Sulfur Love (RE-Write)

9.2

เขียนโดย enzang2660

วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.57 น.

  57 บท
  25 วิจารณ์
  122.89K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556 17.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) คำถามที่อยากรู้กับคำตอบที่ไม่อาจบอก (2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 15

℃คำถามที่อยากรู้กับคำถามที่ไม่อาจบอก(2)Ⓢ

 

[Celsius]

                               

                “เอ่อ.... คุณครับ มีคนฝากมาให้คุณน่ะครับ”

            รปภ.นายหนึ่งเดินเข้ามาหาผมพร้อมยื่นซองอะไรบางอย่างให้ผม   มันคือยาแก้ปวดหัวนั่นเอง  เขามองหน้าผมเหมือนต้องการจะบอกอะไรบางอย่าง    ว่าแต่ซัลมันหายไปไหน  ทำไมต้องฝากให้รปภ.เอายามาให้แทนละ

            “ขอบคุณ.... ว่าแต่คนที่ฝากยามาให้..”

            “ผมว่าคุณรีบไปที่ลานจอดรถดีกว่านะ”

            “ครับ?”

            “เขาอาจจะยังอยู่  รีบๆไปเถอะ”

 

 

 

                ผมชะลอฝีเท้าลงเมื่อเห็นคนตัวเล็กกำลังนั่งกอดเข่าพิงกำแพงอยู่ที่พื้น   ผมย่อตัวนั่งใกล้ๆมันแล้วเอื้อมมือไปแตะไหล่บอบบางนั่น

 

                เฮือก!

 

                “พี่เซล!”

 

                มันสะดุ้งเฮือกอย่างแรงจนผมตกใจต้องผงะถอยตัวออก   ใบหน้าหวานถูกฉาบไปด้วยคราบน้ำตาที่ไหลรินลงมาอย่างไม่ขาดสาย 

                “ซัลเป็นอะไรน่ะ!?!”

                ผมจับไหล่มันแน่นมันแน่น   มันเกิดอะไรขึ้น  ทำไมถึงร้องไห้หนักแบบนี้!!

                “ซัล...”

                มันไม่ตอบอะไรได้แต่นั่งก้มหน้าอย่างเดียว   ผมดึงตัวมันเข้ามาไว้ในอ้อมแขน   ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่มันคลาดสายตาจากผม   ผมกดหัวมันลงซบอกผมเผื่อว่าถ้ามันสงบลงก็อาจจะบอกผมก็ได้

                “ซัลเกิดอะไรขึ้น  บอกพี่มาสิ”

                ใบหน้าสวยส่ายไปมา  มือเล็กๆจิกเสื้อผมไว้แน่น   ร่างในอ้อมแขนผมสั่นระริก  หัวผมตอนนี้มันเริ่มปวดหนักกว่าเก่าซะอีก  โอ้ยยยย!  จะบ้าตาย!!

                “บอกมาสิซัล  พี่เป็นห่วงซัลนะ”

                “ฮึก... ซะ...ซัลอยาก..กลับบ้าน”

                มันเงยหน้าอ้อนวอนผม  ผมถอนหายใจเล็กน้อย  นี่มันได้ยินที่ผมถามหรือป่าวเนี่ย   แต่เอาเถอะรีบๆพากกลับบ้านดีกว่า  มันจะได้เลิกงอแงซะที

                “ครับๆ กลับไปต้องบอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น”

                ผมพูดพลางดึงข้อมือมันให้ลุกเดินไปด้วยกัน   มันหันมาเดินควงแขนผมแล้วแนบใบหน้ามันลงมา  ผมลูบหัวมันเบาๆเป็นการปลอบใจ  มันก็เดินเงียบๆไม่ปริปากอะไรอีกเลย  

                “มีอะไรไม่พูด  ไม่บอกแล้วจะรู้เรื่องมั้ย”

                ผมบ่น   มันเงยหน้ามองผมนิดหน่อยก่อนจะซบกลับท่าเดิม   เฮ้อ~  สรุปออกมาฉากนี้จะให้ผมพูดอยู่คนเดียวซินะ-.-;;

 

 

สรุปมันก็เงียบมาตลอดทาง  ไม่ว่าผมจะชวนคุยเรื่องอื่นแล้วก็แอบเนียนๆถามมันก็ไม่เออออกับผมเลยซักคำ  หรือผมไปทำอะไรให้มันโกรธแล้วแอบมานั่งร้องไห้-o-;;

                “ซัลจังกลับมาแล้วหรอจ๊ะ ^^”

                คุณแม่สุดสวยเดินออกมาต้อนรับเหมือนปกติ  ใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อสักครู่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป   สีหน้าเธอดูกังวลกับท่าทางของมันไม่ต่างกับผมในตอนนี้เลย

                “ซัลเป็นอะไรลูก  ทำไมถึงตาบวมแบบนี้!!”

                เธอเข้ามาจับไหล่ซัลแล้วถาม   ผมเห็นหยาดน้ำเอ่อล้นในขอบตาของเธอ  เธอหันมามองหน้าผมเพื่อจะหาคำตอบ  แต่ผมก็คงตอบอะไรไม่ได้เหมือนกัน  ก็มันไม่ยอมบอกผม

                “เซล...”

                เธอเรียกผมด้วยน้ำเสียงขาดห้วงใจผมกระตุกวูบไม่รู้จะตอบอย่างไรดี  ทั้งที่เขาฝากฝังให้ผมดูแลมันแต่พอคลาดสายตาหน่อยมันก็ร้องไห้ตาบวมแบบนี้แล้ว

                “คือว่า...”

                “ซัลไปอาบน้ำก่อนนะ”

                มันพูดตัดบทผม  มือเล็กๆดึงแขนให้ผมเดินตามมันขึ้นไปบนห้อง   มันรีบเดินก้มหน้า   มันคงไม่อยากให้แม่มันเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาอีกระลอก

 

                ปัง!  

 

     พอมาถึงมันก็สะบัดแขนผมแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป   มันบอกว่าจะอาบน้ำนี่เนอะแต่ผมรู้สึกไม่ดียังไงไม่รู้  เหมือนว่ามันจะโกรธผมนะ  หรือมันยังหึงผมกับฟาอยู่  ไม่น่าใช่มั้งพอออกมาจากร้านสุกี้มันก็ยังปกติอยู่นี่   ผมเห็นมันร้องไห้ๆที่ลานจอดรถ  แล้วยังท่าทางแปลกๆของรปภ.นั่นอีก 

“เฮ้อ~”  

                ผมทิ้งตัวนอนบนเตียงแรงๆ ผมว่าพามันไปสะเดาะเคราะห์หน่อยดีกว่า  ซัก 9 วัด อืม.... 20ไปเลยดีกว่ามั้ง   ว่าจะพาไปตั้งแต่มันไปเล่นไฮโลแล้ว  ตอนนั้นผมคิดว่ามันจะโดนปล้ำซะอีก  ก็ไอ้โรคจิตที่ไหนไม่รู้ดันส่งข้อความมาให้แบบนั้น-.-

                หรือว่า.....

                ที่มันร้องไห้ที่ลานจอดนั่น....

                               

                ก๊อกๆ

 

                ผมหยุดความคิดนั่นไว้แล้วสปิงตัวลุกไปเปิดประตูทันที 

                “แม่ได้ยินว่าซัลอาบน้ำ  แต่สบู่ห้องซัลหมด แม่เลยเอามาให้”

                น้ำเสียงเธอแผ่วเบามากจนผมแทบไม่ได้ยิน

                “ซัลอาบน้ำอยู่พอดีเลยครับ”

                “เซล”

                “ครับ”

                “ทะเลาะกับซัลมาหรอ”

                “ป่าวครับ”

                “แล้วทำไมซัลถึง...”

                “ผมถามแล้วครับ  แต่มันไม่ยอมบอก”

                ผมก้มหน้าไม่กล้าสบตาเธอ   ผมไม่แน่ใจว่าที่ผมคิดมันใช่หรือป่าว   ว่ามันอาจจะถูก.....  ให้ตายเถอะ!! 

                “แม่ไว้ใจเซลนะ”

                “.......................”

“ตอนนี้เซลเป็นคนซัลพึ่งได้มากที่สุดตอนนี้”

                กดดันจังแหะ  เจอคำพูดแบบนี้   กลัวว่าผมอาจจะดูแลซัลมันได้ไม่ดีพอ   กลัวว่าจะปกป้องมันไม่ได้   ผมได้แต่ยืนนิ่งยอมรับมัน   มือเรียวสวยวางลงที่ไหล่ผม  เธอยิ้มให้ผมแล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อสกัดกั้นหยาดน้ำตา

                “แม่ไม่เคยเห็นซัลร้องไห้หนักแบบนี้มาก่อนเลย”

                “ขอโทษครับ  แต่...ผมไม่รู้จริงๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับซัล”

                “ปกติซัลมีอะไรจะบอกแม่......และเข้ามาหาแม่ก่อนเสมอ ฮึก!”

                “...............................”

                “แม่...กะ...ก็น้อยใจอยู่นะ...ฮึก..ที่ซัลเดินหนีมาแบบนี้”

                “ใจเย็นๆนะครับ  บ้างทีซัลอาจจะเจอเรื่องที่ทำให้เขาช็อกอยู่จนไม่กล้าบอกใคร”

                “แม่ถึงเป็นห่วงไง... ฮึก ฮือๆ”

                “ผมก็เป็นห่วงซัลเหมือนกัน..... ตอนนี้ผมทำได้แค่รอให้ใจมันเย็นแล้วยอมริปากผมน่ะครับ  ขอโทษนะครับที่ผมทำได้แค่เรื่องแบบนี้”

                “...จ้า แม่ก็ว่างั้นแหละ  งั้นแม่ออกไปซื้อขนมที่ซัลที่ชอบมาให้ดีกว่า”

                เธอยกมือปาดคราบน้ำตาที่แก้ม  แล้วพยายามยิ้มเหมือนปกติ   ผมอิจฉาซัลจังเลยที่มีแม่คอยดูแลแบบนี้ 

                “วัยรุ่นน่ะติดแฟนมากกว่าแม่” เธอพูดแล้วทำหน้างอนหน่อยๆ

                “ฝากซัลด้วยนะ”

                เธอกุมมือผมไว้  น้ำเสียงเธอดูเศร้ามากถึงแม้ตอนนี้ใบหน้าเธอจะยิ้มแย้มอยู่ก็เถอะ  ประตูห้องถูกปิดลง  ผมเดินไปเคาะประตูห้องน้ำซัล   มันอาบน้ำยังไงไม่มีสบู่เนี่ย

                “ซัล! ออกมาเอาสบู่เร็วๆ”

เงียบ....  ผมซะจนได้ยินแต่เสียงฝักบัวเลย  ผมลองบิดลูกบิดประตูดู  มันไม่ได้ล็อกห้องครับ –o-!!

                “ถ้าไม่เดินมาจะเดินไปให้แล้วนะ”

                ผมพูด  มันก็ไม่เดินมา  ช่วยไม่ได้  อยากให้เห็นตอนโป๊เอง  อย่ามาเขวี้ยงของใส่ทีหลังแล้วกัน

                “ซัล!!”

                ผมวิ่งไปคว้ามือมันที่กำลังถือแปรงขัดห้องน้ำขัดตัวมันอยู่  มึงบ้าไปแล้วหรอ!!

                “ทำบ้าอะไรเนี่ย!!”

                ผมตวาดลั่นแล้วปาแปรงขัดพื้นในมือมันทิ้ง  ผมจับตัวมันให้หมุนมามองผม  ผิวขาวๆมีรอยถลอกแดงเป็นแถบเต็มตัว   ที่แขนมันมีเลือดสีแดงฉาบไว้บนแผล   แขนเล็กๆยกขึ้นกอดไหล่บอบบางของตัวเอง  ผมปิดฟักบัวแล้วอุ้มมันออกมานั่งที่เตียง   โยนผ้าขนหนูให้มัน

                “พี่รู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น”

                ผมย่อตัวนั่งที่ปลายเตียงแล้วพูดกับมัน   ดวงตาของมันเบิกกว้างขึ้น  ก่อนก้มหน้าไม่สบตาผม   มันกอดผ้าขนแน่นพลางขบเม้มริมฝีปากแน่น   เสียงสะอื้นแผ่วๆเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบางๆ  ลุกขึ้นยืมกอดมัน  มันซบหน้าร้องไห้กับแผงอกผมอีกครั้ง 

                “พี่ทำให้ซัลต้องร้องไห้ใช่มั้ย” ผมถามเบาๆ

                “ฮือๆ..ไม่..ฮะ.”

                “เรื่องที่ลานจอดรถ...ซัลถูก..”

                “ไม่ใช่!!  ซัลไม่ได้ถูกข่มขืนนะแค่....ถูกลวนลาม..ฮือๆ”

                “ตั้งแต่ซัลมาคบกับพี่ ก็เจอแต่เรื่องแบบนี้ตลอดเลย...”

                “...ฮึก..”

                “เรื่องที่ห้องคอม  แล้วยังลานจอดรถอีก”

“........................”

“พี่ขอโทษนะ  พี่ว่าเรา...”

                “ไม่เลิกนะ!!  ซัลไม่เลิกกับพี่!!”

                มันโถมตัวขึ้นคร่อมทับตัวผม   หยาดน้ำอุ่นๆหยดลงเต็มใบหน้าผมใบ หน้าหวานจ้องมองริมฝีปากผมเพื่อรอคำตอบที่ผมจะบอกมัน  มือเล็กๆจิกเสื้อผมไว้แน่นราวกับว่ามันต้องการจองจำตัวผมเอาไว้กับมัน  และไม่มีทางปล่อยผมไปเด็ดขาด  ผมไม่ได้จะบอกเลิกมันนะ  แค่จะบอกว่า  อย่าอยู่ในท่าเลยแค่นั้นแหละ!!

                “ซัลพี่ไม่ได้จะบอกเลิกซะหน่อย”

                ผมเอื้อมมือไปจับหัวมัน  ดวงตากลมโตที่เบิกกว้างเมื่อสักครู่ค่อยๆกลับมาเป็นปกติ  มันยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาปาดน้ำตา  แต่อีกข้างก็ยังจิกเสื้อผมไว้เหมือนเดิมเอาโซ่มาล่ามกันเลยดีกว่า 

                “พี่จะไม่เป็นคนบอกเลิกซัลก่อน  ตกลงมั้ย”

                มันพยักหน้ารับ

                “เลิกร้องไห้ได้แล้วนะ  แล้วสรุปร้องเพราะอะไรเนี่ย  เรื่องกลัวพี่จะรู้เรื่องโดนลวนลาม  หรือกลัวพี่จะบอกเลิก”

                “...ทุกอย่าง...”

                “ต่อให้ซัลผ่านใครมาหรือผ่านมากี่คน”

                “.........”

                “พี่ก็ยังรักซัลเหมือนเดิม”

                วงแขนเล็กๆโอบกอดผมไว้  ผมลูบหัวมันเบาๆเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวกายเรียบลื่นนั่นโดยตรง แต่มันกอดผมแน่นจนเกือบทุกส่วนของมันสัมผัสกับร่างกายผม   ตอนนี้ร่างกายผมมันเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ   ผมสูดหายใจเข้าออกช้าๆเผื่อจะช่วยให้ส่วนที่กำลังตื่นสงบลงแต่เล่นมานอนกอดรัดกันแบบนี้ใครมันจะสงบลงวะ!!!

“ซัลไปใส่เสื้อก่อนเถอะ”

                ผมบอกมัน  มันผงกหัวขึ้นมาเล็กน้อยก่อนยอมลุกขึ้น ลุกขึ้นนั่งทับผมอ่ะนะ  ไม่ต่างกับไอ้ท่าเมื่อกี้เท่าไหร่หรอกนะใจจริงผมก็ไม่อยากเสียเชิงชายหรอกนะ  แต่จะให้กดมันในสภาพที่พึ่งร้องไห้เสร็จมาหมาดๆแบบนี้ผมไม่อยากทำ แค่วันนี้มันก็เจอเรื่องหนักๆมามากพอแล้ว จะไปฉวยโอกาสกดมันผมก็เลวเกินไปแล้วละ

                “ถ้าไม่รังเกรียจ......ช่วยกอดซัลหน่อยได้มั้ย”

                อึ้ง!!  อยากจะตายคาเตียงจริงๆ  ก็ไม่ได้รังเกรียจหรอก  แต่ไม่อยากฉวยโอกาส  เข้าใจกันบ้างสิ!!

                “นะ พี่เซล...”

แต่ถ้าเอาโอกาสมาเสนอให้ขนาดนี้จะยอมเป็นคนเลวหนึ่งวันแล้วกัน  เล่นเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนแบบนั้น  ผมคงไม่กล้าใจร้ายกับมันหรอก

 

 

 

ร่างบางเคลื่อนตัวโยกไปมาบนร่างกายกำยำ   ปลายนิ้วเล็กเรียวแทรกเข้าไปตามซอกนิ้วมืออุ่นจนประสานกัน   มือหนาบีบมือเล็กไว้  ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มบางๆ   ความรู้สึกอบอุ่นที่ส่งผ่านจากร่างสูงนั้นทำให้หัวใจดวงน้อยๆคลายความกังวลไป  มือเล็กบีบมือหนาไว้แน่น  

                “....คราวหน้าต้องมาช่วยซัลให้ได้นะ...”             

                เสียงหวานแหบพร่าเอ่ย  หัวใจของร่างสูงกระตุกวูบ  ใช่  ครั้งนี้เขาทำพลาดที่ไปช่วยคนที่เขารักไว้ไม่ทัน 

                “ขอโทษนะ”

                เสียงทุ้มเปล่งออกมาจากริมฝีปากเรียว   ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเศร้าสลด  คนตัวเล็กขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างไม่พอใจในคำตอบ

                “ก็บอกว่า...อา..คะ..คราวหน้าต้องมาช่วยไง”

                คนหน้าสวยบ่นอุบพลางเสหน้าหลบเชิงงอน   คนถูกบ่นหัวเราะเบาๆกับอาการแสนงอนของคนตรงหน้า  แต่นั่นแหละที่ให้เขารักจนถอนตัวไม่ขึ้น   ร่างบางกดสะโพกเร่งจังหวะขึ้น   มือหนาจับเอวจับเอวบางไว้ให้ผ่อนแรงลงหน่อย  เกรงว่าพอเสร็จธุระแล้วคนแสนงอนจะช้ำในเอาซะก่อน  มืออุ่นเลื่อนมาเกาะกุมแก่นกายของคนตัวเล็กไว้ให้มีส่วนร่วมไปพร้อมๆกัน   ร่างสูงค่อยเคลื่อนตัวมาอยู่ในท่านั่งเพื่อจะได้สัมผัสไออุ่นจากร่างกายกันได้มากยิ่งขึ้น   ริมฝีปากเรียวแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากคนตัวเล็กที่ส่งเสียงปลุกเร้าอารมณ์เขาอยู่   ปลายลิ้นเล็กโต้ตอบการรุกล้ำเข้ามา   ลิ้นร้อนๆตวัดชิมรสหวานช่ำ  มือหนาช้อนใบหน้าสวยขึ้นมาแล้วมอบจูบอันหน่วงหนักที่แสนหวานให้  ปลายนิ้วเรียวลูบไล้บีบคลึงยอดอกสวยไปมา  ร่างบางสะดุ้งละริมฝีปากออก  เสียงหวานเปล่งวาจาขาดช่วง  คนตัวเล็กรู้สึกปั่นป่วนในช่องท้องปลายเท้าเย็นชาวาบยามที่ถูกร่างสูงสัมผัส   ลิ้นเปียกชื้นตวัดดูดกลืนยอดดอกสีสวยอย่างสนุกปาก   ช่างเป็นร่างกายที่ทำให้เขากินได้ไม่รู้จักอิ่มจริงๆ  ยิ่งกลืนกินเท่าไหร่  ความต้องการก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น  แบบนี้จะให้เขาทอดทิ้งไปง่ายๆคงไม่ได้หรอก 

                “อ๊ะ! พะ..พี่ อา~”

                เสียงหวานครางร้องอย่างไร้คีย์  ใบหน้าหวานเชิดขึ้นพลางเปล่งเสียงร้องครวญคราง   มือหนาเร่งจังหวะขึ้นตามจังหวะสะโพกบางที่กดตัวลงมา  น้ำขุ่นข้นไหลลงมาตามซอกนิ้วมือไม่นานก็มีน้ำขุ่นข้นไหลออกมาตามช่องทางรักสีลูกกวาดเช่นเดียวกัน   ร่างบางที่ตัวลงนอนทับร่างสูง   เสียงหายใจหอบแห้งของคนตัวเล็กดังไม่เป็นจังหวะก่อนค่อยๆเบาลงและสงบลงในที่สุด   ร่างสูงถอนแก่นกายออกแล้วจับร่างบางพลิกลงนอนบนหมอนอย่างเบามือ   เขาก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากสีแดงกลีบกุหลาบแทนการเอ่ยวาจาที่เคยได้พูดออกไป.......ว่า ..พี่รักซัล..

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา