รักวุ่นๆ ยัยน้อมแน้มนายขี้เก๊ก

9.8

เขียนโดย napadsornmusika

วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 17.39 น.

  7 ตอน
  1 วิจารณ์
  9,814 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 23.30 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) จะเอายังไงกันแน่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

"ไอ้หมออาทิบ้า"

เนื้อตัวเวฬุรินสั่นไปหมด ขอบตาร้อนผ่าว

ทำไมเขาต้องหยาบคายเช่นนั้นด้วย ทำไมต้องทำแบบนั้นกับหล่อน

คนรักกันเท่านั้นที่จะทำเช่นนั้นได้แต่นี่ไม่ใช่ ทั้งเขาและหล่อนนั้นแหละ ก็ดีที่คุณเอ้ไม่ต้องแต่งงานกับไอ้หมออาทิบ้านั้น

ดีไม่ดี...เขาอาจจะโหดเหี้ยมขนาดที่คิดไม่ถึงก็ได้

หน้าเหมือนเทพบุตร ทว่าหัวใจทรามยิ่งกว่าซาตานปีศาจจากขุมนรกอีก

หญิงสาวโกรธจนไม่ได้คิดหาเหตุผล

เพราะอะไรกันแน่ฃ

ทำไมนายแพทย์อาทิต้องทำแบบนี้กับหล่อน วุ้ยยยคนสวยเซง TT^TT

เขาโอบกอดหล่อนราวกับว่า.............ยี้ไม่อยากจะคิด

                              ***************************

"อารมณ์เสียมาจากไหนคะหมอ"

อาทิก้าวเข้าไปในห้องทำงาน ชะงักเมื่อได้ยินเสียงถามดังมาจากสาวสวยอดีตภรรยาที่ขึ้นมารอพบเขาอยู่ก่อนแล้ว

"ว่าไงคะ"

ภัสสรลุกจากโซฟารับแขกภายในห้องทำงานของเขา เดินเข้ามากอดแขนเอาใจ แหงนหน้ามอง (คนแต่งอยากจะตบฟันล่วงจิงๆ)

อาทิแกะมือหล่อนออกไป ถามแบบไม่มองหน้า

"มาทำไม....."น้ำเสียงเขากระด้างมากกก

"ถามมาได้ ก็มาแสดงความยินดีไงคะ"

ภัสสรตอบทันที

นายแพทย์อาทิจ้องหน้าหล่อนเขม็ง

"ยินดีเรื่องอะไร รึมันเปนแค้ข้ออ้าง"

"ข้ออง ข้ออ้างอะไรกันล่ะคะ"

ภัสสรถามยิ้มๆ

"แพนมายินดีด้วยต่างหากที่หมอคิดได้ ไม่ควรตามใจผู้ใหญ่หมั้นหมายผู้หญิงอื่น ทั้งที่ในใจของหมอยังไม่เคยลืมแพน"

"หลงตัวเองไปรึเปล่าไม่ทราบ"

กระแสเสียงเชาชิงชัง

"หลงตัวเองอะไรกันล่ะคะความจริงตะหาก แพนรู้นะคะว่าหมอยังรักแพน"

"พูดออกมาได้ไม่อายปาก มีอะไรบ้างไมที่คุณสำนึกได้ถึงความชั่วร้ายของตนเอง"

"หมอพูดอะไรคะเนี่ย แพนไม่เข้าใจ"

"หยุดเสแสร้งซะทีได้ไม"

ภัสสรทำตาโตอย่างดัดจริต

"เสแสร้งอะไรกันคะ แพนพูดความจริงทุกอย่าง และแพนดีใจจริงๆที่ไม่มีข่าวหมอหมั้นกับผู้หญิงคนนั้น"

"ผมจะหมั้นหรือไม่ ยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ"

"หมอ........" ภัสสรร้องอย่างตกใจ"ก็ได้...แพนจะกลับไปก่อนแต่อย่าคิดนะคะว่าหมอจะหนีแพนพ้น หมอต้องกลับมาซบอกแพนอีกครั้ง คราวนี้หมอไม่มีวันขับไล่ไสส่งแพนออกไปจากชีวิตหมอได้เป็นหนที่สองหรอกนะคะ จำไว้ให้ดีแล้วกัน จำไว้ให้ดีแล้วกัน และหมอนั่นละที่จะต้องเป็นฝ่ายกับมาหาแพนเอง"

ภัสสรหัวเราะและทำในสิ่งที่เขาคิดไม่ถึง ก่อนจะกลับออกไป หล่อนปราดเขามากอดเขาและทาบริมฝีปากของเขาเข้ากับปากหล่อน จากนั้นผละออกไปด้วยน้ำเสียงที่ประกาศถึงชัยชนะของหล่อนอีกครั้ง

สีหน้านายแพทยือาทิดุดัน กลับมาอีกคอยดูเเเเเขาจะโยนหล่อนออกไปนอกห้องด้วยตัวเขาเองนี้ล่ะ

                                 *******************************

"ฝากขอบใจแม่หนูด้วยล่ะ อุตส่าห์ให้หนูมาเยี่ยมป้า"

ป้าวันดีซึ่งอาการดีมาแล้ว ลูกสาวที่มาเฝ้าดูแลบอกให้เวฬุรินรู้ว่า

"มะรืนนี้แม่น่าจะกลับบ้านได้แล้วล่ะ ยังไงก็ขอบใจนะไผ่ที่มา"

"ไม่เป็นไรคะ"

"แล้วนี่จะกลับยังไงล่ะ...มืดแล้วด้วย"

"ดีแล้วล่ะ ยังไงคืนนี้พี่ต้องเฝ้าแม่ ไม่งั้นจะได้กลับไปด้วยกัน"

"พี่พิมขับรถมาเองสินะคะ"

"จ้า"

"ถ้างั้นไผ่เห็นทีจะต้องกลับก่อนนะคะ สวัสดีคะ"

เวฬุรินบอกว่าทั้งคนป่วยและลูกสาวคนป่วย

เวฬุรินลงมาจากอาคารผู้ป่วยแล้ว

ผ่อนลมหายใจเล็กน้อย ก่อนจะสาวเท้าออกไปปจากบริเวณของโรพยาบาลสู่ถนนใหญ่

หญิงสาวไม่ได้สนใจรถที่แล่นเข้าออกประตูทางเข้า บอกตนเอง...มืดแล้ว จะต้องรีบกลับบ้าน ภาวนาให้รถอย่าได้แน่นขนัดเลย ไม่เช่นนั้นหล่อนคงถึงบ้านดึกแน่เชียว เวฬุรินได้ยินเสียงแตรรถที่ดังมาจากข้างหลัง รีบถอยหลบ ทว่าแทนที่รถคันที่ว่าจะแล่นผ่านหล่อนออกไป เอ๊ะ..รถจอด หญิงสาวหันไปมองอย่างแปลกใจ

ก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ

เมื่อเห็นคนขับประตูรถลงมา โอ้ พระเจ้าช่วยกล้วยทอด

"หมออาทิ"ให้ตายซิยิ่งเกลียดยิ่งเจอ หล่อนเอ็ดในใจก่อนจะสาวเท้าออกมาจากตรงไหนให้เร็วที่สุด

ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจอดรถทำไม และลงมาเพราะอะไร บอกตนเองต้องรีบไปให้ไกลที่สุดจากตรงนี้และต้องไปให้ถึงป้ายรถโดยสารโดยเร็วเผื่อจะมีรถเมล์แล่นเข้ามาจอดเทียบป้ายในจังหวะนั้นพอดี

"จะไปไหน"

มือที่ยื่นมาจับต้นแขนทำให้หญิงสาวชาไปทั่วร่างหันขวับไปมอง

"หมออาทิ"

"จะกลับบ้านสินะ"

เขาถาม ไม่ยอมปล่อยมือจาต้นแขน เวฬุรินไม่พอใจ "หมอมีอะไร"

"จะไปส่งไง"

"ไม่ต้องหรอกคะ"

เธอปฏิเสธ

"ทำไม..." เขาถามทำไม

เวฬุรินมองหน้านายแพทย์อาทิไม่พอใจ

"ไผ่ไม่ต้องการติดหนี้บุณคุณหมอนะสิคะ อีกอย่างไผ่ไม่มีเงินจ่ายค่ารถ"

"พูดอะไร ยังไงก็ต้องไปด้วยกัน"

"ไม่" เอ๊ะตาบ้านี้บอกไม่ไปยังจะเอาอะไรอีก

"รังเกรียจฉันรึไง"

"รังเกรียจ" มากกกกกกกกกกกก

หล่อนตอบโต้ออกไป อย่างไม่ต้องคิด

"บอกเหตุผลได้หรือเปล่า แต่ยังไงไปคุยกันในรถ"

นายแพทย์อาทิพูดเร็ว เพราะมัรถจ่อท้ายจะแล่นออกไปจากประตูทางออกของโรงพยาบล เขาไม่รอให้เธอตัดสินใจ ดึงแขนหล่อนกลับไปที่รถ และเปิดประตูรวดเร็วจับหล่อนยัดใส่รถรีบวิ่งไปเปิดประตูด้านคนขับ แล่นรถออกไปทันที ทั้งที่ยังไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งไปคาดกันทีหลังเมื่อเคลื่อนรถออกไปได้แล้วในช่วงจังหวะหนึ่ง

"บ้านอยู่ที่ไหน"

"ไม่ต้อง จอดรถข้างหน้าแล้วกันไผ่จะลง"

"เสียใจด้วยนะ...ฉันไม่ชอบจอดรถส่งใครง่ายๆโดยเฉพาะในเส้นทางที่ดูเปลี่ยว เห็นแล้วว่าคนที่ลงไปอาจจะเกิดอันตราย"

"รถหมอแน่ใจหรือคะว่าปลอดภัย" หล่อนโต้

เขาหัวเราะ

"ขำอะไรคะ ไม่เห็นมีอะไรน่าขำสักหน่อย"

"นั่นสิ ไม่มีอะไรน่าขำสักหน่อย"

"หมอ"

"จะขอร้องอะไรอีกล่ะ"

"ทำไมหมอต้องมาเสียเวลากับไผ่ด้วยไม่ทราบทั้งที่หมอทำท่าราวกับจะเกลียดไผ่" ว่าจะไม่ถามก้ถามจนได้

"เธอไม่ใช่ศัตรู จะเกลียดทำไม ว่าแต่จะบอกได้ยังว่ารู้จักฉันได้ยังไง"

"ก็บอกแล้วไงคะว่ามีคนเรียกชื่อหมอ"

"ไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์งั้นสิ"

เขาพูดขึ้น ก่อนจะผ่อนลมหายใจหนักหน่วงสีหน้าดูจะเครียดขึ้นมา

"หนังสือพิมพ์หรือคะ"

"อย่าบอกนะว่า เธอไม่เคยใส่ใจจะติดตามข่าวสารจากหนังสือพิมพ์"

"แน่นอนคะ"

เขาหันขวับไปมอง

"ที่บ้านไม่รับหนังสือพิมพ์ ที่ทำงานก็น่าจะรับ"

"จะเอาเวลาที่ไหนไปอ่านหนังสือพิมพ์ล่ะคะ"

"ฉันต้องเชื่อเธอหรือเปล่า"

"ไม่จำเป็น" บอกก่อนผินหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถยนต์หรูของเขา"

                            ********************************

เห้อออ ในที่สุดก็เส็จจนได้ อย่าลืมติดตามนะคะ ถ้ามีอะไรก็ชี้แนะวิจารณ์ด้วยนะคะพอดีเพิ่งเป็นมือใหม่หัดเขียน

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา