จอมใจ....สุดที่รัก

7.7

วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.25 น.

  23 ตอน
  50 วิจารณ์
  119.80K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 21.02 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) +++ เพื่อนบ้าน (จอมจุ้น) ผู้แสนดี +++

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 

                เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังลั่นทำเอาร่างเล็กต้องสะดุ้งโหยงตื่นขึ้นจากความฝัน กานดาดีดตัวลุกขึ้นนั่งพลางมองซ้ายแลขวาอย่างมึนงง เธอรู้สึกปวดที่ขมับหนึบๆอันเนื่องมาจากการได้นอนเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เพราะเหตุการณ์ที่ทำให้หัวใจสั่นเล่นเอาเธอนอนไม่หลับเลยทีเดียว

 

 

“ตายแล้ว! เก้าโมงกว่าแล้วหรอเนี่ย!”

 

 

                หญิงสาวร้องออกมาเสียงหลงเมื่อดวงหน้าหวานหันไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่บอกเวลาว่าเธอสายมากแล้ว ร่างบางรีบลงจากเตียงและวิ่งจู๊ดไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะทำการแต่งตัวอย่างร้อนรนหากแต่ยังคงความเนี๊ยบเอาไว้ตามแบบฉบับและลงไปยังชั้นล่างของคฤหาสน์ทันที

 

 

                กานดาเดินเข้ามาในห้องรับประทานอาหารเพราะนึกว่าเจ้านายหนุ่มของเธอจะอยู่ที่นั่นหากแต่ตอนนี้มันกลับว่างเปล่าไม่มีเงาของผู้เป็นเจ้าของบ้านเลยสักคน และคฤหาสน์ทั้งคฤหาสน์ก็ดูจะเงียบเชียบจนเธออดนึกสงสัยขึ้นมาไม่ได้ แต่ก่อนที่เท้าเรียวจะก้าวออกจากห้องไป กายล่ำของเชฟมือทองก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มเสียก่อน

 

 

“คุณวิลเขาออกไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้วจ้ะ” มอร์แกนเอ่ยพลางยืนพิงขอบประตูทางเข้าและกอดอกมองหญิงสาวตรงหน้า

 

 

“คือฉันตื่นสายน่ะค่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” เสียงหวานกล่าวพลางยิ้มแหยๆก่อนจะทำท่ากุรีกุจอจะเดินออกจากห้องรับประทานอาหารไป หากแต่พ่อครัวประจำบ้านกลับห้ามไว้เสียก่อน

 

 

“คุณวิลเขาฝากบอกมาว่าให้เธอรอเขาอยู่ที่นี่แหละจ้ะ เดี๋ยวเขาจะกลับมารับเธอไปที่บริษัทพร้อมกับเขาอีกรอบ เพราะเขาต้องไปทำธุระสำคัญก่อน”  

 

 

“อ้อ….งั้นเหรอคะ” หญิงสาวรับคำพลางพยักหน้าก่อนจะฉุกคิดขึ้นมาว่าเจ้านายคนเก่งของเธอไปทำธุระอะไรกันนะ และมันสำคัญถึงขนาดต้องไปแต่เช้าตรู่เลยหรือ

 

 

“เธอหิวหรือเปล่า มาที่ครัวสิเดี๋ยวฉันจะทำอะไรให้ทาน” เสียงทุ้มนิดๆเอ่ยก่อนที่ร่างใหญ่จะเดินนำหน้าแขกคนสำคัญของบ้านไปยังห้องครัวที่โอ่อ่าและหรูหราไม่แพ้ส่วนใดในคฤหาสเลยสักนิด

 

 

“แล้วนี่พวกสาวๆไปไหนหรือคะ” ร่างเล็กนั่งลงบนเก้าอี้สูงตรงเคาน์เตอร์บาร์ก่อนจะถามถึงผู้เป็นเจ้าของบ้านสาวทั้งสองคน

 

 

“อ้อ….สองแสบนั่นน่ะกำลังถ่ายแบบอยู่ที่ริมสระว่ายน้ำ นิตยสารที่พวกเธอพูดถึงวันนั้นไง” มอร์แกนตอบพลางหันมายิ้มให้หญิงสาวเล็กน้อยก่อนจะหันไปทำอาหารมื้อเช้าสุดพิเศษต่อ

 

 

“เขายกทีมงานมาถ่ายกันที่นี่เลยหรอคะ” กานดาถามต่อด้วยความสนอกสนใจ

 

 

“ก็ไม่เชิงหรอกจ้ะ….ที่มาก็เห็นจะมีช่างภาพกับผู้ช่วยไม่กี่คนเท่านั้นแหละ” ชายกึ่งหนุ่มกล่าวก่อนจะหันมาทำตาแพรวพราวใส่เธอ “ช่างภาพที่ว่าเขาเป็นหนุ่มหล่อล่ำบึกอยู่ข้างคฤหาสน์เลสเซิ้ลเนี่ยแหละ….แถมยังหล่อเหลาจนถ้าเธอได้เห็นคงจะต้องกรี๊ดแตกแน่ๆ”

 

 

“ขนาดนั้นเลยหรือคะ” กานดาเอ่ยก่อนจะหัวเราะเบาๆ

 

 

“แน่นอนจ้ะ เพราะฉันกรี๊ดจนไม่รู้จะกรี๊ดยังไงแล้ว” มอร์แกนบอกพร้อมกับยิ้มกริ่มก่อนจะหัวเราะออกมาทำให้หญิงสาวต้องหัวเราะตามอีกครั้ง

 

 

“ว่าแต่ว่าเธอเป็นคนไทยใช่ไหมจ๊ะ”

 

 

“ใช่ค่ะ ฉันเป็นคนไทย….ฉันชื่อกานดาค่ะ” เธอตอบพร้อมกับแนะนำตัวอย่างเสร็จสรรพ

 

 

“กานดา….ชื่อเพราะดีนะ ส่วนฉันชื่อมอร์แกนจ้ะ” อีกฝ่ายแนะนำตัวกลับพลางหันมายิ้มเป็นมิตรให้

 

 

“คุณมอร์แกนทำงานที่นี่มานานหรือยังคะ” หญิงสาวถามต่อเพราะไม่อยากให้เกิดความเงียบขึ้นระหว่างที่รออาหารแสนอร่อยจากพ่อครัวมือฉมัง

 

 

“ฉันมาทำที่นี่ตั้งแต่คุณวิลเป็นนายใหญ่บ้านน่ะจ้ะ….พอดีว่าเขาได้ไปลองทางฝีมือของฉันที่โรงแรมชื่อดังเข้าแล้วถูกปาก เขาก็เลยจ้างฉันให้มาอยู่ที่นี่แทน”

 

 

“คุณวิลนี่เขาชอบจ้างคนจังเลยนะคะ”

 

 

“ก็เพราะว่าเขาอยากร่วมงานกับคนเก่งๆไงล่ะ….และแสดงว่าเธอก็คงจะเก่งอยู่ไม่น้อย เขาถึงได้หอบเธอมาอยู่ที่นี่ด้วย” เชฟมือทองกล่าวพลางเสิร์ฟอาหารเช้าแสนหรูให้กับผู้เป็นแขกของบ้าน

 

 

“ฉันไม่ได้เก่งอะไรหรอกค่ะ….ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงอยากให้ฉันมาทำงานกับเขาด้วย” กานดาเอ่ยก่อนจะลงมือทานอาหารตรงหน้า

 

 

“คงเพราะเขาเห็นว่าเธอเป็นแม่พันธ์ที่ดีล่ะมั้ง” มอร์แกนว่าพลางยิ้มกริ่ม เล่นเอาหญิงสาวต้องหน้าแดงซ่านขึ้นมาในทันใด

 

 

“ไม่ใช่หรอกค่ะ คุณเข้าใจผิดแล้ว” เธอรีบแก้ต่างพลางทำเป็นตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารถึงแม้ใจดวงน้อยจะเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะก็ตาม

 

 

“แหม….แต่ฉันว่าฉันเข้าใจถูกนะ คุณวิลน่ะเขาชอบสาวไทยจะตาย แล้วยิ่งตัวเล็กร่างบางอุ้มง่ายอย่างเธอด้วยแล้วล่ะก็….ฉันคงเดาไม่ผิดแน่ๆ”

 

 

                คำกล่าวของเพื่อนใหม่ทำเอาหญิงสาวหน้าแดงซ่านจนพูดอะไรไม่ออก เขินอายจนแทบจะทานอาหารตรงหน้าไม่ได้อยู่แล้ว หัวใจก็เต้นโครมครามจนแทบจะออกมานอกอก

 

 

และไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นความจริงหรือเปล่าหนอ แต่ถ้าเจ้านายหนุ่มของเธอคิดอย่างนั้นจริงๆ….

 

 

‘หยุดคิดเดี๋ยวนี้กานดา!’

 

 

                กานดาปรามตัวเองเสียงดังอยู่ในใจพลางสะบัดหน้าไปมาเล็กน้อยเพื่อไล้ความคิดไร้สาระออกจากสมอง ทำให้คนยืนมองต้องแอบลอบอมยิ้มเพราะรู้ดีว่าตอนนี้แขกสาวคนสำคัญของเจ้านายหนุ่มกำลังคิดอะไรไปไกลจนแทบจะกู่ไม่กลับเสียแล้ว

 

 

 

                หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็พาร่างบางๆเดินเอื่อยไปยังด้านหลังของคฤหาสน์เป็นการฆ่าเวลาในการรอเจ้านายหนุ่มมารับ เธอเดินไปยังสวนสวยที่มีไม้ดอกหลากสีจัดแต่งให้ดูสวยงามและเป็นธรรมชาติยิ่งนัก แถมยังมีศาลาน้อยๆสีขาวให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย

 

 

                อีกด้านหนึ่งของคฤหาสคล้ายจะเป็นสนามกีฬาขนาดย่อมก็มิปาน มีแทบทุกอย่างตามแต่จะเลือกสรร แถมยังมีสระน้ำขนาดไม่ใหญ่นักไว้นั่งกินลมชมวิวและเธอคิดว่าในนั้นน่าจะมีปลาเล็กปลาน้อยอยู่ด้วยเป็นแน่

 

 

“อุ้ย! ขอโทษค่ะ”

 

 

                ร่างบางชนเข้าอย่างจังกับร่างของใครอีกคนเพราะมัวแต่มองโน่นดูนี่จนไม่ทันได้หันมองเบื้องหน้า เธอรีบหันไปขอโทษขอโพยเขาทันทีหากแต่พอหันไปก็ต้องหยุดชะงักนิดหน่อย เพราะการใกล้ชิดที่แทบจะสัมผัสถึงเสียงหายใจได้เนื่องจากว่าเธอเกือบจะล้มหงายเมื่อชนกับร่างใหญ่เข้า เขาจึงรีบรั้งตัวเธอเอาไว้ไม่ให้ล้ม

 

 

“ขอโทษครับ ไม่เป็นไรนะครับ”

 

 

                รอยยิ้มละมุนใจถูกส่งให้กานดาอย่างเป็นมิตร ก่อนที่เขาจะปล่อยตัวเธอให้เป็นอิสระ และถอยหลังให้ห่างจากเธอไปก้าวหนึ่ง ทำให้หญิงสาวได้ยลโฉมความหล่อเหลาของเขาได้อย่างเต็มตา ทั้งรูปร่างกำยำที่สูงใหญ่พอๆกับเจ้านายหนุ่ม ทั้งดวงตาคู่เซ็กซี่ที่มีขนตายาวงามทำให้ดูมีเสน่ห์ขึ้นอย่างยวดยิ่ง นัยส์ตาสีเทาหม่นช่างดูลึกลับน่าค้นหาให้ลึกซึ้ง คิ้วหนาเข้มดูรับเข้ากับใบหน้าอันหล่อเหลายิ่งนัก แถมเขายังไว้เคราบางๆทำให้ดูแกร่งขึ้น และดูมีเสน่ห์มากขึ้นจนหากหญิงใดได้มาพบพานเป็นต้องกรีดร้องด้วยความหล่อไม่เป็นรองใครของเขาอย่างที่เชฟมือทองบอกไว้เป็นแน่

 

 

“ไม่เป็นไรค่ะ ขอโทษด้วยนะคะเพราะฉันไม่ทันระวังเองเลยชนคุณเข้า” กานดากล่าวพลางส่งยิ้มบางๆให้กับคนตรงหน้า

 

 

“ผมก็เหมือนกันครับ เอ่อ….ไมเคิลครับ” ชายหนุ่มรีบแนะนำตัวพลางยื่นมือออกไปเพื่อทักทาย

 

 

“กานดาค่ะ” หญิงสาวตอบกลับพลางยื่นมือออกไปจับทักทายด้วยเหมือนกัน

 

 

“อ้อ! นี่คุณเป็นคนไทยใช่ไหมครับ” เขาถามออกมาก่อนจะปล่อยมือเรียวให้เป็นอิสระ

 

 

“ใช่ค่ะ ฉันเป็นคนไทยโดยกำเนิดค่ะ” เธอตอบเสียงใสพร้อมกับยิ้มหวานอย่างภาคภูมิใจในชาติเกิดของตน หากแต่มันทำให้อีกคนกลับหัวใจเต้นรัวเร็วขึ้นมาทันที

 

 

รอยยิ้มพิฆาตใจชาย รูปร่างเล็กกะทัดรัด ดูบอบบางน่าทะนุถนอม….จนเขารู้สึกอยากจะถนอมเธอขึ้นมาเสียแล้วสิ!

 

 

“คุณคงจะเป็นช่างภาพที่มาถ่ายแบบให้คุณเอมิลี่กับคุณมีอาใช่ไหมคะ” เสียงหวานถามออกไปเพราะเห็นกล้องตัวใหญ่ดูจะราคาแพงที่อยู่ในมือแกร่ง

 

 

“อ่อ….ใช่แล้วครับ พอดีผมมาดูสถานที่นิดหน่อย แล้วก็แอบเก็บภาพเล็กๆน้อยๆอย่างที่ทำเป็นประจำ” ไมเคิลตอบก่อนจะหัวเราะเบาๆออกมาเล็กน้อย “แล้วนี่ทำไมคุณพึ่งมาอยู่ที่นี่หรือครับ ผมมาที่นี่บ่อยไม่เคยเจอคุณเลยสักครั้ง”

 

 

“ค่ะ ดาพึ่งมาอยู่ได้ไม่กี่วันเองค่ะ พอดีคุณวิลเขาจ้างให้ดามาเป็นเลขาให้เขาน่ะค่ะ” กานดาตอบกลับเสียงชื่น

 

 

“เกิดเป็นวิลเลียมนี่ดีจริงๆ มีแต่สาวๆสวยๆรายล้อม” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะผายมือเชิญให้หญิงสาวเดินไปกับเขา

 

 

“คุณก็ดูท่าว่าจะมีสาวติดตรึมเหมือนกันนะคะ” เธอกล่าวไปตามความคิดพลางส่งยิ้มน้อยๆให้กับคนข้างกาย

 

 

“ไม่หรอกครับ ผมไม่เสน่ห์แรงเหมือนเจ้านายของคุณหรอก”

 

 

“แต่คุณดูเป็นคนอบอุ่นดี….ผู้หญิงน่าจะชอบไม่ใช่หรือคะ”

 

 

“ผู้หญิงไทยนะเหรอครับ” เสียงทุ้มเอ่ยพลางยิ้มกริ่มเล็กน้อย ทำให้กานดาต้องหัวเราะออกมาเบาๆ

 

 

“ประมาณนั้นมั้งคะ คุณดูอบอุ่นแล้วก็ใจดี ใครอยู่ใกล้ก็รู้สึกสบายใจน่ะค่ะ”

 

 

“อ้อ….อย่างนี้ผมคงมัดใจหญิงไทยได้ไม่ยากใช่ไหมครับ” ไม่เคิลเปรยถามด้วยเสียงนุ่มทุ้ม

 

 

“ก็คงงั้นมั้งคะ” เธอตอบกลับพลางหันไปยิ้มหวานตามแบบฉบับให้เขา

 

 

“งั้นค่อยมีกำลังใจหน่อย” เขาเอ่ยแบบยิ้มๆก่อนที่ทั้งคู่จะหันไปมองตามเสียงเรียกที่ดังขึ้น “ผมคงต้องไปถ่ายภาพให้สองสาวแล้ว คุณจะไปด้วยกันไหมครับ”

 

 

“ค่ะ ยินดีค่ะ” กานดาตอบรับด้วยความที่อยากรู้อยากเห็นว่าการถ่ายแบบจะเป็นเช่นไร

 

 

                ทั้งสองจึงเดินไปยังลานสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่เยื้องคฤหาสน์ไปเล็กน้อย เจ้าของบ้านทั้งสองตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นสีสันสดใส พร้อมเครื่องประดับและแต่งน่าทำผมให้ดูอ่อนเยาว์และสดใสร่าเริงสมกับอายุ ดูเหมือนว่าทั้งคู่กำลังสนุกกับงานที่ได้ทำมากจริงๆ

 

 

“คิตตี้! ดูฉันสิ….เป็นยังไงบ้าง” มีอารีบวิ่งมาหาแขกคนสำคัญก่อนจะหมุนตัวเร็วๆให้กับเธอดู

 

 

“น่ารักสดใสมากเลยค่ะ เหมาะกับคุณจริงๆค่ะ” กานดาชมคนตรงหน้าตามความจริงจนคนถูกชมเอาแต่ยิ้มแก้มปริ

 

 

“เอาล่ะมาเริ่มถ่ายกันได้แล้ว….หวังว่าสองสาวแห่งเลสเซิ้ลจะไม่ทำให้ผมผิดหวังนะ” ไมเคิลเอ่ยขึ้นพลางส่งยิ้มกวนๆให้กับนางแบบทั้งสองที่ดูจะชอบอกชอบใจเป็นพิเศษ

 

 

                การถ่ายแบบดำเนินไปอย่างราบรื่น ดูเหมือนสองสาวจะเป็นนางแบบมืออาชีพเสียด้วย เพราะช่างภาพแทบไม่ต้องสั่งให้โพสท่าหรือจัดท่าทางเลยแม้แต่น้อย พวกหล่อนรู้มุมกล้อง รู้ว่าต้องทำอย่างไร รู้ว่าต้องแสดงสีหน้าท่าทางแบบไหนกันไปซะทุกอย่าง ทำให้คนที่นั่งดูอยู่อดนึกชื่นชมขึ้นมาเสียไม่ได้

 

 

“เอาล่ะพักก่อนก็แล้วกัน….เดี๋ยวสาวๆไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วเดี๋ยวเราจะไปถ่ายกันอีกที่นึง” ไมเคิลกล่าวเมื่อทำการถ่ายภาพไปได้สักระยะนึงและเจอรูปที่ถูกใจจริงๆบ้างแล้ว

 

 

“คิตตี้….ฉันดูเป็นไง เก่งมั้ย” เสียงใสๆเอ่ยขึ้นพร้อมกับที่ร่างเล็กวิ่งเข้ามาหาแขกคนสำคัญของบ้าน

 

 

“สุดยอดเลยค่ะ พวกคุณโพสท่าเก่งจริงๆ ดูเป็นมืออาชีพมากๆ” กานดาตอบพร้อมกับยกนิ้วหัวแม่มือให้ทั้งสองข้าง เล่นเอาคนถูกชมต้องยิ้มแก้มปริไปตามๆกัน

 

 

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วมีอา” เอมิลี่รีบดันหลังน้องสาวเพราะความเขินอายที่ถูกแขกสาวชมเชย

 

 

                หลังจากนั้นพวกเขาก็ย้ายไปถ่ายแบบในสวนสวย ซึ่งตอนนี้นางแบบทั้งคู่เปลี่ยนชุดมาเป็นเดรสยาวสไตล์วินเทจน์หวานๆ ดูเข้ากับดอกไม้งามที่ชูช่อเบ่งบานยิ่งนัก ความเพลิดเพลินในการชมการถ่ายแบบทำเอากานดาลืมเรื่องไปทำงานเสียสนิท แถมยังลืมเจ้านายใหญ่ที่ตอนนี้กลับมายังคฤหาสน์เป็นที่เรียบร้อยแล้วเสียด้วย….

 

 

“เอาล่ะเสร็จเรียบร้อยแล้ว เก่งมากสาวๆ มากอดกันทีสิ” ช่างภาพหนุ่มกล่าวพลางอ้าแขนออกทำให้หญิงสาวทั้งสองต้องรีบวิ่งไปกอดกายกำยำในทันใด

 

 

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนแล้วเดี๋ยวเรามาดูรูปกัน” เสียงทุ้มเอ่ยพลางคลายกอดออก

 

 

                หญิงสาวทั้งคู่จึงส่งยิ้มหวานๆให้กับเขาก่อนจะพากันไปเปลี่ยนชุดด้วยความเร็วรี่ กานดามองตามร่างสองร่างที่เดินผ่านไปพร้อมกับยิ้มน้อยๆ ก่อนจะหันมาหาคนที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าที่พอเมื่อเธอหันไปเขาก็กดชัตเตอร์ถ่ายภาพเธอไว้ทันที เล่นเอาเธอต้องทำหน้าเหรอหราเลยทีเดียว

 

 

“เซอร์ไพรส์” เสียงทุ้มพูดพลางยิ้มละมุนให้กับคนตรงหน้า

 

 

“คุณไมเคิลเล่นอะไรก็ไม่รู้ค่ะ….ดาเขินนะคะ” กานดาเอ่ยพลางก้มหน้างุดด้วยความเขินอายตามที่พูดจริงๆ

 

 

“เขินทำไมล่ะครับ ก็คุณสวย….ถ่ายมุมไหนก็สวย” ว่าแล้วมือใหญ่ก็รัวกดชัตเตอร์จนหญิงสาวได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก

 

 

“พอแล้วค่ะดาอายจะแย่อยู่แล้ว” คนขี้อายบอกหากแต่คนช่างแกล้งกับยังไม่ยอมหยุดเสียทีเธอเลยหันหลังกลับและเดินหนีเขาเสียเลย

 

 

“อ้าว….อย่าพึ่งไปสิครับ รอผมด้วย” ไมเคิลว่าพร้อมกับรีบจ้ำอ้าวตามร่างเล็กไปในทันที

 

 

                ทั้งสองเดินคุยกันมาเรื่อยๆอย่างสนุกสนาน และชายหนุ่มก็ยังมิวายแอบเก็บภาพสาวงามที่ไม่ว่าจะหยิบกล้องมาถ่ายตอนไหนก็จะได้รูปที่เขาพึงพอใจไปเสียหมด ความสวยหวาน ความเป็นธรรมชาติของเธอ ช่างมัดใจเขาได้ดียิ่งนัก

 

 

แต่ติดตรงที่ว่า….เธอคงจะมัดใจเจ้าของบ้านตัวจริงไว้ด้วยเหมือนกัน ไม่งั้นเขาคงไม่เอาเธอมาอยู่ในบ้านอย่างนี้เป็นแน่!

 

 

                เพราะตั้งแต่ได้รู้จักกับครอบครัวเลสเซิ้ลมา เขาก็ไม่เคยเห็นพี่ชายคนโตของบ้านพาหญิงใดเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์เลยสักนิด จะมีแต่มาแล้วก็กลับ ไม่ได้อยู่ค้างอ้างแรมเหมือนกับคนข้างกายเขา อย่างนี้แล้วจะไม่ให้เขาคิดได้อย่างไร ว่าเพื่อนหนุ่มข้างบ้านของเขากำลังจะเอาเลขาสาวมาเป็นผู้หญิงของตน

 

 

“โอ้ย!” เสียงหวานร้องออกมาพร้อมกับนำมือจับที่ตาของตัวเองและหยุดเดิน

 

 

“เป็นอะไรไปครับ ฝุ่นเข้าตาหรอ” เสียงทุ้มถามออกมาด้วยความเป็นห่วง

 

 

“สงสัยจะใช่ค่ะ โอย….แสบจัง” กานดาตอบพลางกระพริบตาถี่ๆ

 

 

“ไหน ผมขอดูหน่อยครับ….สงสัยต้องไปเอาน้ำล้างตาแล้วมั้ง”

 

 

                ไมเคิลยื่นหน้าเข้าไปใกล้ดวงหน้าสวยเพื่อดูดวงตาหวานที่ตอนนี้มีน้ำตาเอ่อคลอและดูเหมือนจะช้ำขึ้นเสียแล้ว ทำให้ตอนนี้ใบหน้าของคนทั้งสองอยู่ห่างกันแค่ไม่กี่คืบ ความที่ไม่ได้คิดอะไรจึงทำให้กานดาไม่ได้หลบหนีหรือถอยออกห่าง หากแต่คนที่พึ่งมาถึงกลับต้องเบิกตากว้างและรีบเดินไปหาร่างสองร่างในทันที!

 

 

“ทำอะไร!” เสียงเข้มของชายอีกคนทำให้ทั้งสองต้องหันไปมองพร้อมกัน

 

 

“คือพอดีว่า….”

 

 

“มานี่เลยกานดา” วิลเลียมขัดขึ้นด้วยเสียงที่เข้มห้วนและจริงจังจนหญิงสาวต้องรีบทำตาม

 

 

“แหม….อย่าทำหน้าเครียดแบบนั้นสิ เดี๋ยวก็ไม่หล่อหรอก” ไมเคิลกล่าวหยอกอย่างสบายอารมณ์ เหมือนกับว่าไม่รู้สึกสะทกสะท้านกับสายตาคมที่มองตนแบบกินเลือดกินเนื้อเลยสักนิด

 

 

“นายมาที่นี่ทำไม บ้านช่องก็มีไม่รู้จักอยู่….บ้านฉันไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ให้นายมาเดินชมนะ” ผู้เป็นเจ้าของบ้านว่าพร้อมกับดึงร่างบางให้มาอยู่ข้างๆตน

 

 

“ฉันมาถ่ายแบบให้น้องสาวของนายต่างหากล่ะ” ผู้เป็นเพื่อนบ้านเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มยียวนกวนประสาทให้ชายตรงหน้า

 

 

“ถ้าเสร็จแล้วก็กลับไปสิ” วิลเลียมกล่าวอย่างไม่ค่อยพอใจนัก อารมณ์หงุดหงิดโหมพัดเข้ามาตั้งแต่ที่เห็นทั้งสองร่างใกล้ชิดกันเกินงามแล้ว

 

 

“แหม….เป็นเจ้าของบ้านที่ดีหน่อยสิ จะไม่ชวนฉันกินน้ำกินท่าหน่อยหรอ”

 

 

              เพื่อนหนุ่มเอ่ยเสียงประชด หากแต่สายตากลับเอาแต่มองร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างกายใหญ่ ด้วยสายตาที่แฝงเลศนัยกับประโยคสุดท้ายที่เขาพูด ทำให้ชายหนุ่มอีกคนต้องรีบโอบกอดเอวบางไว้ด้วยความหึงหวง!

 

 

“ถ้าอยากจะกินก็ไปสิ นายก็รู้จักทุกซอกทุกมุมของบ้านฉันแล้วไม่ใช่หรอ” เสียงเข้มห้วนกล่าวก่อนที่เขาจะลากแม่เลขาสาวให้ก้าวฉับไปกับตน

 

 

                ไมเคิลมองสองร่างพลางเหยียดยิ้มเล็กน้อย มันเป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆด้วย ท่าทีและอาการหึงหวงร่างระหงมันบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเพื่อนข้างบ้านของเขาไม่ได้เอาเลขาคนสวยมาเป็นแค่พนักงานอย่างเดียวหรอก หากแต่เธอยังถูกพามาเป็นภรรยาประดับบ้านเสียด้วย

 

 

อย่างนี้….ชักจะเริ่มสนุกขึ้นมาแล้วสิ!

 

 

“คุณวิลเลียม ดาเจ็บนะคะ” กานดาบ่นออกมาพลางพยายามแกะมือแกร่งให้หลุดจากข้อมือเล็กเมื่อทั้งสองเดินเข้ามาในตัวคฤหาสน์แล้ว

 

 

“ทำไมคุณไม่อยู่รอผมในบ้าน” วิลเลียมหยุดเดินพร้อมกับหันไปมองใบหน้าหวานด้วยสายตาดุแข็ง เล่นเอาคนถูกมองต้องเสียวสันหลังวาบทันที

 

 

“ก็….ก็ดาไม่ทราบหนิคะว่าคุณจะมาเร็วขนาดนี้ ดาก็แค่เดินเล่นฆ่าเวลาเท่านั้นเอง” หญิงสาวตอบกลับเสียงอ้อมแอ้ม ดวงหน้าหวานรีบก้มหน้างุดอย่างสำนึกผิด

 

 

“เดินเล่น….หรือว่าเดินอ่อยใครกันแน่” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างไม่ทันคิดเพราะความโมโห ทำให้คนที่ก้มหน้าอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมาจ้องสบตากับเขาทันที

 

 

“คุณว่าอะไรนะคะ” เธอถามกลับไปเสียงหนัก หากแต่คนถูกถามกลับเงียบไม่ยอมเปิดปากพูดออกมา

 

 

“ฉันไม่จำเป็นต้องอ่อยใครหรอกค่ะ….รู้ไว้ซะด้วย”

 

 

                เสียงหวานกล่าวพร้อมกับสะบัดแขนเล็กให้หลุดออกจากพันธนาการ หากแต่อีกฝ่ายกลับจับให้แน่นขึ้นพลางดันร่างเล็กจนหลังงามสัมผัสกับผนังอย่างรุนแรง สายตาดุแข็งที่เขาใช้มองมาช่างทำให้คนตรงหน้ารู้สึกกลัวขึ้นมาในทันใด

 

 

“แม่สาวน้อย….เธอไม่มีสิทธิ์อ่อยใครหน้าไหนทั้งนั้น เพราะตอนนี้เจ้านายของเธอคือฉัน….และฉันขอสั่งห้ามอย่าแม้แต่จะคิด!”

 

 

                คำสรรพนามที่เขาใช้เปลี่ยนไปกับเสียงเข้มที่เหยียบเย็นทำให้หญิงสาวมองคนตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่น ใจดวงน้อยเต้นระส่ำเพราะสายตาเฉียบคมที่มองมามันช่างเย็นชาและน่ากลัวเสียเหลือเกิน แถมมือแกร่งที่เปลี่ยนมาบีบจับต้นแขนนุ่มไว้ทั้งสองข้างก็ออกแรงบีบจนเธอรู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วแขน แต่ก็ยังฝืนทนเอาไว้ไม่ร้องออกมาสักแอะ เพราะกลัวว่าหากร้องออกไปคงได้โดนเขาทำโทษเป็นแน่

 

 

“จะไปไหนก็ไป วันนี้ไม่ต้องไปทำงาน….ฉันไม่มีอารมณ์”

 

 

               ชายหนุ่มกล่าวพลางปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ ก่อนที่เขาจะเดินปึงปังไปจากตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์นัก ทิ้งให้ร่างเล็กต้องยืนเหรอหรา มึนงงไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดกันเจ้านายหนุ่มถึงได้ทำท่าโมโหโทโสเธอซะขนาดนี้

 

 

แต่เมื่อกี้ตอนที่เธอได้สบตากับเขาอยู่แวบหนึ่ง เธอเหมือนกับเห็นแววตาหึงหวงที่ส่งตรงมายังเธออย่างไรบอกไม่ถูก!

 

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา