รักวุ่นๆ ยัยน้อมแน้มนายขี้เก๊ก

9.8

เขียนโดย napadsornmusika

วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 17.39 น.

  7 ตอน
  1 วิจารณ์
  9,830 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 23.30 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ความรู้สึก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

"ว่างยังไงบ้านของเธออยู่ที่ไหนกันแน่หึ หรือต้องการให้ฉันขับรถวกวนแบบนี้ไปทั้งคืน

  อารมณ์นายแพทย์อาทิเปลี่ยนไปอีกครั้ง เมื่อเขาขับรถเปลี่ยนไปในเส้นทางที่เวฬุรินบอก แต่เอาเข้าจริงๆ หล่อนไม่ยืนยันตรอกใดซอยใด หมู่บ้านแห่งไหนกันแน่ที่หล่อนพักพิง

เขาจอดรถชิดฟุตบาธ

"ทีนี้ก็ว่ามา"

เวฬุรินรู้สึกผิด

ในที่สุดหล่อนก็บอกเส้นทางไปยังบ้านเช่าที่พักอาศัยอยู่กับพ่อแม่

"หมู่บ้านนี่มันห่างจากโรงพยาบาลของฉันไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง"

หญิงสาวไม่กล้าสบตาด้วย ทำท่าจะเปิดประตูลงไป เขาก็ดันมาจับแขนไว้

"ปล่อยนะคะ และหมอก็ควรจะกลับไปได้แล้ว"

"คิดว่า จะไล่กันง่ายๆแค่เห็นประตูบ้านตัวเองอย่างนั้นหรือ" เขาถามเสียงเข้ม

หล่อนมองหน้า ใจคอไม่ดีนัก

ไม่ได้กลัวเขา แต่เกรงใครจะมาเห็นเข้าใจผิด จะไม่งาม และหากมีใครรู้จักเขาเรื่องที่ดูจะไม่เป็นเรื่องเป็นราวจะต้องเป็นเรื่องที่ไม่พึงปราถนาขึ้นมาอย่างแน่นอน

"หมอจะเอาอะไรอีกคะ"

"ฉันมัวแต่ขับรถไปในเส้นทางที่เธอบอก ตอนนี้ฉันหิวแล้วล่ะนะ"

"ส่งไผ่แล้ว หมอก็ออกไปหาทานเองสิคะ"

"ได้ไง คืนนี้ฉันขอกินข้าวบ้านเธอล่ะกัน"

"ไม่ได้นะคะ"เธอร้องออกมาอย่างตกใจ"

"ทำไมต้องตกใจเหมือนกับว่าฉันจะปล้ำเธอด้วยล่ะ หิวอย่างนี้จะเอาแรงที่ไหนไปทำแบบนั้นล่ะ"

นายแพทย์อาทิยั่วคืน คนที่ถูกเอาคืนบ้างหน้าตาร้อนผ่าว

ในที่สุดเขาก็ดันทุรังเข้าไปในบ้านเธอจนได้

ทันทีที่ลูกสาวพาคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน นางนวลถึงกลับตกใจ ทันทีที่ลูกสาวแนะนำให้รู้จักฝ่ายชายเป็นผู้ใด มาจากไหน ไฉนมาส่งกันได้ถึงบ้านถึงช่องแบบนี้

"หมอยังไม่ได้ทานอะไรเลยคะแม่"

ลูกสาวกระซิบบอก นางนวลมองหน้า

"แล้วจะทานอะไรล่ะ....อาหารพื้นๆจะทานเข้าไปได้เรอะ"

"มีอะไรก็ให้ทานไปเถอะแม่ ไม่ได้เชิญมากินข้าวบ้านเราสักหน่อย อยากจะขอกิรทำไมล่ะ"

"ยายไผ่...แกพูดจาประสาอะไรกัน ยังไงหมอให้เกียรติแกเกินไปแล้วด้วยนะ"

"แต่กับคุณเอ้ไม่ยักให้"

ลูกสาวบอกเป็นหมี้กินผึ้งก่อนเข้าครัว

ในไม่ช้าหล่อนก็ตั้งโต๊ะให้แขกที่ไม่เต็มใจเชิญมาทานข้าวบ้าน

  นายแพทย์อาทิมองน้ำพริกปลาร้า กับปลาทอด และไข่เจียว เขากลืนน้ำลายลงคอ

เวฬุรินมองหน้า

"ทานไม่ได้ไม่เป็นไรคะ ไผ่กับแม่จะเก็บไว้ทานกันเอง เชิญหมอกลับไปทานที่บ้าน หรือไม่ก็แวะหาจากร้านอาหารที่ป่านนี้คงจะมีขายอยู่มั้งคะ"

หล่อนพูดประชด

"ใครบอกว่าฉันกินอาหารพวกนี้ไม่ได้"

"แม้แต่น้ำพริกปลาร้า หมอก็ทานได้งั้นสิ"

เวฬุรินเยาะ

"ทำไมจะกินไม่ได้ สมันเรียนที่เมืองนอกฉันให้แม่ครัวทำให้กินประจำ"

"โกหกหรือเปล่า อย่างหมอจะทานน้ำพริกปลาร้าเป็น"

"ไม่เชื่อก็ตามใจ เดี๋ยวจะกินให้ดู ไงเธอก็ต้องกินด้วย"

"หมอ"

นายแพทย์อาทิมองหน้า

"เงียบไปทำไม ไงก็กินด้วยกันนะ เธอเองก็ยังไม่ได้กินอะไรเหมือนกันใช่มั้ย"เขาพูด..

ท่าทางเขาจะอร่อยกับน้ำพริกปลาร้าและปลาทอด ไข่เจียว ผักสดที่แม่จัดให้ก็ดูจะทานเก่งมากทีเดียว ทำให้เธอลอบยิ้มไม่ได้

ท่าทางเขาไม่เหมือนนายแพทย์ยโสอีกต่อไป

หลังทานเสร็จหล่อนนึกได้ว่ามีแปรงสีฟันที่ยังไม่ได้ใช้ หล่อนจึงเอามาให้เขา

                                                                                                                                                     "ห่วงจะเหม็นปากฉันรึไง"

"ปากเหม็นก็เรื่องของหมอ เกี่ยวอะไรด้วย"

หล่อนพูดราวกับงอนเขาขึ้นมา นายแพทย์อาทิยิ้มในสีหน้า

"แน่ใจหรือว่าฉันปากเหม็นจะรับไหว ถ้าฉันอยากจะจูบเธอหลังอาหารขึ้นมา"

"หมอพูดอะไร"

หญิงสาวตกใจ

แต่เขาดันหัวเราะในกริยาของหล่อน และหล่อนก็โล่งใจมากเมื่อใครคนหนึ่งโทรหาเขาและทำให้เขารีบบอกลาหล่อนกับแม่กลับไป

                     ************************************* "ยายไผ่"

นางนวลเรียกลูกสาวเอาไว้ ก่อนที่เวฬุรินจะหนีเข้าไปนอนก่อน

"แม่มีอะไรค่ะ ดึกมากแล้วนะ พ่อบอกแล้วไม่ใช้เหรอคะว่ายังไม่กลับจากบ้านย่าวันนี้"

"แม่ไม่ได้พูดเรื่องพ่อของแกสักหน่อย หมออาทิต่างหาก"

"ทำไมล่ะคะ"

"รู้จักกันมานานรึยังก่อนหน้าที่จะมีข่าวจะหมั้นลูกสาวนายจ้างใช่มั้ย บอกแม่มาตรงๆ ห้ามโกหกเป็นอันขาด"

"ไผ่เคยได้ยินชื่อเขา แต่ตัวเป็นๆเพิ่งเจอกันวันนี้"

"เพิ่งรู้จัก แต่เขาตามแกมาจนถึงบ้าน หมายความว่ายังไง"

"ไผ่ไม่ได้ชวน แต่เขากับไผ่เจอกันในลิฟต์"

"แค่นั้นมันไม่มีเหตุผลที่หมออาทิจะต้องเสียสละมาส่งแกจนถึงบ้าน"

"แล้วแม่จะให้มีอะไรล่ะ"

ถามเสียงหงุดหงิดไป

"ทำไมพูดแค่นี้ก็ไม่ได้ โกรธมากสินะ"

"แม่"

"ที่แม่พูด แม่ถามก็เพราะเปนห่วงลูกสาวอาเสี่ยเขายังไม่สนใจลุกสาวคนรับจ้างรีดผ้า พ่อขับแท็กซี่เขาจะมาสนเหรอ"

"เราคงไม่ได้พบกันอีก"

"แน่ใจรึเปล่า"

"แม่จะให้สาบานด้วยมั้ยล่ะ"

"ไม่ต้อง แค่แกรับปากไม่พบ ไม่เจอก็พอแล้ว"

"แม่ไม่ต้องห่วงหรอกน่า มาเจอน้ำพริกปลาร้า ไผ่ว่าเขาฝืนเต็มทน"

"แม่เป็นห่วง"แม่พยายามบอก

"ไผ่เข้าใจน่าแม่.. ยังไงไผ่ก็เจียมบอดี้เสมอ ว่าเขาเป็นใครเราเป็นใคร"

ปลายหญิงหญิงสาวดูแผ่วลงไปอย่างเห็นๆ

                       *****************************************

สัปดาห์ต่อมา

ภายในห้องทำงานของเวฬุริน

"ไผ่โทรศัพท์"

เพื่อนร่วมงานคนนึงรับสาย จากนั้นหันมาบอกให้เวฬุรินรับโทรศัพท์

"ใคร"

"ไม่รุสิ เสียงผู้ชายทุ้มๆ ชวนฟังเชียว ไม่แน่ใจเสียงกับหน้าจะไปด้วยกันไปหรือเปล่า"

"บอกชื่อหรือเปล่า"

"ซักอะไรหนักหนา อยากรู้มาพูดสายเองล่ะกัน"

"สวัสดีค่ะ เวฬุรินพูด"

"นี่ฉันเองนะ หมออาทิ"อีกฝ่ายตอบรับ

ดวงตาเวฬุรินลุกโชนราวตาไฟ

"โทรมาทำไม"

"อยากรู้ตอนเย็นเจอกันจะบอกแล้วกัน ว่าโทรหาเธอทำไม"

ใครบอกว่าไผ่อยากเจอกับหมออีก"

"ฉันกำลังบอกเธออยู่นี่ไง"

"ไผ่ไม่เจอ"

"ห้ามฉันไม่ได้หรอกนะ ถ้าหากเธอไม่ยอมเจอฉันไม่มาหาฉันที่โรงบาลในห้องทำงานฉัน ก็ได้ฉันจะไปรับเธอที่ทำงานเอง"

"อย่านะคะ"

"ทำไมต้องห้ามด้วย"

"ยังไงหมอก็มาไม่ได้เข้าใจหรือเปล่า"

"ทำไม"

"ไผ่ไม่มีวันจะเจอหมออีก"

"เธอห้ามฉันไม่ได้หรอกนะเวฬุริน เราต้องเจอกันอีก และยาวนานกว่าที่เธอคิด"

"ไม่ได้นะคะ"

"ทำไม หรือเปนเพราะตอนนี้ฉันรู้ว่าเธอทำงานบรอษัทในเครือเสรีกรุ๊ป"

"หมอทราบแล้วหรือคะ"

หยิงสาวซีดลงไปอีก

ขณะที่เวฬุรินสับสนใจกับความคิด

นายแพทย์อาทิว่ามือถือของขาลงไปอย่างที่คิไว้ไม่มีผิด เวฬุรินทำงานที่บริษัทภายในเครือเสรีกรุ๊ปจิง เขาไม่ต้องเสียเวลาคิดนานนัก เพราะอะไรหล่อนจึงไม่อยากเจอเขา

จะว่าผิดหวังก็ไม่เชิง

อย่างน้อย ตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าตอนนี้หล่อนทำงานกับใคร ที่ไหนก็พอ

                          **************************************

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา