สามใจหนึ่งฝัน

8.2

เขียนโดย api3api

วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 23.52 น.

  27 ตอน
  2 วิจารณ์
  23.23K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 09.10 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) ตอนพิเศษ ศึก20ทมิฬ ตอนที่หก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

            ป่าดงดิบเขตเหนือของอุทธยานที่มีชื่อน่ากลัวว่าป่าลับลา ป่าที่มีกฎแห่งธรรมชาติปกครอง แต่ วันนี้ในป่าลับลามีเรื่องผิดปกติมากมาย
คณะปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่ากับทหารเพียงเข้าเขตป่ามาได้แค่สองกิโลเมตรก็ตะลึง
ซากเสือโคร่ง ที่ถูกสังหารจากอาวุธสงครามนานาชนิดมีให้เห็นรายทางบางตัวถูกถลกหนัง และที่น่ากลัวกว่านั้นมีกระดูกมนุษย์หลายศพตามพงหญ้า
เหล่าทหารต่างตื่นกลัวเนื่องจากพวกเขาถูกฝึกมาให้สู้กับคนไม่ใช่กับธรรมชาติและสัตว์ร้าย พยัครู้เรื่องนี้ดี
          "ทุกคนไม่ต้องกลัว เสือคือผู้พิทักษ์ป่าของที่นี่ ถ้าเรามาดีพวกเขาจะไม่ทำอะไรเรา"
พยัคเดินนำทุกคนมาถึงศาลเพียงตาในป่าลับลาใต้ต้นโพธิ์ยักษ์หลายสิบคนโอบ เหล่าผู้พิทักษ์ป่าพาพวกทหารยืนแถวหน้ากระดานพยัคแจกธูปคนละดอก
เขานำตั้งจิตอธิฐานต่อป่า
          "ผมมาจับคนไม่มีจิตคิดเป็นอื่น คุ้มครองพวกเราด้วย"
พยัคพนมมือขึ้นและปักธูปลงหน้าศาล
          "ไสวจากนี้เราจะแบ่งเป็นสองหน่วย นายกับโบ้พาพวกเขาลัดไปทางดงมะขามหย่งเราจะไปเจอกันที่ดงไฟเย็น ส่วนข้า พี่มิ่งและคนอื่นจะฝ่าไปทางสวนเสือมาลา"
เขาชี้จุดแผนที่ต่อหน้าทุกคนไสวทำหน้าเคร่งเครียด
          "พยัค"
ไสวหยุดพูดต่อเพราะพยัคยกมือขวางเขาเลยเม้มปากพยักหน้า
ทั้งหมดแบ่งเป็นสองหน่วยแล้วแยกย้ายกันไปคนละทาง
ผ่านมาไกลโบ้อดสงสัยไม่ได้จึงเอ่ยปากถาม
          "พี่ไสวสวนเสือมาลาที่พี่พยัคไปเป็นยังไง"
          "พ่อกับแม่มันตายที่นั่น เสือชุมมาก มันคิดว่าจุดอันตรายที่สุดคือที่ซ่อนที่ดีที่สุด"


                 ++++++++++++++++++++++


ก่อนถึงสวนเสือมาลาจะมีน้ำตกไอดิน พยัคส่งสัญญานให้ทุกคนหมอบลงเพราะเขาเห็นคนสองคนยืนเหมือนเฝ้าระวังในมือพวกมันถือปืนอาก้าAK47คนละกระบอก
สิบโทสมยงค์หนึ่งในมือดีของหน่วยแม่นปืนขยับมาไกล้พยัค


          "พวกผมจัดการเอง"
เขาส่งสัญญานทหารสองนายก็ลอบไปปลดอาวุธจากทางด้านหลังโดยละม่อม แต่มีอีกคนสลัดหลุดไปได้
สิบโทสมยงค์เล็งปืนขึ้นแนบบ่าและยิงออกไปกระสุนถูกไหล่มันล้มกลิ้งแต่มันหายตัวไปในพงหญ้า
          "ไม่ตาย ยังงี้พวกมันจะไปเตือนกันแน่"
มิ่งพูดเบาพอแต่ได้ยินทุกคน สิบโทสมยงค์พยักหน้า
          "ผมแน่ใจว่าเราคิดถูกที่มาทางนี้ผมเลยอยากได้คนนำทางไปยังรังของพวกมัน"
พยัคพยักหน้าทีมเขาจึงเร่งตามรอยเลือดไปพยัคหวังว่าคงไม่โดนเสือคาบไปก่อน


                +++++++++++++++++++++++++


ในหมู่บ้าน กิ่งแก้วนั่งเหม่อตรงบันไดบ้านโฉมเห็นเข้าจึงมาจี๋เอวจากด้านหลัง
          "แม่นางฟ้าโบรานเขาบอกห้ามนั่งขวางบันไดนะจ๊ะ"
          "พี่ไสวจะเป็นยังไงบ้างหนอ ป่าลับลาด้วย"
แก้วถอนหายใจโฉมจึงขยับนั่งชิดด้วยรอยยิ้ม
          "พี่พยัคไปด้วยไม่เป็นไรหรอกค่าคุณหญิง"
"ว้าย ว้าย "โฉมร้องเพราะกิ่งแก้วจี๋เอวคืนด้วยความหมั่นเขี้ยว เธอกอดน้องสาวของเธอ
          "โฉมน่ารักขนาดนี้ทำใมพี่พยัคไม่เลือกน้องสาวพี่นะ"
โฉมแกะมือพี่สาวของเธอออก เธอยิ้มน่ารักอย่างเคย
          "พอเถอะพี่จ๋า ฉันชอบมองคนอื่นมีความสุขมากกว่า"


     แก้วอึ้งทึ่งในความแข็งแกร่งของน้องสาวเธอนัก
ลับตาพี่สาว สาวน้อยนั่งที่ระเบียงรับอากาศบริสุทธิ์ เธอขยับผ้าพันคอให้สูงขึ้นอีก
เหมือนได้ยินดนตรีเพื่อชีวิตแว่วดังกังวานมาจากที่ห่างไกล ทำให้คิดถึงสมัยเด็ก
กลุ่มเด็กนักเรียนชายหญิงห้าคนโดยมีกิ่งแก้วเป็นหัวโจกส่วนเธอนั่งปรบมือแปะๆอย่างเงียบๆ
พยัคเล่นกีตาร์เพลงของคาราบาวทุกคนใบหน้าสุขสันต์
เด็กสาวโฉมงามเฝ้ามองชายหนุ่มอย่างปลื้มและเดียวดายข้างเดียว
เลือดสีแดงไหลออกทางจมูกเด็กสาว เธอร้องให้ในความผิดปกติที่ไม่เคยพบมีเพียงชายหนุ่มที่ไวกว่าใครปาดเลือดเธอออกแล้วเอาเธอขึ้นหลังมาห้องพยาบาล


          "พี่เล่นเพลงเร็วไปล่ะมัง เอาเพลงช้าๆดีใหม"


เด็กสาวยิ้มพยักหน้าเธอนอนหลับบนเตียงพยาบาลที่มีเด็กชายบรรเลงเพลงขับกล่อม
แต่ปัจจุบันนี้เพลงนี้กลับทำเธอเศร้า


          "แย่จังเลย ไปคิดถึงทำใม"


โฉมถอนหายใจแล้วมองขึ้นฟ้าแล้วขอให้คนที่อยู่ในใจเสมอมาปลอดภัยเหมือนทุกครั้ง


                       .........................................


ในป่าลึกมีโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนต่างตกใจที่พรรคพวกบาดเจ็บกลับมาไอ้จ้อยรีบวิ่งออกมาดู
          "เกิดอะไรขึ้นวะ"
          "ทหารพี่ ทหารกำลังมาที่นี่"
ทุกคนตกใจโดยเฉพาะกำนันฉะแกรีบกลับไปในออฟฟิศ
          "พวกมันมาแล้ว เราต้องย้ายของ"
          "จะย้ายไปใหนนี่คือป่าลับลา ถ้ามีใครตายสักคนหรือหลายคนก็ช่าง อาถรรค์ป่าจะได้สูงขึ้นอีก กำนันอย่ากลัวไปเลย"
เจ้าของเสียงโผล่ออกมาจากเงามืด ชายสูงใหญ่ผมยาวรุงรังมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่ใต้ตาขวา
          "พวกข้าโจร20ทมิฬยึดป่านี้เป็นบ้านมาช้านานมันมานี่ ป่านี้จะเป็นที่ฝังศพพวกมัน"
ชายสูงใหญ่เดินไปหาคนบาดเจ็บที่รอดกลับมาเขาควักปืนจ่อหัวแล้วลั่นไกสังหารท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน
          "โง่นัก เจ้านี่จะพาพวกทหารมาที่นี่ สมควรตายแล้ว ลากมันไปให้เสือกิน"
เพื่อนของมันลากศพไปโยนลงกรงเสือหลังโกดังได้ยินเสือคำรามลั่น
          "พวกนั้นมันมาสวนเสือมาลามันจะได้เจอเสือ เฮ้ยเอ็งปล่อยพญาเสือได้"
สิ้นคำสั่งของมันพวกของมันสามคนก็ไปเปิดกรงเสือตาเดียวเขี้ยวหัก มันเดินออกจากกรงอย่างช้าๆและหายไปในป่า
          "เสือมันเคยได้กินคนไปแล้ว คราวนี้มันจะไม่กินสัตว์อื่น ทีนี้เราก็รอดูความสนุกได้"
มันหัวเราะลั่นไอ้จ้อยที่ยืนอยู่ข้างยังเกรงต่อความชั่วช้าของมัน

ทางด้านพยัคตามรอยเลือดมาจนเจอแม่น้ำรอยเลือดมันหายไป
          "สวนเสือมาลา ทุกคนจัดแถวตอนเรียงหนึ่งผมจะนำหน้าเอง"
สิบโทณรงค์ส่งสัญญานให้ทหารทำตามซึ่งพวกทหารทำตามอย่างเคร่งครัด
          "คุณมีเครื่องรางเสือหรือพยัค"
สิบโทถามหัวหน้าหน่วยอุทธยาน เขาส่ายหน้า
          "ของแบบนั้นไม่มีจริงหรอก เสือจะเล่นงานคนที่เผลอ และ คนที่มันคิดว่าเล่นงานได้ง่าย เตรียมปืนให้พร้อมเถอะ"
โฮกกกกกก เสียงเสือคำรามลั่นป่าแทบจะทันทีที่เขาพูดจบ มันเสียงดังจนเสือตัวอื่นไม่เข้ามาไกล้ และพยัคจำมันได้ดี


          "ไอ้ตาเดียว"


:::::::::;::;::;:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา