รอยต่อแห่งฝัน

7.4

เขียนโดย candle

วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 20.36 น.

  11 ตอน
  31 วิจารณ์
  14.63K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556 22.19 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

          คนหนุ่มใช้สายตามองตามเมฆก้อนหนึ่งซึ่งเคลื่อนคล้อยเอื่อยเฉื่อย  อาจเป็นเพราะสายลมแห่งท้องทะเล  หรือเป็นเพราะความรู้สึกภายในก็ไม่อาจทราบได้  เรียกน้ำตาคนหนุ่มให้ไหลริน

 

          “คนเราไม่ควรมองขึ้นไปบนท้องฟ้าตอนกลางวัน  ฟ้าสูงและเวิ้งว้างเกินไปทำให้รู้สึกกลัวและโดดเดี่ยว”

 

          เขาอดไม่ได้ที่จะคิดไปถึงคำพูดของนิศา  เขายังไม่เห็นด้วยกับคำพูดของหล่อนในตอนนั้น  ถึงเวลานี้หรือจะเป็นจริงอย่างหล่อนว่าก็ได้  เพราะมายรู้สึกว่าความทุกข์โถมทับเขามากยิ่งขึ้น  เหมือนคลื่นที่สาดซัดเข้าหาฝั่งมิรู้เหนื่อย

                                                                                                    

          เขาปิดเปลือกตาลงอย่างอ่อนล้า

 

          “หลับอยู่เหรอ”  เด็กสาวในชุดนักเรียน ม.ปลาย  นั่งลงข้างคนที่นอนหลับอยู่บนชายหาด

          “เปล่า  รู้สึกแสบตาน่ะ”  เขาบอก

          “จะกลับไปกรุงเทพเมื่อไหร่”  เอินถามในสิ่งที่อยากรู้

          “ไม่รู้สิ  พี่ยังตอบเธอตอนนี้ไม่ได้”

          “จะกลับหรือไม่กลับก็ไม่ต่างกันเลย  เพราะมายไม่ได้เอาหัวใจมาด้วย”  เด็กสาวค่อนขอด

          “-----o-----”

          “เมื่อไหร่มายถึงจะลืมผู้หญิงคนนั้น”  เด็กสาวคล้ายไม่ตั้งใจจะไถ่ถาม  เพียงแต่พูดขึ้นมาลอย ๆ

          “พี่จะไม่ลืม  และไม่เลิกที่จะรักเธอ”  มายลุกขึ้นนั่งชันเข่า  เท้าแขนไปข้างหลังมองท้องทะเลเบื้องหน้า

          “เพราะอะไร  ทั้งที่มันจะช่วยให้เจ็บปวดน้อยลงไม่ใช่เหรอ”

          “ใช่  แต่เธอไม่มีทางรู้หรอกว่า  มันยากขนาดไหนที่เราจะเลิกรักใครสักคนซึ่งเรารักเขามาก”

 

          มายเหลือบมองเสี้ยวหน้าของเด็กสาว

 

          “นั่นเป็นเพราะว่าพี่ไม่พยามลืมเองต่างหาก”  เด็กสาวค้าน

          “จริงอย่างเธอว่า  พี่ไม่คิดจะลืม”  มายยอมรับทั้งยังยืนยัน

          “หมายความว่าจะไม่รักใครอีกแล้ว  นอกจากผู้หญิงคนนั้นงั้นสิ”

         

          เด็กสาวหันมามองหน้าเขา

 

          “พี่ไม่มีหัวใจจะรักใครได้อีก”

          “คนเราสามารถมีความรักครั้งใหม่ได้เสมอ  มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่จมอยู่กับอดีต”

          “ไม่รู้สิ”

          “ผู้หญิงอย่างนิศาไม่มีค่าพอที่มายจะมอบความรักให้  ไม่แม้แต่จะคิดถึงด้วยซ้ำ  รู้มั๊ยว่าตอนนี้...”

          “เธอยังไม่รู้จักนิศา  ไม่ควรพูดอย่างนี้”  มายกล่าวขัดขึ้นก่อนที่เด็กสาวจะพูดจบ

 

          เด็กสาวหัวเราะ

 

          “ใช่ค่ะ  เอินไม่รู้จัก  แล้วมายล่ะรู้จักผู้หญิงคนนั้นดีแค่ไหน”  ย้อนถามด้วยความน้อยใจ

          “การที่พี่เป็นอย่างนี้  คิดบ้างหรือเปล่าว่าทำให้คนอื่นเขาพลอยทุกข์ใจไปด้วย”

          “พี่อาจทำไม่ถูกที่มาที่นี่”  กล่าวด้วยกังวล  เพราะล่วงรู้สิ่งที่อยู่ในใจเธอ

          “ค่ะ  เพราะเอินเกลียดคนไม่มีหัวใจ”  เด็กสาวเน้นคำ

 

          หันมาเผชิญหน้ากับเขา  ก่อนลุกจากไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัวทิ้งคนหนุ่มไว้เดียวดาย

 

          ใช่สิ  แท้จริงแล้วเขารู้จักนิศาบ้างหรือเปล่า  เขาไม่รู้จักแม้แต่น้อย  ไม่เข้าใจในการกระทำของหล่อน  ในค่ำคืนนั้น  ความฝันของเขาสวยงาม  ที่แท้นิศาทำอย่างนั้นทำไม  หล่อนยอมเป็นของเขา  มายเป็นคนแรกของหล่อน  นิศาจะรู้หรือไม่ว่ามันกลับยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดให้เขาหลายเท่าตัว

 

          มายลุกขึ้นนั่ง  ครั้นความมืดเริ่มโรยตัวลงมาอย่างเงียบเชียบ  มองไปทางชายหาดด้านหนึ่ง  ในทิศทางที่เด็กสาวลุกจากไป  ก่อนตัดสินใจลุกเดินไปยังทิศทางตรงกันข้ามอย่างเลื่อนลอย

 

 

          **********                                               **********

 

          เรือนปีกไม้หลังกะทัดรัดซึ่งหันหน้าออกสู่ทะเล  ยืนสงบงันอยู่ภายใต้แสงจันทร์กระจ่างฟ้า  เด็กสาวเจ้าของบ้านยังนั่งอยู่ตรงเชิงบันไดด้วยความกังวลใจนานนับชั่วโมงมาแล้ว

 

          “เป็นอะไรนั่งถอนใจอยู่ได้  ไม่คิดจะหลับจะนอน”  ออยเคาะหัวน้องสาวเบา ๆ

          “มายหายไปไหน  ทำไมยังไม่กลับ”  เด็กสาวพูดขึ้นท่าทางเป็นกังวล

          “นอนนับดาวอยู่มั้ง”

          “ออยพี่ไม่เป็นห่วงเพื่อนรึไง”  เด็กสาวถามอย่างไม่เห็นสนุกกับคำของพี่ชาย

          “เขาอาจอยากอยู่กับตัวเอง”

          “แต่นี่มันเลยเที่ยงคืนไปแล้ว”

          “สักพักคงกลับหรอก”  ออยยิ้มมองหน้าน้องสาว

          “หรือว่าเป็นเพราะเรื่องเมื่อเย็นนี้”  เอินถอนหายใจสีหน้าไม่คลายกังวล

          “มีเรื่องอะไรกัน”

          “เอินพูดไม่ดีกับเขา”  เด็กสาวสารภาพไม่สบายใจนัก

 

          ออยนั่งลงข้างน้องสาวลูบหัวปลอบโยน  ถามไถ่ในความคิดของเธอ

 

          “บอกพี่ถึงสิ่งที่อยู่ในใจของเธอได้ไหม”

          “อะไรคะ  เอินไม่เข้าใจ”

 

          ออยนิ่งเงียบไปมองหน้าน้องสาวก่อนจะพูดขึ้น

 

          “อะไรก็ได้ที่เธอรู้สึกในเวลานี้  เกี่ยวกับมาย”

          “เอินเป็นห่วงมาย”

          “แค่นั้นเหรอ”

          “-----o-----”

          “เธอรักเขาหรือเปล่า”

          “เอินไม่ทราบค่ะ”

          “อย่างนี้ล่ะ  เขาเรียกว่าความรัก”

 

          ในคราวนี้เด็กสาวอดหัวเราะออกมาไม่ได้เลยทีเดียว

 

          “อะไรอีกล่ะ”

          “พูดยังกะว่าตัวเองเจนจัดในเรื่องความรักงั้นแหละ”

          “พูดมาก  ยัยเด็กแก่แดด”  ออยเขกหัวน้องสาวแก้เก้อ

 

          สองคนหัวเราะขึ้นพร้อมกัน

 

          “คืนนี้พระจันทร์เต็มดวงเสียด้วยสิ”  เอินพูดขึ้น  หลังจากเงียบกันอยู่ครู่ใหญ่

 

          ออยแหงนหน้าขึ้นมองตามน้องสาว

 

          “หวังว่ามายคงไม่ไปที่นั่นนะคะ”  เด็กสาวไม่ค่อยมั่นใจในสิ่งที่พูด

          “เธอคงไม่ได้หมายถึงชายหาดฝั่งโน้นหรอกนะ”

 

          เอินพยักหน้ารับ

 

          “ลุกเถอะ  พี่จะไปเอาไฟฉาย”

          “พี่ลืมไปจริง ๆ”  ออยถอนหายใจ  ตบไหล่น้องสาวให้ลุกขึ้น

 

          สองพี่น้องปิดบ้านไว้  คนพี่โอบไหล่น้องสาวไว้  เดินหายไปในความสลัวของแสงจันทร์

 

 

          **********                                               **********

 

          ว่ากันว่าดวงจันทร์มีอำนาจลึกลับ  และมีอิทธิพลต่อจิตใจของมนุษย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่อ่อนแอทางจิตใจด้วยแล้ว  มักจะผลักดันให้ทำในสิ่งที่คาดไม่ถึงเสมอ  และนี่ก็เช่นกันอย่างนั้นเหรอ  มายกำลังตกอยู่ในอำนาจที่ว่านั่นหรือเปล่า

 

          “อ้างว้างอยู่กับคลื่น  จมอยู่ในสิเน่หา

          อารมณ์ทุกอารมณ์  ยากยิ่งพรรณนา

          เจ้าชายแห่งทะเล  เจ้าชายแห่งทะเล”  (เพลงพราย)

 

          ชายหนุ่มผู้ไร้ซึ่งหัวใจพร่ำบ่นบทเพลงสะเทือนใจดังก้อง  ด้วยเสียงที่แหบพร่าเจือแววสะอื้น  แย้มยิ้มกับเกลียวคลื่นวิ่งเล่นบนชายหาด  มาดว่าในโลกนี้ร้างไร้ผู้คน 

 

          เขาวิ่งจนเหนื่อยหอบก็ยังไม่พบใครเลย  หรือจะมีเขาอยู่เพียงคนเดียวแล้วจริง ๆ ชายหนุ่มทอดกายลงแนบกับผืนทราย  หลับไปด้วยฤทธิ์ของสิ่งมึนเมาที่เสพเข้าไปก่อนหน้านี้

 

          ราตรีร่ายมนต์ร้ายผ่านแสงนวลจันทร์  ปลุกคนหลับไหลไร้ซึ่งหัวใจหลงละเมอก้าวย่างจมดิ่งหายไปสู่ท้องทะเล  ดั่งโดนสะกด

 

          “โอ้...คิดถึงใคร

          หยดน้ำหยดไหน  ความเค็มเท่าใด

          ละเมอเอื้อมหยิบแสงดาวมาพันกาย

          โอ้...ฝันร้าย

          ดาวพราวแสงไม่พอ

          เปลือยกายพรากจากฝั่งเมื่อท้อ

          ตายอยู่ใต้ทะเล

          เจ้าชายแห่งทะเล  เจ้าชายแห่งทะเล”  (เพลงพราย)

 

          เสียงเพลงบทเดิมยังคงกล่อมเขาอยู่ในความฝันอันแสนโหดร้าย  หรือแท้จริงแล้ว  ภายในใจของมายครุ่นคิดในสิ่งที่คาดไม่ถึงนี้อยู่จริง ๆ

 

          ใครจะรู้ว่า  ความรักทำให้คนที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของมันอ่อนแอถึงเพียงนี้ได้

 

 

          **********                                               **********

 

          เด็กสาวตกตะลึงกับภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า  ทรุดนั่งลงกับผืนทรายปล่อยน้ำตาไหลอาบแก้ม  ไร้ซึ่งเสียงสะอื้น

 

          “เขาหลับอยู่ใช่มั๊ย  ใช่หรือเปล่า”

 

          ออยลูบผมเธอ

 

          “ใช่  พรุ่งนี้เขาจะตื่นขึ้นมา  ไปเถอะ"

 

          ออยวางร่างไร้สติของเพื่อนลง  ไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมาจากปากของสองพี่น้องคู่นี้  จวบจนตะวันฉายแสง.

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา