ϟHAVOC WHOPPER ปฏิบัติการเสี่ยงรักแค้นร้ายϟ

10.0

เขียนโดย Haven_line

วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 09.46 น.

  2 ตอน
  1 วิจารณ์
  5,284 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 16.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) EP1 should’n have to give a reason why

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
EP1 should’n have to give a reason why
 
 
 
 

 
 
 
So what if I go out on a million dates
 
แล้วไง ? ถ้าฉันไปแรดเดทกับผู้ชายหลายล้านคน ..
You never call or listen to me anyway
 
เธอก็ไม่เคยโทรมา หรือฟังฉันอยู่แล้วหนิ 
I'd rather rage than sit around and wait all day
 
ฉันอยากจะวีนมากกว่าที่จะนั่งรอเธอทั้งวัน
Don't get me wrong
 
อย่าเข้าใจฉันผิด
I just need some time to playฉันแค่อยากได้เวลาไปแรดบ้างไรบ้าง (อ่านะ)
 
 
 
 
 
"สิบเก้านาที สี่สิบห้าวินาที…"
 
"หะ…หา!!!!"
 
"ทำไม…"
 
"นายจับเวลาด้วยเหรอ นายบ้าไปแล้วเหรอเนี่ย!"
 
"ฉันไม่ชอบคนไม่ตรงเวลา เพราะทุกอย่างในชีวิตฉันจะต้องตรงเป๊ะอย่างที่ฉันคาดไว้"
 
…พูดเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของเวลาอย่างนั้นล่ะ ทั้งๆที่จริงๆแล้วของแบบนี้มันไม่สามารถเที่ยงตรงได้ทุกอย่างหรอก เชื่อฉันสิว่าถ้าหมอนี่เป็นคนตรงเวลาขนาดนั้น ฉันว่าเขาคงไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาๆแล้วล่ะ
 
"ฉันก็มาตรงเวลานี่นา ถือว่าวันนี้ฉันผ่าน!"
 
"ฉันยังตัดสินไม่ได้ และฉันยังไม่แน่ใจ เพราะฉะนั้นเธอยังต้องมีงานและภาระที่ต้องไปทำต่อจากนี้"
 
"งาน!!!! นายจะให้ฉันทำงานอะไรของนาย"
 
"ทำงานบ้านทั่วไปที่โชว์รูมของฉัน หวังว่าเธอคงจะทำได้…"
 
"โชว์รูม…ของนายเหรอ"
 
"อือ…ที่บ้านฉันมีกิจการเกี่ยวกับการขายรถที่รับมาจากเมืองนอก"
 
เขาบอกก่อนที่จะขับรถออกไปจากโรงพยาบาลอย่างช้าๆ ระหว่างทางเขาก็นั่งพูดเกี่ยวกับกิจการที่บ้านของเขาให้ฉันฟัง และทุกคนคงแปลกใจใช่มั้ยว่าทำไมฉันถึงไม่โต้เถียงอะไรเขาเลย ทั้งๆที่ฉันเกลียดเขาจับใจแบบนี้ แต่จริงๆแล้วฉันมีอะไรบางอย่างที่ต้องทำต่างหากล่ะ…
 
ฉันจะแก้แค้นเขาให้พ่อของฉัน และฉันคิดว่าเขาจะต้องคาดไม่ถึงแน่ๆ…
 
"ว่าแต่เธอชื่ออะไร…"
 
"ฉันชื่ออัลเดล ส่วนนายชื่อวอฟใช่มั้ย…"
 
"อืม…แล้วเธอเป็นคนที่นี้เหรอ แปลกที่ฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอเลย"
 
"ชะ…ใช่ ใช่ ฉันก็เป็นคนในเขตนี้แหละ"
 
ฉันโกหกเขา… เพราะจริงๆแล้วบ้านของฉันอยู่ที่บรัสเซลส์เมืองหลวงของเบลเยี่ยม… และอยู่ในเขตฟลานเดอร์ ฉันจะพูดง่ายๆเลยแล้วกัน คือในประเทศเบลเยี่ยมจะแบ่งเป็นสองเขตคือฟลานเดอร์กับวัลโลเนีย(วัลลูน) และที่ฉันต้องระเห็จมาถึงวัลลูนก็เพราะว่าคุณแม่ไม่อยากให้เรากลายเป็นที่ต้องตาของผู้คนที่นั่น…
 
แต่ฉันก็ไม่อยากจะคิดเลยว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้
 
"แล้วเธอเรียนที่ไหน…ถ้าเป็นมหา’ลัยเดียวกับฉันคงไม่ใช่แน่ๆ เพราะฉันไม่เคยเห็นหน้าเธอเลย"
 
"อ่อ!ฉันเรียนอยู่ในเมืองโน่น ไม่แปลกหรอกที่นายไม่เคยเห็นหน้าฉัน…แห่ะๆ"
 
"งั้นเหรอ…แล้วเธอมีปัญหาอะไรกับน้องสาวเธอหรือเปล่า ความจริงเรื่องเมื่อคืนฉันก็ไม่ได้ติดใจอะไรหรอก แต่ยังไงฉันก็ยังฉุนที่เธอมาตะโกนด่าฉันปาวๆต่อหน้าผู้คนแบบนั้น"
 
"ฉันก็โกรธที่นายว่าน้องสาวฉันแบบนั้นเหมือนกันนี่…"
 
"แต่ยังไงเธอก็ต้องมาทำงานที่นี้ จนกว่าฉันจะหาแม่บ้านได้ก็แล้วกัน…ฉันมีเงินเดือนให้เธอด้วย"
 
"ไม่เป็นไรหรอก!!! ไม่ต้องก็ได้"
 
"ฉันทำเพื่อความสบายใจของเราสองคน เธอไม่ต้องพูดอะไรแล้วล่ะ"
 
เขาพูดตัดประโยคทันทีเมื่อเห็นว่าฉันทำท่าจะโต้ตอบเขาอีกรอบ จริงๆแล้วถ้าฉันไม่รู้จักเขามาก่อนฉันอาจจะคิดว่าเขาเป็นคนดีก็ได้ แต่ติดที่ว่าฉันรู้จักเขาดีจนไม่สามารถเชื่อว่าเขาเป็นคนดีได้!
 
"นายไม่มีพี่น้องเลยหรือไง…"
 
"ไม่มี ฉันเป็นลูกคนเดียว…"
 
"แล้วทำไมนายถึงไปอยู่ในวงดนตรีHAVOC นั่นได้ล่ะ…"
 
"ฉันชอบเล่นดนตรี เหตุผลก็มีแค่นี้…แล้วพวกเราทั้งหมดในวงก็ชอบเล่นดนตรีเหมือนกัน"
 
จริงๆฉันก็ไปสืบประวัติเขามาจากพี่ญ่า(พนักงานในร้านขายขนมของฉัน) พี่ญ่าบอกว่าพวกเขาดังมากในเขตวัลโลเนีย จริงๆแล้ววัลโลเนียมีจังหวัดแยกไปเป็นสี่จังหวัดย่อยอีกน่ะ แล้วชื่อเสียงของพวกเขาก็ดังกระช่อนไปถึงหลายจังหวัดที่เหลือด้วย แต่พวกเขาไม่อยากเอาดีทางด้านนี้จริงๆเลยไม่คิดจริงจังเท่าไหร่…
 
ฉันว่าถ้าพวกเขาเอาดีทางด้านนี้ ชีวิตพวกเขาก็คงจะรุ่งไปถึงเขตฟลานเดอร์แน่ๆ
 
"จริงๆแล้วนายก็รวยนี่นา ทำไมยังต้องไปเล่นในบาร์นั่นอีกล่ะ"
 
"บาร์นั่นพวกฉันในวงทั้งหมดเป็นหุ้นส่วนกันเอง…เราคิดว่าน่าจะจัดที่ดีๆสักที่เพื่อได้เล่นดนตรีให้คนอื่นๆฟัง แล้วก็บางวันที่พวกเราเบื่อก็หาโอกาสมาเล่นแก้เซ็งได้"
 
"…ชีวิตนายคงโรยด้วยดอกกุหลาบเลยสิน่ะ"
 
"ก็ไม่เชิง…" เขาพูดขึ้นเบาๆด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉยที่เป็นแบบฉบับดั่งเดิมของเขา ฉันเหล่สายตาไปมองเขาแวบนึงก่อนที่จะคิดในใจคนเดียวว่าความรวยที่พวกเขาหามาได้ก็มาจากการโกงคนอื่นทั้งนั้น และฉันไม่รู้ว่าเขาไปทำให้ครอบครัวของใครต้องล่มจมเหมือนครอบครัวของฉันหรือเปล่า
 
"แล้วบ้านเธอทำอะไร…"
 
"ก็เปิดร้านขายขนมทั่วไป พอดีคุณแม่ของฉันท่านชอบทำขนมขาย"
 
"แล้วพ่อของเธอล่ะ…"
 
"…พ่อเสียไปแล้วล่ะ เสียไปเพราะ…" เพราะครอบครัวของนายยังไงล่ะ!!!!
 
"เพราะอะไรเหรอ"
 
"อะ…อ่อ ก็โรคประจำตัวทั่วไปอ่ะ แต่ฉันไม่เป็นไรแล้วล่ะ ฉันชินแล้ว…" ไม่จริง…
 
"ฉันเสียใจด้วยแล้วกัน เธอคงต้องหางานมาช่วยครอบครัวเยอะเลยสิน่ะ"
 
"…ใช่ พอพ่อฉันเสีย ทุกอย่างก็พังหมด"
 
ฉันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆแต่แปลกที่ความรู้สึกของฉันมันไม่ได้นิ่งเหมือนน้ำเสียงของฉันเลย ฉันต้องข่มอารมณ์เอาไว้ว่าไม่เป็นไร ทั้งๆที่ฉันยังต้องแอบร้องไห้บ่อยๆเวลาที่คิดถึงคุณพ่อ ฉันยังทำใจไม่ได้…
 
แต่ฉันยังมีคุณแม่และอัลดาร์ที่อยู่เคียงข้างฉัน…เพราะฉะนั้นฉันถึงต้องอดทน
 
"เธอเป็นอะไรหรือเปล่า…"
 
"อ๊ะ!..."
 
สัมผัสอุ่นๆที่แตะอยู่ตรงใบหน้าของฉันทำให้ฉันสะดุ้งตัวและรีบสะบัดมือของเขาออกจากใบหน้าอย่างรวดเร็ว ฉันตกใจมากที่เขาใช้มือมาลูบไล้ใบหน้าของฉัน… ฉันไม่อยากให้เขารู้สึกสงสารหรือสมเพชฉันแต่อย่างใด แต่ลึกๆแล้วฉันก็รู้ดีว่าเขาก็ต้องรู้สึกแบบนั้นในใจ
 
"ถึงแล้วล่ะ…"
 
"ที่นี้น่ะเหรอบ้านนาย ทำไมมันดูใหญ่โตแบบนี้ล่ะ"
 
"ฉันอยู่คนเดียวที่นี้ พ่อกับแม่ฉันอยู่อีกทีนึง…แต่ก็แปลกที่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้มีฉันอยู่แค่คนเดียว"
 
"ก็นายรวยนี่นา ไม่เห็นจะแปลกเลย"
 
"…ทำไมเธอถึงชอบพูดแบบนี้อยู่เรื่อย เธอมีอะไรหรือเปล่า"
 
"เปล่านี่!! ฉันขอลงไปดูแถวๆนี้หน่อยแล้วกัน"
 
ฉันบ่ายเบี่ยงคำถามของเขา โดยอ้างว่าจะเดินไปดูบริเวณรอบๆแถวโชว์รูมใหญ่ๆนี่ของเขาสักหน่อย ถ้าถามว่าที่นี้ดูหรูหรามากมั้ย ฉันก็คงตอบได้เต็มปากอย่าไม่ต้องลังเลเลยว่าโคตรหรู…และรถที่จอดเรียงรายกันอยู่ มันทำให้ฉันกลืนน้ำลายไม่ลงเลยทีเดียว เพราะดูจากราคาแต่ละคันมันกินกันไม่ขาดเลยจริงๆ
 
"เธอทำงานในบ้านฉัน…ไม่ใช่ตรงนี้"
 
"รู้แล้วนา ฉันแค่มาเดินดูเฉยๆ…จะได้คุ้นกับสถานที่ยังไงล่ะ"
 
"คุ้นแล้วก็ไปในบ้านฉันได้แล้ว วันนี้เธอไม่ต้องมาทำงานหรอก แค่มาดูว่าต้องทำตรงไหนบ้างก็พอ"
 
"อืม!!"
 
เขาพูดพลางเดินนำฉันเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่คาดว่าคงใช้เงินเยอะอยู่ในการสร้าง จริงๆแล้วบ้านเก่าของฉันมันก็ใหญ่พอสมควร แถมเมื่อก่อนฉันยังไม่ต้องทำงานบ้านแบบนี้เองด้วย…จะเรียกว่าฉันเป็นลูกคุณหนูอย่างเขาก็ว่าได้ เพราะฉันไม่เคยแตะงานพวกนี้เลยจริงๆ
 
"เธอไม่ต้องทำอะไรมาก แค่กวาดขยะ ถูพื้นแล้วก็เช็ดฝุ่นพวกนี้…"
 
"นี่นายไม่ได้จ้างแม่บ้านมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย"
 
"เกือบๆเดือนได้แล้วล่ะมั้ง…โทษทีที่มันรกไปหน่อย"
 
ไม่รกไปหน่อยหรอก แต่เหมือนรังหนูเลยล่ะพ่อคุณ! ฉันเบ้หน้าออกมาเมื่อรับรู้ว่าจะต้องมาทำงานแบบนี้ เอาจริงๆตั้งแต่คุณพ่อฉันเสียไป ทุกอย่างก็เหมือนล้มละลายไปหมด เราต้องขายบ้านเพื่อย้ายมาอยู่ที่นี้ และคุณแม่ก็ต้องสอนให้ฉันทำงานบ้าน เพราะถ้าท่านทำคนเดียวก็คงจะไม่ไหวแน่ๆ
 
"เธอไม่ต้องทำทุกอย่างให้เสร็จภายในวันเดียวหรอกน่ะ ทยอยทำอ่ะเข้าใจมั้ย…"
 
"ฉันไม่ได้โง่นา! นายไม่จำเป็นต้องบอกหมดหรอก"
 
"…อือ"
 
แปลกที่เขาไม่เถียงฉันเลย แต่เขากลับเดินนิ่งๆทำตัวเหมือนคุณชายมาดขรึมที่ถือตัวอะไรแบบนั้น แต่จริงๆแล้วถึงเขาไม่ทำแบบนั้น รัศมีความหล่อในตัวของเขาก็แผ่ออกมาจนคนอื่นๆรู้กันหมดแล้วล่ะว่าเขาเป็นไง
 
"ระวังหน่อยน่ะ ในห้องนอนฉันมันรกไปหน่อย"
 
"ทำไมหนังสือพวกนี้ถึงได้กระจัดกระจายแบบนี้ล่ะ แล้วไหนจะแผ่นดีวีดีนี่อีก…"
 
"นี่มันก็หน้าที่ของเธอที่ต้องทำนับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป…"
 
"หา!!! มีหวังฉันคงได้เป็นโรคทางเดินหายใจแน่ๆ…"
 
"หึ…ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง"
 
เขาพูดพลางแค่นหัวเราะเมื่อฉันทำสีหน้าเหมือนคนใกล้จะตายเต็มที่ออกมให้เขาเห็น จริงๆเวลาที่เขายิ้มมันก็ดูดีอยู่หรอกน่ะ แต่ถ้าแค่นยิ้มแบบนี้มันดูเหมือนตัวร้ายเลย…แต่จะว่าไปมันก็เป็นเสน่ห์ส่วนตัวของเขาล่ะน่ะ ฉันไม่แปลกใจหรอกที่เขาจะมีสาวติดเยอะมาก เพราะเขาก็คือคนที่สมบูรณ์ทุกอย่าง…
 
"อ๊ะ…โอ๊ย!!!!!"
 
"ระวัง!!!!..."
 
ปึง !!!!
 
ในระหว่างที่ฉันเดินคิดอะไรเพลินๆนั้น ฉันก็เดินไปชนเข้ากับตู้ใส่แผ่นดีวีดีขนาดใหญ่ที่ตั้งเด่นอยู่กลางห้องของเขาอย่างไม่ระวัง และนั่นจึงทำให้ตู้นั้นหล่นลงมาเกือบทับร่างของฉัน…
 
แต่โชคดีที่เขาคว้าตัวฉันเอาไว้ได้ทันและนั่นก็ทำให้ฉันนอนคร่อมอยู่บนร่างเขา!!!!!!
 
"สาบานได้ว่าถ้าเธอไม่ลุกออกจากตัวฉัน ฉันคงได้ตบะแตกแน่ๆ…"
 
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด >O<!! ฉันพยายามจะยันตัวให้ลุกออกจากการนอนทับร่างของเขา แต่ดูเหมือนที่ขาของฉันจะมีอะไรบางอย่างทับเอาไว้เลยทำให้ฉันรู้สึกเจ็บและชาจนเขยื้อนตัวไปไหนไม่ได้
 
"ฉันลุกไม่ได้อ่า T^T"
 
"งั้นเธอก็อยู่นิ่งๆ…ต้องอยู่นิ่งๆเข้าใจมั้ย"
 
"รู้แล้วนาคนบ้า!!!" พูดไปฉันก็เขินเหมือนกันที่ต้องมานอนทับร่างของเขาแบบนี้ แถมใบหน้าของเราก็อยู่ตรงกันพอดีจนฉันรู้สึกเมื่อยคอที่จะต้องยกใบหน้าให้ออกห่างจากเขา…
 
"ถ้าเมื่อยก็เอาหน้าลงมาก็ได้ ไม่ต้องยืดขนาดนั้นหรอก"
 
"มะ…ไม่เป็นไร ฉันไม่เมื่อยเลยสักนิด!"
 
"งั้น ลองขยับขาอีกทีสิ…"
 
ฉันลองทำตามที่เขาบอกโดยการขยับขาอย่างลองเชิง แต่ก็พบว่าอะไรที่มันทับขาฉันอยู่เมื่อกี้มันหายไปแล้ว แต่มันก็ยังทิ้งรอยแผลไว้ตรงขาของฉันเอาไว้ แถมยังมีรอยช้ำเป็นจ้ำๆด้วย T^T
 
"อ๊า!ขาฉันเป็นรอยไปหมดเลย T_T"
 
"ทายาไม่กี่วันก็หายแล้วนา ว่าแต่เธอจะลุกได้หรือยัง"
 
"…ดะ…ได้!!"
 
ปรากฏว่าทันทีที่ฉันยันตัวขึ้นได้แล้วกระโดดตัวขึ้นอย่างลืมตัว แผลที่ขาของฉันก็ทำฤทธิ์จนฉันล้มหงายตึงลงไปนอนบนพื้นอีกรอบอย่างเจ็บปวด แถมข้าวของที่กระจัดกระจายอยู่แล้วก็ยิ่งระเนระนาดไปกันใหญ่…แง้ง ทำไมพระเจ้าต้องกลั่นแกล้งฉันด้วย!!
 
"ยัย…!!"
 
"ชะ…ช่วยฉันก่อนเถอะ ฉันลุกขึ้นไม่ไหวแล้ว งือๆ"
 
"ให้ตายสิ ทำไมเธอถึงซุ่มซ่ามแบบนี้ฮะ!"
 
"ก็มันล้มไปแล้วนี่ ถึงนายจะด่าฉันยังไงก็ย้อนกลับไปไม่ได้หรอก…"
 
"งั้นก็ช่วยเหลือตัวเองเอาแล้วกัน!! ปากเก่งอย่างนี้ฉันช่วยไม่ลงหรอก!"
 
เขาว่าพลางเดินผ่านฉันไปอย่างไม่หันกลับมามอง และตามด้วยการปิดประตูประชดแรงๆจนฉันสะดุ้งโหยงอย่างตกใจทั้งๆที่กำลังนั่งแผละอยู่บนพื้นแบบนี้ จริงๆถ้าฉันมีสติและไม่ใจลอย มันก็คงไม่ส่งผลให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้หรอกใช่มั้ย… นี่แค่วันเดียวฉันก็ทำข้าวของเขาพังหมดเลย
 
แต่…แต่นี่ก็เป็นจุดประสงค์ของฉันไม่ใช่เหรออัลเดล…
 
"บ้าจริงอัลเดล! เธอกำลังฟุ้งซ่านอะไรเนี่ย…"
 
ฉันพึมพำใส่ตัวเองก่อนที่จะค่อยๆพยุงตัวขึ้นจากพื้นทั้งๆที่ขามันแทบจะไม่มีแรงเลยด้วยซ้ำ แถมก้นฉันมันคงระบมไปหมดแล้วแน่ๆ แล้วถ้าพรุ่งนี้ก้นฉันบวมขึ้นมาล่ะ…แง้งแง้ง >O<!!!
 
"ลุกขึ้น!..."
 
"อ๊ะ…นายไปไหนมาเหรอ"
 
"โทรไปสั่งตู้มาใหม่ อีกอย่างตู้ใบนี้ก็อยู่กับฉันมานาน…พอเธอมาเจอมันเข้า มันก็คงแผลงฤทธิ์ใส่"
 
"ยังไงฉันก็ต้องขอโทษนายอยู่ดี…ขอโทษน่ะ"
 
"ช่างมัน…"
 
เขาพูดโดยไม่หันมามองฉัน แต่แขนเขาก็ยังคงเกี่ยวแขนฉันอยู่เพื่อช่วยฉันพยุงตัวขึ้นไปนั่งบนเตียงของเขา ฉันยิ้มออกมาเมื่อเห็นเขาแกล้งเมินใส่ฉัน…แถมฉันยังอุตส่าห์ลดศักดิ์ศรีเพื่อขอโทษเขา…
 
แต่หมอนี่กลับเอาแต่ทำหน้านิ่งและทำเหมือนไม่ใส่ใจคำขอโทษของฉันเลย!
 
"ฉันเจ็บขาอ่ะ…"
 
"นั่นตู้ยา!!"
 
"แต่ฉันเดินไม่ไหวอ่ะ…"
 
"เดินไม่ไหวก็ไม่ต้องทา!! ให้ตายสิเธอจะทำให้ฉันบ้าไปถึงไหนวะ…"
 
เขาบ่นฟึดฟัดอย่างอารมณ์เสีย แต่สุดท้ายก็ยอมเดินไปเอากล่องยามาให้ฉันดีๆแต่เขาก็ยังคงไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมานอกจากใบหน้าแบบฉบับของเขาคือใบหน้าดุร้าย…
 
"นายช่วยทายาให้ฉันหน่อยสิ ฉันปวดตัวไปหมดเลย…"
 
"!!!!!"
 
"ฉันปวดหลังเหมือนกระดูกจะหักเลย T^T"
 
"ถามจริง…เธอพูดแบบนี้กับผู้ชายทุกคนเลยหรือไง! รู้มั้ยว่าถ้าฉันเป็นพวกโรคจิต ป่านนี้เธอเละไปแล้วยัยงั่ง!"
 
"อ้าว…แล้วนายไม่ใช่โรคจิตเรอะ คิกๆ"
 
"เธออยากตายจริงๆใช่มั้ยอัลเดล!!"
 
"…ก็แค่ขำๆนา ฉันเห็นนายเอาแต่ขมวดคิ้วจนเบื่อแล้วล่ะ"
 
"แต่ฉันไม่ขำด้วย!...อีกอย่าง ฉันจริงจังกับทุกเรื่อง!"
 
เขาพูดและเดินมานั่งข้างๆฉัน ก่อนที่จะกระชากขายาวของฉันให้ไปพาดไว้บนตักของเขา… ฉันทั้งตกใจทั้งพูดไม่ออกที่เขาทำแบบนี้ และตอนนี้เขากำลังควานหาอะไรสักอย่างในกล่องยา ก่อนที่จะหยิบยามาหลอดนึง… จริงๆแล้วใบหน้าที่แลออกเย็นชานิดๆก็ทำให้เขาดูดีมากๆเลย
 
"อย่ามองหน้าฉัน! ฉันไม่มีสมาธิ"
 
"มะ…ไม่มองก็ได้"
 
"ไม่มองก็หันไปทางอื่น แล้วก่อนกลับบ้านเธอต้องมาเก็บดีวีดีพวกนี้เข้าชั้นให้หมด"
 
"ทั้งหมดนี้เหรอ O_o!!!"
 
"ใช่!!"
 
"มันไม่เยอะไปหน่อยเหรอ อย่างน้อยก็เห็นใจฉันหน่อยสิ…ฉันเจ็บขาอยู่น่ะ"
 
"แล้วมือเธอพิการหรือยังไง ถ้าเกิดเธอบ่นขึ้นมาอีกคำ…ฉันจะเอายานี่ยัดปากเธอ!"
 
"ไม่บ่นก็ได้…คนใจร้าย" ฉันบ่นพึมพำแต่ทว่าเขากลับคว้ามือของฉันทันที!
 
"เธอว่าใครใจร้าย?!"
 
"…ไม่ได้ว่านายสักหน่อย" แต่ว่าผู้ชายที่ชื่อวอฟต่างหาก…
 
"สงบปากสงบคำเอาไว้ให้ดีๆ…แล้วรู้ไว้ด้วยว่าฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอ!"
 
รู้แล้วล่ะนาว่านายไม่ใช่เพื่อนเล่นฉัน ฉันอดแขวะเขาด้วยสายตาไม่ได้เมื่อเห็นว่าเขายังเอาแต่ทำหน้าบึ้งอยู่ขณะที่ใส่ยาให้ฉัน นิ้วของเขาลากผ่านผิวกายที่ขาของฉันอย่างช้าๆ…จนทำให้เลือดในร่างกายของฉันมันไหลขึ้นหน้าจนฉันรู้ร้อนที่ใบหน้าอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน…
 
"เป็นอะไร…"
 
"ปละ…เปล่า คือห้องของนายมันอบอ้าวไปนิดน่ะ"
 
"ฉันเปิดแอร์จนมันจะติดลบอยู่แล้ว เธอยังบอกว่าร้อนอีกเหรอ"
 
"จริงเหรอ!...แล้วทำไมฉันถึงรู้สึกร้อนวูบวาบแบบนี้ล่ะ"
 
"หึ…นี่เธอไม่รู้จริงๆเหรอ"
 
"ระ…รู้อะไร!!!"
 
ฉันตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นเขาทำหน้าตามีพิรุธ แล้วไหนจะรอยยิ้มที่ดูแตกต่างจากเขาคนเก่าอีก ให้ตายเถอะฉันกลัวเขาขึ้นมาจับใจแล้วน่ะ…เขาเลื่อนมือขึ้นมาจากที่แตะอยู่ที่ขาของฉันก็ค่อยๆเลื่อนขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงขาอ่อนของฉัน…
 
"ทะ…ทำอะไร!! นายทำบ้าอะไรอ่ะ"
 
"หน้าเธอแดงมากเลย…หึ"
 
"ไอ้บ้า ไอ้คนทะลึ่ง! เอามือของนายไปไกลๆเลยน่ะ!"
"ผิวเธอก็นุ่ม…ลื่นมือจริงๆ"
 
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด…"
 
ฉันกรี๊ดใส่หูของเขาเมื่อเห็นว่าเขาคิดจะลามปามฉันมากกว่าที่กำลังทำอยู่… และนั่นก็เป็นผลทำให้เขาชักมือของจากร่างกายของฉันและยกมือขึ้นปิดหูอย่างอารมณ์เสีย
 
"ให้ตายเถอะ เธอจะกรี๊ดหาพระแสงอะไร…"
 
"ฉันกรี๊ดเพื่อเรียกสติของนายกลับมาต่างหาก!"
 
"…ยุ่งไม่เป็นเรื่อง!"
 
"นายเป็นคนผิดน่ะตาบ้า! กล้าทำเมินเฉยใส่ฉันได้ยังไง!"
 
"แต่ฉันเป็นเจ้านายเธอน่ะ…อย่าลืม"
 
"ฮึ่ย!!!...ฉันเกลียดนายจริงๆ ให้ตายสิ"
 
"ทำเหมือนกับว่าฉันชอบเธอจังเลยน่ะ…"
 
"ฉันไม่ได้สั่งให้นายมาชอบฉันนี่!"
 
ฉันพูดขึ้นอย่างฉุนๆ ก่อนที่เขาจะเดินกลับมาหาฉันอีกรอบและโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆกับฉันพร้อมกับผลักร่างของฉันให้นอนราบไปกับเตียงของเขา…ไอ้บ้านี่คิดจะทำอะไรพิเรนท์ๆอีกแล้วเนี่ย >///<
 
"…แต่ถ้าฉันชอบเธอขึ้นมาล่ะ"
 
"…."
 
"หึหึ…" เขาเดินออกไปจากห้องพร้อมกับทิ้งเสียงหัวเราะเยาะเย้ยไว้ให้…
 
แต่ทำไมหัวใจของฉันถึงเต้นแรงแบบนี้ล่ะ…
 
 
 

 
 

 
 
 
 
WRITER SAY ::
 
ฝากติดตามกันเยอะ ๆ น้าาาา  

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา