Sulfur Love (RE-Write)

9.2

เขียนโดย enzang2660

วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.57 น.

  57 บท
  25 วิจารณ์
  122.87K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556 17.52 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

55) Special[ss2] ...ไม่บอก...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Special[Sulfur Love SS 2]

...ไม่บอก...

               

                “ซิลลงมาเอาขนมไปให้ไอติมกินหน่อยสิลูก~”

                เสียงเล็กเจื้อยแจ้วมาจากด้านล่าง   ผมจำได้ว่ามันคือเสียงแม่ซัล   

                “คร้าบบบบ  แปปนึงงงง>O<”

                ไอ้ซิลตะโกนตอบกลับไป   แขนเล็กๆดันตัวลุกออกจากโต๊ะญี่ปุ่นตัวเตี้ย    ใบหน้าจิ้มลิ้ม(แม่ผมเคยบอกงั้นว่าไอ้เชี่ยนี่มันหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักดี....หรอ-.-) หันควับมองผม    ไอ้ซิลยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมมือมันก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือที่กำลังจรดปากกาลงบนกระดาษ   

                “ไอ้ติม...”

                ไอ้ซิลพูดกดเสียง   มือเล็กๆบีบรอบข้อมือผมอย่างแรงจนผมรู้สึกเหมือนกระดูกจะแตก

                “ไร”  ผมถาม

                “ถ้ามึงยุ่งกับพี่กูนะมึง..-.-”

                “กูไม่ยุ่งหรอก....หล่อตายอ่ะ”

                คนถูกนินทาระยะประชิดเงยหน้าจากตำราภาษาอังกฤษเล่มหนาขึ้นมองผม    ดวงตาสีเข้มจ้องมองผมบหน้าหล่อตีสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่าง    ผมดันกรอบแว่นขึ้นเล็กน้อยพลางเอียงหน้าหลบสายตาที่จ้องมองมายังผม

                “กูไม่ให้ยุ่งแต่กูไม่ได้ให้มึงเกลียดพี่กูนะเว้ย    มึงอย่าทำเหมือนพี่กูเป็นตัวเชื้อโรคได้มั้ยวะ-o-!”

                เชื้อโรค?   ผมมองระยะห่างระหว่างผมกับพี่ชายของไอ้ซิล   ก็ไม่ห่างกันเท่าไหร่หรอกนะแค่เมตรกว่าๆเอง

                “มึงบอกไม่ให้ยุ่งกูก็ไม่ยุ่งแล้วไงมึงจะอะไรนักหนา-*-” ผมถามแบบฉุนๆ

                “ขึ้นเสียงหรอห๊ะ  พี่กูออกจะหล่อมึงไม่สนหรอ>O<” ไอ้ซิลถามกลับ

                “ไม่สนเว้ย  หล่อตรงไหนวะ-*-”

                “หล่อพอๆกับพ่อ มึงอ่ะ  กูไปเอาขนมแปปนึง-o-”

                ไอ้ซิลสะบัดก้นเดินออกไปจากห้องนอนสีครามอ่อน    ผมถอนหายใจแล้วยกมือขึ้นบีบข้อมือตัวเองเบาๆตรงรอยแดงที่ไอ้เตี้ยซิลมันบีบผม    เออ-*- ผมอุส่าห์มาช่วยมันทำการบ้านเสียเวลาอ่านหนังสือผมมากเลยมันยังลีลาไม่ลงไปเอาขนมมาเซ่นผมแถมยังย้ำห้ามเรื่องน่าเบื่อ....

 

                วืด!

 

                ตัวผมถูกกระชากเอนไปกระแทกกับแผงอกหนา   มืออุ่นล็อกคอผมให้เชิดหน้าสบตาดวงตาคม     ผมนอนแข็งทื่ออยู่ในอ้อมอกของบุคคลต้องห้าม    ดะ...เดี๋ยว-o-;;

                “สำหรับติมแล้วพี่น่าเกลียดมากนักหรอ”

                เสียงทุ้มเอ่ยเรียบ  ใบหน้าหล่อโน้มลงมาหาผม    ผมหายใจติดขัดพยายามเบี่ยงหน้าหลบปลายจมูกโด่งที่ทิ่มอยู่บนจมูกผมแต่มือใหญ่ก็ล็อกหน้าผมไว้แน่นจนไม่สามารถหันไปไหนได้   ผมเลยต้องจำใจยอมให้คนข้างหน้าฉวยริมฝีปากของผมไปโดยปริยาย

                “แฮ่ก....อื้ม! เดี๋ยว”

                ผมพยายามอ้าปากประท้วงใต้ริมฝีปากเรียว   คนตัวสูงไม่สนใจกลับเร่งกดจูบให้หน่วงหนักยิ่งขึ้น    ปลายลิ้นหนารุกล้ำเข้ามาในโพรงปากผม   มันตวัดดูดกลืนความหวานในปากผมอย่างหิวกระหาย

 

                พลั่ก!

 

                “แค่กๆ!  แฮ่ก...แฮ่ก”

                หลังจากผมพลักร่างสูงออกผมก็กางมือยันคนตัวหญ่ไว้ไม่ให้เข้าใกล้    ผมโก่งคอไอเพราะสำลักน้ำลาย    มึงจะรีบจูบทำไมวะกูหายใจไม่ทัน!  

                “พี่ขอโทษนะ...กินน้ำก่อนๆ”

                พี่โซลย่นคิ้วเข้าหากันใบหน้าพี่เขาดูเป็นกังวลที่ทำให้ผมไออย่างหนัก   ผมรับแก้วน้ำลงมากรอกลงคอ   ไม่ได้ช่วยไรเท่าไหร่หรอกนะผมว่าเพราะผมยังรู้สึกแสบคออยู่เลย-o-

                “ขอโทษนะ” พี่โซลย้ำอีก

                “ไม่เป็นไร”ผมบอก

                “เราไม่ได้ทำแบบนี้มานานมากแล้วนะ   พอมีโอกาสพี่ก็เลย...”

                ผมก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดงก่ำเอาไว้     ผมจับมือหนาขึ้นมากุมเอาไว้    ดวงตาเข้มเบิกกว้างอย่างตกใจ   ผมเป็นพวกบอกรักไม่เก่งให้แสดงออกก็ไม่ค่อยจะเป็น-///-

                “...คิดถึงผมหรอ^///^”ผมถาม

                “คิดถึงสิ...อยากกอดจนจะบ้าตายอยู่แล้ว”

                อย่าทำให้ผมเขินมากได้มั้ย   ผมจะลงไปนอนชักแล้วนะ>/////<

                “ผะ...ผมก็คิดถึงพี่โซลฮะ-////-”

                ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มสดใสพลางโถมตัวกอดรัดผมเอาไว้    ผมลอบสูดกลิ่นหอมของเสื้อยืดสีอ่อนเบาๆ    ผมอยากจะอยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆนี้อีกสักหน่อยแต่ก็ต้องคอยระวังไม่ให้ไอ้เพื่อนตัวดีมันเห็น    คบกับบุคคลต้องห้ามแบบนี้มันทำไผมลำบากไม่ใช่น้อย    คู่ผมอาจไม่หวานเหมือนคู่รักคนอื่นๆ    ไม่ค่อยได้เดินจูงมือ   ไม่ค่อยได้คุยซึ่งๆหน้ากันเท่าไหร่

                “พี่รักติมนะ..”

                พี่โซลประทับจูบบนริมฝีปากผมซ้ำอีกรอบ  แรงบดเบียดเหมือนต้องการจะตราตรึงสัมผัสความเป็นเจ้าของมันทำให้ผมอดใจเต้นแรงไม่ได้   ลมร้อนๆที่เป่ารดต้นคอทำให้ผมต้องเอียงคอยอมให้คนตัวใหญ่ฝังรอยจูบแดงๆเอาไว้     เสียงฝีเท้าหนักๆที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆผมกับพี่โซลผละออกจากกัน

 

                ปึง!

 

                “มึงงงง...แอบทำไรพี่กูหรือป่าว-.-”

                ไอ้ซิลเปิดประตูผลั๊วะ   ตากลมโตของมันหรี่ลงเหมือนจะจับผิดผม   มือมันก็ถือถาดขนมตั้งท่าจะร่อนใส่หน้าผม-*-

                “ป่าวนี่”

                ผมบอกแบบตายด้าน   ไอ้ซิลจ้องหน้าผมอีกรอบผมก็เลยต้องพยายามสบตามันกลับไม่ให้เป็นพิรุธ    กูเก่งนะเรื่องจ้องตาเนี่ย-.-

                “แล้วไป-3-”

                มันกระแทกถาดลงบนโต๊ะก่อนจะหยิบคุ้กกี้ชิ้นโตขึ้นมาป้อนพี่มัน    พี่โซลยักคอหลบเล็กน้อยแต่พอเห็นไอ้ซิลทำแก้มป่องพี่โซลเลยยอมอ้าปากงับ

                “ไม่มีมือหยิบกินเองหรือไง” ผมแขวะ

                “..ก็ไม่มีน่ะสิ^^”

                พี่โซลกระตุกยิ้มมุมปากชนดที่ว่าแมลงสาบเห็นยังดิ้นตาย(รอยยิ้มไบกอน-o-)  ก็นะคงไม่มีปัญญาหยิบกินเองได้หรอก   ก็ผมน่ะ....นั่งกุมมือกันอยู่ใต้โต๊ะนี่

                ...จุ๊ๆ  อย่าบอกไอ้ซิลนะ>.O!...

 

 

 

 

                ปึง!

 

                ผมเปิดตู้ล็อกเกอร์ที่เต็มไปด้วยหนังสือก่อนจะเหลือบมองล็อกเกอร์ข้างๆที่มีกล่องของขวัญและจดหมายจำนวนมากไหลออกมาเป็นลาบน้ำตกเลย   อ่า! โทษครับหิวไปหน่อย-////-   ไอ้เตี้ยซิลยืนกอดอกมองธารของขวัญที่ทะลักออกมา   อ่า...วันนี้วันวาเลนท์ไทน์นี่นา   

                ...วาเลนท์ไทน์!!...

                วันที่จะได้อยู่กับแฟน  อยู่กับพี่โซล>////<    แต่....สิบปีมาแล้วละที่ผมกับพี่โซลไม่เคยอยู่ด้วยกันในวันแห่งความรักนี่เลย   เพราะบางปีพี่โซลก็ถูกลากไปปาร์ตี้จับคู่หรือไม่ก็โดนไอ้เตี้ยข้างๆผมกักตัวไว้-*-     ถามว่าผมทนได้ยังไงที่พี่เขาไปเดทกับคนอื่นในวันนี้    ผมไม่ได้ทน!  แต่ผมทำอะไรไม่ได้!   ให้ผมเดินไปประกาศว่าคนนี้แฟนกู!    ทำแบบนั้นคงไม่ดี...ผมไม่อยากให้คนมองว่าพี่เขาเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน   ผมไม่อยากให้คนมองพี่เขาเป็นพวกไม่ปกติ   อีกอย่างถ้าไอ้ซิลรู้...บ้านแตก!!

                “วันนี้มึงช่วยกูขนกลับบ้านหน่อยดิ-3-”ไอ้ซิลหันมาบอกผม

                “ไม่ว่าง”  ผมตอบ

                “ไม่ว่างได้ไงวะเพื่อนป่ะๆ><”

                “ใครเพื่อนมึง-o-”

                “กูจะดราม่าแล้วนะT^T”

                “-.-”

                สรุปผมต้องยอมมันสินะ  นี่มึงเห็นกูเป็นเพื่อนหรือเบ๊กันแน่วะ-o-

                “เออๆ”  ผมตอบส่งๆ

                ทำไมผมไม่ได้บ้างนะจมหมายรักอะไรงี้ๆT^T    ผมหมายถึง...ได้จากผู้หญิงอ่ะนะ-o-

                “นี่ๆไอติม>///<”

                เพื่อนผู้หญิงนห้องสะกิดไหล่ผมแล้วยื่นซองกระดาษสีแดงเข้มมาให้ผม    ขอเหวอซัก10วิได้มั้ยOoO!   จมหมาย...จมหมายให้ผมหรอ   ในที่สุดก็ได้จมหมายจากผู้หญิงแล้ว>O<!

                “ฝากให้พี่โซลหน่อยนะ>////<”

 

                เพล้ง!

 

                จินตนาการออกอากาศของผมดับสลายเศษเสี้ยวของมันค่อยๆหล่นลงบนพื้น   ผมยืนอ้าปากเหวอครู่นึงพอได้สติว่ามันไม่ใช่ของผม    ผมก็...ทำใจT^T

                “อืม” ผมตอบ

                “ขอบใจมากนะ  เค้ารักตัวเองที่สุดเลย>////<”

                ผู้หญิงคนนั้นกระโดดเอานมมาชนแขนผมแล้วกระโจนหอมแก้มผมดังฟอด   ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากยิ้มแห้งๆให้ไป   แบบว่าต้องเอาจมหมายรักไปส่งให้แฟนตัวเอง...   แบบนี้มันจะดีหรอวะ-o-!   จะว่าไปวาเลนไทน์(หรือวันไหนๆ)ผมก็ไม่เคยให้อะไรพี่โซลเลย   เป็นฝ่ายรับตลอด-.-

                “จมหมายไรวะนั่น-.-” ไอ้ซิลถาม

                “ป่าวไม่มีไร^^”  ผมรีบเก็บมันยัดลงกระเป๋า

                “มีความลับหรอมึง-.-”

                “กูเคยมีความลับกับมึงหรอวะ^^;”

                ความลับทุกเรื่องของกูมึงก็เสือ กจนรู้หมดแล้วนี่   ยกเว้นเรื่องเดียวที่ยังไม่มีใครรู้^^

                “ไปแด กข้าวกัน  หิวหว่ะ><”

                ไอ้ซิลบอกพลางล็อกคอผม   ด้วยความที่มันเตี้ยกว่าผมๆเลยเดินเอียงจนล้มไปนั่งพับเพียบเรียบร้อยบนพื้นเลย-_-;

                “อ้าว! อยากถูพื้นก็ไม่บอกO.o”

                -*-  ถูที่หน้ามึงสิ   ผมมองพื้นที่บิดไปบิดมา   ผมพยายามหรี่ตามองภาพข้างหน้าให้ชัดๆ   ผมป้ายมือสะเปะสะปะหาแว่นของผม   ถ้าไม่มีแว่นผมคงอยู่ไม่ได้-o-

                “นี่ครับหัวหน้า^^”

                ผมเงยหน้ามองเพื่อนในห้อง   ใครวะ-o-  แต่เอาเป็นว่าผมรีบยื่นมือไปรับแว่นมาใส่ดีกว่า   ผมไม่อยากให้ใครเห็นหน้าโล่งๆนานๆ

                “เราว่าหัวหน้าไม่ต้องใส่แว่นหรอก  เสียดายออกจะน่ารักแท้ๆ>///<”

                เพื่อนผู้ชายคนเมื่อกี้บอก    น่ารัก?  ผมอ่ะนะ-o-?

 

                หมับ!

 

                มือใหญ่คว้าตัวผมเซเข้าไปประทะกับแผงอก    มืออีกข้างก็ปิดตาผมจนมองไม่เห็นอะไรเลย    ผมดิ้นพลางดึงมือหนาออกจากใบหน้า

                “รู้มั้ยว่าหน้าตัวเองขี้เหร่แค่ไหน”

                ผมชะงักมือที่จะแกะแขนพี่โซลออก   นั่นสิ...ผมมันขี้เหร่   ใครจะไปหล่อแบบพี่ละ

                “รู้แล้ว...”

                ทำไมชอบย้ำนักนะว่าผมหน้าตาไม่ดี   อย่าเอาปมด้อยคนอื่นมาตอกย้ำได้มั้ย    ผมยืนนิ่งๆไม่แสดงอารมณ์ว่าจริงๆแล้วผมกำลังไม่พอใจ    ผมก็อิจฉานะที่พี่โซลหล่อส่วนผมมันแค่ลูกเป็นขี้เหร่   บางทีก็แอบคิดว่าเราเหมาะสมกันมั้ย...

                “ปล่อยได้แล้วครับผมจะใส่แว่นแล้ว”  ผมบอก

                คนตัวใหญ่ขยับตัวถอยออกจากผมไป   ผมก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันไปมองคนข้างหลัง   พี่เขาคงไม่คิดว่าผมโกรธหรอกมั้ง  ก็ปกติเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นผมมักจะทำเหมือนพี่เขาไม่มีตัวตน    ผมไม่อยากให้คนอื่นจับได้ว่าเราคบกัน

                ...ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง....

                ผมทำไปเพื่อพี่แค่นั้นแหละ   ผมเปิดจอมือถือดูตัวเลข 14/02ที่เด่นหราอยู่บนจอ   เอาน่าก็แค่วันๆหนึ่งในปีก็เท่านั้น

 

                ครืด~ ครืด~

 

                ผมกดเปิดข้อความที่ถูกส่งเข้ามาก่อนหันหลังกลับไปมองชายหนุ่มที่ยกมือถือตัวเองขึ้นมาจรดริมฝีปาก   ใบหน้าหล่อที่อาบสีแดงจ้องมองผมซะรู้สึกหวิวๆ

ให้ตายสิโกรธพี่เขาไม่ได้นานเลยผมน่ะ

 

.... วันนี้เราไปเดทกันนะ ....

                                                                        โซล

 

 

 

                ผมเดินหิ้วถุงดำขนาดใหญ่    ถ้าเปลี่ยนเป็นถุงผ้าสีแดงคงเหมือนลุงซานต้ามากอ่ะ   ข้างในมีแต่กล่องของขวัญที่คอยทิ่มแทงหลังผมอยู่    ผมเหวี่ยงถึงดำลงบนเตียงสีฟ้าอ่อน   ไอ้เจ้าของห้องมองหน้าผมอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินเอาหมอนมาฟาดหัวผม

                “ไรมึงวะ-*-” ผมถาม

                “มึงโยนทำไมวะ  ของพวกนี้กูจะส่งไปให้ลีลี่จังนะเว้ย>O<!!”ไอ้ซิลบอก

                “ส่งไปเขาจะรับหรอ  ขนาดส่งจดหมายไปยังไม่มีตอบกลับมาซักฉบับ-.-”

                “มึง....-*-”

                เหมือนจะพูดจี้ใจมันไปหน่อย ฮ่าๆ   ไอ้ซิลทำหน้างอนๆแล้วยกหมอนตีผมอีกรอบ   เห็นกูเป็นกระสอบทรายหรือไงวะ-o-!

                “เจ็บเว้ย! กูกลับละนะ” ผมบอก

                “อยู่กับกูก่อนดิวะ>o<”

                “กูมีธุระ”

                ธุระสำคัญมากๆเลย>///<

                “ทิ้งกูไง  มึงจะไปไหน-o-” ไอ้ซิลถาม

                “ไป...ไปเที่ยวๆๆ”  ผมตอบ

                “วันนี้อ่ะนะ-.-”

                “วันไหนมันก็เหมือนกันแหละน่า-_-”

                “วันนี้มึงต้องอยู่กับกูดิ><”

                “มึงเป็นแฟนกูหรือไงละ-o-!”

               

                ...ชิบหายแล้วไง-o-…

                ไอ้ซิลตาเหลือกมองหน้าผมนิ่ง   หวังว่าคงไม่ฉลาดคิดตามสิ่งที่ผมพูดหรอกนะ-o-;

                “วันวาเลนไทน์ก็ต้องอยู่กับแฟนใช่มั้ยละ  ฮ่าๆ” แถครับ

                “สนใจวันนี้ด้วยหรอ-.-” ไอ้ซิลถาม

                “มึงถามไรเยอะแยะวะ  กะ..กูไปก่อนนะO.O”

                ผมเมินเสียงตะโกนเรียกรีบวิ่งไปให้พ้นรัศมีบ้านไอ้ซิล    ผมพลิกข้อมือดูนาฬิกาเรียนสีเข้มทุกๆ5นาที   ผมไม่อยากไปสายในวันเดทนี่นา      พอวิ่งไปที่นัดพบแล้วผมคงต้องแว้บไปห้องน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนสินะ   แล้ววิ่งมาอย่างนี้ไปยืนใกล้พี่โซลเขาจะเหม็นเงื่อผมมั้ยเนี่ย>////<

 

                ปี๊นๆๆ!!!!

 

                ผมชักขากลับเข้าริมทางเท้า   เมื่อรถกระบะบีบแตรอัดหูผมดังลั่น     เกือบไปเดทแค่วิญญาณแล้วมั้ยละ   ผมนี่ไม่ระวังตัวเอาซะเลย

                “วิ่งลงมาหาพ่อ มึงหรอ!!”

                ไอ้คนขับรถเปิดกระจกชะโงกหัวออกมาด่าผม    ขอโทษฮะแต่ไม่เห็นต้องเล่นถึงพ่อแม่   สงสัยที่บ้านไม่เคร่งเรื่องมารยาท-*-

                “กรรม”

                ผมบ่นกับตัวเองเบาๆมือก็จัดหัวยุ่งๆของตัวเองให้เป็นระเบียบรอเดินข้ามถนน   สะพานลอยมันไกลไปขี้เกรียจเดินไปขึ้น   วิ่งตัดหน้ารถเนี่ยแหละง่ายดี-.-

ผมเหลือบมองฝั่งตรงข้ามที่เป็นย่านการค้า   มีทั้งร้านขนมหรือกิ๊ฟช้อบน่ารักๆเต็มไปหมด   สีสันมันสดใสดีผมชอบ   ผมยกมือถือขึ้นมาเก็บภาพบรรยากาศด้านหน้าที่เต็มไปด้วยสีสันหลากสีของร้านต่างๆแต่ผมก็ตองชะงักมือไม่กดปุ่มถ่าย

                ...นั่นมัน....

                ผมเงยหน้าจากจอมือถือเหลี่ยมๆมองภาพของจริง   ร่างสูงโปรงในชุดนักเรียนเสื้อเชิ้ตสีขาวคล้องเนคไทด์สีฟ้าเข้ม   ใบหน้าหล่อหัวเราะขบขันกับสาวน้อยข้างกายที่แต่งเครื่องแบบโรงเรียนเหมือนกับผม

                ....ทำไมในอกผมมันแน่นไปหมด....

                ผมขยุ้มเสื้อตัวเองไม่กล้าละสายตาจากคนคู่นั้น   ทั้งที่รู้ว่ายิ่งมองก็ยิ่งเจ็บแต่ถ้าปล่อยให้สองคนนั้นเดินออกไปไกลจากสายตาผม   ผมคงทนไม่ได้   ผมไม่รู้ว่าผมกลายเป็นพวกขี้หึงไปตั้งแต่เมื่อไหร่   เป็นพวกชอบยกข้อดีของคนอื่นมาเปรียบเทียบกับข้อเสียของตัวเองเพื่อให้ตัวเองกูต้อยต่ำลง    ทำไงได้ละก็ผมสู้คนอื่นเขาไม่ได้จริงๆ....ถ้าพี่เขาเกิดเลือกคนอื่นขึ้นมาจริงๆ   ผมจะทำยังไงนะ

 

                ติ๊ดๆ

 

                ผมกดส่งข้อความไปให้พี่โซล บอกว่าวันนี้ผมไม่สบายขอกลับก่อน    เจอแบบนี้ผมถึงกลับไข้ขึ้นเลยแหะ    ไม่มีอารมณ์เดทแล้วผมอยากกลับบ้าน    ผมปิดมือถือถอดแบตแยกใส่ไว้ในกระเป๋าเป้แล้วหมุนตัวโบกแท็กซี่กลับบ้าน     

                ...เฮ้อ~  ปวดหัวกับปวดใจตรงไหนมันปวดหนักกว่ากันหว่า  ตอนนี้ผมแยกไม่ถูกแล้ว....

 

 

 

 

                ก๊อก! ก๊อก!

 

                ..เสียงเชี่ยไรวะ..

                ผมพยายามลืมตาตื่น   ไม่คิดว่าจะเผลอหลับตอนเย็นๆแบบนี้เลยแหะ   พอตื่นมาฟ้าข้างนอกหน้าต่างก็มืดแล้วอ่ะ   ผมเดินไปเปิดประตูแล้วหาวอัดหน้าแม่ที่ยืนถือถาดยากับน้ำมาให้ผม

                “เวลาหาวฮุบปากด้วยสิ-o-”

                ผู้ชายผิวขาวตัวเล็กๆแทรกตัวเข้ามาให้ห้อง    มือนุ่มลากตัวผมให้ไปนั่งที่เตียงก่อนจะเอามือมาแตะหน้าผากผมแล้วดึงไปเทียบกับอุณหภูมิหน้าผากตัวเอง    ถึงแม่ผมจะเป็นผู้ชายแต่แม่ดูแลผมดีมากเลยละ    ตั้งแต่ล้างจานกวาดบ้านถูบ้านล้างห้องน้ำทำกับข้าว(แต่ฝีมือห่วยไปนิด-o-)

                “ก็ไม่มีไข้นี่O.O” แม่บอก

                “มี~  โทรไปบอกพ่อเลยว่าติมไม่สบายจะตายแล้ว><~” ผมบอก

                “เปลืองตังค์-_-”

                “โห่แม่อ่ะ  เวลาคุยกับพ่อก็ไม่เคยจะให้ติมคุยบ้างอ่ะ-3-”

                “คุยแค่นาทีเดียวเองพ่อลูกก็วางแล้ว-_-”

                “แม่จะกั๊กพ่อไว้คนเดียวใชมั้ยอ่ะ”

                “บ้า-o-”

                แม่เดินหยิบกระเป๋าบนเตียงผมเก็บเข้าที่ให้เป็นระเบียบ    จริงๆแล้วผมว่าแม่น่าจะบอกให้พ่อย้ายเราไปอยู่บ้านใหญ่นะ   ถ้าไปอยู่บ้านใหญ่ก็จะมีคนใช้แม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยแบบนี้   แต่ช่วยไม่ได้พ่อเขาดันอยากอยู่แบบนี้   ตอนเด็กๆผมก็ไม่คิดว่าการที่ผู้ชายสองคนรักกันมันเป็นเรื่องแปลก   แต่พอโตขึ้นแล้วผมได้รู้อะไรหลายๆอย่าง   ผมก็เริ่มคิดว่าเรื่องนี้มันแปลกเหมือนที่คนอื่นเคยล้อพ่อแม่ของผม    ผมกำลังทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยหรือป่าวนะ  

                “แม่ฮะ”

                “อะไรหรอo.O”

                “แม่กับพ่อรักกันได้ยังไงอ่ะ-o-”

                “โห้..อะ...เอ่อ ก็-o-/////”

                “ช่างเหอะ  ติมรู้แล้วแม่ตีหัวพ่อแล้วปล้ำทำสามีสินะ-o-”

                “บ้านแกสิ-*-”

                “นี่ไงบ้านติม^^”

                “ใครสั่งใครสอนให้กวนโอ้ยชาวบ้านเขาฮะ-o-!”

                “มีแม่สอนผมอยู่คนเดียวอ่ะ-_-”

                “เวร-.-”

                “แม่..  ถ้าแม่เจอพ่อเดินกับผู้หญิงคนอื่นแม่จะทำไง”

                แม่เคยเจอเรื่องแบบนี้หรือป่าวนะ   ก็คุณพ่อออกจะหล่อขนาดนั้น  ส่วนแม่ก็ไม่ได้หล่ออะไรแต่ก็มีเค้าความน่ารักสดใสอยู่หรอก   อยากรู้จัง

                “ก็คง.....เข้าไปคุยให้รู้เรื่อง”

                “งั้นหรอ  แล้วไม่รู้สึกเจ็บ  โกรธอะไรอย่างนี้หรอ   ตอนพูดแม่พูดด้วยความรู้สึกแบบไหนหรอ”

                “ไม่รู้สิพอถึงตอนนั้นมันก็มีหลายๆอารมณ์เข้ามาพร้อมกัน”

                ผมก้มหน้าอย่างเข้าใจ   ดูแม่จะตอบคล่องเอาซะมากๆเลยนะ   คงเคยเจอเรื่องแบบนี้มาแล้วสินะ

                “มีปัญหาเรื่องความรักหรอ”  แม่ถาม

                “ป่าว”

                “หรา>O<~”

                “คร้าบบบบ>O<~”

                “งั้นแม่ไปซื้อของข้างนอกก่อนนะ  มีหมาที่ไหนไม่รู้บ่นอยากกินเค้ก^^”

                “งั้นแม่หมาออกไปซื้อให้ติมหน่อยนะ^^”

                “ตังค์ละ-_-”

                “ออกไปก่อนสิ-o-”

                “เพิ่มไว้ในบัญชีแล้วไปคิดกับพ่อลูกแล้วกันนะ”

                “เชิญครับ  ไว้พ่อมาเมื่อไหร่ติมจะให้พ่อkisss กับแม่ทั้งคืนเลย^O^”

                “ไม่เอาหรอก  ไปดีกว่า-3-”

                ผมหัวเราะกับท่าทางเขินอายบนใบหน้าบูดของแม่    เพราะแม่เป็นแบบนี้ละมั้งพ่อเลยรักแม่มากเลย   เฮ้อ~  ผมอยากได้แฟนดีๆแบบพ่อบ้างจังเลย   แต่ไม่เอาแบบโรคจิตSMนะ-o-

 

                ก๊อกๆ!

 

                -.-  ยัง..ยางงงง  ยังไม่ไปอีกนะ    ผมลุกไปเปิดประตูห้องพลางเก๊กหน้ากวนตีนเตรียมยิ้มใส่แม่   แต่กลับเจอคนที่ผมคาดไม่ถึง

 

                ปึก!

 

                ผมปิดประตูแต่ดูเหมือนมันจะติดอะไรบางอย่าง    ผมเปิดประตูง้างให้คนตัวใหญ่ดึงมือออกไป   และนั่นก็เป็นโอกาสให้ร่างสูงเบียดตัวเข้ามาภายในห้อง

                “มะ...มาทำไมหรอ”  ผมถาม

                “เห็นบอกว่าไม่สบายเลยมาดูน่ะ”

                พี่โซลตอบ   ผมยิ้มบางๆพลางเดินเอียงหลบสายตาคมที่จ้องมายังผม   ผมนอนลงบนเตียงก่อนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมนอนตะแคงข้าง    หลับแล้วๆออกไปเหอะ

                “ยังไม่กินยาอีกหรอ”

                พี่โซลถามพลางเหลือบตามองถ้วยใส่ยาเล็กๆกับน้ำที่ยังเต็มแก้วอยู่    ก็มันไม่เป็นไรนี่หว่า   ถ้ากินไปแล้วเป็นขึ้นมาทำไงละ-o-

                “หะ..หายแล้วละ  แค่ง่วงนอนนิดหน่อย^^;”

                พอผมพูดจบพี่โซลก็นั่งนิ่ง   อ่า  ผมพูดไรผิดหรอ-o-

                “ทั้งที่วันนี้เราควรจะไปเดทกันน่ะหรอ”

                น้ำเสียงตัดพ้อทำเอาใจผมกระตุกวาบๆ   ก็มันไม่มีอารมณ์ไปเดทแล้วนี่นา

                “งั้นนอนไปเถอะพี่กลับก่อนนะ”

                พี่โซลบอกแล้วเตรียมก้าวเท้าเดินออกไป    ผมสปริงตัวคว้าข้อมือใหญ่ไว้    ถึงผมจะไม่อยากเจอแต่ร่างกายผมมันกลับทำงานตรงกันข้าม    ผมอยากจะรั้งเขาไว้กับผม   แค่เสี้ยวเวลาหนึ่งก็ยังดี...

                “..พะ..พี่โซล..”

                นี่ผมกำลังทำอะไรกันเนี่ย   ร่างสูงนั่งลงข้างเตียงผม    ปลายนิ้วเรียวยาวปัดเศษผมที่ตกลงบนหน้าของผมออก    มือใหญ่ประคองใบหน้าผมให้เงยขึ้นสบดวงตาสีเข้ม

                “ติมเป็นอะไรหรือป่าว”

                ผมส่ายหน้าเบาๆ   ผมไม่อยากให้พี่เขามากังวลกับผม     ไอ้เรื่องเจอแฟนเดินกับคนอื่นผมควรจะทำใจให้ยอมรับมันได้ซะ    แต่มันไม่ง่ายเลย...

                “มีอะไรก็พูดสิ  ถ้าไม่พูดพี่จะรู้ได้ไง”

                ผม...ผมพูดได้หรอ   ถ้าผมพูดไปมันจะดีหรอ   จะเห็นว่าผมเป็นพวกขี้หึงหรือป่าว   หรือจะเป็นว่าเป็นพวกเด็กขี้งอนอะไรแบบนี้มั้ย    ทั้งที่ผมเป็นเจ้าของพี่แต่ผมไม่รู้ว่าจะแสดงความเป็นเจ้าของออกมายังไง   ให้ผมทำยังไง...

                “..ถ้าพี่เจอผม  เดินกับ..คนอื่น  พี่จะทำยังไง..”  ผมถาม

                “คนอื่นที่ว่าใครละ”

                “...ผู้หญิง  น่ารักๆ”

                “เห็นสินะ”

                เอ๊ะ!   ผมก้มหน้าหลบ   ทำไมผมชอบปล่อยไก่แบบนี้นะ

                “พี่ให้เพื่อนไปช่วยเลือกของน่ะ”

                มือใหญ่ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบกล่องอะไรบางอย่างออกมา     ใบหน้าคมคายเงยขึ้นสบตาผมเล็กน้อยก่อนจะเปิดฝากล่องโชว์ให้ดูสิ่งของที่อยู่ภายใน    ใจผมเต้นสั่นระรัวนั่งตัวเกร็งทำอะไรไม่ถูก   มือหนาหยิบแหวนที่สลักคำว่า “SOLAR”มาสวมให้ผม    พี่โซลดึงมือผมไปประทับจูบอบอุ่น   พลันสายตาผมก็เหลือบไปเห็นแหวนวงเกลี้ยงที่สลักว่า “I-Tim” หน้าผมก็แทบละลายกลายเป็นโจ๊ก   ผมสูดหายใจถี่เวลาตื่นเต้นมากๆแล้วเหมือนจะช็อกยังไงก็ไม่รู้  -////-

                “พี่รักไอติมนะ”

                ผมก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดงเถือกเป็นมะเขือเทศ   ผมอยากจะมุดลงไปใต้เตียงจังเลย   มือหนาบีบหัวไหล่มนเรียกใบหน้าผมให้หัวสบดวงตาเข้ม   เหมือนมีแรงบางอย่างดึงดูดเราเข้าหากัน    คนตัวใหญ่ทาบทับริมฝีปากลงบนปากของผม   แรงขบเม้มเบาๆทำเอาใจผมกระตุกวูบ    ปลายลิ้นร้อนที่เริ่มโหมชอนไชเข้ามาภายในโพรงปาก    ผมหลับตามยอมจำนนต่อคนตรงหน้ายอมเผยปากให้พี่โซลตวัดกลืนกินลิ้นไม่ประสาของผม   ผมรู้สึกว่าแผ่นหลังของผมราบสนิทไปกับผ้าปูเตียงนุ่มนิ่ม    มืออุ่นสอดเข้ามาใต้เสื้อตัวบางก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเม็ดอกผมเล่น

                “อื้อ...”

                ผมร้องฮือกับสัมผัสแปลกๆ   ร่างกายผมมันร้อนไปหมดยิงคนตัวใหญ่โถรุกจูบผมมากเท่าไหร่ร่างกายผมก็ยิ่งร้อนรุ่ม    ผมเข้าใจสถานการณ์ข้างหน้าว่ามันกำลังจะเกิดอะไร   แต่ว่าเรื่องแบบนี้....ผมยังไม่ได้เตรียมใจเลย   ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ!   อีกอย่าง...ผมน่ะ

                “ผะ...ผม  อาจจะไม่น่ารัก....ทำเรื่องแบบนี้ไม่เป็น  มะ..ไม่รู้ว่า  คนขี้เหร่

อย่างผมจะคู่ควร..กับพี่มั้ย..”

                ในที่สุดก็พูดออกไปจนได้   สิ่งที่ผมอัดอั้นมาตลอดตั้งแต่คบกันตอนประถมยันตอนนี้    ผมได้ยินเสียงพี่โซลถอนหายใจ   อ่า....คงหมดอารมณ์สินะ

ผมก้มหน้าขย้ำคอเสื้อที่เปิดกว้างเข้าด้วยกัน     ผมทำตัวไม่ถูกไม่กล้ามองหน้าพี่เขาเลย

                “ที่บอกว่าขี้เหร่น่ะ..ก็แค่ไม่อยากให้ไปทำหน้าน่ารักๆใส่ใคร”

                น่ะ...น่ารักหรอ   ผมอ่ะนะ!

                “ให้ตายสิ  เคยรู้บ้างมั้ยว่าตัวเองน่ารักน่ะ!”

                มือใหญ่ยกหลังมือปิดใบหน้าตัวเองไว้ครึ่งนึงพลางเอียงหน้าหลบ    ผมลอบมองแก้มใสๆที่แดงเถือกลงมาถึงลำคอ    ผมก็อดหน้าแดงตามไม่ได้   

                “..ต่อจากเมื่อกี้...มั้ย”

                พี่โซลถามตะกุกตะกักมือก็เกาท้ายทอยตัวเอง    ผมเงยหน้าสบดวงตาเข้มเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าเบาๆ   เอาก็เอาวะ   เออแบบว่าผมออกตัวแรงไปไหมหว่า>////<

                “..ตะ..แต่  ผมยังไม่ได้..อาบน้ำ  ขอไป..!”

                คนตัวใหญ่กระโจนขึ้นคร่อมผม    มือหนารั้งแขนผมขืงพืดไว้ข้างหมอน 

                “ไม่ต้องหรอก  อยากได้กลิ่นติม..”

                อยากได้กลิ่น-o-!  ผมจะเขินหรือผมจะขำก่อนดี  ฮ่าๆ  พี่โซลจ้องหน้าผมเหมือนกับที่ผมก็จ้องหน้าพี่โซล    ใครเริ่ม..?   ดูเหมือนพวกผมจะนิ่งมองกันแต่หน้าแล้วก็เขิน    งั้น....  ผมเบิกทางให้นิดนึงก็ได้   

...ขอโทษพ่อกับแม่ด้วยนะครับที่ผมยั่วปู้จายยยยT^T…

ผมขยับตัวเป็นปลาไหลเล็กน้อยพอให้คอเสื้อเปิดออก   ใบหน้าหล่อเริ่มก้มลงฝังจมูกลงข้างคอขาวๆของผม   หืออออ!  ขนลุกเลย   ริมฝีปากหนาขบเม้มเนื้อบอบบางของผมแล้วขยับลงมาที่ช่วงอก    มือใหญ่ค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนักเรียนผมออกทีละเม็ดๆ จนเหลือเพียงท่อนบนโล่งๆที่ท้าทายสายตาคมให้หยุดมอง     ลิ้นอุ่นเริ่มเลียละเลียดยอดอกผม   ผมกระตุกตัวเกร็งเป็นระยะๆตามจังหวะที่พี่โซลดูดดึงยอดอกผม  

...ทำอย่างกับดูดนมแม่แน่ะ...

มือใหญ่สอดประสานมือเล็กๆของผมจนแทบกลืนเป็นมือเดียวกัน   ร่างกายผมเริ่มร้อนระอุเหมือนถูกไฟลนอีกระรอก   มวลในท้องมันเริ่มปั่นป่วน   หัวสมองชาวาบไปหมด   

“พะ...พี่โซล  อื้ม!”

ผมเผลอหลุดร้องเสียงหลง   เพียงแค่ปลายนิ้วอุ่นลากลงไปใต้กางเกงผมเท่านั้น   ผมรู้สึกว่าความอัดแน่นภายในตัวกำลังจะทยานออกมา    ผะ...ผมไม่ไหวแล้ว...

 

ปัง!

 

บานประตูสีครีมเปิดออก   มือเล็กที่ยังคาอยู่ที่ลูกบิดดันประตูกระแทกกำแพงเสียงดัง    ผมกับพี่โซลแทบจะผละออกจากกันทันที    คนตัวเล็กจ้องผมเขม็ง   ผมรู้สึกว่าบรรยากาศมันช่างกดดัน

“กูบอกมึงแล้วใช่มั้ย!!”

ไอ้ซิลตะโกนลั่นแล้วเดินมากระชากตัวผมจนตกจากเตียง

“ซิลไม่รุนแรงไปหน่อยหรอ!!”

พี่โซลตะคอกเสียงดัง   มือใหญ่ฉุดดึงตัวผมต้านกับแรงน้องของตัวเองที่ดึงแขนผมไว้อีกข้าง   เจ็บชะมัด!

“พี่ก็เหมือนกัน  ซิลบอกแล้วว่าอย่ายุ่งกับไอ้ติมมันไง!!”

“มันเรื่องของพี่!! ปล่อย!”

พี่โซลบีบแขนไอ้ซิลแรงๆแล้วกระชากออกจนหลุดจากมือผม     ผมมองใบหน้าหล่ออย่างหวั่นๆ   ผมไม่เคยเห็นพี่โซลดูน่ากลัวขนาดนี้  ปกติพี่โซลจะใจดี   ผมยังตกใจเลยที่อยู่ๆพี่เขาก็ขึ้นเสียงกับไอ้ซิลแถมยังกระชากตัวมันปลิว

“พี่โซลพอเถอะครับ!” ผมบอก

ผมก้าวเท้ายาวๆมุ่งตรงไปหาไอ้ซิลที่นั่งกองอยู่บนพื้น   

“ซิล..”

ผมดึงไหล่มันหันมามองหน้าผม   ใบหน้าหวานแดงกร่ำดวงตาสีอ่อนเตรียมระเบิดน้ำตาออกมา   มันเม้มปากแน่นมองผมอย่างโกรธเคืองสลับกับมองไปยังพี่โซล    ผมหันไปมองพี่โซลที่ยืนหน้าซีดกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป    ผมรู้ว่าพี่โซลก็ตกใจอยู่ไม่น้อยที่ตัวเองเผลอทำอะไรรุนแรงกับน้องรักอย่างไอ้ซิล

“ฮึก!..กูห้ามมึงแล้วมึงยัง..จะทำ   ไอ้เพื่อนเลว!!”

ผมหน้าตึงเมื่อได้ยินคำนี้หลุดออกจากปาก   ..ผมมันเป็นเพื่อนที่ไม่ได้เรื่องเลยสินะ...   แต่ทำไงได้ผมรักพี่โซล!!

“..กูขอโทษ...”  ผมเอ่ยแผ่วเบา

“ขอโทษหรอ!!” ไอ้ซิลเสียงดัง

“ขอโทษ...”

ผมรู้ว่าการอยู่ใกล้ไอ้ซิลอาจจะทำให้ผมวิญญาณหลุดออกจากร่างโดยไม่รู้ตัว  แต่สิ่งที่ผมอยากจะบอก   และบอกได้ก็แค่”ขอโทษ” ก็เท่านั้น

“ทำไมต้องคบกันด้วย!  ทำมายยยย!!!”

ผมนั่งนิ่งจ้องมองใบหน้าที่เอ่อนองไปด้วยน้ำตา   ร่างบอบบางสั่นระริก   มันสูดหายใจเข้าเหมือนพยายามสะกดกลั้นอารมณ์บางอย่าง

“ฮือๆ..แล้วถ้าเกิดวันนึง.....ละ..เลิกกันขึ้นมา   กูก็ต้องเสียเพื่อนไป...สินะ   ฮือๆ  กูไม่อยากเสียใครไปทั้งนั้น!!  ถ้าให้เลือกระหว่างพี่กูกับมึง...กูเลือกไม่ได้  ฮือๆ”

ไอ้ซิลร้องไห้ซบฝ่ามือตัวเอง   ผมเข้าใจแล้ว...เหตุผลที่มันไม่อยากให้ผมคบกับพี่โซล...   ผมมองร่างสูงโปร่งที่ยืนนิ่งไม่แสดงอารมณ์ใดๆ   ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะคบกันไปได้นานแค่ไหน   เราจะคบกันไปถึงเมื่อไหร่     ผมก็ไม่อยากให้เรามีวันเลิกราแต่...มันคงเป็นไปไม่ได้...

“พี่จะไม่มีวันเลิกกับเพื่อนซิลหรอกนะ”

ร่างสูงย่อตัวลงจับไหล่สั่นไหวไว้   ใบหน้าหวานเงยหน้ามองพี่ชายปากก็เปิดกว้างเหมือนอยากจะตั้งคำถามต่อ

“...พี่สัญญา...”

หัวใจผมเต้นสั่นระรัวเหมือนกลอง    ผมสูดลมหายใจลึกเหมือนว่าน้ำมันจะเริ่มตื้นขึ้นที่ขอบตา    คำพูดแบบนั้นน่ะ..

...อย่างกับคำสาบบานแต่งงานเลย...

“..นะ..แน่ใจนะ   ถ้าพี่โซลทิ้งไอ้ติมละก็....”

“..ไม่มีวันหรอก  เพราะพี่..รักติมจริงๆ”

ผมเป็นพวกไม่เชื่ออะไรง่ายๆ   เป็นพวกไม่มีความมั่นใจเอาซะเลยโดยเฉพาะเรื่องความรัก   แต่พี่ทำให้ผมได้เห็นว่าความรักที่แท้จริงมันเป็นยังไง

ถ้าผมจะบอกเรื่องนึงออกไปตอนนี้จะเป็นไรมั้ย   ซิลมันจะโกรธผมหรือป่าว...  ผมน่ะ...

                “...รักพี่โซลเหมือนกันครับ..”

                ไอ้ซิลเบิกตาโพรงกว้างก่อนจะหรี่ตาลงเป็นคลายยิ้มบางๆ   พี่โซลกระตุกยิ้มมุมปากเป็นเชิงรับรู้   ส่วนผมก็นั่งหน้าแดงหลังจากพูดออกไป   บ้าจริง!

                “มึงต้องรักพี่กูมากๆนะ   ห้ามดื้อกับพี่กู   ต้องตามใจพี่กูให้มากๆ  มึงต้องไปฝึกทำกับข้าวมาด้วยนะ”

                ไอ้ซิลบอกพลางตบไหล่ผม

                “ทำกับข้าว?”  ผมทวน

                “กูไม่รับพี่สะใภ้ที่ทำกับข้าวห่วยแตกหรอกนะ-3-”

                พี่สะใภ้หรอOoO!!  ถึงผมจะทำอะไรไม่ได้เรื่องนอกจากเรียนกับทำการทดลอง   แต่สิ่งที่ผมต้องไปฝึกเพิ่มคือการเป็นพ่อบ้านที่ดีสินะ    ผมจะทำได้มั้ยนะแค่ทำคลุกข้าวปลาทูให้แมวกินแมวยังเมินเลย...

                “พยายามเข้านะ”

                ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มสดใส   มือใหญ่ลูบหัวผมเบาๆ   ถ้ามีคนให้กำลังใจละก็ไม่แน่ว่าผมคงทำได้    ผมเงยหน้าสบดวงตาคมแล้วยิ้มบางๆ   ใบหน้าหล่อโน้มลงมาติดจมูกผมจนได้กลิ่นลมร้อนที่แผ่ออกมา   เวลาอยู่ใกล้กันทีไรไฟติดทุกทีเลย    ผมเผยอปากเตรียมรับจูบจากคนตัวสูงที่โอบเอวผมไว้กลายๆ

                “เออคือ...กู ต้องไปสินะ-.-”

                ไอ้ซิลถามก่อนถอยตัวออกไปนอกประตู   ตอนนี้ก็เหลือแค่ผมกับพี่โซล2คนในห้อง   โดนขัดดราม่าไปรอบนึงแล้ว   ยังจะ...อีกหรอก  

                “ต่อมั้ย-//////-” พี่โซลถาม

                ผมไม่ตอบแต่ผลักร่างสูงลงเตียงก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเราสองคนไว้ด้วยกัน   

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา