Please Love me นายคนนั้น...มารักฉันซะ!

7.0

เขียนโดย RoseAnan

วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556 เวลา 22.15 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,906 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2556 18.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) Chapter 1 - Love at first sight. ‘รักแรกพบ’ (100%)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
Chapter 1
Love at first sight.
‘รักแรกพบ’
 
                ฉันเดินเข้ามาในห้องเรียนด้วยความรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก หัวใจกระหน่ำรัวอย่างบ้าคลั่งแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิตนี้ กวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องเพื่อหาร่างของเพื่อนสาวคนสนิท และเมื่อเจอฉันก็ไม่รีรอที่จะปรี่ไปที่โต๊ะนั้นทันที
                ปัง!
                “เฮ้ย! ตกใจหมดเลยเพิร์ส แกมาตบโต๊ะฉันทำไมเนี่ย” ซาหริ่มถอดหูฟังออกแล้วถามอย่างเอาเรื่อง
                “แก...ฉัน -///-” รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างสาเหตุ เรื่องที่จะอยากพูดจุกขึ้นมาที่คอ
                “ไม่สบายเหรอแก หน้าแดงใหญ่แล้วอ่ะ” ซาหริ่มยกมือมาทาบหน้าผากฉัน “ตัวก็ไม่ร้อนนี่ -O-”
                “ฉันสบายดี” ฉันยกนิ้วโป้งมาประกอบคำพูด
                “แล้วทำไมถึงเลอะเทอะแบบนี้เนี่ย เอาตัวไปคลุกฝุ่นแทนอาบน้ำหรือไง” ซาหริ่มเดินมาจับตัวฉันหมุนไปมาอย่างสำรวจ
                “พอดีเกิดเอ็กซิเดนท์นิดหน่อย แต่ฉันไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แค่ถลอกนิกหน่อย แต่ฉันมีเรื่องสำคัญกว่าจะบอก”
                ฉันปัดมือมันออก ก่อนจะรวบรวมความกล้า จริงๆ ฉันก็เป็นคนหน้าด้านอยู่ไม่น้อยเหมือนกันนะ เพราะฉะนั้นเรื่องแค่นี้ไม่น่าจะยากเกินความสามารถ เอาล่ะ! ฉันจะต้องบอกเรื่องนี้ให้ยัยนี่รู้ให้ได้ มันจะต้องตกใจมากแน่ๆ
                “คือว่า...”
                “ฉันตั้งใจฟังอยู่...?”
                “แบบว่า...”
                “ถ้าแกยังจะมาคือๆ แบบๆ อยู่อย่างนี้ ฉันจะฟังเพลงต่อแล้วนะ พร้อมเมื่อไหร่โทรมาบอกด้วยล่ะกัน”
                ยัยซาหริ่มทำท่าจะเสียบหูฟังใหม่ ฉันเลยรีบไปดึงมือมันไว้ก่อน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า...การที่บอกเรื่องแบบนี้กับคนอื่นนั้นจะยากขนาดนี้ ยากกว่าโจทย์คณิตศาสตร์ของปีสี่หรือแม้กระทั่งการสอบวิชาภาษาอังกฤษให้ได้ร้อยคะแนนเต็มด้วยซ้ำ
                โถ่เอ๊ย! มันไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิด ไม่ใช่เรื่องน่าอายด้วย!!!
                “ฉัน...” สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ “มีความรัก!”
                “หา O_o” ซาหริ่มทำตาโต ก่อบจะรีบยกมือขึ้นมาทำท่าปางห้ามญาติใส่ฉัน “เดี๋ยวๆๆ เหมือนฉันจะได้ยินไม่ชัด เมื่อกี้แกว่าอะไรนะ?”
                “ฉันบอกว่า...” ฉันจ้องตาเพื่อนสาวก่อนจะเน้นทีละคำพูดอย่างช้าๆ “ฉัน! มี! ความ! รัก!”
                “O_O”
                “-/////-”
                “=[]= ล้อกันเล่นใช่มั้ย?”
                “จริงๆ >///< เมื่อสองชั่วโมงก่อนนี่เอง (   _ _)”
                “ช้าก๊อนนนน! แกมีความรักเมื่อสองชั่วโมงก่อนเนี่ยนะ เขาเป็นใคร! เรียนที่ไหน! ลูกเต้าเหล่าใคร! รู้จักกันมานานหรือยัง! แล้วแกเอาอะไรไปมั่นใจว่าแกมีความรัก  แกไม่เคยมีแฟนเลยด้วยซ้ำนะ =O=”
                “เขาเป็นใคร เรียนที่ไหน ฉันไม่รู้ทั้งนั้นแหละ เพราะฉันเพิ่งเจอเขาเมื่อสองชั่วโมงก่อนเอง”
                “แล้วแกก็รักเขาทันทีอย่างนั้นเหรอ แกคิดไปเองมากกว่ามั้ง? -_-;;;” ซาหริ่มพยายามค้านฉันเต็มที่
                “แกลองจับนี่ดู” ฉันจับมือซาหริ่มมาทาบที่หน้าอก
                “ม่ายยย! ฉันก็มี แถมใหญ่กว่าแกด้วย แล้วการที่มาให้ฉันจับนมแกแบบนี้ ฉันจะไปรู้เหรอว่าแกรักเขาคนนั้นหรือเปล่า”
                “ยัยบ้า! ฉันให้แกจับจังหวะหัวใจของฉันต่างหากเล่า -___-^”
                “อ้าวเหรอ?” ซาหริ่มทำหน้านิ่ง ไม่กี่นาทีก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าแตกตื่น “เฮ้ยๆๆ มันเต้นแรงเหมือนจะระเบิดออกมาเลยอ่ะ!”
                “อื้อ...ฉันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ฉันก็เลยคิดว่าฉันกำลัง...” ฉันหยุดค้างอย่างสับสนเล็กน้อย “ฉันไม่มั่นใจนะ เพราะฉันไม่เคยมีความรักมาก่อน แกก็รู้”
                “งั้นแกช่วยเล่าเรื่องเมื่อสองชั่วโมงก่อนให้ฟังหน่อยได้มั้ย? จำได้หรือเปล่า?”
                “คิดว่าคนอย่างฉันไอคิวเท่าไหร่กันย่ะ!” ฉันแหวใส่อย่างเหลืออด ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ เพื่อนสาว “เรื่องมันมีอยู่ว่า...”
 
                สองชั่วโมงก่อนหน้านี้
                หน้ามหาวิทยาลัยบอร์เวย์ ถนนแมนฮาร์ตคินน์
                ระหว่างที่ฉันกำลังซื้อลูกชิ้นหมูเจ้าประจำอยู่ พลันสายตาก็เหมือนไปเห็นลูกแมวน้อยๆ ตัวหนึ่งที่กำลังจะเดินข้ามถนนในขณะที่รถบนถนนกำลังพุ่งมาทางนี้อย่างว่องไว ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่(?) บวกกับความรักสัตว์ที่มีอยู่ในตัว ทำให้ฉันวิ่งเข้าไปอุ้มแมวน้อยขึ้นมาโดยไม่ทันคิดว่าฉันอาจจะต้องถูกรถชนแทน
                ปี๊นนนนนนน!
                เสียงแตรรถเรียกสติฉันให้กลับคืนมา ความเอาตัวรอดบอกให้ฉันวิ่ง แต่ขาของฉันไม่สามารถขยับได้เลยสักนิด ฉันกระชับเจ้าแมวน้อยฝังเข้ากับอกของตัวเอง หลับตาปี๋ แล้วกรีดร้องสุดเสียงด้วยความกลัว
                ‘กรี๊ดดดดดดด!’
                ‘ระวัง!’
                พลั่ก!!!
                เสียงทุ้มของใครบางคนตะโกนขึ้นมา ก่อนจะรู้สึกว่ามีใครบางคนถาโถมตัวเข้ามาใส่จนฉันล้มกลิ้งไปกับถนนจนถึงริมฟุตบาท แต่แรงกระแทกที่ฉันได้รับกลับเบาบางเหมือนมีนุ่นมากั้นไว้ เสียงโหวกเหวกโวยวายและเสียงพูดของคนที่เห็นเหตุการณ์ดังระงมไปทั่ว
                ‘เธอเป็นอะไรมั้ย? จ็บตรงไหนหรือเปล่า?’
                เสียงทุ้มต่ำของใครบางคนเรียกให้ฉันต้องลืมตาขึ้นมามองเหตุการณ์ สายตาฉันปะทะเข้ากับชายหนุ่มผมดำซอยสั้น ดวงตาคมๆ ของเขามองมาที่ฉันด้วยความเป็นห่วง อ้อมแขนของเขาโอบกอดฉันเอาไว้ เขาจะต้องยอมโดนกระแทกแทนฉันแน่ๆ และคงจะเป็นใครไม่ได้นอกจากเขาที่เป็นคนช่วยชีวิตฉัน!
                อยู่ดีๆ หัวใจที่เต้นอยู่ก็เพิ่มจังหวะระรัวอย่างกับมีคนมาตีกลองเพลงจังหวะร็อคอยู่ข้างใน หน้าฉันร้อนผ่าวจนรู้สึกได้ว่าแก้มต้องแดงมากแน่ๆ และเมื่อยิ่งสบเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลซีเปียนั่นยิ่งทำให้ฉันเกิดความรู้สึกหวิวๆ ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
                ...รู้แค่ว่าฉันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย!
                ‘เธอโอเคนะ?’ เสียงของเขาปลุกให้ฉันตื่นจากภวังค์ ฉันจึงพยักหน้าแทนคำตอบ
                ‘ลุกไหวมั้ย?’
                ‘วะ...ไหว ฉันโอเค ฉันไม่เป็นอะไร’ ทำไมฉันถึงรู้สึกเสียการควบคุมแบบนี้นะ
                ฉันลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก รู้สึกระบมไปทั้งตัวแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ คนที่ดูเหตุการณ์อยู่รีบเข้ามาพยุงชายหนุ่มที่ช่วยฉันไว้ แม่ค้าคนหนึ่งมาอุ้มลูกแมวน้อยไปจากฉัน รู้สึกมันจะเจ็บขาด้วย ฉันลากสายตากลับไปมองชายคนนั้น ก่อนจะเห็นว่าเขาถูกหิ้วปีกอยู่โดยนักศึกษาชายอีกสองคน ฉันคิดว่าเขาน่าจะเป็นเพื่อนกัน เพราะฟังจากบทสนทนาที่แสนจะเป็นกันเองซะเหลือเกิน
                ‘เท่เหลือเกินพ่อคุณ ยังฮอตไม่พอสินะ’
                ‘เสียดายจริงๆ ทำไมไม่เอาหน้าถูถนนสักนิดว่ะ จะได้หมดหล่อสักที ฮ่าๆ’
                ‘หุบปากหมานๆ ไปเลยนะ โอ๊ยยยย!’ เขาร้องเสียงดังซะจนฉันตกใจ อยู่ดีๆ น้ำสีแดงขุ่นๆ ก็ไหลออกจากหัวของเขายาวลงมาถึงใบหน้าเลยทีเดียว เล่นเอาฉันยืนแทบไม่อยู่ ฉันหยิบผ้าเช็ดหน้าแล้วเดินเข้าไปหาเขาด้วยใจที่สั่นๆ
                ‘เอามันอุดไว้ก่อนก็ได้นะ เลือดจะได้ไม่ออกมาก’ ฉันยื่นให้ แต่เป็นเพื่อนเขาที่เอื้อมมือมาหยิบไปแทน
                ‘ไม่ต้องห่วงนะไอคิวสูง เดี๋ยวพวกฉันจะพามันไปห้องพยาบาลเอง เธอจะไปทำแผลด้วยกันมั้ย?’
                ‘มะ...ไม่เป็นไร ฉันขอตัวขึ้นไปเรียนก่อนแล้วกัน’ ฉันตอบแล้วรีบหันหลังเดินออกมา แต่เมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ ฉันถึงต้องรีบหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้าชายคนนั้นอีกครั้ง
                ‘ขอบคุณนะที่ช่วยฉัน...แล้วก็เจ้าแมวน้อยด้วย’
                ‘ไม่เป็นไร ต่อไปก็ระวังด้วยแล้วกัน’ เขาพูดพร้อมกับรอยยิ้มใจดี
                ฉันหมุนตัวกลับแล้วรีบเดินเข้ามหาวิทยาลัยทันที หัวใจเต้นระรัวด้วยความรู้สึกหลากหลาย อุบัติเหตุในครั้งนี้ถึงแม้ฉันจะไม่ได้สูญเสียอวัยวะส่วนใดหรือบาดเจ็บมากมาย แต่มีความรู้สึกสองอย่างในตัวฉันที่ฉันเพิ่งจะได้รับรู้...
                หนึ่ง...ความรู้สึกแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!!
                และสอง...หัวใจของฉันสามารถหลุดลอยไปอย่างง่ายดาย!!!
                
                ย้อนกลับมาปัจจุบัน
                “แกไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของเขาเลยด้วยซ้ำเนี่ยนะ” ซาหริ่มถามเสียงสูง
                “ไม่เคยได้ยินเพลงของวงรุกกี้บีบีหรือไง ที่เขาร้องว่า ไม่รู้จักแต่มันรักแล้วเธอ~”
                “แค่เจอกันครั้งเดียว แกจะมาเหมาเอาว่ามีความรู้สึกดีๆ ให้กันไม่ได้หรอกนะ เรื่องความรักมันต้องใช้เวลานะเพิร์ส”
                ฉันนิ่งเงียบ นั่นสินะ! แค่เจอกันครั้งเดียวจะรักขึ้นมาได้เลยอย่างนั้นเหรอ? แต่จะว่าไปฉันไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน แค่สบตากันครั้งแรกก็หัวใจเต้นรัวราวกับจะระเบิดออกมาให้ได้ยังไงยังงั้น...
                ฉันว่ามันไม่เกี่ยวกับเวลาหรอก -___-*
                “มันเกี่ยวด้วยเหรอถ้าหากว่าเราจะเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง ความรู้สึกดีๆ ไม่จำเป็นจะต้องเกิดจากการเจอกันบ่อยๆ หรือรู้จักกันเป็นเวลานานๆ เลยก็ได้ ไม่อย่างนั้นในโลกนี้จะมีคำว่า 'รักแรกพบ' ไว้ทำไมกัน”
                คราวนี้ซาหริ่มเป็นฝ่ายนิ่งไป คงจะคิดตามคำพูดที่คัดกรองมาจากสมองไอคิวสูงของฉันอยู่แน่ๆ ไม่กี่นาที ซาหริ่มก็หันมามองหน้าฉันอย่างจริงจังพลางหรี่ตาอย่างสงสัย แต่ท่าทางมันน่าหมั่นไส้มากกกก ขอบอก -_-;;;
                “แกจะบอกว่าแกมี Love at first sight กับชายหนุ่มผู้เป็นฮีโร่คนนั้นสินะ”
                “อ่าฮะ”
                “เขาหล่อมั้ย? O_o”
                “ก็หล่อดี คุ้นๆ หน้าอยู่เหมือนกันว่าจะเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับเรา แต่นึกไม่ออกว่าอยู่คณะไหน”
                “มหา'ลัยเดียวกันด้วย ว้าววว *O*”
                ฉันส่ายหน้าอย่างเอือมๆ ฉันชอบเขา แต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะชอบฉันมั้ย? เขามีแฟนแล้วหรือยัง? หรือแม้แต่เขากำลังแอบชอบใครอยู่หรือเปล่าในตอนนี้ ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น!
                จะว่าไป...เขาเป็นใคร ฉันก็ยังไม่รู้เลยนะ =___=
                “แต่ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาคนนั้นเลยด้วยซ้ำ มันคงจะเป็นรักแรกพบที่จบโดยไม่ทันเริ่มต้นหรอก T^T” ฉันว่าพลางเบะปาก
                “ไม่ได้นะ! เพื่อนฉันมีความรักทั้งทีจะมาตัดใจง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ ฉันจะช่วยแกตามหาคนคนนั้นเอง ^ ^” ซาหริ่มว่าพลางตบอกตัวเองเบาๆ
                “จะบ้าเหรอ? เอาเป็นว่าฉันรู้จักความรู้สึกแบบนี้แล้ว ฉันขอแค่ชอบเขาอย่างนี้ก็พอ”
                “ย่ะ! แม่นางเอก -___-;;; อย่ามาร้องไห้ทีหลังแล้วกัน”
                “เอ้า! คิดว่าเราจะหาเขาเจอเหรอ? อีกอย่างนะ หน้าตาดีขนาดนั้นอาจจะมีแฟนแล้วก็ได้”
                “แกก็เลยเลือกที่จะเสียสละว่างั้นเถอะ!” ซาหริ่มบอกเสียงเครียด
                “เขาเรียกว่า 'แอบรักข้างเดียว' ก็มี 'ความสุข' แล้วย่ะ!” ฉันบอกเสียงมั่นใจ เอื้อมมือไปหยิบชีทวิชาประวัติศาสตร์ใต้โต๊ะขึ้นมา แล้วหันไปบอกซาหริ่มที่ยังนั่งทำหน้าเครียดไม่หายสักทีว่า “ฉันชอบใครไม่ได้หววังให้คนคนนั้นมาชอบตอบนะ ขอแค่ฉันได้ทำอะไรให้เขาก็เพียงพอแล้ว :)”
                “แกรู้ตัวป่ะ?”
                ฉันเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
                “แกนี่มันโคตรจะนางเอกเลยเพื่อน =_=” ซาหริ่มตบบ่าฉันแรงอีกสองที
                ถามจริง...ประโยคนี้มันประชดประชันกันหรือเปล่า =^=
                ยังไม่ทันที่ฉันจะเอ่ยปากเถียงกับยัยซาหริ่มต่อ อาจารย์งามตาที่เป็นที่ปรึกษาของเอกก็พรวดพราดเดินเข้ามาเสียก่อน เล่นเอานักศึกษางงกันเป็นแถบๆ เพราะอาจารย์ที่สอนเราวิชาในคาบนี้คืออาจารย์สุรพลต่างหาก
                “ขอเวลาไม่นานในการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า เนื่องจากมีนักศึกษาต้องการจะย้ายจากเอกมัลติมีเดียมาเอกประวัติศสตร์อักษรโบราณของเราสามคน” อาจารย์งามตาขยับแว่นนิดหน่อย “วันนี้เป็นวันแรกของการย้ายเอก หวังว่าเพื่อนๆ ในเอกจะให้การต้อนรับเป็นอย่างดีนะ”
                “...” นักศึกษาทุกคนตั้งใจฟังจนเกือบหลับเลยทีเดียว -___- zZZ
                “ทราบไม่ทราบ?!?!?”
                แง~ เจ๊แกตะโกนซะฉันเกือบตกเก้าอี้แน่ะ =O=
                “ทราบค่ะ/ทราบครับ” แหม...พร้อมเพรียงอะไรอย่างนี้ >_<
                “ดีมาก!” อาจารย์งามตาเดินไปหน้าประตูห้องเรียน แล้วหันไปคุยกับคนข้างนอก “เข้ามาแนะนำตัวกันก่อนสิ เพื่อนๆ จะได้รู้จักพวกเธอ”
                ทั้งห้องหันไปมองอย่างใจจดจ่อมากกว่าใครกันนะที่ย้ายเอกมา ชายหนุ่มคนแรกเดินเข้ามาด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ค่อยวางมาดเท่าไหร่ เขาโบกมือให้ทุกคนในห้องอย่างเป็นมิตร รอยยิ้มของเขาเรียกเสียงโหยหวนจากสาวๆ ในห้องได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
                “ซีลอนฮะ จากมัลติฯ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ” เขาโค้งตัวลง แล้วเดินไปยืนที่หน้ากระดาน
                หมอนี่หน้าตาคุ้นๆ นะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย (    - -)
                “แกจะจ้องหน้าซีลอนอีกนานมั้ย? ปกติแกไม่เคยสนใจผู้ชายนี่นา” ยัยซาหริ่มสะกิดแขนฉันเบาๆ
                “เปล่าสนใจ ฉันแค่รู้สึกว่าคุ้นหน้าคุ้นตาเขาน่ะ”
                “ไม่คุ้นได้ไงล่ะ คนดังประจำวงโซเวียสไง ที่เล่นเบสอ่ะ >O<”
                เราสองคนหยุดบทสนทนาไว้แค่นั้นเมื่อชายหนุ่มคนที่สองก้าวขาเข้ามาในห้องเราด้วยท่าทางนิ่งๆ ลักษณะเหมือนคนหยิ่งๆ เขากวาดสายตามองไปรอบห้องอย่างพินิจพิจารณา แล้วส่งเสียงในลำคอเบาๆ
                “ฉันชื่อเซรม จากมัลติฯเหมือนกับหมอนั่น กรุณาอยู่อย่างสันติด้วย” เขาเอมมือล้วงกระเป๋ากางเกง จากนั้นเดินไปอยู่ข้างๆ ซีลอน
                จะผิดมั้ยนะ...หมอนี่หน้าตาเหมือนฉันเคยเห็นมาไม่นานนี้เอง คุ้นมากๆ แต่คิดไม่ออกว่าไปรู้จักมักจี่กับเด็กมัลติฯไว้เมื่อไหร่ (    - -)
                “จ้องอีกแล้วนะ จะจ้องอะไรกันนักกันหนา ปกติแกไม่เคยเป็นอย่างนี้นะ แล้วแกก็ไม่ใช่คนบ้าผู้ชายซะหน่อย -O-”
                “ก็เปล่า...เพียงแค่ฉันคุ้นหน้าเซรมเหมือนกันเฉยๆ” ฉันตอบโดยที่ยังไม่ละสายตาไปจากเซรม
                “ไม่เฉยแล้วล่ะ แกเล่นคุ้นซะทุกคนเลย ชอบคนหล่อก็บอกมาเถอะ!”
                “บ้าน่า...”
                คำพูดฉันค้างไว้แค่นั้นเมื่อสายตาปะทะเข้ากับชายหนุ่มอีกคนที่เดินเข้ามาให้ห้อง ผมซอยสีดำและนัยน์ตาสีซีเปียทำให้ฉันใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ พลาสเตอร์พันแผลเล็กๆ ที่หัวยิ่งทำให้ฉันมั่นใจเข้าไปอีกว่า เขาคือคนคนเดียวกันกับที่เป็นฮีโร่ของฉัน
                เขาคือคนคนเดียวกันที่เป็นรักแรกพบของฉัน! =[]=
                “เวลล์โนว์นครับ เรียกเวลล์เฉยๆ ก็ได้ ย้ายมาจากเอกมัลติฯ ช่วยชี้แนะด้วยครับ” เขาโค้งศีรษะลงเล็กน้อย กวาดสายตามองไปรอบห้อง พลันสายตาเขาก็มาหยุดลงที่ฉัน เราสบตากันแวบหนึ่ง ก่อนที่ฉันจะเบี่ยงหน้าหนีด้วยความรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้า
                “อ้าว -O- คนนี้แกไม่คุ้นเหรอเพื่อน มองพื้นทำไมน่ะ” ซาหริ่มชะโงกหน้ามามองพื้นตามฉัน “มันก็เป็นกระเบื้องสีขาวธรรมดา อ๊ะ!”
                ฉันเอื้อมมือไปปิดปากซาหริ่มไว้ แล้วกระซิบบอก “เวลล์โนว์น”
                “อัมอัยเอ่อ?” (ทำไมเหรอ?)
                ฉันสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วกระซิบเสียงเบากว่าเดิมเกือบเท่าตัว “เขาคือรักแรกพบของฉันเอง!”
 
Charpter One - 100%
To be continue...

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา