Sulfur Love (RE-Write)

9.2

เขียนโดย enzang2660

วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.57 น.

  57 บท
  25 วิจารณ์
  122.85K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556 17.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

56) Special[ss2]...I'm waiting for you...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Special[Sulfur Love SS 2]

...I’m waiting for you...

 

                “บ๊ายบายนะครับน้องซิล^///^”

                รุ่นพี่ผู้ชายร่างสูงโปร่งเอ่ยพลางโบกมือ    ผมยิ้มบางๆแล้วเอียงคอเล็กน้อยพอน่าถีบ

                “กลับไปแล้ว...อย่าลืมคิดถึงซิลด้วยนะ^^”

                รุ่นพี่คนนั้นถึงกับเซเหมือนโดนใครเอาไรเฟิลมายิงใส่   ก็พูดไปงั้นแหละไม่ได้คิดไรจริงจังหรอกเชอะ!

                “จะคิดถึงทุกวินาทีเลย>////<”

                “ซิลไปก่อนนะครับ^^”

                ผมหันหลังแล้วปล่อยสีหน้ากลับสู่ปกติ   จะว่าผมเป็นพวกสองหน้าก็อาจจะใช่   ถ้าผมอยากใช้ประโยชน์จากใครผมก็แค่เข้าไปทำดียิ้มแย้มแจ่มใส   ผมไม่ค่อยอยากคบเพื่อนมากเท่าไหร่   แค่ไอ้เชี่ยติมคนเดียวก็พอแล้ว  เพราะพวกที่เหลือน่ะ

....ไม่ได้หวังเป็นแค่เพื่อนผมซะหน่อย  มันต้องการมากกว่านั้น....

แต่ตำแหน่งนั้นน่ะ   ผมจะให้แค่คนเดียวเท่านั้น

...แค่“ลีลี่”...

ผมหยิบกระเป๋าสตางค์ใบเท่ขึ้นมาเปิดดูรูปสาวน้อยคนที่เป็นว่าที่เจ้าสาวของผม   ใบหน้าสวยที่ฉาบสีชมพูอ่อนจากความร้อนของไอแดด   ริมฝีปากบางสวยได้รูป   คิ้วสีเข้มเช่นเดียวกับสีผม   ดวงตาสีฟ้าสวยใสราวกับท้องทะเล  ผมไม่รู้ว่าป่านนี้เธอโตขึ้นมาจะเป็นยังไง   แต่ผมคิดว่าต้องสวยมากๆแน่   ขนาดรูปตอนเด็กยังสวยขนาดนี้เลย   ครั้งแรกที่ผมเจอลีลี่ผมยังถึงกับตะลึงเลย....แล้วเธอก็เดินหนีผมด้วยแหละตอนผมเข้าไปทัก-.-;;

“เฮ้ย! พวกมึงเคยได้ยินเรื่องกลุ่มรีบอร์นมั้ยวะ”

พวกผู้ชายกลุ่มใหญ่เดินจับกลุ่มคุยกัน  รีบอร์นหรอ  ผมจำได้ว่ามันคือการ์ตูน-.-

“รู้ดิวะ  เพิ่งก่อตั้งได้แค่2เดือนแต่สามารถคุมโรงเรียนละแวกนี้ได้แล้ว”

“รู้สึกว่าเป้าหมายต่อไปจะเป็นโรงเรียนเรานะเว้ย...-_-;”

“ถ้าโรงเรียนไหนถูกกลุ่มนี้ยึดก็ต้องส่งหัวหน้าไปเป็นเบี้ยล่างพวกมันใช่มั้ยวะ-o-”

“แล้วตอนนี้คนที่คุมโรงเรียนเราก็....”

กูเองแหละ-*-   ผมเดินตัดหน้าไอ้กลุ่มนักเรียนม.ต้นที่คุยกันอยู่  

“พี่ซิล^^;”  ไอ้เด็กรุ่นน้องเรียกชื่อผม

“ไอ้กลุ่มใบบอนนี่มันจะมายึดโรงเรียนเราหรอ-_-” ผมถาม

“รีบอร์นครับพี่  ผมได้ข่าวมาว่ามันจะมา...-o-”

“ทำไมต้องกลัวมันขนาดนั้นด้วย-*-”

ผมสังเกตสีหน้าพวกมันตอนคุยเรื่องมายึดโรงเรียนดูมันจะซีดๆเป็นกระดาษกันไปหมด   เสียงก็แหบซะ  เอาน้ำมะนาวผสมเบนซินมั้ย-_-+

“มันเป็นใคร  มาจากไหน  มาทำอะไร  ใครเป็นพอเป็นแม่พวกมัน-*-”

ผมถามยาวเป็นชุด  ถ้าบอกที่อยู่มาด้วยก็ดีจะได้ไปวางระเบิดแม่ งเลย

“ไม่ค่อยรู้มากหรอกครับพี่  รู้แค่ว่าหัวหน้ามันเก่งเรื่องต่อยตีมาก   น่ากลัวอย่างกับยากูซ่าแน่ะ-o-;;”

“อยู่เซนต์โฮม่า...”

ไอ้พวกรุ่นน้องตอบผม   ปกติแล้วอีโรงเรียนชายล้วนนี่มันตีกับเซนต์ฟอเทียไม่ใช่หรอ   เดี๋ยวนี้ชักจะรุกรานใหญ่แล้วนะ   แล้วโรงเรียนผมมีพวกนักเลงซะที่ไหนมีแต่พวกดีแต่ปาก-_-;    ถ้ามันจะมายึดโรงเรียนผมละก็ผมไม่ยอมหรอกทั้งตำแหน่งเจ้าหญิงและโรงเรียนนี้ผมจะปกป้องเอาไว้ให้ลีลี่จังเท่านั้น>O<!!   

….รอก่อนนะจ๊ะที่รัก  ทุกๆอย่างที่เป็นของฉันๆจะยกให้เธอทั้งหมด>//<....

“หัวหน้ามันคือใครไหนบอกมาซิ-_-+” ผมถาม

“อะ...เอ่อ  มันเป็นชื่อต้องห้ามนะครับ  ถะ...ถ้าใครเอ่ยชื่อแล้ว  อึก”

ไอ้รุ่นน้องกลอกตาลอกแลกพลางกลืนน้ำลายลงคอ   เชดดด  มันเป็นหลานลอร์ดไอติมวอลล์หรอ-*-

“คือๆๆ  ถ้าพูดไปแล้ว  จากนี้ไปพี่อาจจะไม่ได้เห็นหน้าผมอีกสามเดือนก็ได้นะครับ>.<”

“ถ้านายไม่บอกนายก็จะไม่ได้มาโรงเรียน3เดือนเหมือนกัน-.-”

ผมขู่  บอกไว้ก่อนนะว่ากองทัพผมเยอะ   เกินครึ่งโรงเรียนแม้แต่อาจารย์ยังอยู่ใต้บังคับบัญชาผมเลย    มีใบหน้าเป็นอาวุธแบบนี้นี่มันดีจริงๆเลย  ฮ่าๆ

“...ชะ..ชื่อ”

ไอ้รุ่นน้องคนนั้นบอกแบบอ้ำอึ้ง   พวกเพื่อนมันก็พากันชี้ไปที่ซองขนมสีเหลืองที่ติดกระจก7-11อยู่   -.-

“เลย์หรอ-o-”

“ว้ากกกกก  พี่ซิลอย่าพูด>O<!!”

ไม่ทันละกูพูดไปแล้วละ   จะกลัวอะไรนักหนาวะ -*-

“เรียกฉันหรอ”

เสียงทุ้มเอ่ยถามก่อนที่เจ้าของเสียงจะก้าวเท้าออกมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม    ไอ้พวกรุ่นน้องโรงเรียนผมถึงกับตาโตก้าวเท้าถอยกันก้าวสองก้าว....แล้วมันก็วิ่งหนี!!   อ้าวชิบหายทิ้งกูไว้คนเดียวเลย แสสส-*-    ผมมองนักเรียนหน้าโรงเรียนหวังหาคนมาเป็นแบร็กกราวน์ให้   แต่พวกนั้นก็ดันวิ่งไปสิงเสากันหมด     ผมเงยหน้าสบดวงตาสีดำเข้ม   เส้นผมสีดำซอยระต้นคอถูกลมปลิ้วสะบัดปกปิดใบหน้าไว้    ริมฝีปากสีแดงอ่อนรับกันผิวสีขาวราวกับปูนปั้น

“นายน่ะ เลย์หรอ”

ผมถามพร้อมเงยหน้ามองอย่างท้าทาย   ไม่ค่อยเจียมตัวเองเลยอ่ะทั้งที่ตัวเองตัวเล็กโดนมันตบทีเดียวก็ปลิวแล้ว    ใบหน้าเรียบนิ่งจ้องมองผมแทบทะลุไปยันแกนกระโหลก   

...ขนลุกแปลกๆ-o-…

ผมรู้สึกว่ามีพลังงานบางอย่างแพร่ออกมาจากไอ้เลย์รสปลาหมึกย่างนี่ –o-

“น้องซิลถอยออกม๊า>x<!”

พวกรุ่นพี่ที่สิงเสาตะโกนเรียกผมเบาๆ   ได้เจอแล้วก็เคลียร์ไปเลยดีกว่า    จะมายกพวกตีคนอื่นแต่ไม่บอกล่วงหน้าใครจะเตรียมอาวุธทันวะ-*-   ถึงผมจะไม่ถนัดเรื่องต่อยตีแต่ก็ไม่ยอมให้ใครมายึดอำนาจไปหรอก

“นาย...”

ใบหน้ารูปสลักยังจ้องมองผมไม่วางตา   เท้าหนักก้าวเข้ามาหาผมระยะประชิด    ผมรู้สึกเหมือนโดนคลื่นซัดเลยถอยขาหลังไป 1 มิลลิเมตร  แค่มิลเดียวจริงๆ>.<   มิล..ของไม่บรรทัดอุลต้าแมน-o-;;

“จะ..จะทำไรวะ-o-!!”

ผมเริ่มเหงื่อผุดเป็นดอกเห็ดเมื่อมือใหญ่ค่อยเคลื่อนมาหาผม     ผมมองมือที่ใกล้หน้าผมอย่างหวาดๆ   ผมเลยตัดสินใจปัดมือนั่นออก

 

เพี๊ยะ!

 

มะ...ไม่คิดว่าเสียงจะดังโคตรๆแบบนี้-o-    ไอ้หัวโจกแห่งเซนต์โฮม่าเริ่มขมวดคิ้ว    มันหรี่ตามองผมด้วยหางตาอย่างเคืองๆ   ไอ้ลูกสมุนข้างหลังเริ่มฮือฮาก้าวเท้าจะเข้ามาทำร้ายผม

“มึงกล้ามากนะทำกับหัวหน้ากูแบบนี้อ่ะ!!!”

“เออ  แม่ งคิดว่าแม่ งเจ๋งไง!”

“ตัวเท่าลูกหมา  บี้แม่ งให้เละเลย!!”

เสียงตะคอกคำขู่รุนแรงดังลั่นทั้งถนน    ผมยกมือกำเสื้อตัวเองแน่น    ผมไม่คิดว่าการเผชิญหน้ากับพวกนักเลงจะน่ากลัวขนาดนี้    สายตาดุดันกับเสียงตะโกนดังๆทำให้ผมรู้สึกตกใจมาก    ชายร่างยักษ์ตบไม้เบสบอลแรงๆก่อนจะชี้มาที่หน้าผม     ให้ตายสิ!  ผมจะทำไง  อยากวิ่งหนีจัง   แต่ถ้าวิ่งพวกมันต้องวิ่งไล่ฆ่าผมแน่เลย!!  

“จัดการแม่ งเลย!!”

ไอ้หน้าบากข้างหลังสั่งการ   ผู้ชายพร้อมอาวุธนับสิบวิ่งกรูเข้ามาหาผม    ผมจะทำไรได้ละ  วิ่งดิวะ>O<!!!

 

ตึกๆๆๆ

 

ผมวิ่งลัดเลาะไปตามทางเดิน   แทนที่จะวิ่งเข้าโรงเรียนน้ออออ    แต่ไม่ทันแล้วละพอขาดสติแล้วผมก็ทำอะไรไม่ถูกละ   เสียงฝีเท้าหนักที่วิ่งไล่ผมดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ     ขาผมก็เริ่มล้าเต็มทีตอนนี้หายใจยังไม่ทันเลย   ลมกูหายหมดแล้ววว>O<!!  

 

วืด!

 

ตัวผมถูกกระชากเข้าไปปะทะกล้ามเนื้อแน่นก่อนจะลื่นไถลลงไปใต้สะพาน    ผมหลับตาปี๋อยู่ในอ้อมกอดของใครบางคนที่ช่วยผมเอาไว้(มั้ง)   ผมร้องอักรู้สึกจุกที่หลัง   ตกจากถนนลงมาใต้สะพานมันสาหัสพอควรเลย    ผมพยุงตัวออกจากร่างหนาที่นอนเป็นเบาะกันกระแทกให้ผม

“นายOoO!!”

ผมเผลอร้องเสียงดังจนคนตัวใหญ่ต้องตะครุบมือปิดปากผม   มือใหญ่ดึงตัวผมให้นั่งลงข้างๆใต้เงาสะพานใหญ่    ผมเงยหน้ามองใบหน้าปูนปั้นที่ดูไร้ความรู้สึก    ถ้ายุคนี้มีหุ่นยนต์ผมว่ามันต้องเป็นหุ่นยนต์แน่ๆ

“นายช่วยฉันหรอ-o-” ผมถาม

“ป่าว”

ไอ้มันทอดตอบแบบไม่มองหน้าผมด้วยนะ   อือหือแบบว่ามึงนี่หยิ่งเอาโล่ใช่ป่ะ!  ผมชะโงกมองถนนยกสูง   ไอ้พวกนั้นวิ่งหายไปไหนหมดแล้ว    แต่ก็ดีผมจะได้พักสักหน่อยแต่คอแห้งจังเลย  แฮ่กๆ-U-

“มีน้ำมั้ย”  ผมถาม

“ไปซื้อกินเองซิ”

งือ!  เพิ่งวิ่งหนีมาHPจะหมดตัวแล้วด้วย   ออกไปอีกรอบมีหวังตายสิ-*-

                “ตามมา”

                ไอ้มันทอดเอ่ยเสียงเรียบแล้วลุกขึ้นเดินนำผม   มึงจะพากูไปฆ่าหรือป่าว-o-;;

                “ไม่พาไปฆ่าหรอก  ตามมา”

                อ่านใจได้ด้วยOoO!!  เกินคนไปหรือป่าวเนี่ย    น่ะ...น่ากลัวนะความสามารถแบบนี้    ไม่คิดว่าจะเจอคนแปลกๆแบบนี้นอกจากพ่อซอสแล้วนะ   รายนั้นอ่านใจเก่งมาก   เล่นหมากล้อมด้วยทีไรแพ้เบยยยT^T

                “จะพาไปไหนละ-3-”

                ผมวิ่งตามมันไป  มันไม่ตอบ  แต่เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น  โห้!  แค่มึงเดินธรรมดากูยังก้าวเท้าไม่ทันเลยนะเว้ย>O<!!  ขามึงจะยาวไปไหนวะ!  ไอ้มันทอดเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านกิ๊ฟช้อบสีสันน่ารักสดใส   

                ....ฮื้มมม  มึงเป็นสินะ-.-…

                เห็นว่ากูดูเหมือนตุ๊ดเลยพามาช่วยเลือกของให้หรือป่าวเนี่ย-.-   ร่างสูงเดินนำผมลิ่วๆไปเกือบสุดร้าน    มาบ่อยละสิเนี่ยถึงรู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน   ผมเดินตามมันขึ้นบันไดไปชั้นสอง    ผมก็เคยแวะมาดูตุ๊กตาห้อยมือถือที่นี่นะแล้วก็ส่งไปให้ลีลี่จังผ่านทางแม่วิว(แม่วิวมาไทยบ่อยเลยฝากไป^^)   บรรยากาศรอบชั้นเริ่มเปลี่ยนไป   ผนังห้องที่ควรจะเป็นสีครีมอย่างชั้นล่างเริ่มเปลี่ยนเป็นผนังเก่าๆสีดำ   ตกแต่งด้วยโซ่สีเงินเป็นแนวยาว

                ...ได้กลิ่นแปลกๆ-..-…

 

                แกร๊ง~ แกร๊ง

 

                ปลอกคอหนังสีดำพ่วงด้วยสายโซ่เล็กๆถูกยื่นมาตรงหน้าผม     ผมมองคนตัวใหญ่อย่างงงๆ  ต้องการจะสื่ออะไร อีปลอกคอนี่มันอะไร-o-?

                “ตั้งแต่วันนี้ไปนายเป็นสัตว์เลี้ยงของฉัน”

สะ...สัตว์เลี้ยงOoO!!   บ้านมึงเหอะ-*-

“ใครเป็นสัตว์เลี้ยงแกห๊ะ>O<!” ผมเริ่มเปลี่ยนสรรพนามมัน

“จะยอมมาอยู่ใต้การควบคุมดีๆหรือจะให้ฉันส่งคนไปคุมโรงเรียนนาย”

“แล้วทำไมต้องมายึดโรงเรียนคนอื่นเขาด้วยละ!”

“ฉันจะถามอีกรอบ... จะมาอยู่ใต้การควบคุมหรืออยากให้ฉันยกพวกไปตีโรงเรียนนายให้ยับ”

อย่ามาขู่กันนะ!  

“โรงเรียนฉันไม่เคยไปยุ่งกับโรงเรียนนายแล้วนายจะมารุกรานทำไมละ  มันหมดยุคล่าอาณานิคมแล้วนะ”ผมแย้ง

“ตอบคำถามฉัน...”

“นักเลงอย่างนายอาจจะไม่รักษาคำพูดก็ได้!!”

“ฉันไม่ใช่พวกนักเลงชั้นต่ำ”

“เหอะ!  ถ้ามีการศึกษาสูงพอก็อย่าเที่ยวใช้กำลังไปทั่วสิ!!”

 

หมับ!

 

มือใหญ่ตะบบเข้าคางผมก่อนจะดันตัวผมลงไปนอนบนโซฟาหนังสีน้ำตาล

“นายไม่จำเป็นต้องรู้เหตุผล  แค่ทำตามที่ฉันบอก”

“ไม่ทำ!!”

มือใหญ่รวบมือสองข้างของผมด้วยมือเดียวก่อนจะกดไว้เหนือหัว     ผมนอนตาเหลือกดิ้นส่ายตัวไปมาอยู่ใต้ร่างสูงใหญ่    มือหนาพยายามล็อคปลอกคอไว้ที่คอผมและมันก็ทำสำเร็จ

“นี่แกทำไรเนี่ย!!”  ผมตะโกน

“ต่อไปนี้โรงเรียนนายเป็นของฉัน”

“จะบ้าหรอ!”

“หรืออยากจะให้เซนต์ฟอเทียมายึดละ”

เซนต์ฟอเทียหรอ....

“ฉันไม่รับประกันหรอกนะว่าถ้ามันมายึด....นายยังจะเหลืออะไรอีกมั้ย”

ใครมายึดแล้วมันต่างกันยังไงละ  ก็เหมือนๆกันยังไงกูก็ต้องไปรับใช้พวกมันไม่ใช่หรอ!!

“ยังไงฉันก็เสียเปรียบเหมือนเดิม  ไม่ว่าโรงเรียนอะไรจะมายึด!” ผมบอก

“ฉันให้อิสระโรงเรียนนาย  เพียงแค่ขึ้นกับโรงเรียนฉันก็เท่านั้น”

หมายความว่าให้อยู่ๆไปอย่างปกติแต่แค่ติดตรงที่มีเซนต์โฮม่าคุมอยู่    เป็นเมืองขึ้นซะแล้ว  เวรเอ้ย!

“การยกพวกไปตีคนอื่นนี่  มันสนุกมากใช่มั้ย..” ผมถาม

เลย์ลุกออกจากตัวผมแล้วนั่งนิ่ง   ทำไมชอบทำให้คนอื่นเดือดร้อน   ไม่คิดบ้างหรอว่าจะทำให้คนอื่นบาดเจ็บ  โดนลูกหลง!!

“..ไม่รู้สิ..”

คนเราดำเนินชีวิตอยู่ได้โดยไม่รู้อะไรเลยเนี่ยนะ  เหอะๆ

“ขอบใจที่ช่วยฉัน”

จากพวกของนายเอง   ไอ้หมอนี่มันบ้าหรือจะเก็บผมไว้ใช้งานหรือไงนะ   คงจะเป็นอย่างหลัง   แต่อย่างน้อยก็ต้องบอกขอบคุณแหละมันเป็นมารยาท

“ต่อไปนี้ระวังตัวให้มากๆละ”

คนตัวใหญ่บอก   ผมพยักหน้าเบาๆ   บอกให้ระวังตัวนี่แสดงว่าต้องมีอะไรมาให้วิ่งหนีอีกใช่มั้ย   เฮ้อ~  ดีนะที่ผมยังไม่ยกตำแหน่งนี้ให้ลีลี่จัง  ไม่งั้นเธอต้องซวยแบบผมแน่ๆเลย    ผมต้องส่งจดหมายไปบอกแล้วว่าอย่าเพิ่งมาเรียนที่ไทย  ตะ...แต่ว่า  จดหมายที่ผมส่งไป.....ไม่เคยมีตอบกลับซักฉบับT^T

“มาทำสัญญากัน...”

“สัญญาอะระ..อุ๊บ!”

วงแขนใหญ่ดึงตัวผมไปติดกับแผงอก    มือหนาประคองศีรษะผมให้หงายขึ้น    คนตัวใหญ่ประทับริมฝีปากจาบจ้วงรุกล้ำริมฝีปากผม    ผมตกใจดิ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย   ปากก็ประท้องเสียงอู้อี้อยู่ในลำคอ    ความร้อนจากริมฝีปากที่เสียดสีทำให้ตัวผมเริ่มร้อนเหมือนโดนไฟเผา    ลิ้นซุกซนชอนไชเข้ามาดูดกลืนเรี่ยวแรงภายในตัวผม    ผมรวบรวมแรงจิกทึ้งลำแขนแกร่งพยุงตัวเองไม่ให้ล่วงลงจากโซฟา   ใบหน้าหล่อหันเอียงข้างพร้อมกดจูบร้อนแรงรุกผมอย่างหน่วงหนัก

...หายใจไม่ออกแล้ว...

“อื้ม!...พะ..พอ!”

เสียงผมหายเข้าไปในริมฝีปากของคนตรงหน้าอีกรอบ     รสจูบร้อนแรงที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อนทำให้สติผมเริ่มพร่าเลือน    เลย์ดูดเม้มริมฝีปากผมอีกครั้งก่อนจะละใบหน้าออกไปอย่างอ้อยอิ่ง

“ต่อไปนี้นายเป็นของฉัน...”

 

 

 

 

เฮือก!!

 

ผมสะดุ้งเฮือกเพราะหัวใจมันกระตุกวาบ    ความรู้สึกเหมือนตกจากที่สูงเลย     ผมผ่อนลมเบาๆออกทางปากมือก็ปาดเหงื่อไคลที่ไหลรินอยู่ข้างหน้าผาก   ผมเลื่อนมือลงไปสัมผัสวัตถุบางอย่างที่รัดอยู่ที่ลำคอ    มันทำให้ผมรู้สึกอึดอัด...และมันก็เตือนให้ผมรู้ว่า  ผมกลายเป็นสัตว์เลี้ยงของใครบางคนไปแล้ว    เจ้าของที่ทำสัญญาโดยการช่วงชิงริมฝีปากแรกแย้มของผมไป....  

.....ทั้งๆที่ผม....

“กูจะเก็บไว้ให้ลีลี่จังแท้ๆ!! ว้ากกกกกกกกกกก>O<!!!”

ผมเดินกระฟัดกระเฟียดเข้าไปอาบน้ำ    ผมกระชากปลอกคอหนังโยงระยางด้วยสายโซ่เล็กๆ   แต่มันไม่ออก   ยิ่งดึงทึ้งมากเท่าไหร่ผมก็ยิ่งเจ็บคอ   ปลอกคอมันปาดคอมผมจนแดงเถือกไปหมด

“โธ่เว้ย!!”

ผมสถบลั่นห้องน้ำก่อนจะทุบตีน้ำในอ่างจนกระเซ็นออกนอกอ่าง    มันน่าโมโหนัก!!  ทำไมมันถอดไม่ออกวะ!!

 

 

 

 

ผมกระทืบบันไดวนสลักลายมุกที่ราวจับ   ผมก็ไม่รู้ว่าผมเป็นโรคอะไรแบบว่าเวลาเดินบนพื้นไม้แล้วชอบกระทืบให้มันเสียงดังๆ   ให้เศษปูนเศษไม้มันถล่มใส่หัวคนอยู่ใต้บันได!   กลัวคนไม่รู้ว่าผมกำลังเดินมาอะไรงี้ๆมั้ง  ทุกคนเป็นแบบผมมั้ย-o-?  แบบว่าที่บ้านผมไม่เคร่งเรื่องมารยาทอ่ะ

“มันเป็นอย่างนี้สินะปลวกถึงไม่กินบันได^^;”

ร่างสูงโปร่งยิ้มหัวเราะอย่างขบขัน    ใบหน้าหล่อละม้ายคล้ายกับพี่โซลหันกับไปหัวเราะเบาๆกับชายร่างเล็กอ้อนแอ้นราวกับผู้หญิง

“จะหาว่าซัลสอนลูกให้เดินกระทืบตีนหรือ-*-”  คนหน้าหวานบ่น

“พี่ยังไม่ได้พูดไรเลยนะ^^”  ป๊ะป๊าผมตอบกลับ

“ไม่พูดแต่คิดอยู่ใช่มั้ยละ-*-”

“ป่าวซะหน่อย^^;”

“อย่ามาโทษซัลนะ! มันเป็นเพราะพี่เซลไม่ยอมสอนลูกเองนี่>O<”

“แค่พี่จะเล่นกับลูกซัลยังไม่ให้พี่ยุ่งเลย-_-”

“ก็จับไปโยนๆแบบนั้นเดี๋ยวลูกโตมาก็กลัวความสูงดิ>O<!!”

“กลัวความสูง....แบบซัลอ่ะหรอ^^”

สตั้น!   เหมือนโดนโจมตีด้วยเวทย์ขั้น3   อย่างว่าม๊ะม๊าเลย   ผมก็สตั้นครับ-o-….

“กลัวความสูงเลยไม่อยากสูง...ใช่ป่ะ^^”  ป๊ะป๊าพูดต่อ

อ่อ...  เหมือนจะเริ่มเข้าใจแล้วละ   ผมว่าผมเอาหูฟังออกมายัดหูผมก่อนดีกว่า-_-

“จะบอกว่าซัลเตี้ยหรอห๊ะ>O<!!!!”

เสียงแหกปากดังลั่นยิ่งกว่ารถหาเสียงร้อยคันมาต่อกัน   อือหือออ!   ผมได้ยินเสียงเส้นทองแดงในหูฟังขาดเลยอ่ะ-.-    ถ้าให้ม๊ะม๊าไปว้ากข้างตู้ไว้ผมว่าได้เละแน่ๆ   ไม่ใช่แค่ตู้ไวน์นะ   ทั้งตู้ปลาจานฉามระเบิดเป็นเสี่ยงๆแน่-o-;

“ป๊ะป๊าวันนี้ไม่ไปทำงานหรอฮะ O.o”ผมถาม

“วันนี้เพื่อนพ่อจะมาเที่ยวบ้านน่ะ^^”

“เพื่อน..?”

“หนุ่มฝรั่งเศสไง”

“เอ๋!!  แม่ต้ามาหรอฮะ>////<”

“ใช่แล้ว^^”

“แล้วๆๆๆๆ  ลีล่ะ  ลีลี่จังละมามั้ยO/////O”

ตายแล้วผมยังไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้ลีลี่จังเลย   ช่อดอกไม้ๆๆๆ  ต้องโทรสั่งแล้วๆ   อ่า  ต้องไปเหมาตุ๊กตาที่ห้างด้วย   ไหนจะเสื้อผ้าเครื่องประดับอีกละ   ยังไม่ได้เตรียมไรเลยง่ะๆๆ   ต้องๆๆ  ซื้อ....  อ่อ หยุดเรียนเลยๆ>////<

“ลี?  ลีมาเรียนที่ไทยแล้วนะ  ยังไม่เจออีกหรอ   รู้สึกจะเรียนแถวๆโรงเรียนซิลไม่ใช่หรอ-o-” ม๊ะม๊าบอก

มาเรียนที่ไทยแล้ว!!!  

“ทำไมม๊ะม๊าเพิ่งบอกซิลละT^T!!”

“ก็ไม่ถามเองนี่-3-” ม๊ะม๊าตอบ  ง่า~  ม๊าอ่า>O<~

“ไปโรงเรียนดีกว่างอนแล้ว>3<!!”

ผมเดินตบเท้ากับพื้นเหมือนเป็ด   ป๊ะป๊ามองผมอย่างเอือมๆก่อนจะส่ายหัวไปมาแบบคนปวดกระบาลสุดๆ   ก็น่าปวดหัวอยู่หรอกก็ผมน่ะโคนนิ่งม๊ะม๊าออกมาเหมือนกันเปี๊ยบเลยละ   แถมม๊ะม๊ายังเป็นคนเลี้ยงผมด้วย   ผมเลยกลายเป็นเจ้าตัวแสบตัวที่ 2

 

 

 

 

ลีๆๆๆ  อยู่ไหนกันนะ  ฮือT^T  ผมอยากเจอลีลี่จังอ่ะ   แต่สวรรค์ช่างโหดร้ายนัก  ทำไมต้องพรากเราให้จากกันด้วย  ฮือ~ งั่มๆ

“มึงแด กอันที่เท่าไหร่แล้ว-o-”

ไอ้แว่นหน้าใสที่นั่งตรงข้ามกับผมอ้าปากถาม   ทั้งที่มึงก็ฟาดไปเยอะกว่ากูตั้งเท่านึงยังมีหน้ามาถามคำถามนี้กับกูอีกหรอ!   แล้วนี่มันเงินกูมึงเกี่ยวไรด้วยวะ>O<!

“ยุ่ง-3-” ผมบอก

“เหอะๆ ระวังจุกตาย”

จุไรวะกะอีแค่กินแฮมเบอร์เกอร์-.-

“เอิ้ก~”

ผมปล่อยลมออกจากปาก    ไอ้ติมทำตาหยีโบกมือไล่กินอันแสนภิรมย์จากปากของผม

“ทุเรศจริงๆเลยนะมึงเนี่ย-*-”

“อะไรมึง  ทุเรศไร)-3-(” ผมถามแล้วหยิบแฮมเบอร์เกอร์อีกชิ้นขึ้นมาซัดต่อ   ซื้อ2แถม1ครับ  เอาให้คุ้มซื้อ4แถม2  เอาไปคูณอีกเท่าบวกอีกสองจะได้จำนวนที่ไอ้ติมมันสวาปามลงไป   ผมชักจะสงสารพี่ชายตัวเองที่ต้องมานั่งเลี้ยงสัตว์หญ้าอย่างมัน    ไม่รู้ยัดลงไปได้ไง  มันมี4กระเพาะหรือไงวะแด กได้แด กดีจริงๆเลย-_-;;

“กูไปเข้าห้องน้ำแปปนะ-o-;”

แฮมเบอร์เกอร์มันเริ่มขึ้นมาเกยตื้นที่คอหอยแล้ว    จะคายก็เสียดาย   ขอไปเอานิ้วทะลวงมันลงไปหน่อยแล้วกัน   หวังว่ามันคงไม่เป็นทิศทางจากออกปากเป็นออกปากทวารนะ-.-

“ที่เหลือกูขอ)-o-(” ไอ้ติมบอก

“เดี๋ยวกูกลับมากิน>O<~”

“มึงมาก็หมดพอดี  กูกลับบ้านละ”

“เฮ้ย...ดะ..”

“ซีวิวนะ^^”

ซีวิวพ่อง  มึงชอบคู่นี้หรอวะ   แล้วเดี๋ยวก่อนเด้!!  มึงไปแต่ตัวทัวว์ยกคอกดิวะ  เอาแฮมเบอร์เกอร์กูไปทำมายยยยยยยย>O<!!

“ไอ้เชี่ยติมมมม!!  กลับมา>O<!!!”

พอพุงกางแล้ววิ่งช้ามากเลยT^T

 

อึก!

 

เศษอาหารจำนวนมากตีผ่านช่องท้องขึ้นมายันลำคอทำให้ผมแสบคอไปหมด    จะ...จะอ้วกT^T   ไม่ได้ๆ  เสียดายคะย่อนเข้าไป อึ้บ!

“เฮ้ย! นั่นมัน Pet ของไอ้เลย์นี่หว่า!!!”

แม่ งเฮ้ยซะดังลั่นตั้งแต่ปากซอยยันท้ายหมู่บ้านเลย   เพท...สัตว์เลี้ยงอ่ะนะ   ของไอ้มันทอด...-.-

...อ้าว! กูนี่หว่าOoO!!...

พวกมันไม่รอให้ผมใช้สมองไตร่ตรองลำดับกระบวนการหายใจระดับเซลล์เลยแม้แต่น้อย   กลุ่มชายร่างสูงใหญ่ผูกเนคไทด์สีแดงเข้มวิ่งกรูเข้ามาหาผมโดยมิได้นัดหมาย   ว้ากกกกกก   กูเพิ่งอิ่มๆให้กูวิ่งอีกแล้วหรอTOT

“จับมัน!!!”

ไอ้หัวโจกนกหัวขวานสั่งพลางยกสปาตาร์ด้ามยาวขึ้น    โห้  นี่กะถึงตายเลยหรอTOT   เมตตากูเหอะเมททาบอลิซึมกูทำงานกับปึงปังๆหมดแล้ว   เห็นมั้ยว่าเหงื่อกูออกโชกยังกับเพิ่งโดนสาดน้ำสงกรานต์แล้ววววว   ผมวิ่งใส่เกียร์300แรงม้ากระโดนข้ามราวกั้นจนเป้าแทบฉีก    ช่วงนี้อดีนาลีนหลั่งสุดๆครับให้ผมวิ่งบนน้ำยังได้เลยนะเนี่ย  แฮ่กๆ

 

วืด!

 

ผมโดนกระชากกลับไปด้านหลังอย่างกะทันหัน   ขาที่ตั้งใจจะวิ่งไปข้างหน้าเลยพันกันยุ่งสะดุดล้มเลยทันที    นักเรียนเซนต์ฟอเทียที่วิ่งไล่ตามผมเมื่อกี้เริ่มวิ่งเข้ามาตีกรอบล้อมผมไว้จุดเดียว    ผมนั่งหายใจหอบถี่อยู่ที่พื้น   ทั้งเหนื่อยทั้งจุกเลยทำไมผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย....

“เอ๋....  นี่มันเจ้าหญิงเนโรที่เขาร่ำลือกันนี่หว่า   ก็น่ารักไม่เบานี่!”

มือหยาบกร้านยื่นมาจับคางผม   ผมปัดมือไอ้นกหัวขวานนั่นออก    มันทำหน้าเหวอเล็กน้อยก่อนจะแสยะยิ้มน่ารังเกรียจออกมาก

“จับไม่ได้หรอ   แหม...ซื่อสัตย์กับเจ้านายจังนะ”

“ไม่ซื่อสัตย์กับใครทั้งนั้นแหละ  มึงด้วย!!”  ผมตอกกลับ

“งั้นหรอ?  งั้นฉันจะสอนให้นายซื่อสัตย์กับฉัน.....ด้วยร่างกายของฉันดีมั้ย  ฮ่าๆ”

“ไอ้วิปริต!!”

ผมกร่นด่าเสียงดังลั่น   มือโสโครกฉุดกระชากลากร่างบอบบางของผมเข้าไปในตรอกอับชื้นที่ไร้ผู้คน     กลุ่มพวกมันมองผมด้วยสายตาที่ทำให้ผมขนลุกซู่ไปทั้งตัว...

“จะทำอะไรน่ะ!!  อย่านะ!!  ฉันเป็นผู้...ชะ..นะ.!  ปล่อยยยยยย!!”

มือนับสิบรุมฉีกทึ้งเสื้อผ้า    มือน่ารังเกรียจจาบจ้วงปลดดึงซิปกางเกงผม    ผมดิ้นพร่านๆอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายจริงๆ   จะให้ผมไปสู้กับคนเป็นสิบแบบนี้ผมก็คงไม่ไหวหรอก   แต่ให้ถูกผู้ชายรุมข่มขืนอีกก็ไม่เอา     แค่นี้ผมก็จะไม่เหลือคุณค่าความเป็นชายแล้ว   ไหนจะถูกผู้ชายจูบ  แล้วตอนนี้ยังโดนจับนมจับก้นอีก   บ้าที่สุด!!

“...ปล่อยสัตว์เลี้ยงของฉันซะ...”

เสียงเรียบเย็นพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาใกล้ๆ   ร่างสูงโปร่งแผ่รังสีความน่าเกรงขามออกมา    เด็กเซนต์ฟอเทียต่างจ้องมองไปที่บุรุษผู้มีใบหน้างดงาม     ดวงตาเยือกเย็นสีนิลปราดมองทุกสายตา    วงล้อมกำแพงคนที่รุมปิดบังตัวผมเริ่มแยกออกเปิดทางให้ชายรูปงามราวกับรูปสลักเดินเข้ามาถึงตัวผม     ผมเม้มปากส่ายตาระริกมองคนตรงหน้า

....ทั้งหมดมันเป็นเพราะนาย!!...

“ไม่เป็นไรใช่มั้ย”

มืออุ่นวางลงบนไหล่สั่นรัวของผมก่อนจะดึงตัวผมออกจากวงล้อมเข้าไปอยู่ในอ้อมอกกว้าง

“...เพราะนาย!  ไอ้บ้า!”

ผมด่าไปเสียงสั่นไป   ถ้ามันไม่คล้องไอ้ปลอกคอบ้าๆนี่ให้ผมๆก็คงไม่ถูกพวกเซนต์ฟอเทียวิ่งไล่ตาม   แล้วไอ้ปลอกคอนี้มันก็แกะไม่ออกอีก  เวรเอ้ย!!

                “เข้ามาถึงปากเสือแล้วคิดว่าจะออกไปได้ง่ายๆหรอ...”

                หัวโจกผมสีแสบตาเอ่ย    ร่างหญ่โตของพวกนักเลงเริ่มตีวงล้อมเข้ามาหาพวกผมอีกรอบ    ผมหายใจอย่างติดๆขัดๆ    จะว่าผมกลัวก็ได้   ไม่กลัวได้ไงโดนคนถือสปาตาร์อันเบอเร่อยืนล้อมเตรียมเลาะเนื้อผมขนาดนี้    แสงแดดที่สะท้อนกับความวาบวับของคมมีดทำให้ผมไม่กลัวจะเหลือบมอง    ผมยังไม่อยากโดนฟันเละนะ   บ้าเอ้ย!!   ทำไมมันน่ากลัวแบบนี้!!

                “....ไม่ต้องกลัว...”

                มือใหญ่บีบมือผมที่จับเสื้อตัวเองแน่นให้ผ่อนคลาย   แต่สถานการณ์แบบนี้ให้ทำตัวลั้ลลามันก็ไม่ได้หรอกนะเว้ย!    ผมเงยหน้าสบดวงตาสีเข้มที่สงบเยือกเย็น   ร่างสูงจูงมือผมเดินตรงไปที่แนวกำแพงคนยักษ์   

                “ดะ...เดี๋ยว  ทำแบบนี้มัน...”

                “ถ้าฉันบอกให้ไปก็วิ่งหนีไป...เข้าใจมั้ย”

                เสียงผมผลุบหายเข้าไปในลำคอเมื่อคนข้างๆพูดแทรกขึ้นมา    ผมก้มหน้าต่ำหัวใจเต้นระรัว    ผมจะบ้าตายแล้วตอนนี้   ถ้าเดินไปแล้วมันเอามีดฟันหน้าผมนี่จบกันเลยนะ   ไม่นะใบหน้าหากินของผมT^T

               

                กริ๊ก!

 

                เสียงไกปืนดังขึ้นมาข้างหูผม    ผมยืนนิ่งตัวแข็งทื่อไม่กล้าก้าวเท้าต่อ    ไอ้มันทอดยังคงทำหน้านิ่งไม่รู้สึกรู้สาทั้งที่ถูกปืนจ่อหัวผม     ผมรู้สึกแน่นในอกสมองก็ตื้อไปหมด    ถ้ามันยิงไอ้มันทอดจริงๆละก็....ไม่นะ   ผมไม่อยากมองเลย!

ทำไมต้องมาเจอเรื่องโหดร้ายแบบนี้ด้วย    ผมกำมือใหญ่ไว้แน่นพลางยืนหายใจเหนื่อยหอบด้วยความกดดัน

                “...วิ่งไป....”

                เลย์บอกผม   แต่ตอนนี้ขาผมมันก้าวไม่ออก   ถ้าเกิดผมวิ่งไปแล้วมันปืนลั่นขึ้นมาละ!!

 

                ปัง!

 

                ผมเอามืออุดหูหลับตาปี๋ตกใจกับเสียงดังสนั่นก้อง

                ...สะ..เสียงปืน!!...

                ตัวผมถูกกระชากปลิวขาลอย    ผมลืมตาพรวดมองร่างสูงโปร่งที่ยังอยู่ดีไม่ได้ถูกยิงหัว  หรือโดนยิงไปแล้วแต่ไม่ตายก็ไม่รู้  เออ! ช่างมันเหอะ!

                “ฆ่าไอ้เลย์ซะ!!!”

                ไอ้หัวโจกประกาศพร้อมปาปืนทิ้งลงพื้น   อย่า!!  เดี๋ยวลั่นใส่ตีนกู!!  ผมกระโดดยกขาหลบตามสัญชาตญาณ    ดาบยาวสีเงินเงื้อขึ้นเหนือฟ้าหมายจะฟันแขนของผมกับเลย์ที่เชื่อมกันอยู่

                “อย่า!!!”

                อย่าฟัน....พลาด   ยังไม่อยากแขนด้วนT^T   ผมร้องโวยวายลั่น   ซ้ายก็มีดขวาก็อีโต้   ดูแล้วไม่น่ารอดเลย   ชะตาขาดซะแล้วไอ้ซิลเอ๊ยยยยย

 

                วืด!

 

                พลั่ก!

 

                มือใหญ่กระชากตัวผมไปหลบข้างหลังแล้วยกเท้าถีบยอดหน้าคนถือมีดดาบยาวเมื่อกี้    ตัวผมถูกเหวี่ยงไปอย่างไร้ทิศทางเพื่อให้ผมวิถีเท้าของเลย์

 

                ฉั๊วะ!

 

                มีดดาบด้ามยาวเฉือนไหล่โล่กำบังของผมมาจ่อที่ใบหน้า    มือใหญ่กำคมมีดแล้วพลักออกไปให้พ้นจากหน้าผม   ผมลอบมองต้นแขนแกร่งที่อาบโชกไปด้วยเลือดที่รินไหลออกมา    น่ะ...น่ากลัว..    ผมเกร็งตัวหายใจหอบรุนแรงเหมือนคนจะช็อค   ผมไม่รู้ว่าผมกลัวเลือดหรือป่าว หรือแค่กลัวว่าดาบมันจะแทงผมกันแน่    แต่แบบไหนก็น่ากลัวทั้งนั้น....ผมไม่อยากอยู่ตรงนี้  ผมกลัว...

                “Runaway !”

                มือใหญ่เหวี่ยงตัวผมออกมานอกวงล้อมพลางตะโกนเสียงดัง   ตัวผมเซล้มข้างกำแพง   ผมพยุงร่างตัวเองมองไปยังร่างสูงโปร่งที่อยู่ท่ามกลางฝูงคนที่

ตะรุมบอลรุมแต่เขาคนเดียว     ใบหน้าหล่อที่มีเหงื่อท่วมเต็มหน้า   เสื้อนักเรียนสีขาวที่ถูกย้อมด้วยสีแดง

                ...จะให้ผมทิ้งไปแบบคนเห็นแก่ตัวหรอ...          

                แทนที่ผมจะวิ่งหนีกระเจิงออกไป   แต่ความยุติธรรมอันแรงกล้าในตัวผมกลับผลักผมเข้าไปในวงล้อมนั้นอีกครั้ง   คนตัวใหญ่ที่กำลังวุ่นกับการหลบหลีกคมอาวุธชักสีหน้ามองผมอย่างไม่พอใจ

                “ไปด้วยกันสิไอ้บ้า!!”

                ผมตะโกนใส่หน้าหล่อก่อนฉุดกระชากท่อนแขนใหญ่ให้วิ่งออกมาจากวงล้อม    เสียงร้องฮือลั่นปลุกระดมลูกสมุนให้วิ่งไล่ตามพวกผมต่อ    ผมพยายามข่มตาวิ่งตรงไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับไปมองข้างหลัง

                “มึงตายแน่!!  ตามมันปายยยย!!”

                เสียงขู่ยังดังขึ้นเรื่อยๆ   ผมพาขาอ่อนล้ากลับร่างโชกเลือดของคนข้างๆมาหยุดอยู่ที่ท่าน้ำซึ่งอยู่ระหว่างช่องตึก   เวรเอ้ย!!  นี่มันทางตันดีๆนี่หว่า!!

                “เฮ้ยมันวิ่งไปทางนั้น!!”

                เสียงพวกมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ   ผมยิ่งรนหนักเข้าไปอีก   ผมว่ายน้ำไม่เป็น  อีกอย่างไม่รู้ว่าไอ้หน้าฝรั่งนี่มันว่ายเป็นมั้ยด้วย   ผมไม่อยากกอดคอกันตายในน้ำหรอกนะ

 

                ตู้ม!

 

                มึงถามกูก่อนได้ม้ายยยยยยยยยย>O<!!!

 

                ไอ้มันทอดพาตัวผมดิ่งคลองโดยไม่ถามผมซักคำ    ผมอ้าปากพรวดกินน้ำคลองเข้าไปมือก็ตะเกียดตะกายจิกทึ้งร่างใหญ่ไว้   ผมหลับตาสะบัดหัวไปมาเหมือนคนหายใจไม่ออก   จะไปออกได้ยังไงหายใจเข้าไปมีแต่น้ำ!!

 

                ซู่!!

 

                ตัวผมถูกดึงขึ้นมาวางไว้บนพื้นปูน    พอขึ้นมาจากน้ำได้ผมก็ไออย่างหนัก   ไม่รู้กลืนอะไรลงไปบ้าง  แสบคอชะมัด

                “แค่กๆๆๆ ฟืด!”

                ...หวัดแด ก กรรม....

                ไอ้ต้นตอดึงตัวผมขึ้นให้เดินเข้าไปข้างในอีกหน่อย   ขอกูพักแปปก็ไม่ได้นะ-*-    ผมมองบริเวณโดยรอบที่มีตูคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่วางเต็มไปหมด   ทั้งหมดถูกวางเรียงอยู่ในโดมที่เชื่อมกับท่าน้ำ    แต่มันดูเก่ามาก   ถ้าจำไม่ผิดตรงนี้น่าจะเป็นท่าเรือขนของเก่านะ   ไม่คนใช้แล้วละ

                “เป็นอะไรมั้ย”

                เลย์ถามผม

                “อะแค่กๆๆ  ถามมาได้!!  นายทำบ้าอะไรเนี่ยฉันว่ายน้ำไม่เป็น!!”

                ผมแหกปาก  โอ่ยยยย...  แสบคอไปหมดเลยT^T

 

                แปะ

 

                มือหนาวางพาดลงบนหัวผมเบาๆ   ผมเงยหน้ามองคนตัวสูงอย่างงงๆว่ามันจะทำอะไรผม

                “...ขอโทษ...”

                ขอโทษหรอ-////-  มือใหญ่ลูบหัวผมไปมาอย่างอ่อนโยน   ปลายนิ้วเย็นๆลากมาสะกิดใต้คางผมเบาๆ   อา~  ช๊อบ...ชอบ>////<

                ...แต่...

                “ไม่ใช่หมานะเว้ย>O<!!”

                ผมว้าก  มือก็ทุบตัวไอ้มันทอด   วงแขนใหญ่ตวัดลากตัวผมเข้าไปประชิดตัว  แล้วมันก็นั่งลงพื้นทั้งที่ยังกอดตัวผมอยู่    เข่ากระแทกพื้นเลยT^T   แบบว่าไปไหนไปด้วยเลยสินะ  ตั้งแต่โดดน้ำละ-*-

                “ปล่อย!!”

                ผมยกมือดันแผงอกกว้างที่อัดจมูกผมอยู่    ผมตะกุยมือหวังให้มันเจ็บแล้วก็ปล่อยผม    พลันสายตาผมก็เหลือบไปเห็นเลือดเปื้อนอยู่บนเสื้อนักเรียนของเลย์    มือผมก็พาลหยุดชะงักลงเสียดื้อๆ

                “เจ็บมั้ย”

                ผมเงยหน้าสบใบหน้าหล่ออีกรอบ

                ...ทำไมตามันซ้อนกัน!!!...

                “ตานาย…OoO” ผมร้อง

                “อ่อ”

                เลย์ขานรับเล็กน้อยก่อนจะเบี่ยงหน้าหลบเพื่อดึงอะไรบางอย่างออกจากตา    ใบหน้ารูปสลักกระพริบตาถี่ๆก่อนจะเหลือบมองมายังผม   ตัวผมถูกสะกดให้นั่งนิ่งอยู่ในอ้อมแขนใหญ่    ดวงตาฟ้าสะท้อนกับแววตาผม   ละ...เลย์ตาสีดำไม่ใช่หรอ   หรือว่าเมื่อกี้มันคอนแทคเลนส์   แต่...ตาสีแบบนี้สวยจังเลย   เหมือนท้องทะเลที่มีแดดส่องประกาย   สวยจัง...

                “ซิล....”

                ใบหน้าหล่อเคลื่อนเข้ามาใกล้ใบหน้าผมจนริมฝีปากเราสองคนแนบกัน  แรงบดเบียดค่อยๆแทรกซึมเข้ามาภายในปาก   ลิ้นอุ่นรุกล้ำเข้ามาถึงภายในโพรงปากก่อนสูบเอาเรี่ยวแรงไปจากตัวผม   มือใหญ่รั้งสะโพกผมให้เข้าไปแนบกันลำตัว

ผมจิกมือลงบนไหล่กว้าง   ในอกมันปั่นป่วนหัวใจเต้นรัวจนแทบจะระเบิด   ผมปล่อยให้คนตัวใหญ่ดูดกลืนความหวานจากริมฝีปากผมไปอย่างง่ายดาย   คงเป็นเพราะ.....ดวงตาคู่นั้นละมั้งที่ทำให้ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้..

                “ฮ้า...”

                ผมลอบหายใจหลังจากคนตัวสูงถอนริมฝีปากกลับไป   ถะ...ถูกจูบอีกแล้ว-////-   แถมผมยังยอมอีกด้วยรอบนี้   เฮ้ย!  มันก็แค่เคลิ้ม....ลั่น   ไม่ๆๆๆ  เมื่อกี้ผมไม่ได้ยอมๆๆ>O<!!!   คะ...คือ  มัน...  อากาศมันร้อน>////<   แล้วมันเกี่ยวไรกับจูบวะ   อ๊ากกกก!!   แถไม่ถูกแล้วเว้ยยยย   

                “นี่!  อย่ามาจูบอีกนะ>O<!!”

                ผมลุกขึ้นโวยวายชี้นิ้วพร้อมกระทืบเท้า    บ้าที่สุด!!   ผมสะบัดก้นกระแทกเท้าจ้ำออกไปด้านนอก   แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับมามองคนข้างหลังที่นั่งจมอยู่กับที่

                ...งื้อออออ>.<!!!...

                ผมกัดปากสะบัดมือฮึดฮัด   ผมทิ้งไอ้มันทอดไม่ได้   ผมหันหลังเดินตรงไปหาหมาตัวใหญ่    ทำไมนายทำตัวเหมือนหมาถูกทิ้งแบบนี้ห๊ะ!!    ก็ไม่ได้จะทิ้งหรอกนะ   แต่ไม่ลุกตามมาเองนี่!!   โว้ยยยย!!  แล้วทำไมผมต้องกลับมารับมันด้วยเนี่ย>O<!!

                …ไม่ชอบเก็บหมาตัวใหญ่กลับบ้านหรอกนะแถมกับหมาที่เพิ่งถึงกับเลียปากกันมา-////-  เชอะ!...

                “ไปทำแผลที่บ้านฉันก่อนสิ!!”

               

 

               

                อาจจะแปลกซักหน่อยที่ผมพาใครก็ไม่รู้เข้าบ้าน   ทำเอาพวกพ่อบ้านแม่บ้านตกใจตาหูตาเหลือกคิดว่าผมไปมีเรื่องกับใครมา   ก็มีเรื่องจริงๆน่ะแหละแต่ผมไม่ได้โดน   ไอ้ตัวที่ผมเก็บมาบ้านนี่ต่างหากที่โดน

 

                แกร๊ก!

 

                ผมสะดุ้งกับเสียงเปิดประตูห้องตัวเอง   ผมหันควับมองไปยังบุคคลที่ยืนอยู่หน้าประตู    นัยน์ตาผมเบิกกว่าอย่างตกใจไม่ต่างกับคนที่หน้าประตูที่มีสีหน้าแปลกใจอย่างเห็นได้ชัด   คือ เลย์นั่งถอดเสื้ออยู่บนเตียงใส่แค่กางเกงนักเรียนส่วนผมก็แทบจะคร่อมตัวมันไว้ครึ่งนึง   ต้องเข้าใจนะว่าผมเตี้ยแขนก็สั้นเอื้อมไม่ถึงเลยต้องเลื้อยไปบนตัวมัน   แล้วท่ามันแบบว่า...-o-

                “พาผู้ชายเข้าบ้านหรือลูก-o-”

                ป๊ะป๊าT^T   ทำไมป๊ะป๊าถามแบบนี้อ่ะ  

                “..เพื่อนฮะๆๆ  เพื่อนซิลเอง^^;;”

                ป๊ะป๊าหรี่ตามองผมเหมือนจ้องจะจับผิด   อย่าๆ  ผมเล่นเกมจ้องตาไม่เก่ง   ผมเริ่มส่ายตาลอกแลกพลางยิ้มแห้งๆ    ดวงตาผมจ้องเขม็งมายังผู้ชายแปลกหน้าเจ้าของดวงตาสีฟ้าสด   ร่างสูงโปร่งสาวเท้าเข้ามาหยุดอยู่ที่ปลายเตียงใกล้ๆผม

                ...ป๊ะป๊าจะทำอะไร!?!...

                “กินข้าวมาหรือยังละ^^”

                มือใหญ่ตบไหล่นักเลงหน้าตายพลางส่งยิ้มอย่างเป็นมิตร   โห้~  ใจดีเกินไปแล้วทำแผลเสร็จซิลก็จะส่งมันกลับบ้านแล้ว-o-

                “ไม่เป็นไรครับ  เดี๋ยวผมกลับไปทานที่บ้านดีกว่า” เลย์ตอบ

                “มันดึกแล้วนะ  ค้างที่นี่เลยสิ”

                ป๊ะป๊าOoO!!   ป๊าพูดอะไรอ่ะ  บ้าไปแล้วหรอ!

                “ไม่เป็นไรครับ” เลย์ตอบ

                “มาเรียนคนเดียวคงลำบากแย่เลยนะ  น่าจะเรียนโรงเรียนเดียวกับซัลแล้วก็โซลจะได้มีเพื่อน^^”

                “ตอนนี้ก็พอมีเพื่อนบ้างแล้วละครับ”

                คุยอะไรกัน-o-?   เพื่อนหรือลูกน้องเอาให้แน่-.-

                “ลงไปกินข้าวกันเถอะ  ทุกคนรอกินข้าวกันอยู่”

                ป๊ะป๊ายิ้มบางๆก่อนจะเดินหายลับออกนอกประตูไป   ป๊ะป๊าใจดีเกินไปแล้วนะ   ไอ้มันทอดนี่มันเป็นนักเลงนะไว้ใจได้ที่ไหนกันเล่า-*-

                “เดี๋ยวฉันไปยืนกางเกงพี่โซลมาให้นายใส่แทนของฉันละกัน”

                ให้ยักษ์ไททันอย่างมันมาใส่กางเกงบอลของผมเดี๋ยวเอวยืดหมด

 

                วืด~

 

                ตัวผมถูกดึงล้มใส่หน้าตักกว้าง   ผมอ้าปากเตรียมจะด่าคนตัวใหญ่แต่ก็ถูกปิดปากไว้ด้วยปากของมัน  ว้ากกกกกกกก>O<!!

                “ทำบ้าอะไรเนี่ย!!  อย่ามาจูบนะ>O<!!”

                ผมร้องโว้ยวายหยิบหมอนขึ้นมาตีไอ้หน้าหินเป็นพัลวัน   ฮืออออริมฝีปากผมหนองจะขึ้นT^T

                “เจ็บ”

เลย์พูดเสียงเรียบ  หน้าตาไม่ได้บ่งบอกว่าเจ็บเลยซักนิด!!

“แล้ว! มา! จูบ! ทำ! ไม! ห๊ะ!!!”

ผมไล่ฟาดมันเรียงคำพูด   ฮึ่มมม-*-

“เจ็บ... ก็เลยจูบ”

มันสัมพันธ์กันตรงไหนวะ!!  เจ็บแล้วจูบกูเนี่ย>O<!!   มึงตกGATเชื่อมโยงแล้ว!!

“เลิกจูบฉันได้แล้ว  นายเป็นโฮโมหรือไงห๊ะ-*-” ผมถาม

“..........” มันเงียบ

“รออยู่นี่เดี๋ยวมาเข้าใจมั้ย-.-”

“.........”

เงียบหรอ-*-   เดี๋ยวจะปรี๊ดแล้วนะ  ไอ้!!!

“...นายเป็นคนขอให้ฉันจูบนายเอง...”

ตอนไหนฟะ>O<!!  ผมละงงกับมันจริงๆ   พอๆๆคุยกับมันแล้วความดันขึ้น    ผมน่ะหรอขอให้มันจูบ   บ้าแล้ววว>O<

 

 

 

 

ผมพาตัวประหลาดไม่ต่างกับซอมบี้เดินลงมาที่ลานหลังบ้าน    ผมว่ามันก็ออกจะหน้าตาดีนะถ้ายิ้มซักหน่อยหรือขรึมแบบอ่อนโยนๆเหมือนประธานนักเรียนในการ์ตูนญี่ปุ่นไรงี้ๆ    แต่นี่....หน้าโคตรตายด้าน -.-   หรือมันไปฉีด

โบท็อกซ์มาหน้าเลยตึงงง-o-

                “แม่อ๊ายยยยยยยย>3<”

                ผมวิ่งปรี่ตรงเข้าไปกระโดดกอดผู้ชายตัวเล็กที่ถือน่องไก่อยู่   ร่างเล็กๆเซเล็กน้อยจนคนตัวใหญ่ข้างๆต้องประคองไว้    ผมเงยหน้ามองใบหน้าหล่อใต้กรอบแว่นก่อนจะกระโดดโถมตัวกอดอย่างเต็มรัก><

                “คิดถึงพ่อเทมส์ที่สุดเลยยย>///<”

                “ให้มันน้อยๆหน่อย-o-” แม่ไอซ์บอก

                “ทำไมฮะ  กลัวซิลแย่งพ่อเทมส์ไปหรอ><”

                “บ้า-*-”

                “คืนนี้ซิลไปนอนกับพ่อเทมส์นะครับ><”

                “ไอ้ซัลมึงมาเอาลูกมึงไปดิ๊>O<”

                คนผิวขาวตะโกน   ม๊ะม๊าฉีกยิ้มพร้อมยักคิ้วกวนประสาทกลับมาให้แม่ไอซ์    คนตัวเล็กข้างๆผมเลยดิ้น  ดึงแขนเสื้อพ่อเทมส์ใหญ่เลย

                “อย่าไปแกล้งแม่ไอซ์ซิ^^”

                พ่อเทมส์บอก  โอ้ยยยย   ผมแพ้รอยยิ้มพ่อเทมส์มากเลย>///<

                “ก็ได้>///<”

                ผมบอกแล้วก็วิ่งลั้ลล้าเป็นเด็กอนุบาลไปหาอีกครอบครัวนึง   ร่างสูงบางเจ้าของเรือนผมสีทองที่โด่ดเด่นยืนคู่กับร่างสูงกำยำที่เปล่งประกายไปด้วยรอยยิ้ม    นั่นมันOoO!!    พ่อตาแม่ยายนี่หว่า><

                “พ่อตาแม่ยายสวัสดีครับ>.<”

                ผมก้มโค้งงามๆหัวแทบจะทิ่มลงพื้นพ่อซอสต้องรีบคว้าตัวผมไว้กลัวหัวปักดิน   

                “ยิ่งโตยิ่งน่ารักนะเนี่ย^^”  แม่ต้าเอ่ยชมผม   จริงๆผมอยากได้คำว่าหล่อนะครับ   น่ารักน่ะต้องลีลี่จังแล้วละ>////<

                “แล้วๆๆ  ลีลี่ละครับ^O^”

                ให้ตายสิผมชักทำตัวไม่ถูกแล้ว   หัวใจผมมันเต้นสั่นตึงๆ  ผมเลยแก้เขินโดยการถูมือให้เกิดประกายไฟ   ต้องมาแน่ๆเลย>////<   ถ้าเจอแล้วผมจะพูดอะไรก่อนดี    ผู้หญิงที่ดูมาดราชินีแบบนั้นถ้าชมไปจะหาว่าผมตอ.... หรือป่าวนะ>O<

                “ลีหรอ  นั่นไง^^”

                พ่อซอสชี้นิ้วเลยหัวผมไปด้านหลัง   ผมก็แหงนคอตีโค้งหันกลับไปด้านหลัง  

                ..ไหนฟะ-.-...

                ผมเห็นแต่ซอมบี้ตัวยักษ์ที่ยืนบังเลนส์อยู่    แม่ งเกะกะหว่ะ   ผมจับตัวไอ้ซอมบี้ไว้แล้วชะโงกหัวมองไปทางซ้ายข้างหลังไอ้มันทอด   ซ้ายก็ไม่มี....ขวาก็ไม่มี   ผมก้มลงมองลอดหว่างขาคนตัวใหญ่   หวังว่ามึงคงไม่ได้แด กลีลี่ที่น่ารักของกูเข้าไปแล้วนะโว้ยยยย>O<!!

                ...อย่าบอกนะว่า-o-…

                ผมเขย่งขาจ้องใบหน้านิ่งสงบก่อนจะหันควับกลับไปดูพ่อซอสข้างหลัง

 

                ควับ!

 

                อืม...  ผมหันกลับมาดูหน้าไอ้มันทอดอีกรอบตาก็จ้องมองลึกเข้าไปในโพรงจมูกกว้างแล้วก็หันไปกับดูแม่ต้า

 

                ควับ!

 

                ผมหันคอกลับมาอีกรอบ -.-

                ...สำเนาถูกต้อง....

                “ม่ายยยยยยยยยยย>O<!!!”

                ผมวิ่งพลางพูดคำว่าไม่รัวๆตลอดทางไปห้องตัวเอง    ไม่ๆๆ  เป็นไปไม่ได้  ลีลี่ของผมโตมาต้องเป็นเจ้าสาวสิ    แต่เจ้าสาวผมมีดุ้นแล้วง่า   ไอ้ไงกันนี่เธอเป็นไปขนาดนี้เลยหรอ   เธอเป็นทอมใช่ม้ายยยย   ถ้าเธอต้องการดุ้นของฉันก็มี   ทำไมต้องไปทำดุ้นด้วยยยย   ไม่ๆๆ  ลีลี่ของผมเป็นผู้หญิง!!  ผู้หญิง!!

               

                ปึก!

 

                ผมปิดประตูลั่นแต่ดูเหมือนจะมีอะไรบางอย่างมาขวางทางมันไว้    ผมเปิดประตูออกให้แขนใหญ่ดึงมือตัวเองกลับไปแต่กลับกลายเป็นว่าเปิดทางให้ร่างสูงแทรกตัวเข้ามาในห้องซะงั้น

                “ออกไปนะ!!”

                ผมตะโกนไล่   มือก็คว้าข้าวของมาปาใส่ตัวผู้บุกรุก

                “เจ็บนะ”

                เลย์เอ่ยเสียงเข้ม   ไม่สิ  ลีต่างหาก..

                “ฉันไม่อยากเห็นหน้านายออกไปเลยนะ!!”

                ผมยกเก้าอี้ขึ้นเหนือหัวโยนใส่มัน  แต่มันหลบได้และไวมากด้วย    วงแขนใหญ่ตวัดตัวผมล้มลงไปนอนบนพื้น    มือใหญ่จับข้อมือผมขึงไว้เหนือหัว

                “ปล่อยยย!!”  ผมแหกปาก

                “เลิกโวยวายได้แล้ว”

                “จะทำไมห๊ะ!!”

                “จะจูบ..”

                “อย่ามาขู่กันนะ!!”

                “ไม่ได้ขู่”

                ผมเม้มปากแน่นไม่ให้จูบหรอกพอกันที!!   ทำไมลีต้องเป็นนาย  แล้วทำไมนายถึงไม่บอกว่านายคือลี!!

                “ไม่อยากเจอนายแล้ว  ไปให้พ้นหน้าฉันเลยนะ..”  ผมพูดเสียงเรียบ

                “ไม่อยากเจอ.... แล้วใครกันที่ส่งจดหมายไปบอกว่าอยากเจอฉัน”

                “ฉันไม่อยากเจอนาย  ฉันอยากเจอลี!!”

                “ฉันนี่แหละลี”

                “นายไม่ใช่!!!”

                “ลีอย่างที่นายจินตนาการไว้  มันไม่มีหรอก  มีแต่ฉัน..”

                บ้าที่สุด!!  ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ 

                “ถ้านายคือเลย์ไม่ใช่หรอ!!  นายบอกว่านายชื่อเลย์!!”  ผมว้าก

                “ฉันคิดว่าคนที่นี่ออกเสียงเรียกชื่อฉันไม่ได้  เห็นเรียกเลย์ ก็เลยปล่อยไป”

                “นายมันบ้า!  ชื่อพ่อแม่ตั้งให้ดีๆกลับยอมให้คนอื่นเปลี่ยนเนี่ยนะ!!”

                “อืม”

                อืม!!   ตอบแค่นี้หรอห๊ะ!!   อยู่ๆก็โผล่มาพาพวกมารุมกู   เอากูไปเป็นสัตว์เลี้ยงแถมยังจูบไม่เลือกเวลาอีก   รู้มั้ยว่าทำให้กูปรี๊ดมากเลย   ผมยกตีนถีบยันหน้าท้องแน่นให้ลุกออกไปจากตัวผม    มือใหญ่จับขาผมแล้วฉีกออกจนผมรู้สึกเจ็บแปล๊บไปหมด   มึงจะโหดไปมั้ยวะ!!

                “เจ็บนะโว้ย!!”

                “ฉันก็เจ็บ”

                “ฉันไม่ยอมรับหรอกว่านายคือลี!!”

                “มันคือความจริงที่นายควรยอมรับซะ”

                “ไม่!  กลับไป  ไปให้พ้นเลยนะ!!”

                “นายบอกให้ฉันมาฉันก็มา”

                “จะบอกว่าฉันให้นายมาไทยนายก็มาตามที่ฉันบอกงั้นหรอ!!”

                “...ใช่...”

                “ฮึก...นาย”

                อย่ามาพูดบ้าๆนะ!!  จดหมายนายยังไม่เคยตอบกลับฉันซักฉบับแล้วจะให้ฉันเชื่อหรอว่านายมาที่นี่เพื่อฉัน !  

                “..อย่าร้องไห้..”

                “ไม่ได้ร้องโว้ย!!  ตาบอดหรอห๊ะ!!”

                ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมเสียงผมก็คล้ายคนไม่สบาย   หน้าผมร้อนวาบไปหมด   ขอบตายิ่งร้อน...ผมกำลังร้องไห้จริงๆหรอ    คนที่ผมอยากเจอก็มาอยู่ตรงหน้าแล้วถึงมันจะผิดจากที่ผมคิดไว้มากเลยก็เถอะ   แต่เล่นมาบอกว่ามาเพราะผม...  ไม่เชื่อหรอก  ไม่มีทาง  คนโกหกจะหลอกอะไรกันอีกละ!!

                “..นะ..นายไม่เคย..ตอบจดหมายเลย”

                ผมเคยรู้สึกท้ออยู่ในบางทีที่ผมเขียนจดหมายไปเป็นปีๆแล้วไม่เคยมีกลับมาซักฉบับ   ผมคิดว่าบางทีลีอาจไม่ว่างก็เลยไม่ตอบ   แต่มันนานซะจนผมก็แอบร้องไห้แล้วก็เขียนเรื่องน้อยใจลงไปด้วย    พอรู้ว่าอ่านแต่ไม่ตอบกลับ...มันน่าน้อยใจมั้ยละ   เหมือนเล่นเฟสทักไปแล้วขึ้นแค่Seen ….

                “...ฉันอ่านภาษาไทยไม่ออก...”

                “อ่านไม่ออก...แล้วรู้ได้ไงว่าฉันบอกให้นายมาน่ะ!!”

                “ฉันอยากรู้ว่านายเขียนอะไรมา”

                “แล้ว...ฮือๆ ทำไมไม่ตอบบ้าง...”

                “ก็มาหาแล้วนี่ไง...”

                ปลายนิ้วยาวเกลี่ยหยาดน้ำตาใต้ตาผมออก   ดวงสาลึกล้ำดูดผมเข้าไปในห้วงภวังค์   ดวงตาของเขาทำให้ผมไม่อาจละสายตาไปได้   ไม่สามารถ...ควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป...

                “...รู้มั้ยว่าฉันหลงรักนายตั้งแต่แรกแล้ว...”

                “เหมือนฉันหรอ...แล้วทำไมเดินหนีละ”  ผมถาม

                “เป็นนาย..นายจะหนีมั้ย”

                ใบหน้าคมคายเลื่อนลงมาใกล้ผมจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นที่รดอยู่ข้างแก้ม    มือที่จับข้อมือผมเปลี่ยนมาแทบแนบสนิทลงไปกับฝ่ามือเล็กของผม    เสียงหัวใจเต้นดังเบาๆออกมาจากใต้เสื้อของคนตรงหน้า    ไม่ต่างกลับผม..

                “ไม่หนีหรอก”

                ผมตอบกลับไป  ดวงตาสวยเบิกตาอย่างแปลกใจ   ผมจ้องมองลึกลงไปในดวงตา   ผมอยากให้รู้ว่าสิ่งที่ผมพูดมันเป็นเรื่องจริง   ใบหน้ารูปสลักคลายยิ้มเบาบางที่มุมปาก......แล้วทุกเสียงก็หายไปในความสงบ 

 

               

               

 

 

                “ตอนแรกกูก็นึกว่าลีเป็นผู้หญิง-.-” ไอ้ติมบอก

                “โง่ไง-o-” ผมด่ามัน

                “มึงฉลาดมากอ่ะ-*-!!”

                “อะ! แน่นนอน^O^”

                “คิดไปเอง”

                “ไรมึงๆ  พูดงี้จะไฝว้หรอวะ>O<!!”

                “ไฝว้บ้านพี่มึงดิ-*-”

                ไอ้เวรนี่!  ผมกางเล็บตะกุยหน้าไอ้ติม   มันก็กางเล็บจิกผมกลับ   โห้ยยยย  ยอมไม่ได้เลยนะเนี่ย   มาพูดถึงบ้านซึ่งๆหน้าแบบนี้   พี่โซลก็อย่ายืนยิ้มอย่างเดียวดิมันด่าถึงบ้านเรานะ>O<

                “เฮ้ย!!  เอามันให้ตาย!!”

                เสียงโกนก้องทำให้ผมต้องละจากการเล่นสนุกไปมองกลุ่นนักเรียนสองกลุ่มที่วิ่งไล่กันอยู่   กลุ่มนักเรียนเนคไทสีดำกับกลุ่มนักเรียนเนคไทสีแดงถืออาวุธวิ่งใส่กันอย่างดุเดือด    ผู้คนบริเวณโดยรอบต่างพากันวิ่งหนีหลบกันกระเจิง   ร้านค้าก็พากันปิดประตูป้องกันร้านกันอย่างรวดเร็ว    เสียงเหล็กที่ดังกระทบกันทำเอาผมสะดุ้งเฮือก    ผมส่ายตามองหาชายหนุ่มเนคไทสีดำเจ้าของปลอกคอที่คอผม    ผมยืนดูสถานการณ์อย่างลุ้นระทึก   ผมกลัว....กลัวว่าลีจะเป็นอะไร   คราวที่แล้วแผลยังไม่หายเลยด้วย!!

                “ลี!!”

                ผมตะโกนเรียกแล้ววิ่งเข้าไปใกล้กลุ่มนักเรียน

                “อย่าไปอันตราย!!”

                พี่โซลฉุดแขนผมไว้แล้วดันผมไปหาไอ้ติม

                “แต่ลีอยู่ในนั้น!!”  ผมร้องบอก

                “เดี๋ยวพี่จัดการเอง  ติมพาซิลไปก่อน”

                พี่โซลบอกต่อ  ไอ้ติมพยักหน้ารับแล้วดึงแขนผม   ผมดิ้นไม่ยอมไปตามแรงฉุดดึง  ตาผมจับจ้องอยู่แค่ที่ลีเท่านั้น   ร่างสูงโปร่งถอยหลังหลบคมมีดยาวก่อนจะสวนด้วยการยกเท้าถีบเข้าไปที่สีข้างไอ้หัวโจกเซนต์ฟอเทีย   มือใหญ่คว้าหมับที่กระเป๋าเสื้อของฝ่ายตรงข้ามที่มีโลโก้โรงเรียนเด่นหล้าก่อนจะกระชากมันจนขาด

                “โฮม่าชนะแล้วโว้ย!!!  เฮ!!”

                พวกผู้ชายเนคไทสีดำเฮลั่นเมื่อลีสามารถดึงกระเป๋าเสื้อของหัวโจกเซนต์ฟอเทียได้    ฝั่งฟอเทียเริ่มปลดอาวุธเขวี้ยงลงพท้นอย่างไม่พอใจ   แต่ก็ยังดีที่พวกนี้ยังเป็นนักเลงที่ยอมรับการแพ้ชนะไม่เล่นลอบกัด   ผมลอบถอนหายใจอย่างโลงอกที่ไม่ลีไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร   ไม่งั้นผมคงรู้สึกไม่ดีแน่ๆ

 

                ฉั๊วะ!

 

                ผมเบิกตากว้างอ้าปากกว้างอย่างตกใจ   ปลายมีดเล่มยาวถูกดึงออกจากลำตัวร่างสูงใหญ่    เลือดสีแดงข้นอาบย้อมเสื้อนักเรียนสีขาวให้กลายเป็นสีแดงฉาน   ร่างสูงทรุดตัวกุมหน้าท้องตัวเองพลางหายเข้าเฮือกใหญ่

                “ลี!!!!”

                ผมสะบัดมือขาวๆที่ฉุดดึงผมไว้แล้วปรี่เข้าไปหาลีที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น

                “สัสเอ้ย!!  จัดการแม่ งดิ๊!!”

                นักเรียนเนคไทดำร้องฮือก่อนวิ่งไล่กระทืบคนที่แทงลี   ผมทรุดตัวนั่งเขย่าตัวลี   ผมไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี   ตอนนี้ผมตกใจกับเลือดมหาศาลที่ไหลออกมาจากเขา

                “ลีๆๆ  นายต้องไม่เป็นไร  ลี!!  พี่โซลเรียกรถพยาบาลที!!”

                ผมจับแขนใหญ่ไว้แน่น  มืออีกข้างก็ปาดเม็ดเหงื่อที่ไหลซึมออกมาจากใบหน้าหล่อ  

                “ลี..  ฮือๆ  ต้องไม่เป็นไรนะ  ลี!!”

                มือใหญ่วางทาบลงบนหัวผม   ผมเงยหน้าสบตาดวงสวยที่มองมายังผม

                “..ไม่เป็นไร  อย่าร้องไห้นะ..”

                พูดบ้าๆ  ก็เพราะนายน่ะแหละ   ชอบทำตัวให้เป็นห่วง  บ้าที่สุด!!

                “เอานี่กดแผลไว้!”

                พี่โซลยื่นเสื้อกีฬามาให้ลี   ผมรับเสื้อมาแล้วอัดปิดแผลให้ลี   แต่เลือดมันก็ยังไหลอยู่ดี  ไหลเต็มมือผมเลย    ผมเริ่มไม่กล้ากดแผลลีแล้ว  พอกดแรงๆเลือดก็ออกไม่กดเลยเลือดก็ออก   ทำยังไงดี!!

                “ใจเย็นๆ  ฉันไม่เป็นไรหรอก..”

                ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ปากนายเริ่มซีดแล้วนะ    ผมสูดหายใจลึกกั้นเสียงสะอื้นไว้ในลำคอ

                “เลิกเถอะนะ...เลิกไปตีกับคนอื่นเถอะ...”

                ฉันไม่อยากเห็นนายต้องเจ็บตัวแบบนี้!!

                “..ถ้าฉันเลิก  นายก็จะอยู่ในอันตราย  ลูกน้องฉันด้วย...”

                “ลูกน้องนายสำคัญกว่าฉันหรอ!!”  ผมตะโกน

                “..สำคัญหมดแหละ..”

                “..แล้วตัวนายละ  ไม่สำคัญหรอ”

                จะยอมเจ็บตัวเพื่อปกป้องคนอื่นต่อไปโดยไม่คิดถึงตัวเอง   ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วหรอ   ผมรู้ว่าสองโรงเรียนนี้ถูกรุ่นพี่ก่อนๆบ่มใส่หัวให้เป็นคู่อริกัน   แต่ทำไมไม่คิดจะแก้ไขหรือปรองดองกันละ   มันคงไม่สายหรอกน่า!!

                “..นายสำคัญกับฉันนะ..ลี”

                ผมกุมมือใหญ่แล้วซบลงหวังให้ความรู้สึกจากผมสื่อถึงลี    อย่าทำอะไรเสี่ยงๆแบบนี้   ฉันไม่อยากเสียนายไปนะลี...

                “ฉันอยากปกป้องซิลนะ...”

                “ฮือๆ..ไอ้บ้า!”

                “..ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วง..”

                “..ฉะ..ฉันรักนาย...นายจะตายไม่ได้นะ”

                ผมเงยหน้าจ้องมองใบหน้ารูปสลัก   ดวงตาคมเบิกตาขึ้นก่อนจะคลายยิ้มอ่อนโยนมาให้ผม    วงแขนแกร่งดึงตัวผมเข้าไปกอดแนบอก   ผมซบหน้ารับความอบอุ่นจากคนตัวใหญ่    ถ้านายตายฉันจะโกรธนายไปตลอดชีวิตเลย...

                “..งั้นจะอยู่ให้รักแล้วกัน..”

                อยู่ให้รักหรอ... นายนี่มัน!  

...แต่ยังไงก็....

“รักษาคำพูดด้วยแล้วกัน”

 

 

 

 

 

 

+++++++++++++

คู่บุกเบิกของ Pet' Chain จ้า(อันนี้ลิงค์น้าจิ้มเลย)

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ลง  ไม่ลงมาจะ2อาทิตย์แล้วมั้ง555

รอพ้นสอบก่อนนะ  โฮกกกกกกก

ตอนนี้เรื่ืองค่อนข้างออกทะเล  Pet Chainอ่ะ>///<

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา