You are my hope.เจ้าเท่านั้น ที่ข้าจะรอ yaoi

10.0

เขียนโดย ปรัสรา

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555 เวลา 10.13 น.

  20 chapter
  3 วิจารณ์
  25.00K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

19) บทที่19

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

        จากค่ำคืนนั้น มาซารุได้พบว่าตนเจอกับจุนจนจะครบกำหนดหนึ่งปีเต็ม  ท่านมิสึกาวะที่ได้เดินทางกลับไปยังศาลเจ้าหลักนอกเมืองเอโดะก็ได้เดินทางมาที่นี่อีกครั้งเพื่อทำพิธีปัดเป่าประจำปีที่ศาลเจ้าฟุมิเนเนะ  แน่นอน ผู้ที่ตื่นเต้นที่สุดไม่ใช่ใคร  ท่านหญิงอาสึสะที่ทราบข่าวได้แต่ยิ้มน้อยๆทั้งที่จิตใจเบิกบานอย่างที่สุด

        ท่านมารุสึเกะใช้พัดเซนสึเล่มเดิมสะบัดกางโบกตัวเองอย่างรื่นรมณ์รอดูการแสดงที่ถูกจัดมาเพื่อต้อนรับท่านมิสึกาวะโดยเฉพาะ

        การประลองดาบในช่วงแรกช่างน่าตื่นตาตื่นใจ  แต่ท่านองเมียวจิก็ยังรู้สึกเหมือนทุกคนไม่ค่อยจะส่งเสียงเชียร์เท่าที่ควร

        จนกระทั่งจุนได้ก้าวออกมาที่ลานประลองพร้อมกับผู้เข้าแข่งขันอีกสี่คน  แต่ล่ะคนจะมุ่งมาที่เป้าอันเดียวกัน  กฏคือลูกธนูทั้งสามเล่มจะต้องเข้าเป้าได้ทั้งหมด  ทันทีที่สิ้นเสียงการประกาศกฏ  เสียงเชียร์กระหึ่มขึ้นมาเป็นการบอกโดยอ้อมว่าสิ่งที่ท่านมารุสึเกะนำมาแสดงต้อนรับอย่างแท้จริงคือการแข่งขันธนูนี้ต่างหาก

        เพราะไม่ได้มาที่เอโดะนาน  ท่านมิสึกาวะถึงกับสงสัยว่าทำไมท่านมารุสึเกะถึงกล้าแกล้งจุนในงานต้อนรับเขา  ไม่สิ เมื่อมองสีหน้าที่แสนภาคภูมิของท่านมารุสึเกะแล้ว  ท่านมิสึกาวะก็รู้สึกว่ามันไม่เหมือนครั้งที่แล้ว  ที่สำคัญ มาซารุเองก็ดูจะใจเย็นกว่าครั้งก่อนด้วย

        เมื่อมีห้าผู้แข่งขัน  ธนูที่ยิงออกมาต่างสะกัดกันบ้างกรณีที่อยู่ในรัศมีปะทะกันจนร่วงออกไปดอกแล้วดอกเล่า  เรียกได้ว่าคนยิงต้องเร็วที่สุดหรือช้ากว่าคนอื่นเป็นอันดับท้ายเพื่อเลี่ยงรัศมีการปะทะ

        ผลที่ออกมาเรียกเสียงปรบมือได้ดีพอสมควร  สามในห้าคือผู้ที่เข้าเป้าสองดอก  มีเพียงสองคนที่เข้าได้ทุกดอก

        มิน่าล่ะ ท่านมารุสึเกะถึงได้ดูภาคภูมินัก

        จุนเป็นหนึ่งในสองผู้กำชัยชนะในสงครามการยิงธนูไว้ได้  ฝีมือของเด็กหนุ่มพัฒนาขึ้นมากเลยทีเดียว

        ท่านมิสึกาวะแอบสงสัยไม่ได้  เขาแขนขึ้นมาป้องปากกระซิบ  "ท่านมารุสึเกะขอรับ  เหตุใดจึงได้จัดเด็กหนุ่มผู้นั้นให้มาแข่งขันด้วยล่ะขอรับ"

        "ฮ่าฮ่าฮ่า"  ท่านผู้นำตระกูลหัวเราะเสียงดัง  "ก็เจ้านั่นเป็นโคชูของบุตรชายข้านี่นา  ให้มาแสดงฝีมือหน่อยก็ดี"

        อ้อ  ที่แท้ก็แข่งล้างอายนี่เอง

        ท่านมิสึกาวะคิดในใจเงียบๆแล้วอดสงสัยไม่ได้ว่าเวลาที่ผ่านมาระหว่างที่ตนไม่อยู่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า  เรื่องที่ท่านมารุสึเกะเสียชื่อจากการแข่งคราวก่อนก็ไม่น่าจะมากมายอะไรเพราะมีแต่คนใน  แต่ทำเช่นนี้มันส่งผลต่อตัวจุนเองมากกว่า  นี่อย่าบอกนะ ว่าท่านมารุสึเกะคิดจัดการแข่งล้างอายให้โคชูของบุตรชายที่ตนไม่ค่อยจะชอบใจสักเท่าไหร่นะ?

 

        หลังจากเสร็จงานเลี้ยงต้อนรับ  ท่านมิสึกาวะเหลือบมองจุนที่ขึ้นขี่ม้าอย่างคล่องแคล่วเคียงข้างกันไปกับมาซารุ  ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะใช้เวลาตอนที่เขาไม่ได้อยู่เอโดะในการพัฒนาตัวเองไปเยอะทีเดียว

        "นึกไม่ถึงเลยนะว่าจะผ่านไปตั้งหนึ่งปีแล้วนะ"  มาซารุเอ่ยกับจุนขึ้นมาท่ามกลางความเงียบของการเดินทาง  "ตอนนั้น เจ้าพยามจะทำให้ข้านึกออกว่าเจ้าเป็นใคร  แต่ข้ากลับทำร้ายเจ้าไปซะได้"

        "ไม่หรอกๆ  เป็นผมก็คงทำเหมือนเธอ  จะว่าไป ตอนนั้นผมเองก็เสียมารยาทไม่น้อยเลย"

        คำพูดรื้อฟื้นอดีตทำให้่ท่านมิสึกาวะเกิดสนใจขึ้นมา  เขาเคยฟังเรื่องราวต่างๆจากท่านหญิงอาสึสะมาบ้างแล้ว  แต่ยังไม่ได้ฟังรายละเอียดมากนัก  นึกไม่ถึงว่าสถานที่ซึ่งทำให้คนทั้งสองได้พบกันคือศาลเจ้าฟุมิเนเนะนี้เอง

        ถึงจะเป็นการพูดคุยเล็กๆน้อยๆ  แต่เรื่องนี้กลับติดอยู่ในใจท่านมิสึกาวะอย่างน่าประหลาด  พวกท่านหญิงอยู่ที่ศาลเจ้าจนค่ำนั้น  จะเดินทางกลับปราสาทท่านขุนนางก็อันตรายเกินไป  เขาจึงถือโอกาสชวนทุกคนมาค้างที่ศาลเจ้า

        "ขอบคุณสำหรับฟูกนอนเจ้าค่ะ"  คาซาเมะที่ผันตนเองมาเป็นคนรับใช้คนสนิทของท่านหญิงอย่างเต็มตัวที่โค้งให้กับคนที่เตรียมที่นอนของตนแล้วมองตามหลังท่านหญิงไปจนลับตา  เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครได้ยิน  เด็กสาวก็กระโดดลงไปคลุกกับฟูกนอนนั้นแล้วตะโกนออกมาว่า...

        "เมื่อยตัวไปหมดแล้วเฟ้ย!"

        และซาคาเมะก็ยังคงเป็นซาคาเมะเมื่อหนึ่งปีก่อนไม่เปลี่ยนแปลง

 

        ทางด้านท่านมิสึกาวะ  เมื่อแน่ใจว่ามีแต่พวกตน  เขาก็อดถามขึ้นมาไม่ได้ถึงสาเหตุในการย้อนเวลามาของจุน  เด็กหนุ่มมองเพดานเพื่อรำลึกอดีต  ก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง  ทั้งเรื่องของจิเสะ  จินเนะ  และการพบกับมาซารุ  สุดท้ายคือค่ำคืนที่แสนมหัศจรรย์นั่น

        ท่านองเมียวจิมิสึกาวะเอามือประสานกันจนแทบไม่เห็นรอยต่อของแขนเสื้อ  พูดอย่างกลัดกลุ้ม

        "นี่ลูกหลานของข้าไปทำเรื่องอะไรแบบนั้นงั้นหรือ"  เขาขมวดคิ้ว  "ข้าคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว"

        ถึงจะไม่รู้ว่าองเมียวจิจะทำอะไรก็ตาม  จุนที่ยังคิดว่าจิเสะเป็นเพื่อนคนหนึ่งก็รีบพูดอย่างรวดเร็วว่าเรื่องนี้เด็กสาวก็ไม่ได้ทำอะไรร้ายแรงนัก  อย่างน้อยเธอก็เป็นคนที่เคยช่วยเหลือเขาไว้ในหลายๆเรื่อง

        จุน เจ้าไม่อยากให้นางต้องบาดเจ็บอย่างนั้นสินะ  มาซารุครุ่นคิดเงียบๆ  นี่อาจเป็นสาเหตุสำึคัญที่เขาไม่ยอมตอบโต้จิเสะไปในตอนนั้น

        อย่างไรก็ตาม ท่านมิสึกาวะตวาดลั่น  "ไม่ร้ายแรงหรือ!  ลูกหลานข้าทำร้ายท่านมาซารุนะ"

        ดูท่าว่าเรื่องที่จุนเล่าจะส่งผลต่อจิตใจผู้ฟังมากทีเดียว  ร้อนถึงท่านหญิงอาสึสะต้องบอกให้เขาใจเย็นๆ  หลังปล่อยให้คนรักต้องช่วยสงบอารมณ์อยู่นาน  ท่านมิสึกาวะเดินไปหยิบยันต์บางอย่างออกมาให้เด็กหนุ่มดู  มันเป็นยันต์แบบเดียวกับที่จิเสะใช้

        "ใช่ครับ"  จุนพยักหน้า  "ถึงจะไม่ค่อยชัดเจนนัก  แต่ผมว่าต้องเป็นใบนี้แน่นอนครับ  ว่าแต่มันสำคัญยังไง..."

        ท่านมิสึกาวะนั่งลงแล้วพูดนิ่งๆ  "ข้าจะส่งเจ้ากลับไปยังยุคเดิม"

        คนที่มีปฏิกริยามากที่สุดไม่ใช่ตัวเด็กหนุ่มผู้ที่อาจจะได้กลับบ้าน  แต่เป็นมาซารุซึ่งมีสีหน้าร้อนรนขึ้นมาทันที  เขาจับแขนของจุนไว้แน่นแล้วส่ายหน้าเบาๆราวกับจะให้ปฏิเสธคำพูดของท่านมิสึกาวะ  สายตาที่จ้องเขามาอย่างเว้าวอนทำให้จุนต้องยืนยันว่าเขาจะอยู่ที่นี่  หนึ่งปีที่ผ่านมานอกจากจะทำให้เขาเริ่มปรับตัวได้  มันยังสร้างความผูกพันธ์กับยุคสมัยอีกด้วย

        ท่านหญิงอาสึสะเองก็แอบส่ายหน้าเหมือนกัน  นางไม่อยากให้มาซารุต้องเสียใจหรอกนะ

        "แล้วจะปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังอยู่เช่นนี้นะหรือ"  ท่านมิสึกาวะพูดเสียงขรึม  "ท่านคิดว่าหนึ่งปีที่ผ่านไปนี้ ยุคสมัยของท่านจะกลับเป็นปกติแล้วจริงหรือ  หากว่าทายาทของข้าตั้งใจจะทำร้ายท่านมาซารุต่อไปล่ะ  นางอาจไม่ได้หยุดแค่นั้นก็ได้"

        คราวนี้จุนนิ่งงันไป  ถึงเขาจะผูกพันธ์กับมาซารุที่ยังคงเป็นมนุษย์คนนี้มากแค่ไหนก็ตาม  แต่เขาก็ไม่อาจเมินเฉยให้มาซารุร่างวิญญาณที่รอคอยเขามาตลอดหลายร้อยปีได้หรอกนะ

        เหมือนว่าร่างในชุดกิโมโนจะรับรู้ความคิดของคนรัก  เขาพยามพูดทัดทานอีกครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล

 

        วงเวทสีฟ้าวงเดิมปรากฏขึ้นในบริเวณใกล้เคียงจากจุดที่เขาคิดว่าเมื่อหนึ่งปีก่อนจิเสะได้วางกับดักไว้  ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในนั้นท่านมิสึกาวะได้จับไหล่เขาไว้แล้วเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง

        "เจ้าคงจะรู้นะ  หากพลาดไป  ตัวเจ้าเองก็จะ..."

        จุนพยักหน้าแล้วยังคงก้าวเดินเข้าไปในนั้น  แม้ว่าจะรู้สึกกลัวก็ตาม  แต่ในเมื่อมาได้ก็ต้องกลับได้  นั่นคือประโยคเรียกความหวังและความกล้าในใจของจุน

        ตัวมาซารุเองยืนอยู่ข้างท่านหญิงอาสึสะ  ใบหน้าของทั้งสองต่างเศร้าสร้อย  ระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา  การอยู่ร่วมกันกับจุนกลายเป็นทั้งความเคยชินและความผูกพัีนธ์  ดังนั้น เมื่อเขาจะกลับไปยังยุคเดิมก็ย่อมรู้สึกเสียใจเป็นธรรมดา  โดยเฉพาะมาซารุที่พยามบังคับตัวเองไม่ให้น้ำตาไหลออกมา  เขาไม่อยากทำให้จุนไม่สบายใจหรอกนะ  ถึงแม้ว่าหากเขาร้องไห้ล่ะก็  การเดินทางข้ามยุคครั้งนี้จะถูกยกเลิกอย่างแน่นอนก็ตาม

        จุนก้าวเข้าไปในวงเวทสีฟ้า  มันไม่ได้ให้ความรู้สึกเหมือนมีอะไรมายึดเท้าไว้กับพื้น  คงเป็นเพราะว่าตัวเด็กหนุ่มนั้นยังเป็นมนุษย์  แต่ยืนอยู่นานแล้วยังไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นมานอกจากอาการเหมือนสติมันจะหลุดออกไปเรื่อยๆ...

        ท่านมิสึกาวะมองอาการซวนเซของจุนแล้วขมวดคิ้ว  กำลังถูกสลายวิญญาณหรือ

        กระทั่ง จุนได้ล้มลงไปกับพื้น  ถึงตอนนั้นมาซารุกลั้นน้ำตาไม่อยู่  เขาวิ่งไปประคองร่างคนรักทันที  ซาคาเมะที่มาร่วมชมการเดินทางข้ามยุคด้วยความรู้สึกเศร้าไม่แพ้กันรีบวิ่งไปดึงตัวออกมา  ถึงแม้ว่าตัวนางเองก็อยากจะดึงเด็กหนุ่มออกมาด้วยก็ตาม  หนึ่งปีที่ผ่านมาต่อให้แกล้งจุนอยู่บ่อยๆ  แต่สำหรับนางแล้วเขาก็เป็นทั้งเพื่อนและพี่ชายที่ราวกับร่วมเล่นร่วมล้อกันมาหลายปี

        สติครบถ้วนของเด็กหนุ่มกลับมาอีกครั้ง  เสี้ยววินาทีที่ปลายนิ้วสัมผัสกันก่อนจะโดนซาคาเมะดึงตัวมาซารุออกไป  จุนสัมผัสได้ถึงบางอย่างในจิตใจ  เขารีบตะโกนมันออกมาโดยไม่ทันคิดหน้าคิดหลัง...

        "รอผมนะ!  เธอต้องรอผมอยู่ที่นี่นะ!  แล้วผมจะกลับมาหาเธอ!"

        ...ชั่ววินาทีที่ปลายนิ้วสัมผัสกัน  มันเป็นเหมือนกุญแจเปิดทางสู่การกลับไปยังยุคปัจจุบันของจุน

        ร่างของเด็กหนุ่มหายลับไปในอากาศพร้อมๆกับแผ่นยันต์ที่ส่องแสงได้ขาดครึ่งเหมือนโดนคมมีดตัด

        "จุน..."  มาซารุทรุดลง  เขาเอื้อมมือไปคว้ายันต์ที่ขาดครึ่งนั้นไว้เหมือนเป็นสิ่งดูต่างหน้าคนรัก  ร่างในชุดกิโมโนกล่าวทั้งน้ำตา  "ข้า...ข้าจะรอเจ้า  จะรออยู่ที่นี่  นานแค่ไหนข้าก็จะรอ!"




        ตั้งแต่นั้นมา มาซารุได้มาพักที่ศาลเจ้าฟุมิเนเนะราวกับวันพรุ่งนี้จะตื่นขึ้นมาพบจุนตามที่เขาได้บอกไว้  ท่านมิสึกาวะเองก็ไม่ได้ขัดข้อง  เพราะยามที่มองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมองของร่างงามนั้น  ตัวเขาเองก็อดรู้สึกผิดไม่ได้  เหตุใดตอนนั้นเขาถึงมุ่งมั่นที่จะส่งจุนกลับไปยังยุคเดิมนักนะ

        อย่างไรก็ตาม สภาพของมาซารุแบบนั้นไม่ได้เป็นที่แปลกใจของท่านมารุสึเกะเลยแม้แต่น้อย  เพราะผู้ที่ดูทั้งสองจุมพิตกันในคืนวันเกิดคือตัวเขาเอง  เมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมด  ท่านมารุสึเกะก็พยักหน้ารับรู้โดยไม่คิดจะบังคับให้บุตรชายกลับมาที่ปราสาทของตน

        แต่ว่าท่านหญิงอาสึสะกลับไม่คิดเช่นนั้น  นางพยามเสนอขึ้นมา  "ถ้าำเช่นนั้นต่อไป  ท่านมาซารุก็รังแต่จะเศร้าหมอง  ให้เขากลับมาที่นี่ดีกว่านะเจ้าคะ  อย่างน้อยเราก็ได้ดูแลเขาด้วย"

        ตัวท่านขุนนางได้ใช้พัดเซนสึอันเดิมโบกไปมา  สีหน้านั้นแม้จะไม่ได้เศร้าหนักอย่างพวกท่านหญิง  แต่มันก็แสดงถึงความทุกข์ในใจพอสมควร  "กลับมาที่นี่งั้นหรือ  ให้มาซารุไปรอคอยเจ้าโคชูบ้านั่นที่ศาลเจ้าฟุมิเนเนะ  ยังดีกว่าให้กลับมายังสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยความทรงจำ  บ้าที่สุด! ข้าบอกเจ้านั่นไปแล้วแท้ๆว่าหากทำให้มาซารุเสียใจจะทำให้มันขอโทษให้ได้นะ  เมื่อพบมาซารุในอีกหลายร้อยปี  เจ้านั่นต้องไปขอโทษเขาให้ได้นะ!"

        ท่านมารุสึเกะเองก็ไม่ได้อยู่เฉยซะทีเดียว  เมื่อมาซารุมาเป็นคู่วิวาห์ให้ท่านหญิงอาสึสะไม่ได้  เขาที่เลี้ยงนางมาตั้งแต่เด็กก็ใช้โอกาสนั้นมอบนางเป็นภรรยาของท่านมิสึกาวะแทน  ความจริงเขาก็รู้ดีว่านางรู้สึกอย่างไรกับตัวองเมียวจิผู้นั้น  และเพื่อเป็นการสร้างความสุขท่ามกลางความทุกข์นี้ด้วย

        เรื่องราวเหล่านั้นผ่านไปวันแล้ววันเล่า  ปีแล้วปีเล่าจนกลายมาเป็นหลายร้อยปี  มาซารุที่ยังคงหวังว่าจะได้พบจุนที่พยามเช็ดใบหน้ามอมๆและวิ่งเข้ามากอดเขาอีกครั้งได้รออยู่ที่นั่นมาตลอด

        นานมากแล้ว  ทำไมข้าถึงยังไม่ได้พบเจ้าอีกล่ะ  จุน...

 

        "อือ..."

        วินาทีแรกที่จุนลืมตาขึ้นมาเห็นคือสีขาว สีขาว และสีขาว  ผนังสีขาวของโรงพยาบาลเป็นวิวคลาสสิกที่มีเกือบทุกแห่ง  ที่มือของเขามีสายน้ำเกลือโยงอยู่  ที่โซฟาสำหรับให้ญาติผู้ป่วยที่มาเยี่ยมนั่งพักมีบุคคลอยู่สามสี่คน  คาเมซากิ ชิโร่ ผู้เป็นคุณพ่อและยังมีคุณแม่ของจุนด้วย  

        ถัดไปอีกหน่อยมีจิเสะ ไซโตะและจินเนะ ไอดอลที่ใช้เวลาหนึ่งปีที่พี่ชายหายตัวไปสร้างชื่อเสียงเพิ่มอีกหลายเท่าและคงตำแหน่งอันดับหนึ่งไว้ได้เป็นอย่างดี  เธอเลื่อนคิวงานออกไปทั้งหมดเพื่อเฝ้าเด็กหนุ่มซึ่งพบว่าสลบอยู่หน้าบ้านจนต้องหามส่งโรงพยาบาล หวังว่าเขาคงยังไม่ลืมนะว่าเคยบอกอะไรไว้

        ผ่านมาตั้งปีหนึ่งแล้วฉันยังไม่รู้เจ้าสิ่งที่เรียกว่า 'ความจริงของเรื่องนั้น' จากปากนายเลยนะยะ!

        "ตื่นแล้วเหรอ!"  จินเนะปราดเข้าไปทันที  "รีบบอกเรื่องนั้นมาได้แล้ว!"

        ไซโตะต้องรีบปรามเธอก่อนที่จุนจะโดนน้องสาวเขย่าคอเสื้อจนสลบไปอีกรอบ  อย่างไรก็ตาม เมื่อเป็นอิสระแล้ว  สิ่งแรกที่จุนทำคือดึงสายน้ำเกลือออกจากมือแล้วฉีกเสื้อส่วนหนึ่งมาพันไว้แทนผ้าพันแผลพลางวิ่งไปที่ศาลเจ้าฟุมิเนเนะ

        รถบัสที่ต้องต่อรวมแล้วยี่สิบนาทีเหมือนนานกว่าเดิม  หากว่าเขาวิ่งไวกว่ารถบัสคงจะลงไปวิ่งแล้วแน่ๆ  แต่ช่วงเวลาเดินห้านาทีนี้  จุนก็รีบวิ่งเต็มฝีเท้าไปที่ศาลเจ้านั้น

        บันไดที่ทอดมาจากประตูศาลเจ้ายังคงเหมือนเดิม  ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยจากการวิ่งและอ่อนแรงจากการเสียเลือดที่แผลตรงสายน้ำเกลือ  แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงพยามวิ่งไปจนถึงประตูศาลเจ้า...ซึ่งไม่ได้มีมาซารุยืนรออยู่

        ถึงจะวิ่งเข้าไปหาในศาลเจ้าฟุมิเนเนะเท่าไหร่ก็ไม่เจอ  จุนออกมาจากที่นั่นแล้วทรุดตัวร้องไห้ลงที่หน้าประตูนั้น  เขามาช้าไป...ช้าไปใช่ไหม...

        สายหมอกค่อยๆรวมตัวกันเหมือนจะปิดกั้นผู้คนภายนอกออกพร้อมกับอ้อมแขนที่เย็นเยือกถูกส่งมาจากด้านหลัง

        "เป็นเจ้านั่นเอง  ใช่จุนจริงๆด้วย  นานมาก...  นานมากจริงๆ  ข้ารอเจ้ามาตลอดนะ"  เสียงของมาซารุทั้งอบอุ่นและอ่อนโยน  "ในที่สุด เจ้าก็กลับมาพบข้าจนได้"

        จุนพยามปาดน้ำตาที่เปลี่ยนเป็นคลอด้วยความดีใจแล้วสวมกอดคนรักอย่างรวดเร็ว  "ผม...ผมกลับมาแล้ว  กลับมาแล้วนะ มาซารุซัง  กลับมาพบเธอแล้วนะ"

        จุมพิตที่แสนอ่อนโยนนั้นประทับติดตรึงมอบความอบอุ่นให้แก่กันและความรักนี้จะยังคงอยู่ต่อไป  ไม่มีใครล่วงรู้ในอนาคตว่าทั้งสองจะเป็นเช่นไร  แต่ ณ กาลเวลาปัจจุบันนี้ความรักได้คงอยู่และงดงามในจิตใจของคู่รักที่ไม่ต้องมีใครเป็นฝ่ายรอคอยอีกแล้ว...

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา