ยัยจอมยุ่งกับซุปเปอร์สตาร์หน้าใส

10.0

เขียนโดย fahfinger_903

วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 21.00 น.

  5 บท
  4 วิจารณ์
  7,883 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 21.09 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ความรู้สึกแปลกๆของยูกิโกะ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
2เดือนผ่านไป
"นี่โกะเรามีไรจะบอกอ่ะ"อะไรกันจู่ๆนายคิโตะก็มาบอกอะไรบางอย่างกับฉัน
"ว่ามาซิ"
"เราไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอแล้วละ"ฉันนิ่งเงียบไปประมา300วินาทีได้มั้ง(5นาทีน่ะเเหละ อย่าไปคิดมาก)
"(ฉันพูดเสียงสั่นราวกับจะร้องไห้)ทำไมละ ฉันไปทำอะไรให้นายโกรธหรือป่าว หรือนายพี่เพื่อนใหม่ หรือว่าฉันทำตัวไม่ดีนายเลยไม่อยากยุ่งกับฉัน เพราะอะไร"(น้ำตาฉันเริ่มคลอเบล้าแล้ว มันไหลออกมาโดยไม่ต้องสั่งการใดๆ)
"หยุดพูดแล้วฟังฉันก่อน...โกะเราอยากสนิทกับเธอให้มากกว่านี้อ่ะ เธอคงไม่เป็นไรใช่มะ"คิโตะเริ่มมีอาการหน้าแดงราวกับเขินอายยังไงไม่รู้
"ไม่รู้ซิ งั้นฉันขอดูนิสัยนาย1 ปีก่อนได้ไหม"
"ได้ซิ เพื่อเธอเราทำได้ทุกอย่างแหละ"เวอร์ไปละคุณชายของชานนนนนน
"พักกลางวันค่อยมาเจอฉันละกัน"
แล้วเราทั้งสองก็เดินจากไปโดยไปบอกลา ทำไมฉันรู้สึกแปลกๆน่ะ เหมือนเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เวลาชั่งผ่านไปไวเหลือเกิน มันเหมือนมีอะไรผ่านเข้ามาในหัวใจแล้วทะลุหน้าอกออกไปภายในเสี้ยววินาทีเดียวเองละ ทำไมฉันรู้สึกแบบนี้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ
พักกลางวัน
"ว่าไงโกะ เธอเป็นอะไรหรือป่าวทำไมหน้าเธอดูซีดๆ ซึมๆ เหมือนไม่สบายอย่างนั้นแหละ"
"ฉันไม่ได้เป็ฯอะไรหรอก(ทำไมฉันเสียงสั่นอย่างนี้น่ะ)เราไปหาซื้อข้าวกินกันดีกว่า"
ทำไมเป็นอย่างนี้ละทำไมเราไม่คุยกันแบบเก่าที่เคยคุยกัน ทำไมน่ะ!ทำไม! ฉันตะโกนก้องในหัวใจ มันคงไม่อยากเพยเเพร่ให้ใครได้ยินมั้ง
พอฉันนั่งลงฉันก็รีบก้มหน้ากินข้าวจนคิโตะสงสัย
"นี่ทำไมวันนี้เธอดูแปลกๆ ขอโทษน่ะ ประจำเดือนเธอมาหรือป่าว"
"จะบ้าเหรอ แล้วมาถามอย่างนี้ได้ไงฮะ"ฉันตะโกนลั้นจนคนทั้งโรงอาหารหันมามอง
"เราขอโทษน่ะ เราไม่ได้ตั้งใจ อย่าโกรธเราเลยน่ะ"
 "เย็นนี้เดี๋ยวเรามารับน่ะ"
"ไปต้องหรอกเรามีนัดกับเพื่อนน่ะ คงกลับเย็น"
"อืม เอางั้นก็ได้"
วันนี้ฉันไม่ได้มีนัดอะไรหรอกแค่ไม่อยากอยู๋กับคิโตะนานๆ หลายคนอาจไม่เข้าใจที่ฉันเป็นอย่างนี้ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าฉันเปิดอะไร เรื่องมันเกิดตั้งแต่ที่คิโตะมาบอกรักฉัน ฉันคงมองหน้านายคิโตะไม่ติดจริงๆ ทำไมละทำไมถึงเป็นแบบนี้ ใครก็ได้ซักคนเข้ามาช่วยฉันที
พอฉันพูดฮัมอยู่คนเดียวจบ นายคิโตะก็เดินเข้ามาดุจได้ยินสิ่งที่ฉันพูด ในมือถือดอกกุหลาบสีแดง ได้กลิ่นหอมอบอวลดั่งอยู่ในสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้หลากชนิด ภายในดอกไม้มีกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆสีชมพูซึ่งฉันก็ไม่รู้เช่นกันว่าภายในกล่องนั้นมีอะไร
"ว่าไงโกะไหนบอกว่ามีนัดไงละ แล้วทำไมถึงมานั่งอยู่คนเดียวละ"
"แล้วนายมายุ่งอะไรเล่า เอาเหอะถือซะว่าวันนี้เป็นวันที่โชคร้ายละกัน พรุ้งนี้ลืมตาขึ้นมาใหม่เดี๋ยวมันก็หายไป เรากลับกันเถอะ"
"อืม กลับบ้านไปไปกินยาพาราเซลมอนด้วยน่ะ"
"เห้ย มาตลกอะไรตอนนี้เขามีแต่ยาพาราเซลตามอนย่ะ"ฉันเริ่มหัวราะออกมานิดๆ
"ก็เราอยากให้เธอหัวเราะนิ ก็วันนี้ฉันเห็นเธอหน้าเศร้าเลยเป็นห่วงน่ะ""อะ เราลืมให้เธอน่ะฉันเพิ่งไปซื้อมาน่ะเปิดกล่องดูด้วยซิ"
"ในกล่องมีอะไร"
"ไม่รู้ซิเราไม่อยากบอก"หน่อยยยยอีตานี้นิ จะลึกลับไปไหน
ฉันค่อยๆเปิดกล่องดูอย่างตั้งใจแต่เมื่อฉันเปิดไปแล้ว!!!!!!!!!!!!!
ก็มีตุ๊กตาเด่งดึงออกมาโดยมีรูปลักษณ์หน้าตาตลกและถือกระดาษเล็กๆที่เขียนว่า"ยายเหม่ง 555"
"นี้ คิโตะ(ฉันพูดเบาๆ)"
"อะไรละ"
"เอาหูมาใกล้ๆฉันนี่"
คิโตะเอาหูมาใกล้ๆฉันอย่างช้า แต่เมื่อเขาเอาหูมาใกล้ๆฉันเท่านั้นละ ฉันก็รีบเอามือโขกหัวนายคิโตะพร้อมพูด
"นี่นายเดี๋ยวนี่เอาใหญ่แล้วน่ะหน่อยยยยยยยยยย"
"โอ้ยๆๆๆๆๆเราเจ็บแล้ว โอเคก็ได้ต่อไปเราจะไปทำอีกแล้ว หือหือT__T"
"ไม้ต้องมาทำเป็นร้องไห้เลย แค่นี้มันยังน้อยไปละน่ะ"
"เบาแล้วเหรอ หน้ากลัวจังเลย"
 เมื่อถึงหน้าบ้านของฉัน ฉันก้มแล้วบอกกับคิโตะว่า
"นายกลับไปซะเถอะ"
"เดี๋ยวซิ ฉันมีอีกเรื่องหนึ่งที่จะบอกเธอ"
"วันนี้ฉันไม่ว่างน่ะ จะรีบไปทำการบ้าน"
"ตะ...แต่ มะ...มันสำคัญมากเลยน่ะ"
"งั้นบอกที่โรงเรียนละกัน"
"แต่พรุ้งนี้วันเสาร์"
"ก็รอวันจันทร์ซิ"คิโตะถึงกับหน้าถอดสีเลย แล้วเขาก็เดินจากไป
"เดี๋ยว วันนี้ตอน20.00น.เปิดหน้าต่างด้วย"
คิโตะหยุดเดินแล้วหันมาตอบ(เปลี่ยนจากสีหน้าที่ไม่ดีกลายเป็นยิ้มเลย)
"อืม
"โชคดีน่ะ"
แล้วทั้งสองก็จากลาไปด้วยความสงบ
เหอะวันนี้ฉันเป็นอะไรเนียะ จะว่าไปประจำเดือนฉันก็ไม่มานิ ฉันตัดสินใจไปปรึกษาแม่
"แม่ค่ะ ว่างหรือป่าวค่ะ"
"ว่างจ๊ะ มีอะไรหรือป่าว"
"คือว่าวันนี้ตั้งแต่เช้าหนูมีอารมณ์แปลกๆค่ะ"
"ที่ว่าแปลกมันหมายความว่าอะไร"
"คือหนูมีอาการหงุดหงิดทั้งวันก้มหน้าไม่พูดกับไครและมันก็อธิบายไม่ถูกค่ะแม่ หนูควรทำอย่างไรดี(น้ำตาฉันไหลรินออกมาโดยไม่ต้องสั่งการใดๆ"
"แม่ว่าลูกคงโดนคำพูดที่ไม่ว่าใครได้ยินแล้วจะต้องเขิน แต่แปลกน่ะทำไมลูกไม่เป้นอย่างที่เขาเป็นกัน"
"คำพูดที่ใครได้ยินแล้วจะต้องเขินเหรอ อ๋อ แม่ค่ะขอบคุณที่ให้คำปรึกษาน่ะ"ฉันรีบวิ่งขึ้นห้องด้วยความเร็วแสง
ฉันรู้แล้ว ฉันรู้แล้ว ฉันรู้แล้ววววววววว ฉันควรเอาใจเขามาใส่ใจเรา ฉันควรตอบกลับเขาไปว่า"เราก็เช่นกัน"
"แต่เอ๋ ฉันบอกคิโตะไปว่าฉันจะขอดูนิสัยเขาไปก่อน1ปีนี้น่าาาาา"
ไม่สนละฉันจะไปบอกเขาตอนนี้เลยอีก2นาทีจะสองทุ่มละ
ฉันรออยู่นานจนกระทั่งสามทุ่มแล้วคิโตะก็ไม่เปิดหน้ต่างฉันจึงกลับเข้าไปนอน
เช้าวันรุ้งขึ้น
วันนี้คิโตะไม่มารับฉัน ฉันจึงต้องเดินไปโรงเรียนตามลำพัง
เมื่อฉันถึงโรงเรียนฉันดก็เดินเข้าไปถามเพื่อนสนิทของคิโตะ
"นายวันนี้คิโตะไม่มาเรียนเหรอ"
"อ๋อ วันนี้คิโตะต้องไปทำวีซ่าน่ะ เลยไม่ว่างมาเรียน นี่เธอไม่รู้เหรอ"
"อืม ฉันก็เพิ่งรู้นี่ละ ขอบใจน่ะ"
"ทำวีซ่าเหรอคิโตะจะไปไหนน่ะ เอ้ะแล้วทำไมเมื่อกี้เราไม่ถามเพื่อนสนิทของคิโตะละ"แต่มันก็สายไปซะแล้ว เพราะว่าตอนที่ฉันหันกลับไปเพื่อนของคิโตะก็หายไปแล้วสงสัยไปเล่นแล้วมั้ง
"เหอะ (ถอนหายใจเพื่อให้โลกรู้เลย)ฉันหน้าจะให้เขาพูดตอนนั้นเลย นี่ฉันทำอะไรลงไปเนียะ ฉันผิดเหรอนี่"
ฉันกังวลใจหมดแล้ว ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อดี แล้วฉันจะได้เจอหน้าซุปเปอร์สตาร์ของฉันไม่เนียะ คิดแล้วกลุ้มจริงๆเลย
หลังเลิกเรียนฉันกังวลใจมาก จึงไปปหาคิโตะที่บ้าน
"มีใครอยู่ไหมค่ะ"ฉันยืนตะโกนลั่นอยู่หน้าบ้าน
ฉันยืนได้ซักพักแม่ของคิโตะก็เดินออกมา
"มีอะไรหรือป่าวจ๊ะ"
"สวัสดีค่ะแม่ คิโตะอยู่ไหมค่ะพอดีไม่เห็นไปเรียนตั้งแต่เช้า"
"อยู่จ๊ะเมื่อวานแม่พาไปทำวีซ่า แล้วอากาศมันหนาวมากคิโตะเลยไม่สบายแม่ก็เลยให้พักผ่อนน่ะ"
"งั้นหนูขอเข้าไปเยีายมได้ไหมค่ะ"
"ได้ซิ เข้ามาเลยจ๊ะ"
ฉันเดินเข้าบ้านแล้วถึงกับต้องร้องโอ้โหเพราะว่าบ้านของคิโตะใหญ่มาก มี3ชั้นห้องไม่ต้องพูดถึงมีเป็น10ๆห้อง อยากรู้จังบ้านนี่อยู่กันกี่คน แต่ฉันขอชมบ้านนายไว้แค่นี่ก่อนละกันเพราะฉันจะขึ้นไปเยี่ยมนายแล้ว
"ห้องของคิโตะอยู่ตรงไหนเหรอค่ะ"
"อยู่ชั้น3น่ะจ๊ะ ห้องที่มีประตูสีดำ อยู่ทางขวามือสุดน่ะ เชิญตามสบายแล้วน่ะ"
"ขอบคุณค่ะ"โอ้โหอยู่ตั้งชั้น3แล้วห้องที่มีประตูดำมีตั้งหลายห้องแล้วฉันจะหาเจอไหมเนียะ(ทำหน้าท้อใจซะแล้ว)
ฉันรีบวิ่งขึ้นเเต่เอะ ฉันเลือบไปเห็นลิฟท์เข้าฉันจึงรีบวิ่งไปรอที่หน้าลิฟท์
"นี่โชคดีน่ะเนียะที่เจอตอนเพิ่งเดินขึ้นชั้น1 ถ้าฉันเจอตอนอยู่ชั้น3ขึ้นมาน่ะ นายต้องตายเเน่ๆเลย"ฉันบ่นพึมพัมระหว่างรอลิฟท์
"ถึงชั้น3ซะที แล้วห้องไหนละเนียะ ทางด้านขวาสุดเหรอแต่เอะนี่มันอะไกันเนียะ ที่ว่าขวามือน่ะทำไมมันมีหลายห้องจัง สุ่มๆเอาละกัน"ฉันเลือกห้องเเรกที่อยู่ขวามือสุด และเคาะประตู 
ก๊อกๆ
"เชิญครับ"เสียงนี่มันคิโตะนิ ฉันเดาถูกด้วย อัยยะ
ฉันค่อยๆเปิดประตูอย่างช้าๆ และเดินเข้าไปหาคิโตะ
"เป็นไงบ้างคิโตะ"
"ยังลุกไม่ขึ้นเลย รู้สึกว่าจะตายยังไงไม่รู้ซิ"
"หิวไหม เดี๋ยวฉันไปเอาข้าวต้มให้น่ะ"คิโตะพยักหน้า
ฉันลงไปข้างล่างโดยลิฟท์ เพื่อไปเอาข้าวต้มมาให้คิโตะกิน
"เอ้า ลุกขึ้นมากินซิ"
"ฉันลุกไม่ไหวช่วยหน่อยซิ"
"เฮ้อนายนี่จริงๆเลยน่ะ ก็ได้ๆฉันจะช่วยนายก็ได้"
ฉันวางข้าวต้มแล้วเดินเข้าไปพยุงตัวเขา 
"ให้ตายซิตัวนายนี่มันหนักจริงแล้ว"ทันใดนั้นฉันขาฉันดันไปสดุดขอบเตียงทำให้เราทั้งสองล้มลง ตัวของฉันแล้วเขาทับกันโดยทันที
ทั้งสองหน้าแดงดุจมะเขือเทศสุกยังไงยังงั้นทั้งสองมองหน้ากันด้วยแววตาอันเป็นประกายและกลมโต คิโตะค่อยๆเอื้อมปากเข้ามาใกล้ๆและจูบลงปากของหญิงสาวผู้อ่อนแอ ปากของเขาช่างนุ่มนวลอะไรอย่างนี้ได้รสชาติราสเบอร์รี่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นน้ำหอมที่เหมือนซื้อมาจากเมืองที่ดังและเป็นเริศด้านการค้าน้ำหอม
ฉันผลักตัวของเขาออกอย่างเบาๆ 
"นี่นายทำอะไรเนียะ"
"ปากของเธอช่างนุ่มแล้วหอมมากเเล้วน่ะรู้ตัวไหม"
"นี่มันไม่ใช่เวลาน่ะ รีบกินข้าวต้มเร็วเดี๋ยวท้องนายจะเรียกร้องหาของกินซะก่อน"
"นี่ไครทำเนียะ"
"ทำไมอ่ะ ฉันทำเองพอดีแม่นายไม่ว่างน่ะ ฉันเลยทำเอง"
"ไม่น่าละ รสชาติห่วยแตกมากเลย แต่ฉันจะพยายามกินน่ะ"
"ฮ่าๆๆทนกินไปเหอะก็จะทำไงได้ละฉันไม่เคยทำอาหารนิ""กินๆไปเหอะจะได้ชินๆ"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา