่มเกริ่นนำแล้วหันไปทางเพื่อนสาว


"อ่ะ อืม แต่ยัยนี่ก็ไม่โดนชั้นแกล้งคนเดียวนี่ นังดิวมันก็แกล้งด้วยใช่มะ"

"คนที่แกแอบชอบเค้าอยู่อ่ะ"


เนื่องจากยัยหมวยวีเป็นคนขำๆและขี้โวยวาย จึงเพื่อนๆที่ทำงานแกล้งเป็นประจำ

(แหม..ก็เค้าเอ็นดูหรอกน่า ไม่ได้แกล้งเพราะเกลียดซักหน่อย อันนี้เจ้าตัวก็รู้อยู่หรอกนะ)

พอมารู้จักกับเพื่อนๆคุณหมอตรัย อย่างหมอแอ๊ดและหมอดิว

จึงไม่แปลกที่สองคนนี้จะเห็นยัยหมวยเป็นของเล่นชิ้นโปรด แกล้งได้แกล้งเอา


หมอตรัยพยักหน้า รู้สึกว่าหูชักร้อนๆ

ชายหนุ่มเท้าแขนข้างหนึ่งลงบนโต๊ะแล้วใช้มือลูบท้ายทอยตัวเองแก้เขิน

ก่อนจะพูดแบบไม่ยอมสบตาใคร


"อืม เค้าเลิกกับแฟนแล้วอ่ะ"


"จิงดิ" "แล้วแกจะเอาไงวะคะ"

หมอแอ๊ดทำตาโต ชะโงกหน้าแทบจะข้ามโต๊ะมาถาม


"โอกาสนี้แหละวะไอ่ตรัย จีบเรย รับรองสำเร็จแน่"

หมอปิงแทบจะแย่งหมอแอ๊ดพูด

เป็นไปได้เขาก็อยากให้เพื่อนคนนี้เป็นฝั่งเป็นฝาเสียที หลังจากคบแล้วเลิกๆอยู่หลายคน


ไม่ใช่หมอตรัยของเราจะเจ้าชู้นะ...เดี๋ยวตอนหน้ามีเฉลยแน่ว่าทำมั้ยยย

หมอถึงไม่แต่งงานสักที ทั้งๆที่อายุก็ตั้ง 35 แถมเคยมีแฟนมาแล้วตั้ง 3 คน

 (เหอๆ ไม่เบาเรยนะ...หมอตรัย)

แต่ก่อนอื่นกลับมาเข้าเรื่องตอนนี้กันก่อน


พอกุนซือหัวใจทั้งสองคนเลิกทะเลาะกันได้ ก็ใส่ความคิดเห็นตัวเองไม่ยั้ง


"ชั้นว่านะ ตอนนี้ยัยวีมันกำลังเสียใจ จีบไปก็ไม่รู้เรื่องหรอก

ปลอบใจให้หายเศร้าก่อนดีกว่ามั้ย"


"ไม่ทันอ่ะ มัวแต่เชื่ออิแอ๊ด ตีเหล็กเค้าต้องตีกำลังร้อน ตรัยเชื่อกันดีกว่า

ตอนนี้แหละ ลุยเลย อาสาเป็นคนดามอกไปเล้ย"


"ฉอดๆๆๆๆๆ"

"!!!"

บลาๆๆๆๆๆๆ


ผ่านไปราว 30 นาที


"โอย...เหนื่อยว่ะ เถียงสู้อิแอ๊ดไม่ทัน"

หมอปิงระบายลมหายใจยาวววว หงายหน้าไปบนพนักพิงของเก้าอี้

พลางใช้มือข้างหนึ่งเสยผม


"ก็กุบอกให้ฟัง ฟังๆๆๆๆๆ แล้วทำตาม มันก็จบแล้ว

เมิงจะมาเถียงเอาโล่ห์ทำไมนักหนา หา..ไอ่ปิง"

หมอแอ๊ดส่งเสียง "ฮึ"ลอดรูจมูกที่บานพะเยิบพะยาบด้วยแรงโทสะ

หน้าหงิกสนิทหมดงาม ด้วยความกริ้วเจ้าแม่เริ่มขึ้น กรู-เมิง แล้ว


"ตามตัวช่วยเหอะวะ หลายหัวดีกว่าหัวเดียว นะจ๊ะแอ๊ดจ๋า"

ท้ายประโยคหมอปิงหันไปขอความคิดเห็นจากคนหน้าหงิก

หมอแอ๊ดยังนั่งบิดปากอย่างไม่สบอารมณ์


"ตามใจเมิงเหอะ เด๋วกรูโทตามอิดิวก่อน อิก๊อตติดเวร อิรินอยู่คลินิก"

หมอแอ๊ดหันมาบอกงอนๆ ก่อนจะหันไปกดโทรศัพท์จึ๊กๆหาบรรดาเพื่อนสาว

ท่าทางยังไม่หายโกรธหมอปิงที่บังอาจมีความคิดเห็นแตกต่าง


"โถ...อย่าโกรธเลยนะ แอ๊ดคนดี๊ คนดี ดูสิหน้าเบี้ยวหมดแล้ว

สงสารอิดิวมันมั่ง เดี๋ยวมันต้องเสียแรงดึงหน้าให้ใหม่นะจ๊ะที่รัก"

หมอปิงไม่วายหันมาแซว ขณะที่หมอแอ๊ดกำลังต่อโทรศัพท์หาเพื่อนคนอื่น


เจ้าตัวหันมาตีหน้ายักษ์ใส่เพื่อนจอมทะเล้น

แล้วส่งเสียงรอดไรฟันเบาๆออกมาว่า


"เชี่ยยยยยส"


"อิอิ กุโทร.มั่งดีกว่า แหย่อิแอ๊ดแล้วสบายใจดี"

คว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดมั่ง


"ไอ่โรคจิต"


"ไม่ต้องโทร.หรอกรบกวนเพื่อนคนอื่น

เราแค่อยากถามความคิดเห็นแอ๊ดกับปิงแค่นั้น"


หมอตรัยรีบออกปากห้าม กลัวเรื่องจะบานปลาย ที่สำคัญหมอก็อายุเยอะแล้ว

ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นที่เพิ่งมีความรักครั้งแรกซะที่ไหน คนรู้เยอะหมอก็อายนะ


ทั้งสองคนเลยหยุดกดมือถือ


"แล้วตรัยจะทำยังไงต่อไป"

หมอแอ๊ดถาม


"เท่าที่ทำอยู่ตอนนี้ ก็โทร.ไปหา แล้วก็ชวนคุยไม่ให้เค้าคิดมากน่ะ ส่วนเรื่องจีบ

เราลองแย็ปๆดูแล้ว...เฮ้ออออ ไม่ได้เรื่องเลยเพื่อน"

หมอตรัยพ่นลมหายใจยาว


"อ้าว!!!ทำไมอ่ะ???"

คราวนี้ทั้งสองคนถามเหมือนกัน แล้วเสียงดังด้วยสิ


"อึ่ม...เบาๆเสียงหน่อยดิ"

หมอตรัยชักเขิน ก็คนหันมามองหลายโต๊ะเลยนี่นา

ดีนะ ที่มีแต่คนไม่รู้จัก ไม่งั้นไม่รู้จะเอาหน้าซุกไว้ไหนแล้ว ฮว้ากก




 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา