You are my hope.เจ้าเท่านั้น ที่ข้าจะรอ yaoi

10.0

เขียนโดย ปรัสรา

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 10.13 น.

  20 chapter
  3 วิจารณ์
  25.00K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

18) บทที่18

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        "ชิน...บุ...ซัง"

        จุนล้มลงแทบเท้าของช่างทำพู่กันนั้นเอง  ทำเอาเขาตกใจรีบพยุงเด็กหนุ่มที่แทบหมดแรงเดินให้ลุกขึ้นมา  เพราะเขามาหาจุนจึงได้ถูกสั่งให้รออยู่ในส่วนที่ไม่ได้จัดงาน  แต่รออยู่นานก็ยังไม่มีใครมาสักที  ดังนั้น การพบกับจุนที่มาล้มฟุบตรงหน้า  จึงเป็นอะไรที่ชวนไม่เข้าใจอย่างยิ่ง

        เด็กหนุ่มเล่าว่าเขาไปทำอะไรมาบ้าง  ทั้งวิ่งไปจากปราสาทขุนนางเพื่อตามหาที่ตลาด  ต้องถามหาตัวช่างทำพู่กันจากชิสึเอะและยังต้องวิ่งกลับมาเพื่อพบกับชินบุอีก  บทสรุปของเรื่องทั้งหมดจึงได้มาปรากฏที่การหมดแรงนี้เอ

        อย่างไรก็ตาม  ินบุส่งกล่องไม้สี่เหลี่ยมอันหนึ่งให้  เมื่อเด็กหนุ่มเลื่อนฝาเปิด  ก็เผยให้เห็นพู่กันที่มีลวดลายสวยงามวางอยู

        "ขอบคุณมากเลยนะครับ ชินบุซัง!"

        มือไม้ที่หยาบกร้านตามแบบช่างทั่วๆไปโบกไปมา  "ไม่หรอก  ข้าต่างหากที่ต้องเป็นคนขอบคุณท่าน  ถึงจะเป็นช่างอันดับหนึ่งอย่างที่ต้องการไม่ได้  แต่อย่างน้อยพู่กันของข้าก็เคยเป็นของกำนัลแด่ตระกูลขุนนางล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า"

        เด็กหนุ่มขมวดคิ้วแล้วพูดอย่างจริงจัง  "ชินบุซังเป็นช่างทำพู่กันอันดับหนึ่งจริงๆนะครับ!  เชื่อผมสิ ตอนนี้อาจยังไม่ได้เป็นแต่ว่าต่อไปต้องเป็นแน่ๆ!"

        คุณลุงช่างได้แต่ลูบศีรษะของจุนไปมาด้วยความเอ็นดูในความจริงจังนั้น  แม้ว่าใจจะไม่เชื่อเลยสักนิดก็ตามที  แต่ความหวังมันก็ต้องมีบ้างล่

 

        "อ๊าก เจ็บ!  นี่ซาคาเมะ  เจ้าทำบ้าอะไรเนี่ย!"  

        จุนพยามมองหลังที่แดงเถือกไปหมดของตนเองแล้วร้องโวยวาย  แต่เด็กสาวอดีตหัวขโมยที่จิ๊กสมบัติจากกลุ่มโจรอีกทีหนึ่งเอาแปรงพาดไหล่เหมือนเด็กผู้ชายแล้วพูดเสียงห้าวราวกับไม่ใช่เด็กผู้หญิ

        "เจ้าสิทำบ้า!  จะเริ่มงานอยู่แล้วยังจะไปวิ่งจนเหงื่อไหลไคลย้อยทำบ๊องอะไรฟะ!  ท่านหญิงดูสารรูปเจ้าแล้วสั่งให้ข้ามาขัดสีฉวีวรรณให้อยู่เนี่ย  แต่เชื่อข้าเถอะ ขัดไปก็น่าเกลียดเท่าเก่านั่นแหละ  เหอๆๆ"

        จุนไม่อยากต่อปากต่อคำแม้ในใจจะนึกด่าไปหลายคำก็ตาม  ถึงอย่างไรเขาก็รู้ดีว่าซาคาเมะที่อยู่ต่อหน้าท่านหญิงคือคุณหนูซาคาเมะที่มารยาทงามหาตัวจับยาก  ไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมากันนะ

        อย่างไรก็ดี เพราะซาคาเมะคนนี้พวกเขาถึงรอดมาได้จากกลุ่มโจรนั่น  เธอได้วิ่งไปบอกท่านมารุสึเกะและกับดักทางต่างๆ  พูดถึงแล้ว ทางหกทิศจอมหลอกลวงนั่นไม่ใช่ทางออกเลยสักนิดอย่างที่มาซารุว่า  ความจริงในห้องคุมขังมีทางออกที่ซ่อนได้แนบเนียนมาก  นั่นคือผนังห้องด้านตรงข้ามกับประตูซึ่งใช้มือเลื่อนเปิดหน่อยเดียวก็ออกแล้ว

        เฮ้อ ที่พยามหาทางออกจะทางหกทิศนั่นมันเพื่ออะไรกันนะ

        จุนบอกไม่ถูกจริงๆว่าพยามหาคำตอบในตอนเช้ามากี่เรื่องแล้ว  ซาคาเมะมองเด็กหนุ่มที่ออกจะเหม่อๆแล้วเกิดอาการแบบเดียวกับท่านมารุสึเกะ  นั่นคือหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ...

        ซ่า! กะละมังไม้ใส่น้ำแบบญี่ปุ่นถูกครอบมาบนศีรษะของจุนอย่างนึกแกล้ง  ซาคาเมะเอาแปลงขัดตัวอันใหญ่ที่สูงครึ่งหนึ่งของเธอพาดไหล่แล้วเดินขากางๆแบบพวกชอบหาเรื่องคนอื่น  "ข้าไปล่ะ  ที่เหลือจัดการเองล่ะกัน"

        เหอๆๆ  สะใจเฟ้

 

        เรื่องที่มาซารุได้โคชูคนใหม่และเรื่องที่เสียสละตัวเองช่วยเจ้านายเป็นอะไรที่โด่งดังมาก  เพราะตัวจุนเองก็ยังอายุไม่เท่าไหร่  ซ้ำยังอยู่กับมาซารุได้ไม่นาน  ประวัติที่ไม่มีการเปิดเผยยิ่งเป็นเครื่องเร้าใจ  สุดท้าย สายตาของผู้ที่มาร่วมงานก็จับจ้องไปที่เขาเป็นส่วนใหญ่  ถึงจะแกล้งทำเป็นว่ามองมาซารุที่อยู่ข้า่งหน้าก็เถอะ  เล่นเอาเด็กหนุ่มนั่งเกร็งเหมือนกับกำลังถูกวาดรูปเหมือนก็ไม่ปา

        ผู้ที่มอบของขวัญให้กับมาซารุมีตำแหน่งเริ่มจากใหญ่ก่อน  ฉะนั้น จุนจึงมีโอกาสได้มองว่าเขามีวิธีรับวิธีให้ยังไง

        ท่านมิสึกาวะได้มอบกล่องไม้ที่ถูกจัดอย่างสวยงามให้มาซารุพลางสบตากับท่านหญิงอาสึสะเล็กน้อย  ทั้งสองคนต่างนึกถึงเหตุการณ์ตอนที่นางพยามถามของขวัญที่จะให้กับมาซาร

        "ได้ยินว่าใกล้ๆนี้เคยเกิดเหตุเกี่ยวกับปีศาจมาแล้ว  ไอชั่วร้ายของมันยังจางๆ  าจล่อให้มีพวกปีศาจมาใหม่  ฉะนั้น ข้าจึงมอบของเหล่านี้ให้  ภายในได้บรรจุยันต์ที่แฝงไปด้วยพลังอาคมของข้า  จะเป็นปีศาจระดับสูงแค่ไหนก็ไม่สามารถเอาชนะพลังของยันต์เหล่านี้ได้แน่นอน  ...แบบนี้!"  

        ท่านองเมียวจิขมวดคิ้ว  รีบหันหลังไปพลางดึงยันต์ออกมาจากแขนเสื้อ  เหวี่ยงไปแปะที่หน้าผากผู้มาร่วมงานคนหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปพอสมควร  ผู้ร่วมงานคนนั้นส่งเสียงร้องเหมือนเจ็บปวดและมีหมอกดำลอยออกจากร่าง  หายลับไปบนท้องฟ้า  สิ่งเหล่านี้เรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนได้พอสมควรเลยทีเดียว  แต่แน่นอนว่าความแตกตื่นนั้นมาพร้อมกับเสียงชื่นชมในตัวท่านมิสึกาวะ

        ท่านหญิงอาสึสะสบตากับเขาแล้วส่งยิ้มชื่นชมแทนคำพูดต่างๆที่อยากกล่าวกับคนที่นางรัก  อย่างไรก็ดี ความคิดหนึ่งที่นางไม่ได้สื่อออกไปแต่ทั้งสองคนก็รู้อยู่เต็มอกก็คือ...

        บุรุษผู้เป็นที่รักของข้า  ท่านนี่ช่างเจ้าเล่ห์ซะจริง  ทำเช่นนี้ของขวัญที่ท่านมอบให้ก็ยิ่งเรียกความสนใจได้เป็นอย่างดีนะส

        ท่านมารุสึเกะปรบมือแล้วยิ้มกว้างเพื่อแสดงความประทับใจพลางเหลือบมองมาซารุที่รับของขวัญมาและแย้มยิ้มดูสนอกสนใจมากพอสมควร

        คนแล้วคนเล่าผ่านไป  จุนกลืนน้ำลายลงคออย่างตื่นเต้นเมื่อมาซารุหันมาสบตากับเขา  เป็นสัญญาณว่าถึงคิวของจุนแล้

        ผู้คนทั้งหลายจับจ้องมาที่เด็กหนุ่มอย่างสนใจปนอยากรู้  ของที่จุนซึ่งมีข่าวแว่วมาว่าท่านมารุสึเกะแอบเรียกลับหลังอยู่บ่อยๆว่าโคชูบ้าจะเป็นอะไรกันน

        จุนนั่งคิดคำมาตลอดสามชั่วโมงระหว่างที่ผู้คนเอาของขวัญไปให้  เขาสูดหายใจเข้าลึกๆพยามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด  แต่สวรรค์ฺ! เขาไม่ชอบอยู่ท่ามกลางความสนใจของผู้คนเหมือนกับน้องสาวจินเนะของเขานี่น

        "พู่กันนี้!..."  

        จุนเผลอพูดเสียงดังเกินไปจนเรียกเสียงที่กลั้นขำไม่อยู่ของใครบางคน  เขาแทบจะอยากร้องไห้หรือวิ่งหนีออกไป  ถ้านี่เป็นรายงานหน้าห้องเขาคงจะยอมได้เอฟหรือติดลบไปแล้ว!

        แต่เมื่อสบตาที่ราวกับจะร่ำร้องให้เขามีความกล้าที่จะพูดอีกครั้ง  จุนก็ตัดเอาความรู้สึกที่ผู้คนทั้งหลายจับจ้องเขาอยู่แล้วมุ่งไปที่มาซารุเพียงคนเดียวเท่านั้น

        "พู่กันนี้ถูกสั่งทำเป็นพิเศษโดยช่างฝีมือที่ล้ำเลิศแห่งเอโดะเพื่อนำมามอบให้กับท่านมาซารุขอรับ  เนื่องจากผมได้ยินมาว่าท่านมีความสามารถด้านการเขียนโชโดไม่น้อย"

        ถึงแม้ว่าในยามปกติจะเรียกกันว่าอย่างไรก็ตาม  แต่ต่อหน้าแขกเหรื่อที่มากมาย  จุนใช้คำสุภาพแบบที่ท่านมารุสึเกะเคยกำชับไว้นักหนาก่อนหน้านี้พร้อมทั้งส่งโคชูของตนเองไปฝึกสอนเกือบทั้งวันด้วย  ทำเอามาซารุที่อยากให้จุนนอนพักผ่อนเพื่อไม่ให้แผลกระทบกระเทือนต้องต่อรองเหลือครึ่งหนึ่ง

        เมื่อเปิดฝากล่องไม้เนื้อดีที่ถูกขัดเงาก็ปรากฏพู่กันที่ด้ามมีลวดลายสลักไว้อย่างงดงามแสดงถึงฝีมืออันมากล้นของช่างผู้ทำ

        ด้านหนึ่งสลักนามของมาซารุ  ด้านหนึ่งสลักไว้ว่าพระจันทร

        "พระจันทร์เป็นสิ่งนำโชคดีในความรักหรือเป็นสิ่งที่สื่อถึงความรักได้ดีที่สุด  เมื่อใดที่ท่านมาซารุได้มองที่พู่กันอันนี้  โปรดระลึกถึงความรักที่ท่านได้มอบให้กับ...ใครผู้หนึ่ง  เสมือนกับที่ท่านเองก็จะเป็นดั่งพระจันทร์แห่งรักของใครคนนั้นเช่นกัน"

        ทุกอย่างเงียบกริบลงในทันที  แต่เพียงครู่เดียวทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงพึมพำ  เป็นที่รู้กันดีว่าท่านหญิงอาสึสะถูกกำหนดตัวอย่างแน่นอนแล้วว่าจะเป็นคู่ครองของมาซารุ  แต่คำพูดของโคชูที่บอกราวกับว่าเขามีคนอื่นอยู่ในใจแล้วนี่หมายถึงอะไรและคนผู้นั้นคือใครกั

        มาซารุเอื้อมมือออกไปรับกล่องพู่กันนั้นแล้วยิ้มอย่างประทับใจในความสวยงามของพู่กัน

        "หากที่ข้ามีความรักเมื่อไหร่  พู่กันด้ามนี้จะย้ำเตือนใจข้าให้นึกถึงเสมอ  ขอบคุณเจ้ามาก"

        ร่างในชุดกิโมโนเอ่ยราวกับว่าเขาไม่มีใครในใจทั้งสิ้น  แต่หากลองแปลในอีกความหมายแล้ว เขากำลังบอกเป็นนัยว่าพู่กันนี้จะเป็นของแทนใจอันล้ำค่าเพื่อนึกถึงผู้เป็นที่รักอย่างจุน

        ท่านมารุสึเกะเองก็กระแอมเล็กน้อยแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชื่นชมจากใจเพื่อเปลี่ยนเรื่องให้หันมาที่พู่กันแทน  แน่นอนว่ามันก็ได้ผลซะด้วยเนื่องจากความงดงามทั้งลายสลักและเส้นขนที่ใช้ทำพู่กันก็ดูมีราคาค่างวด  แม้ว่าชินบุจะไม่ได้คิดค่าทำเลยสักนิดก็ตามท

        อย่างไรก็ดี หลายๆคนถามหานามของช่างทำพู่กันด้วยความสนใจและชื่นชมในผลงานที่ถูกนำมาเป็นของขวัญซึ่งเปี่ยมไปด้วยคุณค่าและความหมายลึกซึ้ง  และเหตุนี้เอง ในกาลต่อมาชื่อของช่างทำพู่กันชินบุจึงเป็นที่ลือเลื่องถึงขั้นถูกยกให้เป็นช่างที่มีฝีมือสูงส่งคนหนึ่งในเอโดะ  และกลายเป็นตำนานสืบต่อมาในยุคเฮย์เซย์อันเป็นยุคสมัยปัจจุบันของจุ

        ในที่สุดก็ผ่านช่วงมอบของขวัญ  ผู้มาร่วมงานต่างจับกลุ่มพูดคุยกัน  ด้านท่านหญิงอาสึสะเองก็เช่นเดียวกัน  นางกระเซ้าคนที่นางรักยิ้ม

        "อีกหน่อยคงมีภาษิตว่า 'พู่กันเล่มเดียวพิฆาตมารร้ายทั้งมวล' เป็นแน่"

        ท่านองเมียวจิขยิบตา  "เรื่องมารร้ายที่ว่านั้นก็ถือว่าเป็นการแสดงอย่างหนึ่งให้ท่านมาซารุไปก็แล้วกัน  อีกอย่าง ท่านไม่พูด ข้าไม่พูด ใครจะกล้า จริงไหม?"

        คนทั้งสองสบตาแล้วหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่  ถึงจะเป็นการหัวเราะที่ไม่ถึงขั้นเสียงดังอะไรแต่ก็ดูรื่นเริงพอสมคว

 

        ยามค่ำึคืน ณ ตำหนักคาเสะที่เงียบสงบไม่เต็มไปด้วยเสียงหรือผู้คนอย่างตำหนักคาจิ  มาซารุกางกระดาษแผ่นใหญ่อย่างคล่องแคล่ว  เขาอยู่ในท่านั่งเรียบร้อย  สายลมพัดผ่านมาทางประตูที่เปิดไว้โบกผ้าแขนเสื้อกิโมโนเบาๆ  มือจับพู่กันที่สจุ่มวนที่แท่นหมึกแล้วตวัดลงบนแผ่นกระดาษสีขาวจนปรากฏลายเส้นที่สวยงา

        月光 (เก็คโค - แสงจันทร์)

        "เป็นไงบ้าง"  

        มาซารุยิ้มกว้างเมื่อเห็นสายตาทึ่งของจุนที่จ้องมองไปยังแผ่นกระดาษ  เด็กหนุ่มปรบมือรัวเร็ว  

        "ผมชอบมากเลยล่ะ  สมกับเป็นมาซารุซัง  เก่งแบบหาตัวจับได้ยากจริงๆเลยนะ  โดยเฉพาะอักษรตัว 光 นี่นะ"

        อันความจริงจุนไม่เคยเจอการเขียนที่มีลายเส้นที่ตื้นลึกเหมาะสมเท่านี้มาก่อน  แน่นอนว่ากว่าที่มาซารุจะทำได้ขนาดนี้ก็ต้องผ่านการฝึกฝนสุดโหดจากท่านหญิงอาสึสะ  ถึงตอนนั้นเขาเองอยากจะหนีการฝึกเหลือเกินก็ตาม  แต่ถ้าจุนชอบขนาดนี้มันก็คุ้มค่

        แสงจันทร์อันแท้จริงสาดส่องเผยให้เห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชมและอบอุ่นของคนรัก  มาซารุสบตากับเขาด้วยความรู้สึกรักที่มากล้นและหลงใหลแววตานั้นพลางเลื่อนกายเข้าไปใกล้  ริทฝีปากนั้นประกบเข้าหากันมอบสัมผัสอันนุ่มนวล  อ้อมแขนของจุนโอบเอวคนรักอย่างไม่ปฏิเสธในจุมพิตนั้

        เมื่อสัมผัสนั้นหยุดลง  จุนดึงร่างในชุดกิโมโนมากอดไว้พลางกล่าวคำรักอย่างแผ่วเบาแต่ชวนวาบหวามในความรู้สึกของมาซา่รุอย่างที่สุด

        เรียวนิ้วนั้นลูบไล้ไปตามใบหน้าก่อนจะหยุดลงที่ริมผีฝากซึ่งเพิ่งสัมผัสกัน  ดวงตาที่สื่อความนัยช่างเย้ายวน  นั่นทำให้จุนรู้สึกประหม่ากับภาพนั้นของมาซาร

        "อยู่กับข้านะ จุน"  ร่างในชุดกิโมโนนั้นเอ่ยขอร้องอย่างจริงจัง  "เจ้าอย่าเพิ่งกลับไปในกาลเวลาไหน  อยู่กับข้าก่อนได้ไหม"

        เด็กหนุ่มเริ่มอ้ำอึ้งกล่าวว่าที่นี่ไม่ใช่ยุคสมัยของเขาและที่นี่ก็ไม่มีครอบครัวซึ่งเขาต้องกลับไปพบด้วย  แต่อย่างไรก็ดี จุนเองยังไม่รู้วิธีจะกลับไปในอนาคต  เขาไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ที่ยุคนี้อีกนานแค่ไห

        "อยู่ที่นี้เจ้าก็มีข้า มีท่านพ่อ มีท่านหญิงอาสึสะแล้วก็ท่านมิสึกาวะ  ทุกคนล้วนเป็นสหายและครอบครัวใหม่ของเจ้าได้ทั้งนั้น  อยู่กับข้าเถอะ!"

        การที่จุนนิ่งเป็นเสมือนการยืนยันคำเดิม  แววตาของมาซารุเศร้าลงก่อนจะฝืนยิ้มออกมา  มันช่างเป็นยิ้มที่อ่อนแรงเหลือเกิน  "งั้นถ้าเจ้ากลับไป  เจ้าคงจะไม่ลืมข้าหรอกนะ"

        จุนพยักหน้าแรงๆ  "แน่นอน  ทั้งความทรงจำกับมาซารุซัง  ทั้งเรื่องราวของผู้คนที่นี่  ผมจะลืมไปได้ยังไงกัน"

        แสงจากจันทร์เต็มดวงส่องสว่าง  ทั้งสองแลกจุมพิตอีกครั้งด้วยความรักที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและเจือไปด้วยความรู้สึกต่างๆ  

        ...โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีใครคนหนึ่งกำลังจับจ้องภาพนั้นอย่างครุ่นคิด  เท้าที่กำลังจะก้าวเข้าไปได้หยุดชะงักลงก่อนจะกลับมาที่เดิมพลางถอนหายใจเบาๆ  สุดท้าย บุคคลที่ไม่ถูกสังเกตเห็นก็ได้แต่กลับไปด้วยความเข้าใจในเรื่องราวทั้งหม

        "ความจริงแล้วผมเองคงจะเศร้าไม่น้อยเหมือนกันนะ"  จุนลูบไล้ไปตามเส้นผมของมาซารุ  "หากต้องไปจากที่นี่ ทุกอย่างล้วนเป็นความทรงจำที่แสนดี  แล้วผมเองก็ 'รัก' เธอมากด้วย"

        เสียงที่เน้นความรู้สึกอย่างแน่นหนักทำให้จิตใจของมาซารุอบอุ่นขึ้นมา  เขาหันมองไปที่ท้องฟ้าแล้วพูดด้วยเสียงที่เป็นปกติ  "ข้าว่าปล่อยให้มันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตเถอะ  ยังไงซะ ตอนนี้...แค่ได้ซึมซับช่วงเวลาทั้งหมดที่มีกับเจ้า  นั่นก็คือความสุขอย่างที่สุดของข้าแล้ว"

        ไม่ว่าต่อไปจะเป็นเช่นไร  เพียงตอนนี้ ข้าได้มีความทรงจำที่แสนดีกับเจ้า...เท่านั้นก็พ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา