จอมใจ....สุดที่รัก

7.7

วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.25 น.

  23 ตอน
  50 วิจารณ์
  119.80K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 21.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) +++ First Kiss!! +++

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 

                กานดาตื่นขึ้นมาอย่างมึนงงเมื่อรู้สึกถึงแสงจ้าที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง คนกึ่งหลับกึ่งตื่นหันตะแคงมาอีกข้างเพื่อหนีแสงสว่างที่ส่งมาแยงตาและกกกอดหมอนข้างไว้แน่น พลางนำหน้าซุกเข้าหาความอบอุ่น ขาเรียวก็พาดไว้พร้อมกับขยับตัวให้แนบชิดหมอนข้างแสนอุ่นยิ่งขึ้น ความสบายกายทำให้ใบหน้าหวานต้องแย้มยิ้ม ก่อนจะถูหน้าเข้ากับหมอนข้างไปมาเล็กน้อย เหมือนดั่งเด็กที่กำลังเปี่ยมสุขอย่างล้นพ้น

 

 

“อย่าทำแบบนั้นสิดา เดี๋ยวผมก็ทนไม่ไหวหรอก”

 

 

                เสียงงัวเงียของหมอนข้างทำให้ดวงตาหวานต้องลืมตาขึ้นในทันใด พร้อมกับทำตาโตจนแทบจะเท่าไข่ห่าน ก่อนที่ร่างบางจะรีบดีดตัวผึงลุกขึ้นนั่ง และมองไปยังหมอนข้างที่ใหญ่บึกบึน แถมมันกำลังขยับลุกขึ้นอีกเสียด้วย!

 

 

“อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

 

 

                หญิงสาวกรีดร้องสุดเสียงจนคนที่กำลังงัวเงียถึงกับตื่นอย่างเต็มตาและรีบเอามือปิดหูไว้แน่น พลางมองคนตรงหน้าด้วยความงุนงน ใบหน้าคมเข้มเหยเกเพราะแสบแก้วหูจากเสียงที่แหลมบาดลึกไปถึงทรวง  

 

 

“โอ้ย! กานดา! พอได้แล้วจะกรี๊ดทำไม” วิลเลียมเอ่ยอย่างหงุดหงิดพลางขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น

 

 

“ก็คุณเข้ามาในนี้ได้ยังไง! คุณ….คุณทำอะไรฉันบอกมาเดี๋ยวนี้นะ!” กานดาตะโกนสุดเสียงใส่คนตรงหน้า ก่อนจะถลาไปหาร่างแกร่งและเขย่ากายกำยำอย่างเต็มแรง

 

 

“หยุดนะดา! ผมไม่ได้ทำอะไรคุณทั้งนั้น” เสียงทุ้มตะโกนแข่งกลับพลางจับแขนเรียวทั้งสองข้างไว้ เพื่อไม่ให้เธอทำอะไรเขาได้อีก

 

 

“คุณทำทำไม คุณทำกับดาอย่างนี้ทำไม….ดาไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้”

 

 

                น้ำตาหยดใสไหลพรากอาบไปทั่วแก้มนิ่มของหญิงสาว พร้อมทั้งเสียงสะอึกสะอื้นที่ทิ่มแทงหัวใจดวงแกร่งให้เจ็บแปล๊บไปทั่วอกกว้าง กายงามที่สั่นเทิ้มช่างดูน่าสงสารจนชายหนุ่มต้องดึงร่างน้อยมาโอบกอดปลอบประโลม

 

 

“อย่าร้องนะครับดา ผมไม่ได้ทำอะไรคุณจริงๆ เมื่อวานผมแค่จะเข้ามาคุยเรื่องงานกับคุณ แต่เห็นว่าเคาะประตูเท่าไหร่คุณก็ไม่ยอมมาเปิดเสียทีผมก็เลยไขกุญแจเข้ามา แล้วก็เห็นว่าคุณหลับอยู่ก็เลยจะรอให้คุณตื่น แต่ผมก็ดันหลับตามคุณไปซะได้” วิลเลียมอธิบายให้คนในอ้อมกอดฟังอย่างใจเย็น พลางนำมือหนาลูบไปตามผมนุ่ม

 

 

“ดาไม่เชื่อ….คุณหลอกดา คุณทำร้ายดา ดาไม่เหลืออะไรอีกแล้ว” กานดายังคงรั้นไม่ยอมเชื่อคำพูดของเจ้านายหนุ่มเลยสักนิด แถมยังร้องไห้โฮปานแทบขาดใจจนร่างใหญ่ต้องกระชับกอดให้แน่นขึ้น

 

 

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะดา ถ้าดาไม่เชื่อ….งั้นผมพาดาไปตรวจที่โรงพยาบาลเลยก็ได้” เสียงทุ้มเอ่ยพลางจับร่างน้อยให้สบตากับเขาโดยตรง

 

 

                กานดาชะงักนิ่งไปในทันใดที่ได้ยินคำกล่าวนั้น เสียงสะอื้นไห้ถูกกลืนเข้าลงคอในทันที ดวงตาหวานสบตากับดวงตาคมเฉียบอย่างสับสน ไม่รู้ว่าเขาพูดจริงหรือพูดหลอกเธอกันแน่ แต่….

 

 

ตอนนี้เธอกลัวหมอยิ่งกว่ากลัวเขาเสียอีก!

 

 

“คุณไม่ได้หลอกดาจริงๆนะคะ” เสียงหวานถามด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือ

 

 

“จริงสิครับ ผมจะหลอกคุณทำไมล่ะ ถ้าคุณเป็นเมียผมแล้วผมก็ต้องบอกว่าคุณเป็นเมียผมแล้วสิ และก็จัดรักให้อีกสักดอกสองดอก เพื่อเน้นย้ำให้คุณจำขึ้นใจ” ชายหนุ่มกล่าวแบบติดตลก แต่คนนั่งใจสั่นกลับไม่รู้สึกตลกด้วยเลย

 

 

“ดาไม่ตลกด้วยหรอกนะคะ….ดามาที่นี่ก็มีแต่ตัวมาเท่านั้น ถ้าดายังเสียตัวให้คุณอีกแล้วดาจะเหลืออะไรล่ะคะ”

 

 

                คำพูดของแม่สาวไร้เดียงสาแทบทำให้วิลเลียมปล่อยก๊ากออกมาแต่ก็ต้องฝืนกลั้นไว้จนตัวแทบสั่น เอ้อ….เลขาป้ายแดงของเขานี่ก็ช่างกระไร ทำตัวให้เขาเอ็นดูได้อยู่เรื่อย นี่ถ้าเขาทำอะไรเธอไปแล้วจริงๆ เขาจะไม่รู้สึกผิดเจียนตายที่ทำร้ายเธอได้ลงคอเลยหรือนี่

 

 

“ว่าแต่….เมื่อกี้คุณพูดว่าเมื่อวาน งั้น….”

 

 

                กานดาฉุกคิดคำพูดของเขาก่อนจะหันไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่ติดสูงไว้บนผนังงาม แล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าตัวหนังสือดิจิตอลเปลี่ยนมาเป็นวันถัดไปแล้ว แถมตอนนี้เวลาก็ยังล่วงเลยไปจนถึงสิบโมงกว่าอีกต่างหาก

 

 

นี่เธอนอนหลับตั้งแต่เมื่อเย็นวาน มาถึงตอนสายของวันรุ่งขึ้นเลยเหรอเนี่ย!

 

 

“ตายแล้ว! คุณวิลคะเราสายแล้วนะคะ คุณวิลรีบไปอาบน้ำแต่งตัวสิคะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างรนรานพลางรีบกุรีกุจอลุกขึ้นและวิ่งไปยังตู้เสื้อผ้าทันที

 

 

                วิลเลียมมองตามร่างเล็กที่วิ่งหลุบเข้าห้องน้ำไปอย่างงุนงง พลางยิ้มออกมากับความเปิ่นโก๊ะของแม่กระรอกสาว ก่อนจะลงจากเตียงและเดินไปยังห้องของตัวเองเพื่ออาบน้ำและแต่งตัวตามที่เลขาสาวสั่ง

 

 

 

                หลังจากที่ทั้งสองอาบน้ำแต่งตัวพร้อมที่จะไปทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้เป็นเจ้าของบ้านก็พาแขกคนสำคัญมานั่งรับประทานอาหารเช้าร่วมกับเจ้าของบ้านสาวทั้งสองคน โดยไม่มีทีท่าว่าจะรีบไปที่บริษัทแต่อย่างใด จนคนเป็นลูกน้องได้แต่รนราน เหลือบมองเจ้านายหนุ่มอยู่ตลอดเวลา เพราะเธอไม่เคยเข้างานสายมาก่อนเลยในชีวิต!

 

 

“คุณไม่รีบไปทำงานเหรอคะ” เสียงหวานถามขึ้นเมื่อเห็นเจ้านายใหญ่ไม่ยอมลุกเสียที

 

 

“รีบทำไม ผมเป็นเจ้าของบริษัทนะ” ผู้เป็นเจ้านายหนุ่มตอบกลับอย่างสบายอารมณ์

 

 

“แต่ฉันรีบนะคะ ฉันเป็นลูกน้องของคุณ นี่ไม่เท่ากับว่าฉันเข้างานสายเหรอคะ” กานดาค้านขึ้นด้วยเสียงงอนๆ พร้อมกับทำหน้ามุ่ยจนคนเห็นต้องหัวเราะเบาๆ

 

 

“จะเข้างานสายได้ยังไง ในเมื่อตอนนี้คุณอยู่กับเจ้านายนะ” วิลเลียมกล่าวพร้อมกับมองหน้าเลขาสาวด้วยแววตาแสนทรงเสน่ห์

 

 

“ก็….” เสียงหวานทำท่าจะค้าน หากแต่กลับเงียบไปเพราะเธอไม่รู้จะค้านเขายังไงต่อดี

 

 

“ป๊ะป๋าคะ….คือ ฉันมีอะไรจะคุยด้วยหน่อยน่ะค่ะ” คนที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าตอนนี้พี่ชายของหล่อนดูจะอารมณ์ดีแบบสุดๆ

 

 

“มีอะไรล่ะยัยตัวแสบ….อย่าบอกนะว่าไปสร้างปัญหามาอีกแล้ว” ผู้เป็นพี่กล่าวดักคอ พลางมองหน้าน้องสาวอย่างจับผิด

 

 

“ไม่ใช่ค่ะ….คือ พอดีว่ามีนิตยสารชื่อดังติดต่อฉันมาให้ไปถ่ายแบบกับเขาค่ะ….รวมทั้งมีอาด้วย” เอมิลี่บอกเสียงอ้อมแอ้ม นั่งลุ้นจนก้นสวยๆแทบจะไม่ติดเก้าอีกอยู่แล้ว

 

 

“นิตยสารอะไร โป๊หรือเปล่า เดี๋ยวไม่ใช่โดนหลอกเหมือนคราวก่อนโน้นอีกนะ” คนเป็นผู้ปกครองเอ่ยเสียงเข้มขึ้นในทันใด ทำให้คนที่นั่งข้างๆต้องหันไปมองด้วยความแปลกใจทันที

 

 

นี่พวกฝรั่งเขาสนเรื่องโป๊ไม่โป๊ด้วยเหรอนี่ เธอไม่ยักรู้มาก่อนเลย เพราะปกติก็เห็นค่อนข้างเปิดเผยกันทั้งนั้น….

 

 

“ไม่ค่ะ คราวนี้ไม่มีหลอกแน่ค่ะฉันตรวจสอบแล้ว และอีกอย่างนิตยสารเล่มนี้ก็ดังมากด้วย เป็นที่รู้จักในหมู่พวกวัยรุ่นเลยล่ะค่ะ” เอมิลี่ตอบผู้เป็นพี่เสียงหนักแน่น

 

 

“ไม่เห็นพี่บอกฉันเลย” มีอาเอ่ยขึ้นมาบ้างพร้อมกับหันไปมองหน้าพี่สาวด้วยความสงสัย

 

 

“ก็บอกอยู่นี่ไงเล่า” เอมิลี่หันไปแขวะใส่น้องสาวเบาๆ ก่อนจะหันมามองหน้าผู้เป็นพี่ชายอีกครั้ง

 

 

“ไม่ล่ะ พี่ไม่อยากเสี่ยงอีก คราวที่แล้วก็กว่าจะเคลียร์ได้รู้ไหมว่าพี่ปวดหัวมากแค่ไหน” วิลเลียมกล่าวก่อนจะส่ายหน้าให้กับความคิดของน้องสาวแสนแสบ

 

 

“ป๊ะป๋า….คราวนี้ไม่โดนหลอกแล้วจริงๆนะคะ คิดดูสิคะป๊ะป๋า ถ้าฉันและมีอาไปเป็นนางแบบให้กับเขา บริษัทของเราก็จะเป็นที่รู้จักมากเข้าไปอีก เพราะนิตยสารของที่นี่ตีพิมพ์ส่งแทบจะทั่วโลกเลยนะคะ….นะคะป๊ะป๋า” ร่างอวบอั๋นเอ่ยเสียงออดอ้อนพร้อมกับเดินไปหาพี่ชายสุดที่รัก หากแต่ผู้เป็นพี่กลับส่ายหน้าไม่ยอมตกลงปลงใจด้วยเลยสักนิด

 

 

“ลองให้เธอไปดูก่อนก็ได้หนิคะ ถ้าเกิดมันไม่ดีจริงๆก็ให้เธอกลับมา”

 

 

             จู่ๆเสียงหวานๆของผู้เป็นแขกคนสำคัญก็ดังขึ้น ทำให้ทั้งหมดหันไปมองด้วยความงุนงง ก่อนที่ร่างอวบอั๋นจะเดินย้ายฝั่งมาอยู่ข้างร่างเล็กแทน และพยักหน้าอย่างเห็นด้วยเป็นที่สุดกับสิ่งที่เธอพูด

 

 

“มาอยู่แค่วันเดียวก็เข้าข้างกันแล้วเหรอเนี่ย” วิลเลียมเอ่ยพลางมองแม่เลขาสุดสวยและเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

 

 

“เปล่าค่ะ แต่ดาคิดว่ามันก็ไม่ได้เสียหายอะไรถ้าจะให้พวกเธอลองไปดูก่อน” กานดาให้เหตุผลตามความคิดของตัวเอง ทำให้คนที่ยืนข้างๆต้องแอบยิ้มด้วยความดีใจที่มีคนสนับสนุนอีกแรง

 

 

“ใช่ค่ะป๊ะป๋า ลองไปดูก่อนก็ไม่เสียหายอะไรหนิคะ อย่างที่คุณกาน….กานด๋า เอ้ะ….ก่านด้า….” คนพูดภาษาไทยไม่ชัดเอ่ยติดๆขัดๆพร้อมกับทำหน้าครุ่นคิด

 

 

“กานดาค่ะ” หญิงสาวรีบเปลี่ยนให้หล่อนเรียกเธออย่างถูกต้อง

 

 

“ไม่ใช่ว่าฉันพูดภาษาไทยไม่เป็นหรอกนะ….ก็พูดได้นิดหน่อย” เอมิลี่เอ่ยประโยคแรกเป็นภาษาอังกฤษ ก่อนจะเอ่ยประโยคหลังเป็นภาษาไทยที่ไม่ค่อยชัดเสียเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับผู้เป็นพี่ชายที่พูดภาษาไทยได้ชัดแจ๋วและคล่องปรื๋อ

 

 

“เอาเป็นว่าฉันเรียกเธอว่าคิตตี้ก็แล้วกันนะ” หล่อนกล่าวก่อนจะหันไปมองน้องสาวและส่งเสียงร้องเหมียวๆพร้อมกันพลางทำท่าเหมือนลูกแมวขี้อ้อน ก่อนที่ทั้งสองจะหัวเราะร่าอย่างชอบใจออกมา

 

 

“ทำไมต้องคิตตี้ด้วยคะ” กานดาถามผู้เป็นเจ้าของบ้านสาวอย่างสงสัย

 

 

“ก็เธอเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆน่ะสิ….ไหนลองร้องเหมียวๆซิ” เอมิลี่ตอบก่อนจะหัวเราะก๊ากออกมา

 

 

                หญิงสาวได้แต่ทำหน้ามึนงง เธอเนี่ยนะเหมือนลูกแมวตัวเล็กๆ ไม่มีทางซะล่ะ….ถึงตัวของเธอจะเล็กอย่างที่หล่อนว่า แต่เธอไม่มีความขี้อ้อนเหมือนลูกแมวตัวน้อยเลยสักนิด แล้วจะไปเหมือนมันได้อย่างไรกัน ใบหน้าหวานหันไปมองหน้าเจ้านายหนุ่มที่นั่งอมยิ้มด้วยเหมือนกัน ก่อนที่เขาจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เมื่อเห็นว่าเธอหันมามอง

 

 

“ตกลงป๊ะป๋าอนุญาตหรือเปล่าคะ” เอมิลี่วกกลับมาเรื่องเดิมอีกครั้ง พร้อมกับทำหน้าเหมือนลูกแมวน้อยขี้อ้อน แถมยังสะกิดให้คนข้างๆทำตามอีกด้วย

 

 

“ถ้าอยากจะทำจริงๆก็โอเค….ลองดูมันก็ไม่เสียหายอะไร” วิลเลียมตอบกลับก่อนจะดื่มกาแฟที่เหลือให้หมด

 

 

“ขอบคุณค่ะป๊ะป๋า! ขอบคุณนะคิตตี้!” ผู้เป็นน้องสาวคนรองกล่าวออกมาด้วยความดีใจ พลางหอมแก้มแขกสาวเสียฟอดใหญ่ที่ช่วยทำให้หล่อนได้ถ่ายแบบลงนิตยสารชื่อดังฉบับนี้ เล่นเอาคนถูกหอมต้องหน้าแดงระเรื่อเพราะความเขินอายเลยทีเดียว

 

 

 

                หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ผู้เป็นเจ้านายจึงพาเลขาสาวตรงไปยังบริษัทฐานหลักในทันที โดยระหว่างทางหญิงสาวก็เอาแต่ชมวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลแสนกว้าง โดยไม่คิดจะหันมาสนอกสนใจเจ้านายหนุ่มเลยสักนิด แต่แล้วเมื่อเธอกลับฉุกคิดถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เธอจึงหันไปพูดกับเขาด้วยแววตาและน้ำเสียงที่เป็นปกติ หากแต่คนได้เห็นได้ฟังกลับรู้สึกว่ามันน่าเอ็นดูยิ่งนัก

 

 

“ฉันเหมือนลูกแมวจริงๆเหรอคะคุณวิล” กานดาถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆพร้อมกับทำหน้าสงสัย

 

 

“จะว่าไปก็เหมือนอยู่เหมือนกัน แต่ผมคิดว่าคุณเหมือนกระรอกน้อยซะมากกว่า” วิลเลียมตอบกลับพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อย

 

 

“เหมือนยังไงคะ” หญิงสาวถามต่อด้วยความสงสัยมากเข้าไปใหญ่

 

 

“ก็เธอตัวเล็กและยังว่องไวอย่างที่ฉันตามไม่ค่อยจะทัน แถมยังดูซุกซนอีกต่างหาก” ชายหนุ่มอธิบายพลางมองคนข้างกายด้วยแววตาเจ้าเล่ห์นิดๆ

 

 

“สรุปว่าฉันเป็นกระรอกน้อยในสายตาคุณใช่ไหมคะ” เธอถามอีกพร้อมกับทำหน้าเง้างอเล็กน้อย

 

 

“ก็ประมาณนั้น….แล้วเธออยากเป็นอะไรล่ะ” เขาลองเชิงถามออกไปด้วยความอยากรู้ว่าคำตอบของเธอจะตรงใจเขาหรือเปล่า

 

 

“ภรรยาของคุณค่ะ”

 

 

                 เสียงหวานแกล้งตอบออกไปเล่นๆโดยไม่ทันคิด แต่แล้วเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าสิ่งที่เธอพูดไปเจ้านายใหญ่อาจจะคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงก็ได้ เพราะดูจากแววตาที่เขาส่งมามองเธอแล้ว มันช่างแวววับและดูจะเจ้าเล่ห์เสียเหลือเกิน แถมยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เหมือนกับเชื่อในคำเธอพูดจริงๆ  

 

 

แต่เธอสาบานได้ว่าเธอพูดแค่เล่นและไม่ได้คิดจริงจังเลยสักนิด….มั้ง?

 

 

“อีกนานไหมคะกว่าจะถึงบริษัท” หญิงสาวรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มไม่ยอมเลิกมองหน้าตนเสียที

 

 

“อีกเดี๋ยวก็ถึงแล้ว”

 

 

                ชายหนุ่มตอบก่อนจะหันกลับไปมองนอกหน้าต่างตามเดิม แต่รอยยิ้มน้อยๆกลับไม่ยอมเลือนหายไปจากใบหน้าคมเข้มเลย และพอเมื่อถึงบริษัท เขาก็กล่าวบางอย่างออกมาก่อนที่จะลงจากรถ….

 

 

“ผมคิดจริงนะดา” เสียงทุ้มของเจ้านายหนุ่มทำให้เลขาสาวที่กำลังจะก้าวออกจากรถอีกฝั่งต้องหันกลับไปมอง

 

 

“อะไรคะ?” กานดาถามกลับด้วยความสงสัย

 

 

“ที่คุณบอกว่าอยากเป็นภรรยาของผม….ผมคิดจริงนะที่รัก”

 

 

             ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับขยิบตาเล็กน้อยให้หญิงสาว ก่อนจะเดินลงจากรถไปทิ้งให้คนที่กำลังจะเปิดปากอธิบายต้องอ้าค้างอยู่อย่างนั้น ก่อนที่ร่างเล็กจะเดินลงตามเขาไปอย่างรวดเร็ว

 

 

“คือว่ามันไม่ใช่….” เธอพยายามจะอธิบายหากแต่ถูกผู้เป็นเจ้านายขัดขึ้นเสียก่อน

 

 

“นี่มิสซิสเทนดี้ เธออยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์” วิลเลียมแนะนำพนักงานสูงวัยคนหนึ่งให้เลขาสาวคนใหม่ได้รู้จัก เธอจึงจำต้องสงบปากสงบคำ และหันมาทักทายกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่แทน

 

 

“สวัสดีค่ะ กานดาค่ะ” กานดากล่าวก่อนจะยื่นมือไปจับมืออวบๆที่ยื่นมาให้เธออยู่ก่อนแล้ว

 

 

“สวัสดีจ้ะฉันลอร่า เทนดี้….แหม เลขาคนใหม่คนนี้สวยไม่แพ้คนเก่าเลยนะคะ ฉันล่ะอิจฉาคุณจริงๆ” ลอร่าทักทายเพื่อนใหม่กลับก่อนจะหันไปเหน็บแนมเจ้านายใหญ่ที่ยืนอมยิ้มอยู่ไม่ห่าง

 

 

“คราวนี้ไม่มีลูกพ่วงมาด้วยนะครับมิสซิสเทนดี้….แต่กำลังจะมีในอนาคตไม่ใกล้ไม่ไกลนี้แหละครับ” ผู้เป็นเจ้านายหนุ่มเอ่ยพลางทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่แม่เลขาสาวที่ตอนนี้หน้าแดงแป๊ดเท่าลูกตำลึง

 

 

“แหม….ไม่ต้องรีบมีก็ได้มั้งคะ เกรงใจฉันบ้างเถอะค่ะ แก่ปูนนี้แล้วยังไม่มีสักคน แต่เอ….ถ้าจะมีลูกของคุณคงจะต้องชื่อว่าวิลเลียมจูเนียร์แน่เลยค่ะ ดูจากลักษณะแล้ว” ลอร่าพูดสมทบให้นายใหญ่อย่างสนุกปาก จนคนที่ตกเป็นจำเลยได้แต่ยืนก้มหน้า เขินอายจนแทบอย่างจะมุดดินหนีอยู่แล้ว

 

 

“งั้นผมขอตัวก่อนนะ แล้วเจอกันครับมิสซิสเทนดี้” วิลเลียมกล่าวพลางยื่นมือไปจับมืออวบเป็นการลา ก่อนจะเดินนำหน้าแม่เลขาสาวไปยังห้องทำงานของตน แต่ร่างเล็กกลับไม่ยอมเดินตามเสียนี่

 

 

“เอ้า….มาสิครับคุณว่าที่ภรรยา”

 

 

                  คำพูดของเจ้านายใหญ่ทำให้หญิงสาวต้องเดินก้มหน้างุดตามไปในทันใด กายสาวรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งตัว แถมดวงหน้าใสก็แดงแป๊ดมากขึ้นไปอีก พลางคิดว่าเธอไม่น่าพูดอะไรล้อเล่นกับเขาไปเลย ดูสิ….คนอะไร คิดเป็นจริงเป็นจังไปเสียหมด เธอล่ะอยากจะบ้าตายจริงเชียว!

 

 

                 ห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มคนใหม่กว้างพอๆกับห้องทำงานเจ้านายหนุ่มคนเก่าของเธอ กำแพงที่อยู่หลังโต๊ะทำงานเป็นแบบกระจกใสให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอกเช่นเดียวกัน และมีชุดโซฟาสำหรับรับแขกเหมือนกันอีกด้วย หากแต่การตกแต่งกลับต่างกันไป เพราะห้องใหญ่นี้ถูดจัดตกแต่งด้วยสไตล์คลาสสิคร่วมสมัยเสียมากกว่าจะเป็นแบบโมเดิร์นเหมือนห้องทำงานของเจ้านายคนเก่า

 

 

“คุณจะให้ฉันทำงานในห้องคุณจริงๆเหรอคะ” คนช่างถามกล่าวขึ้นพลางทำหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก

 

 

“ก็จริงน่ะสิ….แองจี้เขาก็ทำงานในห้องนี้เหมือนกัน” วิลเลียมตอบกลับก่อนจะเปิดแฟ้มเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะออกดู

 

 

                กานดาได้แต่ทำหน้าหงอยพลางเดินไปหย่อนก้นลงบนเก้าอี้ทำงานของตัวเองอย่างจำใจ ก่อนจะมองไปรอบๆห้องอันแสนไม่คุ้นชิน พร้อมกับคิดอยู่ในใจว่าเขาน่าจะบอกเธอสักนิดว่าจะต้องมาทำงานร่วมห้องกับเขา เพราะการที่เธอไม่เคยทำงานร่วมห้องกับเจ้านายคนเก่า มันทำให้เธอรู้สึกเกร็งอยู่ไม่น้อย และเธอก็ไม่ชอบให้ใครมาจับตามองเวลาที่เธอทำงานด้วย

 

 

“คิดอะไรอยู่ฮึ” เสียงทุ้มถามขึ้นทำเอาร่างเล็กถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย

 

 

“ปะ….เปล่าค่ะ ไม่ได้คิดอะไร” เสียงหวานตอบพลางส่งยิ้มแหยๆให้เจ้านายใหญ่ก่อนจะก้มหน้าก้มตามองแฟ้มเอกสารที่อยู่บนโต๊ะของตัวเอง

 

 

                การทำงานเป็นไปอย่างเงียบเชียบ ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาสักคำ ใบหน้าหล่อคมเอาแต่จ้องแล็บท็อปตรงหน้าและตัวหนังสือในเอกสารอย่างไม่ละสายตา สีหน้าของเขาดูจริงจังและเคร่งขรึมจนหญิงสาวไม่กล้าพูดกล้าถามเขาเลยสักนิด เพราะกลัวว่าจะเป็นการรบกวนสมาธิเขาเปล่าๆ จึงทำได้แต่ก้มหน้าทำงานของตัวเองไป และคอยเหลือบมองเขาบ้างเป็นระยะๆ

 

 

“ผมต้องออกไปข้างนอกแล้วกานดา มีอะไรก็โทรหานะ” ในที่สุดผู้เป็นเจ้านายก็เอ่ยขึ้นก่อนที่ร่างใหญ่จะลุกขึ้นเก็บข้าวของ ทำให้คนเป็นเลขาต้องลุกตามไปด้วย

 

 

“ผมไปแปปเดียวเดี๋ยวก็มา” เสียงทุ้มกล่าวเมื่อเห็นแม่กระรอกสาวทำหน้าเหมือนจะอยากตามเขาไปด้วย

 

 

                หญิงสาวนั่งลงตามเดิมเมื่อร่างใหญ่เดินออกจากห้องไปแล้ว ก่อนที่เธอจะถอนหายใจเฮือกใหญ่และตั้งหน้าตั้งตาทำงานที่อยู่ตรงหน้าต่อ แต่พอไม่มีเจ้านายหนุ่มอยู่ในห้องด้วยแล้ว สมาธิของเธอก็ดูเหมือนจะสั้นลงในทันที เพราะมัวแต่คิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลาอย่างไม่ทราบสาเหตุ

 

 

“เลิกคิดได้แล้วกานดา งานตรงหน้าน่ะทำเข้าไปเดี๋ยวก็โดนหักเงินเดือนหรอก”

 

 

“สวัสดีค่ะวิล”

 

 

                เสียงเซ็กซี่ดังขึ้นอย่างไม่มีปลี่ไม่มีขลุ่ยพร้อมกับร่างสูงเพรียวที่ก้าวเท้าเข้ามาอย่างมั่นใจ ทำให้กานดาต้องหันไปมองด้วยความแปลกใจในทันที ใบหน้าสวยคมปรากฏต่อสายตา ผิวขาวนวลมีออร่าเหมือนคนไม่เคยอาบแดด ดวงตาเฉี่ยวคมมองเธออย่างไม่ค่อยเป็นมิตรนัก กับหุ่นที่สมส่วนสูงฉลูดเหมือนกับหุ่นนางแบบ กับผมสีคาราเมลที่ดูรับเข้ากับใบหน้าได้อย่างลงตัว

 

 

“เธอเป็นใคร” คำถามที่บ่งบอกถึงความไม่เป็นมิตรหลุดออกมาจากปากสีแดงสดทันทีเมื่อเห็นเลขาสาวคนใหม่

 

 

“ฉันเป็นเลขาของคุณวิลเลียมค่ะ ตอนนี้คุณวิลไม่อยู่ พึ่งจะออกไปเมื่อสักครู่นี้เองค่ะ” กานดาลุกขึ้นและเอ่ยอย่างนอบน้อมพลางส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับหญิงสาว

 

 

“งั้นเหรอ….” ใบหน้าสวยเฉี่ยวเบ้ปากให้เธอก่อนที่ร่างเพรียวบางจะเดินไปนั่งไขว้ห้างด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งที่โซฟาตัวนุ่ม

 

 

“เอ่อ….คุณคือ….” ความอยากรู้ทำให้เสียงหวานถามออกไป ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นการเสียมารยาทก็ตาม

 

 

“ฉันเป็นแฟนคุณวิลเลียม เข้าใจหรือยัง” เสียงเซ็กซี่ตอบกลับมาทันควัน พร้อมกับใช้สายตาจิกใบหน้าหวานอย่างเหยียดๆ ทำให้คนถามต้องก้มหน้าลงแบบเจียมเนื้อเจียมตัว

 

 

                ความรู้สึกหลายอย่างประดังประเดเข้ามาในหัวใจของกานดาเมื่อได้ยินว่าหล่อนเป็นแฟนกับเจ้านายหนุ่มของเธอ มันรู้สึกแปลกๆอย่างไรชอบกล เหมือนใจหายวาบอย่างไรบอกไม่ถูก คงเป็นเพราะสายตาเย่อหยิ่งที่มองเธออย่างเหยียดหยาม ราวกับว่าหล่อนมองเธอเป็นคนต่ำต้อยก็มิปาน ส่วนหล่อนนั้นสูงส่งเหมาะสมกับเขาเป็นไหนๆ

 

 

แล้วมันไม่จริงหรืออย่างไรกานดา?

 

 

“คุณจะรับกาแฟไหมคะ” กานดาฝืนทำหน้าชื่นพลางถามออกไปพร้อมรอยยิ้ม

 

 

“ไม่ล่ะ….แล้วนี่วิลเขาบอกหรือเปล่าว่าจะกลับมาตอนไหน” ผู้เป็นแขกเอ่ยพลางหันมองเลขาสาวด้วยสายตาเหยียดๆเช่นเคย

 

 

“ไม่ได้บอกค่ะ แต่เขาบอกว่าไปเดี๋ยวเดียว….คงมาแล้วมั้งคะ” เธอตอบก่อนจะมองไปยังประตูเพราะได้ยินเสียงงึมงำของเจ้านายหนุ่มที่ยืนคุยกับพนักงานอยู่หน้าห้อง

 

 

“กานดา….โมนิก้า!”

 

 

                วิลเลียมมองร่างสูงเพรียวที่เดินมาเกาะแขนเขาอย่างมึนงง เพราะไม่คิดเลยว่าจะได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกหลังจากที่หล่อนหายไปเป็นปีๆ แถมคราวนี้หล่อนดูเปลี่ยนไปจนเขาแทบจะจำไม่ได้ หล่อนดูสวยขึ้นอย่างผิดหูผิดตา ไม่ได้สวยแบบหวานแหววแต่สวยแบบเซ็กซี่ดึงดูดใจชายยิ่งนัก

 

 

แต่สำหรับเขาแล้วต้องสวยแบบหวานๆสิถึงจะดึงดูดใจเขาได้….เหมือนแม่เลขาสาวป้ายแดงสุดสวยของเขานั่นไง!

 

 

“ไม่เจอกันตั้งนานเลยนะคะวิล” เสียงเซ็กซี่เอ่ยให้ยั่วยวนมากเข้าไปอีก พร้อมกับโปรยยิ้มทรงเสน่ห์ใส่เขาแบบชนิดที่เรียกได้ว่ายั่วให้เดินขึ้นเตียง!

 

 

“คุณมาที่นี่ทำไม” วิลเลียมถามขึ้นพร้อมกับแกะมือเรียวให้หลุดออกจากแขนแกร่ง ก่อนจะเดินไปตรงหน้าเลขาสาว และหันกลับมามองหล่อน

 

 

“ก็ฉันคิดถึงคุณหนิคะ….ทำไมคะ เดี๋ยวนี้มาหาไม่ได้แล้วเหรอคะ” โมนิก้ากล่าวพลางมองตรงหน้าและแย้มยิ้มอย่างไม่มีพิษไม่มีภัย แต่ในใจของหล่อนกับเหมือนมีเปลวไฟเผาไม่อยู่ในทรวง

 

 

“ก็คุณเล่นหายไปเป็นปีๆ แล้วก็กลับมาแบบกะทันหันอย่างนี้….มันน่าสงสัยนะ”

 

 

               ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับเลิกคิ้วมองคนตรงหน้า พลางนำมือใหญ่ไขว้ไปข้างหลังและแบมือออก เหมือนกับว่าเขากำลังขออะไรจากคนที่ยืนอยู่ด้านหลังอยู่ และพอเลขาสาวยื่นมือออกไปสัมผัส มือหนาก็จับเอาไว้ทันทีพร้อมกับดึงร่างน้อยให้เข้ามาอยู่ใกล้มาขึ้น

 

 

เหมือนกับว่าเขากำลังปกป้องเธออยู่อย่างไงอย่างงั้น!

 

 

“ที่ฉันหายไปก็เพราะว่าฉันต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ….มันกะทันหันมากฉันก็เลยไม่ได้บอกคุณน่ะค่ะ” โมนิก้าอธิบายพลางทำหน้าเศร้าใส่อดีตคนรัก….ที่เป็นเหมือนอดีตคู่นอนเสียมากกว่า

 

 

“แล้วคุณมาที่นี่ทำไมอีก” วิลเลียมถามกับไปเสียงเข้ม ใบหน้าคมเข้มไม่มีรอยยิ้มแสนอบอุ่นหรือเจ้าเล่ห์ใดๆทั้งสิ้น

 

 

“บอกไปแล้วไงคะว่าฉันคิดถึงคุณ วิลคะ….อย่าทำเหมือนเราไม่เคยเป็นอะไรกันได้ไหมคะ ฉันทนไม่ได้ค่ะ” ใบหน้าสวยคมทำสีหน้าเหมือนคนกำลังร้องไห้ ทำให้คนที่อยู่ด้างหลังร่างใหญ่ที่แอบมองอยู่ต้องรู้สึกสงสารขึ้นมาในทันใด

 

 

“ผมขอโทษนะ แต่….มันไม่เหมือนเดิมแล้วล่ะโมนิค” เสียงทุ้มเอ่ยกลับ พร้อมกับกระชับมือที่จับมือเล็กไว้ให้แน่นขึ้น

 

 

“แต่ฉันยังรู้สึกกับคุณเหมือนเดิมนะคะ….ฉันรู้ค่ะว่าคุณไม่เคยรู้สึกอะไรกับฉันเลยด้วยซ้ำ….ไม่เคยเลย….แต่ยังไงฉันก็รักคุณเหมือนเดิมนะคะ ได้โปรด….อย่าทำเหมือนฉันเป็นตัวอะไรสักอย่างก็พอค่ะ” ใบหน้าสวยน้ำตาไหลพรากอาบแก้มทั้งสองข้างอย่างสุดจะกลั้น เมื่อโดนอดีตคนรักสลัดรักอย่างไม่ใยดี

 

 

แต่มันก็เป็นเพียงแค่น้ำตาที่หล่อนบีบเค้นออกมาให้คนตรงหน้าเห็นใจก็เท่านั้นแหละ!

 

 

“คุณวิลคะ….” เสียงหวานกระซิบแผ่ว ทำให้คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าต้องหันไปมอง

 

 

“คุณอย่าใจร้ายกับเธอสิคะ”

 

 

               กานดาเอ่ยออกมาเพราะรู้สึกสงสารหญิงสาวอีกคนจนสุดหัวใจ เธอรู้ดีว่าความรู้สึกของคนที่ถูกคนรักไม่ใยดีมันเป็นอย่างไร มันเจ็บปวดและแสนจะทรมานมากแค่ไหน เพราะเธอก็เคยเจอะเจอมาแล้วด้วยเหมือนกัน….

 

 

              วิลเลียมมองใบหน้าหวานอย่างชั่งใจ ก่อนจะหันไปมองคนที่ยืนร้องไห้ตัวสั่นเทาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ความสับสนทำให้เขาต้องครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่มือหนาจะปล่อยมือเล็กให้เป็นอิสรา พลางเดินไปหาผู้เป็นอดีตรักที่ยืนต้องไห้จนตัวโยนแทน

 

 

“ผมขอโทษนะ แต่ผมคิดว่าผมคงเป็นแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว….ตัดใจจากผมเถอะโมนิก้า” เสียงทุ้มกล่าวแผ่วเบาเมื่อยืนอยู่ตรงหน้าอดีตคนรัก

 

 

“แต่วิลคะ….” ดวงตาแดงก่ำมองใบหน้าคมเข้มด้วยสายตาเศร้าสร้อยระคนอ้อนวอน

 

 

“ขอโทษจริงๆ ผมจะทำดีกับคุณก็ได้ แต่คงจะไม่ดีเท่ากับเมื่อก่อน”

 

 

“ทำไมคะ….เพราะเธอคนนั้นเหรอคะ” โมนิก้าถามไปถึงหญิงสาวอีกคนที่กลับไปทำงานของตัวเองตามเดิม

 

 

                วิลเลียมพยักหน้ายอมรับ ทำเอาใบหน้าสวยคมต้องนิ่งค้างไป ความเจ็บจี๊ดแล่นมาที่หัวใจทันที ไม่ใช่เสียใจหรือปวดใจเพราะเขาไม่รักหล่อนแล้วหรอก เพราะรู้ดีว่าเขาไม่เคยรักหล่อนเลยสักนิด แต่มันแค้นมากกว่าที่โดนผู้หญิงจืดชืดอย่างหญิงอีกคน มาแย่งของของหล่อนไปได้ทั้งๆที่หล่อนทั้งสวยกว่า เซ็กซี่กว่า และดึงดูดใจกว่าตั้งเยอะ!

 

 

“ทีนี้คุณก็กลับไปได้แล้วนะ ผมไม่อยากมีปัญหา” ชายหนุ่มกล่าวพลางถอยห่างร่างเพรียวมาก้าวหนึ่ง

 

 

“ก็ได้ค่ะ….แต่คุณบอกแล้วนะว่าจะทำดีกับฉัน ช่วยรักษาคำพูดด้วยนะคะวิลเลียม” โมนิก้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือ มือทั้งสองกำหมัดแน่นจนเล็กแหลมจิกเข้าเนื้อจนเป็นรอยบุ๋ม ก่อนที่ร่างสูงเพรียวจะหันหลังกลับและเดินออกจากห้องไป

 

 

ด้วยความแค้นที่ฝังอยู่ในใจอย่างเหลือล้น!

 

 

                ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของเขาตามเดิม ใบหน้าคมเข้มในตอนนี้ดูเคร่งขรึมและเคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิมมากเข้าไปอีก ทำให้หญิงสาวรู้สึกเป็นห่วงแต่ก็ทำได้แค่มองอยู่ห่างๆเท่านั้น เพราะจะให้เธอไปยุ่งกับเรื่องของผู้เป็นนายมันก็คงไม่ใช่เรื่อง

 

 

ก็เธอมันเป็นเพียงแค่ลูกน้องแสนต่ำต้อย แล้วจะให้เธอไปยุ่งย่ามเรื่องของเขาได้อย่างไร….

 

 

 

 

                เมื่อถึงเวลาเลิกงาน วิลเลียมก็พาเลขาสาวคนใหม่กลับไปยังคฤหาสน์เลสเซิ้ลทันที ไม่มีการแวะไปที่ไหนทั้งสิ้น ระหว่างทางก็มีแต่ความเงียบจนหญิงสาวรู้สึกอึดอัดไปหมด กว่าจะมาถึงคฤหาสน์ได้ก็เล่นเอาเธอแทบจะประสาทกินเลยทีเดียว ร่างบางตรงไปยังห้องของตัวเองด้วยความเหนื่อยล้าทั้งทางกายและทางใจเล็กน้อย ก่อนจะอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัว แต่พอเมื่อออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าร่างใหญ่มานั่งบนเตียงนุ่มอยู่ก่อนแล้ว

 

 

“มีอะไรหรือคะคุณวิล” กานดาถามออกไปพลางส่งยิ้มหวานพิมพ์ใจให้กับเจ้านายหนุ่ม เพื่อเป็นการปลอบใจเขาทางอ้อม

 

 

“เปล่าครับ….แค่มาดูว่าว่าที่ภรรยาของผมจะใส่ชุดนอนชุดไหนเท่านั้นเอง” วิลเลียมตอบพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่มใส่คนตรงหน้า ในแบบฉบับที่เรียกว่าน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด ทำให้หญิงสาวต้องกรอกตาไปมา เพราะความเอือมละอาในความแสบสันของเจ้านายหนุ่ม แต่ก็แอบดีใจอยู่นิดๆ เพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่ทำตัวเงียบขรึมเหมือนคนอมทุกข์ไว้แล้ว

 

 

ว่าแต่มันน่าดีใจหรือน่าเสียใจดีล่ะนี่!

 

 

“แฟนคุณวิลสวยดีนะคะ แถมยังเซ็กซี่อีกต่างหาก” เสียงหวานกล่าวด้วยเสียงชื่น พลางเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง

 

 

“ใครบอกว่าเขาเป็นแฟนผม” เสียงทุ้มเอ่ยพลางเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง

 

 

“ก็คุณผู้หญิงคนนั้นไงคะ แล้วจากที่ดาได้ยินที่คุณคุยกัน….มันก็น่าจะเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรือคะ” กานดาบอกพร้อมกับหันไปมองใบหน้าคมเข้มด้วยแววตาสงสัย

 

 

“ถ้าแต่ก่อนน่ะใช่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว”

 

 

“จริงเหรอคะ” คนขี้สงสัยยังคงถามต่อพลางเอียงคอเล็กน้อยจนคนเห็นอดอมยิ้มเสียไม่ได้

 

 

“มานี่สิ” วิลเลียมเอ่ยพร้อมกับกวักมือเรียกให้แม่กระรอกสาวเดินมาหาเขา

 

 

“ทำไมหรอคะ” เลขาสาวถามด้วยความสงสัย

 

 

“ผมจะบอกอะไรคุณให้” เขาพูดแค่นั้นพลางทำสีหน้าจริงจังจนร่างเล็กต้องจำใจเดินไปหาทันที

 

 

“บอกมาสิคะ” หญิงสาวกล่าวพลางเว้นระยะห่างระหว่างกายแกร่งเอาไว้พอสมควร

 

 

“เข้ามาใกล้อีก” เสียงทุ้มเอ่ยก่อนที่มือใหญ่จะเอื้อมไปจับข้อมือเล็กและดึงเธอให้เข้ามาใกล้ตามที่ต้องการ

 

 

“มีอะไรก็พูดมาสิคะ” กานดาเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด หากแต่ใบหน้าหวานเริ่มจะแดงระเรื่อขึ้นมาเสียแล้ว เพราะความใกล้จนเกินไปของร่างใหญ่และร่างเล็กของเธอ

 

 

“ฝันดีนะ” ผู้เป็นนายบอกก่อนที่จะยื่นหน้าไปจูบริมฝีปากอิ่มและถอนออกอย่างรวดเร็ว

 

 

                คนที่พึ่งโดนขโมยจูบถึงกับนิ่งงันไปในทันใด ดวงตาใสทำตาโตด้วยความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ปากสวยอ้าค้างดั่งจะพูดกล่าวอะไรแต่กลับไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาเลยสักนิด หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามจนแทบจะออกมานอกอก

 

 

นี่เขาบังอาจขโมยจูบแรกของเธอไปหรือนี่!

 

 

“ไม่บอกผมบ้างเหรอ” วิลเลียมเอ่ยเสียงยั่ว พร้อมกับทำตากรุ้มกริ่มใส่คนที่ยังคงค้างนิ่งอยู่ข้างๆ

 

 

“คะ….คุณ….”

 

 

“ทำไมหรือครับคุณว่าที่ภรรยา” ชายหนุ่มยังคงพูดยั่วอย่างนึกสนุก พลางดึงร่างเล็กให้นั่งลงบนตักแกร่งและโอบกอดเอวคอดไว้หลวมๆ

 

 

“อ๊าย!! นี่คุณ! คุณ….คุณมันบ้าที่สุดเลย! เอาจูบแรกของฉันคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

 

 

                คนพึ่งได้สติหันไปรัวกำปั้นใส่อกกว้างพร้อมกับกรีดร้องออกมาอย่างเคียดแค้น ก็มีอย่างที่ไหนเธออุตส่าห์เก็บรักษาจูบแรกของเธอไว้เพื่อให้สามีตัวจริงในอนาคตของเธอ แต่นี่เขาเป็นใคร….คนรักก็ไม่ใช่ เป็นเพียงเจ้านายของเธอเท่านั้น แต่ริอาจมาขโมยจุมพิตของเธอเสียด้วย อย่างนี้มันต้องฆ่าให้ตายสถานเดียว!

 

 

“เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ” วิลเลียมถามกลับอย่างไม่อยากจะเชื่อในหูของตัวเองเท่าไหร่นัก

 

 

จูบแรกงั้นหรือ….นี่เขาได้จูบแรกของเธอเหรอเนี่ย ช่างน่าปิติยินดีเสียนี่กระไร!

 

 

 “ไอ้คนบ้า! ไอ้เจ้านายลามก! ฉันจะฆ่าคุณ อย่าอยู่เลยคุณวิลเลียม!”

 

 

                มือเล็กเอื้อมมาบีบคอแกร่งอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่แรงของเธอมันไม่สามารถทำร้ายเขาได้เลยสักนิด มือหนารีบดึงมือนุ่มออกจากลำคอพลางจับเอาไว้แน่น ก่อนที่เขาจะพลิกร่างเล็กให้นอนราบไปกับพื้นเตียงโดยมีเขาตามทาบทับ ทำให้หญิงสาวต้องใจหายวาบในทันใด และก่อนที่ปากหวานจะได้เอ่ยอะไรออกมา ริมฝีปากหยักก็มอบจุมพิตหวามให้กับเธออีกครั้ง

 

 

“อื้อ!! อื้อ!!”

 

 

                เสียงหวานค้านในลำคอพลางพยามเลี่ยงริมฝีปากอุ่นซ่านที่กำลังเคล้าคลึงอยู่บนริมฝีปากอิ่มสวย ข้อมือเล็กทั้งสองถูกมือหนาจับตรึงไว้กับพื้นเตียงทำให้เธอไม่สามารถขยับไปไหนได้ ปากหยักขยับและดูดดึงปากหวานไปมาอย่างช่ำชอง จุมพิตหวานแฝงไปด้วยความเร่าร้อนทำให้คนใต้ร่างเริ่มจะอ่อนระทวยลงเสียแล้ว ริมฝีปากอิ่มเริ่มเผลอไผลตอบสนองริมฝีปากอุ่นจนจูบหวานเริ่มเพิ่มความร้อนเร่ามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนที่เป็นฝ่ายเริ่มต้องถอดถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย แต่จะทำอย่างไรได้เพราะถ้าหากยังคงชมรสชาติความหวานล้ำต่อไป มีหวังเขาคงได้อดใจไม่ไหวอยากจะชิมส่วนอื่นด้วยเป็นแน่

 

 

“ราตรีสวัสดิ์ครับ”

 

 

                    เสียงทุ้มกระซิบแผ่วพร้อมรอยยิ้มอันแสนทรงเสน่ห์ ก่อนที่ร่างใหญ่จะถอยออกห่างร่างเล็ก และรีบเดินกลับไปที่ห้องของตนในทันที ส่วนคนที่พึ่งได้สติก็รีบลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว พลางทำตาโตด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มือนุ่มเอื้อมมาแตะริมฝีปากอิ่มอย่างแผ่วเบา หัวสมองของเธอในตอนนี้มีแต่ความว่างเปล่า จนรู้สึกมึนงงไปหมดแล้วว่าตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่….

 

 

นี่เธอถูกเขาขโมยจูบแรกไปจริงๆแล้วใช่มั้ย? 

 

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา