Decisive wars สู่จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง

7.2

เขียนโดย CyCloEclipse

วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.46 น.

  44 ตอน
  5 วิจารณ์
  42.83K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

27) นางฟ้าเกลียดสิ่งนี้เข้าเส้น

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

มันจะเกิดอะไรขึ้นกันนะ... ถ้าหากว่าความมุ่งมั่นของเหล่าผู้ที่ต่อสู้ขัดขืนเจตนารมย์ของศัตรูที่ต้องการจะทำลายล้างทุกสิ่งที่มนุษย์เป็นผู้ก่อร่างสร้างขึ้นมาจากอดีตกาลให้พินาศสิ้นนั้นเกิดเหือดหายไปจมหมด จากผู้ที่มีพลังใจแน่วแน่ที่จะต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งเกินกว่าตนเองหลายสิบหลายร้อยเท่าอย่างไม่ย่อท้อแม้จะล้มลงไปไม่รู้กี่ครั้งเพื่อชัยชนะที่มีโอกาสได้มาเพียงริบหรี่นั้น... กลับกลายเป็นพวกขี้แพ้ที่ไม่เจียมสังขารลุกขึ้นยืนต่อหน้าคู่ต่อสู้คนนั้นในสภาพที่กำลังใจในการต่อสู้หมดลงไปจนกลายเป็นเป้านิ่งให้ศัตรูเชือดทิ้งได้ง่ายๆ




"ในที่สุด...ในที่สุดเธอก็รู้สิ่งที่ฉันอยากจะทำแล้วสินะ ฮิซาชิคุง..!? ทีนี้เป็นยังไงบ้างล่ะ...ความรู้สึกที่ได้รู้ว่าคนที่เราเชื่อมั่นมาตลอดว่าจะต่อสู้เคียงข้างเราตลอดไปกลับกลายเป็นศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของเราไปชั่วชีวิต เธอพอจะเข้าใจบ้างแล้วหรือยัง!?"


เออ...เข้าใจดีเลยล่ะ! ฉันเข้าใจแล้วล่ะว่ายัยมิคาสะรู้สึกยังไงตอนที่รู้ว่าเราปรารถนาที่จะฆ่าเธอมาตลอด... คิดดูก็น่าขำนะที่คนที่อยู่ด้วยกันมาตลอดจนกลายเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้วหันกลับมาทรยศความเชื่อใจของเธออย่างเจ็บปวด




ความรู้สึกนี้...มันเจ็บ! เจ็บจริงๆนะ!!




ฮิซาชิทรุดลงกับพื้นเหมือนเวลาจับสัตว์ไม่มีกระดูกทำท่ายืนแล้วปล่อยลงตามอิสระนั่นแหละ ในเวลานี้เด็กชายที่หลั่งน้ำตาออกมาราวกับสายเลือดก็ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่เหล่าseiriที่เขาเรียกว่า"ครอบครัว"มาตลอดนั้นเคยรู้สึกมาแล้วอย่างสมบูรณ์ ถ้าหากว่าฮิซาชิสามารถเดินทางข้ามเวลากลับไปได้อีกครั้ง...เขาจะไม่ยอมให้มีการต่อสู้ที่แสนทรมานแบบนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว



"เอาล่ะ... พวกเราคุยกันมามากพอแล้วนะ จัดการสองคนนี้ทิ้งซะเลย...โซลเนล!!"




หนึ่งมือที่กดลงไปที่ปุ่มสีเขียวบนอุปกรณ์ถอดรหัสเสียง หนึ่งมือที่ดันหัวหูฟังเข้าไปในร่องหูให้ได้ยินชัดเจนยิ้นขึ้น หนึ่งช่องปากที่บรรเลงบทเพลงแห่งความตายให้กับเหล่าผู้อ่อนแอที่สยบอยู่แทบเท้าของเธอนั้นได้ทำให้ดวงตาของฮิซาชิเบิกโพลงออกมา ทันใดนั้นสายตาของเด็กชายก็เหลือบไปเห็นกระดองที่เปิดออกอีกครั้งของสัตว์ประหลาดที่พร้อมจะปล่อยลูกไฟใส่พวกเขาทั้งสองได้ทุกเมื่อ



"ที่ผ่านมาต้องขอบใจเธอจริงๆที่ทำให้ฉันสนุกได้ขนาดนี้... ไม่ว่าจะเป็นเกม..เป็นข้อความ...หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เธอสรรหามาให้ฉันทำ ลาก่อนนะ...เจ้าหนู!"


ไม่ตลกเลยนะ!! จะให้เรายอมรับได้ยังไงกัน!! ฮานามิที่ขี้อาย...ฮานามิที่ไม่กล้าแม้แต่จะชายสายตามองเราในรัศมีหลายสิบเมตรคนนั้น...ฮานามิที่เคยพูดคำว่า"ฉันชอบเธอ"ออกมาจากใจจริงคนนั้นน่ะเหรอ!!


[ที่แท้...เธอก็เป็นคนอำมหิตแบบนี้เองเหรอ!!!]




"รีบหนีไปซะ!! มิรัน!! ถ้าเป็นเธอในตอนนี้ละก็..!!!"


ฮิซาชิไม่รอช้ารีบเร่งเสียงใส่แองเจลอยด์ที่กำลังคุกเข่าร้องไห้น้ำตาเช็ดหัวเข่าอยู่ข้างๆอย่างรวดเร็ว เขาปรารถนาเพียงแค่ว่าให้มิรันรอดชีวิตจากที่นี่ไปเพียงคนเดียวก็เกินพอแล้ว... อย่างน้อยถ้ามิรันยังมีชีวิตอยู่ก็คงจะเอาชนะผู้นำมาซึ่งความวิบัติในสมัยนี้ได้ ถึงเขาจะต้องตายก็เถอะ...


'อย่างน้อยถ้าเราได้เกิดใหม่ละก็...ฉันขอเกิดเป็นตัวฉันเองในอนาคตได้หรือเปล่า!? เพื่อที่ฉันจะได้แก้ไขทุกสิ่งที่ผิดพลาดไปทั้งหมด'




"เธอมัวทำอะไรอยู่น่ะ!! ทำไมเธอถึงยังไม่หนีไปอีก!! อย่างน้อยขอแค่เธอรอดก็..."


ฮิซาชิที่เห็นเพื่อนของเขายังคงนั่งอยู่กับพื้นก็รีบตะกายร่างเข้าไปหามิรันอย่างไม่เป็นจังหวะเพื่อเหวี่ยงร่างของเธอออกไปให้พ้นจากระยะยิงของโซลเนล แต่ทันทีที่มือของเขาสัมผัสท่อนแขนอันเรียวยาวของมิรัน...มันก็ถูกปัดออกอย่างรวดเร็ว 



"อย่างน้อยขอแค่ฉันรอด... ไม่ขำเลยนะ!!"


และสิ่งที่ฮิซาชิเห็นหลังจากที่มือขวาของเขาถูกแขนซ้ายของมิรันปัดออกจนกระเด็นออกไปแล้ว มิรันค่อยๆดันตัวเองลุกขึ้นจากพื้นประกบหมัดทั้งสองข้างเตรียมใช้ท่าไม้ตายที่สองของเธอในสภาพที่จิตใจอ่อนแอยิ่งกว่าสำลีที่พร้อมจะฉีกออกจากกันได้ทุกเมื่อ

ซึ่งผลที่ได้ออกมานั้นก็คือ...ลูกบอลพลังสีฟ้าอ่อนที่มีพลังทำลายต่ำมากนั่นเอง!!




"ถ้ามิคาสะอะไรนั่นบอกกับนายว่าฉันจะปกป้องเธอเอง... นายกล้าพอจะเห็นเด็กคนนั้นออกไปตายเพื่อนายหรือเปล่า!!"


เสียงของมิรันที่สะท้อนก้องเข้าไปในโสตประสาทของฮิซาชินั้นทำให้เด็กชายตาสว่างขึ้นมาในทันที เพราะเขาเพิ่งจะมารู้ตัวเมื่อสักครู่นี้เองถึงความหมายที่แท้จริงของ "ฉันฝากเธอ...ช่วยดูแลน้องสาวของฉันด้วยนะ" ที่เขาเคยได้ยินมาจากปากของมิรันโดยตรงก่อนที่เธอจะตายไปต่อหน้าต่อตาเขาว่าเธอต้องการจะสื่อถึงอะไร...


สิ่งที่มิรันต้องการจะสื่อถึงเมื่อตอนนั้นไม่ใช่ว่า"ให้ฮิซาชิทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้พวกมิคาสะยังมีชีวิตอยู่แม้ตัวเองจะต้องตาย" แต่เป็น...



"ให้ฮิซาชิพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะ...มีชีวิตอยู่ต่อเพื่อพวกมิคาสะโดยไม่ให้พวกเธอตาย" ต่างหาก!!




"ยัยบ้าเอ๊ย... ทำไมตอนนั้นถึงไม่บอกให้ชัดๆตั้งแต่แรก ปล่อยให้ฉันต่อสู้จนเกือบจะตามเธอไปปรโลกอยู่ได้..."


งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา...ดราม่าย่อมต้องมีวันจบ ฮานามิที่ได้ฟังคำพูดก่อนลาจากของพวกฮิซาชิที่ฟังแทบจะไม่รู้เรื่องเพราะน้ำตาและน้ำที่ไหลออกมาจากรูจมูกของทั้งสองคนเข้าไปขัดขวางการออกเสียงแบบปกติไม่ให้ใช้งานได้อย่างสะดวก แองเจลอยด์ผู้ครอบครองพลังที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสายพันธุ์เดียวกันทำการป้อนรหัสโจมตีให้โซลเนลทำการตอบสนองในทันทีเพื่อตัดปัญหามลภาวะทางเสียงให้หมดสิ้นไป


หากแต่ในครั้งนี้เหมือนว่าจะต่างออกไปจากปกตินิดหน่อย...




            ฟู่ม.......!!



ชั่วพริบตาที่คำสั่งจากฮานามิสิ้นสุดลง โซลเนลก็ทำการยิงลูกไฟที่สะสมพลังทำลายสูงสุดเอาไว้ออกมาใส่พวกฮิซาชิที่สังเกตการณ์อยู่บนยอดเขาห่างออกไปจากตำแหน่งของมันไปราวๆหลายกิโลเมตรอย่างแม่นยำ ลูกไฟพลังทำลายสูงที่พุ่งตรงเข้ามานั้นได้ทำให้มิรันล้มเลิกกาาสะสมพลังงานในลูกพลังของตัวเองก็จะกลับหลังหันเพื่อจะพาตัวฮิซาชิออกไปให้พ้นจากที่นี่โดยเร็วที่สุด

จะติดก็ตรงฮานามิที่เข้ามาขวางนี่แหละ...


"จะไปแล้วเหรอ... เธอแค้นฉันอยู่ไม่ใช่เหรอ!? รีบๆเข้ามาฆ่าฉันซะสิ!"

"บ้าเอ๊ย!!!!!!!"


ในชั่วพริบตาก่อนที่ลูกไฟจะล่วงล้ำเข้ามายังอาณาเขตห้าร้อยเมตรจากตัวฮิซาชิ มิรันที่ไม่มีทางเลือกมากนักก็สะสมลูกพลังสีฟ้าขึ้นมาอีกครั้งที่มือทั้งสองข้าง โดยลูกที่มือซ้ายปล่อยออกไปต้านลูกเพลิงที่พุ่งเข้าหาพวกเธออย่างรุนแรงเอาไว้ ส่วนลูกพลังที่มือขวานั้นก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก...


"ฉันจะพาตัวฮิซาชิออกไปจากที่นี่!! เธออย่ามาเกะกะฉันจะได้ไหม!!!"

มิรันปล่อยลูกพลังในมือทั้งสองข้างออกไปพร้อมกันตรงเข้าหาฝ่ายตรงข้ามเพื่อเปิดโอกาสในการเข้าชาร์จฮิซาชิที่อ่อนแอเกินกว่าที่จะรับการโจมตีของโซลเนลไหวออกไปให้พ้นจะรัศมีระเบิด หากแต่จุดสนใจของมิรันนั้นกลับอยู่ที่แองเจลอยด์ผู้หักหลังเผ่าพันธุ์และเหล่ามนุษย์อย่างโหดร้ายที่สุด


ลูกพลังที่มือขวาของมิรันซึ่งสะสมพลังในร่างของเธอกว่าครึ่งถูกปล่อยเข้าหาร่างของฮานามิที่ยืนทำสีหน้ามีความสุขอยู่ตรงหน้าพร้อมทั้งหยดน้ำตาที่ปลิวออกไปพร้อมๆกันอย่างรุนแรง ในขณะนั้นลูกพลังในมือซ้ายที่มิรันปล่อยออกไปปะทะกับลูกไฟของโซลเนลนั้นได้ตรงเข้าถึงเป้าหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยแรงระเบิดที่รุนแรงจากการปะทะกันอย่างรุนแรงของพลังที่แข็งแกร่งมากทั้งสองอย่างก็ได้เกิดเป็นแรงลมกรรโชกที่ร้ายกาจจนพัดเอาหิมะที่ปกคลุมยอดเขานั้นออกจนเหลือเพียงพื้นดินโล่งๆ...


หากแต่ถ้าจะมีข้อผิดพลาดก็เพียงที่ฮานามิสามารถทำลายลูกบอลพลังของเธอได้อย่างสบายๆจนน่าตกใจ และลูกไฟของโซลเนลนั้นก็ยังไม่ถูกทำลายไปเสียทีเดียว... ทั้งอย่างนั้นพลังที่ลดลงไปก็ไม่ได้อยู่ในขอบเขตที่จะไม่ทำให้ฮิซาชิได้รับบาดเจ็บจนถึงตายตามที่คาดเอาไว้!!



"เธอคิดว่าความต่างชั้นของพลังระหว่างเธอกับโซลเนลมันเท่าไหร่เหรอ... จริงอยู่ว่าพละกำลังทางกายภาพของโซลเนลจะอยู่ในระดับที่ให้เธออัดเล่นได้สบาย แต่ว่าถ้าเป็นเรื่องพลังภายในกายแล้ว...โซลเนลน่ะแข็งแกร่งกว่าเธอหลายเท่านะ!"


มิรันแทบช็อคเมื่อได้ยินคำพูดที่ฮานามิเอ่ยออกมากับเธอ ก็จริงอยู่ว่ามิรันนั้นไม่ได้มีวิวัฒนาการไปถึงระดับที่สามเหมือนฮานามิ แต่ถึงอย่างนั้นพลังที่เธอมีก็ไม่ได้อ่อนแอกว่าseiriทั่วๆไปเลย...ตรงข้ามนั้นเธอจะแข็งแกร่งกว่าพวกนั้นซะด้วยซ้ำ!! แต่ก็ยังไม่พอที่จะสู้กับฮานามิได้อยู่ดี...


"บ้าสิ้นดี!!"

เมื่อมิรันเห็นว่าไม่สามารถสู้กับฮานามิได้อย่างสูสี เธอจึงคิดที่จะใช้ความเร็วหลบหลีกที่สูงที่สุดในหมู่แองเจลอยด์ด้วยกันในการหลบผ่านฮานามิไปยังตัวฮิซาชิให้ได้แทน แต่ทันทีที่มิรันขยับตัวเท่านั้น...ร่างของเธอก็ถูกกดลงกับพื้นอย่างรุนแรงราวกับว่าเป็นเรื่องง่ายๆ


"อึ่ก..!"

"ก็นะ...ถึงเธอฉันจะออกแบบให้เธอสามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วสูงที่สุดในพวกแองเจลอยด์ก็ตามที แต่ด้วยความเร็วที่ฉันมอบให้เธอไปนั่นก็ไม่ได้สูงไปกว่าฉันหรอกนะ"


บ้าจริงๆ... บ้าที่สุด! ทำไมเราถึงต้องมาสู้กับคนที่รู้ทักษะการต่อสู้ของเราทั้งหมดอย่างยัยนี่ด้วย!! ถ้าหากว่าเราไม่รีบลุกละก็...ฮิซาชิจะต้อง!!


"เอ้า..! เธอมองให้ดีๆ มองแล้วจำเอาไว้ด้วย...ช่วงเสี้ยววินาทีที่คนสำคัญที่สุดของเธอกำลังจะหมดลมหายใจ ไม่แน่นะว่าเธออาจจะแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยสิ่งๆนี้"


รีบลุกสิฮิซาชิ! ลูกไฟสังหารนั่นกำลังจะเข้าถึงตัวนายแล้วนะ!!!


"บ้าเอ๊ย!!! ลุกขึ้นซะทีเซ่!!! ไอ้คนอ่อนแอเอ๊ย!!!!"




                เปรี้ยง..!! ตูมมมม....>>!!!!!




ลูกไฟที่ตรงเข้าหาร่างของเด็กชายที่ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้นหลบไปไหนได้อีกแล้ว... ได้ถูกอะไรบางอย่างผ่าออกเป็นสองส่วนในทันทีก่อนที่จะสัมผัสกับเป้าหมายที่ควรจะพุ่งเข้าหา แต่ก็นะ..! ถ้าหากว่าลูกไฟนั่นตรงเข้าหาฮิซาชิละก็...


"มันเกิดอะไรขึ้น... ทำไม..!?"


ไม่เพียงแค่มิรันเท่านั้นที่ตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่รวมทั้งฮานามิเองก็ประหลาดใจด้วยเช่นกัน ลูกไฟที่อัดแน่นไปด้วยพลังทำลายและความร้อนที่สูงเกินกว่าที่ร่างกายของมนุษย์จะทนทานได้นั้นกลับถูกผ่าออกได้อย่างสบายๆด้วยสันมือข้างเดียวของใครคนหนึ่ง และนอกจากนั้น...


"ทำไม..โซลเนลถึงได้...โจมตีฮานามิ!?"



สัญญาณไฟกระพริบที่ฮานามิไม่ได้สนใจที่จะชายตามองเพื่อตรวจสอบระบบที่ยังคงทำงานเป็นปกติของเครื่องถอดรหัสไฟฟ้าที่เธอซุกเอาไว้ใต้เกราะเอวของเธอนั้น... อุปกรณ์ที่ฮานามิป้อนคำสั่งเสียงลงไปโดยไม่ใส่ใจสิ่งอื่นนอกจากรหัสตัวเลขตัวอักษรที่ผ่านการสุ่มมาเป็นอย่างดีนั้น... ไฟกระพริบที่ควรจะเป็นสีฟ้าเมื่อได้รับคำสั่งจากผู้ใช้แล้วนั้น...



                                              ได้เปลี่ยนไปเป็นสีแดงเป็นที่เรียบร้อย!!




"ทำไมกัน...ทำไมอุปกรณ์ถึงได้ขัดข้องได้ล่ะ!? ทั้งๆที่ตอนที่เราตรวจเช็คระบบมันก็ทำงานเป็นปกตินี่นา... หรือว่า!? จะเป็นตอนนั้น!!"


ฮานามินึกออกในทันทีถึงเหตุการณ์ที่อาจจะเป็นสาเหตุของความบกพร่องของอุปกรณ์ถอดสัญญาณเสียงที่ติดตั้งอยู่กับร่างกายของสัตว์ประหลาด เพราะการสวนกลับระหว่างโซลเนลกับฝูงบินรบเมื่อก่อนหน้านี้ได้ทำให้ตัวอุปกรณ์รับสัญญาณที่คอของมันเกิดเสียหาย และยิ่งนำมาประกอบกับการโจมตีของมิรันที่ฮานามิปัดป้องโดยไม่ระมัดระวังแบบที่เธอทำเป็นประจำนั้น...

ได้ทำให้ตัวอุปกรณ์นั้นเสียหายทั้งตัวรับและตัวส่งจนไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ!!


และในขณะนั้นเองที่สีหน้าของมิรันดูมีสีสันมากยิ่งขึ้น... เธอเผยรอยยิ้มที่สดใสออกมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ได้เห็นสีหน้ากังวลของฮานามิที่แสดงออกมาอย่างไม่มีปกปิดเมื่อครู่นี้แล้ว


"หรือว่าที่เธอทำไปทั้งหมด...ก็เพื่อทำลายเจ้าเครื่องนี่"


"ใช่! อยู่ๆจะมาจับนกขังกรง...ใครมันจะยอมกันเล่า!? ฉันก็แค่อยากจะช่วยโซลเนลไปพร้อมๆกับฮิซาชิและพวกมนุษย์ยังไงเล่า!"



"ทำไม..!? ทั้งๆที่พวกมนุษย์ด้อยค่ายิ่งกว่าพวกเราถึงขนาดนี้...ทำไมเธอถึงได้เลือกที่จะปกป้องพวกนั้นอยู่อีก! ทำไมเธอถึงต้องยืนหยัดต่อหน้าฉันด้วยเรื่องแค่นั้นด้วย!!"


ราวกับฟังเสียงจากเครื่องเล่นเพลงที่หัวแปลเสียงตกร่องไม่มีผิด... หลังจากที่ฮานามิเอ่ยประโยคที่ทำให้ชวนคิดถึงคำนั้นออกมา ฮิซาชิที่เอาแต่ร้องไห้อยู่ตลอดจนถึงเมื่อครู่นี้ก็ทำการเช็ดรอยน้ำตาออกจนหมดก่อนจะลุกขึ้นมาจากพื้นเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าเธอ รวมทั้งเทอร์รารอยด์ที่เป็นสาเหตุทำให้ลูกไฟของโซลเนลเกิดการแบ่งครึ่งในเมื่อครู่นี้อีกด้วย!!


และในตอนนั้นเอง...พวกฮิซาชิทั้งสามก็เปล่งวาจาศักดิ์สิทธิ์ที่ทำการเตรียมกันมาก่อนหน้านี้ออกมาอย่างเสียงอันไพเราะจับจิต ซึ่งประโยคนั้นได้ทำให้ฮานามิรู้สึกไม่ชอบใจเป็นอย่างมาก




"ก็เพราะว่าต่อให้สำหรับseiriแล้วมนุษย์จะด้อยค่าสักแค่ไหน... สำหรับพวกเราแล้วมนุษย์ถือว่ามีค่ายิ่งกว่าชีวิตของพวกเราและseiriทั้งหมดรวมกันเสียอีกยังไงล่ะ!!"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา