Vampiric Murderer ปริศนารักคดีแวมไพร์

8.5

เขียนโดย Zindy

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 00.16 น.

  8 ตอน
  13 วิจารณ์
  12.36K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 กันยายน พ.ศ. 2557 22.07 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ทักทาย 100%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          “คล้ายๆกับคนที่ผมรู้จักอยู่คนหนึ่ง แต่ไม่น่าจะใช่หรอกครับ...เขาไม่ได้แปลกขนาดนั้น”  

          “หรอ ถ้างั้นคราวหลังแนะนำเขาให้รู้จักหน่อยสิ อยากรู้จังว่าจะคล้ายขนาดไหน” ซารีน่าพูดแบบไม่คิดอะไร

          ฮาลวิลลิสยิ้มรับคำพูดของเธอน้อยๆแต่ก็ไม่ได้รับปาก

          “เออ จริงด้วย ฮาลวิลลิส นายรู้เรื่องข่าวแวมไพร์ช่วงนี้รึเปล่า”

          ซารีน่าหน้าบึ้งทันใด เธอมองคนพูดตาขวาง เขาคือคนที่จับกลุ่มคุยกันอยู่นี่แหละ แต่ไม่รู้ว่าเขาแกล้งทำเป็นไม่เห็นท่าทีไม่พอใจของเธอหรืออาจจะไม่เห็นจริงๆ ถึงได้ถามอ้อมโลกแต่เหมือนจะตรงประเด็นเช่นนี้

          “ครับ ได้ยินครับ” คงจะเป็นเรื่องแปลกสำหรับใครหลายๆคนที่ปักใจเชื่อว่าฮาชวิลลิสจะเป็นแวมๆไพร์ เพราะเขาไม่หลบสายตาคนถามแม้แต่น้อย หนำซ้ำหันไปตอบราวกับว่าเป็นหัวข้อคุยธรรมดาไม่แตกต่างจากเดิม

          “แล้วนายว่าไงล่ะ คิดว่าไงล่ะ รู้ตัวมั้ยว่าย้ายมาได้ตรงจังหวะพอดีเลย”

          ที่จริงซารีน่าก็แอบสังเกตปฎิกิริยาของเขาอยู่ หากฮาลวิลลิสกลับโต้ตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีท่าทีแสดงพิรุธแต่อย่างใด

          “ก็ไม่รู้สิครับ ก็คงจะน่ากลัวดีล่ะมั้ง แต่ว่ามันจะต่างอะไรจากคนฆ่ากันธรรมดาล่ะครับ” ฮาลวิลลิสตอบเสียงเนือยๆ เปรียบเปรยถึงการฆ่ากันได้อย่างแนบเนียน คล้ายจะเป็นคำถามแต่ก็ไม่ใช่

          “ต่างสิ ก็คนทำเป็นถึงแวมไพร์เลยนะ ใครจะรู้ ตอนนี้แวมไพร์คนนั้นคงกำลังหาเหยื่อคนอื่นอยู่ก็ได้”

          “...เบอร์ตี้ อย่าพูดเป็นเรื่องเล่นสิ เหยื่อคนต่อไปอาจจะเป็นพวกเราหรือใครก็ได้”

          “อ้อ ชื่อเบอร์ตี้นี่เอง”

          “ถ้านายเป็นเหยื่อนายก็ไม่รู้อยู่ดีว่าตัวเองจะโดนจับกินตอนไหน” ลอลินอาจจะกล่าวด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ซารีน่าที่ออกจะไปทางติดสะบัดใส่ซะด้วยซ้ำ

          คนโดนเตือนนามเบอร์ตี้ที่เด็กใหม่อย่างฮาลวิลลิสเพิ่งจะได้รู้ว่าเขาชื่อนั้นหน้าเจื่อนลงไปทันที เหมือนจะเพิ่งสำนึกได้ และนั่นทำให้บรรยากาศกดดันแผ่ปกคลุมวงสนทนาเล็กๆแห่งนี้ แวมไพร์ที่อยู่ดีๆก็โผล่มาไม่ต่างอะไรกับฆาตกรโรคจิตไม่มีใครรู้ว่าทำไมเขาจึงฆ่า ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะอยากฆ่าเมื่อไร และไม่มีใครรู้ว่าเขาจะฆ่าใครต่อไป หากมีฆาตกรโรคจิตมาอยู่ในเมืองของตัวเองก็คงไม่ใช่เรื่องน่าขำอย่างที่เบอร์ตี้กล่าวเล่น

          “... ฉันขอโทษลอลิน ซารีน่า สนุกปากไปหน่อย”

          “เอาเถอะ” ฮาเวิร์ดรีบเข้ามาแก้สถานการณ์ “จริงๆก็ควรจะระวังไว้หมดแหละ แวมไพร์อาจจะอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิดก็ได้” สิ้นสุดประโยคฮาเวิร์ดปรายตาไปมองใครบางคนที่คาดว่าจะเป็นแวมไพร์

          น่าแปลกที่เขายิ้มกว้างให้กับสายตานั่น “ครับ อาจจะเดินชนไหล่พวกเราอยู่ก็ได้”

          ซารีน่ามองฮาเวิร์ดสลับกับฮาลวิลลิสอยู่สองสามที ก่อนจะ...

          “เปลี่ยนเรื่องคุยกันดีไหม เรื่องนี้ดูเหมือนจะเครียดเกินไปหน่อยนะ”

          “ครับ”

          เธอมองรอยยิ้มที่มักจะระบายอยู่บนใบหน้าหล่อเหลานั่น จะมีถูกเคลือบไว้ใต้สีหน้าอันอ่อนโยนนั้นหรือเปล่านะ ควมไว้เนื้อเชื่อใจที่เธออยากจะมีให้เขาเธอจะสามารถให้เขาอย่างเต็มที่ได้หรือไม่ ตราบเท่าที่เธอยังไม่ได้รู้จักเขาไปมากกว่านี้

 

          เย็นวันนี้ท้องฟ้าค่อนข้างมืดครึ้มเป็นสีอมเทา แต่ไม่ได้มีเค้าลางของพายุฝนให้เห็น ราวกับว่าเมฆได้แผ่กระจายออกไปสู่ทั่วผืนฟ้าอย่างเท่าเทียม ไร้ซึ่งแสงแดดยามเย็นจะส่องลงมาสู่ผิวพื้นเช่นปกติ

          พื้นที่แถบนี้มีฝนตกบ้างตามฤดูกาลของมัน ช่วงนี้เป็นช่วงของปลายฤดูฝนย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ที่นี่ไม่มีหิมะ ไม่มีไม้ผลัดใบ อากาศจึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากในตลอดปี ซึ่งซารีน่าก็ค่อนข้างจะชอบที่เป็นอย่างนั้น เพราะเธอจะได้มาเดินเที่ยวที่เนินเขาที่ประจำได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเจอหิมะถล่มใส่... ที่จริงเนินเขามันก็ไม่ได้สูงขนาดหิมะจะถล่มลงมาหรอก น่าจะกลัวล้มหิมะล้มมากกว่า

          “...วันนี้อากาศไม่ดีเลยแฮะ”

          หญิงสาวกำลังนั่งอยู่บนพื้นหญ้าบนยอดเนิน สายลมเย็นๆพัดผ่านตัวเธอไปทั้งที่ท้องฟ้ามืดทึม ข้างๆกันนั้นมีกล่องแซนวิซที่หาซื้อได้ตามร้านขายของธรรมดาทั่วไปอยู่

          กว่าจะขึ้นมาถึงตรงนี้ได้ต้องผ่านต้นไม้สูงกว่าหัวมาไม่น้อย เรียกได้ว่าเป็นป่าย่อมๆเลยทีเดียว แต่ข้างบนยอดกลับเป็นต้นหญ้าพันธุ์เตี้ยที่เหมาะกับการนั่งนอนเล่น เธอเคยชวนลอลินขึ้นมาบนนี้บ้างแต่กลับโดนล้อนิ่มๆว่าไม่รู้จักโต ถึงอย่างนั้นลอลินก็ชอบมาที่นี่กับเธอบ่อยๆทั้งที่บ้านก็ไม่ได้อยู่ใกล้ ส่วนใหญ่ก็อาจจะอ่านหนังสือหรือมาเพราะอยากมา

          “พรุ่งนี้จะมีรับสมัครประธานนักเรียนแล้ว ยังไงก็โดนเลือกอยู่ดี...” ซารีน่าบ่นกับตัวเองไปคนเดียวเรื่อยๆ “จริงๆ... ให้คนอื่นเป็นก็ได้ อย่างฮาเวิร์ดไรงี้  ทำไมต้องฉันตลอด งานก็ยุ่ง มีประชุมจุกๆจิกๆ เลิกก็ดึก โดนอาจารย์ใช้งานอีก แรงงานผิดกฎหมายชัดๆ เฮ้อ...”

          เธอหยุดครู่นึง ก่อนจะหาเรื่องบ่นต่อ

          “แวมไพร์ อยากเจอจังเลยน้า”

          ....และแล้วก็ไม่พ้นเรื่องที่คาใจเธอมาทั้งวัน

          “แต่ให้เธอไอฆาตกรโหดก็ไม่ไหวแฮะ แต่คนอื่นๆเนี่ยอยากรู้จังเลยว่าเป็นยังไงกัน แรงเยอะกว่า อายุยืนกว่า แล้วจะหล่อกว่าสวยกว่าด้วยรึเปล่า...”

          ความคิดในหัวชักไปไกล ที่จริงมันก็มีอยู่แหละกับนิยายรักโรแมนติคระหว่างมนุษย์กับแวมไพร์ นิยายรักระหว่างหญิงสาวมนุษย์กับแวมไพร์หนุ่มที่มีความรู้สึกอันดีต่อกัน ในนิยายเหล่านั้นมักจะบรรยาแวมไพร์ได้น่าหลงใหลอย่างกับเผ่าพันธุ์ในอุดมคติ แตกต่างจากภาพลักษณ์อันโหดร้ายทีเป็นที่รู้กัน

          ...หรือบางทีแวมไพร์อาจจะเป็นอุดมคติของมนุษยจริงๆก็ได้

          ซารีน่าล้มตัวลงนอนกลิ้งไปมาบนหญ้าแหลมๆ ปรือตามองท้องฟ้าที่นานๆครั้งจะได้เห็นอย่างเหม่อลอย ความคิดไม่ได้หายซะทีเดียว แต่มันคงเป็นแค่ความคิดฟุ้งซ่านที่อยู่ในหัวของเธอเท่านั้น

          สักพักหนึ่งซารีน่าก็มองนาฬิกาข้อมือแล้วผุดลุกขึ้นทันที อีกครึ่งชัวโมงจะได้เวลาฟ้ามืดแล้ว การเดินลงไปก็ใช้เวลาพอสมควร เธอยังไม่อยากอยู่บนเนินที่ล้อมด้วยต้นไม้สูงคนเดียวตอนกลางคืนเท่าไร ยิ่งช่วงนี้มีข่าวไม่น่าพิศสมัยด้วยแล้ว

          แสงสีส้มแดงของดวงอาทิตย์ยามใกล้ตกดินเปลี่ยนสีของเมฆเทาเป็นสีเดียวกับมัน ซารีน่าเร่งฝีเท้าการเดินขึ้นอีกนิด ถนนหลักเข้าสู่หมู่บ้านของเธอห่างจากจุดที่ลงเขามาแค่ไม่กี่สิบเมตร เธอเดินไปกลับแบบนี้เป็นปกติ แต่ที่วันนี้ไม่ปกติคือที่ปากทางเข้ากำลังมีใครบางคนเดินเข้าไปอยู่

          “ฮาลวิลลิส” ซารีน่าร้องทัก  

          ชายหนุ่มผมสั้นดำหันมาตามเสียงเรียก เขาเดินมาหาเธอที่ทางลงเขา

          “ย้ายเข้ามาแล้วหรอ”

          “ครับ บริษัทขนส่งบอกว่าย้ายของให้เรียบร้อยแล้ว คงจะเข้าไปอยู่ได้แล้วล่ะครับ” ฮาลวิลลิสตอบ

          “งั้นหรอ บริการดีจัง” ระหว่างที่กำลังคุยอยู่นั้นเธอก็เพิ่งนึกได้จึงเริ่มปัดใบไม้กับเศษหญ้าตามตัวออก วันนี้ลงไปคลุกพื้นมาก็เลยมีเศาหน้าติดมาไม่ใช่น้อย ไม่รู้ว่าฮาลวิลลิสจะสังเกตไหม เพราะคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไรที่คุยกันทั้งที่หญ้าเต็มตัว

          “ซารีน่าครับ...”

          “มีอะไรหรอ” ตอนที่เธอกำลังก้มหน้าไปหยิบเศษหน้าที่กระโปรงออกนั้นก็รู้สึกเหมือนว่าเสียงของฮาลวิลลิสที่เรียกเธอจะดูจริงจังเล็กน้อย

          “ดูเหมือนจะมีคนบอกว่าผมเป็นแวมไพร์สินะครับ”

          ซารีน่าถึงกับชะงักกึก เธอเงยหน้ามองฮาลวิลลิส ในดวงตาสีดำคู่นั้นที่บัดนี้สะท้อนสีของท้องฟ้ายามอัสดงจนเป็นประกายไม่ได้แสดงอะไรมากกว่าความเรียบเฉย เธอเกือบลืมความรู้สึกแรกที่ได้เห็นเขาที่ห้องเรียนไปแล้ว เพราะภาพลักษณ์ใหม่ของที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนๆของเขาเข้ามาแทนที่

          ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนกับได้เห็นมันอีกครั้งหนึ่ง ...สายตาที่นิ่งสนิทจนไม่อาจบอกได้แม้สี้ยวความรู้สึกของเขา

          ...อะไรที่ถูกสายตานั่นปิดบังไว้

          ไม่ว่าฮาลวิลลิสจะเป็นแวมไพร์หรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ซารีน่าแทบจะแน่ใจคือแม้ว่าภายนอกเขาอาจจะดูเป็นคนเข้าหาง่าย ยิ้มเก่งติดจะหัวอ่อนนิดๆ แต่ภายในต้องไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน

          “นายรู้?”

          “ครับ ผมรู้ ที่จริงได้ยินตั้งแต่เดินเข้าไปในห้องเรียนแล้วล่ะครับ แต่ละคนไม่ได้เสียงเบากันเท่าไรหรอก” เขาขยับรอยยิ้ม ซ่อนสายตาน่าเคลือบแคลงไว้ใต้สีหน้านั่น “แล้วก็ตอนที่คุยกันหลายคนก็เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ชัดๆเลยก็เบอร์ตี้กับ..เอ่อ...”

          “ฮาเวิร์ด” ซารีน่าบอกชื่อของรองประธานให้

          “คนนั้นแหละ จริงๆก็มีอีกหลายคนแหละครับแต่อีกหลายคนก็เหมือนว่าจะไม่ได้มองผมแบบนั้น ต้องขอบคุณคุณนะที่เข้ามาทักผม ถึงได้คุยกับคนอื่นๆต่อ”

          “เดี๋ยวสิ งั้นหมายความว่านายรู้ว่าคนอื่นมองนายยังไงแต่ก็เก็บเงียบมาทั้งวันเนี่ยนะ!?!”

          “ครับ” เขาตอบ

          “เอาอย่างอื่นนอกจาก ‘ครับ’สิ!” ซารีน่าแทบจะตวาดได้อยู่แล้ว ไม่งั้นก็หมายความว่าฮาลวิลลิสรู้อยู่แล้วแต่เก็บเงียบมาทั้งวัน แล้วก็พูดคุยกับคนที่กล่าวหาว่าตัวเองว่าเป็นแวมไพร์แบบปกติโดยไม่รู้สึกอะไรน่ะหรอ

          “แล้วผมควรจะทำยังไงล่ะ” ฮาลวิลลิสถามกลับเสียงเรียบ คล้ายกับว่าไม่รู้ร้อนรู้หนาว

          ซารีน่าสูดหายใจเข้าลึกๆ เธอนึดถึงคำพูดของลอลินเมื่อตอนเช้า เขาแค่ ‘ดูเหมือน’จะไม่รู้สึกอะไร หรือว่าที่เขาไม่รู้สึกอะไรเป็นเพราะ...

          “ถ้าอย่างงั้นฉันขอถามนะ” ซารีน่าพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นขณะที่ฮาลวิลลิสยังตอบรับด้วยคำเดิมๆ

          “ครับ”

          ซารีน่าจ้องหน้าฮาลวิลลิสตรงๆ และถามออกไปด้วยเสียงที่ฟังชัดเจน

          “ฮาลวิลลิส นายเป็นแวมไพร์รึเปล่า”

          เวลาตอนนี้ได้ล่วงเลยมาถึงตอนที่ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ท้องฟ้ามืดครึ้มหากแต่ที่ส่องสว่างอย่างน่ามองคือพระจันทร์สีนวลณ ขอบฟ้า ซารีน่าได้ตัดสินใจถามคำถามนี้ออกไป เธอไม่หวังจะได้รับคำตอบที่แท้จริง แต่เธอเพียงแค่อยากจะรู้ว่าเขาจะทำสีหน้าอย่างไร เขาที่เก็บความรู้สึกได้อย่างแนบเนียนหลังม่านรอยยิ้ม....

          แม้ว่าเธอจะไม่ได้หวังจะได้รับคำตอบที่แท้จริง แต่เธอก็ไม่รู้อยู่ดีว่าตัวของเธอกำลังหวังคำตอบเช่นไร

          หลังจากได้ยินคำถาม ฮาลวิลลิสไม่ได้แสดงสีหน้าแปลกใจ ตกใจ หรือเฉยๆอะไรทั้งสิ้น เขายังคงรอยยิ้มไว้... แต่เป็รรอยยิ้มที่แปลกจากทุกที

          “ถ้าผมตอบว่าผมเป็นแวมไพร์ล่ะ?”

____________________________________________________________

มาแล้วค่า ><

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา