Decisive wars สู่จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง

7.2

เขียนโดย CyCloEclipse

วันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 11.46 น.

  44 ตอน
  5 วิจารณ์
  42.84K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ. 2556 20.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

36) อยู่ด้วยกัน...ตลอดไป

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     "ขอโทษด้วยนะมิรัน... แต่ฉันจะรีบจัดการเจ้านี่แล้วพาเธอไปโรงพยาบาลให้ได้!!!"




ฝุ่นควันสีน้ำตาลที่คละคลุ้งซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเป็นม่านกำบังสายตาของสิ่งมีชีวิตที่มีระดับสายตาอยู่ต่ำกว่ามนุษย์ที่ฮิโรมิเป็นคนสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นจุดยุทธศาสตร์การต่อสู้ทำให้โซลเนลที่กำลังหงุดหงิดเพราะถูกขัดจังหวะในระหว่างที่กำลังหาเนื้อสดๆกินนั้นต้องชะงักไปชั่วขณะ แต่มันก็สามารถกำจัดสิ่งที่ทำให้มันไม่สามารถคาดเดาการกระทำของคู่ต่อสู้ที่แสนน่ารำคาญตรงหน้าสายตาได้ด้วยการปล่อยลูกไฟออกไปชำระล้างสิ่งแปลกปลอมบนอากาศอย่างรวดเร็วจนสลายไป


แต่ร่างของฮิโรมิที่น่าจะอยู่ภายในกลุ่มควันดินนั้นก็หายไปพร้อมกับมันด้วยเช่นกัน... จนสัตว์ประหลาดต้องหันรีหันขวางเพื่อค้นหาตำแหน่งของคู่ต่อสู้ที่อาจจะมาทำร้ายมันจากทิศทางไหนก็ได้ในทันที




          "ย้าก..!!!!!...!!!!!..."



และในจังหวะที่โซลเนลกำลังหันไปทางขวาหลังจากที่ทางซ้ายของมันไม่เห็นใครนั่นเอง... คมดาบโฟตอนของฮิโรมิที่ประจุพลังทำลายจากทั่วทุกรูขุมขนจนเปล่งประกายเป็นดาบเล่มยาวก็ฟันลงมาที่กระดองของมันอย่างหนักหน่วงจนเกิดเป็นลำแสงสีแดงเหลืองกระจายออกมาจากจุดสัมผัสกลมกลืนไปกับท้องฟ้าที่เปลี่ยนเป็นสีส้มในเวลาใกล้ค่ำ แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อคมดาบของฮิโรมิเกิดสะท้อนออกจากกระดองที่แข็งเหมือนเหล็กกล้าของโซลเนล


เป็นจังหวะเดียวกับที่กระดองที่กลางหลังของมันเปิดออกเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ภายในก่อนจะยิงลูกไฟใส่ในจุดที่ฮิโรมิลอยอยู่ราวกับรู้ตำแหน่งของเธอตั้งแต่แรก



"เอจิส!!!!!"


เปลวเพลิงที่ประจุพลังความร้อนมหาศาลเทียบเท่ากับดวงอาทิตย์ของโซลเนลตรงเข้าหาฮิโรมิที่ลอยอยู่กลางอากาศราวกับกระสุนปืนของนายพรานที่พุ่งตรงไปยังกลุ่มวิหคที่กำลังบินอยู่อย่างสบายอารมณ์ แต่แทนที่ฮิโรมิจะใช้ความสามารถในการหลบหลีกให้เป็นประโยชน์...เธอกลับพุ่งตรงเข้าหาลูกกระสุนเพลิงที่สัตว์ประหลาดปล่อยออกมาด้วยความเร็วสูงสุดพร้อมกับเปิดม่านป้องกันที่โล่ในมือซ้ายทำการปัดการโจมตีนั้นจนระเบิดออก แต่ด้วยแรงอัดระเบิดที่สูงมากนั้นได้ทำให้ร่างของฮิโรมิกระเด็นตามไปด้านหลังด้วย




"ฉันจะไม่หนี..!! ฉันจะบุกเข้าหาแกอีกเรื่อยๆเพื่อที่จะจัดการแกแล้วพามิรันไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด!! ฉันน่ะ...ไม่อยากผลักภาระไปให้ฮิซาชิจัดการเพียงคนเดียวอีกต่อไปแล้ว!!!"




หลังจากที่ประกาศความตั้งใจที่แท้จริงที่โกหกฮิซาชิเรื่องของมิรันเมื่อประมาณชั่วโมงก่อนออกมาแล้ว ฮิโรมิที่พลิกตัวกลับมาในท่าต่อสู้ได้สำเร็จก็ออกตัวพุ่งเข้าไปหาโซลเนลที่กำลังมองเธอด้วยสายตาที่อัดแน่นไปด้วยความปรารถนาที่จะฉีกเนื้อของคู่ต่อสู้ของมันเป็นชิ้นๆ ซึ่งกลางหลังของมันมีแกนพลังที่พร้อมจะปะทุขึ้นมาได้ทุกเมื่อกำลังเปล่งแสงสีเหลืองจ้าออกมารบกวนการมองเห็นของฮิโรมิจนแทบจะลืมตาไม่ขึ้น




"แกคิดว่าแค่ใช้แสงจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ในตัวแกแล้วจะถ่วงฉันได้งั้นเหรอ...คิดตื้นไปแล้ว!!!"


โซลเนลส่งเสียงคำรามออกมาราวกับเป็นการตอบคำถามของฮิโรมิ ในขณะเดียวกันนั้นเองกระสุนเพลิงก็ถูกยิงออกมาจากแกนพลังงานภายในกระดองของมันตรงเข้าใส่ฮิโรมิที่กำลังบินเข้าหามันด้วยความเร็วสูงสุด และในจังหวะก่อนที่ของทั้งสองสิ่งจะเข้าปะทะกันนั้นเอง... ร่างของฮิโรมิก็หายไปจากสายตาที่จ้องเขม็งของโซลเนลอย่างรวดเร็วราวกับเป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้น



"แค่ฉันเข้าประชิดตัวแกจากด้านข้างที่ฝากระดองแกบังแสงเอาไว้ แค่นี้ฉันก็เห็นตัวแกชัดเจนแล้วเฟ้ย!!!"




               ชิ้ง...!!!!!!!



คมดาบที่ประจุพลังทำลายสูงกว่าครั้งที่แล้วๆมาของฮิโรมิเฉือนเข้าไปยังเนื้อที่แข็งราวกับก้อนหินของโซลเนลจนเกิดประกายไฟกระจายออกมาอย่างหนาแน่นจนสัตว์ประหลาดส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ฮิโรมิก็ไม่ยอมรามือเพียงแค่นี้... เธอยังคงใช้ความเร็วที่โซลเนลมองตามไม่ทันระดมฝากรอยแผลบนร่างกายของมันอย่างต่อเนื่องจนแทบจะไม่มีวินาทีไหนเลยที่ร่างของมันจะไม่ได้รับบาดเจ็บ


     แต่เหมือนกับว่าการโจมตีของฮิโรมินั้นจะสามารถสร้างความเสียหายให้กับพลังชีวิตที่มหาสาลของโซลเนลได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น... เป็นเพียงแค่แผลถลอกเล็กๆที่ไม่มีอันตรายใดๆเลยแม้แต่นิดเดียว




                              "ทีนี้ปิดฉากล่ะนะ!!!!"



หลังจากที่สามารถเล่นงานคู่ต่อสู้จนมั่นใจแล้วว่าไม่สามารถตามความเร็วได้ทัน ฮิโรมิก็ใช้ความเร่งสูงสุดพุ่งลงมาจากท้องฟ้าเหนือแผ่นหลังของโซลเนลอย่างรวดเร็วราวกับไม่ต้องการเสียเวลาไปอีกแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ซึ่งเป้าหมายในครั้งนี้ของฮิโรมิก็คือ... "แกนพลังงานหลักภายในกระดองที่ถูกเปิดออกมา"นั่นเอง!!!




                   "ไปตายซะแก...!!!!!!!"



ปลายดาบที่แหวกอากาศลงมาด้วยความเร็วสูงสุดจนคล้ายกับหอกกิงก์นิวร์ที่มีพลังทะลวงได้แม้กระทั่งโล่ป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดได้ตรงเข้าใส่แกนพลังงานที่ใจกลางกระดองของสัตว์ประหลาดที่ยังคงอยู่นิ่งไม่เคลื่อนไปจากจุดเดิมเลยนั้นได้ทำให้ฮิโรมิเริ่มมั่นใจในผลลัพธ์ที่เธอกำลังจะเป็นคนสร้างขึ้นมาเองด้วยตัวคนเดียว ซึ่งถ้าหากว่าการโจมตีครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ...มันจะกลายเป็นผลงานชิ้นแรกที่ฮิโรมิเป็นคนจัดการตั้งแต่ที่ถือกำเนิดขึ้นมาในฐานะ"seiri"เลยทีเดียว!!!!




          ฟู่มมม์.....!!         ตึง!!!!...!!!!!!!!!!!!




เสียงระเบิดกัมปนาทและแสงสว่างที่ส่องประกายเจิดจ้าไปทั่วบริเวณจากการโจมตีขั้นสุดท้ายของฮิโรมิที่สามารถกุมความได้เปรียบเรื่องความเร็วในการบินที่สูงที่สุดในโลกได้ส่งเสียงดังกึกก้องราวกับเพลงฉลองชัยที่มอบให้แก่นักรบผู้กล้าหาญที่สามารถเอาชนะจอมปีศาจแห่งขุมนรกได้สำเร็จ ซึ่งแสงสีแดงที่ปรากฏขึ้นแทนที่แสงอาทิตย์อัสดงนั้นได้ทะลวงเข้าไปในเปลือกตาที่ปิดสนิทของมิรันที่กำลังนอนหายใจรวยรินอยู่บนกองหินที่เรียบสนิทจากการที่ฮิโรมิจัดการให้จนสั่นไม่เป็นจังหวะ



และแล้วเมื่อแสงสว่างนั้นจางลง... ฮิโรมิก็ต้องพบกับความประทับใจที่ดาบของเธอเป็นตัวการทำให้เกิดขึ้นในที่สุด





"อะไรกันน่ะ...!? ทำไมดาบคริสซาออร์ถึงได้..."



ในที่สุดสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ก็กลายเป็นจริงในที่สุด... ในชั่วพริบตาก่อนที่ปลายดาบที่กลายเป็นลักษณะคล้ายหอกของฮิโรมิกำลังจะเสียบเข้าไปยังตำแหน่งที่เล็งเอาไว้ตั้งแต่แรกนั้น กระดองที่แผ่นหลังของโซลเนลก็หุบเข้าหากันรับคมดาบของเธอเอาไว้ได้พอดี!!!


และในจังหวะเดียวกันนั้นเอง...ก่อนที่ฮิโรมิจะปล่อยมือออกจากด้ามจับที่ตอบรับกับพลังภายในร่างของเธอจนกลายเป็นดาบแสงนั้น เปลวเพลิงที่ไม่น่าจะถูกปล่อยออกมาได้ของสัตว์ประหลาดก็ทะลุออกมาจากช่องที่ข้างกระดองที่เหมือนกับรูระบายอากาศพุ่งเข้าทำร้ายฮิโรมิอย่างรุนแรง




"อ๊าก!!!!!!!!!"




แรงระเบิดที่รุนแรงยิ่งกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่ถูกผลิตขึ้นมาในช่วงสงครามโลกนั้นจู่โจมเข้าใส่ร่างของฮิโรมิที่มีชุดต่อสู้ซึ่งมีพลังป้องกันแฝงอยู่จนชุดต่อสู้สีแดงสดนั้นขาดหลุดลุ่ย ตามร่างกายของเธอนั้นได้รับบาดแผลฉีกขาดหลายแห่งจนมีเลือดไหลอาบราวกับเป็นเส้นผมสีแดงชาดที่ขาดลงมาติดตามร่างกาย แต่ที่หนักจริงๆคือกระดูกแขนขวาที่ใช้จับดาบในการโจมตีโซลเนลนั้นแตกละเอียดจนไม่สามารถฟื้นฟูได้ในทันที จนทำให้อาวุธเพียงหนึ่งเดียวที่ฮิโรมิจะใช้ได้ในตอนนี้คือ... "โล่ที่มีพลังป้องกันแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเพื่อนร่วมสายพันธุ์ที่แขนซ้าย"นั่นเอง!


แต่ถึงจะเสียเปรียบมากเพราะอาการบาดเจ็บร้ายแรงที่กระหน่ำเข้าใส่เส้นประสาททั่วทั้งร่างของเธอจะร้ายแรงกว่าที่คิดเอาไว้ก็ตามที ฮิโรมิที่รู้ตัวดีว่าในตอนนี้ไม่มีทางที่จะเอาชนะโซลเนลได้ก็ยังคงลุกขึ้นยืนหยัดต่อสู้อย่างไม่ย่อท้อ แม้ว่ามือซ้ายที่ยังใช้การได้เพียงข้างเดียวของเธอจะกุมเอาไว้ที่แขนขวาเพื่อข่มอาการบาดเจ็บก็ตามที...




"ฉันน่ะ...ไม่ยอมแพ้หรอกน่า! ถ้าฉันช่วยมิรันเอาไว้ด้วยตัวเองไม่ได้...ฮิซาชิก็จะไม่ยอมรับฉัน แล้วถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ... ฉันก็คง...ฉันก็คง...อึ่ก!"



แม้ว่าจะยังคงพูดอยู่ได้ แต่ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักหน่วงจนเส้นประสาทเริ่มทยอยปิดการทำงานลงเพื่อบรรเทาภาระที่สมองจะต้องแบกรับเอาไว้จนท่อนขาของฮิโรมิเริ่มไม่มีกำลังที่จะพยังร่างกายเอาไว้จนล้มทรุดลงไปกับพื้นดิน แต่ถึงอย่างนั้นโซลเนลก็ไม่ยอมรามือยังคงเดินเข้าหาฮิโรมิที่นอนนิ่งอยู่กับพื้นเหมือนนักล่าที่กำลังเดินเข้าหาเหยื่อที่หมดแรงต่อสู้อย่างไม่รีบร้อน ในขณะที่ฮิโรมิพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะลุกขึ้นยืนอีกครั้งหนึ่ง... แม้ว่าจะทำได้เพียงยกหน้าอกให้พ้นจากการกดทับของน้ำหนักตัวเท่านั้นก็ตาม



"มันจบแล้ว...สินะ!? ทุกๆสิ่งที่นายทำให้ฉัน...ทุกอย่างที่นาย... แต่เอาเถอะ! ถ้าฉันได้เกิดใหม่ก็ขอให้ได้เกิดเป็นลูกสาวของนายนะ... ฉันจะได้อยู่ร่วมกับนายและมิรันอีกครั้งหนึ่ง"






"จะมัวมานอนอยู่อย่างนั้นทำไมเล่า...ยัยบ้า!!!"


เสียง..!? ใครกันน่ะ... ใครกำลังเรียกเราว่ายัยบ้ากันนะ!? ช่างเถอะ...ยังไงก็ไม่มีใครมาช่วยเราทั้งนั้นนั่นแหละ!



"เฮ้ย..!! ยัยปีศาจโนตม!!! ถ้าตอนนั้นเธอให้ฮิซาชิมาสู้กับเจ้านี่ตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องมาเป็นแบบนี้หรอก!!!"



ผู้หญิง..!!! เป็นไปไม่ได้!!! เรื่องบ้าๆที่ว่ามีผู้หญิงรู้ที่อยู่ของพวกเราแล้วมาช่วนทันเวลาแบบนั้นมันจะมีได้ยังไงกันเล่า!!!




"มิรัน!! ทำไมเธอถึงได้-!!!"


ฮิโรมิแหงนหน้าขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเสียงตะโกนรอบที่สองของผู้หญิงที่กำลังออกแรงดันโซลเนลที่กำลังเดินตรงเข้ามาหาอย่างสุดแรงทั้งๆที่ร่างของสาวน้อยคนนั้นยังคงบาดเจ็บอยู่ ในตอนนั้นเองที่สายตาของฮิโรมิสบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินที่แฝงไปด้วยความมุ่งมั่นอย่างสุดหัวใจของมิรันเข้าพอดี แม้ว่าพละกำลังของมิรันในตอนนี้จะน้อยมากจนถูกดันกลับเข้ามาก็ตามที...



"หนวกหู!! เธออยากจะแสดงความสามารถและความเด็ดเดี่ยวในการต่อสู้ให้ฮิซาชิได้ประทับใจไม่ใช่เหรอ!! ถ้าหากทำแบบนั้นแล้วเธอต้องตายไป...คิดว่าหมอนั่นจะภูมิใจในความกล้าหาญของเธออย่างนั้นเหรอ!!!"



"ไม่มีทาง!!! เจ้าหมอนั่นน่ะไม่เหมือนกับมนุษย์ทั่วๆไปที่มีความสุขอยู่บนความลำบากของพวกเราหรอกนะ...เจ้านั่นน่ะถ้าเลือกได้ก็คงอยากจะเป็นseiriเหมือนๆกับพวกเรานั่นแหละ!! ถึงหมอนั่นจะอยู่ในสภาพอ่อนแอแค่ไหน...ถึงหมอนั่นจะอยู่ห่างจากพวกเราแค่ไหน...แต่ถึงฮิซาชิรู้ว่าพวกเราต้องลำบากเพื่อให้เขามีชีวิตอยู่ต่อ เจ้านั่นน่ะ...จะต้องรีบถ่อมาทันทีเพื่อช่วยพวกเราต่อสู้แน่!!!"



"ไม่ใช่เพราะสิ่งที่เข้าใจยากที่พวกมนุษย์เรียกว่า'ความรัก'!! ไม่ใช่เพราะความเสียสละแบบของฮีโร่ที่เจ้านั่นเกลียดที่สุด!! ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่นๆที่พวกมนุษย์จะสรรหาคำจำกัดความมาอธิบายเลย!! เจ้านั่นแค่ทำไปเพราะความบ้าระห่ำที่อยากจะปลดปล่อยพวกเราจากการต่อสู้เท่านั้น... เพราะอย่างนั้นแหละฉันถึงได้...ถึงมันจะยากเกินกว่าที่seiriอย่างฉันจะเข้าใจก็เถอะนะ!!!"



ในจังหวะที่มิรันกำลังถูกดันถอยหลังมาเรื่อยๆนั้น...ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บภายในก็เริ่มอ่อนแรงลงจนเข่าของเธอทรุดลงแตะพื้นดินที่ถูกไถเป็นรางโดยเท้าของเธอที่ออกแรงดันอย่างสุดชีวิต และประกอบกับที่แขนของมิรันเริ่มอ่อนแรงลงจนเลื่อนออกจากจุดที่ตรึงโซลเนลเอาไว้นั้นจึงทำให้ปากที่มีฟันอันแหลมคมพร้อมจะขย้ำเธอเริ่มลดระยะลงมายังร่างของเธอ ซึ่งนั่นเองที่ทำให้มิรันยอมสละแขนขวาเพื่อรักษาทั้งชีวิตเอาไว้...



"โอ๊ย!!!!!"


"มิรัน!!!! พอได้แล้ว!!! รีบถอยไปซะ!!!!"



แขนขวาที่ถูกกัดจนขาดเป็นแผลรุ่งริ่งของมิรันนั้นมีเลือดสีแดงฉานไหลออกมาตลอดเวลา ซึ่งอาการบาดเจ็บนี้เองที่ทำให้ท่อนขาของมิรันหมดแรงขยับโดยแท้จริง แต่ถึงแม้ว่าแขนซ้ายที่ยังเหลืออยู่นั้นจะทำได้เพียงกุมเข้าไปที่ไหล่ขวาเพื่อระงับอาการเจ็บปวดไปชั่วระยะนั้นเอง ดวงตาทั้งสองข้างที่จ้องไปยังโซลเนลก็ยังไม่หมดประกายที่จะต่อสู้


และในขณะนั้นเองที่สายตาของฮิโรมิมองเห็นบางสิ่งที่ต่างออกไปจากมิรันที่เคยเป็น... ปีกสีขาวที่แผ่นหลังซึ่งมีละอองแสงสีฟ้ากระจายออกมาราวกับ!




"ที่ผ่านมาฉันไม่อยากแสดงพลังที่แท้จริงของตัวเองให้หมอนั่นเห็นเลยแม้แต่นิดเดียว...เพราะฉันอยากจะมองแผ่นหลังของฮิซาชิคุงตลอดไป! แต่ถ้าการที่ฉันแสดงความรู้สึกนี้ออกมาจะทำให้ฉันได้เฝ้ามองฮิซาชิต่อไป...ฉันก็จะทำ!!"



ร่างของมิรันตอบสนองต่อคำพูดที่อัดแน่นด้วยความรู้สึกจากใจจริงของเธอเปล่งประกายแสงสีฟ้าออกมาราวกับสามารถปลดผนึกพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในส่วนลึกของร่างกายได้สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...อวัยวะส่วนที่ขาดไปก็กลับคืนมาพร้อมกับแสงสว่างนั้นด้วยเช่นกัน!!



"สำหรับฉันแล้ว...ต่อให้คนทั้งโลกไม่สนใจการมีชีวิตอยู่ของฉันก็ช่างหัวมัน!!! ขอแค่ให้ฉันได้อยู่เคียงข้างมนุษย์เพียงคนเดียวที่เห็นค่าในตัวผู้หญิงที่ไม่ใส่ใจเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นทุกวี่วันหรือหน้าอกที่จะต้องสงวนเอาไว้เพียงแค่คนเดียวก็พอ!!! ต่อให้หมอนั่นจะว่าฉัน...จะไล่ฉันไปอีกสักกี่ครั้ง...ฉันก็จะอยู่เคียงข้างฮิซาชิคุงตลอดไป!! ถึงจะไม่ได้เป็นที่หนึ่ง...ขอแค่ให้ฉันได้อยู่ในสายตาของนายบ้างก็ยังดี!!!!"







                              [[ โปรแกรมวิวัฒนาการ「ยูเรนัส」เริ่มขั้นตอนทำงาน!! ]]







"ก็เพราะฉันน่ะ...เริ่มจะชอบนายขึ้นมาแล้วยังไงเล่า!!!!!!!"

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา